ฉันยังไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นอะไร แต่ฉันจะตามหามันให้เจอ...ELIZABETH GILBERT
Group Blog
 
 
เมษายน 2560
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
12 เมษายน 2560
 
All Blogs
 
คุโรดะ คัมเบ...(1)





เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ดูละครไทกะ และการแสดงของจุนอิจิ โอคาดะ
เขาเป็น 1 ใน V6 ค่าย Johny 
ไม่น่าเชื่อว่าละครเรื่องหนึ่งจะให้บทเรียนมากมาย เกินกว่าที่ฉันจะคาดคิด

ฉันรู้สึกขอบคุณผู้อยู่เบื้องหลังละครชุดนี้ มันอาจธรรมดาสำหรับคนอื่นนะ
ฉันดูจบไปหนึ่งรอบแล้ว ฉันตั้งใจจะดูซ้ำ 

ฉันรู้จักประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ผ่านการ์ตูนเรื่องแรกคือ เคย์จิ บุรุษอหังการ 
พอดีว่า คุโรดะ คัมเบ ก็เกิดในช่วงเวลาเดียวกับ มาเอดะ เคย์จิ 
ฉันพอจะคุ้นเคยอยู่บ้าง

สำหรับ คัมเบ เขาเป็นผู้ที่ปราดเปรื่องในยุคสมัยเซ็นโกคุ
ฉันยังไม่มีคำนิยามสำหรับเขาโดยเฉพาะ 
ฉันตั้งใจจะโค้ตประโยคเด็ดๆในแต่ละตอน 
และจะทยอยมาลงในช่องแสดงความเห็นตามจังหวะเวลาของฉัน

ฉันหวังว่ามันจะมีประโยชน์ ไม่ใช่แค่ฉัน
รอติดตามไปด้วยกันนะ

ปล1.ขอบคุณ คุณPondLoso สำหรับบทบรรยาย ภาษาไทยด้วยค่ะ
ปล2.สปอยล์ชัด จัดเต็ม



Create Date : 12 เมษายน 2560
Last Update : 18 พฤษภาคม 2560 21:59:15 น. 5 comments
Counter : 1017 Pageviews.

 
ตอนที่1
“ท่านครับ ถ้าท่านจะฆ่าเขาก็ตาย แต่ถ้าใช้ชีวิต...ท่านจะใช้เขาต่อได้ครับ”
“เมืองที่ล่มสลายไม่อาจกู้คืน คนตายไม่อาจฟื้นกลับ ท่านทั้งหลาย อย่าทิ้งขว้างชีวิตตัวเอง! จงอยู่ต่อ!”

“ลุกขึ้นมา มังคิฉิ(ชื่อสมัยเด็กคัมเบ) วันนี้เจ้าหนีไม่ได้แล้ว...บุกเข้ามาอย่ากลัว”

“ไม่คิดรื่นเริงกับศัตรูหรือ”
“ข้าและลูกชายข้า(พ่อและคัมเบ)...จะสู้ตายที่นี่(คัมเบถูกจับเพราะเข้าปราสาทศัตรูเพื่อเก็บสมุนไพรช่วยรักษามารดา”

“เพราะการกระทำที่ไม่ตรองของเจ้า ทำให้หลายคนต้องเดือดร้อน”
“มังคิฉิ เจ้าคือผู้สืบทอดตระกูลนี้นะ การกระทำของเจ้า อาจจะส่งผลถึงชีวิตผู้อื่นได้ เจ้าไม่ได้ตัวคนเดียวนะ!...จงทำตัวให้สมกับเป็นทายาทของ บุเคะ(ซามุไร)”

“ไม่สำคัญหรอกว่าจะเป็น บุชิ หรือ พ่อค้า...ทั้งหมดก็เพื่อ การเอาชีวิตรอด (ในยุคสมัยแห่งสงคราม ความอยู่รอดถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับผู้นำตระกูลคุโรดะ ตลอดทั้งเรื่อง จะให้ความสำคัญต่อการมีชีวิตอยู่ ไม่ว่าจะเจอสถานการณ์ที่น่าอับอาย อดสูเพียงใดก็ตาม)”

“แผนการรบ ต้องคุยกันในที่ลับตาและเป็นความลับ”

“จงอย่าไปกลัว คนเราเกิดมาตายแค่ครั้งเดียว ชีวิตของเจ้า...จงฝากไว้กับข้า! จงสู้ให้สมเกียรติ อย่าไปลังเล ความยิ่งใหญ่รอเราอยู่...ตามข้ามา!(โอดะ โนบุงาวะ ศึก โอะเคะฮะซะมะ)”


โดย: Ruchy วันที่: 12 เมษายน 2560 เวลา:23:39:23 น.  

 
ตอนที่2
“บริวารของ โกะฉะคุ ต่างมีสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น สำหรับเราคนนอกเพื่อให้อยู่รอด จะต้องพยายามมากกว่าพวกเขา...ข้า(พ่อ)จะเตือนเอาไว้ อย่าทำตัวเด่น หัวตะปูที่โผล่ออกมา...จะโดนตอก”

บทสนทนาระหว่างคัมเบกับเจ้าเมืองโกะฉะคุ ในการประลองโกะกันครั้งแรก
“ข้าแพ้แล้ว...สุดยอดเลยนะ คัมเบ”
“ขอบพระคุณที่ชมครับ”
“แต่ว่า โมะโทะทะคะ (พ่อของคัมเบ)ไม่เคยชนะข้าเลยนะ”
“จงอย่ากัดมือคนที่ป้อนอาหาร”

บทสนทนาระหว่างออกศึกแรกของคัมเบกับพ่อ
“คัมเบ...คอยทำหน้าที่(เฝ้าระวังและอารักขาเจ้าเมืองโกะฉะคุ) อย่าให้บกพร่องเด็ดขาด”


การพบกันของคัมเบ กับ คุริยะมะ เซ็นสุเคะ ผู้กลายมาเป็นบริวารที่รู้ใจและภักดีต่อตระกูลคุโรดะ
“ตระกูลคุโรดะ เวลารับคน จะมองคนที่ความสามารถมิใช่ฐานะ...ข้าน้อย เซ็นสุเคะ อาจจะฐานะต่ำต้อย แต่ข้าจะต้องมีประโยชน์แก่ท่านแน่นอนครับ...นายน้อยครับ ข้าจะช่วยท่านได้ดั่งคนร้อยคนครับ”

