ช่วงนี้ชีวิตวุ่นวายเกินพิกัด...แล้วจะกลับมาเขียนเรื่องที่ค้างไว้ให้จบครับ...สักวัน
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2560
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
29 ตุลาคม 2560
 
All Blogs
 
แจ้ง (27)

27.

อีกอเฝ้าขบคิดถึงข้อความแปลกๆ ที่คอยรบกวนจิตใจซึ่งได้รับมาจากอีกอร่าผู้เป็นน้องสาว ในขณะที่ก้าวเข้าไปภายในห้องทดลองพร้อมด้วยถาดขนาดใหญ่ที่มีกาน้ำชาร้อนๆ ถ้วยชา และจานใส่ขนมชิ้นเล็กๆ การเดินใจลอยพร้อมกับยกถาดใส่ของที่ไม่ค่อยสมดุลด้วยมือเพียงข้างเดียวนั้นไม่เป็นปัญหาสำหรับเขาแม้แต่น้อย

นับเป็นเวลาหลายวันติดต่อกันที่เจ้านายของเขา โทมัส อัลวา เอดิสัน ยอดนักประดิษฐ์แห่งมหานคร ได้เอาแต่หมกตัวอยู่ภายในห้องทดลองจนดึกดื่น และในคืนนี้ก็เช่นกัน เจ้านายของเขาชอบที่จะดื่มชากับของว่างในช่วงเวลานี้เสมอ หากว่ายังคงนั่งทำงานอยู่ และเป็นหน้าที่ของผู้ช่วยอย่างเขาที่จะต้องคอยสนับสนุนการทำงานของเจ้านายให้ดีที่สุด

เขาไม่รู้ว่าเจ้านายของตนกำลังวุ่นวายอยู่กับเรื่องอะไร แต่เขารู้สึกได้ว่ามันจะต้องเป็นเรื่องร้ายแรง และด้วยความไม่มีเหตุผลบางอย่างประกอบกับสัญชาติญาณได้บอกกับเขาว่า เหตุการณ์นี้จะต้องเกี่ยวพันกับอีกเหตุการณ์หนึ่งซึ่งน้องสาวของเขากำลังเผชิญอยู่อย่างไม่ต้องสงสัย

พี่น้องทั้งสองต่างเคยเป็นผู้ช่วยให้กับนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะมามาก เป็นงานที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน จนเปรียบเสมือนมรดกซึ่งตกทอดภายในครอบครัว และถึงแม้ว่าสมาชิกแต่ละคนจะต้องแยกย้ายไปทำงานอยู่ห่างไกลกัน แต่ด้วยวิธีการพิเศษเฉพาะของครอบครัวก็ทำให้พวกเขาทั้งหมดยังคงสามารถติดต่อถึงกันได้อยู่เสมอ

วิธีการที่ว่านี้ไม่มีการเปิดเผยให้กับบุคคลภายนอกได้รับรู้ แต่ครั้งหนึ่งก็ได้เคยมีผู้ที่ทำการศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับตระกูลของพวกเขาได้อ้างถึงการผ่าตัดแลกเปลี่ยนอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับการพูด การได้ยิน หรืออาจรวมถึงระบบประสาทและสมองบางส่วนระหว่างสมาชิกภายในครอบครัวเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งรายงานดังกล่าว บันทึกข้อมูล รวมถึงผู้ที่ทำการศึกษาต่างก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยในเวลาต่อมา

ครั้งหนึ่ง อีกอเคยบอกกับน้องสาวว่า ชโรดิงเจอ แคท นั้นทั้งแปลก และเป็นอันตรายยิ่งกว่าเอดิสันเจ้านายของเขาเป็นไหนๆ แต่เขาก็ยังรู้สึกสงสัยเกี่ยวกับความคิดเห็นของตนในเรื่องนั้นอยู่ โดยเฉพาะในช่วงเวลาเช่นนี้

เขาวางถาดลงบนที่ว่างที่พอหาได้ ซึ่งหมายถึงตำแหน่งที่ไม่มีข้าวของ หนังสือ หรืออะไรก็ตามซึ่งถูกวางทิ้งไว้อย่างไร้ระเบียบ เขาเป็นผู้ช่วยให้กับชายชราผู้นี้มานานจนรู้ว่าห้ามไปแตะต้อง หรือเคลื่อนย้ายสิ่งใดก็ตามภายในห้องทดลองนี้แม้เพียงเล็กน้อย เอดิสันรู้เสมอว่าสิ่งที่เขาต้องการอยู่ที่ใด และหากว่ามันไม่อยู่ตรงนั้น ก็จะหมายถึงความเดือดร้อนครั้งใหญ่สำหรับผู้ช่วยอย่างเขา

