4. เรียนรู้จากการเล่น ที่ปราสาทของเด็กญี่ปุ่น จากนี้ไปพวกเราคณะเยาวชนสาขาสวัสดิการสังคม (เด็ก) ต้องใช้ชีวิตในเมืองใหญ่สองเมือง คือโตเกียว และเกียวโต ต้องแยกจากเพื่อนอีกกลุ่มเพื่อไปดูงานตามสาขาของตน พี่แอนได้สัมผัสความมีสีสันของโตเกียว เมืองหลวงของประเทศ ที่มีความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และหลงใหลเสน่ห์ทางวัฒนธรรมของเกียวโต เมืองหลวงเก่า ที่มีการอนุรักษ์สภาพบ้านเมือง วัดวาอารามไว้เป็นอย่างดี ยามเช้าวันที่ 7 หน่วยงานแรกในเมืองโตเกียวที่คณะเยาวชนเดินทางไปคือ กระทรวงสุขภาพ แรงงาน และสาธารณสุข เราได้ฟังบรรยายในหัวข้อ การจัดตั้งนโยบาย วางแผน และการเผยแพร่การบริหารสวัสดิการสังคมของญี่ปุ่นและสถานการณ์ในปัจจุบัน ทำให้ทราบว่างานสวัสดิการสังคมของญี่ปุ่นมุ่งเน้นให้บริการด้านต่างๆ เพื่อให้ทุกคนสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ โดยแบ่งลักษณะงานเป็นสองชนิด คือชนิดที่ 1 เช่น สถานรักษาบำบัดผู้พิการทางกายและเด็กด้อยโอกาส มีปัญหา สถานดูแลผู้สูงอายุ เป็นต้น ชนิดที่ 2 เช่น สถานเลี้ยงเด็ก หน่วยบริการถึงบ้าน สถานบริการช่วงกลางวัน ศูนย์ให้คำปรึกษาแนะนำ เป็นต้น สิ่งสำคัญหนึ่งของสวัสดิการคือ ต้องเหมาะสมกับสภาพสังคม อย่างในอดีตคนสูงอายุมีน้อย ส่วนใหญ่เป็นผู้พิการจากสงครามโลกครั้งที่ 2 รวมทั้งหญิงหม้าย เด็กกำพร้า จึงเน้นให้สวัสดิการแก่คนกลุ่มเหล่านี้เป็นหลัก เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป รัฐบาลได้มีการปรับปรุงด้านสวัสดิการให้ทันสมัยอยู่เสมอ จึงถือว่าประเทศญี่ปุ่นมีระบบสวัสดิการสังคมที่ดีเป็นประเทศต้นๆ ของโลก ปราสาทของเด็ก ช่วงบ่ายเราไปเยี่ยมชมปราสาทของเด็ก (Kodomo no Shiro) เมืองโตเกียว แค่ได้ยินชื่อก็น่าสนใจแล้ว บางคนอาจนึกถึงลักษณะปราสาทดั่งในเทพนิยาย ภายในมีโชกุนนั่งอยู่ หรือมีอัศวินผู้แกล้วกล้ายืนถืออาวุธในท่าพร้อมรบ แม้ภาพจะไม่เป็นอย่างที่คิด แต่เมื่อเข้าไปแล้ว เราได้พบโลกอีกใบของเด็กๆ ที่มีแต่ความสนใจใฝ่รู้ มีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะเหมือนต้องมนต์สะกดเลยละ ปราสาทของเด็กสร้างขึ้นเนื่องในปีเด็กสากล พ.ศ. 2522 โดยกระทรวงสุขภาพ แรงงาน และสาธารณสุข เพื่อส่งเสริมให้เด็กเติบโตอย่างสมบูรณ์ กลุ่มเป้าหมายคือตั้งแต่เด็กทารกจนถึงเด็กมัธยมปลาย โดยแบ่งกิจกรรมเป็นแผนกดนตรี Play Hall วิดีโอ ศิลปะ และกีฬา ในปัจจุบัน สังคมญี่ปุ่นมีอัตราการเกิดของเด็กน้อย รัฐบาลจึงต้องหาวิธีที่จะสนับสนุนเด็กรุ่นต่อไป ปราสาทของเด็กก็เช่นกัน เราได้ดูแลเด็กระดับอนุบาล ประถมศึกษา มัธยมศึกษา ส่วนนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัย เราจัดการฝึกอบรมเป็นพี่เลี้ยง เป็นอาสาสมัครดูแลเด็ก รวมทั้งให้คำปรึกษาแก่แม่ที่ตั้งครรภ์ พ่อแม่ส่วนใหญ่ส่งลูกเรียนกวดวิชา เพื่อจะได้เข้าศึกษาต่อในโรงเรียนที่ดี ทำให้ลูกไม่มีความสุข หรือไม่อยากให้ลูกออกไปเล่นข้างนอก เพราะกลัวอันตราย เด็กจึงอยู่แต่ในบ้าน คนข้างบ้านก็ไม่สนใจ ไม่พูดคุยกัน เด็กไม่มีโอกาสที่จะรู้จักเพื่อนวัยเดียวกัน ดังนั้นปัจจัยที่ขาดไม่ได้คือ การเล่น เราจึงรณรงค์ให้เด็กมีเวลาเล่น เพื่อให้มีการพัฒนาทั้งทางร่างกาย จิตใจ สังคม อารมณ์ การเรียนรู้ รู้จักเล่นกับคนอื่น เรียนรู้การอยู่ร่วมกันในสังคม กล้าแสดงออก และค้นพบความสามารถของตน ในกรณีที่เด็กมีปัญหา เช่น พัฒนาการช้า จะมีคุณหมอ นักจิตวิทยา มาให้คำปรึกษา ผู้จัดการแผนกสุขภาพสำหรับเด็กบอกแก่เรา หลังเลิกเรียนหรือวันหยุด จึงมักพบเห็นพ่อแม่จูงมือลูกมาใช้บริการ ผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น ออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำ ขี่จักรยาน เล่นดนตรี ร้องเพลง สร้างงานศิลปะ รวมทั้งไปแค้มปิ้งในต่างจังหวัด เพื่อให้เด็กๆ ได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่ทำให้โลกของเด็กสวยงามยิ่งขึ้น |
บทความทั้งหมด
|
ตอนสายๆ บ่ายๆ ก็มีคุณแม่ยังสาวพาลูกออกมาเที่ยวเล่นเยอะแยะเลยค่ะ