|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
[Code Geass] ฉบับ Fiction จินตนาการด้วยแรงบันดาลใจต่อจาก Spoil ตอนที่ 22
[Code Geass] ฉบับ Fiction จินตนาการด้วยแรงบันดาลใจจาก Spoil ตอนที่ 22 |
|
|
|
หมายเหตุก่อนอ่าน : ด้วยความคิดที่กระจายออกมาจากการอ่านสปอยล์ Code Geass ตอนที่ 22 ทำให้หงส์ฯ ได้คิดเนื้อเรื่อง Fiction นี้ขึ้นมา โดยส่วนตัวแล้ว เพิ่งจะเริ่มใส่ใจ Code Geass ได้เมื่อไม่นานมานี้ อ่านสปอยล์มาแค่ในภาค 2 ตั้งแต่ตอนที่ 17 22 ฉะนั้นเนื้อเรื่องภาคหนึ่งทั้งหมดกับภาค 2 ตอนต้นๆ เราอาจไม่ค่อยรู้รายละเอียดมากนัก Fiction เรื่องนี้จึงอาจมีบางสิ่งที่ไม่เข้ากันกับกฎเกณฑ์ของ Code Geass ต้นฉบับเดิมอยู่บ้าง และเนื้อหาหลักของ Fiction นี้ก็อาจจะไม่อิงกับส่วนที่เป็นตัวอย่างตอนต่อไปของ Code Geass ตอนที่ 23 ด้วย เรียกได้ว่าเป็นแบบ นอกบท ก็ว่าได้ เพียงแต่อาจจะแค่อิงจากตอนที่ 22 เท่านั้นเอง หากผิดพลาดไม่เป็นที่ชอบใจก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย เพราะเขียนไปด้วยใจรัก แต่ก็ยังไม่รู้ลึกมากนักในเรื่อง Code Geass ด้านการคิดชื่อต่างๆ ขึ้นมาใหม่ หรือชื่อตัวละครที่เพิ่มมา ก็เป็นไปตามความชอบของเรา บางชื่อก็ไม่ได้มีความหมายพิเศษอะไร แต่เสียงอักษรเพราะดี ก็เลยตั้งเป็นชื่อซะงั้น และสุดท้ายนี้ ขอบอกว่า เพราะเราจินตนาการแต่งต่อจากตอนที่ 22 บางทีก็เลยอาจนับเป็น Spoil อยู่บ้าง ถ้าไม่ชอบใจให้สปอยล์ ก็ไม่ควรอ่าน Fiction นี้นะจ้ะ !
ช่วงปฐมบท ความจริงและสิ่งหลอกลวง |
|
|
|
เมื่อลูลูชได้ฟังคำกล่าวที่แข็งกร้าวของนานาลีว่า เขา ซึ่งเป็นพี่ชายที่เคยอยู่เคียงข้างเธอ ได้กลายเป็น ศัตรู ของเธอไปแล้ว ลูลูชก็อึ้งเงียบตะลึงงันไปครู่ใหญ่
ผลจากการทำลายเมืองหลวงแห่งบริทาเนีย ทำให้เชื้อพระวงศ์ที่เกี่ยวข้องกับฐานันดรการสืบราชสมบัติต้องสูญสิ้นไป การอ้างยกนานาลีขึ้นเป็นจักรพรรดินี จึงเป็นสิ่งที่เอื้อให้ทำได้ง่ายอย่างไร้ข้อโต้แย้ง และโดยเฉพาะเธอผู้นั้น เปรียบเสมือนเป็นชีวิตจิตใจของลูลูชด้วยแล้ว ชไนเซลที่รู้เช่นนั้นและคิดจะใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนนี้ของเขา การยกนานาลีไว้ในฐานะกษัตริย์ ย่อมจะส่งผลให้เดินเกมต่อต้านการเมืองของลูลูชได้ทะลุปรุโปร่งยิ่งขึ้น
ชั่วขณะหนึ่งที่บรรยากาศรอบๆ ตัวลูลูชเงียบงัน ก็ได้ปรากฎสัญญาณการออกอากาศของบุคคลผู้มาใหม่อย่างฉับพลัน ด้วยถ้อยความที่สื่อสารมาถึงชาวโลก มีใจความว่า...
จากการประกาศเมื่อสักครู่นี้ ... ฉัน...ไม่ยอมรับฐานะ จักรพรรดินี ของเจ้าหญิงนานาลี เพราะว่านั่นไม่ใช่การสืบราชบัลลังก์อันถูกต้อง....
ชไนเซลหลุบเปลือกตาลงอย่างเฉียบคม พลางนึกในใจว่า ผู้หญิงคนนี้....!?
หญิงสาวผมสีชมพูอ่อนกล่าวอย่างหนักแน่น และอธิบายเหตุผลต่อไปว่า...
ที่ฉันต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวทั้งที่ไม่เคยออกมามีบทบาทกับเรื่องแบบนี้ เพราะว่าฉันไม่อาจทนดูการฆาตกรรมสังหารหมู่อย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้ได้ และขอต่อต้านการกระทำของกลุ่มเจ้าหญิงนานาลีอย่างที่สุด
คานอนกล่าวขึ้นในช่วงที่หญิงสาวกำลังกล่าวปราศัย
เธอมีหลักฐานอะไร ที่จะมาว่าเจ้าหญิงนานาลีน่ะไม่ใช่จักรพรรดินีที่ถูกต้อง ทั้งๆที่... ยังไม่ทันที่คำกล่าวนั้นจะจบลงตรงความคิดของเขาที่ว่า นานาลีก็เป็นเชื้อพระวงศ์คนหนึ่งของบริทาเนีย สาวใหญ่ผมชมพูก็กล่าวโต้เหมือนรู้เห็นในความคิดนั้นว่า...
ฉันมีหลักฐานที่ยืนยันได้ว่า ใครคือจักรพรรดิที่ถูกต้องตามกฎมนเทียรบาลการสืบราชบัลลังก์ของราชวงศ์บริทาเนีย .... จบประโยคนี้แล้ว เธอก็หยิบยกเผยสาส์นที่บรรจุด้วยข้อความ และกล้องจับสัญญาณได้เล็งไปที่สาส์นแผ่นนั้น ซึ่งมีตราแห่งจักรพรรดิประทับอยู่อย่างชัดเจน
ชไนเซลเมื่อได้เห็นหลักฐานนั้นแล้ว ก็ให้นึกประหลาดใจ ที่อยู่ๆ สิ่งนั้น ก็พลันไปปรากฎอยู่ในมือของหญิงสาวแปลกหน้าผู้นั้นได้
ลูลูชเองก็ยังคงสับสนกับสถานการณ์ที่ลึกลับนี้ เขาทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการฟังถ้อยความนั้นอย่างเงียบเฉย พลางคิดอยู่ในใจว่า ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกัน ทำไมเธออยู่ๆ เธอจึงปรากฎตัวออกมาแบบนี้ ที่สำคัญ...เธอต้องการอะไรกันแน่!? และอดคิดไปถึงสิ่งที่นานาลีพูดออกมาไม่ได้ เพราะนั่นทำให้ลูลูชต้องก้มหน้าลงรับฟังถ้อยความจากฝ่ายนิรนามที่ยังคงดำเนินรายการประกาศต่อไป
นี่คือ พระราชพินัยกรรมระบุการสืบทอดตำแหน่งจักรพรรดิองค์ต่อไปของบริทาเนีย ที่องค์จักรพรรดิลำดับที่ 97 ได้ทรงกระทำไว้ ระบุพระนามขององค์รัชทายาทที่จะสืบสันตติวงศ์ในรุ่นต่อไปอย่างชัดเจน รวมทั้งได้ทรงลงพระปรมาภิไธยกำกับไว้อย่างครบถ้วนกระบวนความ เจ้าหญิงและเจ้าชายผู้ที่อยู่ตรงนั้น คงไม่มีวันลืมรายพระหัตถ์และตราประทับแห่งองค์จักพรรดินี้ได้หรอกนะ
หญิงสาวผมม่วงผู้อยู่เคียงข้างนานาลีในที่นั้น ขมวดคิ้วด้วยความสนเท่ห์ หากแต่ไร้ถ้อยคำ ในขณะที่ชไนเซลยืนนิ่งกำมือแน่น สายตาสั่นไหวด้วยความสงสัยในใจว่า ทำไม...สิ่งนั้น...จึงไปอยู่ในมือของผู้หญิงที่ไม่รู้ที่มาที่ไปคนนั้นเสียได้
การประกาศนั้นยังคงดำเนินต่อไป ด้วยท่าทีเข้มแข็งของหญิงสาวผมชมพู
ด้วยความพระราชประสงค์อันอยู่ในที่แห่งนี้ ซึ่งได้ถูกลืมเลือนและละเมิดไปนับแต่รัชสมัยของจักรพรรดิชาร์ล....บัดนี้ ฉัน...ในนามของ เฟรย์ลีน่า ซาฟีล...ตัวแทนของกลุ่มคนแห่ง ฮิคาริ ขอประกาศสนับสนุนองค์จักรพรรดิ์ที่ถูกต้องตามกฏมนเทียรบาลนี้ และคัดค้านการใช้อำนาจอันมิชอบธรรมที่นำมาซึ่งทำลายล้างเพนดราก้อน และการประกาศตัวเป็นใหญ่ของฝ่ายเจ้าหญิงนานาลี...เรา...กลุ่มคนแห่ง ฮิคาริ จะขอดำเนินการตามเจตนารมณ์ขององค์จักรพรรดิที่แท้จริง นับจากบัดนี้เป็นต้นไป...
นานาลีเองมีสีหน้ากังวลและสับสนอยู่ ในขณะที่สุซาคุได้แต่มองดูจอภาพประกาศที่ปิดฉากลาลับไปอย่างเฉยชา และลูลูชที่ยังคงมีแววตาแห่งความเคลือบแคลงสงสัยอยู่ไม่เสื่อมคลาย แม้เธอผู้นั้นจะปิดฉากปราศัยไปแล้วก็ตาม ด้านชไนเซลยังคงคิ้วชนกันเป็นปม ดวงตาที่มองไปเบื้องหน้าอย่างอยากจะค้นหาความจริงในสิ่งที่ปรากฎออกมาอย่างสายฟ้าแลบ
ณ ห้องลับของหญิงสาว เมื่อวางมือลงจากการประกาศนั้น เธอถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง และแล้ว...เสียงกริ่งโทรศัพท์ข้างกายพลันดังขึ้น เธอยกสายขึ้นมาสนทนาอย่างสบายอารมณ์ อันขัดกับสีหน้าตึงเครียดเมื่อครู่นี้
สวัสดี... โยดะ ทาดาคัทสึ ! การที่นายโทรมาหาฉันเนี่ย มันแปลกมากเลยนะ !
สิ้นคำทักทาย เสียงพูดของผู้ติดต่อ ก็ดังรอดออกมาอย่างเฉียบคมและคุกกรุ่นไปด้วยแววดุดันแห่งการตำหนิ
เฟรย์ลีน่า !... นี่เธอรู้ตัวไหมว่าทำอะไรลงไป แบบนี้ มีแต่จะทำให้ท่าน ฮิคาริ ต้องตกอยู่ในอันตรายนะ !...ใครอนุญาตให้เธอทำแบบนั้นกัน !?
หญิงสาวเอียงหน้าเล็กน้อย แววตาผ่อนคลายลง แต่คงแฝงนัยเจ้าเล่ห์ลองเชิงผู้มาโมโหใส่ พลางโต้ตอบเขา อย่างหยอกเย้าไปว่า
ใครอนุญาตฉันงั้นเหรอ?... ตอนนี้ โคโตโนริ ไม่อยู่ในฐานะที่จะทำหน้าที่ได้แล้ว ฉันจึงต้องรักษาการ ผู้พิทักษ์ ท่าน ฮิคาริ แทน เพราะงั้น...การตัดสินใจของฉันเท่ากับเป็นสิ่งที่คนอย่าง นาย ไม่มีมีสิทธิจะมาติติงได้นะ
อีกฟากหนึ่งของชายหนุ่มผู้โทรมา สีหน้าเหยียดเกร็งทันทีที่ได้ยินตำตอบเช่นนั้น โยดะ ทาดาคัทสึ จึงเค้นเสียงหนักหน่วง แต่ก็กักเก็บความไม่พอใจอย่างคนมีมารยาทสุภาพบุรุษไว้ในที
เรื่องนั้นผมเข้าใจดีอยู่หรอกนะ การที่ มิยาโมโตะ โคโตโนริ เป็นผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุการณ์ที่เพนดราก้อน...แต่ว่าเธอทำแบบนั้น เพียงเพื่อแก้แค้นให้เขา โดยไม่คำนึงถึงสถานภาพของท่าน ฮิคาริ น่ะ แค่จุดนี้ ผมก็มีสิทธิที่จะอยู่นอกเหนืออำนาจของเธอได้นะ กลุ่มคนแห่งฮิคาริ ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเวทีการเมืองของโลกที่สับสนวุ่นวาย โดยเฉพาะสถานการณ์ที่จะทำให้ท่าน ฮิคาริ ต้องลำบาก ถ้าเป็น โคโตโนริ เขาเองก็คงคิดแบบนี้
อุดมการณ์นั้นน่ะ ไม่สามารถป้องกันท่าน ฮิคาริ ได้ตลอดไปหรอก เพราะว่าตัวตนของท่าน ฮิคาริ มีความเกี่ยวข้องกับราชวงศ์บริทาเนียอย่างใกล้ชิด หากไม่ทำแบบนี้ในวันนี้ สักวัน...ความลับต้องห้ามนั่น ก็คงจะรั่วไหลกระจายไป และเกิดเหตุร้ายอย่างไม่คาดฝันขึ้นแน่ๆ โคโตโนริ น่ะ ก็คงอยากจะดำเนิน เกม นี้ให้เป็นไปแบบนี้ด้วย
เกมเหรอ !?...โคโตโนริ น่ะ ไม่เคยพูดว่า เรื่องเกี่ยวกับท่าน ฮิคาริ เป็น เกม หรอกนะ!
ฮึ... ถ้าไม่ชอบใจ ก็คิดซะว่า ฉันพูดไม่เก่ง แต่ความหมายไม่ได้แปลว่า ฉันจะนำท่าน ฮิคาริ ไปสู่อันตรายนะ เพราะว่าตอนนี้ คนที่เป็นเงื่อนไขในอำนาจน่ะ กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก และคนทั้งโลกกำลังถูกหลอกลวงอยู่ ฉันแค่นำเอาความจริงมาเปิดเผย เพื่อสนองสัจธรรมที่ว่า โลกนี้ไม่มีความลับ และ ความจริงเป็นสิ่งที่ไม่ตาย ยังไงล่ะ !
การเผยความลับของเธอ กับความจริงที่เธอเอาออกมานั่นแหละ มันมีเดิมพันอยู่ที่ความปลอดภัยของท่าน ฮิคาริ ไม่ใช่รึไง!? จะยังไงก็ตาม ผมจะไม่วางมือกับเรื่องนี้แน่
จะมาทั้งที่ธุรกิจรัดตัวงั้นเหรอ...ก็ดีนะ คนยิ่งมาก ท่าน ฮิคาริ ก็จะยิ่งปลอดภัย งานนี้น่ะ คิดว่าคนที่จะมา คงไม่ใช่แค่นายคนเดียวหรอกนะ แต่เป็น กลุ่มคนแห่งฮิคาริ ทุกคนนั่นแหละ!...
