
หลายท่านที่เดินทางบ่อยๆ เป็นประจำ อาจมองข้ามจุดเล็กๆน้อยๆ
ในการปฏิบัติตัวบนเครื่องบินไป เนื่องจากความเคยชินและคิดว่าไม่น่าจะเป็นอันตรายอะไร
สิ่งเล็กๆน้อยๆเหล่านี้ที่คุณมองข้ามไป มีอยู่หลายอย่างที่เสี่ยงต่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง
เรื่องเล็กน้อยที่เหมือนเส้นผมบังภูเขานั้น อาจจะทำให้เกิดผลกระทบที่คุณคาดไม่ถึงได้
และเพื่อให้เที่ยวบินของคุณราบรื่นและสุขสนุก ตลอดการเดินทาง
ลองอ่านและปฏิบัติตามกับเคล็ด (ไม่) ลับ 10 ประการต่อไปนี้ดู
1. เลือกเส้นทางบินแบบเทคเดียวจบจากสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางเครื่องบินนั้น ช่วงที่ถือได้ว่าเป็นช่วงที่มีความเสี่ยง
ต่อการเกิดอุบัติเหตุมากที่สุดคือ ตอนขณะเครื่องขึ้น (takeoff),เครื่องไต่ระดับ
(climb),เครื่องลดระดับ (descent) และช่วงนำเครื่องลง (landing)
ฉะนั้นเพื่อลดความเสี่ยงในโดยสารเครื่องบิน หากเป็นไปได้
ให้เลือกเดินทางในเส้นทางบินที่ non-stop น่าจะดีกว่า
นอกจากนี้ยังประหยัดเวลาและไม่เหนื่อยล้า สำหรับการเดินทางของคุณด้วย
2. เล็กๆ ไม่ ใหญ่ๆ ดีกว่าทราบมาว่า เครื่องบินที่มีที่นั่งมากกว่า 30 ที่ขึ้นไปจำเป็นที่จะต้องผ่านการตรวจสอบ
ตามข้อกำหนดของการบินสากล ซึ่งเป็นข้อกำหนดที่เคร่งครัดสำหรับการออกแบบ
เครื่องบินที่ปลอดภัยและมีการทดสอบก่อนบินจริง ดังนั้นเครื่องบินที่มีขนาดใหญ่กว่า
ย่อมหมายถึงประสิทธิภาพและสมรรถนะที่ดีกว่าเครื่องบินขนาดเล็ก
โอกาสที่จะเกิดปัญหาทางเทคนิคก็น้อยลงนั่นเอง ของแบบนี้คุณควบคุมไม่ได้ ใช่ไหม?
3. ใส่ใจกับการสาธิตวิธีการใช้อุปกรณ์ต่างๆ และวิธีการเพื่อความปลอดภัยคงจะมีบ้างที่คุณคิดว่าผม/ดิฉัน เดินทางเป็นประจำรู้อะไรต่างๆดีจึงเพิกเฉยกับการสาธิตต่างๆ
จากพนักงานต้อนรับบน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว แต่ละเที่ยวบินของคุณนั้น
คุณอาจจะถูกจัดที่นั่งในที่ที่ต่างไปจากเที่ยวบินก่อนๆ
หรือรุ่นของเครื่องบินที่คุณกำลังเดินทางต่างแบบกัน
หรือเป็นสายการบินที่ไม่เคยใช้บริการมาก่อน ฉะนั้นทางออกฉุกเฉิน
รวมถึงอุปกรณ์ช่วยชีวิตต่างๆ ก็ต้องแตกต่างไปจากที่คุณเคยเห็นแน่นอน
สนใจศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมสักนิด สละเวลานั่งอ่านหนังสือพิมพ์เฉยๆ ซักไม่กี่นาที
เพี่อชมการสาธิต และศึกษาคู่มือความปลอดภัย (Safety Card)
ในกระเป๋าหน้าที่นั่งของท่านสักหน่อย อาจจะช่วยชีวิตคุณได้ หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด
4. การเก็บกระเป๋าสัมภาระส่วนตัวยิ่งเดินทางไกล หรือเดินทางไปนานๆ กระเป๋าของคุณก็มีน้ำหนักมากขึ้นตามไปด้วย
สายการบินส่วนใหญ่ จะกำหนดน้ำหนักสัมภาระสำหรับหิ้วขึ้นเครื่องของผู้โดยสารเอาไว้
คุณควรจะปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด ทั้งนี้ทั้งนั้น เพื่อความสะดวกและปลอดภัยของคุณเอง
การมีสัมภาระที่หนักอึ้งเหมือนภาระชีวิตใครบางคน เป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะในช่องเก็บของเหนือศีรษะนั้น สายการบินมีการจำกัดน้ำหนักเอาไว้
แต่ในความเป็นจริง เราไม่สามารถชั่งน้ำหนักในเครื่องก่อนเก็บไว้ได้
หากเกิดสภาพอากาศแปรปรวน (turbulence) ที่รุนแรง
ช่องเก็บของอาจจะรับน้ำหนักจากการกระแทกของกระเป๋าหนักๆ ไว้ไม่ไหว
นอกจากนี้บางคนยังวางเก็บกระเป๋าไว้ใต้ขา เพื่อเอาไว้รองขาเวลานอนนั้น
จริงๆแล้วอันตราย หากเกิดสภาพอากาศแปรปรวนอย่างรุนแรงมากๆ
กระเป๋าอาจจะลอยขึ้นแล้วตกลงมาทำให้ผู้คนบาดเจ็บได้ ขอแนะนำให้นำแต่สัมภาระที่จำเป็น