คำสอนของปู่ เมื่อคัมเบ ปฏิเสธที่จะรับ เซ็นสุเคะ เป็นบริวาร
“อย่ามองอะไรใกล้ๆสิ...อย่าเสียโอกาสที่อาจจะไม่มาอีกเป็นครั้งที่สอง”

บทสนทนาระหว่างคัมเบกับภรรยาของเจ้าเมืองโกะฉะคุ
“คัมเบ...เจ้ามีคนที่รักแล้วรึยังล่ะ?...ถ้ามีแล้วล่ะก็...อย่าให้นางหลุดมือไปค่ะ”
(คัมเบนั้นชอบพอกับโอะทะทสึ แต่เพื่อถ่วงดุลอำนาจทางการเมือง โอะทะทสึกลายมาเป็นน้องสาวบุญธรรม เพื่อไปแต่งงานกับบุตรชายของเจ้าเมืองๆหนึ่ง วันแต่งงานของโอะทะทสึกลายเป็นจุดจบของชีวิต เมื่อศัตรูยกทัพโจมตีเมืองนั้น การตายของโอะทะทสึเป็นเรื่องที่ฝังใจคัมเบ เมื่อคัมเบแต่งงาน ในคืนแรก คัมเบได้เปิดใจกับภรรยาถึงเรื่องนี้ด้วย ในยุคสมัยของสงคราม เจ้าเมืองมีนางสนมเป็นเรื่องปกติ จะมีก็คัมเบนี่แหละที่มีภรรยาคนเดียว)


โดย: Ruchy วันที่: 13 เมษายน 2560 เวลา:21:39:16 น.  

 
ตอนที่3
ในตอนนี้ เผยให้เห็นแผนก่อกบฏของ ทะเคะนะคะ ฮัมเบ โดยการเข้ายึดปราสาทแบบไม่สูญเสียเลือดเนื้อ และใช้บทสนทนาที่เด็ดขาดเพียงไม่กี่ประโยค ผู้ชายคนนี้ ได้กลายมาเป็นที่ปรึกษาที่ ฮิเดโยชิ(ยังไม่เป็นโชกุน) ไว้ใจมาก
“ข้า ทะเคะนะคะ ฮัมเบ จะขอรับช่วงปราสาทนี้ต่อ ทุกคนให้ออกไปทันที ใครขัดขืน ฆ่าไม่ต้องลังเล”

ส่วนหนึ่งของบทสนทนาระหว่าง โอดะ กับ โน ผู้เป็นภรรยา เกี่ยวกับ ฮัมเบ
“ที่ทะเคะนะคะ ฮัมเบ ทำลงไป ไม่ได้เพราะอยากจะยึดปราสาท แต่เพียงเพื่อจะขับไล่คนไม่ได้ความอย่าง ไซโทะ ทะทสึโอะคิ ออกไป...เขาจะยอมทำตามท่านหรือคะ”
“ถ้าทะเคะนะคะ ฮัมเบ ยอมรับขอเสนอข้าก็ดีอยู่ แต่ทว่า...ถ้าเขาปฏิเสธ เพราะถือคติส่วนตัว จะยิ่งน่าสนใจมาก”
“คติส่วนตัวเหรอคะ?”
“มีคนไม่กี่คนหรอก...ที่ใช้ชีวิตแบบนั้น กำจัดของเก่าไร้ค่าทิ้ง...รวมทั้งพวกไม่ได้ความทั้งหลายด้วย...เพื่อสร้างชาติใหม่...นั่นคือคติของข้า”
***ประโยคนี้ แสดงให้เห็นธาตุแท้ของโอดะอย่างชัดเจน ไม่แปลกใจที่ ฮัมเบ เลือกไม่รับใช้คนอย่างโอดะ แต่กลับยอมรับในตัวฮิเดโยชิมากกว่า***

กลับมาที่ คัมเบ ผู้ที่ยังเสียใจกับการจากไปของโอะทะทสึ ส่งผลต่อหน้าที่การงาน พ่อของคัมเบ จึงคิดส่งลูกชายออกไปทำเควส พ่อลูกจึงนั่งคุยกัน
“...ยังฝังใจเรื่องการตายของโอะทะทสึงั้นหรือ?”
“ความโกรธสามารถเปลี่ยนเป็นความสุข...ความเศร้า สามารถเปลี่ยนเป็นความสนุก...แต่เมืองที่ล่มสลายไม่อาจฟื้นกลับ...คนตายไม่อาจฟื้นคืน”
“อย่าให้ความโกรธหรือความเศร้าเป็นชนวนเหตุของสงคราม คนตายไปแล้วทำยังไงก็ไม่อาจฟื้นคืนมาได้”
“ตอนนี้เจ้า...อาจจะยังไม่เข้าใจ ตอนนี้เจ้าคือความอับอายของ...ตระกูล คุโระดะ”

ฉากต่อมา ปู่ของคัมเบ แวะมาสนทนาเพื่อเตือนสติหลาน โดยถ่ายทอดความในใจของโอะทะทสึมาบอกคัมเบ ประมาณว่า นางเองก็รักคัมเบมาก แต่เมื่อนางเลือกเป็นบุตรีแห่งตระกูล คุโระดะ นางได้ทิ้งความรักนั้นไปแล้ว นางไม่เสียใจในทางที่เลือก และนางทำใจกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ เดิมที คัมเบ อยากแก้แค้นมาก ปู่ก็ปล่อยให้คัมเบพูดไป จนเมื่อคัมเบ พูดว่า...
“ถ้าแพ้ก็แค่ตาย! ข้าไม่เสียดายหากตายในสนามรบครับ”
“เจ้าโง่! อย่าทิ้งขว้างชีวิตตัวเอง! เจ้ายังไม่รู้ว่าต้องใช้ชีวิตเยี่ยงไร!”
“โอะทะทสึ ตายในอ้อมแขนข้าครับ!...ในคืนแต่งงานของนาง...นางตายทั้งน้ำตาครับ หากข้าไม่แก้แค้นให้...มันก็คง...เศร้านัก”
“สงบสติอารมณ์ลงก่อน...เจ้าคิดว่า โอะทะทสึ อยากให้เจ้าล้างแค้นงั้นรึ?”
“คัมเบ...เจ้ายังเยาว์วัย ยังพบเห็นโลกนี้ไม่มาก ภูมิภาคเล็กๆอย่าง ฮะริมะ ไม่ใช่โลกทั้งใบ...แผ่นดินมันกว้างใหญ่ เพื่อหาคำตอบของชีวิตเจ้าเอง...เจ้าต้องออกไปหา...แล้วคิดให้ดีๆ”

