..จุดหมายไม่ไกลเกินจริง..
อย่ายอมแพ้ อ้อม สุนิสาหากวันนี้เราล้มลง ยังคงลุกขึ้นได้ใหม่
ก็ยังคงมีหนทาง ถ้ายังมียิ้มสดใส
ก้าวไป อย่าหวั่นไหวหวาดกลัว
พร้อมทนทุกข์หมองหม่น
ผจญความมืดหมองมัว
ไม่กลัวจะฝันถึงวันใหม่
หากวันใดอ่อนแอท้อแท้อย่าหวั่นไหว
ขอให้ใจไม่สิ้นหวัง
ปัญหาแม้จะหนัก ก็คงไม่เกินกำลัง
อย่าหยุดยั้งก้าวไป
ขออย่ายอมแพ้ อย่าอ่อนแอแม้จะร้องไห้
จงลุกขึ้นสู้ไป จุดหมายไม่ไกลเกินจริง
อย่ายอมแพ้ - อ้อม สุนิสา
รายงานความคืบหน้าเรื่องน้ำหนัก เมื่อสองเดือนผ่านไปค่ะ
จากที่เริ่มตั้งใจว่าจะลดน้ำหนัก เพราะสาเหตุที่มีคนทักว่า
..O_o ขอโทษครับ กำลังจะมีน้องเหรอครับ กี่เดือนแล้วo_O แง้ T_T... ในงานเลี้ยงปีใหม่ของที่ทำงาน (๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๑) และตั้งใจจะต้องลดน้ำหนักตั้งแต่วันนั้น บันทึกไว้ในไดเอ็ทไดอารี่ ว่าเริ่มต้นลดตั้งแต่วันที่ ๔ มกราคม ๒๕๕๒ เป็นวันแรกนะคะ
และเริ่มลดอย่างเป็นจริง เป็นจัง ในหน้า
..พอฉันหลงรักคุณ รักอย่างงมงาย คุณกลับทำลายจิตใจฉันลง.. เมื่อวันที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๕๒ ค่ะ
ผ่านไปแล้วสองเดือนเต็ม น้ำหนักตอนนี้ลดลงกว่าเดิม ๑.๕ - ๒ กิโลกรัม แล้วแต่ว่า วันใดกินมากกินน้อยค่ะ แต่น่าจะทรงๆ อยู่ในระดับ 48-49 กิโลกรัม ไม่เพิ่มไปจากนี้ แต่ก็ยังไม่ลดลงเช่นกันค่ะ
สังเกตว่าใบหน้า ยังคงไม่ลดลงเท่าไร แต่คางกับความอืด เริ่มๆ จะมีพัฒนาการ ที่ไม่ดู "เผละ" เท่าไร
ส่วนต้นแขน ไม่มีพัฒนาการใดๆ เลย แหะๆ เพราะไม่ได้ออกกำลังลดเฉพาะส่วน
อาจจะเป็นเพราะเราลดเหมือนไม่ตั้งใจลดหรือเปล่าเนี่ย คือ ไปเรื่อยๆ ควบคุมอาหาร ออกกำลังไม่มากเท่าไร นอกจากการเดิน เพราะสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยให้ออกกำลังกายจริงๆ จังๆ สักเท่าไร
และสาเหตุสำคัญที่ทำให้น้ำหนักลดได้บ้าง น่าจะมาจากการประสบอุบัติเหตุ ขับรถลงข้างถนน (อ่านรายละเอียดใน
..อารมณ์รอดตายหลังเกิดอุบัติเหตุ..) ซึ่งส่งผลให้ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังมากขึ้น ประกอบกับการไม่มีรถ ทำให้ต้องเน้นการเดินเป็นส่วนใหญ่อีกด้วย
แม้ว่าน้ำหนักจะลดลงยังไม่มากนัก แต่ก็เริ่มรู้สึกว่า ร่างกายจะเริ่มกระชับขึ้น แล้วก็ไม่เผละเท่าก่อนหน้านี้ค่ะ ซึ่งน่าจะนับเป็นนิมิตรหมายอันดี
ช่วงนี้ มื้อเช้าที่รับประทาน ยังคงเป็นอาหารง่ายๆ (ปรกติช่วงเช้ามักจะรีบๆ เร่งๆ) เช่นพวกนม น้ำผลไม้ หรือไม่ก็แอ๊บเปิ้ลพวนี้ค่ะ
ส่วนมื้อกลางวัน เป็นมื้อที่ยังคงรับประทานเหมือนเดิม ก็พวกอาหารจานเดียว แต่จะเน้นพวกข้าวต้มมากขึ้น เพราะช่วงนี้งานมันเครียด กลืนอะไรไม่ค่อยลงค่ะ ถ้าไม่ใช่ข้าวต้ม ก็จะเป็นพวกกะเพราหมู หรือไม่ก็หมูกระเทียมพริกไทย อะไรพวกนี้ค่ะ
ส่วนมื้อเย็น คงเหมือนเดิมทุกอย่างค่ะ ถ้าไม่ใช่ส้มตำไทยใส่ปู ก็จะเป็นก๋วยเตี๋ยว เกาเหลา หรือข้าวต้ม
แต่บ่อยครั้งที่มีคนชวนไปรับประทานอาหาร แล้วอดใจไม่ไหว เผลอทานพวกข้าวคลุกกะปิ หรืออาหารเวียดนามของโปรดอย่าง บั๋นหอย บ่อยๆ แหะๆ
ช่วงระหว่างวันเน้นการเดินออกกำลังกายไปเรื่อยๆ ไม่หักโหม แล้วก็เน้นการเดินถ่ายภาพค่ะ
อ้อ ไม่ได้ขึ้นลิฟต์มานานพอสมควรแล้วเช่นกัน เน้นการเดินขึ้นบันไดโดยเฉพาะ ฮี่ๆๆ น่องใหญ่ไม่ว่า ถ้าน้ำหนักลดสักหน่อย
ก็ยังคงหวังและพยายามต่อไป (ไม่หักโหม) สองเดือนหนึ่งถึงสองกิโลกรัม มาหยาว่า ก็พอไหวเนอะ ๆ เพราะมาหยาก็ไม่ได้อ้วนมาก (ปลอบใจตัวเอง) ถ้าลดได้ถึงน้ำหนัก ๔๕ กิโลกรัมเหมือนก่อนอ้วนขึ้นเมื่อไร ก็น่าจะนับได้ว่าเป็นเลขสวย แล้วก็น่าจะเข้าพิธีแต่งงานได้อย่างสบายใจ
.
.
.
.
.
.
เป็นกำลังใจให้มาหยาด้วยนะคะ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ขอได้รับความขอบคุณจากแมวๆ พิคเจอร์เช่นเคยค่ะ
55+