ช่วงนี้ชีวิตวุ่นวายเกินพิกัด...แล้วจะกลับมาเขียนเรื่องที่ค้างไว้ให้จบครับ...สักวัน
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2559
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
22 พฤษภาคม 2559
 
All Blogs
 

แจ้ง (ุ13)

13.

อรุณไม่จำเป็นต้องนึกทบทวนถึงการฝึกฝนทั้งหมดที่ผ่านมา เพราะหากต้องทำเช่นนั้นมันคงจะช้าเกินไป สมองต้องมีวิธีการที่จะสามารถนำเอาประสบการณ์ทั้งหมดออกมาประมวลใช้ได้ในเสี้ยววินาที โดยที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องทำอย่างไร

ชาล ดาวินซี ได้เขียนเอาไว้ในหนังสือเล่มหนึ่งซึ่งไม่เป็นที่รู้จักว่า

'เมื่อต้องออกจากสภาวะแสนสบายอันเป็นหนึ่งเดียวกับทุกสิ่งราวกับสวนสวรรค์ชัมบาลาภายในครรภ์มารดา เมื่อโลกภายนอกได้ถาโถมเข้าใส่เป็นครั้งแรก การระเบิดอย่างรุนแรงของ ตัวตน ครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้น เป็น บิ๊กแบง ของสมองที่จะเริ่มต้นสร้างจุดเชื่อมต่อกระแสประสาทจำนวนมากมายขึ้นตามสิ่งกระตุ้น ตามประสบการณ์ที่ได้รับในช่วงแรกแห่งชีวิต แสงวูบวาบจากจุดกระแสประสาทเหล่านั้นแทบจะเป็นดุจเดียวกันกับแสงกระพริบพราวของเหล่าดวงดาวบนฟากฟ้าในจักรวาลเลยก็ว่าได้

จักรวาลแห่งตัวตนของแต่ละคนจะเริ่มขยายเข้าทางด้านใน จนกระทั่งแรงจากการระเบิดครั้งแรกนั้นหมดลง แต่ก็มิได้หมายความว่าหลังจากนั้นแล้วมนุษย์แต่ละคนจะไม่สามารถเกิดการเรียนรู้ใหม่ขึ้นได้อีกเลย เพราะเมื่อเรามีเหล่าดวงดาว มีจักรวาลถายในอันกว้างใหญ่พร้อมอยู่แล้ว ยุคแห่งการเดินทางออกค้นหาก็จะเริ่มต้นขึ้น ประสบการณ์ ความรู้ การฝึกฝน และชีวิต จะสร้างเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างดวงดาวขึ้น ทำให้การเชื่อมต่อกระแสประสาทเหล่านั้นมีประสิทธิภาพ และรวดเร็วยิ่งขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับการกระโดดข้ามกาลอวกาศของความคิดนั่นเอง

แล้ววันหนึ่งก็จะต้องมีผู้ค้นพบความลับแห่งจักรวาลที่อยู่ภายในตัวเราทุกคน'

การฟาดดาบไม้หนักๆ ด้วยท่วงท่าเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมาได้สร้างเป็นเส้นทางด่วนพิเศษขึ้นภายในสมองของเขา เป็นเหมือนสมุดบันทึกพร้อมที่คั่นหนังสือซึ่งสามารถเปิดออกใช้ได้อย่างรวดเร็ว ความทรงจำเหล่านั้นได้ถูกบันทึกลงไปในกล้ามเนื้อทุกมัด ในทุกช่วงจังหวะการหายใจ รวมไปถึงการหลั่งสารเคมีต่างๆ ในร่างกายที่เกี่ยวข้อง เป็นความทรงจำของทั้งร่างกายที่ทำงานสอดประสานร่วมกันได้อย่างไม่ติดขัด

ดาบในมือของเขาถูกตวัดจากล่างขึ้นบน จากขวาไปซ้าย เพื่อปกป้องร่างกายด้านหน้า จู่โจมเข้าใส่เขี้ยวของตัวอะไรก็ตามที่กำลังพุ่งเข้ามา สัตว์มืดที่เขาเชื่อว่าตนเองพี่งพบเห็นจากเหตุการณ์เมื่อคืนก่อน