คัมเบเลือกรับเควสตามคำแนะนำของพ่อ เดินทางไปสะคะอิ พร้อม เซ็นสุเคะและบุเฮ ระหว่างทางโดนดักปล้น ได้ อะระคิ มุระชิเงะ ช่วยเอาไว้ เขาบอกคัมเบว่าสถานการณ์ใน สะคะอิ กำลังวุ่นวาย เพราะโชกุนถูกฆ่า โดยการวางแผนของ มะทสึนะงะ กับ มิโยชิ หลังจากนั้นสองคนนี้ขัดแย้งกัน ทำให้สถานการณ์ในพื้นที่ไม่สงบ อะระคิ เป็นโรนินคอยเที่ยวพเนจรไปทั่ว เมื่อถูก เซ็นสุเคะถามว่า ทำไมถึงพเนจร เขาตอบว่า...
“เพื่อจะได้ทันสถานการณ์ไงล่ะ”
“สถานการณ์อะไรหรือครับ?”
“ของบ้านเมืองไงล่ะ! ตอนนี้ข้า อะระคิ อาจจะยังเป็นแค่โรนิน แต่วันหนึ่งข้าจะเป็นเจ้าเมืองครองปราสาท! ข้าจะเป็นเหมือนกับ โฮะโจะ โสะอัน กับ ไซโทะ โดะสัน! ไม่สิ ข้าจะต้องยิ่งใหญ่กว่านั้น! จะต้องปกครองทั่วแผ่นดิน! เพราะงั้นข้าต้องติดตามสถานการณ์ เพื่อรอโอกาสของข้า...เอาเถอะ คนเราต้องฝันให้ใหญ่นะ”

ฉากต่อมา คือภาพความเสียหายหลังศึกสงคราม...
“งี่เง่าจริงๆ สู้ไปเพื่ออะไรกัน มีแต่จะทำให้ผู้คนเจ็บปวด!”

เดินทางมาถึงเมืองที่ต้องทำเควสแล้ว...
“สะคะอิ เป็นเมืองของตัวเอง ไม่ว่าเจ้าจะเก่งซักแค่ไหน ก็เอาชนะพลังเงินของ สะคะอิ ไม่ได้ ไม่ว่า โชกุน หรือ ไดเมียว ก็ไม่กล้าบุกที่นี่ ที่นี่ปกครองด้วยพ่อค้า เศรษฐี”

อะระคิ พา คัมเบ ไปพบพ่อค้าคนหนึ่ง ก่อนจากกัน เขาขอค่านำทาง คัมเบได้สร้างความประหลาดใจ เมื่อจ่ายค่าตอบแทนค่อนข้างสูง...
“เยอะขนาดนี้เลยหรือ?”
“อะระคิ โดะโนะ ช่วยชีวิตพวกเราไว้นะครับ”

เควสของคัมเบ คือการติดต่อเพื่อขอซื้อปืนนั่นเอง...
“มาครั้งแรกจะขอซื้อเลยได้รึเปล่าครั้บ?”
“ได้สิครับ ใครก็ตามที่จ่ายเงิน คือลูกค้าของเราครับ”

ก่อนจ่ายเงิน ขอดูของ พ่อค้าสอนวิธีการใช้...
“แค่ครั้งเดียว...ก็สังหารคนได้ครับ”
พ่อค้ากระตุ้นความสนใจของคัมเบ โดยกล่าวว่า มีคำสั่งซื้อปืนจำนวนมากจาก โอดะ โนบุนะงะ ผ่าน คิโนะชิตะ โทะคิฉิโระ (ฮิเดโยชิ นั่นแหละ)
“คิโนะชิตะ สะมะ พูดเอาไว้น่าคิดมาก...สะคะอิในตอนนี้ อยู่ด้วยการขายอาวุธให้กับสงคราม ฟังแล้วก็น่าขันดีนะ?”
“บุเคะ แบบพวกท่านอาจจะไม่เข้าใจ แต่การค้าก็คือการศึก สำหรับพ่อค้า สะคะอิ ครับ”

ทำเควสเสร็จ ฉากพาเราใคร่ครวญถึงความแตกต่างของสภาพบ้านเมืองที่อยู่ด้านนอก กับในเมือง สะคะอิ ผ่านตัวละครอย่างคัมเบ ซักพัก คัมเบได้ยินเสียง...เสียงนั้นพาคัมเบให้พบกับ โบสถ์ของชาวคริสเตียน...
“ภายใต้พระผู้เป็นเจ้า ทุกคนไม่ต่างกันครับ ที่นี่ทุกคนคือคริสเตียนครับ”
“คริสเตียนมีกฎ 3ข้อครับ เชื่อในพระผู้เป็นเจ้า...ขอความช่วยเหลือจากพระผู้เป็นเจ้า...แล้วก็ช่วยเหลือกันและกัน”
“จงดีกับเพื่อนบ้าน ให้เหมือนที่ดีกับตัวเอง”
“รักเพื่อนบ้าน ให้เหมือนกับที่รักตัวเองครับ”
“แล้วความขัดแย้งทั้งหลายจะจบลงครับ”

ปิดท้ายตอนนี้ด้วยประโยคของคัมเบ...เมื่อบริวารถามว่าหายไปไหนมา
“ไปดูโลกกว้าง...มันใหญ่จนไม่น่าเชื่อ ยังมีหลายสิ่ง...ที่ข้ายังไม่เคยรู้”


โดย: Ruchy วันที่: 15 เมษายน 2560 เวลา:7:58:29 น.  

