บันทึกของเด็กชายกำลังโต
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
18 ธันวาคม 2550
 
All Blogs
 

17 ธันวาคม 2550 ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น

อยากกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นขึ้นมาแบบไม่มีเหตุผล พรุ่งนี้ว่าจะแวะกินตอนขากลับบ้าน

จะว่าไปแถวบ้านผมมีร้านก๋วยเตี๋ยวอร่อยๆหลายร้านเชียว นับมาตั้งแต่ก๋วยเตี๋ยววัดดงมูลเหล็กที่เดี๋ยวนี้ก๋วยเตี๋ยวไม่อร่อยอย่างเดิมซะแล้ว แต่ชอบไปนั่งกินเนื้อสะเต๊ะหอมๆ เดินผ่านทีไรอดใจไม่ไหวต้องแวะกินทุกที

เดินเลยมาย่านวัดเจ้าอาม นี่ก๋วยเตี๋ยวอร่อยทั้งซอยเลย ทั้งต้มยำ น้ำใส น้ำแห้ง เป็ดตุ๋น อร่อยแบบไม่ต้องเลือกร้าน เดินเข้าไปนี่อร่อยแทบทุกร้าน ยิ่งแถวกรมบังคับคดีนี่ไม่รู้ว่ากินก๋วยเตี๋ยวกันแทนข้าวหรือเปล่า ร้านเยอะมากๆ สมัยก่อนตอนยังละอ่อน ชอบเดินไปดูสาว ( และมักลงเอยด้วยการโดนไล่ถีบกลับมา )แถวนั้น เลยรู้จักร้านอร่อยๆเยอะ

ส่วนที่ชอบมากๆเลยก็ต้องเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อแถวพาต้าปิ่นเกล้า สมัยเรียนมหาลัยต้องลงรถต่อตรงนั้น แวะกินบ่อยมากๆ น้ำซุปนี่หอมอร่อย เนื้อนุ่ม รสเข้มข้น โอ้ย นึกแล้วยังหิวเอง


-----------------------------------------------------------------------


ผ่านเรื่องหิวๆมาแล้ว เรื่องแปลกๆมาเล่าให้ฟังล่ะครับ คือวันนี้ตอนกลับบ้าน ก็เดินผ่านศาลพระภูมิตามปกติ แล้วที่ศาลก็จะมีของที่คนเค้าเอามาไหว้เต็มเลย ทุกวัน ผมชอบคิดในใจว่า น่าเสียดาย น่าจะมีคนเอาไปกินเนอะ เพราะทิ้งไว้ก็มดขึ้นเปล่าๆ


วันนี้ได้เรื่องเลย มีผู้ชายคนนึงไปเอามากินจริงๆ ความจริงเค้าก็เป็นคนบ้าแหละ แต่เราเห็นเค้าอยู่ทุกวันดูเป็นคนบ้าที่สงบเสงี่ยมไง แบบว่าทั้งวันชอบมานั่งตรงสามแยกแล้วโปรยยิ้มอย่างกะนางงาม ผมเดินผ่านพี่แกยังยิ้มให้เลย บางทีผมยังยิ้มตอบเค้าด้วย ให้มัรู้ไปว่าใครจะบ้ากว่ากัน


ส่วนวันนี้สงสัยจะอากาศร้อนหรืออะไรก็ไม่รู้ พี่แกเดินบ่นงึมงัม แถมไปหยิบกินของที่ศาลพระภูมิด้วย ผมงี้รีบเดินแบบไม่ยอมมองหน้าพี่เค้า ไม่ใช่อะไรกลัวพี่เค้าชวนกินข้าวขึ้นมาแล้วจะอดไม่ได้


--------------------------------------------------------------------------------

เล่าเรื่องคนบ้าให้น้องฟัง มันบอกว่าพี่ว่าเจ้าที่จะโกรธคนบ้าป่ะที่ไปแย่งข้าวเค้ากิน ผมบอกว่า เจ้าที่คงไม่โกรธหรอก เพราะเค้าวางกับข้าวไว้ตั้งแต่เช้าแล้ว แต่พี่เค้าไปกินตอนเย็น ถ้าเจ้าจะกินคงกินไปเสร็จแล้ว น้องผมบอกว่าเค้าอาจจะเก็บไว้กินกะครอบครัวตอนเย็นก็ได้ เพราะมันแอบมองเข้าไปในศาลแล้ว มีรูปเจ้าที่เป็นผู้ชายผู้หญิงพร้อมหน้ากันทั้งครอบครัว ( น้องตรูมันบ้าเข้าขั้นเลย )

