วันที่อยากมีลูก ปล.คุณนายแม่ของพล มีการบอกด้วยนะ ว่าถ้ามีลูกอย่าเอามาให้เลี้ยงนะ ไม่อยากเลี้ยงเด็ก เหนื่อย ต๊าย ตาย แม่นะแม่ ไม่อยากมีหลานหรือไง เชื่อมิ ว่าอิชั้นได้เจิม ณ. เวลา 03.49 น. ของฮ่องกง กร๊ากกกส์
โดย: Oops! a daisy วันที่: 9 ตุลาคม 2553 เวลา:2:48:30 น.
อ่ะ....เป็นเรื่องที่ได้เม้าท์ตอนเจอกันไปแล้ว ไอ้เราก็คิดไปว่า เออ...นี่คงเป็นอาการของคนที่มีความสัมพันธ์มาในระดับนึงแล้ว แล้วก็อยากจะพัฒนาขึ้นไปอีกหนึ่งเลฟเวลนิ แต่พลบอกว่าไม่ใช่ อ่ะ ไม่ใช่ก็ไม่ใช่
มีลูกหนึ่งคน จนไปเจ็ดปีจริง ๆ นา (ของป้าเนี่ยสิบปีแล้ว ยังจนอยู่เลย อิอิ) ยิ่งเป็นคู่ต่างชาติที่สมองไหล ไม่ได้อยู่บ้านเกิดเมืองนอน ก็ยิ่งลำบากเข้าไปใหญ่ ถ้ามีลูกกะคนไทย โรงเรียนวัด โรงเรียนอะไรก็เข้าไปเรียนได้ หรือถ้าคุณฝรั่งเค้าอยู่สวิส ใช้สิทธิพลเมือง ลูกหัวดีหน่อย เข้าโรงเรียนรัฐบาล เรียนมหาวิทยาลัยเด็ด ๆ โดยที่ไม่ต้องเปลืองสะตุ้งสตังค์มากนิ แต่นี่ดันสมองไหล ไปอยู่ต่างประเทศเงี้ย คุณฝรั่งเขาจะยอมให้ลูกไปเรียนโรงเรียนวัดลามะแถวบ้านรึ อยู่ปักกิ่ง ก็ต้องเรียนนานาชาติชิมิส์ ปีนึงเฉียดล้านบาท เสียดายตังค์แทน (อ้าว....ยัยป้าไปยุ่งอะไรกะเค้าด้วย) ชั้นเม้นท์ซีเรียสไปมั้ยเนี่ย เห็นพลบอกว่า 'เพ้อไปหน่อย' อิชั้นก็เพ้อตามไปซะงั้น ขอบอกว่า ไม่ได้ซีเรียสเหมือนกันจ้า เม้นท์ให้มันง่วง ๆ เดี๋ยวจะได้นอนหลับสบาย โม้เพลิน....จะเล่าให้ฟังว่า ไม่ได้หลับ ไม่ได้นอน เพราะซัดโอเลี้ยงเข้าไปเมื่อเย็น แถมยังมีเรื่องให้กังวลใจ เค้าส่งอีเมลเชิญให้ไปรับของรางวัลแบบมีอีเว้นท์แฝงอยู่ คือถ้าให้ไปรับของเฉย ๆ ไม่อยากไปไง แต่เห็นเค้ามีจัดงาน (เล็ก ๆ) ด้วย มันก็น่าไปเนอะ เมื่อตอนหัวค่ำ ก็พยายามจองตั๋ว ซึ่งจองกระชั้นชิดแบบนี้ หาตั๋วถูกยาก ถูกสุดคือทำจองกับเว็บการบินไทย สองพันห้าร้อยเหรียญ ปรากฎว่าใช้บัตรเครดิต แล้วมันไม่ตัดบัตร แต่ขึ้นข้อความว่าให้ติดต่อธนาคาร ไอ้ธนาคารฮ่องกงนี่ก็เหลือเกิน เป็นห่วงกระเป๋าสตางค์ผู้บริโภคมากเกินไปหน่อยรึป่าว ก็เข้านอนด้วยความกังวล เพราะจองตั๋วให้สองพ่อลูกได้แล้ว (ไปไม่พร้อมกัน-สองคนนั้นได้ตั๋วถูกมาก ชั้นหาตั๋วถูกเก่ง ฮ่า ฮ่า) แต่ของตัวเองยังไม่ได้จองซะนี่ พอเมื่อกี้ ลองไปเซิร์ชดูเว็บที่ป้าซื้อตั๋วเครื่องบินประจำทุกครั้ง เฮ้ย....ไฟลท์เดียวกัน วันเดียวกันเลยอ่ะ ถูกกว่ากันห้าร้อยเหรียญ กรี๊ดดดดดเลย จองเลย ใช้บัตรเครดิตเดิมผ่านตลอดไม่มีปัญหา เค้าเรียกว่าดวงมันจะได้ของถูกเหมือนกันทั้งครอบครัว อิอิ ปอลอ พลจำได้ป่าว ที่ป้าเปิดเว็บหมอไพศาลให้ดูดวงของป้าอ่ะ แม่นไหมล่ะตะเอง ?? โดย: Oops! a daisy วันที่: 9 ตุลาคม 2553 เวลา:3:28:24 น.
