Ansel Adams และ 10 สิ่งที่คุณ(อาจ)ไม่รู้... แอนเซล อดัมส์ (1902-1984) ปรมาจารย์นักถ่ายภาพชาวอเมริกัน ผู้แนะนำให้โลก ได้รู้จักความงามอันแท้จริงของธรรมชาติ ผ่านทางภาพทิวทัศน์ขาวดำอันงดงามตระ- การตา ทั้งยังเป็นผู้คิดค้นทฤษฎี Zone System คัมภีร์ที่นักถ่ายภาพตั้งแต่ยุคเก๋าจนถึง ยุคดิจิตอลต้องศึกษา นอกจากการเป็นศิลปินช่างภาพ อดัมส์ยังขึ้นชื่อว่าเป็นนักอนุรักษ์ธรรมชาติตัวยงที่ใช้ ภาพถ่ายแทนถ้อยคำนับล้านเพื่อบอกกล่าวถึงมรดกของโลกที่มนุษย์พึงต้องหวงแหน รักษาไว้ ประจักษ์พยานของสิ่งที่แอนเซล อดัมส์ ทุ่มเทมาทั้งชีวิตคือพื้นที่ธรรมชาติที่ ถูกอนุรักษ์ไว้อย่างดีจนแทบไม่แปรเปลี่ยนไปจากวันเวลาที่พวกมันถูกบันทึกภาพไว้ เมื่อเกือบศตวรรษที่แล้ว.. The Tetons and the Snake River, Grand Teton National Park, Wyoming, 1942 _________________________________________________________________ หากคุณรู้จักแต่ภาพสวยๆ ของแอนเซล อดัมส์..ต่อจากนี้จะเป็นเรื่องราวอีกมุมที่คุณ อาจไม่รู้ จากความทรงจำของ ไมเคิล อดัมส์ ลูกชายของเค้า..หวังว่าจะให้ข้อคิดและ สร้างแรงบันดาลใจให้คุณได้บ้างครับ... _________________________________________________________________ จากบทความ "10 INTERESTING THINGS I LEARNED ABOUT ANSEL ADAMS" โดย Thomas Hawk Link _________________________________________________________________ 1. ถ้าแอนเซล อดัมส์ยังมีชีวิตอยู่..เค้าจะรักการถ่ายดิจิตอล ไมเคิลเล่าว่า พ่อของเค้าคลั่งไคล้เทคโนโลยีใหม่ๆ มาก โดยแอนเซลมักทดลองเลือก ใช้เครื่องไม้เครื่องมืออุปกรณ์รุ่นล่าสุด และบ่อยครั้งที่บริษัทกล้องอย่าง Haselblad และ Polaroid จะนำกล้องต้นแบบมาให้แอนเซลทดสอบ เพื่อพัฒนาก่อนออกสู่ตลาด ต่อไป ในความเห็นของไมเคิล..แอนเซล อดัมส์ จะโดดเข้าสู่โลกดิจิตอลก่อนใคร ถ้าเค้ายัง มีชีวิตอยู่.. 2. ความภาคภูมิใจสูงสุดในชีวิตการทำงาน หนึ่งในไอดอลด้านการถ่ายภาพของแอนเซลคือ อัลเฟรด สตีกลิทซ์ (Alfred Stieglitz) ศิลปินช่างภาพยุคบุกเบิกผู้ทำให้ภาพถ่ายได้รับการยอมรับในโลกศิลปะ สำหรับแอนเซล อดัมส์ การได้จัดแสดงภาพถ่ายในแกลลอรี่ของ อัลเฟรด สตีกลิทซ์ นับเป็นเกียรติและ ความภาคภูมิใจสูงสุดในชีวิตการทำงาน และแม้ว่าเค้าจะได้เป็นช่างภาพชื่อก้องโลกใน เวลาต่อมา แต่งานแสดงภาพในปี 1936 คือเหตุการณ์ที่เค้าพร่ำเล่าได้ไม่เบื่อเสมอ.. อัลเฟรด สตีกลิทซ์ ถ่ายโดย แอนเซล อดัมส์ ____________________________________________________ 3. แอนเซล อดัมส์ มักจะกล่าวชมเชยภาพของคนอื่นเสมอ ไม่จำเป็นต้องเป็นงานศิลปะชั้นเลิศ แม้แต่ภาพถ่ายธรรมดาพื้นๆ ของมือใหม่ แอนเซล มักจะหาจุดดีมาชมเชยภาพเหล่านั้นได้เสมอ สำหรับช่างภาพระดับเค้า คำชมน่าจะเป็น กุศโลบายให้กำลังใจช่างภาพรุ่นใหม่ๆ ซะมากกว่า "Road, Nevada Desert" 1960 _____________________________________________________ 4. สิ่งมหัศจรรย์เกิดได้เพียงเสี้ยววินาที "Moonrise over Hernandez, New Mexico, 1941" ภาพถ่ายที่แพงที่สุดของ แอนเซล อดัมส์ (Original Print ภาพต้นฉบับที่ล้างอัดโดยอดัมส์ ถูกประมูลไปในราคา $609,600 ในปี 2006) แอนเซลบันทึกภาพนี้ได้โดยบังเอิญ ขณะที่เค้ากำลังขับรถผ่านรัฐนิวเม็กซิโก ไมเคิลที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วยเล่าว่า ทันทีที่เห็นภาพตรงหน้า พ่อของเค้ารีบจอดรถแล้วรีบ ตั้งกล้องถ่ายทันที แอนเซลในตอนนั้นใช้กล้อง Large Format ที่ใช้เพลทกระจกในการ บันทึกภาพ ยังไม่ทันที่เค้าจะกลับด้านเพลทเพื่อบันทึกภาพที่ 2 จังหวะโมเมนต์ของกลุ่มเมฆ และดวงจันทร์ได้หายไปแล้ว..