เก็บสัมภาระที่ไม่จำเป็นหรือหนักเกินไป โหลดเข้าเก็บในกระเป๋าใหญ่ ส่งไปใต้เครื่องดีกว่า
5. รัดเข็มขัดนิรภัย ปลอดภัยที่สุดนอกจากจำเป็นต้องรัดเข็มขัดนิรภัยขณะเครื่องขึ้นและลงแล้วนั้น ระหว่างการเดินทาง
ควรรัดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งขณะนั่ง ถึงแม้มันอาจจะอึดอัดและไม่สบายตัว
แต่การปฏิบัติเช่นนี้เป็นการป้องกันตัวคุณเองจากการตกหลุมอากาศแบบกระทันหัน
ซึ่งบางครั้ง เป็นไปได้ที่นักบินไม่สามารถทราบได้จากหน้าจอเรดาห์
6. รับฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำจากลูกเรือ นอกเหนือจากหน้าที่ที่พนักงานต้อนรับ หรือที่เราเรียกกันติดปากว่าแอร์กับสจ๊วต
จะดูแลและบริการคุณระหว่างการเดินทางแล้วนั้น การดูแลเรื่องความปลอดภัยของผู้โดยสาร
ก็เป็นหน้าที่ที่สำคัญที่สุดของพวกเขาด้วย ดังนั้นหากคุณได้รับการร้องขอหรือแจ้งให้ปฏิบัติ
ก็ทำตามคำแนะนำและคำขอจากพวกเขาด้วย เช่นให้รัดเข็มขัดนิรภัย,
เก็บสัมภาระไว้ในช่องเก็บของเหนือศีรษะ,ปรับพนักพิงหลังให้ตรง ฯลฯ
เพราะสิ่งเหล่านี้ ล้วนเพื่อความปลอดภัยของคุณและผู้โดยสารคนอื่นๆ ทั้งสิ้น
7. ของร้อนโปรดระวังระหว่างเที่ยวบินของคุณ พนักงานต้อนรับจะต้องให้บริการท่านด้วยชาและกาแฟร้อน
หรือแม้แต่น้ำร้อนๆ ที่ผู้โดยสารขอ ดังนั้นเพื่อป้องกันการบาดเจ็บจากการถูกน้ำร้อนลวก
บางสายการบิน พนักงานจะมีถาดไว้ให้คุณวางถ้วยกาแฟ
กรุณารอจนพนักงานรินให้คุณเสร็จเรียบร้อยก่อน
แล้วคุณจึงหยิบถ้วยกาแฟด้วยความระมัดระวัง หรือบางสายการบินไม่มีถาด
แต่จะรินลงแก้วให้คุณโดยตรง อันนี้ต้องระวัง ควรรอให้พนักงานรินเสร็จเสียก่อน
จึงค่อยดึงแก้วกลับมา มิเช่นนั้น กาแฟร้อนๆ อาจจะรดลวกตักคุณกลางอากาศได้
และบนเครื่องเอง ก็ไม่ใช่โรงพยาบาลเคลื่อนที่ด้วยซิ
8. ดื่มพอเป็นพิธีเนื่องจากระหว่างการเดินทาง เครื่องบินต้องบินอยู่ในระดับความสูงที่สูงจากระดับน้ำทะเลมาก
ภายในห้องโดยสารจึงต้องมีการปรับความดันให้คนเราสามารถอาศัยได้อย่างสบาย
แม้จะมีการปรับสภาพแล้วก็ตาม ภายในห้องโดยสารก็ยังเปรียบได้กับสภาพบนภูเขาสูง
อากาศจะเบาบางกว่าระดับน้ำทะเล ซึ่งการบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์นั้น
เป็นผลทำให้คุณเมาเร็วกว่าปกติ และเสี่ยงต่อการจับตัวเป็นก้อนของเลือดในเส้นเลือดของคุณ
นำไปสู่อาการของโรคชั้นประหยัด (Economy Class Syndrome)
ฉะนั้นจึงควรดื่มของมึนเมาแต่พอประมาณ และดื่มน้ำเปล่าให้มากๆ
9. เขตปลอดวัตถุอันตรายมีวัตถุหลายรายการที่เป็นสิ่งต้องห้ามบนเครื่องบิน เป็นการดีที่คุณจะศึกษาข้อมูลเหล่านี้
ก่อนเดินทาง ปกติแล้วคุณสามารถหาอ่านได้ ในตั๋วเดินทางของคุณ
วัตถุที่ต้องห้ามต่างๆ เช่น แก๊สพิษ น้ำมันก๊าซ วัตถุไวไฟ สารทำละลาย เป็นต้น
ทั้งนี้มีบางรายการที่ได้รับการยกเว้น หรือนำติดตัวไปได้ในจำนวนจำกัด
10. หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินที่ไม่คาดฝันเช่น จำเป็นต้องออกจากเครื่องโดยเร็ว หรือลี้ภัยฉุกเฉิน (evacuation)
คุณต้องปฏิบัติตามคำสั่งของลูกเรือโดยเคร่งครัด เพราะลูกเรือเหล่านั้น
ได้รับการฝึกมาให้รับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินมาแล้ว ดังนั้นคุณจึงควรควบคุมสติให้ดี
แล้วพยายามหาทางออกที่ใกล้ตัวที่สุด และออกจากเครื่องบินให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้
และเมื่อออกจากเครื่องไปแล้ว ให้หนีห่างออกจากเครื่องบินให้ไกลที่สุด
วิธีเหล่านี้ คุณได้ศึกษามาแล้วจากการชมการสาธิตของลูกเรือ
และจากเอกสารคู่มือความปลอดภัยในกระเป๋าหน้าที่นั่งนั่นเอง

เียี่ยมมากเลยครับ...จะจดจำไว้ครับผม