อ๊ายยย.. กลับมาแร้ววว น้องชั้น!!!
ประเดิมเริ่มปัดฝุ่นก็เพ้อเจ้อเชียวนะยะ การมีลูก เป็นความผูกพันของชีวิตๆนึงกับเรา สำหรับคู่ธรรมดา ต้องถามตัวเองว่าพร้อมไหม? เพราะนั่นหมายถึงการเสียสละทุกอย่างของตัวเองไปให้กับอีกชีวิตหนึ่ง .. และสำหรับคู่ของพลก็ต้องถามว่า พร้อมไหมไหม? เพิ่ม ไหม? เข้าไปอีกชั้น กร๊ากกก.. เด็กน่ะมันก็น่ารักดีอยู่หรอกพล นำทั้งความน่ารัก สดชื่น และปวดกบาลมาให้พร้อมๆกัน เหมือนฮอลล์รสน้ำผึ้งผสมมะนาวไง เกี่ยวป่ะ? พลแล่นไปแวะบ้านป้าเดซี่มา แล้วกลับมาไวจริงนะ ทำเหมือนเช้าไปเย็นกลับได้งั้นแหละ เห็นรูปที่บ้านป้าเดซี่แล้ว ไหน..แก้ผ้านุ่งกุงเกงลิงถ่ายบั้นท้ายให้ดูด่วน.. ว่ามันอวบระยะสุดท้ายหรือยัง? คิดถึงน้องที่ซู้ดดดด เลย ทีหลังอย่าหายหัวหายหางไปนานนักนะยะ.. โดย: ป้าโซ วันที่: 9 ตุลาคม 2553 เวลา:8:02:28 น.
คอมเมนต์ยาวครับ
พล พี่สินขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ พล นะ แม้จะช้า แต่ ซึ้ง เก๋อ รื่อ เป็นชื่อของหนุ่มทิเบต ชาวมณฑลกานสู เป็นไกด์นำเที่ยว พี่สินไปทิเบต ที่มณฑลชิงไห่ ยังไม่ได้นำรูปภาพมาลงบล็อก พี่ไปช่วงเดือนกรกฎาคม เดือนที่มีฝน ดอกไม้บาน ออกซิเจนเยอะ แม้ชิงไห่ จะอยู่สูงกว่าเขตปกครองทิเบต แต่พี่สิน ก็ไร้ปัญหาเรื่องเหนื่อย ไกด์บอกว่า ฝน และหญ้า ช่วยสร้างออกซิเจน มาช่วงนี้ดีที่สุด พี่วิ่งลั่นล้าถ่ายรูป ปีนโน่น ปีนนี่ เหมือนทิเบต เป็นบ้านของตนเอง แถบนี้เป็นเนิน เป็นโตรก ไร้ต้นไม้ให้จับกิ่งไม้ยึดเหนี่ยว ใช้กำลังขาล้วนๆ มณฑลชิงไห่ เป็นดินแดนของชาวทิเบต ที่จริง แถบเขตปกครองทิเบตทิเบต มณฑลซินเกียง มณพลกานซู รวมทั้งมณฑลเสฉวนบางส่วน(จิ่วจ่ายโกว) ก็เป็นที่ราบสูงทิเบตทั้งนั้น โอ เป็นที่ราบสูงที่มหึมามากๆๆๆๆ ใหญ่กว่าประเทศไทยราว 10 เท่า มั๊ง? แต่คนทิเบตยากจน พักอาศัยเป็นเต๊นท์ อยู่กันห่างๆ เลื้ยงจามรี แกะ และแพะภูเขา พี่สินประมาณว่า พี่สินเห็น จามรีนับสิบล้านตัว ไม่เวอร์นะ เพราะคนทิเบตคนเดียวขี่ม้า เลี้ยงดูไข่มุกดำ(จามรี) ไข่มุกขาว(แพะ) เต็มภูเขา คงจะราวพันตัว ทีนี้ พี่เห็นตลอดวัน ตลอดทาง แล้วก็เห็นทุกวัน นึกออกไหม เดินทางจากเหนือไทย จดถึงสิงคโปร์ ยังคิดว่าระยะทางน้อย เพราะเดินทางทุกวัน วันละ 300 กิโล 10 วัน พี่เห็นไข่มุกดำ ไข่มุกขาว ตลอดทางเลย เอาละเข้าเรื่อง ในบล็อกของพล พี่สิน ก็เจอญาติผู้ใหญ่ติง เรื่องไม่มีครอบครัว เดี๋ยวจะไม่มีความสุข เดี๋ยวจะไม่มีทายาท