หุบเขาคนโฉด ไม่ใช่ไอศครีม ไม่ต้องเข้ามาเลีย หรือเชียร์จนละเหี่ยใจ แต่ขอแค่ความจริงใจ ของคนกล้าคิด ไม่ติดอยู่ในกรอบ
21215 The Final Countdown








ป่าหอมหมื่นลี้ . . .

ความดี ความรัก ความจริงใจ นี่แหละ ที่หอมไปไกลถึงหมื่นลี้

♫♪♪ หุบเขาคนโฉด, ป่าหอมหมื่นลี้, เพลงเดอะไฟนอลเค้าท์ดาวน์
Violent Valley, Zoomzero, Forest10000Lees, The Final Countdown
The Final Countdown♫♪

ผมเตรียม entry นี้เกือบจะเสร็จมาหลายวันแล้ว
แต่พอจะส่งออกมาเป็น online ทีไร ทำใจไม่ได้เสียที
เพราะไม่สามารถหาประเด็นที่ตรงใจตัวเองได้
อันที่ได้ก็ค่อนข้างอยู่สุดขั้วกับเหตุการณ์ของโลกภายนอกจริงๆ

คำว่า Final Countdown หรือ นับเวลาถอยหลัง
คงไม่มีใครบอกว่าไม่เคยเกี่ยวข้องกับตัวคุณเลย

เริ่มตั้งแต่พ่อแม่ของคุณเอง
ท่านทั้งสองก็ต้องมีการนับวันที่จะได้พบกัน และมีครอบครัว
คุณแม่ก็ต้องเคยนับวันที่จะคลอดคุณ
ไปจนเมื่อนาทีที่คุณลืมตาออกมาดูโลก ก็ต้องมีคนตั้งตารอว่าคุณจะเป็นเด็กหน้าตาน่ารักน่าชังแค่ไหน
เมื่อเรียนหนังสือ ก็ต้องมีเรื่อง การรอเข้าวัยเรียน การเข้าห้องสอบ การรอให้ออดเลิกเรียน
ไปจนถึงออดหมดเวลาทำข้อสอบ
ครั้นมาเข้าสู่วัยทำงาน ก็ต้องมานับเวลาที่งานจะเข้า เวลาพักทานอาหารกลางวัน ไปจนเวลาประชุม และเวลาเลิกงาน
เวลาเล่นกีฬา ก็ต้องดูเวลาในการแข่งขันมาเหลืออีกเท่าไหร่ คะแนนทำได้มากน้อยแค่ไหน
สำหรับบางคนก็อาจจะต้องรอเวลาที่คนรักมาบอกรัก และขอแต่งงาน รอวันหมั้น วันแต่งงาน วันเข้าหอ วันฮันนีมูน

ในชีวิตทั่วไป เช่น การรอดูภาพยนตร์ การรอยานพาหนะสาธารณะ หรือขนส่งมวลชน เช่น รถไฟ หรือ เครื่องบิน
นี่เรามองแค่ ความเป็นส่วนตัว หรือ โลกส่วนตัวเท่านั้น
ในโลกจริงๆ มีการนับถอยหลังอยู่มากมาย จนเราแทบไม่เชื่อว่า
ในแต่ละวัน จะมีเหตุการณ์นับเวลาถอยหลังได้มากมายอย่างนี้

ผมได้ประเด็นต่างๆออกมา มาดูว่าผมกับคุณเห็นอะไรต่างหรือเหมือนกันบ้าง

- เพลงของวง Europe ชื่อ The Final Countdown
- ภาพยนตร์ในอดีตชื่อ The Final Countdown เป็นเรื่องของเรือบรรทุกในสมัยสงครามโลก
- ภาพยนตร์ที่เอาเพลงนี้ไปประกอบในหนัง ชื่อ Armageddon เป็นเรื่องการไปยับยั้่งอุกาบาตขนาดมหึมาที่จะพุ่งชนโลก
- Armageddon จากไบเบิลกล่าวถึง วันที่ความดีกับความชั่วจะต้องทำสงครามกันอย่างยิ่งใหญ่และเป็นครั้งสุดท้าย
- บริเวณที่เรียกว่า ภูเขาแห่งเมกิดโด ซึ่งมีบันทึกการรบหลายๆครั้งที่คนโฉดต้องมาพ่ายแพ้ในบริเวณนั้น เช่น มองโกล ฯ
- การนับเวลาตอนที่จะปล่อยจรวดไปดวงจันทร์ และยานกระสวยอวกาศ
- เหตุการณ์ตอนที่ระเบิดเวลาจะทำงาน
- การนับเวลาถอยหลังในวันสิ้นปี
ฯลฯ




สำหรับมุมมองของคนโฉด ขอมองแบบนี้

พอผมหลับตา และนึกถึงคำว่า นับเวลาถอยหลัง
ผมจำได้ว่า เมื่อคราวที่คุณแม่ของแฟนของผมจะต้องจากไป
ท่านเข้าๆออกๆห้อง ICU อยู่ 1 ปี 12 ครั้ง
ครั้งสุดท้าย ในคืนวันอังคาร คุณหมอเข้ามาคุยตอน 11 โมงเช้า
ท่านอธิบายถึงสภาพของผู้ป่วย และพิสูจน์ให้เราเชื่อและเข้าใจโดยการ off อุปกรณ์ช่วยหายใจ
ปรากฏว่า ตอนเครื่องทำงาน หัวใจของคุณแม่ทำงานได้ 80%
แต่เมื่อปลดการช่วยเหลือออก หัวใจทำงานได้ 10%
ปลายแขนและปลายเท้าเริ่มเป็นสีเขียว ม่วง และ กำลังจะเป็นดำ
เราผ่านการฉีดสารกลุ่มอะดีนาลีน หรือสารแห่งความมหัศจรรย์ไปหลายครั้งแล้ว
คนที่เคยผ่านเหตุการณ์ ICU ต้องเคยผ่านเรื่องยาเข็มละ 7 - 8 พัน มาแล้ว
ผมไม่ใช่หมอ จึงไม่สามารถอธิบายหรือวิจารณ์อะไรได้

คุณหมออธิบายอะไรต่อมิอะไรมากมาย เสียงก็ดัง แต่ตอนนั้น
เหมือนปราสาทหูของผมจะไม่ทำงานโดยสิ้นเชิง ใจสั่น มองเห็นเรื่องร้ายลอยอยู่ข้างหน้า
มาได้ยินอีกทีตรงคำว่า พรุ่งนี้ ตีห้า จะให้เขา(เจ้าหน้าที่)มาถอดสายออกให้
บ่ายนี้จะย้ายไปห้องธรรมดา หมอจะหยุดยาทุกชนิด
มีคนต้องออกไปเซ็นชื่อ ทำงานแทนมัจจุราช 1 คน กำหนดลมหายใจคนได้ก็คราวนี้
แต่ภาษาสุถาพใช้คำว่า เราไปเซ็นเพื่อที่จะปล่อยท่านไปสบาย

เมื่อคุณแม่ไปอยู่ห้องธรรมดา ลูกๆก็ผลัดกันออกไปไหว้พระ ทำบุญ กันอุตลุด โดยหวังปาฏิหาริย์
เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ลูกหลานและญาติสนิท อยู่ในห้องแน่นเอียด
จนต้องมีบางกลุ่มต้องออกมานั่งคอยที่ห้องโถงใหญ่ เพื่อคอยสลับเข้ามาเยี่ยม
หลังเที่ยงคืน วันใหม่มาถึงตามนาฬิกา แต่แสงอาทิตย์ของวันพุธ ยังไม่มา
เมื่อทุกคนกลับไป คนเป็นลูกสาว 2 คน ไม่ต้องกลับบ้าน
ต่างคนก็ต่างนั่งมองนาฬิกา เพราะรู้ว่าเหลืออีกแค่ 5 ชั่วโมงกว่าๆ
และพวกเราที่กลับไปพักผ่อนที่บ้าน ก็นอนหลับบ้าง ไม่หลับบ้าง ตามแต่ความกังวลของคน
ผมต้องโทรศัพท์มาถามเกือบทุกๆชั่วโมง
ไม่อยากลุ้น ไม่อยากหวัง แต่ก็อดมองหาสิ่งเหนือกฏธรรมชาติไม่ได้
ทีแรกก็ว่าจะต้องยกโขยงไปอีกครั้งตอนตีสี่ แต่ก็มาสรุปว่า ไม่ต้องไปหรอก
ไปกันอีกทีตอนเจ็ดโมงเช้าไปเลย ก่อนมาจะได้แวะไปที่วัดกันก่อนได้เลย
ผมไม่ได้อยู่ตอนที่ เขานับ 5 4 3 2 1 และ ศูนย์
แต่ก็ไม่ได้หลับ ณ เวลานั้นเช่นกัน
ลมหายใจของผมยังมีอยู่ แต่ของคุณแม่ของแฟน ท่านสิ้นล้มไปแล้ว

เมื่อนึกถึงคืนวันที่ 31 ธันวาคม ในห้องคนไข้ ณ โรงพยาบาล ต่างๆ
เปรียบเทียบกับ ในขณะที่ผู้คนมากมายตามลานกลางแจ้ง จตุรัส สถานบันเทิง หรือในบ้านอันแสนอบอุ่น
ยังมีอีกฉากชีวิตที่นับถอยหลังกันคนละอารมณ์กันเลย
แววเสียงเพลงมาว่า It is the final countdown ♪♫



♪♫♫♫♪ T h e . . . F i n a l . . . C o u n t d o w n . . . ♪♫♫♫♪


เพลงนี้ชื่อ The Final Countdown
ของวงดนตรี ชื่อ Europe
เคยใช้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ชื่อ Armageddon

zOOmzERo2009









Create Date : 15 ธันวาคม 2552
Last Update : 21 กุมภาพันธ์ 2553 13:23:10 น. 25 comments
Counter : 2172 Pageviews.

 

THE FINAL COUNTDOWN
Europe

Hoooooooooo

.....We're leaving together
But still it's farewell
And maybe we'll come back
To earth. who can tell?
I guess there is no one to blame
We're leaving ground
(leaving ground)
Will things ever be
the same again?
It's final countdown
The final countdown

Solo 4 Bars..2...
3...4.
We're headind
for Venus (Venus)
And still we stand tall
Cause maybe they're seen us
And welcome us all, yeah
With so many light years to go
And things to be found
(to be found)
I'm sure that we'll all
miss her so
It's final countdown
The final countdown
The final countdown
(The final countdown) Oh..
Ho..

