The Princess Diana Tribute

ในความคิดครั้งแรกของผม ผมคิดว่าจะไปเอา YouTube ที่ Elton John ร้องเพลง Candle In The Wind มาใช้กับ entry นี้ แต่พอผมลองรวบรวมข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับองค์หญิงท่านนี้ ซึ่งก็เพิ่งเลือกมาได้มาแค่ 5% ของความต้องการเท่านั้น เลยทำให้คิดได้ว่า ถ้าจะให้ครบถ้วนกันแล้ว ผมคงจะต้องอ่านข้อมูลไปอีก 2 เดือนถึงจะเต็มถังพลังโฉด เลยต้องขอแค่มองหาแค่มุมมองแคบๆ และเขียนอะไรที่สั้นๆ เพื่อไว้อาลัยให้พระองค์ท่าน ในเรื่องการสิ้นพระชนม์ของพระองค์นั้น ผมก็ยังมีความรู้สึกเสียดายและเสียใจอยู่เสมอ ผมคิดว่า ชีวิตคนเรานั้นไม่แน่นอนจริงๆ คนที่เกิดมาไม่มีใครรู้จักมากมาย (ทั้งๆที่มาจากสายตระกูลสูงก็ตาม) เธอเป็นแค่ครูอนุบาล แล้วก็ได้ไปอยู่ในจุดที่สูงเด่นมากๆของประเทศที่มีคนรู้จักกันทั้งโลก ต้องใช้ชีวิตอยู่ในวัง แล้วก็รีบจบสิ้นชีวิตครอบครัว (เพราะมือที่สามและสี่) แถมยังกลับต้องมาสิ้นพระชนม์บนท้องถนน (ที่ไม่ใช่ประเทศอังกฤษ) ด้วยบาดแผลจากอุบัติเหตุร้ายแรง ผมเลยจิตตกไปหลายอึดใจ จนมาเกิดนึกโดนใจกับคำว่า "มือกล้องย่องถ่ายรูป หรือ Paparazzi" โดยที่ผมเองไม่ได้โทษว่าพวกเขาคือสาเหตุหลักของการสูญเสีย และผมก็ไม่ได้ปักใจเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรมที่มีการวางแผนมาจากคนที่เราคิดไปไม่ได้ แล้วก็ยังไม่เชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุธรรมดาๆ ผมไม่เชื่ออะไรทั้งนั้น ผมเลยเศร้า เพราะผมกลับไปแก้ไขอดีตให้ใครไม่ได้ และก็เปลี่ยนวันนี้ให้ดีกว่าเก่าก็ไม่ได้ ผมเศร้าเสียใจ คล้ายๆกับคนในโลกนี้อีกหลายหมื่นแสนล้านคน (แล้วคุณหละครับ เป็นอย่างไรบ้าง หรือจะบอกผมว่า ฉันไม่เกี่ยว!!!)

ด้วยคำว่า paparazzi มันทำให้ผมกลับไปหาเพลงมาใส่ในบล็อกใหม่อีกเพลง โดยผมไม่ได้เน้นเรื่องเพลงไว้อาลัยให้เจ้าหญิง ที่แสนน่ารักของผมพระองค์นี้ ผมขอเปิดเพลง(ประชด)ให้กับคนที่ ชอบตามติดคนดัง ตามกันทุกลมหายใจ ไม่ว่าจะทำงาน กิน นอน นั่ง ขับรถยนต์ คุยกับใคร ถ้ามีภาพหลุด ภาพโป้ ภาพน่าเกลียด ภาพโก๊ะ ภาพฉาว ภาพคาวๆ ฉันจะถ่ายและเอามาแลกเป็นเงิน เพราะฉันทำอาชีพสุจริต ไม่ได้เบียดเบียนใคร แต่ถ้ามีคนถ่ายรูปพ่อแม่พี่น้องของตน แล้วเอาไปประจานหรือหากินบ้าง ผมว่า คนพวกนี้ คงจะฟ้องร้องชาวบ้านจนถึงที่สุด เพราะเขาจะเข้าใจคำว่า “ส่วนตัว” มากกว่าสิ่งมีชีวิตใดๆในโลก

