หุบเขาคนโฉด ไม่ใช่ไอศครีม ไม่ต้องเข้ามาเลีย หรือเชียร์จนละเหี่ยใจ แต่ขอแค่ความจริงใจ ของคนกล้าคิด ไม่ติดอยู่ในกรอบ
90116 วันครู




วันครู 16 มกราคม 2552


สิ่งหนึ่งที่อยากเขียนเอาไว้ให้ตัวเองจดจำก็คือ คำว่า "วันครู" กับ "วันไหว้ครู" นั้นเป็นคนละวันกัน ถึงแม้จะเป็นเรื่องเดียวกัน แต่เป็นงานที่กระทำต่างกรรมต่างวาระกัน ก็เพราะความที่ไม่ได้เป็นครู เลยสับสนกับเรื่องนี้และยังดันไปจำว่า วันครูน่าจะเป็นวันพฤหัสบดี จนเช้าวันนี้...เด็กๆแถวนี้เขาไม่ไปโรงเรียนกัน และวันนี้ก็เป็นวันศุกร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2552 รู้สึกแปลกใจว่าทำไมเขาไม่โรงเรียนกัน เลยต้องหาข้อมูลใส่หัว เพื่อให้สมองได้มีของดีๆปะปนอยู่บ้าง

วันครู มีมาตั้งแต่ปี 2500 ในสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีของไทยและท่านก็ยังเป็นประธานกรรมการอำนวยการคุรุสภากิตติมศักดิ์อีกด้วยในตอนนั้น คำว่า คุรุสภา (The Teacher Council of Thailand) ไม่ได้แปลว่า สภาครู เฉยๆ แต่มีความหมายว่า สภาครูและบุคคลากรทางการศึกษา คนเราพอถึงวันครูก็นึกแต่ครูจริงๆ จะมีใครบ้างที่หัดมองนอกกรอบ มองคำว่าผู้ทำงานด้านการศึกษานั้นมีใครอีกบ้าง คุณเคยสำนึกบุญคุณคนที่เขาแต่งตำราให้คุณรียนหรือเปล่า? คุณเคยคิดจะไปไหว้ขอบคุณอดีตรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาการหรือทบวงมหาวิทยาลัยกันหรือเปล่า? แล้วลุงภารโรง...เขาเคยมีบุญคุณกับคุณหรือเปล่า? หน่วยงานคุรุสภานั้นมีการแต่งตั้งหรือถือกำเนิดจากประกาศในพระราชบัญญัติครู (น่าจะเป็นปี 2488) เหตุผลที่ว่าทำไมจะต้องกำหนดให้ประเทศไทยมีวันครูด้วย เรื่องนั้นก็ไม่ต้องคิดกันมาก เพราะครูย่อมเป็นผู้มีพระคุณต่อศิษย์มากมาย (ยกเว้นพวกศิษย์อกตัญญู อาจจะไม่คิดแบบนี้) โบราณท่านว่าไว้...ในบ้านมีพระพรหม 2 องค์ คือ พ่อกับแม่ และนอกบ้านก็มีพรหมอีก ก็คือ ครู แล้วทำไมจะไม่มีวันพิเศษให้ครู

ในวันครู จะตรงกับวันที่ 16 มกราคม ของทุกปี สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา อยู่ที่ถนน นครราชสีมา เขตดุสิต กทม. (ใครสนใจลองแวะไปอ่านที่ //www.ksp.or.th) ก็จะจัดงานในวันครูนี้ ซึงในต่างจังหวัดก็จะมีการจัดงานทั่วประเทศเช่นกัน ลักษณะงานก็จะเป็น เรื่องการทำบุญ การประชุม การเสนอชื่อครูดีเด่น และการให้ข้อมูลใหม่ๆทางด้านการศึกษากับผู้เข้าร่วมงาน ฯ ที่น่าสนใจก็คือ หนังสือที่แจกในวันนี้ (ไม่เคยได้อ่านสักเล่มเลย) คิดว่าน่าจะเป็นหนังสือที่ดีมาก สำหรับงานที่จัดในกรุงเทพฯ ก็ต้องเป็นงานของ รมต.กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งต้องเป็นประธานหลัก ในอดีตก็มีนายกรัฐมนตรีมาเป็นประธานเปิดงานให้อยู่หลายท่าน และในวันนี้ท่านนายก อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะก็ได้มาเป็นประธาน (ในขณะที่มีคนเสื้อแดงมาดัก แต่ไม่ต้องห่วง ท่านนายกหลบออกอีกทางไปแล้ว ไม่โดนปาไข่หรอก) รูปแบบงานในสมัยก่อน ตามธรรมเนียมปฏิบัติก็จะเริ่มด้วย มีดนตรีไทยบรรเลงเพลงมหาฤกษ์ (ปัจจุบันไม่ทราบว่าจะเปิดซีดีแทนคนบรรเลงหรือไม่?) แล้วก็เป็นพิธีสงฆ์ มีการตักบาตร ต่อจากนั้นเขาจะให้คนที่เป็นตัวแทนครู (ส่วนใหญ่ก็จะเป็นครูอาวุโสที่เกษียณอายุไปแล้ว) กล่าวนำสวดคำฉันท์รำลึกพระคุณบูรพาจารย์ จะมีใครสงสัยกันบ้างหรือไม่ว่า แล้วเด็กๆนักเรียนปัจจุบันเขาทำอะไรกัน ที่แน่ๆเด็กที่บ้านนี้ก็นอนตื่นสาย ตื่นแล้วก็เล่นคอมฯ ทานขนมบ้างอาหารเช้าบ้างตามอัธยาศัย พอห้างฯเปิดก็โทรฯนัดเพื่อนออกไปทานข้าวเที่ยง แล้วก็อาจจะดูหนังหรือไม่ก็ช๊อปปิ้งต่อจนเย็น ไม่แน่ว่าถ้ายังไม่อยากกลับก็อาจจะเข้าตู้คาราโอเกะกันอีกรอบ นี่แหละเด็กไทยยุคนี้ (ไม่รู้ว่าบ้านอื่น เด็กๆเขาทำอะไรกัน?)