“นน้ำชาครับเจ้านาย”

“ไม่ใส่นม หรือน้ำตาลนะ” เอดิสันบอกโดยไม่หันมามอง ซึ่งที่จริงแล้วก็ไม่มีความจำเป็นแต่อย่างใด เพราะอีกอไม่ได้นำพวกมันมาด้วยอยู่แล้ว เขาคงไม่อาจเรียกตัวเองว่าเป็นผู้ช่วยมืออาชีพได้ หากไม่รู้ว่าเจ้านายของตนดื่มชาแบบใด รวมไปถึงชนิดของใบชา อุณหภูมิของน้ำร้อนที่ใช้ และสัดส่วนในการชงที่เหมาะสมด้วย

เอดิสันนั่งอยู่หน้าสิ่งประดิษฐ์อันประกอบไปด้วย หน่วยประมวลผลกลาง ซึ่งเป็นกล่องไม้ขนาดย่อมบรรจุไว้ด้วยแผงวงจร และชิ้นส่วนหน้าตาประหลาดจำนวนมาก หน้าจอแสดงผลที่ถูกดัดแปลงมาจากจอโทรทัศน์ กับแป้นพิมพ์ที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องพิมพ์ดีด และสายไฟขนาดเล็กหลากสีจำนวนมากที่เชื่อมต่อทั้งหมดเข้าด้วยกันอย่างซับซ้อน

ซึ่งเอดิสันเรียกพวกมันว่า คอมพิวเตอร์

สำหรับเครื่องรุ่นล่าสุดนี้ เอดิสันได้ทำการดัดแปลงให้กล่องหน่วยประมวลผลกลางมีขนาดเล็กลงมากจนสามารถนำขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะได้โดยไม่เกะกะ กล่องไม้ใบนี้ถูกประกอบขึ้นจากแผ่นไม้ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นบานหน้าต่างด้วยฝีมือทางช่างไม้ของอีกอ แทนที่ลังไม้ใส่ผลแอปเปิ้ลใบใหญ่ที่เคยใช้กับเครื่องรุ่นที่แล้ว

“...มันดูไม่มีเหตุผลเลยอีกอ” เจ้านายของเขาพึมพำโดยไม่ละสายตาไปจากข้อมูลที่แสดงอยู่บนหน้าจอ ซึ่งตอนนี้สามารถแสดงได้หลายสีพร้อมกันจากที่เคยทำได้เพียงแค่สีเขียวเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ข้อมูลที่ว่าประกอบไปด้วยตัวเลข เครื่องหมาย รวมกันเป็นสมการต่างๆ ซึ่งเป็นภาษาทางคณิตศาสตร์ที่ยาวเหยียดติดต่อกันไปจนราวกับจะไม่มีที่สิ้นสุด

“จจริงครับเจ้านาย” เขาเออออไปตามเรื่อง พร้อมกับเทน้ำชาลงในแก้ว แล้วยืนถือเอาไว้เพื่อรอจังหวะที่จะยื่นส่งให้กับเอดิสัน เขารู้ว่าเจ้านายนั้นไม่ได้ตั้งใจที่จะพูดคุยกับผู้ช่วยอย่างเขาแต่อย่างใด เขาแค่ต้องการพูดออกมาดังๆ เพื่อเรียบเรียงความคิดต่างๆ ที่อยู่ภายในให้ตกตะกอนเท่านั้น

เอดิสันใช้นิ้วชี้มือขวาลากผ่านตัวเลข และเครื่องหมายต่างๆ บนหน้าจอพร้อมกับยื่นมือซ้ายออกไปรับแก้วน้ำชาที่ถูกส่งให้อย่างพอเหมาะ

“ตัวเลขพวกนี้ มันไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย” เอดิสันจิบชาที่ถูกเตรียมให้มีความร้อนพอเหมาะอย่างไม่ใส่ใจ “ฉันไม่ได้หมายความว่าสมการพวกนี้มันไม่ถูกต้องหรอกนะ” เขาวางแก้วลงบนที่ว่างเล็กๆ บนโต๊ะทำงานที่เต็มไปด้วยสิ่งของต่างๆ ได้อย่างน่าประหลาด

“เพียงแต่ว่า...” เขาไล่นิ้วต่ำลงไปเรื่อยๆ ในขณะที่อีกอรอจังหวะที่จะส่งจานใส่ขนมให้กับเขา “...ถ้าแรงสั่นสะเทือน กับความถี่ที่วัดได้ถูกต้อง” เขายื่นมือซ้ายออกมาอีกครั้ง ซึ่งอีกอก็ส่งจานให้ชิ้นขนมอยู่ในตำแหน่งได้อย่างพอดี เขาหยิบขนมไปกัดหนึ่งคำ “ซึ่งฉันตรวจทานถึงสามรอบ และพวกมันตรงกันจนถึงทศนิยมตำแหน่งที่สิบสามเลยทีเดียว”

“คครับเจ้านาย” เขาใช้จานรับขนมที่เหลือซึ่งถูกส่งคืนมาไว้ได้ทัน

“อีกอ เธอเองก็คงรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือน ที่เหมือนแผ่นดินไหวเบาๆ ในช่วงที่ผ่านมานี้ด้วยใช่ไหม”

“คครับเจ้านาย” ครั้งนี้เขาไม่ได้เพียงแค่ตอบรับแบบขอไปทีเหมือนที่ผ่านมา และเขาก็ได้ไม่รู้สึกประหลาดใจแม้แต่น้อย เมื่ออยู่ดีๆ เอดิสันก็พูดถึงเรื่องเดียวกันกับที่น้องสาวของเขาเล่าให้ฟังขึ้นมาพอดี

“ซึ่งที่จริงมันก็ไม่ใช่แผ่นดินไหวอย่างที่เข้าใจกันหรอกนะ เพราะฉันตรวจพบว่าสาเหตุแท้จริงที่ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนพวกนั้นมันมาจาก...” เขาชี้มือขึ้นไปข้างบน “...จากห้วงอวกาศข้างนอกนั่น และฉันเรียกพวกมันว่า คลื่นความโน้มถ่วง” เขายิ้มอย่างพึงใจให้กับชื่อนั้น เพราะมันฟังดูดีจริงๆ

“ทั้งหมดนี้มันหมายความว่าอย่างไรรู้ไหมอีกอ...” เอดิสันโบกมือไปรอบๆ หน้าจอ พร้อมกับยิ้มกว้างอย่างตื่นเต้น เหมือนกับในอีกหลายครั้งที่เขาได้ค้นพบ หรือคิดว่าค้นพบบางสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด

“...มันบอกว่าความเป็นจริงทั้งหมดนี้กำลังจะสิ้นสุดลง ได้ยินไหม อีกอ ความเป็นจริงของจักรวาล...อย่างน้อยก็จักรวาลของเราแห่งนี้ เพราะฉันเข้าใจว่าจะต้องมีจักรวาลอื่นๆ อีกมากมายข้างนอกนั่น”

“คครับเจ้านาย” อีกอยังคงจดจ่อรอจังหวะที่จะยื่นส่งจานขนมให้กับเอดิสันอีกครั้ง

“มันต้องมีจักรวาลจำนวนมากมายนับไม่ถ้วนเบียดเสียดกันอยู่ภายใน ที่ว่าง ที่เกินกว่าจินตนาการของใครจะคิดไปถึงได้ ทีนี้ เมื่อจักรวาลที่อยู่ข้างเคียงหดตัวลง มันก็จะดึงให้จักรวาลของเราต้องขยายตัวออกอย่างช่วยไม่ได้ แล้วความเป็นจริงทั้งหมดของเราก็เริ่มต้นขึ้น และเมื่อถึงเวลา กระบวนการนั้นก็จะย้อนกลับ ต่อเนื่องกันไปเหมือนลูกคลื่น จึงไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น หรือถูกทำลายไปจากกระบวนการนี้ จักรวาลทั้งหมดต่างอยู่กันอย่างสมดุล ในสถานะที่หมุนเวียนเรื่อยไปไม่สิ้นสุด ไม่มีอะไรก่อนการระเบิดครั้งใหญ่ที่ว่านั้น มีเพียงวงจรที่ไม่สิ้นสุด”