ในชั่วขณะนั้น แสงไฟที่ด้านหลังของเขาก็ลุกสว่างขึ้นอย่างฉับพลัน หนึ่ง มันเกิดขึ้นด้วยพลังอำนาจลึกลับของท่านยาย หรือไม่ก็ สอง มันเป็นความสามารถอย่างหนึ่งของอุปกรณ์ที่นางหามาครอบครองได้อย่างยากลำบาก ไฟฉายที่สามารถให้แสงสว่างที่เหมือนกับเปลวไฟของจริง มันนับเป็นหนึ่งในผลงานการประดิษฐ์อันยอดเยี่ยมของ โทมัส อัลวา เอดิสัน แห่งมหานครที่ไม่มีใครในหมู่บ้านแห่งนี้รู้จัก

แน่นอนที่คนส่วนใหญ่มักให้น้ำหนักกับคำตอบข้อแรกที่นึกขึ้นได้ก่อน และมีความน่าเชื่อถือมากกว่า

แต่ยังมีอีกหนึ่งคำถามที่ใครหลายคนอาจไม่ทันคิด นั่นคือการที่ท่านยายได้มอบแสงสว่างนี้ให้ในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งหมายถึงการสร้างความประหลาดใจให้กับสัตว์มืดที่พุ่งเข้ามา ถ่วงเวลาการซุ่มโจมตีนี้ออกไปอีกสองสามเสี้ยววินาทีที่อรุณต้องการเพื่อที่จะสามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้

เขารับรู้ได้เมื่อคมดาบในมือปะทะเข้ากับบางสิ่งที่แข็งกระด้าง เขาหวนนึกถึงตัวดาบที่บางเบานั้น มันยังคงเป็นอาวุธใหม่ในมือที่เขาไม่อาจวางใจได้อย่างเต็มที่ 'มันจะหักหรือไม่' เป็นความคิดที่ผุดขึ้นมาโดยที่เขาไม่อาจต้านทานได้

“เจ้าเด็กบ้า” ท่านยายตะโกนลั่นจากด้านหลัง

เขารีบเหวี่ยงตัวหลบเมื่อคมดาบถูกสะบัดอย่างแรงจนเลื่อนหลุดจากเป้าหมาย ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่เขาผ่อนแรงเพราะความลังเลนั้นโดยไม่รู้ตัว สายลมอุ่นชื้นที่เหม็นอย่างร้ายกาจพุ่งเฉียดผ่านข้างตัวไปอย่างรวรเร็ว เขาไม่ลืมที่จะรีบดึงดาบกลับมาตั้งขวางไว้ที่บริเวณทรวงอกเพื่อป้องกันนิ้วมือสั้นๆ แต่มีเล็บแหลมคมที่เคยฝากรอยแผลไว้กับใหญ่มาแล้ว และต้องเบี่ยงตัวหลบอีกครั้งเมื่อหางที่ยาว และแข็งแรงของมันตวัดฟาดเข้าใส่ในตอนที่หมุนตัวกลับ

มันคือ กิ้งก่าที่น่ากลัว มังกร หรือตัวอะไรก็ตามอย่างที่คาด สัตว์มืดประหลาดตัวเดียวกับที่เขาเคยพบ หรืออย่างน้อยเขาก็อยากให้มันเป็นตัวเดียวกัน เพราะการมีเจ้าตัวแบบนี้มากกว่าหนึ่งตัวอยู่ข้างนอกนั่นไม่ใช่ความคิดที่ดีสักเท่าไร

เมื่อการจู่โจมทั้งหมดพลาดเป้าหมาย เมื่อมีแสงไฟสว่างจ้าดักรออยู่ตรงหน้า มันจึงรีบพุ่งวนเพื่อย้อนกลับมาประจันหน้ากับเหยื่อตัวเดิมอีกครั้ง คราวนี้มันเหยียดตัวยืนขึ้นเพื่อให้ดูสูงใหญ่กว่าปกติ ปากที่อ้ากว้างนั้นแสดงให้เห็นเขี้ยว และเป็นที่มาของกลิ่นเน่าไม่พึงประสงค์พวกนั้นด้วย