เสียงตัดสายจากไปกระทันหัน เหมือนจะบ่งบอกถึงความระอาใจของฝ่ายตรงข้ามอย่างชัดแจ้ง ทันทีเมื่อสิ้นสุดบทสนทนาเคร่งเครียด สีหน้าขี้เล่นเจ้าเล่ห์แสนกลของเธอก็พลันสงบลง กลายเป็นความกังวลผสมห่วงหา สายตาหันไปมองชานระเบียงเรือนพักที่โอบล้อมไปด้วยสายน้ำอันสั่นไหว เหมือนในแววตานี้ที่หวั่นไหวต่อสิ่งที่ตนเองกำลังเผชิญอยู่ พร้อมกันนั้น เธออุทานถ้อยคำออกมาแผ่วเบาว่า โคโตโนริ !...จบคำเรียกนั้น ริมฝีปากเรียวงามเม้มลงดั่งรอยเจ็บแค้นที่ฝังลึก
ช่วงที่ 2 ทายาทของตัวจริงที่แท้จริง |
|
|
|
ณ ห้องรับรองของสถาบันแอชฟอร์ด กลายเป็นสถานที่ซึ่งลูลูชเผชิญหน้ากับ เฟรย์ลีน่า ซาฟีล เขากล่าวถึงเรื่องที่เธอประกาศไปเมื่อวานก่อนและการที่เธอติดต่อขอเข้าพบเขาในวันนี้
จะยังไงก็ตาม ฉันไม่เคยพบเห็นเธอมาก่อน เธอไม่น่าจะมีความเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้ แล้วทำไมถึงได้...
ยังไม่ทันจบคำถามดีนัก เฟรย์ลีน่าก็พูดตัดบทขึ้นมาว่า
จะถามว่า ทำไมฉันถึงได้มีพินัยกรรม นั่นสินะ .... ที่จริงแล้ว ฉันก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับบริทาเนียนี่หรอกนะ แต่ว่า คนที่ฉันรับใช้อยู่ น่ะ เขามีความเกี่ยวข้องกับพวกคุณอย่างลึกซึ้งเลยล่ะ
ลูลูชหรี่ตาลงอย่างเฉียบคม หญิงสาวไม่สะทกสะท้านต่อท่าทีระแวงระวังของลูลูชเท่าใดนัก หากแต่ยังกล่าวต่อไปว่า
ที่สำคัญ คือ เขา เป็นตัวจริงที่ยิ่งกว่า นานาลี ของคุณเสียอีกนะ
ลูลูชสะบัดท่าทีแข็งกร้าวออกไปอย่างสิ้นเชิง กลายเป็นความแปลกใจอย่างชัดเจนอยู่กึกหนึ่ง ก่อนที่จะขมวดสีหน้าถามเจ้าหล่อนกลับไปว่า
แสดงว่า เจ้านาย ของเธอเป็นผู้สืบทอดความเป็น จักรพรรดิที่ถูกต้องตามพินัยกรรม ของอดีตจักรพรรดิที่กลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้วงั้นเหรอ ลูลูชกล่าวด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันราวกับไม่ใยดีต่อกฎมนเทียรบาลนั้นสักเท่าไหร่
หญิงสาวเอียงใบหน้า ยิ้มลึกที่มุมปากข้างหนึ่งอย่างรู้ทันว่าลูลูชคงจะต้องเข้าใจไปแบบนี้ ใบหน้าที่ช่างเย้าแหย่ของเธอ ซึ่งสื่อความหมายกลายๆ ว่า ลูลูชคิดไม่ถูก นั้น ออกจะทำให้รอยหยักบนหน้าผากของลูลูชเพิ่มมากยิ่งขึ้น แม้อย่างนั้นเธอก็ยังนิ่งเฉย เหมือนจงใจให้เขาตะเบ็งเสียงถามไปว่า
แล้วที่เธอพูดมาทั้งหมดน่ะ มันหมายความว่าไงกันแน่ นี่จะตีสีหน้าและใช้คำพูดที่กำกวมแบบนี้ไปจนถึงเมื่อไหร่กัน!?
สิ้นคำพูด ลูลูชถอนใจอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนจะลุกขึ้นกำมือแน่นและหันหลังกลับไป คล้ายจะเดินจาก คราวนี้...เจ้าหล่อนจึงกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้นมาว่า
เธอน่ะ ถูกหลอกมาตลอดเลยนะ รู้ตัวบ้างไหม ไม่ว่าเรื่องในตอนนี้หรือเรื่องในอดีต
คำพูดนั้นชะงักเท้าของลูลูชที่กำลังจะก้าวออกไป และเหมือนเป็นมนต์สะกดที่จับร่างของเขาให้หันกลับมาทางหญิงสาวผมชมพูยาวสลวยอีกคราหนึ่ง พร้อมกับคำถามที่สวนทางออกไปว่า
เรื่องอะไรกัน ?
ก็เรื่องที่เธอคิดว่าชาร์ลกับมาริแอนเป็นพ่อแม่ กับนานาลีเป็นน้องสาว น่ะสิ...รวมทั้งเรื่องที่เธอถูกตีตราว่าเป็นทรราชอีกด้วย
ความเงียบเข้าปกคลุมอยู่พักใหญ่ ก่อนที่ลูลูชจะรวบรวมสติที่คล้ายจะตะลึงงันไป และเค้นคำถามออกมาอย่างยากเย็นว่า
แล้วเรื่องที่เธอจะบอกว่าเป็น ความจริง น่ะ คืออะไรกันแน่ล่ะ ?
หญิงสาวตอบสั้นๆ ว่า
เราจะสนับสนุนท่านในฐานะ จักรพรรดิ ที่แท้จริงยังไงล่ะคะ
ลูลูชแปลกใจอย่างมาก ถามกลับสั้นๆ อย่างสั่นเครือว่า ทำไม!?...
คำตอบที่ได้รับจากหญิงสาว คือ
เพราะคุณ คือ คนที่ควรได้รับเลือกไว้ ก่อนหน้า ชาร์ล และ นานาลี พวกเขาน่ะเป็นตัวปลอม แต่คุณคือทายาทของ [ตัวจริง]
ไม่มีถ้อยคำใดใดไปพักหนึ่ง เมื่อหยุดเพื่อคิดหนักจนหยั่งรู้ลึกถึงเจตนาและความจริงที่แน่ชัดแล้ว ลูลูชยิ้มกริ่มอย่างหาญเหี้ยม มันเป็นรอยยิ้มที่เขาเคยใช้ทักทายชาร์ลมาแล้ว และเป็นรอยยิ้มที่มอบไว้เป็นที่ระลึกให้ชาร์ลเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ลูลูชจะได้ก้าวมาสู่ตำแหน่งจักรพรรดิในวันนี้ พร้อมกันนั้นลูลูชก็กล่าวกับเฟรย์ลีน่า ด้วยท่าทีอันแกร่งกล้า
งั้น...เธอก็เป็น ฝ่ายเดียว กับฉันสินะ คิดว่าฉันคงจะเข้าใจถูกแล้วใช่ไหม?
เฟรย์ลีน่ายิ้มเหี้ยมตอบกลับลูลูช และบอกอย่างหนักแน่นว่า
ยินดีที่ท่านเข้าใจเรา กลุ่มคนแห่งฮิคาริ ต่อไปคงต้องรบกวนแล้ว
ฉันต่างหากที่ควรพูดคำนี้ ยินดีต้อนรับนะ [เฟรย์ลีน่า ซาฟีล]
|
|
|
Create Date : 09 กันยายน 2551 |
Last Update : 9 กันยายน 2551 23:44:30 น. |
|
0 comments
|
Counter : 634 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|