 
ตอนที่4
คัมเบไปไหว้หลุมศพโอะทะทสึ เมื่อทำใจได้แล้ว คัมเบแวะไปดูงานที่บ้าน

...เมื่อโชกุนถูกฆ่า น้องชายที่ชื่อ อะชิคะงะ โยชิอาคิ อยากก้าวขึ้นตำแหน่งแทน เพื่อหาพันธมิตร จึงย้ายจากเคียวโทะ ไปอยู่กับ ตระกูล อะสะคุระ ใน อิฉิเซ็น เขายังสนิทกับ อาเคฉิ มิทสึฮิเดะด้วย สถานการณ์ของแต่ละฝ่ายในตอนนี้เป็นดังนี้
-ตระกูล อะสะคุระ ที่โยชิอาคิไปขออาศัย ไม่มีความคิดขยายอำนาจ
-ตระกูล ทะเคดะ และ อุเอสุงิ ตรึงกับ โฮะโจะ จึงรอดูสถานการณ์
-โอดะ ที่อยู่ โอวาริ กำลังเตรียมบุก มิโนะ

เมื่อโยชิอาคิมองว่า ไม่มีใครสนใจตนเอง จึงส่งสาส์นถึงไดเมียวทุกคนทั่วญี่ปุ่น เจ้าเมืองโกะฉะคุ ก็ได้รับสาส์นนั้น รวมถึงพ่อของคัมเบด้วย

ต่อมา ภรรยาของเจ้าเมืองโกะฉะคุ ให้กำเนิดทายาท เจ้าเมืองเริ่มกังวลกับอนาคตของตน และหวาดระแวงพ่อของคัมเบที่ได้รับสาส์นจากโยชิอาคิ จึงหาทางบีบพ่อของคัมเบ ภรรยาเจ้าเมืองจึงนำความมาแจ้งแก่คัมเบ...
“ถ้าเกิดปัญหาภายในขึ้น ศึกภายนอกอาจจะตามมา...เพื่อทายาทที่เขารอมานาน เขาจะยอมทำทุกอย่างเพื่อปกป้อง”

คัมเบจึงให้บริวารส่งข่าวไปหาพ่อ พี่น้องพ่อนั่งคุยกัน
“ท่านไม่ควรจะบอกเรื่องจดหมายไปเลยครับ ถ้าท่านปิดเอาไว้ล่ะก็...”
“ถึงปิดไว้ วันหนึ่งนายท่านก็ต้องรู้ ถ้าความแตกเอาภายหลัง...ข้าก็คงโดนกล่าวหาว่าคิดกบฎเป็นแน่”
“เป็นเจ้าเมืองที่ขี้ระแวงจริงๆนะ โคะเดะระที่ยังอยู่ได้ทุกวันนี้ เป็นเพราะว่าเราทั้งนั้น เพราะเราคอยปกป้องเขาอยู่ตลอดเวลานะครับ”
“คงจะเป็นเพราะตอนนี้เขามีทายาทแล้วน่ะสิ เมื่อเรามีสิ่งที่ต้องการจะปกป้องแล้ว...เราจะยิ่งระวังมากขึ้น”
“แล้วท่านพี่จะทำเช่นไรครับ”
“ข้าจะต้องทำอะไรสักอย่าง เพื่อให้เขาหมดข้อสงสัยนะ”

ฝ่ายเจ้าเมืองโกะฉะคุ ออกอุบายให้คัมเบชวนพ่อไปล่าสัตว์...คัมเบต้องออกไปสำรวจสถานที่เพื่อเตรียมอารักขา ระหว่างนั้น ก็ได้พบกับ เทะรุ นางพยายามช่วยเด็กน้อยคนหนึ่งที่ปีนต้นไม้ เพื่อไปเก็บผลอะไรก็ไม่รู้ ไปฝากแม่ที่นอนป่วยอยู่ พอคัมเบรู้ พ่อพระก็ปีนขึ้นไปเก็บลงมาให้ และแบ่งส่วนหนึ่งให้นางด้วย เลยก่อเป็นความประทับใจเล็กๆขึ้นมา...

วันล่าสัตว์มาถึง พ่อของคัมเบเกิดข้ามหน้าข้ามตาเจ้าเมืองโดยไม่ตั้งใจ มีฉากที่คัมเบต้อนไก่ ให้เจ้าเมืองสอยทิ้งขณะบินอยู่ แล้วญาติๆก็มายืนรวมตัวกัน
“ทำดีมากคัมเบ! ไล่ได้สวยมาก!”
“โมะโทะทะคะ-โดะโนะ คัมเบ โตขึ้นมาเก่งมากเลยนะ สบายหายห่วง”
“เขายังต้องเรียนรู้อีกเยอะ”
“ไม่หรอก คัมเบน่ะ เก่งพอรับช่วงแทนเจ้าได้ทุกเมื่อเลยนะ...น่าอิจฉาจังนะ แต่ลูกชายของข้ายังเล็กนิดเดียวเอง เพราะว่าทายาทยังเป็นเด็กน้อยอยู่...เลยมีคนหมายตา โคะเดะระของข้า ข้าน่ะเป็นห่วงแล้วเป็นห่วงอีก จริงๆนะ”

ตกเย็นได้เวลาเมา...คัมเบ ได้พบกับสองสาว ลูกสาวของคุชิฮะชิ สะเคียวโนะสุเคะ ซึ่งเป็นญาติกับเจ้าเมือง หนึ่งในนั้นคือ เทะรุ นั่นเอง...คัมเบแยกตัวออกมาพบเทะรุด้านนอก ต่างฝ่ายต่างทำความรู้จัก และเพิ่มความประทับใจต่อกัน ในขณะที่เจ้าเมืองก็เดินแผนของตัวเอง...
“จริงสิ คัมเบ เจ้าก็เข้าวัยแต่งงานได้แล้วไม่ใช่หรือ? ที่นี่...มีบุตรสาวด้วยนะ ลูกสาวของ สะเคียวโนะสุเคะ ก็คือญาติของข้า มันจะเป็นการกระชับของตระกูลโคะเดะระ และ คุโระดะนะ”

สะเคียวโนะสุเคะเอง ดูเหมือนไม่ขัดข้อง “แบบนั้น...ดีมากเลยครับ”
“ว่าไงล่ะ โมะโทะทะคะ?”
“ครับ ข้าขอบพระคุณนายท่านมากครับ”
“เหมาะกันมากเลยใช่มั้ยล่ะ นะ สะเคียวโนะสุเคะ?

ด้านสะเคียวโนะสุเคะ เมื่อกลับบ้าน สะเคียวโนะชินบุตรชายผู้ซึ่งเข้ารับใช้เจ้าเมืองพร้อมกับคัมเบนั้น ออกแรงคัดค้านเต็มที่ ในขณะที่ ริคิ(ถูกคาดหมายว่าต้องแต่งกับคัมเบ) พี่สาวของเทะรุ ก็ฟังพี่ชายเป่าหูเรื่องคัมเบ จึงดูถูกและรังเกียจทั้งที่ยังไม่รู้จักกัน มีเพียง เทะรุที่ไม่ปักใจเชื่อ เพราะเคยพบคัมเบมาแล้ว...

