เรื่องที่ไม่มีสอนในโรงเรียนแพทย์: The Untold Stories from The Medical School.
HA(TE)


วังวนของความไร้แก่นสาร

หน่วยงานไม่ว่าจะเป็นของรัฐหรือของเอกชนจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง มีการก้าวเดินไปข้างหน้าเพื่อแข่งขัน ไม่ว่าจะกับบริษัทคู่แข่ง หรือกับความก้าวหน้าของโลก แม้กระทั่งแข่งขันกับตัวเอง

เรื่องนี้เริ่มต้นเมื่อใครสักคนในระบบบริการสาธารณสุขบอกกับพวกเราว่า ทุกโรงพยาบาลจะต้องได้รับการตรวจสอบเพื่อประเมินมาตรฐานภายใต้ชื่อย่อ HA. โดยต้องผ่านการรับรองของ "สถาบันพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาล" (พรพ.) หากคิดให้ง่ายและไม่ซับซ้อนก็ต้องตอบว่าดี เพราะอย่างน้อยก็จะมีใครสักคนหรือสักคณะมาคอยประเมินและวิจารณ์การทำงานในระบบที่แทบจะไม่ต่างจากบริษัทที่รอวันปิดกิจการอยู่แบบนี้

ในระบบราชการที่คุณสามารถดำเนินชีวิตเป็นสัตว์โทนที่ "ต่างคนต่างอยู่" นี้ การพัฒนาจะเป็นไปได้ยากและช้ากว่าที่ใครสักคนจะคิดได้... และแน่นอนว่าหลายคนคิดได้หลังเกษียณอายุหรือหลังลาออกจากราชการแล้วด้วยซ้ำ การได้รับคำวิจารณ์และความเห็นเพื่อนำไปสู่การพัฒนาโรงพยาบาลแบบมีทิศทางและเป็นทีมน่าจะนำความเจริญมาสู่ระบบได้ในระดับหนึ่ง

..........


แต่ผมกลับรู้สึกหงุดหงิด-อารมณ์เสียทุกครั้งที่คณะกรรมการ พรพ. มาตรวจสอบในโรงพยาบาล ส่วนตัวผมไม่ได้มีข้อขัดแย้งกับใครใน พรพ. เป็นการส่วนตัวแต่อย่างใดและก็ไม่ได้หงุดหงิดกรรมการที่มาตรวจ เพียงแต่ความรู้สึกที่รบกวนจิตใจนั้นมาจากคนในโรงพยาบาลเสียเป็นส่วนใหญ่ นับตั้งแต่การมาตรวจเบื้องต้นเมื่อปีที่แล้วต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันนั้น โรงพยาบาลผ่านการประเมินและตรวจสอบหลายครั้ง (ประมาณสามเดือนต่อครั้ง) สิ่งที่ผมพบในการมาประเมินทุกครั้งคือผุ้คนในโรงพยาบาลปฏิบัติกับมัน (HA) เหมือนกับว่า HA เป็นดุจพระเจ้าผู้จะส่งศาสดาคือ พรพ. มามอบคัมภีร์พระเวทอันศักดิ์สิทธิ์ให้สาวกในโรงพยาบาลได้นำไปกราบไหว้บูชา

ที่จริงแล้วพื้นฐานของการพัฒนาโรงพยาบาล (และงานทุกอย่างที่ไม่ว่าจะอยู่ในระบบราชการหรือไม่ก็ตาม) คือการ "พยายาม" ก้าวไปข้างหน้า กรรมการที่มาตรวจสอบต้องการเห็นแรงขับ การทำงานเป็นทีม ขั้นตอนการพัฒนา และความก้าวหน้าในงานที่มีและจัดทำโดยบุคลากรในโรงพยาบาล แต่ตลอดสองสามวันที่ผ่านมาผมกลับเห็นเพียงการพยายามจัดการให้มีอะไรสักอย่างมาแสดงให้กรรมการเห็น... โดยที่การทำงานเป็นระบบยังไม่เคยเกิดขึ้นหรือแม้กระทั่งคิดจะทำให้มีขึ้น

คุณต้องจัดโต๊ะให้เรียบร้อย ข้าวของทั้งหลายตัองเก็บเป็นที่เป็นทาง เจ้าหน้าที่หลายคนเฝ้าถามถึงรายละเอียดและแผนการรักษาผู้ป่วยในตึก (กรรมการมักจะถามถึงแผนการรักษาผู้ป่วยในตึกที่ก่อนนี้แทบไม่มีใครสนใจ) รายการการบันทึกหลายอย่างถูกนำมาตรวจสอบและแก้ไข ความน่าเบื่อของมันก็คือผมจะเห็นภาพนี้ทุกครั้งก่อนที่กรรมการจะมาตรวจ และสิ่งเหล่านี้ก็จะถูกละเลยในทันทีที่กรรมการขึ้นรถตู้ไปสนามบิน

บ้าจริง ๆ... หรือว่าสิ่งที่เราทำอย่างไม่เป็นระบบนี้จะมีประสิทธิภาพเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ และทุกอย่างก็จะผ่านเลยไปโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน ผมเคยเห็นการผลาญงบประมาณสองล้านบาทให้หมดไปในเวลาหนึ่งสัปดาห์ในการจัดนิทรรศการให้คนชมเพียงครึ่งวัน และสิ่งเหล่านี้ก็กลับมาหลอกหลอนผมอีกครั้ง

.........