ได้ยินบ่อยละ เครียดไหม? ก็แค่รำคาญ ชีวิตของพี่ ไม่เห็นมีใครให้เงิน ให้ของกินพี่ ชีวิตครอบครัว ไม่ได้แปลว่า มีความสุขกว่าอยู่คนเดียว เห็นผัวเมียทะเลาะกัน ดูทีวีคนละช่อง ดูหนังคนละแนว ข้างบ้าน พี่ตื่นขึ้นมา ได้ยินเสียงรีบเร่ง แล้วก็ได้ยินเสียงบ่นกันแทบทุกเช้า เหอ เหอ และครอบครัวที่มีลูก ก็ไม่ได้สุขอย่างหวัง น้องของพี่ หลานของพี่ เห็นบ่นเรื่องเลี้ยงลูก เรื่องรายจ่ายของลูก เห็นเครียดกันกับพฤติกรรมลูกติดเพื่อน สอนแล้วจะเถียง แน่นอน พี่ก็ไม่ใช่คนมะนาวหวานนะ ที่คิดว่าอยู่คนเดียว แล้วจะมีความสุขล้น แต่พี่ เพียงแต่พอใจในความเป็นอยู่แบบนี้ ก็เคยมีคนมาอยู่กับพี่เหมือนกัน ก็มีเถียงกัน กินอาหารไม่ใช่แบบเดียวกัน ดูหนังคนละแบบ เล่นกีฬาไม่เหมือนกัน คริสติน่า อากีล่า เคยพูดในทีวีแล้วถูกใจ เธอบอกว่า ถ้าจะมีคู่ครอง ต้องมีแล้วมีความสุขกว่าชีวิตในตอนนี้ ฉะนั้นก็อยู่คนเดียวก็ได้ เรื่องมีลูก พี่สินเคยรับเป็นพ่ออุปถัมภ์เด็กยากจน มา 5 คนแล้ว ก็ไปเยี่ยมเขา ไปให้กำลังใจเขา (อยู่คนละจังหวัด) พยายามชี้แนะจะให้เขามีมานะเรียน จะส่งให้จบ ป.ตรี แต่ทั้ง 5 คน พอเรียนถึงมัธยม พ่อแม่กลับให้ออกมาทำไร่ บางคนก็ติดเพื่อนไม่ดี บางคน ยายมารับกลับไปอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ เป็นเด็กผู้หญิงด้วย (กลัวจะถูกขายX เรื่องอุปถัมภ์เด็ก พี่อุปถัมภ์ไม่ขึ้นสักคน ก็เลยเพียงแต่ส่งหลานตัวเองให้เรียน และทุกคนจบป.ตรี มีหลายคน มาพักกับพี่สิน แต่เพราะตอนนี้ ทุกคนมีงาน มีครอบครัว มีลูก ก็เลยมีบ้านของตนเอง พี่สินก็เลยกลับมาอยู่แบบคนเดียว แต่ไม่เหงาหรอก พอใจกับความเป็นอยู่แบบอยู่หอพักมานานแล้ว ตั้งแต่เข้ากรุงเทพ เมื่อคืน คิดแว๊บขึ้นมา เพราะเพิ่งจะคอมเมนต์ไปกระทู้ๆหนึ่ง เขาถามว่า ช่วยแนะนำหนังเรื่องดีๆให้หน่อยซิ ก็ตอบคอมเมนต์ไป จำนวนหนัง 10 เรื่อง ทีนี้ เมื่อคืนคิดแว๊บว่า มันยังมีอีกเรื่อง เกี่ยวกับเรื่อง มีลูก ก็หยิบวีดิโอเรื่องนี้มาดูซ้ำ (เก็บวีดิโอไว้ในบ้านราวร้อยเรื่อง DVD ก็มี) ดูแล้วก็มีความสุข หาก พล อยากจะดู ลองค้นหาซิ เรื่อง The Object of My Affection ................................ พี่สินส่งรูป ไกด์ทิเบต เก๋อรื่อ (คนข้างหลัง) คนข้างหน้าคือ เถ้าแก่เจ้าของบริษัทนำเที่ยว ทั้งสองคน ร่วมไปกับทริปทิเบต จนจบทริป yyswim วันที่: 9 ตุลาคม 2553 เวลา:15:06:25 น. โดย: yyswim วันที่: 9 ตุลาคม 2553 เวลา:15:26:54 น.