ที่บ้านพ่อของคัมเบ...
“เจ้าสาวคือลูกสาวของ คุชิฮะชิ-โดะโนะ งั้นรึ? ดีมากเลยไม่ใช่หรือครับ!”
“อีกอย่าง ถ้านายท่านเป็นพ่อสื่อให้แบบนี้ ก็น่าจะทำให้ ปัญหาเรื่องจดหมายท่านโยชิอาคิ หมดไปนะครับ”
“ไม่หรอก นายท่านยังคงไม่ไว้ใจข้า มันยังมีปัญหาอยู่ ตระกูลของเรากำลังอยู่บนเส้นด้าย...ดูแล้วคงไม่มีทางเลือกอื่นนะ...คัมเบ...เจ้ารับช่วงต่อนะ...ตราบใดที่ข้ายังนำตระกูลคุโระดะ นายท่านก็จะไม่วางใจ เพราะงั้นเขาเลยให้เราแต่งกับบ้าน คุชิฮะชิ-โดะโนะ เขาอยากให้เด็กน้อย คัมเบ รีบๆขึ้นแทนข้า”
“แต่ว่าข้า...ยังไม่พร้อมนะครับ” คัมเบแย้ง
“ถ้านายท่านไม่วางใจ...เขาจะต้องตัดสินใจ...จัดการกับสาเหตุนั้น ตระกูลคุโระดะ จะถูกสั่งสลาย ไม่ก็ต้องถูกตีตราว่าเป็นกบฏกับโกะฉะคุแน่นอน...คัมเบ...นี่คือวิธีเดียวที่จะช่วย คุโระดะ”

ณ ภูมิภาค มิโนะ คิโนะฉิตะ(ฮิเดโยชิ) กำลังรอฤกษ์บุก ปราสาทอินะบะยะมะ... (ปราสาทที่ ทะเคะนะคะ ฮัมเบ ยึดมาได้ แต่สุดท้ายตัดสินใจคืนมันให้แก่ไซโทะ เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกับโอดะ) มันคือ สาส์นตอบรับการเข้าร่วมกับโอดะของสามเจ้าเมืองมิโนะฝั่งตะวันตก ฮิเดโยชิ รีบรายงานต่อโอดะ เมื่อได้รับข่าวแล้ว โอดะ จึงเดินหน้าบุกมิโนะสามารถยึดปราสาทมาได้สำเร็จ...
“พังประตูเก่าทิ้ง! ให้ลมใหม่ๆพัดเข้ามาในปราสาทข้า!”

ณ ปราสาทอินะบะยะมะ โอดะ นั่งอยู่บนที่ประทับ พรั่งพร้อมด้วยบริวาร...
“ตั้งแต่วันนี้ไปเปลี่ยนชื่อที่นี่เป็น กิฟุ...และข้าก็มีเป้าหมายใหม่...รวมชาติ...โดยให้บุชิปกครอง...ชาติใหม่ ภายใต้กฎใหม่...ยุคเก่าใกล้จะจบแล้ว ข้าโนบุนางะจะรวมทั้งแผ่นดิน”

ปณิธานของโอดะ ถูกส่งเป็นสาส์นไปทั่ว ทะเคะนะคะ ฮัมเบ ก็ได้รับด้วย...
“กล้าจริงๆนะ...แต่ก็น่าสนใจด้วย”

อีกคนที่ตื่นเต้นก็คือ คัมเบ ในวัย 21 ปี กำลังรายงานสถานการณ์ให้เจ้าเมืองโกะฉะคุ ซึ่งกำลังอุ้มลูกน้อยอยู่...
“รวมชาติ...โนบุนางะ-โดะโนะ ตั้งเป้าจะขึ้นปกครองชาติครับ”
“พูดจาใหญ่โตเสียจริงนะ...”
“โนบุนางะ-โดะโนะ ได้เปิดให้ กิฟุ ค้าขายเสรีครับ...การค้าทุกอย่างในปราสาท กิฟุ จะไม่ถูกเก็บอากรครับ...ทุกคนสามารถค้าขายได้ทุกอย่างที่ต้องการ...ตอนนี้ที่ กิฟุ เต็มไปด้วยพ่อค้ามากมายครับ...เมืองกำลังรุ่งเรืองมากครับ”
“คึกคักกันจริงนะ แต่สุดท้ายก็มีแต่พ่อค้าที่สบาย”
“แต่เมืองก็จะได้รับผลด้วยครับ พอคนมากขึ้น เมืองก็จะใหญ่ครับ...บางทีพวกเรา น่าจะเปิดค้าเสรีที่ โกะฉะคุ ดูบ้างนะครับ”
“เปลี่ยนไปคุยเรื่องโมะโทะทะคะ ดีกว่า... เขาบอกข้าว่าจะวางมือแล้วให้เจ้ารับช่วงต่อแทน...ตอนนี้เป็นไงบ้าง?...เขายังตั้งใจแบบเดิมรึเปล่า?...ข้าน่ะนะ...จะบอกตามตรงนะ...ข้าน่ะมองเจ้าเหมือนกับลูกชายข้าคนหนึ่ง”
“เป็นเกียรติของข้าอย่างสูงครับ”
“เจ้าน่ะ...เป็นครอบครัวของข้า ข้าเชื่อว่าเจ้า จะคอยสนับสนุนข้าต่อจาก โมะโทะทะคะนะ”
“นี่...อุ้มหน่อยสิ...รับไป...” ให้คัมเบอุ้มลูกตัวเอง
“เขาน่ะ...เป็นพี่ชายเจ้านะ...ดูสิ...ท่านพี่อุ้มอยู่นะ...คัมเบ เจ้าน่ะ...ช่วยปกป้องเขาด้วยนะ”
“ข้าจะปกป้องเขาด้วยชีวิตข้าครับ”

ฝ่ายสะเคียวโนะสุเคะ ริคิผู้ไม่ต้องการแต่งงานกับคัมเบ พยายามจะฆ่าตัวตาย พี่ชายและเทะรุก็อยู่ด้วย ฝ่ายพ่อก็หนักใจ ไม่อยากขัดกับเจ้าเมืองเพราะเสี่ยงถูกสั่งคว้านท้อง อยู่ดีๆ เทะรุที่กำลังปลอบ ริคิ ก็หัวเราะออกมา...
“เทะรุ!...ขำอะไรน่ะ!”
“ท่านพี่คะ แกล้งร้องไห้ ให้มันสมจริงหน่อยสิ...”
“อะไรนะ?” / “น้ำตาจระเข้ค่ะ...นางติดนิสัยมาตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ เวลาที่ท่านพี่โกหก นางจะคันจมูกค่ะ”
เมื่อถูกจับไต๋ได้ ริคิ ยังไม่ยอมแพ้จะหนีไปบวชชีอีก เข้าทางเทะรุ ได้ช่วยพ่อ และแต่งกับคัมเบซะเอง เล่นเอาพี่ชาย พี่สาว เหวอแดก...

