ทำไมเราเจอกันช้าอย่างนี้ หลงรักบ้านมะกอก ทะเลไทย

กลับเมืองไทยมาค่ะ

กลับไปครั้งนี้ มีทริปไปเที่ยวที่แห่งหนึ่ง น่ารัก สงบ โดนใจมากๆ จนอยากบอกต่อใครๆ ลองไปดูสิ แล้วจะติดใจแบบเรา
(แต่อีกใจ ไม่อยากบอกกลัวคนรู้จัก คราวหน้าจะจองลำบาก555)


ตอนแรกลังเลระหว่างเกาะกูดกับเกาะหมากค่ะ แต่พี่ๆแสนดีในพันทิพย์ เชียร์ค่ะ เกาะกูดสงบ ธรรมชาติมากกกก ไปแล้วจะหลงรัก


หาข้อมูลที่พัก สรุปไปได้ที่บ้านมะกอกค่ะ ที่นี่เป็น รีสอร์ทแนวเกสเฮาส์ มีแปดห้อง แต่ละห้องแตกต่างกันเล็กน้อย อย่างมีลานกว้างหน้าชานบ้าน มีห้องน้ำกลางแจ้งทำนองนั้นค่ะ ดูในเน็ทก้อโอ ออกแนวชิลๆแบบบ้านชาวประมง อยู่กับธรมมชาติดีค่ะ


การเดินทางนะคะ คือขับรถไปเอง ทางท่าเรือมีบริการฝากรถวันละ50บาทค่ะ จากนั้นขึ้นเรือที่แหลมศอก เป็นท่าเรือเอกชนค่าเรือคนล่ะ 600 บาท ที่นั่นมีบริการเครื่องดื่มให้ฟรีด้วยค่ะ ใช้เวลาเดินทางจากแหลมศอกไปเกาะกูดโดยเรือ Speed Boat เวลาประมาณ 45 นาที จากนั้นจากนั้นบ้านมะกอกส่งเรือมารับค่ะ ประมาณไม่เกิน5นาทีถึงค่ะ



ระหว่างเปลี่ยนเรือเพื่อเข้าบ้านมะกอกแอบปันใจให้ รีสอร์ทด้านหน้าค่ะ แหมก้อดูดิคะ รีสอร์ทใหญ่กว่าเน้นอย่างมาก มีสระน้ำ มองเห็นทะเล สีฟ้าคราม แบบในนิตรสารชอบถ่ายลงยังไงยังงั้น บรรยากาศแบบมาพักผ่อนไปทะเลมากๆ มาเทียบกะบ้านมะกอกคนละแนวเลยเล็ก เดินไปเดินมามา3นาทีทั่วรีสอร์ทแล้ว ทำไมไม่จองที่นี่นะ แอบปันใจจริงๆค่ะ


เมื่อมาถึงบ้านมะกอก พี่ๆที่บ้านมะกอกรีบออกมาต้อนรับน่ารักดี ยิ้มแย้มแจ่มใส มีน้ำตะไค้รเย็น ผ้าเย็น ให้บริการค่ะ เรากรอกเอกสารเข้าพัก แล้วเข้าห้องพัก ห้องพักน่ารักมากกกกก แต่ขอตกใจสองอย่างค่ะ


หนึ่งที่นี่ไม่มีอะไรเลยค่ะ คือพยายามลุ้นว่าขอให้ในห้องมีทีวีด้วยเหอะ แต่เมื่อไปถึงไม่มีอะไรเลยค่ะ มีแค่ที่จำเป็นเท่านั้น จากใจนะคะ ซ็อกมา สรุปมาอยู่ป่าหรือไง นึกดูนะคะ คนไม่ชอบตากแดดตากลม ไม่ชอบความลำบาก เคยอยู่สบายต้องมาอยู่รีสอร์ทใช้เครื่องปั้นไฟ ไร้อุปกรณ์อำนวยความสะดวกทั้งสิ้น ไม่มีอะไรจริงๆนะ ปลอบใจตัวเองเอาว่ะ สองคืนสามวันเอง เปลี่ยนบรรยากาศเอา คิดว่ามาออกค่ายอาสาละกัน อย่างน้อยมีแอร์ ออกค่ายอาสาไม่มีแอร์นะเฟ้ย


