|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
- มาทักทาย วันปีใหม่ไทย ๆ ครับ
- ข่าวสารยานยนต์ - เมื่อค่าเงินกระทบอุตสาหกรรมยานยนต์ อเมริกา ในแบบ ดอลลาร์ขาลง
- ข่าวสารยานยนต์ - ถึงคราว Chrysler โดน UAW strike และผลกระทบคร่าว ๆ
- ข่าวสารยานยนต์ - ย้อนหลังกับเรื่อง GM ถูกพนักงาน Strike และ ก้าวต่อไปของ GM-UAW
- ข่าวสารยานยนต์ - รถเล็ก ๆ ของอินเดีย
- ข่าวสารยานยนต์ - ถึงคราว(รถเล็ก)ของ Ford บ้าง
- ข่าวสารยานยนต์ - รถเล็ก ๆ ของ Toyota
- ข่าวสารยานยนต์ - เรื่องของสหภาพแรงงาน เม็กซิโก และชะตากรรมของ Lear
- ข่าวสารยานยนต์ - เรื่องราวของ Low cost car
- ข่าวสารยานยนต์ - เรื่องราวของอินเดีย และ UAW
- ข่าวสารยานยนต์ - บทสรุป Siemens VDO และ เรื่องราวอื่น ๆ ของ Ford
- ข่าวสารยานยนต์ - ช้างสารชนกัน หญ้าแพรกแหลกราน
- ข่าวสารยานยนต์ - การเมืองใน Lear Corp และ อนาคตที่สุกสกาวของ Ford รัสเซีย
- ข่าวสารยานยนต์ - Update กับ Mazda Demio
- ข่าวสารยานยนต์ - ญี่ปุ่นผงาดสู่อันดับ 1 ส่งออกรถยนต์ของโลก
- ข่าวสารยานยนต์ - เรื่องราวของ Hino Nissan และ Siemens VDO
- ข่าวสารยานยนต์ - เรื่องราวของก้าวแรกด้านการลงทุนของ Chrysler
- ข่าวสารยานยนต์ - เมื่อญี่ปุ่นล่าอาณานิคม (ทางธุรกิจ)
- ข่าวสารยานยนต์ - เมื่อ Toyota ชะลอตัว(เอง)
- ข่าวสารยานยนต์ - เมื่อ Renault ออกแบบรถราคา 3,000 $ กับอนาคตรถหรูของ Ford
- ข่าวสารยานยนต์ - The rise of Ford
- ข่าวสารยานยนต์ - วิถีที่เปลี่ยนไปของอุตสาหกรรมยานยนต์
- ข่าวสารยานยนต์ - Hybrid กับ Accord 2008 เราคงไปด้วยกันไม่ได้
- รายงานการประเมิน ความสามารถของผู้ผลิตรถยนต์ในอเมริกา
- ข่าวสารยานยนต์ เรื่องยุ่งยากของเครื่องยนต์ เพื่อภาวะโลกร้อน
- ข่าวสารยานยนต์ เมื่อ Ford จะขาย Volvo ให้กับ BMW
- ข่าวสารยานยนต์ เรื่องราวของ Siemens VDO, Ford F150, ก้าวย่างต่อไปของ Detroit Big 3 และ อื่น ๆ
- ข่าวสารยานยนต์ เรื่องของ GM-Delphi-UAW, บทวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบัน และอื่น ๆ
- ข่าวสารยานยนต์ - การลงเอยของ Chrysler และรายงานผลประกอบการหลาย ๆ บริษัทยานยนต์
- ข่าวสารยานยนต์ เรื่องชอบกลของเครื่องเสียงรถยนต์
- ข่าวสารยานยนต์ ความคืบหน้าของ Big 3 (GM/Ford/DCX)
- ข่าวสารยานยนต์ปน ๆ กัน เรื่องราวของ Ford ขาลง แล้วก็นโยบายของToyota กับ update เรื่อง Chrysler
- ข่าวสารยานยนต์ปะปนกันไป แต่เรื่องใหญ่คือ Toyota กับผู้บริหารระดับสูงที่ไม่ใช่คนญี่ปุ่นคนแรกมาแว้วววว
- Jim Womack : เหตุใด Toyota ชนะ แล้ว Toyota จะแพ้ได้อย่างไร
- ข่าวสารยานยนต์ปน ๆ กัน เรื่องราวสถานการณ์ยานยนต์ใน อเมริกา เรื่องของ Chrysler และ Ford Taurus ใหม่
- ข่าวสารยานยนต์ปน ๆ กัน เรื่องราวของ Chrysler, Proton และ Toyota
- ข่าวสารยานยนต์ - วน ๆ กับเรื่องของ Ford
- Toyota กับโจทย์ข้อใหม่ และใหญ่ ในอเมริกา
- ยำข่าวใหญ่ยานยนต์ ปน ๆ กัน Proton, Honda, Siemens
- DCX - Daimler Chrysler
- ยำข่าวใหญ่ Siemens VDO , Aston Martin
- ยำข่าวใหญ่ Honda, Ford, GM , Aston Martin มั่ว ๆ กันอีกแล้วค้าบ
- ยำข่าวใหญ่ DCX - TRW - Siemens VDO - GM โอ้ย มั่วไปกันใหญ่แล้ว
- FlexRay มาแว้วววว - กะลังทำ Conformance Testing
- Update ข่าว GM - Chrysler และ บ่นไปตามประสา ก่อน Bloggang ปิดทำการ
- Detroit ขาลง
- GM Chrysler & Delphi ซื้อ ๆ ขาย ๆ กัน
- เริ่มต้นประดิษฐ์ล้อกันใหม่
- ข่าวแทรก - จะย้ายฐาน(การผลิต)ไปจีนจริงง่ะ ??