Solo 24 Bars..22...
23...24.
The final countdown
oh.. It's the final countdown
The final countdown
The final countdown
(The final countdown) oh..
It's the final countdown
We're leaving together
The final countdown.
We'll all miss her so
It's the final countdown
(The final countdown) oh..
It's the final countdown


คำแปล (ผมดัดแปลงของผู้ือื่นมาอีกที)

พวกเราดำเนินชีวิตอยู่ด้วยกัน
แต่มันก็ยังคงต้องเป็นการจากลา
และเราอาจจะกลับมาพบกันใหม่อีกครั้ง
ยังโลกใบนี้ ผู้ใดจะไปหยั่งรู้ได้

ฉันว่าเราไม่ควรจะเที่ยวไปโทษใคร
พวกเรากำลังจะลาจากพื้นโลกไป
ทุกสรรพสิ่งจะกลับไปเหมือนเดิมหรือเปล่า?
มันเป็นการนับเวลาถอยหลัง

การนับถอยหลังครั้งสุดท้าย

เรากำลังมุ่งหน้าไปสู่ดวงดาวที่ชื่อ วีนัส (วีนัส)
และเราจะยังทำตัวให้สูง
เพราะบางทีพวกเขาอาจจะมองเห็นเรา
และต้อนรับพวกเราทั้งหมด

การเดินทางนั้นยังอีกหลายปีแสง
และยังมีหลายสิ่งหลายอย่างให้เราค้นพบ (ต้องได้พบ)
ฉันมั่นใจว่า พวกเราจะต้องคิดถึงเธอด้วยหละ
มันคือการนับเวลาถอยหลังครั้งสำคัญ

การนับถอยหลังครั้งสุดท้าย

หมายเหตุ:
ผมชอบเสียงออแกนไฟฟ้า และท่อนลีดกีตาร์ มาก



โดย: จอมมารแห่งหุบเขาคนโฉด (zoomzero ) วันที่: 15 ธันวาคม 2552 เวลา:17:44:10 น.  

 
*0* ท่านประมุขเปลี่ยนไป
ช่วงหลังๆมานี่รู้สึกจะsensitiveมากมายนะครับ

เวลาเดินไป
ใจคนเดินตาม
หลงทาง!


โดย: *-* (ใบไม้ต้องลม ) วันที่: 15 ธันวาคม 2552 เวลา:20:51:45 น.  

 
Tags Maker is a Text Image Generator to write Messages, Comments or Tags on Pictures

นั่นจิคะ การนับเวลาถอยหลังเนี่ย
มินว่า ต้องเคยประสบพบเจอกันทุกคน
ทั้งเรื่องที่เราตั้งตารอคอย และเรื่องที่เราไม่อยากให้มันมาถึงอ่ะ
แต่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหน เราคงเลี่ยงไม่ได้ที่จะถึงมันอ่ะนะมินว่า
เค้าถึงได้ว่า เรื่องบางเรื่อง เราควรมีเวลาที่จะคิดถึงมันไว้มั่งก็ดีเหมือนกัน
เพื่อที่ว่า เมื่อถึงเวลานั้น เราจะได้มีสติที่จะทำอาไร ๆ ในแบบที่ควรจะทำอ่ะค่ะ
passed away count down อ่ะ มินได้ผ่านมาถึง 2 ครั้งแล้วค่ะ
จากคุณพ่อ และคุณอา ในเวลาที่ห่างกันยังไม่ถึง 3 ปี
ของคุณพ่อ พอทำใจเพราะท่านป่วยและนอน รพ.อยู่หลายเดือน
แต่กับคุณอาเนี่ย เป็นอาไรที่ช๊อคมาก ๆ เพราะเป็นอุบัติเหตุ
ที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน
11 โมงเช้ายังนั่งทานข้าวอยู่ด้วยกัน แต่ท่านมาจากไปตอนบ่ายโมง และไม่มีใครรู้เรื่องเลย
จนกระทั่งทุ่มกว่าแล้ว ที่บ้านถึงได้ทราบข่าวอ่ะค่ะ มินเลยเข้าใจความรู้สึกของผู้สูญเสียดี
ถึงมันอาจจะผ่านไปหลายปีแล้ว สำหรับคุณซูมและแฟน แต่มินก็ยังอยาก sympathy ด้วย จากใจจริงค่ะ


โดย: มินทิวา วันที่: 16 ธันวาคม 2552 เวลา:9:50:33 น.  

 
แวะมาอ่านแล้วแว๊บ ๆ เดี๋ยวมาเก็บรายละเอียดใหม่ค่ะ ขอไปลุยเช็คเมล์สามร้อยกว่าเมล์ก่อง *-*


โดย: นู๋ Beee น้องสาวจอมแก่น IP: 124.121.109.148 วันที่: 16 ธันวาคม 2552 เวลา:10:00:43 น.  

 
To ใบไม้ต้องลม

Sensitive หรือเปล่า???
ไม่หรอกมั๊ง 555

เรื่องนี้ จริงๆต้องรอให้ยายนู๋ Beee มาบอก
เพราะเขาเป็นแฟนคลับพี่ชายจอมมารตั้งแต่สมัยเป็นจอมโฉดในเว็บของกันตนา
เรื่องสั้นที่เขียนไว้ ไม่ค่อยมีคนกล้าคอมเมนทฺ์ เพราะแค่อ่านก็ปวดกึ๋นไปหลายวัน
บางคนอ่านแล้วอยากจะจ้างคนมาอุ้มผมไปฝังทั้งเป็นก็เคยมีมาแล้ว
ยิ่งพวกที่มีศรัทธาแรงกล้าในบางเรื่องแล้ว คิดต่างกับผม ยิ่งแค้นๆ
แต่ผลลัพธ์คือ พวกเขากลับจำเรื่องที่ผมเขียนได้เป็นปีๆ
เออ...ที่เขาว่าอยากจำกลับลืม และอยากลืมกลับจำ นั้นมีจริงๆ

ถ้าเป็นในหนัง แล้วให้ผมเป็นพระเอกนะ
ผมต้องพูดว่า
"น้องชาย พี่ไม่ได้เปลี่ยนแปลง แต่น้องกำลังจำได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของพี่ 555"

ขออนุญาตเขียนอะไรเห่ยๆนิดหน่อย กรุณาอย่าคิดว่ามาฝากฟาดโวหารใส่กันเลยนะครับ

คนเรานั้น รู้หน้าไม่รู้ใจ
ตัวเขาเองก็ยังไม่เขาใจหัวใจของเขาเองเลย
แม้แต่รู้จักกันมานาน แต่ก็มีวันที่เขาจะมีความคิดที่ผันแปรไป
พระสงฆ์ใจดี ยังเฆี่ยนตีเด็กวัดปางตาย แค่เรื่องที่ทำผิด โดยได้ไปขโมยเงินพระไปไม่กี่บาท
ท่านว่าเพื่อให้หลาบจำ แต่ผมมองว่าท่านทำเพราะแค้นที่โดนล้วงคองูเห่าห่มผ้าเหลือง
จึงอย่าได้เชื่อมันในจิตใจใครให้มากนัก
มีแต่พ่อกับแม่ที่พอจะเชื่อใจได้ว่ารักลูกเท่าชีวิต
แต่วันดีคืนร้ายมีคนปากสุนัขมาเป่าหูผู้ให้กำเนิดเรา
วันนั้นพ่อแม่ก็อาจจะพูดจา หรือขับไล่เราออกจากบ้าน
เรื่องบางเรื่องทำให้พ่อแม่สามารถ มัดเราและส่งเราให้เสือขย้ำ
โดยที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือทำไปทั้งๆที่รู้ว่ามันบาป
เสือตัวนี้ อาจไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่คน เพราะมันเป็นอะไรก็ได้ ไม่มีชีวิตก็ได้
เคยได้ยินเรื่องลูกสาวต้องขายตัว เพราะพ่อแม่เป็นหนี้การพนันหรือเปล่า
พ่อแม่บางคนยืนยิ้มนับเงิน ในขณะที่แมงดากับแม่เล้าลากตัวสาวน้อยวัย 15 ขึ้นรถตู้ไปต่อหน้าต่อตา
พวกคุณชื่นชมกับความรักของพ่อแม่ ผมไม่ว่าหรอก เพราะนั้นคือสิ่งสวยงาม
แต่ผมจอมมารกลับบริโภคความทุกข์ของพ่อแม่ใจโฉดเป็นเรื่องสันทนาการครับ


นับเวลาถอยหลัง
...
ทำไมเป็นการนับเดินหน้าตามกาลเวลา
...
ไยไม่นับถอยไปวันวาน
...
เพื่อเราจะได้แก้ไขเรื่องที่ได้ทำผิดพลาดไป


ใบไม้ต้องลม SaddleBrown


โดย: จอมมารแห่งหุบเขาคนโฉด (zoomzero ) วันที่: 16 ธันวาคม 2552 เวลา:10:27:46 น.  

 
To มินทิวา
สัมผัสได้
สัมผัสได้
สัมผัสได้

ขอบคุณมาก
ขอ เซย์ ซอร์รี่ ให้กับยู เช่นกัน
คุณพ่อและคุณอาครับ หลับให้สบายนะครับ

จากนี้ไป เราก็มา Final Countdown กัน
ทำทุกวินาทีให้มันมีค่า
ทั้งกับตนเอง
และคนรอบๆตัวเรา...ในโลกใบนี้
ใบที่ผมว่ามันโหด...แต่หลายคนว่า น่าอยู่

มินทิวา Mintiva RoyalBlue 4169E1


โดย: จอมมารแห่งหุบเขาคนโฉด (zoomzero ) วันที่: 16 ธันวาคม 2552 เวลา:11:55:11 น.  

 
To นู๋ Beee
เมล์ 300 กว่าอันนี่
จากกิ๊กกี่คนกันนะ

ของพี่ชายมีแค่วันละ 2 โหล
จากกิ๊ก 25 คนหละ
555

fuchsia FF00FF


โดย: จอมมารแห่งหุบเขาคนโฉด (zoomzero ) วันที่: 16 ธันวาคม 2552 เวลา:11:59:07 น.  

 
Tags Maker is a Text Image Generator to write Messages, Comments or Tags on Pictures

พฤหัส สวัสดีค่ะ คุณซูม
มีความสุขมาก ๆ มีโชค มีลาภ (ลาภปากก็ยังดีอ่ะนะ)
วันนี้ ทั้งวันเลย นะคะ


โดย: มินทิวา วันที่: 17 ธันวาคม 2552 เวลา:9:07:24 น.  