พล ถ้าเธออยากมีลูก งั้นชั้นอุ้มบุญให้ ....ว้าย ชั้นเพ้อไปไกล
เอางี้ ให้ชั้นลองอุ้มลูกคนแรก ของตัวเองดูก่อน ถ้าผ่าท้องไม่ลำบากชั้นจะอุ้มบุญให้เธอ แต่เธอคงไม่เอาชั้นแน่ เพราะอายุชั้นเลยวัยเจริญพันธ์มาแล้ว ...อุ๊บส์ ชั้นว่าทางที่ดี เธอเอาลุกหลานของเธอ หรือของฝั่งคุณพลมาเลี้ยงดีกว่า ไม่น่ามีปัญหาเรื่องการตอบคำถามตอนโต เพราะเป็นญาติกัน ชั้นเห็นรูปคุณพลแล้ว ก็อยากมีลุกหน้าตาน่ารักแบบนี้มั่งเหมือนกัน โดย: anchesa IP: 203.155.123.99 วันที่: 9 ตุลาคม 2553 เวลา:18:29:58 น.
เอาหลานมาเลี้ยงอะดีแล้ว หลานพล หรือหลานคุณคำรณก้อได้ ไม่มีปัญหาแน่นอน แต่ไม่ต้องหวังว่าจะให้เขามาเลี้ยงเราตอนโต้นะ ถ้าเราเลี้ยงเค้าดี ให้ความรัก ให้เวลาเต็มที่ ไม่ทอดทิ้ง แล้วเค้าโตขึ้น มีความรู้ มีงานการทำ มีเงินเดือนเยอะ เค้าก้อไม่ลืมเราหรอกน่า
โดย: James IP: 125.26.57.187 วันที่: 9 ตุลาคม 2553 เวลา:19:07:25 น.
เลี้ยงหลานค่ะพี่ หลังจากเลี้ยงมาแทบทุกคนจะมีบางคนที่เข้ากับเราได้ และอาจกลายเป็นลูกนอกไส้ได้ไม่รู้ตัวจริงๆ
เป็นความรู้สึกหรือความอยากหนูว่าลองคิดให้หนักๆ นะคะสำหรับเรื่องนี้ เรื่องมันยาวจริงๆ ป.ล รูปน่ารักมากๆ โดย: ฝังเข็มมันเจ็บจริง IP: 65.49.2.153 วันที่: 10 ตุลาคม 2553 เวลา:0:23:35 น.
อ่านความคิดของพล น้าก็เข้าใจความรู้สึกค่ะ
ลูกสาวของน้าที่อยู่เยอรมัน ครั้งแรกท้งผัวทั้งเมียไม่ยอมมีลูก แต่งงานมาสี่ห้าปี น้าจะพูดไงก็ไม่เชื่อ พอทั้งคู่ย้ายมาอยู่เยอรมัน คนข้างๆบ้านสองสามครอบครัวที่ไม่มีลูก อายุก็ปาไป ห้าสิบกว่า บอกว่าพวกเธอควรจะมีลูกไว้ซักคนก็ยังดี ตอนฉันหนุ่มสาวฉันก็คิดแบบเธอ มาตอนนี้มันสายเสียแล้วที่จะมี แค่นี้อ่ะ ตกลงใจมีลูกเลย ลูกสาวน้าบอกว่า เลี้ยงลูกมันแสนเหนื่อย แต่เหนื่อยอย่างมีความสุขค่ะ พูดแค่นี้น่ะพล ในโลกนี้คนที่มีลูกมันก็มีทั้งดีและไม่ดี ยังไม่ทันจะมีเลยคิดว่าลูกเราไม่ดีเสียแล้ว น้าว่ามันแย่น่ะ คนที่เลี้ยงลูกแล้วได้ดีมีถมไปค่ะ ไม่ได้คิดว่าเราเลี้ยงเขาเพื่อจะมาเลี้ยงเราตอนแก่หรอก แต่ว่ามันเป็นความสุขช่วงนึงของชีวิตแหละ จะว่าสุขทั้งหมดก็ไม่ใช่ ไม่มีอะไรที่สุขไปทั้งหมด ปัญหามันต้องมีอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าเราพร้อมจะแก้ปัญหารึเปล่า หรือจะปล่อยให้มันเป็นไปตามเวรตามกรรม น้าไม่ได้บอกว่ามีลูกแล้วดีน่ะ แต่สำหรับน้า เวลาเห็นลูกแล้วมีความสุขค่ะ โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 10 ตุลาคม 2553 เวลา:16:21:38 น.