สองที่นี่กำแพงห้องน้ำไม่มีค่ะ เป็นแบบopen air เกินไปหรือเปล่าคะ เนี่ยดิฉานจะเข้าห้องน้ำที ต้องใช้ระบบเก็บเสียงในตัวพอสมควร ค่อยปล่อย หลังๆเปลี่ยนไปเข้าห้องน้ำด้านนอกแทนค่ะ ไม่แนะนำคู่รักใหม่ไปค่ะ กลับไปสงสัยเป็นนิวแน่ 555


นอกจากนั้น

กิจกรรมที่บ้านมะกอกไม่มีไรมากหรอกนะคะ ใช้ชีวิตแบบเด็กขี้เกลียด ชิลๆ นอนอ่านหนังสือ พ่ายเรือ เดินชายหาด ว่ายน้ำ ดำน้ำ และเด็ดสุด ดู แพลงก์ตอน ตอนกลางคืนค่ะ สวยมากราวกับดวงดาวบนท้องฟ้าาาา



วันแรก

ถึงราวบ่ายสองได้ หลังจากเข้าที่พัก เราก้อเริ่มสำรวจ รีสอร์ทค่ะ เราของยืมเรือคายัคพ่ายไปหาดด้านหน้าไม่อยากบอก อันนี้ต้องทำค่ะ ไม่มีอะไรสนุกเท่ากับพ่ายเรืออีกแล้ว ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ พ่ายวนๆงงๆไปสักหน่อย เดี๋ยวก้อเป็นเองค่ะ ข้อเสียของหาดที่นี่คือหาดสั้นไปหน่อยค่ะ แต่ทรายขาวเม็ดละเอียดนุ่มมาก ระหว่างพ่ายเรือนะคะ อยากบอกว่าน้ำใสมากเห็นปลา เห็นหอยเม็น รอบๆเป็นป่ากงกางยังมีนกน้อยมาให้เห็น สนุกค่ะ เนี่ยถ้าใครมีลูกเล็กเด็กแดง เป็นการเรียนรู้เพื่อรักธรรมชาติได้ดีที่เดียว แต่เสียทีเราโสด มันก้ออีกฟิวนึ่งคะ ลันลาไปวันวัน แค่นี้จากคนเกลียดทะเลก้อหลงรักทะเลขึ้นอย่างไม่รู้ตัว



อาหารที่นี่ อร่อยค่ะ รสชาดแบบคนกรุงเทพทานได้ ออกหวานไปนิด แต่รสไม่จัดมาก ตกราคาประมาณจานละ 120-150 บาท



คืนแรกไม่รู้ทำไรเราเลยขอตัวเข้าห้องไปนอนกลิ้งอ่านหนังสือ นั่งวาดรูปไป หลับไป zzzzzzz



วันที่สอง

ตื่นตั้งแต่ตีห้า ค่ะ ออกเดินสำรวจน้ำตกที่อยู่ด้านหลังรีสอร์ทแต่ไปได้ครึ่งทางเกิดกลัวเสียก่อน แหมเดินคนเดียวนิคะ ยังไม่มีใครตื่นเลย ทางเปลี่ยวอยู่ สรุปเป็นกลับๆๆๆๆๆ


อาหารเช้าที่นี่มีให้เลือกเป็นแบบไทยๆ ก็ข้าวต้ม และก็แบบฝรั่ง ไข่ดาวแฮม กาแฟ ชาเขียว Early tea น้ำผลไม้ ค่ะ

ขอบอก อร่อยทุกอย่าง กินไปก้อนึกไป อยากได้ตัวพ่อครัวกลับมาญี่ปุ่นจัง อร่อยน๊าาาามีความสุข


สิบโมงได้เวลานัด ไปดำน้ำตื้น อันนี้แอบตื่นเต้นทำไมนะเหรอคะ เรากลัวปลาค่ะ แต่กลับมาคราวนี้ อยากดำน้ำขึ้นมา


