▶▶▶ รู้ยัง!! ."พระยูกันดา"ท่านนำพุทธศาสนาจากประเทศไทย ไปเผยแผ่ในทวีปแอฟริกาใต้!?
▶▶▶
รู้ยัง!! ."พระยูกันดา"ท่านนำพุทธศาสนาจากประเทศไทย ไปเผยแผ่ในทวีปแอฟริกาใต้!?
จากที่มีข่าวกันไปเรื่องของ นายจูเลียน ดีซิเลต หรือ พระจูเลี่ยน ชาวแคนาดาที่เข้ามาบวช ใต้ร่มพระพุทธศาสนาในประเทศไทยไปนั้นสำหรับอีกหนึ่งรูปก็คือ พระพุทธรักขิตะ ในภาษาบาลีซึ่งมีความหมายว่า ผู้ปกปักษ์รักษาพระพุทธเจ้า ภิกษุผิวสี จากประเทศยูกันดา ที่เลือกเดินทางตามรอยพุทธศาสนาและเผยแผ่ธรรมในทวีปแอฟริกาพระพุทธรักขิตะภิกขุ เดิมมีชื่อว่า สตีเว่น คาบอคโกซา (Steven Kaboggoza) เกิดเมื่อปีค.ศ.1966 ในครอบครัวชาวคริสต์ ณ กรุง กัมปาลา ประเทศยูกันดา ทางตะวันออกของทวีปแอฟริกา ตั้งแต่วัยเด็กแล้ว เด็กชายสตีเว่น คาบอคโกซา มักใช้เวลาว่างไปกับการนั่งคิดพิจารณาอยู่เสมอ โดยที่ท่านไม่ได้ทราบมาก่อนเลยว่า สิ่งนี้จะกลายเป็นบ่อเกิดของการนั่งสมาธิของเขาในอนาคตในทวีปแอฟริกา ศาสนาพุทธไม่เป็นที่รู้จักมากนัก ผู้คนส่วนใหญ่จะรู้จักผ่านหนังสือเรียนเท่านั้น ที่จะทราบกันอย่างผิวเผินเพียงว่า มีศาสนาพุทธอยู่ เมื่อนายสตีเว่น เติบโตขึ้นเขาได้ศึกษาต่อด้านบริหารธุรกิจที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในประเทศอินเดีย และแทบไม่น่าเชื่อเลยว่า ท่านมีเพื่อนร่วมชั้นเป็น พระสงฆ์สองรูปจากประเทศไทยของเราเอง นั่นทำให้ท่านได้ทำความรู้จักกับพระพุทธศาสนาไปทีละเล็กละน้อยหลังจากนั้นเป็นต้นมา ท่านไม่เคยละความพยายามที่จะศึกษาพุทธศาสนา ท่านเดินทางไปธิเบตอยู่บ่อยครั้ง เพื่อไปฟังเทศน์จากองค์ดาไลลามะจากนั้นไม่นานท่านก็ตัดสินใจเดินทางมายังประเทศไทย นายสตีเว่น มาอาศัยอยู่ที่เกาะเต่าเพื่อเป็นครูสอนดำน้ำพร้อมทั้งศึกษาธรรมะไปด้วย ช่วงเวลานั้น ท่านเล่าว่า ท่านคิดว่าตนเองมีความสุขมาก เพราะรายได้ค่อนข้างดี และได้พบปะผู้คนมามากมายจากทั่วโลก แต่แล้ววันหนึ่งความสุขได้กลับกลายเป็นความน่าเบื่อ ท่านพบว่าท่านไม่อาจหาความสุขได้จากเงินทองได้อีกต่อไปตัดสินใจกลับบ้าน หลังจากออกจากบ้านมานานกว่า 7 ปี ภาพของนักธุรกิจอย่างที่คนในครอบครัวคาดหวัง ไม่ได้ปรากฏ กลับเป็นภาพของชายหนุ่มผู้กลับบ้านไปพร้อมเครื่องมือดำน้ำ และหนังสือธรรมะอีกหลายเล่ม ญาติๆของท่านรับไม่ได้กับภาพดังกล่าว พวกเขาถึงขั้นพูดคุยกันว่า จะเผาหนังสือธรรมะที่ท่านนำกลับไป เพื่อให้ท่านกลับมานับถือศาสนาคริสต์อีกครั้งและการตัดสินใจครั้งใหญ่ ได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง เมื่อท่านได้ออกเดินทางไปยังอเมริกา เพื่อไปศึกษาธรรมะในศูนย์ปฏิบัติธรรม ท่านศึกษาอยู่หลายต่อหลายปีจนกระทั้งในปี ค.