T`he O`mnipotent M`acho
Group Blog
 
 
กันยายน 2551
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
5 กันยายน 2551
 
All Blogs
 
การออม VS การลงทุน ... ความเหมือนที่แตกต่าง

การออมเป็น "เกมแห่งระยะเวลา" (game of time) ใครเริ่มต้นก่อน ก็รวยก่อน เพราะยิ่งทิ้งไว้นาน ยิ่งได้เป็นกอบเป็นกำ ถือเป็น "เงื่อนไขจำเป็น" ของทุกคนที่มีเป้าหมายต้องการบรรลุสู่อิสรภาพทางการเงิน


การลงทุนเป็น "เกมแห่งจังหวะเวลา" (game of timing) ต้องรู้จังหวะในการเข้าออกจากตลาดที่เหมาะสม ซื้อเมื่อต่ำ ขายเมื่อสูง หยุดเมื่อสงสัย เพราะถ้าหากเข้าผิดจังหวะ ยิ่งทิ้งไว้นาน จะยิ่งเสียหายมาก และทำให้โอกาสที่จะได้ทุนคืนยากขึ้นเรื่อยๆ (losses are harder to regain)


ออมก่อน รวยก่อน  หลายคนคงเคยได้ยินวลีนี้มาบ้างนะครับ ผมเองก็เช่นกันครับ (ถึงผมจะเกิดทีหลังหลายๆ ท่านก็เถอะ !!)


                ทำไมถึงรวยก่อนหละ?


                ก็เพราะคนที่เริ่มต้นออมเงินก่อน ก็จะมีระยะเวลาที่จะออมเงิน ที่ยาวนานกว่าคนที่ออมเงินทีหลังไงครับ


                 แต่การออมที่ว่านี้ จะต้องออมสม่ำเสมอนะครับ พูดง่ายๆ ว่า จะต้องมี วินัยในการออม ครับ


                แต่หลายๆ คนกว่าจะมีเงินออมเป็นของตนเอง ต้องใช้ทั้งแรงกายและแรงใจ (รวมทั้งแรงเงิน) อย่างหนักหน่วง คิดแล้วคิดอีก... จริงๆ แล้วมีไม่กี่วิธีเท่านั้นแหล่ะครับในการมีเงินออมเป็นของตนเอง


                1. K เพิ่มรายได้  ถ้ารายจ่ายยังคงเท่าเดิม ดังนั้นจะต้องเหลือเงินออมให้เราเห็นเป็นบุญตาแน่นอนครับ แต่วิธีนี้ พูดง่ายแต่ทำยากครับ ต้องลงแรงเหนื่อยหน่อยครับ ไม่ค่อยสนุกน้า


                2. K ลดรายจ่าย (ที่ไม่จำเป็น หรือจำเป็นน้อย รอไปก่อนได้)  ถ้าหากไม่มีเวลาจะไปหารายได้เพิ่ม วิธีนี้ก็เป็นอีกตัวเลือกครับ แต่ก็ต้องต่อสู้กับความต้องการในจิตใจของเราเอง จริงๆ แล้ววิธีนี้จะทำให้เราได้เงินออมมากขึ้นโดยไม่ต้องออกแรงกายมากครับ แต่คนส่วนใหญ่ทำไม่ค่อยจะได้ หึหึหึ


                3. J “จ่ายให้ตัวเราเองก่อนเสมอ” วิธีนี้อาจไม่ใช่วิธีการแปลกใหม่อะไรมากนัก แต่กลับเป็นวิธีสร้างเงินออมที่ร้ายกาจที่สุดครับ เรียกว่า ถ้าคุณทำได้ คุณก็จะมีเงินออมแน่ๆ (ออมมากน้อยไม่เป็นไร ถือว่าได้ออมแล้วครับ)


                พอมีเงินออมเรียบร้อยแล้ว (ตามอัตภาพของแต่ละคน) คราวนี้ มาดูกันว่า จะเอาเงินออมไปทำอะไรต่อดี (ตามประสาวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ ไม่ชอบอะไรเดิมๆ เชยๆ)


                ... ... ...


                ... ...


               


                ...


          (ปิ๊งป่อง...)  ลงทุน!! สิครับพี่น้องงงงง 


                การลงทุน จริงๆ แล้วก็คือการเอาทรัพย์สินอะไรซักอย่าง ไป “ต่อยอด” ทำให้ มูลค่าในอนาคตเพิ่มขึ้น


                (ในที่นี่ ต้องถูกกฏหมายนะครับ ไม่รวม พวกเล่นเก้าอี้(เล่นแชร์) เล่นรีรีข้าวสาร(แชร์ข้าวสารอันโด่งดัง) เล่นไฮโล เล่นป๊อกเด้ง เล่นน้ำเต้าปูปลา ฯลฯ)


                งงมั้ยครับ? มูลค่าในอนาคต?