ถึง พล
เข้ามาตอบคำถาม ที่ไปฝากถามที่บล็อกของพี่ เจ้าของบริษัททัวร์ คนนี้ อายุ 26 ไกด์ทิเบตอายุ 29 ทั้งสองคนยังไม่เคยไป ณ สถานที่ที่ทริปของพี่สินจะไป เป็นบริเวณต้นแม่น้ำฮวงโห (อนาคตที่คิดๆกัน จะไปต้นแม่น้ำแยงซี) และหาบริษัททัวร์จีนที่เคยไปที่นี่ ก็ไม่เคยมีบริษัททัวร์จีนที่ไหนเคยไป เพราะมันเป็นสถานที่ที่กันดาร ยากจน ไกลปืนเที่ยง ยังเวอร์จิ้นแบบชาวทิเบตพักอาศัยอยู่ จึงยังไม่มีทัวร์จีนที่ไหนจัด เรื่องทัวร์จากเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ทริปที่พี่ไป จึงนับเป็นทัวร์แรกเลยแหละ ชาวทิเบตเขามองกันใหญ่ เพราะเขาไม่เคยเห็นมีทัวร์มาที่นี่กันสักกลุ่ม ที่นี่ไม่ใช่แบบเมืองลาซา ของเขตปกครองทิเบตที่เจริญระดับหนึ่งแล้ว มีทางรถไฟจากปักกิ่งไปถึงแล้ว ที่นี่ยังขี่มอไซค์ ขี่ม้ากัน ทางเมืองไทย ก็พยายามเสาะหาบริษัททัวร์จีน เพราะต้องมีไกด์ทิเบตนำชม ไม่งั้นจะผิดกฎ ที่สุดก็มีบริษัทนี้เป็นบริษัทเดียวที่ยินดีประสานงาน เป็นบริษัทเล็ก แต่ไม่ได้อยู่ที่มณฑลชิงไห่ เขาอยู่ที่มณฑลกานซู ซึ่งทริปจะผ่านตอนขากลับ สรุปว่า พี่เดินทางไป กวางโจว ชิงไห่ กานซู แล้ว กวางโจว การประสานงานก็ต้องมีการติดต่อสำนักงานการท่องเที่ยวของแต่ละอำเภอ ติดต่อโรงแรมที่รับคน 22 คนได้ เรื่องอาหารไม่อาจจะติดต่อล่วงหน้าได้ เพราะคนทิเบตทานอาหารไม่เหมือนคนไทย แล้วเขาไม่ค่อยกักตุนอาหาร ทีนี้ พอวันเดินทางจริง เจ้าของบริษัททัวร์ และไกด์ทิเบต เขาก็เต็มใจไปด้วย เพราะทั้งสองคนยังไม่เคยไปที่นั่นเหมือนกัน แน่นอนว่าเจ้าของบริษัททัวร์ เขาอาจจะได้ประโยชน์จากเจอประสบการณ์ เผื่อจะนำกรุ๊ปทัวร์ชาวจีน ไปทัวร์แถบนี้ในภายหน้า และก็เป็นการดีต่อทริปคนไทย จะได้รู้ว่าบริษัททัวร์จีนบริษัทนี้ น่าติดต่อในวันข้างหน้าหรือไม่ เพราะปีหน้าจะจัดทัวร์ไปที่นี่อีก คำตอบ คือ เขาไม่ค่อยคล่อง ใจดีน่ะ ใช่ มีเงินน่ะ ใช่ แต่การแก้ไขปัญหา เขาจะงง แล้วพี่ คงจะต้องเขียนเล่าให้ชัดเจนอีกที ในบล็อกพี่ เมื่อมีจังหวะ คนที่นับว่าแก้ไขปัญหาได้เก่ง คือไกด์จีน จากมณฑลเสฉวน คนนี้พูดไทยชัดเจน เขาเป็นไกด์สนับสนุน เพราะไกด์ทิเบต พูดได้แต่ภาษาทิเบตและจีนกลาง ส่วนไกด์เสฉวน พูดได้ภาษาจีนกลางและภาษาไทย ก็ต้องช่วยแปลความให้พวกเรารู้ จะมีแต่ไกด์เสฉวนเท่านั้นก็ไม่ได้ เพราะเขาพูดทิเบตไม่ได้ เออ ขนาดภาษาทิเบต ยังมีหลายสำเนียงเลย เพราะที่ราบสูงทิเบต เนื้อที่กว้างใหญ่มากๆๆๆ ไกด์ทิเบตไปเจอบางสำเนียงทิเบต เขาก็ยังงง เรื่องการนอน พี่สินไม่รู้ เพราะนอนกันคนละห้อง พี่สินพักอยู่กับเพื่อนที่เป็นเจ้าของบริษัททัวร์เมืองไทย แต่มีบ้างบางคืน บางเมือง ห้องพักไม่พอ เพราะโรงแรมเล็ก ก็ต้องพักห้องละ 4 คนก็ยังมี โดย: yyswim วันที่: 10 ตุลาคม 2553 เวลา:16:27:03 น.