ผมเลยบอกว่า ท่านคงไม่เก็บไว้กินตอนเย็นหรอก เพราะผมก็มองเข้าไป แต่บ้านท่านไม่มีเตาแก๊สหรือไมโครเวฟ จะเก็บไว้กินตอนเย็นก็จืดชืดแย่ดิ


-------------------------------------------------------------------------------

ก่อนที่จะคิดไปว่าระหว่างไอ้พี่น้องสองคนนี้กับคนที่กินข้าวใครบ้ากว่ากัน เปลี่ยนเรื่องกันดีกว่า วันนี้มีเพื่อนเก่าโทรมา ปกติเพื่อนเก่าโทรมามี 2 แบบคือ ไม่ขายแอมเวย์ก็ขายประกัน คือเราก็ไม่ได้รำคาญนะ เป็นอาชีพเข้าใจเพื่อน แต่ก็ไม่เคยอุดหนุนซะที


แต่งวดนี้มาแปลก โทรมาหาเสียงให้พรรคการเมืองหนึ่ง พรรคที่เป็นคนก็เกษียณไปแล้วนั่นแหละ เลยได้คุยกันเรื่อยเปื่อย พยายามแถให้มันออกจากเรื่องการเมือง แต่มันสมาธิสุดยอดไม่ยอมหลุดง่ายๆ เราเลยต้องเออออไปกะมัน ทั้งๆที่ก้ไม่ค่อยได้ฟังมันเท่าไหร่

ส่วนมันคงไม่สนใจเราเท่าไหร่ เพราะเอาแต่ เลือกพรรคเราดิ ดีนะเว้ย ประชาชนได้นู่น ได้นี่ แถมเห็นผลไว แล้วจะเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ บลา บลา...


สักพัก พอหมดสคริปต์ที่ท่องมา เลยได้คุยกับแปปนึง ว่ามันรับจ้างมานั่นล่ะ เป็นรายได้พิเศษ หาเลี้ยงลูก...หาอะไรนะ เลี้ยงลูก ผมพูดอย่างไม่เชื่อหู


จะให้เชื่อได้ไงก็มันเป็นคนแบบว่า ติ๋มๆสุดๆ เป็นเด็กเรียน ตัวผอมๆ มาแต่เช้านั่งอ่านหนังสือห้องสมุด ไม่น่าเชื่อว่าจะไวไฟขนาดมีลูกล้ำหน้าเสือสิงห์กระทิงโฉดคนอื่นๆไปได้ ไม่จริ๊ง ไม่จริง

มันเล่าว่าก็เจอกับแฟนคนเนี้ยที่ตอนเรียนนั่นแหละ แบบว่าแฟนคนแรกเลย แล้วก็มีลูกกัน ผมบอกว่าแปลกใจนะที่พอได้ข่าวอีกทีก็มีลูกซะแล้ว

" อนาคตไม่แน่นอนหรอกว่ะ ไว้นายเจอคนที่ถูกใจแล้วนายจะเข้าใจเอง " มันบอกผม


คนที่ถูกใจเหรอ ผมมานั่งคิด หาคนที่ถูกใจดูบ้าง แต่ก็พูดไม่ถูก คนที่เคยคบด้วยก็ถูกใจ ณ เวลานั้น แต่พอเวลาผ่านไป หลังจากที่โตขึ้น ได้มองไปที่เวลานั้น แล้วขำตัวเอง คิดว่าโชคดีนะที่เราไม่ได้ลงเอยกับใครคนนั้นบ้าง เพราะคงมีอีกหลายเรื่องที่ยังไม่ได้เรียนรู้กันเลย


ผมวางสายพร้อมกับสัญญาว่าถ้ามีโอกาสมันจะพาหลานสาวมาให้ลุงรู้จัก ผมเขินนิดๆที่จะมีคนมาเรียกว่าลุง เพราะทุกวันนี้เป็นอาก็รู้สึกว่าเขินจะแย่แล้ว


แถมแบกรับเรื่องคนที่ถูกใจมาคิด ทั้งๆที่ตอนนี้รู้สึกมีความสุขกับชีวิตโสดมากๆ เพราะอยากทำอะไรก็ได้ทำ อยากซื้ออะไรก็ได้ซื้อ จนบางครั้งยังเผลอคิดเลยว่าอยู่ไปแบบนี้ทั้งชาติเลยยังได้

แต่ทำไงได้ ก็มันพูดให้เราคิดซะได้ เราก็บ้าจี้ ชอบคิดเรื่อยเปื่อยตามระสาคนใจลอย

แต่เรื่องนี้คิดยังไงก็ยังรู้สึกว่าบอกไม่ได้หรอก เวลาที่ใครจะใช่หรือเปล่า มันต้องเจอกับตัว ถึงจะรู้


23 ธันวา อย่าลืมไปเลือกตั้งกันนะครับ




 

Create Date : 18 ธันวาคม 2550
6 comments
Last Update : 18 ธันวาคม 2550 0:21:19 น.
Counter : 543 Pageviews.