 




Europe

ใน Entry นี้ Europe ไม่ได้หมายถึงทวีป
หรือภาคีของประเทศที่เคยล่าเมืองขึ้น และทำให้ไทยต้องเสียดินแดนไปหลายส่วน
แต่ผมหมายถึง วงดนตรี ประเภท Hard Rock, Heavy Metal และ Glam Metal วงหนึ่ง
วง "ยุโรป" เปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 1979 (ปีนี้ก็ผ่านมาถึง 30 ปี แล้วนะ)
แรกเริ่มไม่ได้ชื่อนี้หรอก เขาชื่อ Force
เปิดการแสดงใน Stockholm, สวีเดน
สมาชิกในปัจจุบัน ได้แก่
Joey Tempest - ร้องนำ กีตาร์ คีบอร์ด
John Norum - ร้องนำ กีตาร์ ร้องประสาน
John Leven - เบส
Mic Michaeli - คีย์บอร์ด ร้องประสาน กีตาร์
Ian Haugland - กลอง
และมีสมาชิกเก่าที่ได้ออกไปแล้ว อีก 4 คน ได้แก่
Kee Marcello - กีตาร์ ร้องประสาน (1986-1992, 31-12-1999)
Tony Reno - กลอง เครื่องเคาะจังหวะ (1979-1984)
Peter Olsson - เบส (1979-1981)
Marcel Jacob - เบส (1981)

คำว่า Glam Metal มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า Hair Metal
วงดนตรีแนวนี้ คุณอาจจะงงว่า เป็นอย่างไร?
คำตอบคือ คุณต้องกลับไปเป็นวัยรุ่นในปี ค.ศ. 1970-1980 ให้ได้
แล้วก็จะเข้าใจเองว่า วงดนตรีร๊อคสมัยนั้นจะมีนักร้องนักดนตรีที่ไว้ผมยาวๆ หน้าตางดงาม
แต่พวก Glam จะไม่ทำผมรกรุงรัง แต่ก็มีดูยุ่งเหยิงอยู่ดี
ดนตรีร๊อคมีการวิวัฒนาการแตกแนวทางดนตรีออกไปหลากหลาย
คนที่สนใจก็คงต้องลองไปหาข้อมูลมาอ่านเอาเองนะจ๊ะ

เพลง The Final Countdown เป็นเพลงในอัลบัมที่ 3
ออกจำหน่ายในปี ค.ศ. 1986
ขายได้มากกว่า 3 ล้านชุด ในสหรัฐอเมริกา
เพลงนี้เป็นเพลงที่ โจอี่ เทมเพส เรียบเรียงและแต่งเอาไว้ในช่วงปี 1981-1982
ตามตำนานเล่าว่าเขายืมคีย์บอร์ดของ มิคาเอล ยี่ห้อ Korg Polysix ไปเลยแต่งเพลงนี้ได้ (ล้อเล่นนะ)
แต่ตอนนั้นก็ฟังยังไม่มันเท่านี้
เนื้อเพลงน่าจะมาจากความประทับใจจากเพลง Space Oddity ของ David Bowie
พอตอนที่จะทำเพลงเป็นเรื่องเป็นราวกันจริงๆ
พวกเขาได้คีย์บอร์ดยี่ห้อ Yamaha TX-816
และมาโป๊ะเชะ กับ Roland JX-8P synthesizer
ซึ่งทำให้เกิดเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของเพลง
สำหรับท่อนลีดกีตาร์ นี่แหละสไตล์ของพวก Heavy Metal เขาหละ
เชื่อหรือไม่?


โดย: จอมมารแห่งหุบเขาคนโฉด (zoomzero ) วันที่: 17 ธันวาคม 2552 เวลา:9:53:57 น.  

 
อืมม ลองคิดเรื่องนับถอยหลังของเราแล้ว ก็มีอยู่หลายครั้งค่ะ แต่ที่สำคัญที่สุด น่าจะเป็นวันสุดท้ายของชีวิต(ละมั้ง) ก็พระพุทธเจ้าท่านสอนเรื่องมรณานุสติ ให้คิดถึงความตายไว้ จะได้ไม่ประมาทกับชีวิต เพราะไม่มีใครรู้วันตายของตัวเองเลย แต่ก็ไม่วายลืมอยู่บ่อย ๆ

เคยมีประสบการณ์แม่ป่วยหนักเกือบตายมาแล้วเหมือนกัน แต่กรณีของเราโชคดีมีปาฏิหาร์ยช่วยค่ะ ตอนนู้นแม่เป็นหอบอย่างแรง วันที่เกิดอาการ พ่อขับรถไปส่งรพ. ไปจนถึงหน้ารพ.แล้วแต่รถติดหนักมาก กว่าจะถึงมือหมอก็ปากเขียวเล็บเขียวแล้ว แต่คุณหมอก็ช่วยไว้ทัน จากนั้นก็ยังอาการหนักอยู่หลายวันไม่หายสักที ตอนหลังลองบนกับเจ้าแม่กวนอิมแล้วแม่อาการดีขึ้นจนหาย ดีใจมากเลยค่ะ


โดย: haiku วันที่: 17 ธันวาคม 2552 เวลา:20:39:52 น.  

 
To haiku
ดีใจด้วยครับที่คุณแม่ของคุณไฮกุปลอดภัย
นาทีนั้น คนเราจะต้องให้พึ่งหมอหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่มีใครเกี่ยงงอนกันหรอกนะครับ
แล้วแก้บนหรือยังครับ อย่าลืมหละ

บางคนตอนที่บนก็พูดซะเยอะแยะ จนตัวเองจำไม่ได้
และบางคนก็บนแค่ 10 แต่คนข้างๆมาช่วยเติมจนเป็น 100 ก็มี
บางกรณี ผมก็อยากจะตีเปี๊ยะๆเบาๆเป็นการเตือนพวกเขาเหมือนกัน
อย่างเช่น คนที่ทำการบนบอกว่า จะถวายหัวหมู
คนข้างๆบอกว่า 3 หัวตามมาทันที ทั้งๆที่ฐานะของครอบครัวนั้นก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรเท่าไหร่
แค่ค่ารักษาพยาบาลก็ต้องกู้หนี้ยืมทรัพย์ชาวบ้านเขามาเลย

หรืออีกอย่าง อันนี้เห็นบ่อย และเซ็งมาก(อารมณ์มารมันพุ่งพล่าน)
มีญาติอยู่กลุ่มหนึ่ง คนเป็นพ่อจะไม่รอด (ดื่มเหล้ามา 40 กว่าปี ตับหมดสภาพ)
อยู่ๆแม่ก็จับลูกชายกับหลานชายมาพนมมือ ให้พูดตามว่า พวกผมจะบวชให้...
คนที่โดนจับตัวมาก็หน้าซีดบ้าง หน้าเสียบ้าง เพราะไม่อยากบวช กลัวหัวล้าน ไม่หล่อ
พอคนหนึ่งพูดนำว่าจะขอบวชให้... อีกคนก็รีบเป็นลูกคู่ตะโกนว่า บวชไม่สึกเลย
แต่เจอเจ้าเด็กยุคไอที รีบพูดสวนออกไปว่า และขอบวชร่วมกับน้า...ไปตลอดชีวิตด้วยกัน
เจ้าคุณน้าจอมเสนอเมกกะโปรเจค รีบบอกปัด แล้วเผ่นหนีไปเลย

เรื่องนับเวลาถอยหลังนั้น ผมมีอีกเหตุการณ์ทีทำให้ทุกข์ทรมานใจมากๆ
ก็คือตอนสอบเอ็นทรานซ์ แล้วทำข้อสอบไม่เสร็จตามเวลาสอบ
ซึ่งเกิดมาตั้งแต่เรียนหนังสือมาแต่ไหนแต่ไร
ผมเป็นคนที่ทำข้อสอบเสร็จก่อนเวลาทุกครั้ง เพราะว่าอ่านโจทย์เร็วผิดมนุษย์มนาย์
ไอ้อันไหนที่ทำไม่ได้หรือตอบไม่ได้อันนั้นก็รู้ว่า ทำไปก็เสียเวลา ก็ตอบมั่วไป ชิวๆ
แต่ตอนที่สอบเอ็นฯ ยังไม่ได้อ่านโจทย์อีก 20 -30 ข้อ แต่เหลือเวลาแค่ 5 นาที
มือสั่นแบบว่า เฮ้ย....ทำไม่เขียนหนังสือไม่ได้ เขียนไม่เป็นตัว ฝนดินสอก็ไม่เข้าวงกลม
น้ำตาคลอเบ้า ยังสงสัยตัวเองว่า เอ้...เรานี่ผู้ชายหรือผู้หญิงกันแน่
ผ่านวันนั้นมาแล้ว ถึงรู้ว่าเราเป็นอะไรก็ได้ 555


haiku DarkGreen 006400


โดย: จอมมารแห่งหุบเขาคนโฉด (zoomzero ) วันที่: 18 ธันวาคม 2552 เวลา:16:59:05 น.  

 
Tags Maker is a Text Image Generator to write Messages, Comments or Tags on Pictures

ฮ่า ๆ ๆ อ่านเม๊นท์ของคุณไฮกุ ด้วยความเห็นใจ
ไอ้ที่ ฮ่า ๆ ๆ ขำกร๊าก ขึ้นต้นอ่ะ มินขำที่คุณซูมตอบเม๊นท์อ่ะ
ให้ขำหน่อยเหอะค่ะ 2 วันนี้ ขำไม่ออกเลย
อีวันก่อน ไปคัดสำเนาหนังสือรับรองบริษัทฯ เอง
เพราะจะรีบใช้ รอให้เอชอาร์ไปทำ มันก็จะช้าไป
มินก็ไม่เคยไปคัด ไปกรอกเอกสาร จ่ายเงินเสร็จ ก็นั่งรอ
โห..ทำไมมันนานจัง พอเข้าใจได้ เพราะคนเยอะมาก
แต่อีตอนที่เจ้าหน้าที่มาเรียกนี่จิ แทบหงายหลังตกเก้าอี้
พี่แกเรียก "คุณมันทวา" กำลังชะเง๊อจะลุกออกไปรับ
ไอ้ข้างหลังหัวเราะกันกริ๊ก ๆ ๆ บอก เฮ๊ย..มันทวารหวะ
มินเลยนั่งเงียบกริบ ไม่กล้าลุกออกไปเลยอ่ะ
นึกฉุนใยเจ้าหน้าที่ ที่มัวแต่มองทีวีที่กำลังถ่ายทอดมวย
ดันผ่าอ่านชื่อมินผิดได้ไง(วะ) ไอ้มินรึ ก็เขียนสุดจะบรรจง
เพราะรู้แล้วว่า คนชอบเรียกชื่อมินผิดประจำ "มินทิรา" เนี่ยบ่อยสุด
มนทิวาก็มี บางคนอาการหนักถึงกับถาม ชื่อมินอ่านยังไงไปโน่น เฮ๊อ กรรม...
วันนี้ เจเนอรัลเบ๊มิน ก็ไปขึ้นศาลซะครึ่งวัน เป็นผู้เสียหายและเป็นตัวแทนบริษัทฯ ไปฟังคำขอไกล่เกลี่ยของจำเลย
ตอนแรกเรื่องก็ทำท่าจะจบด้วยดี แต่ตอนลงมาทำเอกสารยอมชดใช้และจำเลยต้องเซ็นต์รับสารภาพ
ไม่รู้โทรไปปรึกษาไอ้ทะแนะที่ไหน จู่ ๆ ขอกลับคำสู้คดีขึ้นมาอีก
มิใยที่ทั้งเจ้าหน้าที่ศาลและท่านอัยการจะพูดยังไง ก็นั่งนิ่งไม่พูดไม่จาเหมือนเป็นใบ้ไปชั่วขณะ 1 ชม.
ถ้าไม่ติดว่าเป็นผู้ชายและตัวใหญ่กว่า มินละอยากจะยันมันซักเปรี้ยงจริง ๆ ค่ะ
ออกจากศาลได้ ก็รีบหลก ๆ เอาของขวัญไปแจกลูกค้าต่อ
ที่ม๊าร์ค ๆ ไว้ 7-8 ที่ ไปได้แค่ครึ่งเดียว
วันนี้ ในเมือง รถติดกันแบบวินาศสันตะโลโก (บ่นเป็นภาษาบาลีอ่ะค่ะ) ฮ่า ๆ ๆ
อาไรไม่ว่า ไปทำขายหน้าที่ JWT (บริษัทโฆษณายักษ์ใหญ่) ไว้อีก
ไอ้ความที่รีบ ๆ ๆ ดันใส่รองเท้าสวมไปคนละข้าง ข้างนึงดำมีเพ็ชรแบบวิ๊บ ๆ ด้วยนะ อีกข้างเทาน้ำตาลแบบคนแก่อ่ะ
ข้างนึงเป็นรองเท้ามีส้น แต่อีกข้างนึงเป็นรองเท้าส้นตัน แต่ความสูงไล่เลี่ย
มิน่าตอนเดินก็ว่าไม๊มันทะแม่ง ๆ ไม่ค่อยถนัด
แต่ ด้วยความที่ ทั้งเอกสารทั้งของ กว่าจะรู้ตัว ก็ไม่ทันที่จะเผ่นแล้วอ่ะ
เพราะไปยืนอยู่หน้ารีเซฟชั่น และลูกค้าก็เดินลิ่ว ๆ ออกมาหามินแล้ว
ดีนะ ที่คุยกันเค้ามองแต่หน้า ไม่ได้มองลงต่ำอ่ะ มิเช่นนั้น..โอย..อย่าไปคิดดีกว่าเด๊...ฮ่า ๆ ๆ
นี่แค่มาจากเริ่มต้นว่า วันนี้ ขอมินขำมั่งเหอะนะ ฮ่า ๆ ๆ
กลับมาถึงบ้าน ที่ว่า บ้านคือสวรรค์วิมานของเรา เนี่ย เป็นไงรู้เลยนะคะ มันสุขสบายอย่างบอกไม่ถูก
เพียงแต่ ไม่มีใครคุยด้วยเท่านั้นเอง ต้องมานั่งคุยกับคอมพิวเตอร์อยู่เนี่ย (ก็ยังดีฟระ ถือว่ามีคนคุยด้วยก็แล้วกันอ่ะ)
คุยไป คุยมา อย่างที่คุณซูมเคยว่า มันจะกลายเป็นอีกเอนทรี้นึงไปแล้ว
ขอระบายกันบ้างเพื่อนคงไม่ว่าเพื่อนหรอกนะ ฮ่า ๆ ๆ
ปล. Have a beautiful dream จ้า


