วิธการลดน้ำหนักสำหรับสุนัข


การปล่อยให้สุนัขอ้วนเกินไป อาจทำให้พวกเค้ามีอายุสั้น ร่างกายอ่อนแอ และตามมาด้วยโรคภัยต่างๆ เช่น  โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคมะเร็ง และโรคอื่นๆ การแบกน้ำหนักที่มากเกินไป อาจนำไปสู่โรคข้ออักเสบได้ ดังนั้นเราในฐานะผู้เลี้ยงดู จะต้องควบคุมอาหาร และดูแลไม่ให้น้ำหนักของสุนัขมากจนเกินไป วิธีการในการควบคุมน้ำหนักสุนัข สามารถปฏิบัติได้ดังนี้


ส่วนที่ 1 การตรวจสอบน้ำหนักสุนัข


Image titled Help Your Dog Lose Weight Step 1


1. ประเมินดูว่าสุนัขของคุณอ้วน หรือไม่ โดยตรวจสอบทั้งจากด้านบน และด้านข้าง ดังนี้

    - ยืนเหลือสุนัข มองตรงไปทางด้านหลังของพวกเค้า โดยจะต้องเห็นเอวได้อย่างชัดเจน มีความแต่งต่างระหว่างหน้าอก และหน้าท้อง

    - เมื่อมองจากด้านข้าง จะสามารถเห็นความแตกต่างระหว่างขนาดของหน้าอก และช่องท้อง สุนัขควรจะเห็นเอวได้ชัดเจน หน้าท้องควรจะใกล้กับกระดูกสันหลังมากกว่าหน้าอก

    - ถ้าด้านหลังแบน และหน้าท้องหย่อน สามารถระบุได้ว่าสุนัขมีน้ำหนักเกิน


Image titled Help Your Dog Lose Weight Step 2


2. ตรวจสอบหาซึ่โครง นำมือของคุณไปวางบริเวณหน้าอกของสุนัข และคลำหาซี่โครงบริเวณดังกล่าว โดยสุนัขที่มีน้ำหนักปกติ จะต้องมองไม่เห็นซี่โครง เแต่สามารถรับรู้ได้โดยการสัมผัส แต่ถ้าคลำหาไม่เจอซึ่โครงเลย แสดงว่าสุนัขของคุณมีน้ำหนักเกิน


Image titled Help Your Dog Lose Weight Step 3


3. ชั่งน้ำหนักสุนัข ตรวจสอบช่วงน้ำหนักของสุนัขของคุณ ตามข้อมูลในอินเตอร์เน็ต

    - วิธีการชั่งน้ำหนักสุนัขที่บ้าน ดังนี้ อุ้มสุนัข (บางสายพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่เกินไป อาจใช้วิธีการนี้ไม่ได้) เพื่อชั่งน้ำหนักพร้อมกับคุณ แล้วหักน้ำหนักคุณออก จะได้น้ำหนักที่แท้จริงของสุนัข ควรใช้วิธีการชั่งน้ำหนักแบบเดิมๆ ทุกครั้งเพื่อความถูกต้องของข้อมูล

   - ในช่วงที่คุณไปพบสัตว์แพทย์ จะเป็นช่วงที่คุณสามารถตรวจสอบน้ำหนักได้อย่างแท้จริง และขอคำปรึกษาเกี่ยวกับข้อมูลน้ำหนักของสุนัข ที่ถูกต้อง


ส่วนที่ 2 จัดทำแผนการลดน้ำหนัก


Image titled Help Your Dog Lose Weight Step 4


1. พบสัตวแพทย์ เมื่อคุณพบว่าสุนัขของคุณมีน้ำหนักเกิน ควรปรึกษาสัตวแพทย์ เพื่อประเมินน้ำหนักของสุนัข และปรึกษาถึงสาเหตุ และจำนวนน้ำหนักที่จะต้องทำการลด


Image titled Help Your Dog Lose Weight Step 5


2. จัดโปรแกรมอาหารสำหรับสุนัขร่วมกับสัตวแพทย์ โดยสัตวแพทย์จะช่วยวางแผน หรือ โปรแกรมการลดน้ำหนักให้ได้ รวมถึงการจะต้องเปลี่ยนอาหารที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับการลดน้ำหนัก ปรับขนาด และความถี่ สำหรับขนม และเพิ่มการออกกำลังกาย


Image titled Help Your Dog Lose Weight Step 6


3. การใช้ยาลดน้ำหนัก กรณีสุนัขมีน้ำหนักมากเกินไปที่จะควบคุม ในปัจจุบันมีการผลิตยาที่จะช่วยควบคุมน้ำหนักให้กับสุนัข โดยยากลุ่มนี้จะไปลดความอยากอาหาร แต่ก็มีผลข้างเคียงเช่นกัน เช่น อาจทำให้เกิดการอาเจียน หรือ ท้องร่วงได้

   - ควรเลือกใช้ยาลดน้ำหนัก เป็นทางเลือกสุดท้าย และใช้กับสุนัขที่มีสุขภาพดี หรือ จากการวินัจฉัยของแพทย์ ที่สุนัขของคุณไม่สามารถลดน้ำหนักโดยวิธีการอื่นได้