 

แหม คุณอา เอ๊ย! คุณพี่ป๊อก
ยังไม่แก่เท่าไรเลย จะรีบเครียดไปไย
เรื่องความรักมันไม่เข้าใครออกใครนะพี่ เครียดมากเด๋วก็หน้าย่นมากกว่าเดิมหรอก

แล้วนี่อาไร้ๆๆๆ มาลงแต่เรื่องของกิน คนลดน้ำหนักอยู่ เง้อออ

ขอให้เจอคู่ในเร็ววันนะพี่ แต่งงานแจกการ์ดด้วยเน้อ อิอิ

 

โดย: P_Poy 18 ธันวาคม 2550 1:32:13 น.  

 

ตอนอยู่ซอยตรงข้ามวัดดงฯ ไม่เคยไปกินก๋วยเตี๋ยวที่ว่าเลยนะ เพราะชอบกินราดหน้ามากกว่า ชอบไปนั่งกินที่ร้านของเคี้ยงเอ็มไพร์ ปากซอยบุปผาสวรรค์บ่อยๆ

เรื่องคนถูกใจเนี่ย ชีวิตนี้คงมีไม่ขาดเลยหละ คริๆๆๆ มีมาเรื่อยๆ

 

โดย: ลุงแมว IP: 203.113.0.199 18 ธันวาคม 2550 16:23:22 น.  

 

หุหุ ฟังป็อกเล่าแล้วขำทุกเรื่อง แต่นั่นมันก็วิถีชีวิตนั่นเอง ส่วนเรื่องถูกขานนามตัวเราเนี่ย วันไหนใครมาเรียกป๊อกว่า ตา ว่าปู่ เรียกไปถึงตาทวด ปู่ทวดได้ก็ยิ่งดี ว่าไหมป๊อก

 

โดย: เขาพนม 18 ธันวาคม 2550 20:53:31 น.  

 

อืม... ป๊อก.... รู้ใช่ไม๊ว่าการที่คนไทยที่อยู่ต่างประเทศได้อ่านหรือได้เห็นอาหารไทยแล้วมันเกิดอาการ....... อยากร้องไห้......
ใครที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้ ได้ยินแล้วก็คงจะไม่เชื่อว่าอะไรมันจะขนาดน๊าน......
ถึงขนาดร้องไห้เลยเนี่ยนะ .. เว่อร์ไปเปล่าเพ่.....
แต่พี่โตสขอยืนยันตรงนี้เลยว่า .. มันเป็นความรู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ นะ โดยเฉพาะถ้าได้ยิน
หรือได้เห็นอาหารที่ไม่สามารถหากินได้ หรือไม่สามารถแม้แต่จะทำให้มันใกล้เคียงได้เลยเนี่ย
จะเกิดอาการทรมานทางจิตใจมาก ๆ เลยล่ะป๊อกเอ๊ย..... กระซิก กระซิก
แล้วพออ่านเรื่องร้านก๋วยเตี๋ยวทั้งหลายของป๊อกแล้ว พี่โตสก็เกิดอาการอย่างนี้แหละ...

อย่าถามพี่โตสนะป๊อกว่าทำไม .. เพราะว่าทำไมไม่รู้ล่ะ พออ่านว่าป๊อกอยากกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น
พี่โตสก็เกิดอยากกินก๋วยจั๊บน้ำข้นทรงเครื่องขึ้นมาทันทีเลยล่ะ....
อืม..... อีกไม่น่าเกินสองปี หวังว่าคงจะได้กินทั้งก๋วยจั๊บ และทั้งอาหารไทยแท้ ๆ .. แบบไม่ต้องมานั่งทำเอง

ตอนที่อ่านเรื่องพี่บ้าอยู่ ก็นึก ๆ ไป(ล่วงหน้า) ว่าพี่แกจะชวนป๊อกร่วมแจมด้วยแน่เลย .. แต่ผิด

อ่านที่น้องของป๊อกพูดแล้วก็ .. .. แต่ว่าป๊อกก็ตอบกลับน้องไปแบบเข้าท่าจริง ๆ เลยนะ
ยังดีนะที่ป๊อกไม่เจอน้องว่าบ้าหลังจากที่ตอบน้องไปอย่างนั้น
น้องอายุเท่าไหร่อ่ะป๊อก .. อย่าบอกนะว่าน้องอายุ 20

พูดถึงเพื่อนสมัยเรียนที่ติ๋ม ๆ แต่ไหงมีลูกไปก่อนเพื่อนคนอื่นๆ แล้วนึกถึงเพื่อนสมัย ม.ปลายของพี่คนนึงเหมือนกันล่ะป๊อก