ในเรื่องคำฉันท์หรือบทสวดเทิดทูนพระคุณครูคงจะหาอ่านกันได้ไม่ยาก (ไม่ใช่ขี้เกียจก๊อปปี้นะ คือ ของเขาศักดิ์สิทธิ์มาก ไม่อยากเอามาแปะเรื่อยเปื่อย แล้วตอนนี้ผมก็ไม่ได้ศึกษาข้อมูลอะไรมาเลย ขืนไม่เขียนความคิดลงไปให้กับบทกวีนี้ รู้สึกละอายแก่ใจ หนะ!) บทนั้นเขาเรียกว่า “คาถา ปาเจราจริยา โหนติ คุณุตตรานุสาสกา” เป็นวสันตดิลกฉันท์ อ่านแล้วน้ำตาไหลทุกที ดังนั้นขอเลี่ยงโดยการฝาก มารยาทและวินัยตามระเบียบของกระทรวงศึกษา(ไม่ทราบว่าทางกระทรวงยังคงใช้หัวข้อเหล่านี้อยู่อีกหรือเปล่า?) ใครเป็นครู หรือใครอยากเป็นครู ก็ลองอ่านดู

1. เลื่อมใสการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขด้วยความบริสุทธิ์ใจ
2. ยึดมั่นในศาสนาที่ตนนับถือ ไม่ลบหลู่ดูหมิ่นศาสนาอื่น
3. ตั้งใจสั่งสอนศิษย์และปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เกิดผลดีด้วยความเอาใจใส่ อุทิศเวลาของตน ให้แก่ศิษย์ จะละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าที่การงานไม่ได้
4. รักษาชื่อเสียงของตนมิให้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่ว ห้ามประพฤติการใด ๆ อันอาจทำให้เสื่อมเสียเกียรติและชื่อเสียงของครู
5. ถือปฏิบัติตามระเบียบและแบบธรรมเนียมอันดีงามของสถานศึกษา และปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ซึ่งสั่งในหน้าที่การงานโดยชอบด้วยกฎหมายและระเบียบแบบแผนของสถานศึกษา
6. ถ่ายทอดวิชาความรู้โดยไม่บิดเบือนและปิดบังอำพราง ไม่นำหรือยอมให้นำผลงานทางวิชาการของตนไปใช้ในทางทุจริตหรือเป็นภัยต่อมนุษย์ชาติ
7. ให้เกียรติแก่ผู้อื่นทางวิชาการ โดยไม่นำผลงานของผู้ใดมาแอบอ้างเป็นผลงานของตน และไม่เบียดบังใช้แรงงานหรือนำผลงานของผู้อื่นไป เพื่อประโยชน์ส่วนตน
8. ประพฤติตนอยู่ในความซื่อสัตย์สุจริต และปฏิบัติหน้าที่ของตนด้วยความเที่ยงธรรมไม่แสวงหาประโยชน์สำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบ
9. สุภาพเรียบร้อยประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ศิษย์ รักษาความลับของศิษย์ ของผู้ร่วมงานและของสถานศึกษา
10. รักษาความสามัคคีระหว่างครูและช่วยเหลือกันในหน้าที่การงาน