31 สิงหาคม พ.ศ. 2540 เป็นวันที่เกิดเหตุการณ์ที่สะเทือนใจ กับครอบครัวของสุภาพสตรีที่มีชื่อเสียงท่านหนึ่งของประเทศอังกฤษ และส่งผลไปยังความรู้สึกของประชาชนพลเมืองที่อยู่ในประเทศอังกฤษและทวีปยุโรป ความรู้สึกทุกข์และอาวรณ์นั้นก็ขยายตัวออกไปนอกประเทศ นอกพระราชอาณาจักร ซึ่งเป็นอาณาจักรที่พระอาทิตย์ไม่มีวันตกดิน โลกทั้งโลกทำเป็นเฉยเมย ไม่รู้สึกรู้เศร้าไม่ได้ แต่มีสุภาพสตรีสูงศักดิ์ที่สุดของอังกฤษ ผู้ที่สื่อคอยจับตามองว่า พระองค์จะไม่ได้ยินดียินร้ายไปกับคนทั้งโลกได้สักกี่วัน เท่านั้นยังไม่เท่ากับที่คนเกินกว่าครึ่งค่อนโลกเกิดความโกรธเคือง โกรธคนเป็นโอรสของควีนมากกว่าตัวควีน เจ้าชายแห่งเวลส์ทรงทำอะไรในวันที่โลกตกใจ และความเกลียดชังก็ถาโถมไปยังคนที่เจ้าชายรัก รักแรก รักแท้ที่รอการพิสูจน์ ซึ่งเธอไม่ได้ชื่อ ไดอานา แต่เธอกลับชื่อว่า คามิลล่า

ถ้าใครได้ติดตามข่าวของเจ้าหญิงไดอานา แล้วก็คงจะเกิดความรู้สึกต่างๆมากมาย บ้างก็รัก บ้างก็อิจฉา บ้างก็หาว่าสร้างภาพ บ้างก็ชิงชัง (แต่คนไทยส่วนใหญ่ ผมเชื่อว่า มักจะรักพระองค์มากกว่า แต่พวกฝรั่ง โดยเฉพาะคนในรั้วในวังนั้น ว่ากันว่า มีการคิดต่างๆนาๆไปแบบสุดขั้วก็มี) มีคนในลอนดอนที่อาจจะมีอารมณ์รุนแรงในช่วงที่เจ้าหญิงไดอาน่าทรงสิ้นพระชนม์ใหม่ๆ เพราะพระองค์มี 2 สถานะ คือ เป็นเจ้าหญิงอันสูงศักดิ์แห่งอังกฤษ(ตลอดไป) กับ หญิงหม้ายธรรมดาๆที่ผ่านการหย่าร้าง (ในปี ค.ศ. 2539) ผมหมายความว่า เธอตาย ในมุมมองของคนทั่วๆไป และมีอีกหลายคน มองว่าพระองค์สิ้นพระชนม์ในฐานะเชื้อสายกษัตริย์พระองค์หนึ่ง การนำพระศพออกจากโรงพยาบาลแล้วเอาไปเผ่าหรือฝังอย่างสามัญชนนั้นย่อมทำไม่ได้ ท่านหญิงไดอานา ยังเป็น เลดีไดอานา ยังเป็นเจ้าหญิงแห่งเวลส์ ยังเป็นอดีตพระชายาของเจ้าฟ้าชายชาร์ล แห่งเวลส์ และยังเป็นพระมารดาของเจ้าชายแห่งเวลส์ถึง 2 พระองค์...(และเป็นมารดาของเด็กอีกหลายคนในราชวงศ์ เดี๋ยวจะอธิบายให้ทราบ) สรุปว่า ไม่ว่าจะมีใครมาแทนที่ หรือมาใช้พระนามซ้ำกันอีก คนก็จะจำแต่เพียงว่า Princess of Wales มีแค่พระองค์เพียงองค์เดียว