ศ. 2001 ท่านเดินทางไปยังศูนย์ปฏิบัติวิปัสสนาตถาคต (Tathagata) ทีเอ็มซี TMC Tathagata Meditation Centre ในเมืองซาน โฮเซ่ (San Jose) รัฐแคลิฟอร์เนีย (California)ถึงแม้ว่าที่แห่งนี้จะเป็นเพียงศูนย์ปฏิบัติธรรมเล็กๆ ก็ตาม เพื่อพบกับท่านปัณณาธิภา (Pannadipa) และขอบวชกับท่านในทันที ทั้งๆที่ไม่เคยทราบถึงพิธีการขอบวชมาก่อน ท่านปัณณาธิภา (Pannadipa) ซึ่งในที่สุดได้นำไปสู่การ บวชเป็นพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนานิกายเถรวาทที่ทีเอ็มซี ซาน โฮเซ่ แคลิฟอเนียร์ ในปี ค.ศ.2002 โดยอาจารย์ของท่านคือ ท่านซายาดอว์ ยู สิละนันทะเมื่อท่านศึกษาธรรมะจนถึงระดับหนึ่ง ท่านได้ตั้งปณิธานอันแน่วแน่ว่า จะต้องกลับไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่ยูกันดาให้จงได้ และเรื่องราวแห่งความยากลำบากก็เริ่มต้นขึ้นผู้คนในละแวกต่างมองท่านด้วยความคลางแคลงใจ บ้างก็ว่าท่านถูกมนต์ดำ บ้างก็ว่าท่านวิกลจริต บางครั้งเด็กๆ ก็ร้องไห้จ้า ด้วยความตกใจ บ้างก็เห็นบาตรของท่านเป็นเครื่องดนตรี เดินมาตีบ้าง จนเป็นที่ตลกขบขันแต่ด้วยวัตรปฏิบัติของท่านที่เรียบง่าย และงดงาม ไม่เคยถือโทษโกรธผู้ใด แต่ไขข้อสงสัยให้แก่ผู้ที่เข้ามาตั้งคำถามอย่างใจเย็น จนเป็นที่น่าประทับใจ ทำให้ผู้คนที่นั่นเปิดใจให้กับท่านมากขึ้น อีกทั้งยังพอมีร้านอาหารไทยในละแวก ท่านจึงมีผู้นำภัตราหารมาถวาย ได้โดยไม่ติดขัด
แต่มาวันนี้ศูนย์พระพุทธศาสนาในยูกันดาได้รับการสถาปนา ในนาม Uganda Buddhist Centre UBC ได้รับการสถาปนาตั้งแต่ปี 2005 ซึ่ง ภิกษุพุทธรักขิตะ ได้กล่าวว่าเมล็ดพันธุ์แห่งพระพุทธศาสนานิกายเถรวาทได้ถูกปลูกฝังลงในยูกันดาเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เป็นเวลาแห่งการดูแลให้เติบใหญ่ หวังว่าเมล็ดพันธุ์ที่มีประโยชน์นี้จะได้รับการดูแลเป็นอย่างดีและเติบโตอย่างแข็งแรง แผ่ขยายไพศาลเป็นผลไม้แห่งประโยชน์ของสัตว์โลกทั้งปวงเผยแพร่ : 19 ม.ค. 2560 เวลา 21:16 น.
//www.siamdrama.com/view-4389.html