การเตรียมตัวนะคะ ดำน้ำ ถ้าไม่อยากดำไม่ต้องโชว์ผิวมากนักค่ะ ใส่ขายาวแขนยาว รับรองไม่ดำค่ะ จากนั้น ฉาบครีมกันแดดค่ะ ครีมกันแดดที่แรงได้ใจนะคะ หนีไม่พ้น ANESSA perfect UV sunscreen SPF50+ PA+++ สีทองเป็นรุ่นที่มีคุณสมบัติ กันแดด กันน้ำได้ดี เนื้อครีมเป็นคล้ายๆน้ำนม ทาแล้วไม่วอก และไม่เหนียว มากนักค่ะ แต่ล้างออกลำบากอยู่ ทาในส่วนที่โดนแดดสะ ขยันว่าทาบอกๆ รับรองไม่ดำค่ะ


ดำน้ำตื้น สน็อกเกิล ที่เกาะรัง เกาะมะปริง แล้วเกาะไรอีกจำไม่ได้ไปสามเกาะ ค่ะ ตอนแรก ที่แรกที่จอดเรือ เค้าสอนให้เราใช้อุปกรณ์ให้เป็น ให้ลองหัดดำตื้นๆดูค่ะ หัดใส่สน็อกเกิลดู ใส่ชูชีพ (เวลาใส่ชูชีพดึงให้ตึงเพราะเวลาลงน้ำแล้วมันจะได้ไม่รั้งเราขึ้นมา ส่วนสน็อกเกิล เวลาส่วมระวังอย่าให้ผมเข้าไปในแว่นไม่งั้นน้ำเข้าค่ะ น้ำลายตัวเองเช็ดกระจกด้านในกั้นฝ้าขึ้นได้ดีอยู่น๊าาา )


ครั้งแรกที่ดำน้ำ ช่วงยังไม่คุ้น กลัวค่ะ กลัวปลาตอดค่ะ พอว่ายไป ปลาเข้ามาใก้ล รีบตีน้ำ เอาหัวขึ้น ปลาหนีกระจายหมด ไม่กล้าถือขนมปังล่อปลา แต่หลังเริ่มชินสน็อกเกิล ชินกะปลาเริ่มสนุกค่ะ เวลาก้มดู พาเพลินไปหมด ทำไมมันสวยอย่างนี้นะ ดูเจ้าปลาตัวน้อยมันอิสระจัง ตื้นแค่นี้สียังสวยขนาดนี้เลยเหรอ ไอ้ความขี้กลัวปลาหายเป็นปลิดทิ้ง หลังจากนั้นพี่ไกด์อาสาลากพาดูปะการังและปลาชนิดต่างๆรอบเกาะค่ะ ว่ากันง่าย เราแค่เอามือวางบนห่วง แล้วก้มดูเฉยๆเท่านั้น นอกนั้นปล่อยเป็นหน้าที่พี่ไกด์ พี่จะลากเราไปเองค่ะ มันให้ความรู้สึกเหมือนเรานั่งเรือดำน้ำดูโลกใต้บาดาลยังไงยังงั้นค่ะ ท้องทะเลสวยมาก นี่แหละเสน่ห์ของการดำน้ำละมั่ง ที่ใครได้สัมผัสแล้วจะติดใจไม่รู้ลืมค่ะ


พักเที่ยงค่ะ อาหารกล่อง อร่อยแต่น้อยไปนิด ตบท้ายด้วยผลไม้ค่ะ อิ่มจนดำรอบต่อไปไม่ไหวอะคะ 5555 ที่พักที่กินข้าว เราจำไม่ได้เรียกว่าเกาะอะไร ลองนึกว่าตัวเองยืนอยู่ตรงกลางเกาะแล้วหมุนไปรอบๆนะคะ หาดทรายขาวตัดกับด้านหลังสีเขียวของต้นไม้ ด้านหน้าเป็นทะเลสีฟ้าอมเขียว ต้นไม้บนชายหาดถูกประดับประดาด้วยประการังสีขาวร้อยเป็นเส้นแล้วแขวนตามต้นไม้ คือเราดูแล้วโรแมนติกมากอ๊ะ บรรยากาศเพื่อคู่รักโดยแท้ หากเอานักท่องเที่ยวทั้งหมดออกไป เหลือแค่สองเรานะ สุดยอดเกินคำบรรยายเลยค่ะ

