Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2550
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
4 สิงหาคม 2550
 
All Blogs
 

ข่าวสารยานยนต์ - เรื่องราวของอินเดีย และ UAW

อย่างแรกเลย Blog นี้ เป็น Blog ที่ 108 เป็นตัวเลขที่ทำให้นึกถึงหลาย ๆ อย่าง แต่คงไม่มีอะไรหวือหวาใน Blog นี้ เพราะว่า ช่วงนี้ได้อ่านข่าวทุกวัน (แต่ก่อนอาทิตย์ละครั้ง) และก็คงเป็นเพราะมีข่าวที่สนใจแค่วันละข่าว เลยไม่สามารถรวบรวมมาเขียนเป็น Blog ได้

วันนี้ วันเดียว เจออะไร ๆ น่าสนใจอยู่ เลยเอามาแบ่งกันอ่านนะครับ

ช่วงนี้ หลาย ๆ คนคงรู้กันดีอยู่ว่า จีน อินเดีย นี่นับได้ว่า เป็นโรงงานสำคัญ ของโลกก็ว่าได้ ต้นทุนต่ำ ตลาดใหญ่ ฯลฯ ก่อนหน้านี้ รู้กันว่า อินเดีย มาแรงกับงานด้าน Software, สิ่งทอ, งานบริการ มาวันนี้ มาคุยกันเรื่องยานยนต์ของอินเดียกันสักหน่อยดีกว่า

จขบ. ทำงานในโรงงานยานยนต์ ก็เลยรู้จักกับหลาย ๆ คน ก็รู้มาว่า มีคนอินเดียมาทำงาน ด้านยานยนต์ที่เมืองไทยไม่น้อย ไม่ว่าจะบริษัทที่ตัวเองทำงานอยู่ หรือบริษัทอื่น ๆ กระทั่ง เคเบิ้ลทีวี ที่บางแสน ศรีราชา ก็มีช่องสำหรับอินเดีย จีน และ ญี่ปุ่น นั่นน่าจะเป็นดัชนีบ่งว่า คนชาติเหล่านี้ มาทำงานในเมืองไทยไม่น้อย เอาเป็นว่า อินเดีย ก็มาแรงไม่แพ้จีนว่างั้นเถอะ

จาก รายงานใน just-auto.com 3 สิงหาคม 2550 ว่าด้วยเรื่องของการเติบโตในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์ในอินเดีย ซึ่งกำลังโตขึ้นเรื่อย ๆ และมีบทบาทต่อโลกมากขึ้น บริษัทนานาชาติที่กำลังพิจารณาขยายฐานการผลิตมายังประเทศที่ต้นทุนต่ำ ต่างจับจ้องมองอินเดียตาเป็นมัน เช่นเดียวกับที่มองประเทศจีน ในบางกรณี กลับมองอินเดียอยู่ในเงื่อนไขที่ดีกว่าด้วยซ้ำ ด้วยหลาย ๆ เหตุผล

ข้อแรก เรื่องภาษา คนอินเดีย ใช้ภาษาอังกฤษได้ดี และแพร่หลายกว่า ทำให้การสื่อสาร เป็นไปได้ดีกว่า

ข้อต่อมา ระบบการศึกษาในประเทศของอินเดีย ดีกว่า ทำให้บุคลากรที่มีคุณภาพ มีมากกว่า

ข้อสาม ระบบอุตสาหกรรม และวิศวกรรมแข็งแกร่งกว่า ทำให้ไม่เป็นการยากที่จะพัฒนาต่อยอดให้โรงงานท้องถิ่น แข็งแกร่งขึ้น อีกทั้งโรงงานเหล่านี้ก็พร้อมที่จะศึกษาเพื่อพัฒนาตัวเอง

สุดท้าย ด้านเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งเป็นทุนเดิมอย่าง Software ทำให้ไม่เป็นการยากที่จะเป็นศูนย์กลางด้านงาน R&D

ด้วยเหตุผลประการทั้งปวง ทำให้โรงงานผลิตชิ้นส่วน ต่างมั่นใจในอินเดีย พร้อมที่จะป้อนงานให้ผลิตชิ้นส่วนที่มีความซับซ้อนมากขึ้นได้

ข้อเสียบางประการก็เช่น รัฐบาล และระบบขนส่ง ยังไม่ดีนัก แต่เมื่อชดเชยด้วยนโยบายการถ่วงน้ำหนักด้านตำแหน่งที่ตั้งที่อยู่ระหว่าง ยุโรป และ เอเซียแล้ว เจ๊ากันไป

ใน Web ดังกล่าว มีรายงานการทำนายแนวโน้มของอินเดียไปจนปี 2014 ด้วยนะ แต่แพงง่ะ จขบ. คงไม่มีตังค์มา Download มาอ่านน่ะนะ

ต่อไปนี้เป็นความเห็นจขบ. เองนะครับ

จขบ. คิดว่า อินเดีย น่ะ มีชื่อมานานก่อนจีนเสียอีก แต่กลายเป็นว่า จีนบูมก่อน แล้วอินเดียก็ตามมาอีก หลาย ๆ บริษัท มองจีนสำคัญ เพราะว่า ประชากรมีพื้นฐานของแรงงานดีจากความที่เคยเป็นคอมมิวนิสต์มาก่อน (อ้างอิงมาจากหนังสือเรื่อง China Inc ที่คุณสุทธิชัย หยุ่นให้คำนิยมไว้) ตลาดจีนใหญ่ที่สุดในโลก แต่ด้วยวิธีการทำธุรกิจบางประการทำให้บางบริษัทเริ่มไม่แน่ใจในสถานะของตัวเองในจีน ในอนาคต อินเดียเลยกลับมาได้เปรียบอีกครั้ง

ทีนี้มามองไทย กับ เวียดนามบ้าง ไทยเราบูมมาก่อนล่ะ แน่ ๆ แต่เวียดนาม กำลังลงทุน กำลังเริ่มต้น มีปัญหาเรื่อง infra structure, logistic บ้าง แต่ก็เป็นการเริ่มต้น ทำให้หลาย ๆ คนมองเวียดนาม อย่างที่เคยมองจีน จนอิจฉา

แต่ก็ใช่ว่า เราจะเอาความได้เปรียบคืนมาไม่ได้

เรื่องตำแหน่ง ต้องบอกว่า เราไม่เสียเปรียบนะ จขบ. คิดว่างั้น เพราะเราอยู่จุดที่จะเชื่อม เอเซียอาคเนย์ เอเซียตะวันออก เข้ากับ อินเดีย

Infrastructure เราพัฒนาต่อยอดมาเรื่อย ๆ Logistic, Transportation เราไปได้ระดับหนึ่ง ในขณะที่เวียดนามยังเพิ่งเริ่ม

อุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์เราสามารถผลิตชิ้นส่วนเกือบได้ทั้งคันรถแล้ว แต่เรายังขาดอะไรไปบางอย่างที่จะเป็นได้อย่างอินเดีย

การเมืองที่มีเสถียรภาพ ?? ไม่ใช่อ่ะ จขบ.คิดว่า มันน่าจะเป็นปัญหาแค่ช่วงนึง แล้วมันน่าจะกลับมาดีเหมือนเดิม

จขบ. อาจจะมุมมองแคบไปนะครับ แต่เราขาดการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เราขาดการพัฒนาบุคลากรที่จะก้าวไปสู่งานระดับสูงให้เป็นรูปร่าง เรายังเน้นภาคการผลิตเกินไป เทคโนโลยีที่เราพัฒนา ยังไม่ครอบคลุม และ ต่อเนื่องเท่าที่ควร

ดังนั้น เรายังไม่แพ้นะครับ เรายังมีมุมที่จะได้เปรียบอีก ยังมีช่องทางอีกเยอะ ดังนั้น หาทางกันเถอะครับ ศึกษากรณี อินเดียกับจีนไว้เป็นตัวอย่าง เขาพัฒนาตัวเองได้ยังไง ไม่ยากที่เราจะตามนะครับ (แต่คงยาก ถ้าอัตราการอ่านหนังสือ อยู่ที่ วันละ 8 บรรทัด)

เอาล่ะ จบภาค ความเห็นส่วนตัว จขบ. ไว้เท่านี้ เห็นเป็นยังไงกัน ก็แลกเปลี่ยนกันนะครับ

มายืนยันกันด้วยข่าวนี้ จาก just-auto.com วันที่ 3 สิงหาคม 2550 ว่าด้วยหัวข้อข่าวสั้น ๆ เท่านั้นแหละ ว่า Toyota กำลังพิจารณาให้อินเดียเป็นศูนย์กลางสำหรับผลิตรถยนต์เล็ก สำหรับทั่วโลก

เอ่อ แล้ว ECO Car ของพี่ไทยล่ะค้าบบบบบบ

ข่าวสุดท้าย ชวนให้หนักใจไม่น้อย จาก autonews.com วันที่ 3 สิงหาคม 2550 ว่าด้วยการซ้อมรบ เอ้ย ซ้อมประท้วงของ UAW

UAW - United Auto Worker หรือสหภาพแรงงานยานยนต์ สหรัฐอเมริกา ได้เรียกรวมพลผู้นำในส่วนของ Detroit Big 3 มาประชุม และ อบรม หลักสูตรการเตรียมตัว Strike โดยจะเป็นการกำหนดมาตรการสำหรับการ Strike หากเกิดขึ้น โดยจะจัดการประชุมกันระหว่างวันที่ 5-6 นี้

โดย UAW เคยมีนัดตกลงเรื่องข้อสัญญา 4 ปี กับ Big 3 ในเดือนที่แล้ว ที่จะหมดสัญญาเก่ากันในวันที่ 14 กันยายนนี้

ในการนี้ UAW เองมีงบประมาณสนับสนุนการ Strike ประมาณ 1 พันล้านเหรียญ

การตกลงกันในครั้งนี้ นับว่าวิกฤต พอควร โดยทาง Big 3 เอง ตั้งเป้าจะลดฐานเงินเดือนสำหรับแรงงาน ให้เหลือช่องว่างเมื่อเทียบกับผู้ผลิตรถยนต์ค่ายญี่ปุ่น ในอเมริกา ลง

จขบ. ได้ยินมาว่า Big 3 เอง ก็อยากปลดภาระเรื่อง Health care ด้วยเหมือนกัน ลองไปดู Blog เก่า ๆ น่ะนะ

ปัจจุบัน UAW มีพนักงานอยู่ 180,681 คนในอเมริกา และอีกกว่า 419,621 ที่เกษียณไปแล้ว (ซึ่งทางบริษัท ยังต้องรับภาระเงินบำนาญ)

โห ต้นทุนเพื่อคนเหล่านี้ไม่น้อยนะครับ แต่คิดว่า เป็นการทำให้คนเหล่านี้ อยู่ดีกินดี

เฮ้อ พูดยากจริง ๆ ถ้าตราบเท่าที่เป็นลูกจ้างเค้าน่ะนะ หรือว่ายังไงกันครับ




 

Create Date : 04 สิงหาคม 2550
0 comments
Last Update : 4 สิงหาคม 2550 20:08:14 น.
Counter : 616 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ECie
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




หลังไมค์ของผมค๊าบ !!
Friends' blogs
[Add ECie's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.