เมื่อได้ข้อสรุปแล้ว สะเคียวโนะสุเคะ จึงแจ้งข่าวไปยัง คุโรดะด้วยตนเอง...
ตกดึก สองพ่อลูกนั่งคุยกัน พูดเรื่องแต่งงาน และการสืบทอดตำแหน่ง คัมเบยังไม่มั่นใจตนเองนัก...
“ทุกคนต่างพูดกันทั้งนั้น...ว่าคุโระดะมีผู้สืบทอดที่ดีรออยู่แล้ว...ข้าเองก็...เห็นด้วย...ฝากด้วยนะ”
(พ่อของคัมเบ เป็นผู้นำที่ดีมากๆค่ะ โดยเฉพาะการรับฟังคน การประเมินสถานการณ์และไม่ยึดติดกับตำแหน่งใดๆ รู้ว่าเมื่อไหร่ ควรทำอะไร)

...พิธีแต่งงานระหว่างคัมเบ กับ เทะรุ...คืนแต่งงานวันแรก...
“ไม่นึกเลยว่า...เรื่องจะเป็นเช่นนี้”
“ขอประทานโทษจริงๆค่ะ” / “ขอโทษอะไรล่ะ?”
“คือ...ข้าดีใจนะ...ที่เป็นเทะรุ-โดะโนะ...พูดตามตรงแล้ว...ตั้งแต่ได้พบท่านใต้ต้นไม้ครั้งนั้น...ข้าก็สนใจท่านมาตลอด”
“ข้าเองก็เช่นเดียวกันค่ะ...ท่านอาจจะคิดว่าข้าเป็นหญิงน่าไม่อาย...”
“ข้าไม่คิดเช่นนั้นหรอก...คนเราสมควรที่จะพูดอะไรออกมาให้ชัดเจน...ข้า...มีบางอย่างต้องบอกให้รู้”(เล่าเรื่องโอะทะทสึ)
“ท่าน...รักนางงั้นหรือค่ะ?” คัมเบพยักหน้ารับ
“ไม่อยากจะเชื่อเลย!...ในคืนแต่งงานเช่นนี้ ท่านจะพูดถึงหญิงอื่นขึ้นมา?”
“ขอโทษนะ...แต่ว่า...ข้าอยากจะบอกให้เจ้ารู้ไว้”

...คัมเบเขยิบเข้าใกล้เทะรุเอื้อมมือไปกุมมือนาง...
“จากนี้ไป...เราสองจงอย่าได้มีความลับต่อกัน...สัญญากับข้านะ”
“ค่ะ...ขอท่าน...โปรดดีกับข้าด้วยค่ะ”
...เทะรุเอื้อมมืออีกข้างกุมมือคัมเบไว้เช่นกัน...
...แล้วคู่แต่งงานใหม่ก็เดินทางไปไหว้หลุมศพโอะทะทสึด้วยกัน...

ปี1568 (คัมเบอายุ 22ปี) โอดะได้เชิญ ว่าที่โชกุนโยชิอาคิ มาอยู่ที่ปราสาท กิฟุ...
โอดะ จัดเตรียมของกำนัลต่างๆ และปรากฏตัวต่อหน้า โยชิอาคิ...
“เป็นเกียรติที่ได้พบครับ...ข้า..เจ้าเมืองโอวะริ โอดะ โนบุนนางะครับ”
โยชิอาคิค่อนข้างเกร็งเหมือนกัน “โนบุนางะ-โดะโนะ เงยหน้าขึ้นเถอะ”
“ข้าขออภัยด้วย ที่สถานที่รับรองยังไม่พร้อมนักครับ...แต่ว่าข้าคงไม่สร้างวังให้กับท่านครับ” / “หมายความว่าไง?”
“ถ้าสร้างวังตอนนี้ กว่ามันจะเสร็จ...โยชิอาคิ-สะมะ คงอยู่ที่เคียวโทะแล้วครับ”
“โนบุนางะ-โดะโนะ ท่านคือความหวังเดียวของข้าแล้ว! ช่วยพาข้าไปเคียวโทะได้หรือเปล่า?”
“ได้โปรด...ให้ข้าจัดการเองครับ”



โดย: Ruchy วันที่: 17 เมษายน 2560 เวลา:22:28:56 น.  

 
ตอนที่5
คัมเบพร้อมบริวารออกตรวจพื้นที่ ชาวบ้านคู่หนึ่งออกมาต้อนรับ และกล่าวขอบคุณที่สร้างเขื่อนกั้นน้ำไว้ให้ ทำให้พืชผลไม่ได้รับความเสียหายจากฤดูน้ำหลาก...

สิงหาคม 1568 โอดะ ยกทัพเดินทางเข้าเคียวโทะ พร้อมว่าที่โชกุน อาชิคะงะ โยชิอาคิ สภาพเมืองเสียหายหนักจากศึกสงครามนับครั้งไม่ถ้วน ระหว่างเดินทางเข้าเมืองนั้น คิโนะชิตะ พูดกับเพื่อนข้างๆว่า
“เคียวโทะ คือความฝันของข้า ในที่สุดก็ได้มาถึง”
“แต่ลองดูที่นี่สิ...ไม่เหลืออะไรเลย ถูกทำลายจนสิ้นนะ”
“เป็นแบบนี้...เพราะว่าสงคราม”
“สะรุ” เสียงของโอดะเรียกคิโนะชิตะ
“เราจะสร้างเคียวโทะขึ้นมาใหม่...ก่อนอื่นเราจะฟื้นฟูจิตใจผู้คนก่อน”

ณ ขณะนั้นเอง ชายคนหนึ่งทำการปล้นและทำร้ายผู้หญิง ต่อหน้าโอดะ เขาไม่รอช้า ควบม้าและชักดาบออกมาสังหารชายผู้นั้นทันที...
“ใครก็ตามที่กล้าใช้ความรุนแรง ทำความผิดให้ประหารทันที...รวมทั้งคนของข้าด้วย...ข้า โนบุนางะ จะไม่ละเว้น!...เข้าใจรึยัง?”
“ครับ” บริวารต่างขานรับอย่างพร้อมเพรียง