ซึ่งบ่อยครั้งในโมเมนต์สำคัญ..คุณมีโอกาสเพียง "ชอตเดียว" เท่านั้น Moonrise over Hernandez, New Mexico, 1941 __________________________________________________ 5. งานชิ้นสุดท้าย..ที่ไม่เคยเสร็จ ช่วง 2-3 ปีสุดท้ายในชีวิต แอนเซลขลุกอยู่ในห้องมืดเพื่ออัดภาพผลงานของเค้าส่ง ให้ลูกค้า ถึงแม้เค้าจะหยุดรับออเดอร์สั่งภาพมานานหลายปีแล้ว แต่เค้าต้องใช้เวลา ถึง 2 ปีเต็มเพื่ออัดภาพทั้งหมดให้ครบตามใบสั่ง.. แอนเซล ในวัยกว่า 80 สังขารร่วงโรยตามกาลเวลา และแม้จะมีเสียงทัดทานจาก ครอบครัว เค้ากลับไปทำงานในห้องมืดอีกครั้งเพื่อสะสางงานชิ้นสุดท้าย "museum series" ภาพชุดมาสเตอร์พีซที่เค้าคัดสรรมาจากตลอดชีวิตของการทำงาน อัดขยาย อย่างประณีตเพื่อนำไปจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ ภาพชุดนี้ไม่เคยทำได้สำเร็จ เพราะ แอนเซล อดัมส์ เสียชีวิตไปซะก่อน _____________________________________________________________ * ในข้อนี้ผมขออนุญาตเสริมซักนิดละกัน..เผื่อเด็กรุ่นใหม่จะได้เข้าใจว่าทำไม แอนเซล อดัมส์ ต้องมานั่งล้างอัดรูปเอง นั่นเพราะการล้างอัดภาพในยุคกล้อง ฟิล์มเป็นงานที่ต้องใช้ทักษะฝีมือและความชำนาญเป็นอย่างสูง อย่างฟิล์มเนกาตีฟ ภาพเดียวกัน หากส่งให้ช่างแต่ละคนไปล้างอัดมายังได้ภาพออกมาไม่เหมือนกันเลย ยิ่งระดับแอนเซล อดัมส์ ที่ได้รับการยอมรับให้เป็นยอดฝีมือด้านศาสตร์ในห้องมืด ทักษะการล้างอัดเพื่อให้ได้ภาพตามที่เค้าต้องการนั้น จึงยากต่อการลอกเลียนแบบ ภาพพิมพ์ต้นฉบับจากฝีมือของอดัมส์จึงมีมูลค่าสูงลิ่วทั้งทางด้านจิตใจ และในตลาด นักสะสม ซึ่งปัจจุบันซื้อขายกันที่ภาพละ $5,000 เป็นอย่างต่ำ Moon and Half Dome, Yosemite National Park, California, 1960 ______________________________________________________________ 6. แม้แต่ แอนเซล อดัมส์ ยังต้องรับจ็อบ ถึงแม้จะเป็นช่างภาพชื่อก้องอเมริกา แต่แอนเซล อดัมส์ยังต้องรับงานนอกบ่อยครั้ง เพื่อหาเลี้ยงครอบครัว ตั้งแต่งานภาพนิ่งโฆษณา ภาพประกอบโบรชัวร์ ถ่ายบิลบอร์ด กระทั่งงานรับปริญญา (อันนี้ล้อเล่น..อิอิ) ไมเคิลเล่าว่า บ่อยครั้งที่พ่อของเค้าออกทริปไปถ่ายพวกงานคอมเมอร์เชียล (ที่ได้ตังค์) พร้อมกับถ่ายงานอาร์ตของตัวเองไปด้วย บิลบอร์ดโฆษณาฟิล์ม Kodak Color-Rama ขนาด 15x60 ฟุต ที่ติดตั้งใน สถานี Grand Central Station, นิวยอร์ค แอนเซลถ่ายภาพสีของกลุ่มช่างภาพ จาก Washburn point ในหุบเขาโยเซมิติ _________________________________________________________________ ภาพโปรโมทโรงแรม St. Francis' ในซานฟรานซิสโก อีกจ็อบนึงของอดัมส์ _________________________________________________________________ 7. ทำก็อปปี้ต้นฉบับไว้เสมอ แอนเซล อดัมส์ มักถ่ายย้ำภาพเดิมไว้ทีละหลายชอต ทั้งแบบธรรมดา และแบบ multiple exposures ส่วนหนึ่งเพื่อสำรองต้นฉบับไว้ และเพื่อเลือกภาพที่ดีที่สุด เอามาอัดขยายภายหลัง Bridalveil Fall, c. 1927 ___________________________________________ Bridalveil Fall, c. 1952 ___________________________________________ 8. ล็อบบี้ยิสต์ช่างจ้อ ถ้าดูเฉพาะผลงานของเค้า คุณอาจคิดว่าแอนเซล อดัมส์เป็นคนช่างสันโดษ ชอบ ปลิกวิเวกอยู่ตามป่าเขา ความจริงแล้วเค้าเป็นคนอัธยาศัยดี และมักเป็นศูนย์กลาง ของความสนใจอยู่เสมอ ไมเคิลเล่าว่าทุกๆ ปี พ่อของเค้าต้องไปที่วอชิงตันดีซีเพื่อล็อบบี้เรียกร้องให้รัฐเพิ่ม เขตอนุรักษ์ให้ผืนป่าต่างๆ อดัมส์ไม่เคยเหน็ดเหนื่อยกับการได้คุยกับคนกลุ่มต่างๆ และบ่อยครั้งที่ได้สนทนากับประธานาธิบดี ทั้ง จอห์นสัน, ฟอร์ด และจิมมี่ คาร์เตอร์ ไมเคิลเล่าขำๆ ว่าตอนที่แอนเซลได้พบกับ ปธบ.โรแนล เรแกน เกือบหนึ่งชั่วโมง ทั้งสองต่างคนต่างจ้อเรื่องของตัวเอง จนแทบไม่มีใครฟังใครเลย ภาพ Official Portrait ของอดีตประธานาธิบดี Jimmy Carter และภริยา โดยแอนเซล อดัมส์ ____________________________________________________________ 9. ห้องมืดใครว่าไม่สำคัญ สิ่งที่ท้าทายที่สุดสำหรับ Ansel Adams archive (ตั้งอยู่ที่ University of Arizona ในเมืองทูซอน) องค์กรที่เก็บรักษาเนกาตีฟต้นฉบับทั้งหมด และมีหน้าที่เผยแพร่งาน ของแอนเซล อดัมส์ คือการอัดขยายภาพให้ได้คุณภาพเทียบเท่าต้นฉบับโดยฝีมืออดัมส์ ซึ่งอย่างที่ได้กล่าวไว้แล้ว นอกจากอดัมส์จะเป็นปรมาจารย์นักถ่ายภาพ เค้ายังสร้างสรรค์ ทฤษฎี เทคนิค และวิธีการทำภาพในห้องมืดไว้มากมาย การอัดภาพของอดัมส์จึงต้องใช้ ผู้ที่มีทักษะและความเชี่ยวชาญอย่างสูง ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย Jeffrey Pine, 1940 _______________________________________________ 10. แอนเซล อดัมส์แบบดิจิตอล ปัจจุบันองค์กร The Center for Creative Photography กำลังนำภาพพิมพ์ ต้นฉบับทั้งหมดของแอนเซล อดัมส์ สแกนเก็บไว้ในห้องสมุดดิจิตอล ซึ่งภาพบางส่วน สามารถเช่าลิขสิทธิ์ใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ผ่านทาง Corbis ซึ่งรายได้ทั้งหมดจะถูกแบ่ง เป็น 3 ส่วน ให้กับ ลูกชาย ลูกสาวของอดัมส์ และหักบางส่วนกลับสู่ The Center for Creative Photography ไมเคิล อดัมส์ ปัจจุบันมีหน้าที่บริหารจัดการ แอนเซล อดัมส์ แกลลอรี่ ภายในอุทยาน แห่งชาติโยเซมิติ (Yosemite) คุณสามารถหาซื้อภาพที่มีชื่อเสียงของอดัมส์ และของ ศิลปินช่างภาพคนอื่นๆ ได้จากแกลลอรี่แห่งนี้ ไมเคิล ลูกชายของ แอนเซล อดัมส์ ______________________________________________ For your Inspiration Autumn Moon, the High Sierra from Glacier Point, Yosemite National Park, California, 1948 ___________________________________________________________ El Capitan Fall ___________________________________________________________ Moon and Half Dome, Yosemite National Park, California, 1960 ___________________________________________________________ Sand Dunes, Sunrise, Death Valley National Park, California, c. 1948 ___________________________________________________________ Trees and Snow, 1933 ___________________________________________________________ Winter Sunrise, Sierra Nevada from Lone Pine, California, 1944 ___________________________________________________________ Church, Taos Pueblo", New Mexico, 1942 ___________________________________________________________ ฝีมือมากๆจริงๆค่ะ
โดย: auau_py วันที่: 9 มิถุนายน 2554 เวลา:21:11:26 น.