โดย: มินทิวา วันที่: 18 ธันวาคม 2552 เวลา:19:41:09 น.  

 
To มินทิวา
อะโฉ คุณมิ้นท์ของเฮา เขียน comment ซะออกแนวโฉดเลยนะเธอ
เดี๋ยวต้องไปหาป้าย น.39 มาเตือนเด็กที่เข้ามาอ่านซะแล้น

อือ...อ่านแล้วก็รู้สึกเป็นห่วงนะ สมัยนี้หญิงไทยใจเหี้ยมหาญ
ดาบก็ไกว เปลก็แกว่ง
เอ้ย...ดาบก็แกว่ง อกก็ส่าย
เอ้ย...ไม่แก้แล้ววุ่ย ชักติดเรดอาร์
คิดว่าช่วงสัปดาห์ที่ 50, 51 และ 52 ของทุกปี พวกผู้หญิงทำงาน หรือ working women
คงต้องเหนื่อยกันทุกคนโดยเฉพาะสาวๆแผนกบัญชี
บางทีผมขับรถตอนสามสี่ทุ่มยังมองเห็นไฟสว่างบนตึกสูงๆเลย คงกำลังคิดโบนัสให้เพื่อนๆ 555
คุณมินไม่ต้องห่วงหรือเกรงใจนะ บ้านนี้(หุบเขาฯนี้) ยินดีรับฟังทุกเรื่อง ทั้งดีและร้าย
เราฟังได้หมด เพราะเราฟังเข้าหูซ้ายแล้วไปออกหูขวา 555

เรื่องแจกของขวัญให้ลูกค้านี่ เป็นงานที่น่าเบื่อหน่ายมาก เห็นใจจ๊ะ
ลูกค้าบางคนก็ไม่ค่อยมีเวลาให้ หรือไม่ก็ไม่ค่อยเห็นว่าควรเจียดเวลาให้เราตามที่เราขอนัดหมายไปง่ายๆ
ส่วนอีกพวกก็เป็นบ้าอะไรก็ไม่รู้ มันคุยเก่งจริงๆ เราทำด้านขายคำปรึกษาและหา solution ให้เขาแท้ๆ
แต่บางครั้ง ดันไปเจอลูกค้าที่พูดเก่ง พูดได้เป็นชั่วโมง ไอ้เราเหรอก็อยากต่อยหน้าให้เขาหลับๆไปเลย
เพื่อที่จะได้วิ่งรอกไปหาลูกค้ารายอื่นๆได้ก่อนหมดวัน
แล้วสำหรับผม ลูกค้าที่ขาว+หมวย+สวย+อึ๋ม เนี๊ยะ
มีเวลาให้เราแค่ 5 นาที ขนาดว่าวางแผนไปพบตอน 11 โมงครึ่ง กะว่าได้พาไปทานข้าวแน่ๆ
คุณเธอยังสามารถบอกว่า ต้องเตรียมเอกสารประชุมตอนบ่ายโมงตรง ให้เด็กไปซื้ออาหารกลางวันมาแล้ว รู้ทันเราจริงๆ

ชื่อของคุณมิน นั้นอ่านยากหรือเปล่าผมไม่รู้สึกนะ แต่บอกได้แต่ว่า unique มั๊กมาก
ผมเองเคยพยายามแปลแล้ว แต่แปลไม่ได้ มิน หมายถึงอะไรนะ หรือว่าเกิดเดือนมีนาคม 555
ถ้าชื่อภาษาปะกิตเขียนซะใหม่เป็น MintDiva รับรองว่าฝรั่งต้องอึ้ง
หมอลักษณ์ฟันธง หมอซูมฟันแล้วทิ้ง!!! ดวงพุ่งรุ่งโรจน์
คงต้องตอบคำถามฝรั่งว่า ยูเป็นนักร้องโอเปร่าด้วยหรือ 555 (เอ้..จะฮาตามมั๊ยนี่ เราหมายถึงคำว่า diva หนะ)

เรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลนี้ไม่เคย และไม่อยากเจอเลย
สมัยคุณพ่อทำงานที่ธนาคาร พ่อก็ไปศาลบ่อยมาก กลับบ้านมาก็บ่นเหนื่อยๆ
ตอนเด็กๆ เราก็งงว่าพ่อทำผิดมากหรือไงต้องขึ้นศาลบ๊อยบ่อย
พอเราโตจนสุนัขไม่กล้าเลียก้นถึงรู้ว่า พ่อไปเรื่องปัญหาของลูกค้าต่างหาก
มีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง ไอ้นี้มันบ้า มันทำธุรกรรมอะไรๆ เป็นต้องไปฟ้องร้องเขาหมด สุดท้าย “ทนวยก็ร่ำราย” ทนายก็ร่ำรวย
เอาเงินไปให้ทนายกินหมด ไอ้คุณทนายก็ยุให้ฟ้องจริงๆ
ผมเชื่อว่าไม่นาน มันต้องมีลูกตะกั่วฝังอยู่ในหัวกะโหลกแหงมๆ

ชอบกรอบรูปอันข้างบน
กรอบนั้นมีมาแบบนี้ หรือมีโปรแกรมทำเสริม สอนกันบ้างนะ
สอนดีมีรางวัล สอนไม่ดี ด่าสามวัน 555

ไกด์นูด แอนด์ กูดไนท์ เช่นกาน

หลับสนิทจิตผ่อนคลาย
หมู่มารร้ายจะคอยคุ้มภัย
อย่าได้หวาดหวั่นอันตราย
ขอสหายจงสบายใจ

Mintiva RoyalBlue 4169E1




โดย: จอมมารแห่งหุบเขาคนโฉด (zoomzero ) วันที่: 18 ธันวาคม 2552 เวลา:20:54:36 น.  

 
Tags Maker is a Text Image Generator to write Messages, Comments or Tags on Pictures

ฝันดี ราตรีสวัสดิ์ค่า


โดย: มินทิวา วันที่: 19 ธันวาคม 2552 เวลา:18:48:37 น.  

 


สวัสดีวันจันทร์ค่ะคุณซูม
เริ่มต้น วันแรกของสัปดาห์ ด้วยความสดชื่นนะคะ อิอิ


โดย: มินทิวา วันที่: 21 ธันวาคม 2552 เวลา:8:48:53 น.  

 
ซาหวัดดีคร้าพี่ชาย

งุงิ ว่าจะอัพ blog ใหม่ จะหาเพลงไปลง blog ซะหน่อย แต่ตั้งแต่กลับมาจนป่านนี้ยังเข้าเวป imeem ไม่ได้เลยง่ะ เข้าแล้วมันกลายเป็นเวป my space ไปซะง้าน แล้วแบบนี้เพลงที่อัพไว้มันจะหาไปหมดอีกรึเปล่าน้า

เห็นพี่กบบอกว่าเขาฟังข่าวมา เขาประกาศว่า imeem โดน my space ซื้อกิจการไปแล้ว ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงย้ายโอนข้อมูลอะไรนี่แหล่ะ นู๋ก็ไม่ได้อยู่กรุงเต๊บนาน ไม่ค่อยรู้ข่าวคราวอะไรเท่าไหร่ ยังมึน ๆ งง ๆ เลยทำอะไรไม่ถูกเลยตอนนี้ งงอยู่ *-* พี่ชายรู้ข่าวคราวอะไรมั่งรึเปล่าคะ ว่าที่พี่กบพูดมาจิงรึเปล่า หรือตกลงมานยังไงกานแน่หว่า แล้วต่อไปจะอัพเพลงลงไหนกันดีล่ะเนี่ยะ แง๊ว ๆ ๆ แย่จังเยย

เรื่องหวัด 2009 อีกเรื่องนึง ตอนไปบวช มีคนเอาเจลล้างมือมาแจกหลายพันขวด ตั้งตามจุดต่าง ๆ ให้กดใช้กันได้ฟรี เพราะหวัด 2009 อันตราย และยังมีคนมาบอกอีกว่าข่าวล่าสุดเห็นว่าที่เมืองนอกตอนนี้หวัด 2009 เป็นวันเดียวตายเลย น่ากลัวมาก แต่น่าจะยังไม่เข้าเมืองไทย อะไรนี่แหล่ะ ก็ได้ยินมาคร่าว ๆ แล้วตกลงข่าวจริง ๆ มันยังไงหว่า กลับมารู้สึกแทบไม่ได้ยินโทรทัศน์พูดถึงเรื่องนี้กันเลย มันซาไปแล้วหรือยังไงหว่า ง๊ง งง

แล้วคริสมาสต์ ปีใหม่นี้ พี่ชายมีโครงการพันแปดร้อยล้านจะพากิ๊ก หรือลูกเมียไปช๊อปปิ้งดูไบ หรือเมืองไหนรึเปล่าเนี่ยะ ปีก่อนไปญี่ปุ่นอยู่เลยนิ อิอิ นู๋ก้อคงได้แต่อยู่กรุงเทพฯ เพราะช่วงนี้ต้องผลัดเวรไปเฝ้า office กะดึกค่ะ แต่สิ้นปีว่าจะอยู่ countdown กับกิ๊กซักคน คนไหนก็ยังไม่รู้เหมือนกัน อิอิ แต่จะไปที่ไหน ก็ยังคิดไม่ออกเลยค่ะ มีที่ไหนน่าไปมั่งน้า เอาแบบบรรยากาศดี วิวสวย น่าไป อยู่ในกรุงเทพฯ แล้วก็คงไม่เยอะอ่ะ มีมั๊ย อุอุ หรือว่าสงสัยจะต้องอยู่บ้านน้า *-*


โดย: นู๋ Beee น้องสาวจอมแก่น (Beee_bu ) วันที่: 22 ธันวาคม 2552 เวลา:12:13:23 น.  