   - ซึ่งการใช้ยา จะต้องได้รับการวินัจฉัยจากสัตวแพทย์เท่านั้น


ส่วนที่ 3 การปฎิบัติตามโปรแกรมการลดน้ำหนัก


Image titled Help Your Dog Lose Weight Step 7


1.  การให้อาหาร ด้วยวิธีการง่ายๆ คือ ลดปริมาณอาหารลง หรือ เลือกสูตรสำหรับลดน้ำหนัก หรือ ปรึกษาสัตวแพทย์

   - มีอาหารตามใบสั่งแพทย์ ที่จะสามารถช่วยลดน้ำหนักของสุนัขให้ได้ตามที่ต้องการ อาหารชนิดนี้ จะมีปริมาณ แคลอรี่ต่ำ และเส้นใยอาหารสูง เมื่อสุนัขทานแล้วจะทำให้อิ่มเร็ว แต่อาหารเหล่านี้มักจะมีราคาสูง จึงแนะนำให้ใช้กับสุนัขที่มีน้ำหนักที่มาก และยากต่อการลดจริงๆ ในส่วนของสุนัขที่อ้วนทั่วไป แนะนำให้ใช้การลดปริมาณอาหารลงในแต่ละมื้อ


Image titled Help Your Dog Lose Weight Step 8


2. เช็คปริมาณอาหารที่ให้สุนัขในแต่ละมื้อ นี่คือสิ่งที่จำเป็นที่คุณจะต้องรู้ ในระหว่างการลดน้ำหนักให้กับสุนัข เพื่อจะได้ปรับปริมาณอาหารให้มีความเหมาะสม และสมดุล ถ้าบ้านคุณเลี้ยงสุนัขหลายตัว ควรแยกพื้นที่ให้อาหาร สำหรับสุนัขที่ควบคุมน้ำหนัก เพื่อให้สามารถปฎบัติตามโปรแกรมที่กำหนดไว้ได้ และง่ายต่อการสังเกตุพฤติกรรมการกินของสุนัขได้อีีกด้วย


Image titled Help Your Dog Lose Weight Step 9


3. จัดทำบันทึกประจำวัน โดยการบันทึกปริมาณการให้อาหาร รวมถึงปริมาณของขนม และปริมาณการออกกำลังกาย ในแต่ละวัน คุณสามารถใช้ที่ตวงสำหรับควบคุมปริมาณอาหารที่ให้แต่ละมื้อ แต่การชั่งน้ำหนักจะให้ค่าที่ถูกต้อง และแม่นยำมากกว่า

คุณสามารถนำข้อมูลมาทำเป็นกราฟ เพื่อดูแนวโน้มของน้ำหนักในแต่ละสัปดาห์ จะช่วยให้คุณมองเห็นภาพรวม ว่าโปรแกรมลดอาหารที่วางแผนไว้ มีประสิทธิภาพหรือไม่ อย่างไร


Image titled Help Your Dog Lose Weight Step 10


4. ลดปริมาณขนมลง ขนมสำหรับสุนัข ที่ขายทั่วๆ ไป มักจะมีปริมาณ แคลอรี่สูง คล้ายๆ กับขนมที่คนกิน ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการให้ขนมดังกล่าวกับสุนัขที่กำลังลดน้ำหนัก แล้วเปลี่ยนเป็นขนมที่เน้นสุขภาพแทน

ตัวอย่างขนมเพื่อสุขภาพ เช่น ขนมที่ประกอบไปด้วย แครอท ถั่วเขียว บล็อคเคอรี่ คื่นฉ่าย และแอปเปิ้ล แต่ไม่ควรให้อาหารของคนบางอย่าง เนื่องจากอาหารบางชนิด เป็นพิษต่อสุนัข

การใช้ขนมกับสุนัข จะต้องนำแคลอรี่ของขนมไปรวมกับ แคลอรี่รวมที่ได้รับในแต่ละวันด้วย และการให้ขนมจะต้องไม่เกิน 10% ของปริมาณอาหารหลักในแต่ละวัน


Image titled Help Your Dog Lose Weight Step 11


5. การออกกำลังกาย ควรหมั่นพาสุนัขไปออกกำลังกายอยู่เสมอ การออกกำลังกายเป็นการสร้างกล้ามเนื้อ เผาผลาญอาหาร และลดน้ำหนัก เมื่อนำปริมาณแคลอรี่ที่กินเข้าไป ลบด้วยปริมาณแคลอรี่ที่เผาผลาญออกมาโดยการออกกำลังกาย จะเป็นตัวช่วยคำนวณว่า สุนัขจะสามารถลดน้ำหนักลงได้ หรือไม่

ข้อควรระวังในการออกกำลังกาย สุนัขบางสายพันธุ์ ไม่สามารถออกกำลังกายหนักๆ ได้ และในการออกกำลังกาย ยังต้องคำนึงถืงสุขภาพของสุนัข สภาพแวดล้อม ถ้าไม่แน่ใจ ควรปรึกษาสัตวแพทย์ เพื่อช่วยกำหนดวิธีการออกกำลังกายที่เหมาะสม ให้กับสุนัขของเรา