วันที่เกิดประสบอุบัติเหตุนั้น พระองค์หรือเธอไม่ได้มีพระสวามี(หรือสามี) ทรงเป็นหม้าย มิได้ทรงประทับอยู่ในวัง หากแต่ว่าเธออยู่ถูกเฝ้ามองจากฝ่ายตรงข้าม ซึ่งเป็นถึงพระราชินีของประเทศ และพระราชินีเองก็ทรงถูกสื่อซุบซิบนินทาว่า ทรงเป็นศัตรูที่น่ากลัวและอันตรายที่สุดของเจ้าหญิง ส่วนอดีตพระสวามีทรงให้สัมภาษณ์ในทำนองที่ว่า เธอมีชายอื่นจึงเป็นเหตุแห่งการหย่าร้าง ในทางกลับกัน, ท่านหญิงก็เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า ชาร์ลกับคามิลล่า ไม่ใช่เพื่อนรักกันธรรมดาๆ ก่อนวันอภิเษกสมรสและหลัง เจ้าหญิงทรงพบหลักฐานและข้อมูลมากมายที่ทำให้เสียพระทัย ประกอบกับทรงเป็นโรคประหลาด ทำให้เรื่องราวมากมายกลายเป็นอาหารอันโอชะของหนังสือพิมพ์และสื่อต่างๆ จนต้องมีการให้ชื่อเรื่องที่จะนินทากันนี้ว่า สงครามแห่งเวลส์ (War of Waleses) ดังนั้นใครจะเรียกเธอว่าอะไร ใครมีข้อมูลมากมาย เอามาเสริม หรือเอามาลดศักดิ์ศรีของใครต่อใคร ไม่ว่าเชิงบวกหรือเชิงลบก็ตาม แต่ผมขอเรียกท่านว่า เจ้าหญิง....นางฟ้าแห่งสหราชอาณาจักร

"ไดอานา" เจ้าหญิงแห่งเวลส์ หรือ Diana Frances Spencer, The Lady Diana Spencer ทรงเป็นพระธิดาของ John Spencer, Viscount ซึ่งต่อมาเขาได้รับการสืบทอดตำแหน่งเป็น Earl Spencer คนที่ 8 (สิ้นพระชนม์ชีพ 29 มีนาคม 1992 และปัจจุบันน้องชายของเจ้าหญิงก็ได้เป็น เอิร์ลคนที่ 9) เจ้าหญิงทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ในช่วง 1 ก.ค. 1961 ถึง 31 ส.ค. 1997 ซึ่งทรงสิ้นพระชนม์ เนื่องจากอุบัติเหตุรถยนต์ ในอุโมงค์ทางลอดถนน Pont de l’Alma กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส พร้อมกับพระสหาย Dodi Al-Fayed รถที่ทรงใช้คือ Mercedes-Benz S280 สาเหตุมาจาการขับหนีพวก paparazzi โดยมีคำให้การว่าคนขับรถของพระองค์นั้นขับหนีตากล้องอย่างเร็ว ประกอบกับทางที่รถแล่นเป็นทางลงอุโมงค์ในเวลากลางคืน โดยคาดว่าเป็นการชนกระแทกด้านข้างอย่างแรงกับเสาเกาะกลางอุโมงค์ต้นที่ 13 สภาพรถพังยับเยิน มีการสอบสวนอยู่นาน แต่ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรก็มีคนที่ไม่เชื่ออยู่ดี

ชีวิตของเจ้าหญิงไดอาน่า สตรีสูงศักดิ์ท่านนี้เหมือนเทพนิยาย ทรงเกิดจากครอบครัวที่ธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา เพราะทรงเป็นลูกหลานของพระเจ้าชาร์ลที่ 2 แห่งอังกฤษ และอีกสายสกุลก็คือ พระเจ้าเจมส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ (แต่เป็นการสืบทอดแบบทายาทนอกสมรส และราชวงศ์อังกฤษก็เคยมีปัญหาเรื่องการปกครองและครองราชย์ จนถึงขั้นไร้กษัตริย์ก็ยังเคยมี) ส่วนสายเลือดทางพระมารดาก็เป็นลูกครึ่งไอริสกับสก๊อตแลนด์ เจ้าหญิงไดอาน่าเจอมรสุมหนักครั้งแรก ในวัย 6 ขวบ เมื่อพ่อกับแม่หย่าขาดกัน และแม่ก็แพ้คดีการขอสิทธิ์เลี้ยงดูลูกทั้งสี่คน ต่อมาพ่อแต่งงานใหม่ แม่เลี้ยงเข้ากับลูกเลี้ยงไม่ค่อยได้ ปมปัญหาใหม่ๆก็เกิดขึ้นเรื่อยๆ ความกดดันในชีวิตจึงหล่นลงมา ครั้งแล้วครั้งเล่า ราวกับพายุหิมะในคืนที่หนาวเหน็บ

หลายคนยังไม่ทราบว่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์นั้น ไม่ได้มีพระราชโอรสแค่เพียง 2 พระองค์ คือ เจ้ชายวิลเลี่ยม และเจ้าชายเฮนรี่ เท่านั้น แต่ทรงมีพระราชธิดาพระราชโอรส และบุตรชายหญิง อีก 17 คน ทรงมีได้อย่างไร? เมื่อไหร่? กับใคร? ก็ขอบอกว่าทรงมีได้ ในฐานะของ แม่ทูนหัว (godmother) ซึ่งลูกๆ พระธิดา และพระโอรส เหล่านั้นได้แก่
1. เลดีเอ็ดวิน่า กรอสเวนเนอร์ ธิดาของดยุคและดัชเชสแห่งเวสมินสเตอร์ โดยเป็นลูกเลี้ยงคนแรกของไดอานา
2. ฮอนเนอเรเบิ้ลอเล็กซานดร้า นัตช์บอลล์ ธิดาของลอร์ดและเลดีโรมเซ่ย์
3. แคลร์ คาซาแลท ธิดาของอิซาเบล และ วิคเตอร์ คาซาแลท
4. คามิลล่า สไตรเกอร์ ธิดาของเรเบิ้น และฮอนเนอเรเบิ้ลโซเฟีย สไตรเกอร์ ซึ่งเป็นพระสหายที่เคยอยู่แฟลตห้องเดียวกันกับไดอานา
5. เจ้าชายฟิลิปเปส์ พระราชโอรสของอดีตกษัตริย์คอนสแตนตินและสมเด็จพระราชินีแอนน์ มารี
6. ลีโอนารา ลอนสเดล ธิดาของเจมี่และลอร่า ลอนสเดล ลอร่าเป็นนางสนองพระโอษฐ์ของไดอานา
7. แจ๊กกี้ วอร์แรน บุตรของจอห์นและเลดีแคโรลีน วอร์แรน
8. เลดีแมรี่ เวลเลสลี่ย์ ธิดาของมาควิสและมาชันเนสแห่งโดโร
9. จอร์จ ฟรอสต์ บุตรของเซอร์เดวิดและเลดีคาริน่า ฟรอสต์
10. แอนโทนี่ ทวิสตัน-ดาวี่ ธิดาของออดลี่ย์ ทวิสตัน-ดาวี่ และฮอนเนอเรเบิ้ลแคโรลีน ฮาร์บอด-ฮาร์มอนด์ แคโรลีนเป็นพระสหายที่ไดอานาทรงไว้พระทัยมาก
11. แจ๊ค ฟลอคเนอร์ บุตรของซีมอนด์และอิซาเบล ฟอล์คเนอร์
12. ลอร์ดเอ็ดเวิร์ด ดาวน์แพททริค บุตรของเอิร์ลแค้นท์เตสแห่งเซนท์แอนดรูว์
13. แจ๊ค บาทโลเมล บุตรของวิลเลี่ยมและแคโรลีน บาทโลเมล แคโรลีนเป็นพระสหายตั้งแต่มัธยมและเคยอยู่แฟลตห้องเดียวกับไดอานา
14. เบนจามิน ซามูแอล บุตรของฮอนเนอเรเบิลไมเคิลและจูเลีย ซามูแอล จูเลียเป็นพระสหายสนิทของไดอานา ทั้งสองคนมักรับประทานอาหารกลางวันร่วมกันเสมอๆ อีกทั้งยังเป็นเพื่อนไม่กี่คนที่ไดอานาขอคำปรึกษาเรื่องครอบครัวที่ร้าวฉาน
15. แอนโทนี่ แฮร์ริงตัน ธิดาของโจนาธาน แฮร์ริงตัน
16. ดิซซี่ย์ โซแอมซ์ ธิดาของฮอนเนอเรเบิลรูเพิร์ทและคามิลลา โซแอมซ์
17. โดเมนิก้า ลอว์ซัน ธิดาของดอมินิค ลอว์ซันและฮอนเนอเรเบิล โรซา มอนซ์ตัน โรซาเป็นพระสหายคนที่ไดอานาไปประทับอยู่ด้วย 1 เดือนก่อนที่จะสิ้นพระชนม์ โดเมนิก้าเป็นลูกเลี้ยงคนสุดท้ายของไดอานา
(ข้อมูลได้มาจาก วิกิพีเดียภาษาไทย)