เพื่อนพี่คนนี้ (ผู้หญิง) เป็นคนเรียบร้อยมาก...... (ไม่ได้เสแสร้งเรียบร้อยด้วยนะ)
เด็กเรียนมาก ๆ ด้วยอีกต่างหาก แล้วหนำซ้ำยังดูเป็นคนที่ค่อนข้างหัวโบราณนิด ๆ ด้วยดิ

แต่แล้ววันหนึ่ง (ตอนที่ยังเรียนอยู่นั่นแหละ) เพื่อนคนนี้ก็หายไปไม่มาโรงเรียน

โทรไปก็บอกว่าไม่สบาย .. แต่แล้วเค้าก็ไม่ได้กลับมาเรียนอีกเลย แล้วก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย

แล้วก็จำไม่ค่อยได้แล้วล่ะว่าเจอกับเพื่อนคนนี้อีกครั้งยังไง (ประมาณสี่ห้าเดือนต่อมา)

แต่จำได้ว่าเจอเค้าโดยบังเอิญมาก ๆ .. (อดีต)เพื่อนสนิทของพี่โตสคนนี้กำลังเดินอยู่กับชายมีอายุคนนึง
แล้วก็ได้รู้ถึงสาเหตุที่เค้าไม่กลับไปเรียนอีกเลยก็คือ .. เค้าเป็นโรคพุงโล เก้าเดือนนั่นเอง
พวกพี่เป็นอะไรที่สะไพ้กันมาก ๆ เลยล่ะ .. ก็เธอเรียบร้อยเป็นเด็กดีเด็กเรียนเหลือเกินนี่นา
แต่ก็อ่ะนะ .. คนเรียบร้อย ไม่ได้แปลว่าจะไวไฟไม่ได้นี่นาเนอะ

ถ้าอยู่คนเดียวแล้วมีความสุข .. ก็ไม่เห็นจะต้องมานั่งคิดอะไรมากมายเลยป๊อกเอ๊ย.....
เอาเวลาคิดเรื่องนี้ไปนั่งคุยกับน้องป๊อกดีกว่ามั้ง .. จะได้มีอะไรเรื่องคุยขำ ๆ แปลก ๆ มาเล่าให้พวกเราฟังกันอีก

ส่วนเรื่องถูกเรียกว่า "ลุง" น่ะ .. นั่นเป็นแค่ขั้นเริ่มต้นของการยอมรับความจริง
เรื่องอายุขัยแค่นั้นแหละป๊อก แต่พี่โตสบอกตรง ๆ ว่าเข้าใจจริง ๆ ล่ะ ว่ามันรู้สึกยังไง

 

โดย: Chini 19 ธันวาคม 2550 8:59:01 น.  

 

Merry Christmas & Happy New Year ka

 

โดย: ฝนซาฟ้าใส 25 ธันวาคม 2550 17:46:48 น.  

 

อวยพรปีใหม่ครับ ขอให้ได้งานที่ถูกใจในเร็วพลัน ถ้าได้แล้วก็ก้าวหน้ายิ่งๆขึ้นไปนะ บล็อกล่าสุดบล็อกนี้หรือ รู้สึกว่าไม่ใช่นิ...

 

โดย: ลุงแมว 25 ธันวาคม 2550 22:08:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


เติบโตและยั่งยืน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






黒川 Kurokawa (black river) 明 Akira (bright)

บันทึกออนไลน์ของคนเล็กๆ แต่ตัวไม่เล็ก เก็บแง่มุมของคนนู่น เรื่องของคนนี้ ชีวิตของคนนั้น มาบอกเล่า เม้าท์ แซว ไปตามเรื่อง ประกอบกับรูปถ่ายเล่าเรื่องราวที่เจ้าของบล็อกกำลังหัดถ่ายอยู่ครับ


รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นว่าวที่กำลังสู้อยู่กับลม มีเพียงเชือกเส้นเล็กๆที่บอกไม่ได้ว่าคืออะไร ดึงรั้งชีวิตไว้ไม่ให้ลอยละลิ่วไปกับสายลมแรง


และหากมีใครสักคนกำลังโหยหากำลังใจ บล็อกเล็กๆนี้ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่หัวใจกำลังอ่อนล้า อยากให้รู้ว่า ที่ตรงนี้ก็มีคนๆหนึ่งยืนอยู่เป็นเพื่อนทุกข์ เพื่อนสุข เพื่อนร้องไห้ เพื่อนหัวเราะ และยินดีที่จะให้กำลังใจคุณเสมอครับ













ขอบคุณที่เข้ามาเที่ยวคับ
Google
Friends' blogs
[Add เติบโตและยั่งยืน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.