ชื่อร้าน : บ้านทะเลซีฟู๊ด
รายการอาหาร : อาหารทะเลสดๆ
เวลาเปิดบริการ : 11.00 - 22.00
ที่ตั้งร้าน : ซอยต้นซุง, กรุงเทพมหานคร วังทองหลาง Thailand
พิกัด GPS : 13° 46' 16.85" N 100° 36' 26.43" E
มีโอกาสไปทำธุระแถวๆ ทาวน์ อิน ทาวน์ ก่อนกลับบ้านเลยหาอะไรใส่ท้องค่ะ
ผ่านตรงซอยต้นซุง เห็นร้านอาหารซีฟู๊ดน่านั่ง เลยแวะร้านนี้เลย ป้ายเขียนข้าวมันไก่ซั่งไห่
แต่ด้านบนเขียนบ้านทะเลซีฟู๊ด เห็นมีตูปลา กั้ง ปูอยู่ข้างๆก็คิดว่าคงเป็นร้านอาหารทะเลล่ะ
เข้าไปข้างใน ถึงรู้ว่า เป็นร้านเครือเดียวกันนั่นเอง แล้วก็สามารถสั่งได้ทั้งอาหารของร้านซั่งไห่
แล้วก็อาหารซีฟู๊ดอีกด้วย แต่เราตั้งใจมาทานซีฟู๊ด ก็เลยขอเป็นซีฟู๊ดดีกว่า
ร้านตกแต่งบรรยากาศทะเล๊ ทะเล เน้นโทน ฟ้า ขาว น่านั่งมากๆ แถมเปิดเพลง Bossa
ได้บรรยากาศสุดๆ ตอนเข้าไปยังไม่มีแขก เลยแอบถ่ายรูปนิดหน่อย เลือกที่นั่งริมกระจก
ที่เป็นโซฟา เก๋ตรงเป็นไม้ต่อๆกัน สีพาสเทลฟ้าเขียว น่ารักมากๆ ในร้านมีที่นั่งค่อนข้างเยอะ
มีทั้งเป็นม้ายาวๆ มาหลายๆคน หรือเป็นห้องส่วนตัวนั่งได้ราวๆ 10 คนก็ได้ค่ะ
เปิดเมนูอาหารมา ก็เห็นอาหารทะเลมากมายให้เลือก อยากลองชิมน้ำจิ้มซีฟู๊ดที่นี่
เลยสั่งปูนึ่งมา มีเป็นจานใหญ่กับจานเล็ก ตอนแรกจะสั่งจานใหญ่แต่หันไปเห็นกั้งทอดกระเทียม
เลยเอาปูจานเล็ก แล้วก็ เอากั๊งครึ่งกิโล มาลองชิมค่ะ
ปูนึ่งแกะมาให้เสร็จสรรพ ไม่ต้องแกะเองเลย ไม่เลอะเทอะ สบายสุดๆ
ปูสดเนื้อหวานใช้ได้เลยค่ะ ถือว่าประทับใจสำหรับการกินซีฟู๊ดในเมืองแบบนี้
คนที่ชอบทานปูแต่ไม่อยากแกะเองน่าจะปลื้ม แต่โดยส่วนตัวแล้ว วาชอบแทะปูหน่อยๆ
คือไม่ถึงกับลำบากมากแกะเองทั้งตัว แต่ชอบให้ทุบๆมาหน่อยแล้วมาแกะเอง อะไรแบบนี้
กั้งทอดกระเทียม เค็มหน่อยๆ จิ้มกับซอสที่มาด้วยกันก็อร่อย จิ้มน้ำจิ้มซีฟู๊ดก็อร่อย
ชอบจานนี้มากๆ แย่งกันแปปเดียวหายไปในพริบตาเลย *0*
น้ำจิ้มซีฟู๊ดของร้านนี้ มี 2 แบบ 2 สี ชิมแล้วก็คือได้รสชาตที่ต่างกัน
คือสีเขียวจะเป็นแบบเผ็ดเปรี้ยวรสจัดจ้าน สะใจ ตามสไตล์คนชอบรสจัดเลย
ส่วนน้ำจิ้มสีแดง จะเป็นแบบ เผ็ดเปรี้ยวหวาน จะมีรสหวานเด่นขึ้นมาเลย
แล้วแต่คนชอบจริงๆ ส่วนตัววาชอบน้ำจิ้มสีเขียวเพราะปกติไม่ทานอะไรหวานๆ
แต่ถ้าเอา 2 สี มาผสมกัน มันจะลงตัวมากๆ น้ำจิ้มซีฟู๊ดร้านนี้ถูกใจรสจัดใช้ได้เลยล่ะ
ปลาเห็ดโคนทอดราดน้ำปลา สั่งมาเพราะแปลกๆดี น่าจะเป็นเนื้อปลาที่หั่นเป็นชิ้นๆ