บ่ายแก่ๆแล้ว เดินทางกลับที่พัก ขอบคุณพี่ไกด์กะประสบการณ์ดำน้ำดีดีแบบนี้นะคะ


เมื่อคืนแอบหนีเข้าห้องไว คุณโอลีฟเจ้าของบ้านมะกอกแอบบอกเราว่าเมื่อคืนพลาดรายการเด็ด วันนี้มาแก้ตัวนะคะ

รายการเด็ดที่ว่าคือ นั่งเรือชมแพลงก์ตอนค่ะ


นี่อีกรายการที่คู่รักไม่ควรพลาดค่ะ สามภพนี้ไม่มีใครนอกจากสองเราทำนองนั้น ไม่ได้เวอร์นะคะ แต่จิงๆ

เคยไปที่ไหนที่ฟ้ามีดาว ระยิบระยับเปร่งแสงแข่งกันมั้ยคะ ส่วนต้นไม้ไม่น้อยหน้า มีหิ้งห้อย เป็นตัวชู้โรง ส่วนน้ำมีเจ้าแพลงก์ตอนเรืองแสงสีฟ้านวลๆออกมาค่ะ เนี่ยถ้าไม่นั่งเรือเป็นกลุ่ม ไปกะแฟนสองคนนะคะ ไม่อยากบอก ไม่อยากขึ้นจากเรือเลย แค่นี้หัวใจมันก้อยิ้มได้ พองโตแล้วค่ะ เกิดรักธรรมชาติขึ้นมาอยากเก็บไว้ดูนานๆช่วยกันรักษาป่ากะท้องทะเลกันน๊าาาาา


แล้วแบบนี้ไม่เรียกสามภพได้ไงละคะ แข่งกันเปล่งแสงระยิบระยับกันขนาดนั้น แถมพี่ที่บ้านมะกอกใจ กระโดดน้ำโชว์ค่ะ พี่กลายเป็นมนุษย์ไฟฟ้าไปเลย555 เนื่องจากเจ้าตัวแพลงก์ตอนจะเปล่งแสงได้ดี เห็นได้ชัดในขณะที่มีสิ่งของขยับ เจ้าตัวแพลงก์ตอนตอนกลางวันไม่มีแสงแต่จะเปล่งแสงในเวลากลางคืนสามารถมองเห็นได้ไกล จะเรืองแสงสีฟ้าจาง ๆ ออกมา


วันที่สาม วันลาจากแบบใจยังไม่อยากจาก

ตื่นมาเกือบหกโมง ไม่ทั้งพระอาทิตย์ขึ้นค่ะ แต่ยังติดใจพ่ายเรืออยู่ ยังออกไปพ่ายเรือครั้งสุดท้ายก่อนกลับมากินเช้าและเตรียมตัวกลับบ้านเรา


เราชอบที่นี่ค่ะ ไม่ว่าจะทำไรพี่พี่บ้านมะกอกคอยดูแลเต็มที่ จะขึ้นจะลงเรือ จะขออะไรเพิ่ม พี่ๆจะอยู่รอบๆตัวเราเสมอ บริการด้วยใจ เอาไปเลยเต็มร้อยค่ะ


สรุปกลับมาหายข้อใจ ถูกแล้วที่เลือกที่นี่ ไม่เสียใจ ในความไม่มีอะไรเลย กลับมีอะไรมากกว่าที่คิด จากที่ก่อนไปคิดว่าต้องตายแน่สามวันฉาด กะที่ที่ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีวีที กลับสุขใจอุ่นใจ สงบ สบาย หนีวันยุ่งๆมาชารต์พลังที่นี่ได้ดีค่ะ สำหรับคนไกลธรรมชาติแบบเรา แอบหลงรักทะเลขึ้นมา ทำไมเราพบช้าไปหน่อยนะ คราวหน้าต้องหาโอกาศกลับมาที่นี่ให้ได้อีกจนได้ อยากพาแม่ พาคนที่เรารักมาเที่ยวที่นี่ให้ได้สักครั้งค่ะ


ข้อดีของบ้านมะกอกนะคะ

บ้านมะกอก ไม่ใช่รีสอร์ทขี้งก ใช้ไฟได้ แต่ช่วยกันประหยัดเพราะทางรีสอร์ทปั้นไฟไปเองค่ะ ดังนั้นพกโน๊ตบุค หรือเครื่องอำนวยกันเราเหงา มาเองได้ค่ะ