นอกจากรอยแผลตื้นๆ จากดาบเมื่อครู่ที่พาดเฉียงอยู่ระหว่างริมฝีปากบน และล่างทางด้านขวาของใบหน้า อรุณยังพบว่าที่มุมปากของมันมีเศษเขาของกวางขนาดใหญ่หักติดอยู่ คงเป็นส่วนหนึ่งจากอาหารมื้อที่แล้วของมัน ทั้งหมดทำให้มันดูน่ากลัว แต่ภายใต้แสงสว่างเช่นนี้ ก็ยังน่ากลัวน้อยกว่าในความมืดมิด เมื่อความไม่รู้ ความหวาดกลัว และจินตนาการด้านมืด ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า

มันจ้องดูเหยื่อตรงหน้าที่มีเล็บยาวประหลาดซึ่งสร้างความเจ็บปวดให้เมื่อครู่ กับเหยื่ออีกตัวที่ซ่อนอยู่หลังแสงสว่างน่าปวดหัวนั้น มันลังเลที่จะรีบโจมตีซ้ำอีกครั้ง แต่ก็คงอีกไม่นาน เพราะความโกรธของมันกำลังเพิ่มขึ้น มันคือผู้ล่าที่ยืนอยู่บนลำดับสูงสุด และใครก็ตามที่ทำให้มันเจ็บปวดจะต้องถูกกลืนกินลงไปอย่างสาสม

ในช่วงเวลาสั้นๆ นั้นเองที่เขากลับมาให้ความสนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้าการโจมตี ที่ด้านหลังของกิ้งก่ายักษ์ เลยออกไปตรงสุดขอบแนวแสงสว่าง ใต้ช่องเปิดที่ตอนนี้ประตูบ้านทั้งแผ่นนั้นได้หลุดออกมากองอยู่บนพื้น เขาพบเห็นสัตว์ประหลาดอีกตนหนึ่ง อาจจะกำลังยืนอยู่ เขาไม่มั่นใจเพราะความมืดสลัว มันมีขาที่ไม่เท่ากันหลายข้าง กับแขนที่ไม่เท่ากันอีกหลายข้าง ลำตัวอ้วนใหญ่ผิดรูป กับหัวที่ยุ่งเหยิงสองหัว ซึ่งหนึ่งในนั้นมีเขาโค้งสั้นๆ คู่หนึ่ง พร้อมกับดวงตาดำมืด ที่ถึงแม้เขาจะมองไม่เห็น แต่ก็รับรู้ได้ว่ากำลังจ้องมองมาทางนี้

มันเป็นยิ่งกว่าเจ้ากิ้งก่ายักษ์ที่อยู่ตรงหน้า อรุณไม่สามารถเข้าใจ หรือจัดมันเข้ากับสิ่งมีชีวิตชนิดใดที่เคยรู้จักได้ ภายใต้ความสงบนิ่งที่เกิดจากการฝึกฝน ความสัมพันธ์ระหว่างคนกับดาบในมือ ระลอกคลื่นแห่งความหวาดกลัวได้เริ่มสั่นคลอนตัวเขาจากภายในโดยไม่รู้ตัว

กิ้งก่ายักษ์สูดได้กลิ่นที่คุ้นเคยจากร่างของเหยื่อตรงหน้า หากมันยิ้มได้ก็คงจะฉีกยิ้มไปแล้ว เพราะเวลาแห่งการลิ้มรสเลือดและเนื้อกำลังจะมาถึง

ท่านยายรับรู้ได้ถึงเสียงครางต่ำๆ ที่ผ่านมาทางพื้นดินก่อนจะเคลื่อนขึ้นมาตามร่างกาย มันไม่ใช่ครั้งแรก และจะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย การสั่นสะเทือนที่เคยเกิดขึ้นห่างกันครั้งละหลายสัปดาห์ก่อนหน้า ค่อยๆ เกิดขึ้นถี่มากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่ถึงระดับที่จะก่อให้เกิดคำถามจากชาวบ้าน เพราะพวกเขายังไม่อาจรู้สึกถึงมัน 'แต่คงไม่ใช่หลังจากคืนนี้'