พ่อของโอะทะทสึ(รักแรกของคัมเบ)เป็นนักบวช และคอยรายงานสถานการณ์ต่างๆให้ตระกูล คุโระดะ ได้แจ้งให้คัมเบ ทราบว่า โอดะ ใช้เวลาเพียงเดือนเดียว ทำให้เมือง เคียวโทะ สงบลงได้ ทั่วทั้งเมืองไม่มีใครพูดว่าร้ายโอดะ ส่วนข้าศึก เมื่อเห็นทัพของโอดะ ก็ปอดแหกหนีไป...
“ดั่งเช่นต้นไม้ที่ลู่ตามลมแรง...ทุกคนพร้อมใจกันติดตาม โนบุนางะ ครับ”
“สมกับเป็นโอดะ โนบุนางะ...รวมชาติงั้นหรือ?” แววตาของคัมเบเป็นประกาย

ต่อมา บริวารที่ติดตาม เทะรุ ซึ่งกำลังท้องแก่ใกล้คลอด มีเรื่องถกเถียงกับ พ่อบ้าน ของ คุโระดะ ฉากนี้ทำให้ เทะรุ เข้าใจ ประเพณีหนึ่งของตระกูล คุโระดะ...เมื่อเทะรุ ได้สนทนากับคัมเบ
“...เรียกว่าประหยัดน่ะ...ท่านปู่ของข้าน่ะ เมื่อก่อนขายยารักษาตานะ...ถึงเขาจะเป็นบุชิ แต่เขาก็เก่งเรื่องการค้า...เขารู้ดีถึงความสำคัญของเงินทอง...เพราะงั้นมันเลยเป็นประเพณีของ คุโระดะ สืบมา...เงินจะมีไว้ใช้ยามฉุกเฉิน...จนกว่าจะถึงตอนนั้น เราจะเก็บเอาไว้...ยิ่งโคเฮ(พ่อบ้าน)น่ะยิ่งประหยัด”

พ่อของคัมเบ นั่งเล่นโกะกับพ่อบ้าน(โคเฮ) ระหว่างนั้นภรรยาคนที่สอง(แม่เลี้ยงคัมเบ แม่แท้ๆคัมเบเสียตั้งแต่ตอนแรกหลังจากคัมเบถูกปล่อยตัวตอนไปเก็บสมุนไพรแล้วถูกจับ) ยกน้ำชามาเสิร์ฟ พร้อมเอ่ยขึ้นว่า...
“ข้าไม่รู้มาก่อนว่าท่านจะชอบโกะขนาดนี้”
“ข้าน่ะได้เล่นเพลินๆหลังจากวางมือสักที” พ่อคัมเบตอบ ฝ่ายภรรยาก็ลุกออกไป
“ต้องคอยเล่นกับนายท่านที่โกะฉะคุ คงจะเครียดมากเลยนะครับ”
“หลังจากออมให้เขาตลอดกระดาน ข้าก็ต้องแกล้งแพ้ให้เนียนๆ...นั่นแหละยากที่สุด...คัมเบ จะทำได้หรือเปล่านะ”
“ดูเหมือนว่าเขาแกล้งแพ้เก่งขึ้นแล้วครับ” / “’งั้นรึ”
แล้วก็เปลี่ยนมาคุยเรื่องที่คัมเบจะมีลูกแล้ว แต่ลูกชายพ่อบ้าน(บุเฮ) ซึ่งคอยติดตามคัมเบ ยังไม่คิดหาเมีย…
พอพูดถึงลูกชาย...บุเฮ ก็กำลังให้แม่บ้านที่ชื่อ โอะคุนิ ซ่อมเสื้อที่ขาดให้ พลางก็พูดยกย่องคัมเบนายของตน โดยหารู้ไม่ว่า ด้านนอกนั้น เทะรุมาแอบฟังอยู่และหัวเราะด้วยความชอบใจ

ตุลาคม 1568 อะชิคางะ โยชิอาคิ ได้รับการแต่งตั้งเป็นโชกุนคนที่15 อาเคจิ มิทสึฮิเดะ นั่งอยู่ด้านข้าง เบื้องหน้านั้น โอดะ โนบุนางะ พร้อมบริวาร มาแสดงความยินดี...โชกุนโยชิอาคิจะมอบตำแหน่งรองโชกุนให้แก่ โอดะ แต่โอดะ ไม่สนใจ...
“ข้าไม่ได้อยากได้ตำแหน่งหรือยศอะไรครับ...แต่ข้ามีคำขออย่างหนึ่งที่อยากจะขอครับ” / “อะไรล่ะ? อยากได้อะไรว่ามาเลย”
“สะคะอิ, โอะทสึ, คุสะทสึ...ข้าอยากขออนุญาตท่าน เพื่อให้ข้าส่งคนเข้าไปปกครองที่นั่น...” / “ต้องการแค่นั้นรึ?”
“ครับ” / “ตกลง...ข้าอนุญาตตามนั้น” / “ขอบพระคุณมากครับ”
หลังจากนั้นก็คุยเรื่องการฉลองที่ได้ขึ้นเป็นโชกุน โอดะปรามโยชิอาคิให้จัดแค่พอประมาณ (เพราะตัวเองยังรวมชาติไม่สำเร็จ) แต่อ้างว่าคนอื่นยังไม่ยอมรับในตัวโชกุนนัก อาเคจิที่นั่งอยู่ระหว่างกลางคงรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง...

ที่โอะมิ คิโนะชิตะใช้ความพยายามหลายครั้งเพื่อทาบทาม ทะเคนากะ ฮัมเบ ให้เข้าร่วมกับโอดะให้ได้...ฮัมเบจึงเผยความในใจให้อีกฝ่ายได้รู้
“ข้าได้ลองคิดดูแล้ว...แต่ทว่า...วิถีของโอดะ ไม่เหมาะกับข้านัก...โนบุนางะ-สะมะ เพื่อเป้าหมายของตัวเอง เขาได้สังหารผู้คนไปมากมาย...รวมทั้งหลอกและสังหารน้องชายตัวเอง...วิธีการของเขา ข้ารู้สึกว่ายากที่จะรับได้...มันเหมือนกับนายเก่าของข้าสมัยครอง มิโนะ...ความบาดหมางในครอบครัวนำพาไปสู่หายนะ...ข้าหน่ายกับมันแล้ว”