ส่วนที่ 4 การตรวจสอบ และปรับแผนการลดน้ำหนัก


Image titled Help Your Dog Lose Weight Step 12


1. ตรวจสอบน้ำหนักของสุนัข อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง จัดทำกราฟแสดงน้ำหนัก เพื่อให้ง่ายต่อการเช็คความคืบหน้า และ แนวโน้ม ของน้ำหนักของสุนัข


Image titled Help Your Dog Lose Weight Step 13


2. ประเมินแผนการลดน้ำหนัก ว่ามีประสิทธิภาพ หรือไม่ เมื่อคุณจำกัดปริมาณแคลอรี่ ที่ให้สุนัขกินเข้าไป และออกกำลังกายอย่างเพียงพอ แต่น้ำหนักของสุนัขยังไม่ลดลง ควรปรึกษาสัตวแพทย์ อีกครั้ง ซึ่งอาจจะต้องจำกัดปริมาณอาหารต่อ หรือ ต้องเพิ่มการออกกำลังกายให้มากขึ้น

แผนที่คุณกำหนดไว้ตอนแรก อาจจะไม่เหมาะสมกับสุนัขของคุณ ควรเปลี่ยนแผน หรือ โปรแกรม ลดน้ำหนักใหม่ โดยต้องสอดคล้องกับคำแนะนำของสัตวแพทย์


Image titled Help Your Dog Lose Weight Step 14


3. คิด และหาสาเหตุที่ทำให้สุนัขได้รับปริมาณแคลอรี่เพิ่ม มีความเป็นไปได้หลายเหตุผล ว่าทำไมสุนัขของคุณไม่สามารถลดน้ำหนักได้ เช่น สมาชิกในบ้านคนอื่น แอบให้อาหาร หรือ ขนมเพิ่ม โดยที่คุณไม่ทราบ


Image titled Help Your Dog Lose Weight Step 15


4. พิจารณาสาเหตุด้านสุขภาพอื่นๆ ที่ทำให้น้ำหนักสุนัขเพิ่มขึ้น ซึ่งโรคบางอย่างทำให้สุนัขมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น และยากต่อการลดน้ำหนัก เช่น ภาวะขาดไทรอยด์ฮอร์โมน จะป้องกันไม่ให้สุนัขเผาผลาญพลังงาน แม้จะมีการออกกำลังกายที่เพียงพอแล้วก็ตาม โรคเบาหวาน และกลุ่มอาการคุชชิ่ง** จะส่งผลให้ร่างกายสุนัขไม่สามารถลดน้ำหนักได้

** กลุ่มอาการคุชชิง (Cushing syndrome หรือ Cushing’s syndrome) เป็นกลุ่มอาการที่เกิดจากร่างกายมีฮอร์โมน Glucocorticoid (หรือ Cortisol) มากเกินปกติ โดยสาเหตุอาจเกิดจากมีการสร้างฮอร์โมนกลุ่มนี้มากเกินจากร่างกายสร้างเอง (Endogenous glucocorticoid) หรือร่างกายมีฮอร์โมนนี้มากเกินปกติโดยได้ฮอร์โมนนี้มาจากภายนอกร่างกาย (Exogenous glucocorticoid)

อาการทั่วไป: เช่น หิวบ่อย กินจุ ใบหน้าอ้วนกลมเหมือนพระจันทร์เต็มดวง อ้วนโดย เฉพาะส่วนกลางลำตัว ปัสสาวะมากและปัสสาวะบ่อย นอนไม่หลับ


ข้อควรระวัง

ควรศึกษาข้อมูลของอาหารต่างๆ ก่อนที่ให้สุนัขทาน เช่น องุ่น ลูกเกต ช็อคโกแลต และหัวหอม สามารถเป็นพิษต่อสุนัข

การออกกำลังกายที่หนักมาก อาจเป็นอันตรายต่อสุนัข ควรศึกษา หรือ ปรึกษาสัตวแพทย์ ถึงปริมาณการออกกำลังที่เหมาะสมกับสุนัขของเรา

ไม่ควรจำกัดการให้น้ำสับสุนัข และให้น้ำที่สะอาด


Credit: //petseasonsblog.blogspot.com






Create Date : 07 กรกฎาคม 2559
Last Update : 7 กรกฎาคม 2559 14:14:37 น.
Counter : 1136 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 3159187
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



บริษัท เพ็ท สีสัน จำกัด
ผลิตและจัดจำหน่ายขนมสุนัขทุกชนิด ภายใต้แบรนด์ Zeeson ใช้เทคโนโลยีและกรรมวิธีการผลิตที่ทันสมัย ได้มาตรฐาน สินค้ามีคุณภาพและมีความปลอดภัย ผลิตจากส่วนผสมธรรมชาติ Zeeson จำหน่ายทั้งราคาปลีก-ส่ง
Group Blog
กรกฏาคม 2559

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
8
9
10
12
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog