เก๋ากี่ หรือ โกจิเบอร์รี่ ชื่อสามัญของพืช  ได้แก่ wolfberry จีน, boxthorn จีน, หิมาลัยโกจิ, โกจิทิเบต, mede berry, เถาเถาวัลย์ barbary, medlar แดงหรือเถาเถาวัลย์ ในสหราชอาณาจักรเป็นที่รู้จักกันว่าต้นชาของ Duke of Argyll หรือต้นชาของ Duke of Argyll หลังจาก( Archibald Campbell) อาร์ชิบัลด์แคมป์เบลล์ 3 Duke of Argyll ผู้แนะนำมันในประเทศในช่วงปี 1730 พืชชนิดนี้มีชื่อว่า Murali ในอินเดียและ dretsherma ("หนามผี") ใน Tibeta



ขอบคุณภาพ วิกิพีเดีย

เก๋ากี่ หรือ โกจิเบอร์รี่ เป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญในภาคเหนือของจีนโดยเฉพาะในเขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยฮุ่ย ชื่อภาษาจีนของมันคือ Ningxia gǒuqǐ (宁夏枸杞 | 寧夏枸杞) มันยังปลูกในทิเบตมองโกเลียและ มีการแพร่หลายไปในหลาย ๆ ประเทศของโลก


 wolfberry จีน, boxthorn จีน,


ลักษณะของ   เก๋ากี่  ก่อตัวเป็นรูปใบบนสลับกันหรือในกลุ่มถึงสาม ใบแต่ละใบมีสีเขียวมีเนื้อค่อนข้างสดเมื่อสดมักจะเป็นรูปใบหอก (รูปหัวหอก) บางครั้งก็มีปลายแหลม ใบแบบกลุ่มมีความยาวสูงสุด 25 มม. ใบเดี่ยวมีความยาวสูงสุด 55 มม



ดอก และ ใบ เก๋ากี่ หรือ โกจิเบอร์รี่

เก๋ากี่ มีใบ กิ่งละสาม ใบแต่ละใบมีสีเขียวมีเนื้อค่อนข้างสดเมื่อสดมักจะเป็นรูปใบหอก (รูปหัวหอก) บางครั้งก็มีปลายแหลม ใบแบบกลุ่มมีความยาวสูงสุด 25 มม. ใบเดี่ยวมีความยาวสูงสุด 55 มม.




ผลไม้ของ เก๋ากี่ มี ความหลากหลายหลักของ โกจิเบอร์รี่ คือสีส้มแดงสดผลไม้รูปวงรีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1-2 ซม. (0.39-0.79 ใน) กลีบเลี้ยงติดผลจะแบ่งลึกหนึ่งหรือสองเท่า จำนวนของเมล็ดในแต่ละผลเบอร์รี่แตกต่างกันไปตามพันธุ์และขนาดผลไม้ตั้งแต่ 10 ถึง 60 เมล็ดมีความยาวประมาณ 2 มม. กว้าง 1 มม. สีเหลืองอัดด้วยตัวอ่อนโค้ง



วิกิพีเดีย



พืชมีการผสมเกสรด้วยตนเอง แต่อาจผสมเกสรด้วยแมลง นกพาไปแพร่กระจายไปในพื้นที่ธรรมชาติโดยนกและสัตว์อื่น ๆ ที่กินผลไม้

ในซีกโลกเหนือการออกดอกเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายนและการเจริญเติบโตของผลไม้เล็ก ๆ ตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงตุลาคมขึ้นอยู่กับละติจูดความสูงและสภาพภูมิอากาศ ทว่าอากาศจะหนาวและมีหิมะ เก๋ากี่ หรือ โกจิเบอร์รี่ คงทนสดชื่นอยู่ได้ในท่ามกลางอากาศหนาว

ขอบคุณภาพและข้อมูล วิกิพีเดีย

ขอบคุณของแต่งบล็อก...

ญามี่  / June July August / ชมพร  / เรือนเรไร  /  oranuch_sri / goffymew / Zairill