เช้าวันนี้ผมขึ้นทำงานแปดโมงครึ่งด้วยความรู้สึกครึ่งหลับครึ่งตื่น (ทดลองทำได้โดยการอดนอนทั้งคืนแล้วหลับตอนหกโมงเช้า จากนั้นตื่นตอนแปดโมง) เจ้าหน้าที่หลายคน "ละทิ้ง" งานประจำของตัวเพื่อไปจัดแฟ้มเอกสารให้เรียบร้อย ในขณะที่อีกจำนวนหนึ่งออกไปยืนนอกระเบียงคอยบอกให้ญาติผู้ป่วยเก็บข้าวของเครื่องใช้ที่วางระเกะระกะอยู่นอกระเบียงให้เรียบร้อย... จานชาม เสื้อผ้า ขันน้ำ สบู่ เสื่อและผ้าห่ม ที่ก่อนนี้ใครต่อใครหลายคนจับจองใช้เป็นที่นอนตากแดดและฝนคอยเฝ้าญาติอยู่นอกระเบียงต้องได้รับการเก็บกวาดโดยเร่งด่วน เรื่องมันจะง่ายกว่านี้หากระเบียบพวกนี้ได้เอามาใช้จริงมาก่อนหน้านี้ ...ไม่ใช่มาบอกเช้าวันนี้

เมื่อไม่มีใครยอมเก็บของที่วางอยู่ที่ระเบียง เจ้าหน้าที่ธุรการคนหนึ่งเดินเข้ามาในตึกพร้อมกับตะโกนบอกญาติผู้ป่วยที่เฝ้าคนไข้ในตึกให้ไปเก็บของให้พ้นจากระเบียง... คุณจะให้เขาเอาไปเก็บที่ไหน ? นั่นเป็นเหมือนบ้านของใครบางคนเลยนะ ! คุณไล่คนเหล่านั้นออกไปจากที่ที่เขาใช้คุ้มหัวนอนไม่ได้ (แม้ว่าบ่อยครั้งมันจะไม่สามารถคุ้มแดดคุ้มฝนได้ก็ตาม)

...ผมไล่เจ้าหน้าที่ธุรการกลับไปทำงานที่โต๊ะเหมือนเดิม "คุณไม่มีสิทธิ์ทำอย่างนั้น" แต่ไม่มีโต๊ะให้กลับไปทำงาน วันนี้ต้องเอาโต๊ะไปเก็บที่อื่นก่อน พรุ่งนี้ถึงจะมีโต๊ะให้นั่งอีกครั้ง ...เอาเถอะ คุณจะไปทำอะไร/ที่ไหนก็ได้ แต่ไม่ใช่การสถาปนาอำนาจให้กับตัวเองเมื่อมีกรรมการมาตรวจสอบโรงพยาบาลของคุณ

เช้าวันนั้นการทำงานทุกอย่างติดขัดไปหมด ผมจะรู้สึกดีกว่านี้หากการติดขัดนี้จะนำไปสู่สิ่งที่ดีกว่า แต่ก็เหมือนจะมีใครมากระซิบที่ข้างหูว่าอดทนแค่วันเดียว พรุ่งนี้ก็เหมือนเดิมแล้ว และนั่นทำให้การตรวจ-ถูกตรวจครั้งนี้เหมือนกับเป็นการเล่นละครสั้นฉากหนึ่ง เจ้าหน้าที่ที่ต้องดูแลผู้ป่วยเจ็บกลับต้องถูกดึงตัวไปทำในสิ่งที่ไม่ใช่หน้าที่ และแน่นอนว่ามันเพียงแค่ "ไม่กี่ชั่วโมง" เท่านั้นเอง อดทนหน่อย !!!

ห้องฉุกเฉินในเวลาราชการ ที่ปกติแล้วเป็นหน้าที่ของแพทย์เพิ่มพูนทักษะ (แพทย์จบใหม่ปีแรก) จะรับหน้าที่ตรวจร่วมกับแพทย์ประจำโรงพยาบาล (บ่อยครั้งที่มีเพียงชื่อมาร่วมตรวจ) กลับคึกคักขึ้นด้วยแพทย์ประจำที่หลายคนแทบไม่เคยเห็นว่ามาตรวจผู้ป่วยที่ห้องฉุกเฉิน และแน่นอนว่าพวกเขาหายสาบสูญไปทันทีที่คณะกรรมการตรวจเดินผ่านห้องฉุกเฉินไป นั่นทำให้ผมสะอิดสะเอียน... สะอิดสะเอียนเป็นที่สุด

..........