|
|
|
|
|
Jim Womack : เหตุใด Toyota ชนะ แล้ว Toyota จะแพ้ได้อย่างไร
วันนี้ได้รับ Email จาก Jim Womack แห่ง LEI : Lean Enterprise Institute ว่าด้วยเรื่องเกี่ยวกับ Toyota ชื่อเรื่องเต็ม ๆ มันก็คือ Why Toyota Won and How Toyota can lose
Jim Womack นี่ ถือเป็นกลุ่มนักวิจัยเรื่อง Lean Manufacturing กลุ่มแรก ๆ และมีผลงานตีพิมพ์ที่เป็นหนังสือชื่อดังเรื่อง The machine that change the world. ซึ่งเป็นเรื่องราวของกลุ่มนักวิจัยโครงการ IMVP : International Motor Vehicle Program แห่งมหาวิทยาลัย MIT เป็นเรื่องราวการวิเคราะห์ภาคการผลิตอุตสาหกรรมยานยนต์ ตั้งแต่สมัยการผลิตยังเป็นแบบงานฝีมือ - Craft Production จนมาเป็นการพลิกโฉมครั้งสำคัญโดย Henry Ford แห่งค่าย Ford ผู้พัฒนาระบบ Mass Production ขึ้น ก่อนจะกลายเป็นระบบ Lean Manufacturing โดย Taichi Ohno - Eiji Toyoda แห่ง Toyota (และ Shigio Shingo เจ้าของความคิด Jidoka) แม้ว่าเนื้อหาจะครอบคลุมแค่ช่วงปี 199x แต่ว่า จะเห็นไอเดียได้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับค่ายรถต่าง ๆ ล้วนแต่เป็นผลพวงมาจากอดีตทั้งสิ้น เราจะมองเห็นได้ว่า Nissan/Mazda ตกอับอย่างไร และฟื้นคืนอย่างไร แล้วเราก็จะเห็นได้ว่า สิ่งที่ Ford กำลังแก้ตัว ก็เป็นในแนวทางเดียวกัน
โฆษณาขายหนังสือไปละ สรุปคือ Jim Womack เป็นบุคคลที่มีประสบการณ์เรื่อง Lean Manufacturing ดีมากคนหนึ่งของโลก และอยู่ในแวดวงการศึกษาด้วย เพราะฉะนั้น จขบ.คิดว่า บทความนี้ น่าอ่าน และน่าจะเป็นกลางพอสมควร เพราะไม่ได้เอียงข้างค่ายไหนเป็นพิเศษ เพราะเท่าที่ จขบ. เคยอ่านหนังสือบางเล่ม รู้สึกว่าผู้เขียนค่อนข้างมีใจเอนเอียง เช่น หนังสืออธิบายระบบการผลิตของค่ายรถยักษ์ใหญ่ โดยนักเขียนเป็นคนที่เคยทำงานในค่ายรถใหญ่อีกค่ายหนึ่ง ก่อนย้ายมาค่ายนี้ เป็นหนังสือที่เกี่ยวกับ Priciple 14 ข้อ (ไม่รู้จะเขียนอธิบายวกวนไปทำไมเนาะ) ตะแกเอียงข้างมาก ๆ
เอ้า เข้าเรื่องซะที
บทความนี้ เกริ่นไว้ที่ The machine that change the world ว่า คำว่า machine ยังคงเป็นคำที่นิยามการทำธุรกิจของ Toyota ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นระบบการผลิต การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ การจัดการ Supply Chain ฯลฯ (อ้างอิงมาจาก คำพูดที่ Allan Mulally อธิบายแก่ประชาชนพนักงานชาว Ford ที่ Detroit)
เรื่องของเรื่องก็คือ ตอนนี้ ป้าย No. 1 ของโลกคงเป็นของ Toyota อย่างแน่นอนแล้วในปีนี้ ตอนนี้เหลือแค่ว่า จำนวนขาย และยอดขายจะเป็นเท่าไหร่เท่านั้นเอง ในขณะที่ความจริงก็คือ ผลกำไรน่ะ เป็น อันดับ 1 มานานแล้ว (อันนี้ เคยอ่านเจอเหมือนกันว่า กำไร ต่อรถ 1 คัน ของ Toyota มากกว่า กำไรต่อรถ 1 คันของ Big 3 รวมกันเสียอีก)
คำถามที่น่าสนใจ คงไม่ใช่ว่า วันไหนที่ Toyota จะชนะอย่างเด็ดขาด หรือว่า ชนะเท่าไหร่ แต่เป็นคำถามว่า Toyota จะแพ้ได้อย่างไรมากกว่า คำตอบมาตรฐานอาจจะเป็นเรื่อง ปัญหาคุณภาพ ราคา เรื่องความล้มเหลวในการสร้างแบรนด์ Lexus ความพยายามในการสร้างสายการผลิตที่ดี และสร้างยอดขายที่ดีในจีน และ อินเดีย (อยากเถียง Jim แกจังเลยว่า อย่างน้อย จขบ. ก็ไม่ได้คิดแบบนี้นะ) นั่นอาจจะใช่ก็ได้ แต่คงไม่ใช่สาเหตุของความพ่ายแพ้แน่ ๆ น่าจะเป็นพลพวงมาจากสาเหตุหลักอย่างหนึ่ง ซึ่งให้ผลต่อเนื่องมาแบบนี้ สิ่งที่ท้าทาย Toyota คือ การรักษาความเป็น Lean ให้ต่อเนื่องตลอดทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นระดับ Management ยันลงไปถึงระดับรากหญ้า เป็นเรื่องธรรมดาที่พนักงานใหม่ของ Toyota จะต้องศึกษาหนังสือเรื่อง The Toyota way ของ Jeffry Liker (ผู้ซึ่งเคยทำงานให้กับ Ford มาก่อน) และ The Toyota way field book ของ Dave Meier เพื่อทำความเข้าใจกับ Toyota อย่างแท้จริง วิธีการสร้างคนของ Toyota คือ เริ่มจากการจ้างคนใหม่ ๆ สด ๆ มาจากมหาวิทยาลัยเลย แล้วเริ่มปลูกฝังวิธีคิดใหม่แต่แรก แต่ด้วยการเจริญเติบโตพรวดพราด เป็นไปได้ว่า การปลูกฝัง การฝึกสอนเรื่อง Lean Principle เหล่านี้ รวมไปถึงการฝึกสอนไปจนระดับ Supplier ของ Toyota ด้วย อาจไม่ดีเพียงพอ แล้วจะย้อนกลับไปสู่ The Mass Production Way (คำนี้ จขบ. คิดเองนะ แต่โดยสรุปคือ ย้อนกลับไปหารากหญ้าของการผลิต นั่นคือ ระบบ Mass Production ของ Ford/GM)
นอกเรื่องแป๊ปนึง ทำไม Mass Production ต้องพูดถึง GM ทั้ง ๆ ที่รู้ ๆ กันว่า คนแรกที่พัฒนา Mass Production Principle คือ Henry Ford แห่ง Ford Motor Company
เก๊าะ หลังจากปล่อยให้ Ford ใช้ Mass Production System กวาดเอารายได้ไปกับ Ford Model T ไประยะนึง Alfred Sloan แห่ง GM ก็เอาระบบ Mass Production มาต่อยอด ด้วยการใส่ Accessory ไปมากมาย รวมไปถึงการทำ out source (ตอนนั้น เรียกกันว่า invicible hand) แบบว่า สมัยแรก ๆ Ford เค้าเก๊งเก่ง คนอื่นตามไม่ทัน แกเลยอยากทำทุกอย่างด้วยตัวเอง เลยเรียกหลักการนี้ว่า Visible Hand ไง
กลับมาต่อ พอการปลูกฝังระบบ Lean Thinking เข้าสู่หัว Manager ของ Toyota และ Supplier ของ Toyota ไม่ดีพอ ก็เป็นเรื่องง่ายที่คนเหล่านี้ จะเข้าสู่ Dark Side of the Force นั่นคือ เข้าสู่ระบบ Mass Production system ซึ่งหลาย ๆ Principle ขัดกับแนวทางของ Lean Manufacturing โดยสิ้นเชิง แล้วนั่นเรียกได้ว่าเป็นเหตุแห่งภัยภิบัติโดยสิ้นเชิง
สิ่งสำคัญของการปลูกฝังแนวคิด Lean Thinking ของ Toyota คือ การปลูกฝังวิธีคิดพื้นฐานอย่าง A3 Problem Solving (รายงาน A3 1 แผ่น เทียบได้กับ หลักการ Simply is the best ของ Mass Production), Standardise work (Copy Mass Production มาชัด ๆ) แล้วก็ Strategic Deployment (อันนี้ ไม่มีใครสร้างเป็นหลักการมาตรฐาน ขอ credit ให้ Lean Thinker ละกัน), การใช้ Gemba (3 Gen - Gemba, Gengi, Genbutsu หรือหลักการ 3 จริง ที่จริง สถานที่จริง กระบวนการจริง) หลักการทำ Root Cause analysis, Problem Solving
นั่นคือ โดยรวมแล้ว Toyota ให้ความสนใจกับการดูแล วิธีที่จะสร้างผลงาน มากกว่า จะแก้ปัญหา เมื่อผลงานออกมาแล้ว หรือเรียกได้ว่า Jidoka ภาค Value Stream Process ป้องกันปัญหา ก่อนที่จะหาทางแก้เมื่อส่อแววเจ๊ง
อันนี้ จขบ. เคยบ่น ๆ ให้เพื่อนร่วมงานฟังเหมือนกันว่า ถ้าเราปล่อยให้พนักงานผลิตชิ้นงานด้วยขั้นตอนตามใจชอบ แล้วตามแก้ปัญหาเมื่อมีของเสียเกิดขึ้น กับเข้าไปตามแก้การปฏิบัติงานของพนักงาน ให้เป็นไปตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ แล้วเอาเวลามานั่งศึกษาว่า ขั้นตอนที่บังคับให้พนักงานทำนั้น มีความเสี่ยงในการสร้างปัญหา และทำงานยากเพียงไร แก้ให้ดีกว่านี้ได้มั้ย แบบหลังน่าจะดีกว่า จขบ. เคยลองใช้วิธีหลังดู Project นึง พบว่า อัตราของเสีย และปัญหาคุณภาพน้อยลงมาก อีกทั้งจับจุดแก้ปัญหาได้เร็ว เพราะไม่ต้องมานั่งเปรียบเทียบว่า พนักงานแต่ละคนทำงานต่างกันอย่างไร สรุปคือ ลดความแปรปรวนของขบวนการลง สร้างกรอบให้เคยชินกับการปฏิบัติงานในกรอบแคบ ๆ ที่สร้างไว้ สิ่งที่เกิดขึ้นก็จะถูกจำกัดในวงที่เราคาดการณ์ได้ เพิ่งมาเจอความสอดคล้องกันก็กับบทความนี้แล
สรุปคือ Toyota อาจจะแย่ เมื่อความเป็น Lean ของคน ตามไม่ทัน ความเติบโตของยอดขาย และบริษัท เมื่อนั้น Jim แกคิดว่า Toyota คงพิจารณาลดความเร็วของการเติบโตของตัวเองมากกว่าที่จะเสี่ยงโตแต่เจ๊งง่าย (เทียบได้กับหลากการพื้นฐานของเศรษฐกิจพอเพียงเลย)
บทความนี้ ตีความจากบาทความเรื่อง Why Toyota Won and How Toyota Can Lose โดย Jim Womack แห่ง Lean Enterprise Institute แต่มีผสมโรงเข้าไปบ้าง ตามความเห็นของ จขบ. ต้นฉบับส่งมาเป็น E-Newsletter ครับ ใครอยากได้ต้นฉบับ ก็ Post Email Address ไว้ที่ Comment หรือ หลังไมค์มาก็ได้ครับ
Create Date : 05 เมษายน 2550 |
Last Update : 12 เมษายน 2550 21:08:31 น. |
|
2 comments
|
Counter : 1507 Pageviews. |
|
|
|
โดย: LearnLean IP: 58.8.84.44 วันที่: 26 เมษายน 2552 เวลา:20:08:53 น. |
|
|
|
| |
|
|
...ไปเล่นน้ำกับผมไหมคร๊าบ