 
อ้อ อยากเม้าท์อีกเรื่อง ไปดู Avatar มาแล้ว ไม่เข้าใจเล้ย บีว่ามันอ่านว่า อวาต้า น้า ทำไมเขาถึงมาแปลเป็นชื่อหนังภาษาไทยว่า อวตาร ได้ล่ะนี่ ความหมายมันดูแปล๊กแปลกและไม่เหมาะไปรึเปล่าน้า แต่จริง ๆ จะมาพูดถึงตัวหนัง เป็นหนังอีกเรื่องนึงที่ดูแล้วถูกใจค่ะ หลังจากไม่ได้เจอหนังดี ๆ แบบนี้มานานแล้ว ปรกติหนังฟอร์มยักษ์ ทุนสร้างมหาศาล Effect และ CG ตระการตาส่วนใหญ่จะหนีไม่พ้นแนวบู๊ล้างผลาญหรือไซไฟ แต่ไม่ค่อยได้อะไรหลังจากกลับออกมาจากโรงซักเท่าไหร่ แต่เรื่องนี้สื่ออะไรออกมาได้มากมาย หนังก็ดีภาพและฉากสวย และแปลกตาน่ามหัศจรรย์ช่างคิดเหลือเกิน ที่มีหินลอยอยู่บนอากาศได้ สร้างธรรมชาติวิจิตรได้สวยดีจัง แต่ที่แฝงในหนังที่น่าสนใจก็คือการทำลายล้างของมนุษย์ ดูแล้วไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามนุษย์มันเลวร้าย เห็นแก่ตัว ชั่วร้ายได้ขนาดนี้เชียวหรือ และถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็ไม่อยากเรียกตัวเองรวมว่าเป็นมนุษย์ไปด้วยเลย

มนุษย์แปลว่าผู้มีจิตใจสูง แต่สูงแบบไหนนี่ก็น่าคิดเน๊อะ ถ้าสูงไปด้วยความดีก็ว่าไปอย่าง แต่ทุกวันนี้ที่เห็นอยู่ส่วนใหญ่จะสูงไปด้วยมานะทิฐิ ความเห็นแก่ตัว ลาภ ยศ สรรเสริญ หรือสรุปว่ามีแต่สิ่งเลวร้ายทั้งนั้นเลย มันต่างกันมารตรงไหนกันเนี่ยะ *-*

เนื้อเรื่องคือต้องการไปทำลายพื้นที่ของเผ่าพันธุ์นึงที่เขาอาศัยอยู่ ด้วยเหตุผลเพียงแค่ว่า ใต้ดินตรงนั้นมีแร่ธาตุที่มีมูลค่ามหาศาลอยู่แค่นั้นเอง -*- จะว่าไปเรื่อง District 9 ก็มีส่วนคล้ายกัน แต่แนวเรื่องที่ออกมาแตกต่างกันแบบเทียบไม่ติด ที่เรื่องหลังกลายเป็น alien มาอาศัยอยู่ในโลกมนุษย์แทน แต่เรื่องหนังนี่ดูแล้วเครียดและปวดหัวกว่าเพราะ ความหมายแฝงหรือสัญลักษณ์มากเหลือเกิน ถือว่าเป็นหนังที่หนักเอาเรื่องเลยทีเดียวถ้าดูในแง่ที่จะต้องคิดว่าคนทำต้องการสื่อออกมาถึงอะไรอย่างลึกซึ้งกันจริง ๆ หัวระเบิด *-* หนังก็เลยไม่ค่อยประทับใจในความหนักของเนื้อหาและความเข้าใจยากของคนทั่วไปไปซะหน่อย

เอ... ว่าแต่เรามาพูดอะไรหว่า จริง ๆ แค่จะมาบอกว่า ไปดู Avartar มาแล้ว สนุกดีค่ะ ชอบ จบ อิอิ หลอกให้อ่านมาตั้งนาน งิ

อ้อ จะว่าไปถ้าพูดถึง Avartar แล้ว รูปแสดงตัวใน blog หรือเวปบอร์ดต่าง ๆ ก็คือ Avartar เหมือนกันสินะ มันก็เหมือนเป็นร่างทรง เอ๊ย ร่างแปลงอีกร่างนึงของเราแบบนั้นสิ ใช่มั๊ยคะ จะแปลงเป็นใครอีกกี่คนคนก็ได้ที่ต้องการในโลก cyber สินะ หึหึ


โดย: นู๋ Beee น้องสาวจอมแก่น (Beee_bu ) วันที่: 22 ธันวาคม 2552 เวลา:12:30:35 น.  

 
ปอ ลิง อีกที สามเม้าท์รวดเลยคราวนี้ อิอิ

คราวนี้ไปดูโรงนะก๊ะ ม่ายได้โหลดของก๊อป ของปลอมมาดูน้า จิบอกให้ งิงิ


โดย: นู๋ Beee น้องสาวจอมแก่น (Beee_bu ) วันที่: 22 ธันวาคม 2552 เวลา:12:32:22 น.  

 
To นู๋Beee

เรื่อง imeem หรือ ijigg อะไรพวกนี้
บอกตามตรงว่า บอกบ๊ายบายไปนานแล้ว โหลดเพลงขึ้นไปก็ยาก (หรือเพราะเราโง่นะ)
แถมเอาลงมาเล่นก็โดนหั่น หรือไม่ก็ช้า เหมือนทากเดิน
ยิ่งเน็ทเต่าอย่างที่ใช้ของทู(เรด)อยู่นี่ ยิ่งอืดยืดยาด เข้าไปอีก
แล้ว my space เป็นใครมาจากไหน อันนี้ก็ไม่ทราบได้ บังเอิญใช้เน็ทจีบหญิงเท่านั้น
ไม่ได้ศึกษาหาความรู้ด้านเทคโนโลยี่อะไรกับเขาหรอก เสียใจด้วยนะ 555

เรื่องหวัด 2009 มันหายไปจากหน้าหนังสือพิมพ์ ทีวี และปากรูปกระจับของสาวๆ
ก็เพราะว่ามันตายกันน้อยลงหรือไม่ก็ไม่มีใครกล้าทำข่าวพวกนี้ เพราะอาจจะโดนย้ายไปทำข่าวกระเหรี่ยงคอยาวแทน
เรื่องวัคซีนก็เงียบๆไป ไม่รู้ว่าได้คนทดลองยาหรือยัง พี่ว่าพี่จะไปสมัครเป็นหนูลองวัคซีนนะเนี๊ยะ
แต่กลัวเขาจะเอา DNA ของพี่ไปสกัดเป็นอาวุธชีวภาพไว้สู้กับมนุษย์ต่างดาว

สิ้นปีนี้มีแผนว่าจะอยู่ กทม. เตรียมรถตู้เอาไว้แล้ว กะว่าจะลุยไหว้พระให้หมดเมืองหลวง
แบบว่าขับรถผ่านแล้วก็ไหว้หน้าวัดแบบนั้นอะ เอ้ย...มะใช่
ก็คาดว่าจะแวะวัดใหญ่ เพราะไม่อยากให้ลูกหลานมากระโดดถีบฝาโลงแล้วด่าว่า ไม่เคยพาไปไหว้พระในวัดในเมืองเลย
จริงก็มีแผนการไป ตปท เหมือนกัน (ตระกูลนี้ เราชอบหอบเงินไปให้คนต่างชาติจริงๆ)
กะว่าจะไปขโมยหินที่ปิรามิดมาสักก้อนสองก้อน ดูว่าจะมีอาถรรพ์จริงหรือเปล่า
จีนไปแล้ว ยุโรปไปแล้ว ออสซี่ไม่อยากไปเพราะไม่มีประวัติศาสตร์อะไร ก็เลยเหลือ อียิปต์
สงสัยอยู่เหมือนกันว่า วิญญาณมัมมี่จะหาทางเข้าประเทศได้หรือเปล่า
ขนาดพี่ชายคนโตของเรามีเครื่องบินเจ็ทยังบินแค่ดูไปกับเขมรแค่นั้นเอง
ในใจยังมีอีก 2-3 เมืองที่ต้องไปให้ได้ก่อนลงหลุม ก็คือ แคนาดา รัสเซีย และก็ทะเลเดดซี ฯ
เชื่อหรือไม่ว่ามีคนมาชวนไปอินเดียทุกปี แต่พอเราบอกว่าไม่รู้จะไปทำไม เขากลับทำหน้างง
เพราะคิดว่าเราเป็นธรรมมะขวางโลก
ก็เราคิดอย่างนั้นจริงๆว่า ถ้าจะเอาเงิน 2-3 หมื่นไปเที่ยวแบบนั้น สู่ขับรถไปวัดมหาจุฬาฯ ตรงทางไปอยุธยาดีกว่า
เขาจะได้มีทุนสอนพระรุ่นใหม่ๆ เก่งๆ แล้วได้ออกมาเป็นนักเทศน์ หรือนักวิชาการทางด้านศาสนาพุทธ
ที่บ้านถ้าไปกันก็ 8 – 9 หัว ก็หลักแสน
เขาก็ถามว่าแล้วไปเที่ยวเมืองนอกบ่อยๆทำไม ทำไมไม่เอาเงินไปทำบุญ
ก็ต้องพยายามอธิบายให้เขาฟังช้าๆชัดๆว่า ที่ไปเที่ยวตปท ก็เพราะว่าอยากไปเที่ยว ไม่ได้อยากไปทำบุญ
แต่คุณพี่มาชวนผมไปอินเดียและบอกว่าไปทำบุญกันที่โน่น ผมก็เลยบอกว่า ให้เอาเงินทั้งหมดไปให้มหาวิทยาลัยสงฆ์ของไทยจะดีกว่า
ศาสนาพุทธจะได้เจริญงอกงามในด้านการศึกษา ไม่ใช่แข่งกันสร้างวัตถุและตึกอะไรใหญ่โตบ้าบอเอาไว้ตอนรับพวกทรานสฟอร์เมอร์จากต่างดาว
สังเวชนียสถานก็คือสถานที่ ที่โดนทอดทิ้งมานานตั้ง 2500 กว่าปี แถมตกไปอยู่ในมือของคนศาสนาอื่นไปนานแล้ว
อะไรๆก็โดนเขาเอาไปหมด ถ้าพี่ไปเห็น พี่ก็เศร้าใจมากกว่าดีใจ
และอีกอย่างพระพุทธองค์ก็บอกให้เรายึดถือพระธรรมเป็นตัวแทนต่อจากการปรินิพพาน ไม่ใช่วัตถุหรือรูปบูชาใดๆ
ยิ่งเรื่องมีคนอินเดียมาบอกว่าเป็นพระพุทธเจ้ากลับชาติมาเกิด แล้วเก็บเงินคนดู ยิ่งทำให้ไม่อยากไปประเทศนี้เลย
ใครอยากไปก็ไม่ได้ว่าอะไร เงินของใคร ใครใคร่ใช้อย่างไรก็ทำไป แต่เราแค่ออกความเห็นชั่วๆของเราเท่านั้นเอง
พี่คิดว่า ถ้าเราจะไปแสวงบุญ เราขอเอาเงินไปเป็นทุนให้พระเรียนหนังสือดีกว่า ได้บุญทันที ไม่ต้องไปแสวง ซึ่งมักจะมีคำว่าไปเพื่อโชว์ชาวบ้านมากกว่า
แต่สุดท้ายคนที่มาชวนก็โกรธกลับไปทุกคน 555
แต่ปีต่อมาก็มีคนใหม่มาชวนอีก วนเวียนอยู่แบบนี้ สงสัยคงใจอ่อนสักวัน
นี่ดีนะที่เขายังไม่รู้ว่าปีๆหนึ่งเราจ่ายให้น้องๆหนูๆในเครือข่ายกิ๊กเป็นค่าหอพักเป็นแสนๆ 555