พระราชประวัติของพระองค์นั้น ท่านคงหาข้อมูลอ่านกันได้อย่างมากมาย ผมจึงของทำเป็นเฉยเมยกับข้อมูลเหล่านั้น หากแต่ว่า อยากจะขอทำใจเศร้ากับชีวิตของพระองค์ ซึ่งยิ่งรู้มากก็เศร้ามาก ขนาดวันที่สิ้นพระชนม์ไปแล้ว ในวังก็ยังนิ่งเงียบ คุณเชื่อหรือไม่ว่า ถ้ามีหัวหน้าม๊อบในวันที่พระองค์สิ้นพระชนม์ไปในวันที่ 1 - 3 อาจจะเกิดการบุกรุก หรือทำจลาจลในพระราชวังก็ได้ ดีว่าทางในวังออกมารับมือกับเรื่องเหล่านี้ได้ในระดับที่เหมาะสม ช่วง 72 ชั่วโมงหลังที่มีการประกาศอย่างเป็นทางการเรื่องการสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไดอานา ประชาชนก็เฝ้าฟังเสียงจากข้างในพระราชวังบัคกิ้งแฮม แต่เรื่องกลับเงียบเชียบ ราวกับว่า ไม่เคยมีคนชื่อ ไดอานา ในวังนั้นมาก่อนเลย เรื่องการเคลื่อนศพ เรื่องการทำพิธีต่างๆ ฯ หลายคนเข้าใจว่า นี่เป็นอดีตพระสุณิสา หาใช่พระสุณิสาปัจจุบันไม่ พระราชินีจะยอมลดละความบาดหมางลงได้หรือเปล่า? กฎระเบียบการลดธงในวังนั้นไม่ลดให้สามัญชนอยู่แล้ว แต่เรื่องต่างๆมีทั้งคนที่รู้และไม่รู้ คนพูดมากก็มีมาก และคนแกล้งพูดให้มากก็มีมากกว่ามาก แต่ไม่ว่าจะเกิดความสับสนวุ่นวายเท่าใด ยังมีคนอีกเป็นหมื่นเป็นแสนที่เสียใจในการจากไปอย่างกะทันหันของเจ้าหญิงพระองค์นี้ และไม่ว่าจะกี่ปี คนก็ยังระลึกถึงพระองค์ ยังเห็นภาพการกอดเด็กที่เป็นเอดส์ การไปดูพื้นที่ฝังกับระเบิดด้วยพระองค์เอง ฯ

ประโยคที่เป็นสิ่งที่คนทั้งโลกต้องจดจำเอาไว้ เมื่อสมเด็จพระราชินีอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ได้ทรงมีพระราชดำรัสไว้ เมื่อวันศุกร์ที่ 5 กันยายน เวลา 6 นาฬิกา ถ่ายทอดตรงจากพระราชวังบัคกิ้งแฮม ใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า

"What I say to you now as your queen and as a grandmother, I say from my heart, First, I want to pay tribute to Diana myself."

(สิ่งที่ข้าพเจ้าจะได้พูดต่อไปนี้ ทั้งในฐานะสมเด็จพระราชินีของพวกท่านและในฐานะย่าคนหนึ่งของหลาน ข้าพเจ้าพูดทั้งหมดออกจากหัวใจของข้าพเจ้า ก่อนอื่นใดทั้งหมด ข้าพเจ้าขอแสดงความเสียใจอาลัยต่อการจากไปของไดอาน่า) ฯ

zOOmzERo2009

Create Date : 31 สิงหาคม 2552

Last Update : 17 มิถุนายน 2554 19:32:50 น.

