ช่วงนี้ชีวิตวุ่นวายเกินพิกัด...แล้วจะกลับมาเขียนเรื่องที่ค้างไว้ให้จบครับ...สักวัน
Group Blog
 
<<
กันยายน 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
8 กันยายน 2552
 
All Blogs
 

วชิระ เวทภพ สยบมาร (44) เล่ห์เหลี่ยม จอมอสูร

ทหารติดตาม ผู้หนึ่งพลันก้าวเดินออกมา ผู้ที่ส่งเสียงขึ้นเมื่อครู่ก็คือมันเอง เมฆา และ วายุ หันมาสบตาแล้วยิ้มให้แก่กันทันที พวกมันรีบประสานมือคารวะพร้อมทั้งกล่าวว่า

“คำนับ จอมอสูร”

ทหารผู้นั้น เอื้อมมือขึ้นปลดหมวกและผ้าคลุมหน้าที่เป็นเครื่องแต่งกายตามปกติของเหล่า ทหารติดตาม ออกมา เผยให้เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยลวดลายประหลาด จอมอสูร กลับปลอมตัวปะปนอยู่ในที่นี้ตั้งแต่แรกแล้ว

นอกจาก เมฆา และ วายุ สองคนแล้ว ผู้คนทั้งหมดที่ชุมนุมกันอยู่ ต่างตื่นตกใจเป็นอย่างยิ่ง

โดยเฉพาะ หิมะ ที่แม้จะพยายามทำสีหน้าให้เป็นปกติแต่ก็ยังมีแววของความตื่นตระหนกเล็ดลอดออกมา มันและ อาทิตย์ ต่างรีบยกมือขึ้นคารวะ จอมอสูร เกือบจะในเวลาเดียวกัน

หิมะ รีบกล่าวว่า

“เหตุใดท่านจึงไม่รออยู่ใน นครอสูร เรื่องราวเล็กน้อยเหล่านี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกเราก็เพียงพอแล้ว ท่านใยต้องมาเสี่ยงภัยอันตรายในที่นี้ด้วย”

สายตาที่เป็นประกายวาววับจ้องจับเข้าที่ใบหน้าของ หิมะ ก่อนที่จะเลื่อนมองไปทาง วชิระ แล้วในที่สุดก็หวนกลับมายัง หิมะ อีกครั้ง

แววตาของ จอมอสูร คล้ายกับมีพลังที่จะสามารถทะลุทะลวงเข้าไปภายในจิตใจของผู้ที่ถูกมันจับจ้องได้ หิมะ เองแม้จะคุ้นเคยกับสิ่งนี้มาเนิ่นนานแล้ว แต่ในครั้งนี้กลับทำให้มันรู้สึกอึดอัดคับข้องใจเป็นอย่างยิ่ง

จอมอสูร จ้องลึกเข้าไปในดวงตาของ หิมะ พร้อมทั้งกล่าวตอบว่า

“ภัยอันตรายใดกัน เราอยู่ในที่นี้มาตั้งแต่ต้นก็ไม่เห็นมีผู้ใดสนใจเรา และหากเราไม่มาในวันนี้ ก็คงไม่ได้พบเห็นความจงรักภักดีของพวกเจ้าที่มีต่อเรามากมายถึงเพียงนี้”

“ในตอนแรกเราคิดเพียงแค่จะกำจัดเสี้ยนหนามสุดท้ายนี้ให้กับท่าน จนเกือบจะละเมิดคำสั่งของท่านไป ยังดีที่มีองครักษ์ทั้งสามคอยเตือนสติเอาไว้ ตัวเรานั้นมีนิสัยดื้อดึงไม่เคยยอมใครง่ายๆ จึงเกิดมีปากเสียงกันขึ้น แต่เมื่อท่านมาปรากฏตัวอยู่ในที่นี้ เราก็นับว่าได้ทำตามคำสั่ง จับตัว วชิระ มาส่งให้กับท่านเรียบร้อยแล้ว”

หิมะ พอพบเห็น จอมอสูร ก็รู้ในทันทีว่าเหตุการณ์ทั้งหมดในวันนี้เป็นแผนซ้อนแผนจริงๆ มันจึงได้แต่ต้องยอมถอยเพื่อที่จะรักษาชีวิตเอาไว้

แต่หาก จอมอสูร ไม่เลิกลา มันก็คิดจะเสี่ยงชีวิตบุกเข้าจู่โจมสังหาร วชิระ ลงให้ได้อย่างรวดเร็วที่สุด

“…เจ้านับว่าทำงานให้เราสำเร็จเรียบร้อยแล้วจริงๆ แต่ตอนนี้เราคิดที่จะมอบหมายงานใหม่ให้กับเจ้าอีกเรื่องหนึ่ง”

“…เชิญท่านสั่งมา”

“ฆ่า วชิระ ให้กับเรา”

หิมะ แม้จะรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง แต่มันก็รู้ว่า จอมอสูร ผู้นี้กรอกกลิ้งเจ้าเล่ห์ เมื่อครู่มันดื้อดึงที่จะลงมือจัดการกับ วชิระ ให้ได้ จอมอสูร เองก็รู้เห็นอยู่ชัดๆ แต่กลับมาออกคำสั่งเช่นนี้ แสดงว่าต้องมีแผนอันใดซุกซ่อนอยู่อย่างแน่นอน

เมฆา และ วายุ ต่างรู้สึกผิดคาดหมายเป็นอย่างยิ่ง พวกมันคิดว่าครั้งนี้ หิมะ ต้องไม่รอดชีวิตอย่างแน่นอน แต่ จอมอสูร กลับมาทำเช่นนี้ พวกมันจึงได้แต่หลบมายืนอยู่ทางด้านข้างด้วยความมึนงงสงสัย