เรื่อง ไอ้เวตะไล เอ้ย อวตาร นั้นก็เป็นอีกเรื่องที่อยากไปดูมากๆ ถ้าไม่มีใครไปดูด้วยก็คิดว่าจะไปดูคนเดียวตอนกลางวันนี่แหละ
คำว่า avatar ใน Dic สาขาคอมฯ เขาแปลว่า ตัวแทนตัวตนของเราในโลกเสมือนจริงหรืออินเทอร์เน็ต, ตัวตนจำลอง, R. repretation
ส่วน Dic ของ HOPE แปลว่า อวตาร, การจุติลงมาเกิดของเทพในศาสนาพราหมณ์, ร่างอวตาร, ร่างที่แบ่งภาค
ส่วนใน Dic Eng-Eng ของ Webster อธิบายว่า
(Hindu Myth.) The descent of a deity to earth, and his incarnation as a man or an animal; -- chiefly associated
with the incarnations of Vishnu.

มองแบบนี้ การที่เราเล่นบอร์ดหรือเกมในอินเตอร์เน็ท ก็เท่ากับเราเปรียบตัวเองเป็นเทพกันเลยนะ (ขนาดพระวิศนุเลยนะจ๊ะ)
มนุษย์หน่อมนุษย์กล้าลบหลู่ งานอาชีพของพระเป็นเจ้ากันเลย ถ้าเทพฮินดูเกิดโกรธขึ้นมา จะ “ตาย5” กันหมดโลกมั๊ยเนี๊ยะ
เขียนมาตรงนี้ รู้สึกมั๊ยว่า เราลบหลู่ศาสนาฮินดู โดยเอาเรื่องของเทพมาเป็น กิจกรรมเล่นๆของเรา
ถ้ารู้สึกเฉยๆ ต่อไปภายหน้าถ้าเห็นคนศาสนาอื่นเขาล้อเลียน หรือทำเรื่องตลกเกี่ยวกับศาสดาของเรา ก็จงหุบปาก และหดหัว
ทำแบบที่เราได้กล้าทำเลียนแบบศาสนาของผู้อื่นเขาด้วย อย่าทำเป็นชักดิ้นชักงอ เวลาฝรั่งมันเอานางแบบมาถ่ายคู่กับพระพุทธรูป
อกเขาอกเรา ไม่ใช่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาล เราทำร้ายจิตใจคนอื่นได้ แต่คนอื่นอย่ามาแหยมเรื่องของเรา
พี่ถึงเกลียดมนุษย์ทุกคนไง จัดการเชือดจิตวิญญาณตัวเอง แล้วเปลี่ยนใหม่ มาเกิดเป็นคนใจมารแบบนี้แฮปปี้กว่า
พี่ก็คิดคล้ายกับเราว่า เราเองเป็นมนุษย์หรือเปล่า เพราะรู้สึกว่าทั้งเราและคนรอบข้าง ล้วนแต่หาคนมีจิตใจสูงนั้นยากมากๆ
ทุกวันนี้พี่ก็ชักจะมองโลกในแง่ร้ายมากจนหนักหนาสาหัสเข้าไปอย่างยิ่ง
ขนาดอ่านชาดก เขาว่ากษัตริย์เมืองหนึ่งครองราชย์อยู่ในศีลในธรรม มีทศพิธราชธรรมเป็นแนวทางการปกครอง แต่ดั้นมีมเหสีและนางสนมเป็นร้อย
เซ็กส์จัดเหมือนพี่นี่นะ เรียกว่าอยู่ในศีลในธรรม แค่เริ่มอ่านก็แอนตี้เรื่องดีๆของคนโบราณไปเสียแล้ว 555
แถมยังพบว่ากษัตริย์องค์นี้ยังชอบรบทัพจับศึกขยายอาณาเขต เค้นฆ่าคนเป็นหมื่นเป็นแสนอีก เซ็งตัวเองจริงๆ

BeeTuss Fuchsia


โดย: จอมมารแห่งหุบเขาคนโฉด (zoomzero ) วันที่: 22 ธันวาคม 2552 เวลา:18:56:25 น.  

 
อิอิ จะไปดูหนังวันไหนบอกนะคะ อยากไปดูอีกรอบ ยังเก็บรายละเอียดได้ไม่ชัดนัก ^_^ วันนี้มาอยู่กะดึก งิ อยู่กะดึกสามวันรวด หอบผ้าหอบผ่อนมาเรียบร้อยแว๊ว กลับบ้านเช้าวันศุกร์ที่เดียวรุย งิงิ ฉะนั้นกลางวันว่าง เรียกไปเดินควงได้คร้า งิงิ

งืม บีถึงว่าไงคะ ว่าทำไม๊ ทำไมคนแปลถึงเอาคำว่า Avartar มาใช้หรือมาแปลว่าอวตาร ได้ เหมือนพวกเราจะไปเทียบเคียงเทพซึ่งดูไม่ควรยังไงไม่รู้จิ คนอื่นอาจจะเฉย ๆ หรือเราคิดมากไปเองหว่า แต่อยากรู้จักว่าถ้าประเทศที่เขานับถือศาสนาฮินดูจริงจังอย่างที่พี่ชายบอก เขาจะด่าหรือโวยกันมั๊ยเนี่ยะ ก็คงไม่พอใจเหมือนกันนั่นแหล่ะนะ *-*

วันนี้เป็นเด็กแว้น ซ้อนมอร์ไซด์มาทำงานแล้วเกิดอุบัติเหตุค่ะ ในทางที่มาจากเทียมร่วมมิตรใกล้จะถึงอยู่แล้วเชียว พอดีว่ามันทุ่มกว่าแล้วมืดมาก รถยนต์คนหน้าก็ดันขับผิดเลนไปขับเลนขวาที่รถจะต้องสวนมา รถเราที่ขับตามอยู่ข้างหลังก็กลัวไอ้คันหน้ามันจะโดนชนเลยระวังอยู่ พอเขาขับเข้าเส้นทางก็ขับตามต่อ แต่ดั๊นไม่ทันดูว่าพื้นไม่เท่ากัน แล้วพื้นมันมีต่างระดับตรงเลนซ้ายเหมือนทำฟุตบาทเล็ก ๆ ขึ้นมาแถวนั้นพอดี รถเลยเอียงสะบัดไปมา จะล้มซ้าย บีนั่งหลับอยู่กะว่าเอาแล้ว งานนี้ล้มแน่ ขากับเข่าถลอกแน่นอน และแล้วเท้าซ้ายก็ไปครูดกับพื้นถนนอยู่ระยะนึง แต่คนขับสติดี ตั้งลำกลับมาทรงตัวต่อทัน ก็เลยเป็นแผลแค่นี้นิ้วโป้งเท้าซ้ายนิ้วเดียวค่ะ โชคดีไปนะเนี่ยะ กะว่าจะได้ไปนอนรพ. แทนเฝ้า office ซะแล้วสิเนี่ยะ *-* หนังถลอกกับระบบนิ้วโป้งอยู่เลยค่ะ แต่ทำแผลเรียบร้อยแล้ว มาเล่าให้ฟังเจ๋ย ๆ ค่ะ ^_^

ไม่รู้บีคิดมากไปเองรึเปล่า แต่ทุกทีจะติดเข็มกลัดหลวงพ่อ แต่วันนี้ลืมติดมา แล้วก็เจอเรื่องแบบนี้เลยซะงั้นง่ะ แง๊ว ๆ ๆ

และมาส่ง good night kiss ก่อนนอนนะคะ จุ๊บ ๆ ๆ ^_^


โดย: นู๋ Beee น้องสาวจอมแก่น IP: 124.122.251.115 วันที่: 22 ธันวาคม 2552 เวลา:22:31:45 น.  

 


อ้าว..เจ๊ย..เฮียอ่ะ
ทึกทักเรียก "เฮีย" ไว้ก่อน กันโดนเรียก "เจ๊" ฮ่า ๆ ๆ
ทำไมแนวคิดเรื่องนั้นถึงได้เหมือนมินเลย
มินอ่ะ มันเป็นพวกรักในซีเมเจอร์ เอ๊ย รักในจินตนาการหากินกะความฝัน ตัวแม่เลยอ่ะ ฮ่า ๆ ๆ
ชอบคนที่ไม่เคยเจอ ไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยพูดจาจริง ๆ ด้วย
นอกจากพูดคุยกันผ่านตัวหนังสือ อาไร ๆ ก็ได้แต่ imagine เอา
ถึงจะรู้ว่า บางทีอาจโดนเค้าหลอก แต่ก็เต็มใจให้หลอก เพราะมันเป็นความฝัน ความสุขของเราอ่ะ
เป็นไงหล่ะ เจอคนบ้า โรคจิต ตัวจริงเข้าให้แล้วสิ เห็นไม๊คะ ฮ่า ๆ ๆ
ในโลกนี้มันไม่มีเรื่อง รักนิรันดร์กาลหรอก ความรักก็เป็นแค่
เพียงความรู้สึกชั่ววูบ
และความรู้สึกนี้มันจะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาและอารมณ์อ่ะนะมินว่า
ใด ๆ ในโลกมันล้วนอนิจจัง ทั้งนั้น แม้กระทั่งเวลาของเรา
ใช้ชีวิตให้มีความสุขดีกว่า เพราะชาติหน้า ไม่ว่าเราจะรักหรือไม่รักกันแค่ไหน
ก็คงไม่มีโอกาสที่จะได้พบกันอีก หรือ ถึงพบก็คงจำกันไม่ได้แล้วนะมินว่า ฮ่า ๆ ๆ

หัวใจของ 2 คนนั้น คงไม่มีวันได้พบกัน
เพราะทั้ง 2 ต่างก็หันหลังให้กัน
หรือ หากว่าทั้ง 2 หันมาเจอกัน
ก็คงได้แต่ส่งความรู้สึกดี ๆ ให้กันเท่านั้น
เพราะมีต้นไม้ใหญ่เป็นกำแพงขวางกั้นทั้ง 2 อยู่

ปล. วันนี้ผิดคอนเซ็บมินนะ ที่ไม่ได้พานางฟ้ามา
เห็นว่าใจละลาย เลยเอาหัวใจมาให้ 2 ดวง
จะได้ละลายช้าหน่อยอ่ะนะคะ
เอ..แต่มอง ๆ แล้วหัวใจที่จุดไฟไว้แล้วเนี่ย
มันน่าจะละลายเร็วกว่าหัวใจที่เต้นอยู่เฉย ๆ อะนะ ฮ่า ๆ ๆ nice wednesday นะคร๊า...


โดย: มินทิวา วันที่: 23 ธันวาคม 2552 เวลา:4:46:14 น.  

 
To นู๋Beee

อุเหม่ๆ ถ้าต้องดูหนังกับคนมีแฟนเป็นโหล่อย่างคุณน้อง
คุณพี่ขอไปดูคนเดียวดีกว่ากระมัง

จำได้ว่าเมื่อก่อนตอนเรียนจบใหม่ๆ ชอบดูหนังคนเดียวมาก สาเหตุก็เพราะมันเก็บกดมานาน
พ่อแม่ไม่เคยพาไปดูหนังเลย ท่านบอกว่าเสียเวลาทำมาหากิน
ครั้นขอเงินไปดูกับเพื่อนๆก็โดนดุ พ่อพูดแรงมาก ท่านบอกว่าเงินทุกบาท “มันเป็นเหงื่อของกะรูนะ”
“กะรูหาเงินลำบากเลือดตาแทบกระเด็น นั่งรถไปทำงาน 3 ต่อ วันละ 5 ชั่วโมง กะรูไม่ให้มะรึงไปดูหนังหรอก”
จำได้ว่าตอนนั้นน้อยใจมั๊กมาก พ่อเราใจร้ายจริงๆ อยากได้พ่อเหมือนคนอื่นที่เขาใจดีกันทั้งนั้น
พอทำงานได้ ก็เลยดูหนังชดเชย แต่ดูไปได้ไม่ถึง 10 เรื่อง ก็เปลี่ยนใจ เก็บเงินดีกว่า เพราะเงินทองมันหายากอย่างที่พ่อสอนจริงๆ
ไม่น่าเชื่อว่าเงินที่ต้องเป็นค่ากินเหล้า ดูหนัง เที่ยวกลางคืน กลายมาเป็นเงินเก็บ และแค่ 3 ปี ก็มีรถกระบะมือสองเน่าๆขับเล่นได้แล้ว
ไม่ต้องโหนรถเมล์ แถมยังแว็บไปทำงานพิเศษตอนเย็นได้อีก 1 จ๊อบ เป็นค่าน้ำมันรถ
มาวันนี้ให้ไปดูหนังคนเดียวหรือสองคน คงต้องไปกับคนพิการ เอ้ย...พิเศษ เท่านั้น 555

เรื่องอวาต้าร์ อย่าเมาท์มากไปเลย คนเล่นเน็ทกว่า 80% มี Avatar เดี๋ยวเขาจะเหม็นบูดตัวหนังสือเราเอา
แต่ขอทิ้งท้ายไว้หน่อยก็ได้ เรื่องที่เห็นคนอื่นลบหลู่ศาสนาอีกศาสนา
เอาเป็นว่า เราเห็นคนศาสนา ค ไปลบหลู่ คนนับถือศาสนา อ เราจะรู้สึกอย่างไร
สำหรับพี่ พี่เฉยๆ เพราะพี่ไม่ใช่คนดี
พอทีนี้ถ้ามีคนศาสนาอื่นเขามาลบหลู่ศาสนาที่พี่นับถือหละ
คำตอบก็เหมือนเดิม เพราะพี่ไม่คิดว่าการลบหลู่ของเขามันจะทำลายศาสนาเราได้
ต่อให้มันเอาปืนมายิงพระพุทธรูปแบบพวกตีลาบัน พี่ก็เฉยๆ ศาสนายังอยู่ในใจ ก้อนหินแกะสลักนั้นก็แค่พังเสียหายไป
วันหลังไปสร้างใหม่ก็ได้ แต่คนที่บอกว่าพวกเขาต้องตกนรกนี่ซิ เป็นประเด็นน่าคิด ทำไมเขาต้องตกนรกด้วยหละ
ก็เขาไม่ได้นับถือ และไม่อยากให้คนของเขานับถือ เอะอะก็จะส่งคนโน้นคนนี้ไปนรก เก่งจริงๆพวกไทยหัวใจพุทธเทียมนี่
คำว่าอุเบกขา คำว่าปล่อยวาง มีบ้างไหม เข้าวัดไปคุยกันให้หมดวันเปล่าๆ (แบบเรานี่ซิ ไม่เข้าวัด แถมยังนินทาคนเข้าวัดได้ทั้งวัน) 555

เสียใจด้วยนะกับอุบัติเหตุที่ไม่เจตนา อย่างไรก็อย่าให้แผลโดนน้ำ 2-3 วันนี้ เดี๋ยวจะติดเชื้อ
แต่ถ้ามันเป็นหนองก็น่าจะไปหาหมอนะ แจ้งว่ามอเตอร์ไซด์ล้ม ก็ใช้พรบ.ได้แล้วมั๊ง

เข็มกลัดหลวงพ่อวัดไหนเหรอ ที่ลืมติด
แต่ถ้าเป็นของหลวงพ่อแถวโคราช ท่านเคยบอกว่า
ถ้าพวกเอ็งขับรถเร็วเกิน 60 ข้าก็โดดออกจากคอไปแล้ว ไม่ไปช่วยตอนที่ 120 ดอก ลูกหลายเอ้ย
ไม่อยากล้างสมองเราเรื่องของศักดิ์สิทธิ์ เดี๋ยวญาติเราเขาจะมาโกรธพี่อีก หุหุ
แต่เอาเป็นว่า ถ้าเราคิดดีทำดี ไม่เคยทำร้ายใครให้เลือดตกยางในออกยางนอกปลิ้น เราก็ไม่ต้องไปกลัวอะไร
ถ้ามันเกิด ก็ให้คิดว่าเป็นกรรมเก่าที่เจ้ากรรมเขามาเอาคืน แต่เจ้ากรรมท่านนี้ถ้าจะปัญญาอ่อนนะ
เราไปวัด แผ่ส่วนบุญให้ เป็นร้อยเป็นพันครั้ง ไม่ได้รับหรือไง หรือว่ารับไปแต่ไม่ยอมอภัย เบี้ยวนี่หว่า?
มิน่าถึงได้เป็นผีไม่ได้ไปผุดไปเกิดแบบนี้ ผีดีๆที่เราทำบุญไปให้น่าจะมาตบกะโหลกไอ้ผีเจ้ากรรมใจร้ายตัวนี้จริง
แบบนี้น่าจะมีสินบนให้นะ ว่าผีตนไหนเก็บหรือซ้อมเจ้ากรรมให้จ๋อยไปได้ เราจะแผ่ส่วนบุญให้ทุกๆวัน
ก็ในเมื่อทำบุญแทบหมดกระเป๋า ยังตามมาจองเวรกันแบบนี้ ก็ต้องใช้ระบบคนโฉดจัดการซิฟระ

ช่วงนี้ทำแปลงกายเป็นชาวสวน ตัดกิ่งไม้ทุกวัน เพราะลมแรง ใบไม้ร่วง แถมปลิวไปตกหน้าบ้านคนอื่น
หน้าบ้านเราสะอาดยังกะจ้าง กทม.มากวาดวันละ 5 รอบ ไอ้คนข้างบ้าน พอตื่นเช้ามาเจอใบต้นปีบ ต้นสาละ
ต้นอมรเบิกฟ้า ก็ทำตาเขียวปัด เดินสะบัดก้นเข้าบ้านไปตะโกนให้คนใช้ออกมากวาดหน้าบ้าน
คนใช้เป็นพม่า รูปร่าง หุ่นดี้ดี ชอบใส่เสื้อยืดเก่าๆรัดๆ ตึงๆ เห็นแล้วคอแห้ง อยากกินมะพร้าวอ่อนจริงๆ
กางเกงขาสั้นก็ขาบ๊านบ้าน นั่งไม่ค่อยระวังเลย อายุเท่าไหร่ดูไม่ออก แต่รู้ว่ายังสาว และน่าจะมีฝาละมีแล้ว
แต่ยายคุณนายคงแฉเรื่องความประพฤติของพี่เอาไว้แรงมั๊กมาก เธอถึงไม่เคยมองสบตากันเลย ชิชิ
ไว้วันไหน เจ้านายเธอเผลอนะ พี่จะล้างแค้นแทนชาวกรุงศรี จีบยายพม่านี่ แล้วหักอกเล่นดังเป๊าะๆ ซะเลย 555
ไชโย!!! (จะดีใจไปทำไม ยังไม่ได้ลงมือทำอะไรให้สำเร็จเลย เฮ้อ..เราหนอเรา)

BeeTuss Fuchsia


โดย: จอมมารแห่งหุบเขาคนโฉด (zoomzero ) วันที่: 23 ธันวาคม 2552 เวลา:17:52:11 น.  

 
To มินทิวา

จะนับญาติ นับอาวุโสกันก็ได้ (เห็นเลียบๆเคียงๆมาหลายครั้ง)
เอาเป็นว่า เฮียจะเรียกลื้อว่า อามิน ก็แล้วกันนะ (หรือจะเอาน้องมิน ดีหละ)
ปีนี้อามินก็จะไปเข้าแยกหลักสี่บางเขน
ของเฮียก็กำลังจะเข้าห้าแยกปากเกร็ดแล้วเหมือนกัน
เราน่าจะวิ่งอยู่ห่างกันประมาณ 10 กม. คงไม่ต้องถึงกับเป็นอาหลานหรอกนะจ๊ะ
แต่ใน bloggang นี่เราแค่ 20 เองนะ (หมายถึงอายุสมองอะดิ) 555

คนในโลกจริงๆยังใจร้ายได้ขนาดนี้ แล้วคนในโลกไซเบอร์มันจะไม่เลวไม่ชั่วกันบ้างหรือไง
เสียดายที่เด็กสาวกว่า 80% กลับเชื่อว่าเจ้าพวกตัวผู้ในเน็ทนั้นเป็นคนดีซะ 99%
เลยโดนหลอกไปทำมิดีมิร้ายกันบ่อย