คิดถึงจังเลย หายไปเลยนะน้อง
ป้าอยู่ร.ร.วัดจันทร์ตะวันออกค่ะ ตอนพลกลับมาบ้านป้าก็นึกว่าเราจะเดินชนกันซักวัน โลกไม่ยักกะกลมเนอะ ป้าทำใจและ เรื่องแก่ไปจะไม่มีคนดูแล เก็บเงินไว้จ้างคนมาดูแลก็ได้ หลานก็ดันมีหลานชายคนเดียว ถ้ามีหลานสาวก็ยังพอมีหวังอยู่บ้าง เลยไม่มีความเห็นเรื่องขอเด็กมาเลี้ยงนะจ๊ะ โดย: kim_tiger วันที่: 10 ตุลาคม 2553 เวลา:21:00:21 น.
พี่พลอารมณ์อยากมีลูกเเล้วหรือเนี่ยคะ
มาช่วยหนูเลี้ยงก่อนเอามะ เอามะ เดี๋ยวส่งตรงไปปักกิ่งให้ โดย: aoiobake วันที่: 11 ตุลาคม 2553 เวลา:16:15:42 น.
คิดเหมือนพี่ชายปุ่นเลย พี่ชายปุ่นก็อยากมีลูกแต่ไม่อยากมีเป็นของตัวเอง งงไหม เค้าก็แบบพลเงี้ย แฟนเค้าก็แบบคุณคำรณ หน้าตาดี จิตใจดี ตอนนี้ปุ่นมีน้อง พี่ปุ่นเลยดีใจ แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น เราสองคนไม่ได้หวังว่าเด็กมันโตมาจะมาเลี้ยงดูเรา หรือจะมาเยี่ยมเราแบบที่พ่อแม่เราหวัง บางทีมันคงจะเป็นไปไม่ได้ ก็ถือว่าเราได้มีโอกาสให้ กับคนคนหนึ่งก็แล้วกัน คิดแล้วจะสบายใจ
แหม พูดเรื่องลูกเรื่องเต้า ยาวไปโน่น ปุ่นก็ไม่ค่อยจะมีตังค์หรอก แต่มีแล้วก็คงจะเลี้ยงดูกันไป คงจะจนไปอีกเจ็ดปีอย่างป้าเดซี่ว่า เคยเห็นในบล้อกพลน้าน นานมาแล้ว ว่าพลชอบข้าวเหนียวแปรรูป แบบข้าวหลาม ข้าวเหนียวกะทิ อะไรเงี้ย เห็นแล้วยังแอบนึงถึงพลเลย พลเรียนภาษาจีนเข้าปีที่สองแล้ว เก่งอ่ะ ปุ่นเคยเรียนจีนตอนปวช. เรียนพูดไม่ยาก แต่เรียนเขียนควบคู่ไปด้วยนี่ เดี้ยงเลย เขียนผิดเยอะมาก ฮ่า ฮา น้องคนรู้จักคนนึงก็พูดจีนได้ รู้สึกว่าดูดีจังเลย จะได้ฟังคนจีนรู้เรื่อง เวลาไปซื้อของก็รู้สึกว่าได้รับการต้อนรับดีขึ้น (เอ๊ะเกี่ยวกันป่าว) โดย: Bananarumba วันที่: 11 ตุลาคม 2553 เวลา:18:45:36 น.
หนูเจนแวะมาขอบคุณ คุณพล ที่เข้าไปให้กำลังใจเจนที่บล็อคนะคะ
ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ โดย: JenNy & Tristan @ The UK วันที่: 12 ตุลาคม 2553 เวลา:2:31:59 น.
