[รีวิวหนัง] The Martian แต่เพียงผู้เดียว บนดาวอังคาร The Martian (เดอะ มาร์เชี่ยน) บอกเล่าเรื่องราวของมาร์ควัตนีย์ (รับบทโดย แม็ตต์ เดมอน) นักบินอวกาศที่ถูกทิ้งไว้บนดาวอังคาร ซึ่งต้องใช้ชีวิตที่นั่นตัวคนเดียวเพื่อรอให้นาซ่ามารับกลับในหนังชวนเราติดตามความเป็นอยู่ของมาร์ค ทั้งเรื่องการกิน นอน และการเอาตัวรอด เราค่อยๆตามติดชีวิตของเขาไปเรื่อยๆ ค่อยๆ เห็นวิถีชีวิตของมนุษย์ผู้อยู่อาศัยบนดาวอังคารแต่ด้วยทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดทำให้เขาต้องหาวิธีที่จะทำให้มีอาหารมากพอที่จะอยู่ได้นานกว่านี้โชคดีอีกอย่างคือเขาเป็นนักพฤกษศาสตร์ ทำให้ชายหนุ่มนำเอาความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ที่มีกับอุปกรณ์ที่เหลือจากตอนมาสำรวจดาวอังคารทิ้งมาประยุกต์ใช้และปลูกมันฝรั่งขึ้นมาเพื่อยังชีพ นอกจากนั้นยังมีความพยายามอีกหลายอย่างที่เขาสร้างขึ้นมาจากความคิดความสามารถ และความไม่ยอมแพ้ เพื่อให้ตัวเองออกไปจากที่แห่งนี้ ให้ได้กลับไปที่บ้านอีกครั้งซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องผ่านอุปสรรคอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความเปลี่ยวเหงาความโดดเดี่ยว ความกดดัน และสภาพอากาศที่ไม่เข้าใครออกใคร อีกอย่างหนึ่งที่หนังเรื่องนี้เปิดโลกให้ผมอย่างมากคือการมีอยู่ขององค์กรนาซ่าก่อนหน้านั้นผมรู้จักนาซ่าแค่เพียงองค์กรด้านอวกาศที่ใครๆ ก็อยากทำซึ่งไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่หลังจากที่ได้ดู The Martian จบ ผมก็หาคำตอบให้ตัวเองได้แล้ว เราได้เห็นวิสัยทัศน์และวิธีคิดวิธีการทำงานของพวกเขามากขึ้น และแน่นอนเรื่องการเมืองภายในและภายนอก รวมไปถึงการรับมือและต่อรองอำนาจกับสื่ออีกด้วย(ซึ่งหลายๆ องค์กร หรือทุกองค์กรก็คงเป็นแบบนั้นแหละ)นั่นรวมไปถึงการมีทีมพีอาร์ที่คอยสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ร่างสุนทรพจน์ที่กินใจและเตรียมคำถามจากสื่อให้กับผู้นำองค์กรเพื่อการควบคุมและครอบครองใจของผู้ชมจากทั่วประเทศและทั่วโลก The Martian นำเสนอให้ตระหนักรู้ถึงความสำคัญของวิทยาศาสตร์ (และทำให้รู้ว่าบางครั้งนักวิทยาศาสตร์ก็ไม่ได้เนิร์ดอย่างเดียวจนไม่รู้วิธีการเอาตัวรอด)ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์นั้นมีความสำคัญและช่วยแก้ปัญหาในชีวิตจริงได้เช่นเดียวกัน และแน่นอนวิทยาศาสตร์มีส่วนสำคัญอย่างมากในการขับเคลื่อนโลกการได้ดูหนังเรื่องนี้ทำให้ผมเปิดใจและรู้สึกค่อยๆ สนใจความรู้ชนิดนี้มากขึ้น(หลังจากบอกลาและหันหลังให้กับมันเมื่อสมัยมัธยมปลาย) ดูจบแล้ว ผมนึกถึงคุณค่าของการชีวิตอยู่เราจะตายเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ชีวิตของเราทุกนาทีนั้นมีค่าและควรใช้มันอย่างไม่ประมาท ชีวิตนั้นมีค่ามากกว่าที่คิด เพราะถ้าหากเราต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นเดียวกับมาร์คนั้นย่อมแน่นอนว่าความรักตัวกลัวตายและสำนึกในการมีชีวิตอยู่ต้องตื่นขึ้นในจิตใต้สำนึกอย่างแน่นอน |
สมาชิกหมายเลข 735183
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Group Blog All Blog
Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |