วิธีคำนวณไข่ตก..
ในแต่ละรอบเดือน มี "ไข่" เจริญเติบโตขึ้นหลายใบ แต่อาศัยกลไกธรรมชาติช่วยคัดเลือกให้เหลือ "ไข่" สมบูรณ์ตกออกมาเพียงใบเดียว ซึ่งเราสามารถทำนายวันที่ "ไข่ตก" ได้โดย
1. วัดอุณหภูมิร่างกาย ก่อนตกไข่ไม่นานจะมีการลดลงของอุณหภูมิร่างกายเล็กน้อย จากนั้นจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและคงอยู่เช่นนั้นเป็นเวลานานจนกว่าจะมีระดู วันใดที่อุณหภูมิร่างกาย มีลักษณะลดลงและเพิ่มสูงขึ้นทันที วันนั้นเป็นวันที่ "ไข่ตก"
2. ก่อน "ไข่ตก" 12-24 ชั่วโมง จะมีการเพิ่มสูงขึ้นของ "LH" อย่างรวดเร็วทันทีทันใด เรียกว่า "LH SURGE" ช่วงเวลานี้จะมีฮอร์โมน "LH" อยู่ในกระแสเลือด ปัสสาวะ หรือน้ำลายจำนวนมาก ปัจจุบันมีอุปกรณ์ทดสอบ "LH SURGE" มากมาย จึงเป็นการง่ายที่จะทราบเวลา "ไข่ตก" หากมีเพศสัมพันธ์ในช่วงเวลาหลังทดสอบผลบวก 12-24 ชั่วโมง โอกาสตั้งครรภ์จะมีสูงมาก
3. น้ำเมือกภายในช่องคลอดสตรีช่วงเวลาใกล้ไข่ตก จะมีจำนวนมากและยืดหยุ่นได้ดี ในช่วงเวลานี้สตรีผู้นั้นจะมีความรู้สึกเปียกชุ่มในช่องคลอดตลอดเวลา และหากนำน้ำเมือกขณะนั้นมาทำให้แห้งบนแผ่นกระจก และส่องขยายดู จะเห็นเป็นผลึกรูปเฟิร์นอย่างสวยงาม
4. เราสามารถคำนวณหาวันที่ "ไข่ตก" ได้ง่ายๆ โดยการเอาจำนวนวัน (เฉลี่ย) ของรอบระดู (วันแรกของระดูถึงวันแรกของระดูถัดมา) เช่น 28, 30 หรือ 35 ลบด้วยตัวเลข 14 (ระยะครึ่งหลังของรอบระดูซึ่งเป็นระยะเวลาคงที่) จะได้วันที่ "ไข่ตก" พอดี
*** ยกตัวอย่าง *** สตรีนางหนึ่งมีระดูทุก 30 วัน ดังนั้นจะมี "ไข่ตก" ในวันที่ (30-14,16) ของรอบเดือนโดยนับวันที่ระดูมาวันแรกเป็นวันที่ 1 ของรอบเดือน หากมีเพศสัมพันธ์ในช่วงนั้น น่าจะมีโอกาสตั้งครรภ์สำเร็จ
ที่มา //www.bangkokhealth.com/consult_htdoc/Question.asp?GID=84315
Create Date : 23 กรกฎาคม 2551 |
Last Update : 23 กรกฎาคม 2551 22:39:42 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1035 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|