และเฉพาะในการสั่นสะเทือนครั้งนี้เท่านั้นที่นางรู้สึกได้ว่ามีส่วนหนึ่งของระลอกคลื่นถูกส่งออกมาจากร่างของเด็กหนุ่มปะปนอยู่ด้วย

'เขากำลังหวาดกลัว'

ครั้งนี้นางผิดเอง นางไม่ควรลากดึงเขามาร่วมด้วย ความสงบสุขที่ผ่านมาคงทำให้นางอ่อนแอลง มองโลกในแง่ดีจนเกินไป ทั้งๆ ที่นางเคยเป็นคนที่ไม่เชื่อในนิทาน เรื่องเล่า ตำนาน หรืออะไรก็ตามที่จบลงอย่างมีความสุข ไม่ใช่ว่านางจะไม่เชื่อในเรื่องของความดีเอาชนะความชั่วอะไรแบบนั้น แต่เป็นเพราะนางรู้จักกับ เรื่องที่ไม่ได้ถูกเล่า ซึ่งมักเป็นอีกแบบหนึ่ง ยังมีความเจ็บปวดอีกมากมายของผู้คนธรรมดาทั่วไปที่ไม่ได้ถูกบันทึก กล่าวถึง หรือขับร้องไว้ในที่แห่งใดทั้งสิ้น นอกจากภายในใจของผู้ที่พบกับความสูญเสียเท่านั้น

เจ้ากิ่งก่ายักษ์เริ่มขยับหัวใหญ่โตของมันไปมา ดวงตามืดจ้องอยู่ที่อรุณ ปากอ้ากว้างพร้อมกับเสียงขู่เบาๆ ซึ่งผิดกับขนาดตัวที่ใหญ่โตของมัน นางรีบปรับแสงสว่างในมือให้เพิ่มขึ้นเพื่อให้มันเกิดความลังเล ถ่วงเวลาเอาไว้อีกนิด

“เจ้ารีบหนีไป” นางพูดช้าๆ แต่มั่นคง พร้อมกับค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้อรุณอย่างระวัง นางเห็นมันเหลือบมองมาแม้จะเกลียดแสงสว่างก็ตาม

“...แต่ผมยังสู้ได้” มันฟังดูเลื่อนลอยแม้แต่ในหูของตัวเขาเอง

“เจ้าแพ้แล้ว” เสียงของนางอ่อนลง “เจ้าแพ้ตัวเอง และถ้ายังดื้อดึง เจ้าจะต้องตาย” คำว่าตายจากปากของนางนั้นช่างง่ายดาย และจริงจังอย่างประหลาด ยังคงมีความมืดอยู่ที่ข้างกายนาง เงาในมุมที่ไม่ถูกต้องอย่างที่ควรจะเป็น ความมืดที่แม้แต่แสงสว่างเจิดจ้าจากเปลวไฟประดิษฐ์ที่นางยกชูไว้ก็ยังไม่อาจขับไล่ให้จากไปได้ ความมืดนั้นคล้ายจะหันมามองดูนางด้วยความฉงนสนใจ และก็คล้ายกับจะมีรอยยิ้มขึ้นด้วย

ถ้าความตายจะยิ้มได้

“พ่อของเจ้าจะยิ่งเสียใจไปมากกว่านี้” นางเลือกใช้คำพูดที่จะช่วยทำให้เด็กหนุ่มตัดสินใจตามที่นางต้องการได้ง่ายขึ้น นางทำแบบนี้เป็นประจำตั้งแต่ก่อนหน้าที่จะได้รับการคัดเลือกจากท่านยายคนก่อนด้วยซ้ำ ซึ่งนางรู้แล้วว่ามันเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้นางถูกเลือกให้เป็นท่านยายคนต่อมานั่นเอง บางทีอาจจะเป็นเหตุผลหลักเลยด้วย

นางขยับเข้ามาจนใกล้จะถึงตัวเขา เยื้องไปทางด้านขวาเล็กน้อย และไม่ยอมคลาดสายตาจากกิ้งก่ายักษ์ตรงหน้าแม้แต่เสี้ยววินาที

“ส่งดาบของเจ้ามา”

มันเป็นคำสั่งที่เขานึกไม่ถึง ท่านยายอาจสามารถทำได้เกือบทุกอย่าง แต่หนึ่งในนั้นย่อมไม่ใช่การกวัดแกว่งดาบต่อสู้กับสัตว์ประหลาด 'ก็ทำไมจะไม่ได้เล่า' อีกความคิดของเขาเถียงกลับมา

“รีบส่งมาทันทีที่มีสัญญาณ”

'สัญญาณอะไร' เขาอยากจะถาม แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว ตอนแรกเขาคิดว่าตนเองเกิดกลัวจนขาสั่นขึ้นมา ก่อนจะรับรู้ว่าพื้นดินที่ยืนอยู่ต่างหากที่กำลังสะเทือน และรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เขารีบหมุนมือยื่นส่งด้ามดาบให้กับท่านยายโดยไม่ต้องหันไปมอง หากสิ่งนี้ยังไม่นับเป็นสัญญาณ เขาก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว

“หนีไปให้เร็วที่สุด” นางรับดาบไปถือไว้ด้วยมือซ้ายอย่างมั่นคง โดยยังคงถือสลับด้านปล่อยให้ปลายดาบชี้ไปทางด้านหลังเหมือนกับที่รับไปจากมือของเขา

เขารู้ว่ามันก็เป็นวิธีการจับดาบแบบหนึ่งเช่นกัน แม้จะต่างจากสิ่งที่เขาได้รับการฝึกสอนมา เขาคิดจะก้าวถอยหลังอย่างช้าๆ ออกจากวงของการต่อสู้ แล้วค่อยหันหลังวิ่งหนีไปให้เร็วที่สุด แต่แล้วความคิดอีกอย่างหนึ่งซึ่งกระตุ้นให้เขารีบวิ่งมายังสถานที่แห่งนี้ตั้งแต่แรกก็หวนกลับมาเสียก่อน

นั่นคือ 'รุ่ง' และตามติดมาด้วยข้อมูลความจริงเมื่อครู่นี้อีกอย่างที่ว่า 'เจ้าตัวประหลาดนั้นพึ่งออกมาจากข้างในบ้าน' เขารีบหันไปมอง และมันยังคงยืนอยู่ใต้ช่องประตูในที่เดิม

ความกลัวที่มีอยู่ก่อนหน้าลอยห่างจากความคิดของเขาไปอย่างรวดเร็ว อาจเป็นเพราะเขายังหนุ่ม อาจเป็นเพราะความรัก หรืออะไรก็ตาม เขาไม่รู้ และไม่ใส่ใจ ถึงแม้ตอนนี้เขาจะไม่มีดาบอยู่ในมือแล้วก็ตาม 'ฉันจะต้อง...'

“อย่าแม้แต่จะคิดเชียว”

ท่านยายพูดขึ้นทั้งๆ ที่ไม่ได้หันกลับมามองด้วยซ้ำ “ฉันจะจัดการเรื่องรุ่งเอง” นางบอกตัวเองอย่างหนักแน่นว่าคำพูดนั้นไม่ได้เป็นการโกหกแต่อย่างใด เพราะนางไม่ได้บอกออกไปให้ชัดว่าจะจัดการอย่างไรแน่ จะมีความหมายเหมือนกับที่เด็กหนุ่มคิดหรือไม่ ซึ่งนับเป็นอีกส่วนหนึ่งในวิธีการเป็นท่านยายของนาง

แผ่นดินไหวสั้นๆ นั้นยุติลง พร้อมกับขอบฟ้าทางด้านทิศเหนือซึ่งเป็นแนวเขาสูงพลันปรากฏแสงเรืองสีแดงขึ้น เมฆ หรืออาจจะเป็นกลุ่มควันสีมืดกลุ่มใหญ่ลอยนิ่ง ถูกขับเน้นให้ชัดเจนขึ้นด้วยแสงสีแดงนั้น ก่อนตามติดมาด้วยเสียงระเบิดทึบๆ ที่ได้ยินไปทั่วทั้งหมู่บ้านจนทำให้เกิดแรงสะเทือนขึ้นในแก้วหูของทุกคน