แล้วเอามาทอด มีรสหวานๆเค็มๆของน้ำปลาในปลาแต่ละชิ้นเลย ทานเปล่าๆเลยก็ได้
หรือจะเอาไปจิ้มน้ำจิ้มซีฟู๊ดก็ได้ตามสะดวก จานนี้วาทานไป 4 ชิ้น ที่เหลือหายสาบสูญ
หันไปอีกที เอ้ยยยยยยยยยยย หมดแล้วหรอ เห็นเพื่อนฝั่งตรงข้ามทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
สงสัยจะถูกใจเค้าล่ะ เพลินเลย
มากันที่ต้มยำ ปกติวาจะสั่งต้มยำน้ำข้น แต่ร้านนี้เค้าบอกว่า น้ำใสเค้าเด็ด เลยเชื่อค่ะ
พอได้ชิมก็อะโห รสโหดมาก วาคิดว่ามันเผ็ดร้อน รสจัด ประมาณโป๊ะแตกเลย
(ความรู้สึกส่วนตัว คือโป๊ะแตกจะรสจัดโหดๆ ส่วนต้มยำจะสจัดแต่มีตัดหวานๆหน่อย)
อันนี้รสจัดมากวาชอบมากๆ โหดดี แต่เพื่อนบอกว่า รสโหดไปหน่อย ต่างคนต่างปากเนอะ
แต่กุ้งตัวใหญ่แล้วก็ปลาหมึกในต้มยำนี้เลิศมาก สดๆดึ๋งๆเลยค่ะ เราให้คะแนนเต็มกับความสดเลย
มาที่อาหารที่ไม่เคยสั่งมาก่อนแล้วก็รู้สึกดีที่สั่งมา เพราะสั่งแต่รสจัดๆหลายอย่าง
อันนี้คือเอ็นหอยผัดกระเทียม มีรสประมาณผัดน้ำมันหอย ประมาณอาหารจีนค่ะ
เอามาตัดความจัดจ้านของจานอื่นๆได้อย่างดีเลยล่ะ ดูในรูปอาจจะเป็นเพราะมุมกล้อง
เหมือนมีไม่เยอะเท่าไหร่ แต่จริงๆแล้วจานนี้รู้สึกได้เยอะมากๆ คุ้มมมมม
ลองสั่งข้าวผัดจานเล็กมา 1 จาน เลือกเอาที่แปลกๆมาลองชิมเช่นกัน
ได้มาเป็นข้าวผัดปลาหมึกไข่เค็ม คือเหมือนใส่พริกมาด้วยในข้าวเลย
ข้าวผัดกับไข่เค็มแห้งๆมันๆ ใส่ปลาหมึกชิ้นใหญ่สดดึ๋งๆ
จานนี้ เป็นอีกจานที่วาชิมไป 2 ช้อน หันไปอีกที เกลี้ยง!! 
อ้อ วาสั่งเป็นน้ำเปล่ามาทาน แล้วเค้าบอกว่ามี ชาจีนกับเก๊กฮวยด้วยเสริฟเป็นเหยือกเล็กๆ
เหยือกละ 25 บาท เลยจัดเก็กฮวยมาทานเพลินๆ ไม่หวานเกิน ไม่จืดไป โอเคเลยค่ะ
ตบท้ายด้วยของหวานเล็กๆน้อยๆ คือไอศครีมโฮมเมดเก๋ๆ 2 รส คือ รสมะขาม
แล้วก็รสฝรั่งแช่บ๊วย คนเราก็ช่างคิดเนอะ เหมือนมากๆ
อิ่มหนำสำราญแบกท้องกลับบ้านแทบไม่ไหว เป็นอีกมื้อที่อิ่มอร่อย มีความสุข
บิลมาวางแปะที่โต๊ะ ค่าเสียหายมื้อนี้ 1,480 บาท เทียบกับปริมาณและคุณภาพของอาหารแล้ว
ก็โอเคล่ะน๊า ขอบคุณเจ้ามือมากๆ สำหรับซีฟู๊ดมื้อเด็ดมื้อนี้ค่าาาาาาา วันหลังมากินอีกนะค๊า อิอิ
อ้อ เห็นที่ร้านมีเมนูของข้าวมันไก่ซั่งไห่ด้วยล่ะ แอบอยากลองขึ้นมาทันที
วาเคยกินร้านนี้เมื่อนานมาแล้ว เดี๋ยวสบโอกาสเหมาะๆ จะไปชิมข้าวมันไก่บ้างอะไรบ้าง
วันนี้ลาไปก่อน จบ Blog ยั่วน้ำลายเพียงเท่านี้ สวัสดีค่าาาาาาาาาา 
วันที่: 17 ธันวาคม 2554 เวลา:16:36:43 น.
ผู้ติดตามบล็อก : 150 คน [