'กก็แล้วก่อนหน้าวงจรที่ว่านั้นจะเกิดขึ้นล่ะ รเราก็ยังไม่รู้ว่ามันมีอะไรเกิดขึ้นก่อนอยู่ดี' อีกอเพียงแค่คิด แต่ไม่ได้พูดออกมา เพราะเขารู้ดีว่าเมื่อไรที่ควรจะเงียบ

“แต่เมื่อถูกแทรกแซงจาก คลื่นแรงโน้มถ่วง ลึกลับครั้งนี้...” เอดิสันถอนหายใจ เขาถอนหายใจจริงๆ ไม่ใช่แค่ทำเพื่อให้การบรรยายของเขาดูน่าประทับใจมากขึ้น “ไม่น่าเชื่อว่าจักรวาลของเราจะเปราะบางได้ถึงขนาดนี้” เอดิสันหยิบขนมที่อีกอยื่นจานให้ได้อย่างพอดีมากัดอีกคำหนึ่ง

“แค่เพียงเสียงปลุกเบาๆ เท่านั้นใช่ไหมอีกอ”

“คครับเจ้านาย แคค่เสียงเบาเบาเท่านั้น”

ดวงตาของเอดิสันพลันเบิกกว้าง พวกมันใสกระจ่าง ยิ่งเมื่อรวมเข้ากับรอยยิ้มที่ดูราวกับเด็กน้อยที่พึ่งได้รับของขวัญเป็นของเล่นถูกใจ ทั้งหมดนั้นผสมรวมกันก่อให้เกิดเป็นความรู้สึกสยดสยอง อีกอพลันรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาอย่างฉับพลัน ราวกับผู้คนทั้งหมดภายในมหานครแห่งนี้กำลังออกมาชุมนุมกันพร้อมด้วยคบไฟ และอาวุธครบมือเพื่อทำการไล่ล่าพวกเขาอย่างสุดชีวิต

เอดิสันพลันดีดนิ้วเสียงดัง

“...แล้วความเป็นจริง จักรวาลของเรา และทุกสิ่งก็จะหายวับไป...”

ก่อนที่เขาจะหยิบขนมไปกัดกินอีกคำหนึ่ง พร้อมกับเริ่มส่งเสียงหัวเราะต่อเนื่องอย่างไม่อาจควบคุม

#####

“ฉันไม่คิดว่ามันจะเป็นแผนที่ดีนัก”

ครูยุทธบอกในขณะที่ทั้งสามต่างเคลื่อนตัวไปในความมืด ไม่มีอะไรที่ต้องระมัดระวังมากนักกับหมู่บ้านที่ค่อนข้างสงบสุขในแถบนี้ ไม่มีเวรยามภายในนอกจากรอบๆ หมู่บ้านเพื่อคอยระวังป้องกันพวกสัตว์มืด และก็เห็นได้ว่ามันไม่ค่อยจะได้ผลเท่าไรนักจากการบุกรุกของพวกมันเมื่อคืนก่อน

“เราจะไม่ทิ้งเธอไว้แน่” ใหญ่ว่า

“เธอเองก็คงอยากไปด้วย เพื่อไปช่วยพี่สาวของเธอ” อรุณเสริม

“...แต่ท่านยายคงไม่คิดแบบนั้น โดยเฉพาะท่านยายของหมู่บ้านพวกเธอ...ถ้าเป็นไปได้ ฉันก็ไม่อยากยุ่งกับนาง โดยเฉพาะเมื่อเป็นการยืนอยู่คนละฝั่งแบบนี้”

เด็กหนุ่มทั้งสองมองหน้ากัน พวกเขาต่างก็พอจะรู้ว่าท่านยายของพวกเขานั้นเป็นที่รู้จัก และนับถือไปทั่วดินแดนแถบนี้ แต่ไม่คิดว่าครูยุทธซึ่งเป็นคนภายนอกก็จะเกรงนางมากด้วยเช่นกัน

“...ท่านยายของพวกเธอคนนั้น เป็นคนที่น่ากลัวกว่าที่พวกเธอคิดว่ารู้จักเสียอีก” ครูยุทธตอบราวกับจะได้ยินความสงสัยของทั้งสอง

เด็กหนุ่มต่างหันมองหน้ากันอีกครั้ง “...ยังไงก็ตาม เราจะไม่ยอมทิ้งเธอไว้” ใหญ่ยังคงยืนยันคำเดิม และอรุณก็พยักหน้าเห็นด้วย