อาทิตย์ มีสีหน้าที่เรียบเฉย มันเองก็เดินเลี่ยงหลบไปทางด้านข้างเช่นกัน แต่ในมือของมันยังคงมีเข็มบินเตรียมพร้อมที่จะซัดพุ่งออกไปได้ตลอดเวลา

หิมะ หันมาเผชิญหน้ากับ วชิระ มันยกมือขึ้นเตรียมที่จะซัดเข็มบินออกไป ไม่ว่าครั้งนี้ จอมอสูร จะมีแผนอะไรซ่อนอยู่ก็ตามที แต่หากมันได้พลังมหาศาลนั้นมาไว้ในครอบครอง มันก็ไม่ต้องเกรงกลัวสิ่งใดอีกต่อไปแล้ว

วชิระ กลับเข้าใจในแผนครั้งนี้ของ จอมอสูร มันลดมือขวาที่ยกขึ้นป้องกันตัวเอาไว้ลง พร้อมกับทอดถอนใจออกมา

จอมอสูร นั้นรู้ว่าระหว่างมันกับ หิมะ มีความลับที่ยิ่งใหญ่ซุกซ่อนอยู่ เพราะครั้งนี้ หิมะ ถึงกับยินยอมทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างออกมา

แต่เพราะว่า จอมอสูร ยังไม่ล่วงรู้ถึงความลับประการนี้ จึงยังไม่แน่ใจว่าสมควรจะจัดการเช่นใดให้เหมาะสมที่สุด ดังนั้นจึงใช้วิธีเช่นนี้เพื่อบีบบังคับให้มันต้องเอ่ยปาก

หากมันยังคงไม่ยอมเปิดเผยความลับออกไป ก็ได้แต่ปล่อยให้ หิมะ สังหารแล้วครอบครองพลังมหาศาลของปีศาจทั้งสองไป ซึ่งมันย่อมไม่อาจปล่อยให้เป็นเช่นนั้นได้ มันหันไปสบตา จอมอสูร แล้วกล่าวว่า

“ข้ามีเรื่องๆ หนึ่งจะเล่าให้ท่านฟัง”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หิมะ ก็รู้ตัวในทันที เข็มบินทั้งหมดถูกซัดพุ่งออกไปอย่างสุดกำลัง ด้วยระยะห่างเพียงแค่นี้ ในเวลาเพียงชั่วพริบตา เข็มบินก็สามารถปักลงบนร่างของ วชิระ ได้

แต่ในเวลาเพียงชั่วพริบตานั้น จอมอสูร ก็ยกมือขวาขึ้นมา ในมือของมันถึงกับมีไม้เท้าเวทอยู่ด้ามหนึ่ง

หินที่อยู่บนหัวไม้เท้าเป็นหินก้อนเล็กๆ ที่ไม่มีลักษณะเด่นสะดุดตาแต่ประการใด หินก้อนนี้กำลังเปล่งแสงสีอ่อนจางๆ ออกมา

เข็มบินทั้งหมดกระทบเข้ากับร่างของ วชิระ แต่เข็มบินยังไม่ทันปักลงสู่ร่าง พวกมันต่างถูกดีดสะท้อนกลับออกมา รอบๆ กายของ วชิระ คล้ายกับมีพลังบางอย่างคุ้มครองอยู่

วชิระ รู้ในทันทีว่ามันเป็นพลังเวทคุ้มครองประเภทหนึ่ง และมันก็ยังได้รับรู้อีกประการหนึ่งว่า จอมอสูร ผู้นี้ นับเป็น จอมเวท ที่กล้าแกร่งผู้หนึ่งเลยทีเดียว

หิมะ มองสบตากับ วชิระ อยู่อีกครู่หนึ่ง ในที่สุดมันก็ทอดถอนใจออกมา

ตอนนี้มันนับว่าเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดโดยกระจ่างแล้ว มันหันมามอง จอมอสูร อีกครั้ง แววตาของมันแสดงว่ายอมรับความพ่ายแพ้แล้ว

แผนการที่วางเอาไว้เพื่อก้าวไปสู่การได้ครอบครองทุกสิ่งทุกอย่าง กลับกลายเป็นสิ่งที่นำพามันมาสู่จุดจบเช่นนี้

หิมะ พลันหัวเราะออกมาอย่างกึกก้อง มันรู้ดีว่าจริงๆ แล้วหนทางรอดนั้นก็ยังมีอยู่ ขอเพียงในระหว่างมันกับ วชิระ มีผู้ใดผู้หนึ่งยินยอมเสียสละ มอบพลังไปให้กับอีกผู้หนึ่ง คนผู้นั้นก็จะสามารถจัดการกับ จอมอสูร ได้

แต่ผู้ใดเล่าจะยินยอมกระทำเช่นนั้น มันพลันหยุดหัวเราะลงอย่างฉับพลันแล้วกล่าวว่า

“เราจะเป็นคนบอกเล่าให้ท่านฟังเอง”

หิมะ ค่อยๆ เล่าเรื่องราวของ ทิวากาล และ รัตติกาล ออกมาให้คนทั้งหมดฟัง รวมถึงเรื่องของพลังมหาศาลที่ถูกกล่าวขานถึงด้วย

“หากผู้ใดได้ครอบครองปีศาจขาว และ ดำ พร้อมๆ กัน ก็จะได้ครอบครองพลังมหาศาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในแผ่นดินนี้เอาไว้”

เสียงหัวเราะพลันดังขึ้น จอมอสูร ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างกึกก้อง




 

Create Date : 08 กันยายน 2552
0 comments
Last Update : 8 กันยายน 2552 14:31:18 น.
Counter : 662 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


zoi
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




..........
Friends' blogs
[Add zoi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.