คุณปู่อาดัมส์เป็นแรงบันดาลใจตั้งแต่ยังอายุน้อยๆที่ทำให้อยากถ่ายภาพได้สวยๆบ้างค่ะ เคยได้ไปดูภาพจริงๆที่นำจัดนิทรรศการด้วย บางภาพเล็กนิดเดียวเองนะคะ แต่ว่าสวยคมกริบ
แป๋วชอบพวกรูปต้นไม้ในอุทยานมากเป็นพิเศษ ถ่ายยังไง๊ยังไงไม่เคยออกมาสวยได้สักเสี้ยวหนึ่งเลย ภาพสีก็สวยนะคะ Ansel Adams In Color เป็นหนังสือเล่มแรกๆที่ซื้อเก็บเอาไว้เลยค่ะ รูป SandDune เคยอ่านเบื้องหลังภาพ ช่างถ่ายยากถ่ายเย็นนะคะ ฮา ฮา ถ้าคุณปู่อยู่ถึงยุคนี้ สงสัยนอกจากจะบ้ากล้อง Digital แล้วยังต้องเป็นเซียนโฟโต้ช็อบอีกอย่างหนึ่งด้วยหรือเปล่าคะ โดย: SevenDaffodils วันที่: 10 มิถุนายน 2554 เวลา:11:44:52 น.
คุณ auau_py, itoursab ขอบคุณครับ
SevenDaffodils - น่าอิจฉาที่เคยได้ชมภาพจริงๆ ของคุณปู่ ผมเคยไปโยเซมิติหลายรอบ แต่ตอนนั้นยังไม่สนใจถ่ายภาพ เลยไม่ได้ไปชมครับ สำหรับ PS คิดว่าปู่ท่านไม่น่าจะแต่งภาพเยอะ เพราะท่าน ค่อนข้างเน้นแนวสมจริงเหมือนตาเห็นมากกว่า...แต่อยากนั่ง ไทม์แมชชีนเอากล้องดิจิตอลไปให้ปู่ลองใช้ดู น่าสนุกแฮะ อิอิ โดย: หน้าม้ารับจ้าง วันที่: 15 มิถุนายน 2554 เวลา:12:16:37 น.
ขอบคุณมากครับ สำหรับบทความ ทำให้เรามองดิจิตัลและฟิล์มได้อย่างเข้าใจมากขึ้น หลายคนคงเลิกถกเถียงกันซักที
ภาพจริงของอดัมส์ ภาพขนาดเล็ก ประมาณ8x10งดงามมาก ผมเคยไปดูที่แกลเลอรี่ อยากได้ภาพหนึ่งราคาหมื่นสอง(USD) เลยได้แต่ดูและจำไว้ แอนเซล อดัมส์ เป็นแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ ให้ผมไปศึกษาภาพขาวดำต่อโดยเฉพาะที่สหรัฐ กับ จอห์น เซ็กซ์ตัน ขอบคุณมากครับ โดย: ครูกันต์ ขาวดำ IP: 124.120.85.250 วันที่: 16 กันยายน 2554 เวลา:9:16:59 น.
อ.กันต์ เป็นเกียรติมากครับที่เข้ามาคอมเมนต์และเยี่ยมเยือน
โดย: หน้าม้ารับจ้าง วันที่: 16 กันยายน 2554 เวลา:23:14:09 น.
เคยเห็นชื่อ 'หน้าม้ารับจ้าง' ในห้องกล้อง
ถ้าหากไม่บังเอิญ เข้าห้องกล้องในวันนี้ คงยังไม่ทราบว่า มีบล็อกสาระดีมากๆ ผมเดินมาจากกระทู้เรื่องนี้ ที่เป็นกระทู้แนะนำครับ โดย: yyswim วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:18:48:44 น.
|
บทความทั้งหมด
|