11 comments

Counter : 998 Pageviews.

แวะมาเยี่ยมค่ะ เราว่าถ้าท่านไม่ได้เป็นเจ้าหญิง ชีวิตของท่านคงไม่น่าเศร้าขนาดนี้ ตอนท่านสิ้นพระชนม์เราเศร้าไปหลายวันเลยค่ะ ฟังเพลงCandle in The Wind แล้วยิ่งเศร้า Elton Johnแต่งเพลงนี้ได้เพราะขาดใจ ใครเอามาร้้องก็ไม่เพราะเท่า

โดย: haiku

วันที่: 1 กันยายน 2552 เวลา:15:59:26 น.

คุณ haiku ครับ

ถ้าเลดี้ไดอาน่าไม่ได้เป็นเจ้าหญิงแห่งเวลส์
จะมีเด็กและคนอีกหลายคนที่ถูกทอดทิ้ง
ทรงช่วยเหลือผู้คนมากมาย
แต่คนไม่ค่อยเอามาสรรเสริญ
ส่วนใหญ่เอาแต่เรื่อง สงครามในวัง เอามานินทาว่าร้ายท่าน

เพลง candle in the wind เพราะมากครับ
ฟังแล้วก็จะเห็นภาพผู้หญิงที่ถูกกระแสลมร้ายต่างๆพัดใส่พระวรกาย
ทรงผ่านไปได้แล้ว
เหลือแต่ผู้ที่ทำร้ายพระองค์ที่จะต้องตามไปในวันหน้า
หวังว่าเจ้าหญิงจะทรงให้อภัยกับทุกคนได้

โดย: zoomzero

วันที่: 1 กันยายน 2552 เวลา:17:44:42 น.

บิน บิน บิน บิน

อ่านพระราชประวัติ เจ้าหญิงไดอาน่า หรือ ใครกล่าวถึงชื่อ พระองค์ท่านทีไร ทำให้ระลึกถึงพระองค์ท่าน ชีวิตรักอันขมขื่นน่าเศร้า น่าเห็นใจ
ถึงพระองค์ท่านจะจากไปไกลแสนไกลแล้ว ในดินแดนแห่งพระผู้เป็นเจ้า พระองค์ท่านก็อยู่ในความทรงจำของประชาชน ที่ยังรักและศรัทธา ไม่ใช่เฉพาะประชาชนในสหราชอาณาจักรเท่านั้น ประชาชน ทั่วทุกมุมโลกทีเดียว ไม่น้อยล่ะที่ รักท่าน เพราะท่านทำคุณประโยชน์ให้กับสังคมมากมาย ใช่เฉพาะแต่เป็นผู้นำด้านแฟชั่นเท่านั้น

เราคนหนึ่งล่ะ ที่ชื่นชม พระองค์ท่าน เห็นใจในชีวิตสมรสของท่าน เลดี้ไดอาน่า " เจ้าหญิงแห่งเวลส์ "

เพลง candle in the wind เพราะจริงๆค่ะ

โดย: นกสีขาว IP: 79.65.98.123 วันที่: 2 กันยายน 2552 เวลา:7:55:46 น.

Princess Diana quote ....
"Any sane person would have left long ago. But I cannot. I have my sons."

ใครก็ตามที่มีเหตุผล มีสติ ก็คงจะหนี(ไปจากสถานการณ์)ไปนานแล้ว แต่...ข้าพเจ้าทำไม่ได้ เพราะข้าพเจ้ามีลูกชาย(สองคน)

[[[ นี่แหละครับ หัวอกคนเป็นแม่ ]]]

โดย: zoomzero

วันที่: 2 กันยายน 2552 เวลา:9:01:03 น.