เราอยู่กับสิ่งที่เป็น "แบบไทย ๆ" มากเกินไป ระบบราชการแบบไทย ๆ โรงพยาบาลแบบไทย ๆ คุณภาพแบบไทย ๆ ประชาธิปไตยแบบไทย ๆ ...อย่าลืมว่านั่นรวมไปถึงการแข่งขันกับโลกในแบบไทย ๆ อีกด้วย ถ้าทุกวันนี้เรายังต้องแข่งขันกับนานาประเทศด้วย GDP และอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ เราก็ไม่สามารถปฏิเสธการพัฒนาและงานคุณภาพได้

แม้การแข่งขันกับตัวเอง เราก็ยังต้องพบเงื่อนไขประหลาดที่คอยบีบบังคับให้เราต้องดิ้นรนในทิศทางและลู่ทางที่ไม่ปกติเพื่อจะนำองค์กรไปสู่จุดหมาย แต่เราได้อะไรจากการกระทำแบบนี้ของเราบ้างไหม ?

เราได้รับการประเมิน เราผ่านการประเมินแล้วได้อะไรมาสักอย่าง อาจจะเป็นเงินอุดหนุน-โอกาสก้าวหน้าของผู้บริหารที่สามารถทำให้โรงพยาบาลผ่านการประเมินได้ จริงอยู่ที่ว่ามีเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งที่ตั้งใจทำงานและเห็นผลงานประสบความสำเร็จ (และอาจเป็นส่วนมากในหลายโรงพยาบาล) แต่ความสำเร็จนั่นแหละเป็นสิ่งที่ผมกลัว ถ้าความสำเร็จนั้นได้มาโดยการทำงานแบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้และการพัฒนาอย่างต่อเนื่องไม่ได้รับการสานต่อ ความสำเร็จนั่นจะกลับมาทำร้ายและทำลายหน่วยงานและผู้มารับบริการในที่สุด

..........


มีคนเคยบอกผมว่าการประเมินนั้นจะมีต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ (ผมไม่แน่ใจว่าปีละครั้งหรือเปล่า) แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณเล่าเรื่องอะไรสักเรื่องและเริ่มต้นมันด้วยการโกหก ? การโกหกครั้งที่หนึ่งนำไปสู่การโกหกครั้งที่สอง-สาม-สี่

ผมอยากมีชีวิตอยู่กับความจริงมากกว่า


..........

นำไป post ใน Thaiclinic.com หัวเรื่องเดียวกัน ใช้ชื่ออื่น


Create Date : 20 มกราคม 2551
Last Update : 20 มกราคม 2551 14:49:45 น. 4 comments
Counter : 1156 Pageviews.

 
แบบไทยๆ
ค่ะ ก็เป็นแบบนี้แหล่ะ


โดย: เก้าก้าวเกล้า วันที่: 20 มกราคม 2551 เวลา:15:42:16 น.  

 
อืม..เห็นด้วย
เรื่องบางเรื่องก็ไร้สาระ จนหาประเด็นของการกระทำนั้นไม่เจอ


โดย: หวาน (หมูน้อยคอยโคลน ) วันที่: 20 มกราคม 2551 เวลา:18:31:53 น.  

 
อ่า... เทศกาลปลูกผักชี มีกันทุกหนแห่งในบริบทสังคมไทยๆ ค่ะ


บริษัทเดิมของเราสั่งห้ามกินขนมและงดเวลาน้ำชาบ่าย
เวลามีผู้ถือหุ้นหรือลูกค้าจากต่างประเทศมาตรวจค่ะ...

ทั้งที่มันไม่เกี่ยวอะไรกับ work efficiency เลย
ของมันต้องกิน ต้องพักกันทุกวัน
ยิ่งถ้าไม่พัก ยิ่งทำงานแย่กว่าเดิม (ฮา)
สำหรับเรา เราว่าการมีโต๊ะกองไปด้วยเอกสาร ไม่ได้แปลว่าจะทำงานไม่ได้
มานั่งรื้อๆ กวาดๆ รอเขาจากไปแล้วเอามากองใหม่ เสียเวลางานกว่าเดิมอีกนะคะ 55


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 20 มกราคม 2551 เวลา:18:43:57 น.  

 
เขียนได้สุดยอดครับ
รพช.ที่ผมอยู่ก็เพิ่งผ่านการประเมินจาก HA ไปเหมือนกัน

สิ่งที่เห็นก็คือ ผักชีเต็มโรงพยาบาล ความวุ่นวาย และสุดท้าย Intern 1 ก็ต้องรับโหลดงานตรวจคนไข้มากขึ้นอีกเท่าตัว เพราะพี่สตาฟฟ์และพี่พชท.ต้องทำงาน HA ไม่ว่างลงมาตรวจ

พอผ่านไปสัก 2-3 วัน ก็กลับมาเป็นสภาพเดิม

นี่มันอะไรครับนี่


โดย: jonykeano วันที่: 24 มกราคม 2551 เวลา:23:10:02 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Zhivago
Location :
นครศรีธรรมราช Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




มนุษย์เข้มแข็ง
กว่าที่ตนคิดไว้เสมอ
New Comments
Group Blog
 
<<
มกราคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
20 มกราคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Zhivago's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.