คนเราพอพอใจกัน ก็มักจะคิดว่าแฟนเราดีอย่างนั้น ดีอย่างนี้
ขนาดไปเจอะเจอความเลวแบบสุดขั้ว ผสมความชั่วแบบสุดขีด
คุณเธอยังบอกว่า ก็คนมันรักไปแล้ว จะให้ทำอย่างไร ป๊าดโถ่!!!
เรื่องมองคนในแง่ดี อย่างที่เคยคุยกันสมัยยุคซิกตี้(จำได้หรือเปล่า?)
ว่า เฮียไม่เคยมองใครว่าเป็นคนดีเต็มร้อยเลย
และเจ้าพวกที่ดีไม่มีที่ตินี่ซิ มันน่าสงสัยเป็นยิ่งนัก
เอาแค่คิดว่า ถ้าได้เป็นแฟนเขาคงจะดีกับเรามากมายหลายขุม
แต่ไม่ลองคิดเผื่อเอาไว้บ้างว่า ถ้าเกิดทะเลาะกันขึ้นมาแล้ว คนๆนี้จะร้ายขนาดไหน
บางคนเลวมาก ตอนรักกันก็ถ่ายคลิ๊ปแฟนสาวเอาไว้ซะเหรดเอ็กซ์ เหรดวาย เหรดเซ็ด
พอขัดใจกันเท่านั้น หรือไม่บางทีก็เหตุผลง่ายๆ แต่ไม่ยอมพูดออกมาก็คือเบื่อ หรือมีคนใหม่
กลับเอารูปแฟนมาประจานจนเสียอนาคต ยิ่งถ้าเป็นคนที่มีหน้ามีตา มีการศึกษา แล้วยิ่งแย่ไปใหญ่
สำหรับเฮีย เฮียมองก่อนเลยว่า ถ้าเขาจะร้ายใส่เรา เขาจะแรงประมาณไหน
เราต้องระวังตัวแค่ไหน ความห่าง ความพอดี ของเรากับเขาจะแค่ไหน ในวันนี้
ถ้าจะพัฒนาต่อไป เราก็ค่อยมาจัดระยะห่างและความไว้วางใจกันในระดับใหม่
เคยดูหนังฝรั่งเรื่องหนึ่ง พ่อนางเอกเกิดไปทะเลาะกับไอ้กุ้ยคนหนึ่ง หมอนี่เลยตามสืบประวัติครอบครัวนี้
แล้วพบว่ามีลูกสาวสวยเรียนหนังสืออยู่มหาวิทยาลัย หมอนี่ก็ปลอมมาเป็นนักศึกษาแล้วจีบจนนางเอกหลง
หนังฝรั่งก็นะ ถ้าผู้หญิงอายุ 18 พอใจผู้ชาย ก็ไม่เหลืออะไรแล้ว
ฝ่ายพ่อนางเอกเป็นคนรวย และเป็นวิศวะเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยของสถานที่ต่างๆ
ก็เลยเอาระบบที่ตัวเองขายมาใช้กับบ้าน วันหนึ่งพ่อก็ทะเลาะกับแฟนลูกสาวอีก
เจ้าหนุ่มไปให้เพื่อนซ้อมตัวเองจนช้ำใน แล้วทำเป็นบอกผู้หญิงว่าพ่อของหล่อนส่งคนไปซ้อมเขา
ทีนี่นางเอกยิ่งรักเจ้าหมอนี่เป็นสิบเท่า แล้ววันหนึ่งเจ้าหนุ่มก็พาคนมาปล้นบ้านแฟนสาว
พอพ่อบอกว่า บ้านเรามีประตูนิรภัย ถ้าไม่มีรหัสก็เขาบ้านเราไม่ได้ ลูกสาวบอกว่าหนูบอกเรื่องนี้กับแฟนไปหมดแล้ว
จากนั้นกลุ่มโจรก็เข้ามาปล้นและทำร้ายคนในครอบครัว ไม่บอกละนะว่าจบอย่างไร
แค่จะบอกว่า ไอ้คนที่เราเห็นว่าดีกับเรามากมาย อาจจะกลายเป็นคนโฉดในวันข้างหน้าก็ได้

สำหรับเรื่องชีวิตคู่ มันก็เหมือนร่างกายเรานั่นแหละ มันมีความเสื่อมไป มีการหาใหม่มาทดแทน
เฮียเจอจังๆมาหลายรายแล้ว โดยเฉพาะเพื่อนเฮีย มีทั้งรักในวัยเรียน รักในที่ทำงาน รักเพราะไปเจอกันในสังคมเดียวกัน
โดยเฉพาะคู่ที่หวานปานน้ำผึ้ง แต่ผู้ชายก็มีบ้านเล็กจนได้ พอหย่ากัน ผู้หญิงควงผู้ชายหน้าใหม่ไปเมืองนอก 2 ต่อ 2 อยู่หลายคน
โอ้....เรื่องจริงนี่มันน่ากลัวว่าในทีวีเยอะเลย
อีกคู่รักกันขนาดพี่ชายผู้หญิงเอาปืนมายิงกันเลย ไม่อยากให้น้องสาวแต่งกับมัน
มันเองก็พยายามเอาชนะใจคนในบ้านผู้หญิงอยู่เกือบสิบปีถึงได้แต่งงานกัน
ที่ไหนได้ พอผ่านไป 3 ปี หมอนั้นซ้อมเมียปางตาย เพื่อนไปเจอสภาพผู้หญิงเข้าเฝือกเพราะซี่โครงหัก
ทุกคนงงว่า ไอ้คนหงิมๆเหมือนกะเทยเมื่อ 10 ปีก่อน ทำไมกลายเป็นคนแบบนี้ไปได้
เรื่องหัวใจไม่ใช่เรื่องใหญ่ คน 2 คนแต่งไปแล้วไม่รักกัน หรือรักกันน้อยลง ไม่ใช่เรื่องใหญ่
แต่การทำร้ายกัน ไม่ว่าร่างกาย หรือจิตใจ นี่ซิ น่าเป็นห่วง เพราะคนโฉดมักซ่อนบุคลิกที่สองได้ดีกว่าคนปกติ

ไม่มีรูปนางฟ้า ก็ไม่น่าเอารูปแบบนี้มาฝากกันเลยนะ
เจ้าของบ้านนี้เกลียดเรื่องชมพูหรือรูปหัวใจหวานแหวว
เห็นแล้วพานจะล้มทั้งยืน (ดีนะที่ตอนนี้ยืนสี่ขาอยู่ อะฮู้อูๆๆๆ)
เล่นมาเผาใจกันเลยเฮ๊อะ ทำแรงเกินไปแล้วนะ
แล้วถ้ามันละลายหมด ทั้งในรูปและที่เต้นอยู่หละจ๊ะ
อาเฮียมิต้องซี้แหงแก๋หรือไง?? หึหึ

อยากบอกคน 2 คนนั้นในกล่อง CB บ้านโน้นว่า
ว่า อย่าท้อแท้ อย่าทอดทิ้ง อย่าท้อถอย
รักแท้ แม้ห่างไกล ก็ส่งใจไปถึงได้
จริงๆ เราว่า รักแบบไหน ก็ส่งใจ ออนไลน์หากันได้ เพียงแต่ว่า มันจะจริงใจหรือเปล่า ว่ามั๊ย อิอิ
บนหน้าผา แถวทิศใต้ของหุบเขาฯ มีจอมยุทธ์ไร้น้ำใจผู้หนึ่ง
ใช้ก้านดอกหญ้าสลักบนแผ่นหิน อ่านได้ใจความว่า

“คนรักกัน ใกล้กัน ดูหวานมัน
คนรักกัน ไกลกัน สัมพันธ์สลาย
คนเกลียดกัน ใกล้กัน แสนวุ่นวาย
คนเกลียดกัน กายไกลกัน กลับคิดถึงกัน”

Mintiva RoyalBlue 4169E1


โดย: จอมมารแห่งหุบเขาคนโฉด (zoomzero ) วันที่: 23 ธันวาคม 2552 เวลา:18:43:20 น.  

 
*-* อุแหม พี่ชายคะ ไอ้ที่กิ่งไม้ใบไม้หน้าบ้านตัวเองสะอาดโล่งแต่ข้างบ้านเยอะทุกวันนี้ นู๋ว่าคงจะเป็นแผนพี่ชายเอาของบ้านตัวเองไปโยนทิ้งบ้านเขา เขาจะได้ต้องใช้เวลาเก็บกวาดเยอะ ๆ ได้ดูสาวพม่าได้นาน ๆ ใช่มั๊ยล่ะ รู้ทันหรอกนะ ชิ

อ้อ มาเม้าท์ต่อเรื่องแผลค่ะ อิอิ มะวานมา office หายาไม่ได้ ทำแผลเบื้องต้นโดยเจอแอลกอฮอล์ที่คุณพี่ไมค์สุดหล่อสั่งซื้อขวดยักษ์มาไว้เช็ดทำความสะอาดโต๊ะ เลยเอาไปล้างแผลพลาง ๆ โอ้มายก๊อด แสบโพด ๆ แอลกอฮอล์ 70% ทำไมมันแรงเยี่ยงนี้ ร้องลั่นเลยเชียว *-* แห่ะ ๆ แล้วคนขี่มอร์ไซด์ก็ออกไปซื้อยาใส่แผลมาใส่ให้ พร้อมพลาสเตอร์ยา โอ้โฮเฮะ เชื่อมั๊ยคะ แม้แต่พลาสเตอร์ปิดแผลลายการ์ตูนเนี่ยะนะ ยังอุตส่าห์ผลิตลายหมีแพนด้าออกมาได้ อุอุ มันดังจิง ๆ วุ้ย ทำไปได้เน๊อะ แต่มันก็น่ารักดีแหล่ะ งิงิ

มาเม้าท์เรื่องพลาสเตอร์ลายแพนด้าเจ๋ย ๆ จุ๊บ ๆ ๆ


โดย: นู๋ Beee น้องสาวจอมแก่น IP: 115.87.83.45 วันที่: 23 ธันวาคม 2552 เวลา:21:10:18 น.  

 

Christmas Graphics

More Christmas Graphics at Jhocy.com



Merry Christmas ค่ะอาเฮีย
ฮ่า ๆ ๆ ฝากไว้ก่อนเหอะ
วันนี้ต้องไปพิษณุโลกค่ะ
เดี๋ยวไว้กลับมาก่อนนะ
จะมาคุยด้วยค่ะ
ปล. มีความสุขมาก ๆ นะคะ ทั้งครอบครัวเลยค่ะ


โดย: มินทิวา วันที่: 25 ธันวาคม 2552 เวลา:5:37:07 น.  

zoomzero
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ของทุกอย่างในโลกมี 2 ด้าน ถ้าเริ่มต้นก็คิดแต่ว่า สิ่งนั้นมีแต่ด้านดีด้านเดียว หรือเลวสุดขีด ต่อให้ศึกษาสิ่งนั้นไปอีกพันๆปี ก็ไม่มีวันเข้าใจ แต่ถ้าเปิดใจมองให้เห็นทั้งสองด้าน และหาความพอดีกับการอยู่กับสิ่งนั้นได้
...
ความสุขย่อมมาคู่กับความทุกข์ เพราะสุขเป็นของไม่เที่ยง เมื่อติดสุข แล้วไม่มีสุขมาให้ชื่นใจ จิตก็จะเป็นทุกข์ ความสงบจึงเป็นของที่เราท่านควรปฏิบัติ
...
การตั้งตัวเป็นจอมมารแห่งหุบเขาคนโฉด จึงไม่หวังให้ผู้ใดมีสุข ไม่อยากให้คนยึดติดกับสุข หากแต่อยากให้พ้นทุกข์ และได้พบกับธรรมมะของจริง ดั่งคำว่า "ไม่มีมาร อรหันต์ไม่เกิด" 555
...
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
15 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add zoomzero's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.