ดีจ้าคุณพล ...
หายไปนานคิดถึงๆๆๆๆๆๆ แต่อย่าเพิ่งต่อว่านะค่ะว่า คิดถึงไหงไม่มาหาน่อ แบบจะบอกว่าเราก็ขี้เกียจเป็นนะค่ะคุณพล คริๆ .. จริงๆ นา เพราะว่าแอบ ไปติดเกมส์มา งานก็เข้าเยอะแยะที่บ้าน ชั่งใจว่าไม่มีเวลาบล็อกก็ไม่ต้อง ถ้าเป้นเมื่อก่อนก็คิดว่าไม่ดี แต่ว่าหลังๆ ไม่เป็นไร มาเขียนได้ยามว่าและมีอารมณ์ มันก็เลยเป็นข้ออ้างได้อย่างดีเลยค่ะ เอิ๊กๆ มาเจอกับบล็อกคุณพลยามหายไปนาน ด้วยเรื่องราวใหญ่โตแบบนี้ เราว่า .. .เรื่องอยากมีลูก มันเป็นเรื่องคิดๆ อยุ่ในใจน่ะค่ะ เราว่าเอาอะไร มาบอกไม่ได้หรอกว่า "คิดยังไง" เพราะมันเป็นแบบออโต้น่ะค่ะ แล้วคนอยากมีลูกและจะมีเราก็ว่ามันก็ต้องมีเมื่อคนสองคนอยาก คนสองคนพร้อม และคิดไปทางเดียวกัน นั่นล่ะค่ะมันถึงจะลงตัว .. เรื่องอย่างอื่นน่ะไม่พร้อม ไม่เป็นไรแต่ว่ายังไงถ้าใจมันรับรู้เราว่ามันก็คง "ต้องมี" ล่ะค่ะ สำหรับเราเองตั้งใจเอาไว้ปีที่ 2 แล้วว่าจะไม่มี ด้วยเหตุผลว่าไม่อยากลำบาก เหมือนเห็นแก่ตัวแต่บอกได้เลยว่าเราไม่อยากมี เพราะคิดเรื่องที่ว่า ไม่มีลูกเราก็อยู่กันได้ (มั้ง) ... หวังลูกน้องชายทั้งๆ ที่ตอนนั้นมันก็ยังไม่มีแฟน เลยด้วยซ้ำ แต่ว่า ณ วันนี้ น้องชายมีไปแระ .. เราก็หวังเชยชมหลานสาว แต่ว่าคงอีกนานเพราะว่าเพิ่งเกิดเมื่อวานนี้เองอ่ะค่ะ (เห่อๆๆๆเป็นป้าอีกต่างหาก) ... อ่ะค่ะ มาอ่านแล้วอินตามคุณพลไปด้วยนะนี่ ... ไม่อยากมีลูกเอง แต่ว่าชอบเล่นกับเด็กค่ะ คนอื่นก็ว่าเสียดายน่าจะมี เด็กฝรั่ง ฮาๆ ... ใครจะรู้ เด็กฝรั่งมันน่ารักจริงแต่ว่าอีกมุมก็ร้ายไม่ใช่เล่นเหมือนกันอ่ะค่ะ เลยก้ำกึ่ง ผ่านเวลาไปแล้วเลยวัยแล้วค่ะ เลยได้เป็นป้าเอาอย่างเดียวไม่ต้อง เป็นแม่ดีกว่า ..555+ คุณพล .. เป็นคนเดียวจริงๆง นะที่มีปัญหาเรื่องกล่องเม้นท์ของเรา แต่ว่า .. ไม่เป็นไรค่ะเข้าใจเลยเพราะบางทีคุณพลใช้หมาไฟหรือเปล่าเอ่ย มันเลยไม่เห็นภาพในกล่องเม้นท์น่ะค่ะ แต่ว่าพิมพ์มาเลยค่ะ พิมพ์ผิดถูกยังไง จิ๋วนิดอ่านได้น๊าค๊า ... อ่อ ปล.ก่อนไป คำเตือนป้าเดซี่ อ่านไปแล้วยิ้ม จนจริงๆ ค่ะ 7 ปีหรือว่ากว่านั้น นี่ขนาดไม่มีลูกนะค่ะ ยังจนมากว่า 10 ปีเลย 555 โดย: JewNid วันที่: 12 ตุลาคม 2553 เวลา:7:34:33 น.