มาแว๊วคร้า พี่ชายตัวอ้วนจอมโฉด งิงิ

ขอบคุณมากนะคะที่ไปเม้นท์ไว้ที่ blog เดี๋ยวมีภาค 2 ต่อค่ะ ^_^

งิงิ ขอรับเอาคำชมที่ไปชมไว้ตอนท้าย ว่ามันเป็นของตัวเค้าเองด้วยเลยน้า อิอิ

เรื่องเจ้าหญิงไดอาน่านี่ ผ่านไปเป็นสิบปีแล้วหรือนี่ แต่เหตุการณ์ยังคงชัดเจนและยังคงจำได้แม่นยำในจิตใจมากค่ะ ถึงจะไม่ค่อยติดตามข่าวสารบ้านเมืองโดยเฉพาะของเมืองนอกมากเท่าไหร่ แต่ก็ทราบดีว่าเจ้าหญิงไดอาน่าทรงปฏิบัติภารกิจและคุณงามความดีไว้มากมายเพียงใด

แม้แต่ตอนสิ้นพระชนม์ข่าวแพร่ภาพไปทั่วโลก ผู้คนมากมายมาไว้อาลัยกันมากมายมหาศาลทั้งในประเทศและต่างประเทศ แม้แต่ในประเทศไทยก็ยังเป็นข่าวดังในตอนนั้น

หือ เพิ่งรู้นะเนี่ยะว่าการเป็นแม่ทูนหัวที่รับได้มากมายขนาดนี้ เค้าไมมีจำกัดจำนวนการรับเลยเหรอคะ *-* รวม ๆ เกือบยี่สิบคนแน่ะ

เรื่องของเจ้าและเชื้อพระวงศ์ของเมืองนอก ชีวิตรันทดและน่าเศร้าเกินกว่าที่คนทั่วไปคาดคิดนะคะ มีมาทุกยุคทุกสมัย หลายต่อหลายท่านที่ประสบชะตากรรมเช่นนี้ในหลาย ๆ ประเทศ หลาย ๆ ยุค ซึ่งคงจะกล่าวไม่หมด อย่างที่ดัง ๆ อีกท่านก็เป็นพระนางมารี อังตัวเน็ต ผู้เป็นที่กล่าวขวัญกันว่าชื่นชมลำคออันสวยงามของตัวเอง จนวาระสุดท้ายที่ต้องโดนกิโยตินก็ขอเอาคม ๆ ให้ขาดในทีเดียว กลัวคอไม่สวย *-* หรือเจ้าหญิงพันวันในตำนาน ฯลฯ ชีวิตและชะตากรรมของผู้หญิงนี่น่าเศร้ามาแต่อดีตนะคะ ไม่ว่าจะอ่านจากประวัติศาสตร์เล่มไหน ชาติไหน ยุคไหนก็หนีไม่พ้นซักที

โดย: นู๋ Beee เองค่ะ IP: 124.121.111.21 วันที่: 2 กันยายน 2552 เวลา:15:11:37 น.

Princess Diana's quote ....
"Anywhere I see suffering, that is where I want to be, doing what I can"

ที่ใดมีคนยาก
ฉันอยากจะไปช่วยที่นั้น
ทำที่ฉันทำได้

(แปลแล้วเหมือนกลอนไฮกุ)

โดย: zoomzero

วันที่: 2 กันยายน 2552 เวลา:16:56:13 น.

จริงๆแล้วอยากเขียนอีกเรื่อง
คือเรื่องของเจ้าหญิงแห่งเกาะซากูระ
แต่กลัวว่าจะติดคุกหรือไม่ก็โดนยากูซ่าฟันหัวหลุดจากบ่า
เป็นเรื่องที่มีทั้งต่างและคล้ายกับเจ้าหญิงไดอาน่า
แต่เจ้าหญิงซากูระนั้นทรงเครียดมากกว่ากันเยอะ
ไม่มีรัชทายาทก็โดนกดดัน
มีรัชทายาทแล้วก็ยังโดดกดดัน เพราะไม่ได้เป็นเพศที่เขาอยากได้กัน
แถมคู่สะใภ้ได้พระโอรส ดูเหมือนน่าจะหมดห่วงได้
แต่ก็ยังน่าเป็นห่วงในเรื่องสถานภาพของพระสวามี
ทรงพระประชวรและทรมานอย่างน่าสงสาร
ขนาดที่ไม่สามารถออกมาประกอบภาระกิจใดๆตั้งหลายปี
แถมยังมีพวกฝรั่งเขียนวิจารณ์ไว้เสียน่ากลัว

ขนาดว่าจะไม่เขียนแล้วนะ ยังลื่นไหลออกมาเป็นพรืดๆ
อีกเรื่องก็คือ เขียนไป จะให้แมวที่ไหนอ่าน 555
สู้รู้อยู่เงียบ ตัว(คน)เดียวดีกว่า หุหุ

โดย: zoomzero

วันที่: 2 กันยายน 2552 เวลา:17:20:47 น.

*-*

ม่ายมีแมวอ่าน ก้อมีมู๋เอ๊ย นู๋อ่านไงก๊ะ งิงิ

โดย: Beee IP: 125.24.101.175 วันที่: 4 กันยายน 2552 เวลา:1:57:52 น.

เขา...สูงยอดเสียดฟ้า
เมฆา...ลอยเลื่อนโอบล้อมปลอบประโลม
หุบเหว...เขม็งเขม่นจ้อง

Mountaintop high up to the sky
Clouds gather round cloud-kissing
Valley stare with envy eyes

วจีแห่งมโน
"คนดีที่โดดเด่น
มักจะมีผู้คนห้อมล้อมด้วยคำเยินยอ แต่ส่วนมากมักจะเป็นคำเท็จที่แค่ประโลมหลอก
และมักจะถูกมองจ้องอย่างอิจฉาริษยาจากคนที่มีจิตใจสกปรก
ปราชญ์กล่าวว่า ยิ่งสูงยิ่งหนาว
ทางแก้คือ สูงสุดสู่สามัญ"

zOOmzERo - หุบเขาคนโฉด

โดย: zoomzero

วันที่: 4 กันยายน 2552 เวลา:9:00:34 น.

บิน บิน บิน อีตาลุงบ้า copy อะไรออกมาเป็นตัวอย่างไม่ได้เลย " เดี๋ยวเจอตบ จูบ อย่างเดียว " บ้า บ้า บ้า

บิน บิน บิน เหนือเมฆา บินลู่ลมลอยละล่อง บินสูงผ่านฟ้า หุบเหวเขม็งเขม่นจ้อง มองไม่เห็น
รู้แต่ว่าต้องระวังเป็น ไม่หลงระเริง เมื่อได้บินไกล

อิอิอิ

โดย: นกสีขาว IP: 79.65.63.178 วันที่: 5 กันยายน 2552 เวลา:4:28:04 น.

คุณนกสีขาว

ก็แค่เอาเมาส์ปาดดำๆเอาไว้ก่อน
แล้วกดปุ่ม ctrl พร้อมกับปุ่มตัว c
ก็ copy ไปได้แล้ว
ทุกอย่างไม่เคยสงวนลิขสิทธิ์ เพราะความคิดที่ได้มา
ก็มาจากพ่อแม่ ครู อาจารย์ งานเขียนของคนอื่น
ตลอดจดท่าทางดีเลว ของผู้คน
รูปภาพก็มาจากงานของคนอื่นทั้งนั้น
ถ้าคนไม่มีปัญญาซื้อกล้องดิจิตอล
มันหมดสิทธิ์เอารูปมาลงกันหรือไง
ส่วนค่ายเพลงนี่ก็แปลก กลัวคนฟังเพลงจากบล็อกมากเกินไปหรือเปล่า? หดเหลือ 30 วินาที โถ่...
รวมๆแล้วสิ่งที่เขียนในบล็อก ก็เอามาจากชิ้นส่วนต่างๆของชาวบ้าน ทั้งทางตรงและทางอ้อม
เลยไม่รู้ว่าจะหวงเอาไปทำไม
ตายไปก็เอาไปไม่ได้
ถ้ามีใครขโมยแล้วเขาเอาไปทำเงินได้
เขาเอามาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องตัวเขา
หรือเลี้ยงลูกเมียเขา
หรือเอาส่วนเกินนั้นไปทำบุญ
มันก็เรื่องของเขา
แต่ที่ทำไว้ไม่ให้ copy ง่ายๆ ก็เพราะรู้ว่าจะมีแมวมาแอบ copy นะซิ 555

ไม่ทำอย่างนี้แล้วจะได้ชื่อว่า จอมมารแห่งหุบเขาคนโฉดหรือน้อง

โดย: zoomzero

วันที่: 5 กันยายน 2552 เวลา:13:52:06 น.