แถมท้ายด้วยคำปฏิญาณตนของครู อีก 3 ข้อ

ข้อ 1. ข้าจะบำเพ็ญตนให้สมกับที่ได้ชื่อว่าเป็นครู
ข้อ 2. ข้อจะตั้งใจฝึกสอนศิษย์ให้เป็นพลเมืองดีของชาติ
ข้อ 3. ข้าจะรักษาชื่อเสียงของคณะครูและบำเพ็ญตนให้เป็น

สำหรับเรื่องวันไหว้ครูนั้น จะจัดในช่วงหลังเปิดภาคเรียนแรกประจำปีการศึกษา หรือพูดง่ายๆว่า เทอมที่หนึ่ง โดยมากก็เป็นช่วงเดือนพฤษภาคม ถึง มิถุนายน แต่ละโรงเรียน (และมหาวิทยาลัย) จะเป็นผู้กำหนดวันกันเอง แต่ต้องเป็นวันพฤหัสบดีเท่านั้น ไว้ค่อยเจอกันภาคสองในเดือนพฤษภาคมก็แล้วกัน

วันครูโลกองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ UNESCO ได้กำหนดให้วันที่ 5 ตุลาคมของทุกปี เป็น "วันครูโลก" World Teachers"Day โดยเริ่มมีการประชุมทางการศึกษานานาชาติ เมื่อปี พ.ศ.2536 เรื่อยมาจนกระทั่งปี พ.ศ.2547 สมาคมการศึกษาแห่งประเทศไทยและคุรุสภาจึงได้ร่วมกับองค์กรการศึกษาต่างๆ จัดงาน "วันครูโลก" ขึ้นในประเทศไทยเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2547 โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากองค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯไปเป็นประธานในพิธีเปิดงาน

ภาพยนตร์โฆษณาเป็นของ 7eleven ชอบที่ใช้แนวความคิดของการเป็นครูที่ว่า ปั้นดินจนไม่ได้เป็นดินอีกต่อไปแล้วนี่แหละ




Create Date : 16 มกราคม 2552
Last Update : 17 มิถุนายน 2554 19:33:35 น. 2 comments
Counter : 718 Pageviews.

 


โฆษณานี้ไม่ชอบ!!!
ไม่ชอบตรงที่มันทิ่มแทงใจคนดู ต้องการให้คนดูร้องไห้ขี้มูกโป่ง
ไม่ชอบ !!!



โดย: ดราก้อนวี วันที่: 19 มกราคม 2552 เวลา:11:57:05 น.  

 
อิอิ อ้าว blog นี้ก็ไม่ได้ดูอีกแระ แง๊ว ขาดไปหลายอันแฮะเรา จาปรับปรุงตัวนะก๊ะ งิงิ

พี่วีไม่ชอบเหย๋อก๊ะ แต่บีชอบง่ะ ซึ้ง เป็นโรคจิตชอบร้องไห้ อิอิ ถึงไม่ได้เป็นครูยังซึ้งเลย นาน ๆ จะหาโฆษณาดี ๆ จริง ๆ แบบนี้ได้นะคะ ดีแบบไม่ได้แฝงโฆษณาอะไรไว้ คราวนี้เป็นของ 7-Eleven ทำแฮะ นาน ๆ จะทำอะไรแบบนี้ออกมา ดีมากเลยค่ะ

^_^


โดย: Beee IP: 124.122.230.133 วันที่: 9 มิถุนายน 2552 เวลา:15:17:53 น.  

zoomzero
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ของทุกอย่างในโลกมี 2 ด้าน ถ้าเริ่มต้นก็คิดแต่ว่า สิ่งนั้นมีแต่ด้านดีด้านเดียว หรือเลวสุดขีด ต่อให้ศึกษาสิ่งนั้นไปอีกพันๆปี ก็ไม่มีวันเข้าใจ แต่ถ้าเปิดใจมองให้เห็นทั้งสองด้าน และหาความพอดีกับการอยู่กับสิ่งนั้นได้
...
ความสุขย่อมมาคู่กับความทุกข์ เพราะสุขเป็นของไม่เที่ยง เมื่อติดสุข แล้วไม่มีสุขมาให้ชื่นใจ จิตก็จะเป็นทุกข์ ความสงบจึงเป็นของที่เราท่านควรปฏิบัติ
...
การตั้งตัวเป็นจอมมารแห่งหุบเขาคนโฉด จึงไม่หวังให้ผู้ใดมีสุข ไม่อยากให้คนยึดติดกับสุข หากแต่อยากให้พ้นทุกข์ และได้พบกับธรรมมะของจริง ดั่งคำว่า "ไม่มีมาร อรหันต์ไม่เกิด" 555
...
Group Blog
 
 
มกราคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
16 มกราคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add zoomzero's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.