ถ้าจะเลี้ยงผมแนะนำว่า ควรเป็นหลาน หรือสายเลือดของเราจะดีกว่าครับ
เพราะถ้าเป็นคนอื่น โตขึ้นไม่ได้ดังใจ เราเอาไปคืนไม่ได้นะ 555 ที่กรุงเทพฯ ตอนนี้มีเหตุระเบิดรายวัน ไม่ค่อยดีเลยครับ ส่วนฟ้าฝนก็เหมือนกัน ตก หยุด ตก หยุด แทบมองไม่เห็นแดดเลย หนังสือ เรื่องขันทีคนสุดท้าย เป็นเรื่องแปลครับ สำนวนการแปลดีมากทีเดียว แต่อ่านไปอ่านมา นึกว่าอ่านเรื่องซูสีไทเฮาของ ท่านชายคึกฤทธิ์ โดย: peeradol33189 วันที่: 12 ตุลาคม 2553 เวลา:13:13:57 น.
ถึงพล
พี่สิน เสี่ยงส่ง you tube มาให้ หากเมืองจีนเปิดดูได้ ก็คงจะดี พล ดูไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร เพราะส่งมาแบบว่า ถ้าโชคช่วย ก็ดูได้ เป็นละครทีวีของไทย ดูเพลินๆ แบบลิเกครับ นิยมของไทย กว่าของเกาหลีบ้าง ก็น่ารักดีออก ละครเรื่อง สวรรค์บี่ยง มีหลายตอนมาก แสดงโดย เคน-ธีรเดช แอน ทองประสม //www.youtube.com/watch?v=qOq--mS7vSc&feature=PlayList&p=40AD553686CF4E79&index=0&playnext=1 ข้างล่าง แบบชนิดมี Subtitle เป็นภาษาอังกฤษ เหมาะกับคุณคำรณ //www.youtube.com/watch?v=PTNu3khOdEI&feature=related โดย: yyswim วันที่: 12 ตุลาคม 2553 เวลา:15:45:15 น.
วันนี้ บล็อกของพล ดูเบี้ยว ครับ
Profile, FriendsBlog, Link ไปอยู่ข้างล่าง พล แจ้งไปให้ทางบล็อกแก๊งค์ช่วยก็ได้ เพราะปัญหาเกิดจากโค๊ตในคอมเมนต์ของบางคนผิด เขาจะแก้ได้เร็วกว่า พล แต่หากไม่แก้ ก็ไม่เป็นไร บล็อกอื่นๆของพล ยังสบายดี มีเพียงบล็อกนี้ที่ไม่สบาย เท่านั้น โดย: yyswim วันที่: 12 ตุลาคม 2553 เวลา:15:51:47 น.
เมื่อฟังความคิดของเพื่อนแล้ว
เราขอบคุณเพื่อนมากที่อย่างน้อยก็มี เรื่องของเราเข้าไปอยู่ในบล็กของเพื่อน แต่ถ้าอยากมีลูกมากก็ มาหัดเลี้ยงลูกหมา ไปก่อน มันคล้ายๆกัน เพราะลูกหมาก็ต้องการความรัก ความอบอุ่น และความเอาใจใส่ เหมือนกับเด็กเล็ก ๆ แล้วจะรู้ว่าความผูกพันมันเป็นอย่างไร แต่เราคิดว่า น้องดำ คงจะอยู่กับเด็กไม่ได้หรอก เพราะเป็นคนมีความอดทนน้อยมาก คนที่จะเป็น พ่อ แม่ ได้ต้องวมีความอดทนสูงมากๆ เช่น 1. ต้องอดทนในการอดนอนในเวลาที่ ลูกงอแง ไม่สบาย 2. ต้องอดทน ในการฟังเสียงร้องของลูก 3. ต้องอดทนในการรับฟัง และต้องตอบคุถามของลูก ซ้ำๆ กันเป็น 10 รอบ โดยวที่ไม่ลำคานซะก่อน 4. ต้องอดทนในการที่ไม่ได้ออกไปใหน ไม่มีชีวิตอิสระ เป็นไงละฟังแล้วอยากจะมีลูกอีกหรือเปล่า แต่ฉันแนะนำถ้าอยากเลี้ยงเด็กมากนัก ก็รับจ้างเลี้ยงเด็กสิ ไม่ต้องมาเป็นภาระทั้งชีวิต แถมยังได้เงินอีกด้วย แต่สำหรับเพื่อนพล เลี้ยงแค่ 1 คน ก็พอ เป็นไงความคิดฉันบันเจิดปะ ู โดย: เพื่อนสาวสุดสวย IP: 203.209.103.75 วันที่: 14 ตุลาคม 2553 เวลา:14:59:44 น.
|