                ใช่ครับ! ลงทุนวันนี้ เพื่อให้มีกินมีใช้ในวันข้างหน้าอย่างไม่ขัดสนไงครับ (ฤ เราอยากจะทำงานงกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆอย่างกะคนหนุ่มสาว  ในตอนเราแก่เฒ่ากันหละคร้าบบ)


                แต่ถ้าอยาก... ตามใจท่านคร้าบบบบบบบบบบบ (เอาเวลาอ่านเมล์ส่วนที่เหลือไปทำงานงกๆๆๆๆๆๆ ของท่านไปเถอะครับ !@#@$%!#@)


                เพราะการออม เป็นเพียงการทำให้เรามีกินมีใช้ในวันนี้ หรืออนาคตอันใกล้นี้เท่านั้นครับ


                กูรู้  (สะกดถูกแล้วจริงๆ นะ) เขาว่ากันว่า....  การออมทำให้เรามั่นคง แต่การลงทุนทำให้เรามั่งคั่ง!!!!!


                ลองคิดให้ลึกๆ หน่อย จะรู้ว่า เอ้อ... มันรู้จริงแฮะ


                หลายๆ ท่านยังยึดติดกับการหาเช้ากินค่ำ, ทำไปวันๆ, ทำให้มันพ้นๆ ไป ฯลฯ  บอกเป็นนัยๆ ว่า อนาคตอีกยาวไกล (งั้นอย่าเพิ่งไปคิดถึงมันตอนนี้ก็ได้ @#!$!@#!)


                ทำให้คนเราไม่ค่อยสนใจกับการลงทุน (เพื่ออนาคต) นั่นแหล่ะครับ


                เอาหละ.... เริ่มจะสนใจกับอนาคตของเราเองบ้างแล้วใช่มั้ยครับ (สมมติว่าใช่แล้วกันนะครับ ฮ่า)


                ดีครับ ถูกต้องแว้วววววว


                การลงทุน ไม่ใช่ว่าใครมีเงินมาก คนนั้นก็จะประสบความสำเร็จตลอดไปนะครับ สิ่งสังคัง เอ้ย! สิ่งสำคัญนั้น....


                คือ จังหวะของการลงทุน  ต่างหาก!!!!


                ตัวอย่างเซิ้บๆ ....


                L ซื้อ โดยไม่ดูตาม้าตาเรือ ไม่ดูภาวะตลาด (เอาแต่ใจตัวเองสุดๆ) ตลาดกำลังแย่สุดๆ แต่กลับเข้าไปซื้อ .... ซักพัก เห็นราคาดิ่งลงเรื่อยๆ .... สุดท้ายก็ “ติดดอย(อินทนนท์)”  เพลงนี้คงเข้ากับกรณีนี้ดีทีเดียว ....


                โปรดส่งใคร้มาร้าบบบบบบ ช้านนนน ที อยู่อย่างนี้มันเหงา..เกินไป


               


                L ขาย โดยไม่ดูสภาพตลาดเลย (หวาดระแวง... คิดมากไปหรือเปล่าหมอ? หวาดระแวง...ยืมเพลงสมัยพี่สาวยังเด็กมาใช้ซักหน่อย)  ราคากำลังขึ้นเรื่อย แต่กลับกลัว...รีบขายซะงั้น พอเห็นราคาขึ้นไปเรื่อยไม่หยุด ขึ้นเยอะด้วย .... สุดท้ายก็ “ขายหมู” 


                ขี้ เพ อ่อ ละ (คิดเพลงออกละ) ...


                อื้อหื้อ... เสียดายจังงง อะอ๊า... เสียดายจังงง ...


         


หรือจะให้กระเหี้ยนกระหือรือหน่อย ต้อง  “ลงทุนโดยไม่ดูตาม้าตาเรือเอง ก็ลงเอยแบบนี้แหล่ะ


        (โส นะ น่า 555+)”



ที่มา //www.investorchart.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=524556&Ntype=4




Create Date : 05 กันยายน 2551
Last Update : 8 กันยายน 2551 21:03:32 น. 0 comments
Counter : 225 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

zylinz
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เพิ่งเริ่มทำ Blog เป็นครั้งแรกจ้า
Friends' blogs
[Add zylinz's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.