ท่านยายรอคอยช่วงเวลานี้อยู่แล้ว

“จงถอยไป”

นางตะโกนใส่เจ้ากิ้งก่ายักษ์พร้อมกับเร่งไฟฉายในมือไปยังระดับสูงสุด โดยรู้ว่ามันคงสว่างแบบนั้นได้อีกเพียงไม่นาน และหลังจากนั้นนางคงต้องหาทางทำความเข้าใจกับคู่มือชวนปวดหัวที่มาพร้อมกับมันให้ได้ ไม่ว่าอย่างไรนางก็ต้องหาทางทำให้มันกลับมาติดสว่างได้อีกครั้ง โดยเฉพาะเมื่อคิดถึงราคาที่ต้องจ่ายออกไปในการที่จะได้มันมาครอบครอง

'ก็หวังว่าเขาจะไม่เห็น'

ไม่รู้ว่าเจ้าตัวประหลาดอีกตัวได้หายไปจากตรงช่องประตูตั้งแต่เมื่อใด ส่วนกิ้งก่ายักษ์นั้นหันตาที่มืดดำของมันหนีจากแสงไฟสว่างจ้าตรงหน้า มันยิ่งโกรธ แต่ก็หวาดกลัวกับสิ่งที่พึ่งเกิดขึ้นนั้นเช่นกัน มันไม่รู้ว่าเสียงดังกับแสงเรืองสีแดงที่ขอบฟ้านั้นคืออะไร แต่ลึกลงไป ความกลัวที่มันเข้าใจว่าตัวเองไม่เคยมีนั้นกำลังเอ่อล้นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

มันทั้งโกรธ สับสน ชิงชังแสงสว่างเจิดจ้า และก็หวาดกลัวด้วย 'กัด' กินให้หมดทุกอย่าง ทำลายทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าไปให้หมด นั่นคือความคิดของมัน

“จงไป”

มันไม่เข้าใจความหมายในเสียงร้องนั้นเลย แต่มันรู้สึกได้ถึงพลังอำนาจจากสัตว์ชราตัวนี้ พลังที่มากเกินกว่าจะบรรจุเอาไว้ในร่างเล็กๆ นั้นได้ พลังที่มีกลิ่นเก่าแก่เช่นเดียวกับของ จ้าว

กิ้งก่ายักษ์ตัดสินใจหันหลังกลับแล้ววิ่งจากไปอย่างรวดเร็ว หากคิดจะหนี ก็ต้องหนีอย่างเต็มที่ ไม่มีประโยชน์ที่จะวางท่าต่อไป




 

Create Date : 22 พฤษภาคม 2559
3 comments
Last Update : 22 พฤษภาคม 2559 13:46:28 น.
Counter : 924 Pageviews.

 

ยังเขียนต่อเนื่องทุกอาทิตย์ไม่ได้ครับ
ช่วงนี้มีเรื่องงาน และก็ยังคิดเรื่องที่เขียนอยู่ไม่ค่อยออกด้วย
ใครที่ติดตามอ่าน ลองทำเป็นลืมไปก่อนสักพักใหญ่ๆ
ปลายปีค่อยกลับมาดูอีกทีก็ได้ครับ

และขอบคุณที่ติดตามกันครับ

 

โดย: zoi 22 พฤษภาคม 2559 13:59:35 น.  

 

เป็นกำลังใจอยู่เสมอครับ คงแกล้งขาดการติดต่อไม่ได้หรอกครับ ก็เพราะว่ามันติดงอมแงมไปแล้ว

 

โดย: อาณาจักรแห่งเรา 24 พฤษภาคม 2559 16:23:04 น.  

 

ดีจ้า มาทักทายนะจ้ะ sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค Hyaluronic คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ

 

โดย: สมาชิกหมายเลข 4061181 25 สิงหาคม 2560 15:35:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


zoi
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




..........
Friends' blogs
[Add zoi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.