บ้านมะกอกเป็นรีสอร์ทขนาดเล็กมีแปดห้อง ดังนั้น ทุกคนพอจะสนิทกันไว ยิ้มให้กัน ทักกันบ้าง

แล้วพนักงานกับผู้พักมีจำนวกพอกัน พี่ๆทุกคนเอาใจใส่เราได้เต็มที่จิงๆๆค่ะ ไม่เหมือนรีสอร์ทใหญ่ที่ ทำตามหน้าที่ ให้บริการแล้วจบไป ที่บ้านมะกอกไม่ยุ่งขนาดนั้น เรายังคุยเล่น แลกเปลี่ยวความคิด ถามถึงการเป็นอยู่ของพี่ๆได้ ไม่เหงาค่ะ


ข้อเสีย

สถานที่เล็ก แต่ไม่ใช่ปัญหาค่ะ เดี๋ยวก้อชินเอง เพราะมันมีอย่างอื่นให้เราลืมดูจุดเล็กๆนั้นไป

ไกลจากหาดนิดนึ่ง แต่พ่ายเรือไปได้ไม่ไกลมากค่ะ ชิลๆๆๆ

ห้องพักมีน้อย ทำให้จองห้องที่อยากได้ลำบากไปนิด แต่ไม่ว่าห้องไหนมันก้อมีเสน่ห์ของมัน ลองไปนอนสักทุกห้องเป็นไงคะ

www.bannmakok.com/









Create Date : 06 พฤษภาคม 2555
Last Update : 8 พฤษภาคม 2555 10:50:25 น.
Counter : 9912 Pageviews.

6 comments
Mahar Shwe Thein Taw Pagoda, Royal Jasmine Hotel - Pyin Oo Lwin สายหมอกและก้อนเมฆ
(11 เม.ย. 2567 16:06:34 น.)
ซ้งเย็นตาโฟ ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา พุทธมณฑลสาย 1 แมวเซาผู้น่าสงสาร
(11 เม.ย. 2567 10:45:53 น.)
ถนนสายนี้..มีตะพาบ ( 349) วันใดที่เธอรู้สึกเหมือนไม่มีใคร peeamp
(8 เม.ย. 2567 12:38:27 น.)
ตะวันยอแสง ที่ ภูคกงิ้ว พายุสุริยะ
(7 เม.ย. 2567 18:27:17 น.)
  
อ่านแล้วอยากไปเลยค่ะ
โดย: หนีแม่มาอาร์ซีเอ วันที่: 6 พฤษภาคม 2555 เวลา:20:47:22 น.
  
เย้ๆๆๆๆๆๆๆ ได้ที่พักที่อยากได้แล้ว
หาที่พักแบบี้มานานแล้วค่ะ
โดย: มิลเม วันที่: 6 พฤษภาคม 2555 เวลา:23:35:44 น.
  
โดย: Kavanich96 วันที่: 7 พฤษภาคม 2555 เวลา:5:30:08 น.
  
ไม่เห็นบอกป้าเลยค่ะ เสียดายจังกลับตอนไหนคะ
เดี๋ยวป้าติ๋วมาอ่านอีกครั้งค่ะ
ช่วงนี้ป้าติ๋วยุ่งเหมือนกันเลยเงียบไป

ขอบคุณสำหรับซากุระสวยๆนะคะ
ได้รับทุกรูปด้วยความขอบคุณค่ะ

รับรองได้เจอกันแน่ปีนี้
เลื่อนจ่กช่วงซากุระเป็นกันยายนค่ะ
จะได้ไม่รีบมากเกินไปค่ะ
โดย: หมุยจุ๋ย วันที่: 7 พฤษภาคม 2555 เวลา:11:29:18 น.
  
เห็นแล้วอยากไปเที่ยวขึ้นมาเลยค่ะ...^_^
โดย: Bogus Ma วันที่: 30 พฤษภาคม 2555 เวลา:15:58:10 น.
  
ต้องหาโอกาสชวนสามีไปบ้างแล้วเรา
โดย: นิด ฮาว IP: 122.154.122.2 วันที่: 29 เมษายน 2556 เวลา:1:01:59 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Aprilfool.BlogGang.com

yoyos
Location :
川崎  Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]

บทความทั้งหมด