ครูยุทธค่อยๆ เดินช้าลงก่อนที่จะหยุดยืนอยู่ใต้เงามืดของหมู่ไม้แถบหนึ่ง

“ถ้าอย่างนั้นก็คงต้องมีการเปลี่ยนแผนนิดหน่อย” เงามืดนั้นคล้ายกับค่อยๆ กลืนกินร่างของครูยุทธไปทีละน้อย หรือไม่อย่างนั้น ตัวเขาก็กำลังค่อยๆ กลายเป็นส่วนหนึ่งของความมืดนั้นเสียเอง “ฉันขอไปรออยู่ที่ส่วนสุดท้ายของแผนหลบหนีก็แล้วกัน ส่วนที่เกี่ยวข้องกับท่านยาย พวกเธอสองคนก็จัดการกันไปเอง”

“แต่...” ใหญ่ยังพยายามจะแย้ง เพราะอย่างน้อยการมีครูยุทธไปด้วยก็คงช่วยพวกเขาได้มาก

“ครูยุทธทำถูกแล้ว เพราะเขาเป็นคนนอกที่แอบเข้ามาในหมู่บ้าน โทษแบบนั้นรุนแรงไม่น้อย โดยเฉพาะถ้าเขาไปทำอะไรให้ไม่ถูกใจ...ท่านยาย...เข้า...” คำพูดของอรุณขาดตอนลง เขารู้ว่าครูยุทธเคยเป็นทหารรับจ้างที่มีฝีมือ แต่ดูเหมือนว่าเรื่องราวในอดีตของเขาคงจะไม่ได้มีเพียงแค่นั้นเสียแล้ว

“เขา...ไปแล้ว” ใหญ่อยากจะเพิ่มคำว่า 'หาย' ลงไปในช่องว่างนั้น เพราะมันเหมือนกับว่าเขาหายตัวไปในความมืดได้จริงๆ “...แล้วพวกเราจะทำอย่างไรกันต่อดี”

“...ก็ทำไปตามแผนเดิม แค่สองคนเหมือนเดิม” อรุณว่า

“แต่เรายังไม่มี...ฉันหมายถึงพวกเรามีแผน แต่มันยังไม่มีรายละเอียด ว่าจะทำอย่างไร” ใหญ่มองหน้าเพื่อนร่วมชะตากรรมของตน

“...ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องมีแผนอะไรกันแล้ว” อรุณสรุป “ถึงมีก็คงไม่ต่างกันสักเท่าไรหรอก” เพราะฝ่ายตรงข้ามนั้นคือท่านยายคนนั้น

#####

“ข้ากำลังรออยู่ทีเดียว”

ท่านยายพูดเสียงดังพอประมาณ เมื่อรู้สึกว่ามีความเคลื่อนไหวเกิดขึ้นทางด้านนอก ซึ่งเป็นครั้งที่สามแล้วในคืนนี้ สองครั้งก่อนหน้านั้นเป็นสัตว์มืดขนาดเล็กที่หลงมาจากฝูงของพวกมัน ก่อนจะรีบหลบหายไปอย่างรวดเร็วเมื่อถูกนางจ้องมอง ส่วนอีกครั้งหนึ่งก็เป็นนกกลางคืนขนาดใหญ่ที่ตัดใจเสี่ยงลงมาโฉบจับหนูที่หน้าบ้านของนาง ซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก เพราะแม้แต่นกพวกนี้ก็ไม่ค่อยกล้าที่จะมาหากินแถวนี้

นางนั่งรออยู่ในความมืดของห้องเล็กๆ ของนางมาจนคิดว่ามันนานพอแล้ว

“...ครับ ท่านยาย”

นางยิ้มให้กับตัวเอง เมื่อเสียงของเด็กหนุ่มที่มีความแปลกใจปนอยู่อย่างชัดเจนดังขึ้น 'ครั้งที่สามมักจะโชคดีเสมอ' และถึงแม้จะเป็นครั้งที่สี่ หรือห้า นางก็คงยังบอกตัวเองว่าโชคดีอยู่เช่นเดิม


Create Date : 29 ตุลาคม 2560
Last Update : 29 ตุลาคม 2560 22:27:22 น. 0 comments
Counter : 690 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

zoi
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




..........
Friends' blogs
[Add zoi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.