คิโนะชิตะไม่ลดละความพยายาม “แต่ทั้งหมด...ก็เพื่อการรวมชาตินะครับ...ทั้งหมดเพื่อการยุติ...ยุคสงครามครับ...เพื่อผู้คนบนแผ่นดิน ขอท่านโปรดยื่นมือช่วยด้วยเถอะครับ...ข้าขอร้องท่านล่ะ!”
เมื่อพูดหน้าจ้องตาแล้ว คิโนะชิตะก็คุกเข่าก้มหัวให้ฮัมเบ ไม่ว่าฮัมเบจะบอกให้เลิกทำ ก็ยังคงก้มหัวอยู่อย่างนั้น การกระทำของคิโนะชิตะ ทำให้ฮัมเบตัดสินใจรับใช้ คิโนะชิตะแทน แต่จะช่วยโอดะในฐานะที่ปรึกษายามออกศึกเท่านั้น

เทะรุมาเผือกเรื่องความสัมพันธ์ของโอะคุนิกับบุเฮ แล้วนำมาหารือกับคัมเบ เมื่อคัมเบรับทราบก็ดีใจแทนพ่อบ้าน ระหว่างคุยกันนั้น เทะรุเจ็บท้องเป็นสัญญาณใกล้คลอด...หญิงรับใช้มารวมตัวช่วยกัน คัมเบร้อนใจเดินไปเดินมา ซักพักโอะคุนิมาแจ้งข่าวว่า คัมเบได้ลูกชาย เขารีบวิ่งไปยังห้องที่เทะรุกับเด็กน้อยพักอยู่...คัมเบกุมมือภรรยาและกล่าวคำชมสั้นๆ “เยี่ยมมาก!” เทะรุซาบซึ้งจนน้ำตาไหล เด็กน้อยคนนี้มีนามว่า โซะจุมารุ เมื่อเติบใหญ่มีนามว่า คุโระดะ นะงะสะมะ

ทุกคนในตระกูลคุโระดะต่างอยู่กันพร้อมหน้า เพื่อรับขวัญหลาน เซ็นสุเกะกับบุเฮ ต่างแย่งกันขอดูแลอารักขา โซะจุมารุ แต่บุเฮถูกคัมเบและเทะรุ ดักคอเรื่องโอะคุนิ ฝ่ายพ่อบ้านเมื่อทราบเรื่องก็รู้สึกดีใจ ทุกคนต่างร่วมยินดี แต่ตัวบุเฮ ยังคงอึกอักในเรื่องนี้...

หลังจากนั้น อะคะมะทสึ มะสะฮิเดะ ศัตรูคู่แค้นกับโกะฉะคุ ยกทัพพร้อมทหารสามพันนาย บุกพื้นที่ฮิเมจิที่ตระกูลคุโระดะดูแลอยู่ คัมเบนำทัพออกหน้า เขาใช้แผนซุ่มโจมตีด้วยทหารไม่กี่ร้อยนาย (โคเฮและบุเฮออกรบด้วย) ขับไล่ข้าศึกให้ล่าถอยกลับไปได้
ณ ค่ายทหารโกะฉะคุ
“เยี่ยมมาก! เจ้าทำได้ดีมาก” เจ้าเมืองกล่าวชมคัมเบ
“ขอบพระคุณมากครับ” คัมเบน้อมรับคำชม
“จากนี้ไปชื่อเสียงของคัมเบ คงดังไปทั่ว ฮะริมะ! ข้าน่ะภูมิใจในตัวเจ้ามาก!” เจ้าเมืองยังชมไม่หยุด
“จากนี้ไป อะคะมะทสึ คงจะเจียมตัวไปอีกนานเลยนะครับ” ญาติเจ้าเมืองคนหนึ่งกล่าวขึ้นมา
“ไม่หรอกครับ เขาจะต้องมาอีกแน่” คัมเบหันไปตอบญาติเจ้าเมือง
“เจ้าแน่ใจได้ยังไงล่ะ?” พ่อตาคัมเบถาม
“อะคะมะทสึบอกว่าจะไปเคียวโทะ เพื่อเข้าร่วมกับโชกุน โยชิอาคิ...พอเขาประกาศ ก็มีคนมากมายมาเข้าร่วมทัพกับเขาครับ” คัมเบชี้แจง
“ไม่ต้องห่วง ถ้าเขามาอีก ข้าจะยกทัพออกไปเอง...แค่อะคะมะทสึ ข้าจะไล่ไปเอง” เจ้าเมืองโชว์พาวบ้าง เรียกขวัญกำลังใจทุกคน
“ข้านึกภาพของเขา ตอนที่กำลังหนีนายท่านออกเลยครับ” พ่อตาคัมเบกล่าวเสริม ที่ประชุมหัวเราะครื้นเครง

เมื่อคัมเบกลับถึงที่พัก...พ่อบ้าน...บุเฮ...และเซ็นสุเคะ หอบไหคนละหนึ่งใบ เข้าพบคัมเบ...
“เกิดอะไรขึ้นหรือคะ?” เทะรุถาม
“ได้เวลาต้องใช้แล้ว” คัมเบกล่าวพร้อมยกมือตบไหเบาๆ

...ต่อหน้าเหล่าทหารที่เพิ่งสู้ศึกกันมา...คัมเบเริ่มกล่าว...
“ทุกคนต่อสู้ได้ดีมากในศึกที่ผ่านมา ข้าเลยจะให้รางวัลทุกคน” มีเสียงฮือฮา
“ศึกครั้งหน้าจะยิ่งหนักกว่าที่ผ่านมา!...ข้าขอฝากพวกเจ้าด้วย!”
“ครับ” เหล่าทหารตอบรับอย่างพร้อมเพรียง
แล้วคัมเบก็เป็นคนแจกรางวัลด้วยตนเองพร้อมกับกล่าวให้กำลังใจทุกคน...

มิถุนายน 1569 (คัมเบอายุ 23ปี) ณ ปราสาท ทะทสึโนะ ของตระกูลอะคะมะทสึ
“ฟังให้ดีนะ! ถ้าเรายึดเอา ฮิเมะจิได้...โกะฉะคุก็จะล้มอย่างง่ายดาย เป้าหมายของเราคือ ฮิเมะจิ! ไปบดขยี้กันเลย!”

คัมเบคาดการณ์ได้ถูกต้อง...เหล่าทหารเตรียมตัวสู้ศึก
“...เซ็นสุเคะ...” เสียงของพ่อบ้าน / “ครับ”
“ศึกแรกของเจ้าใช่หรือเปล่า” / “ครับ”
พ่อบ้านตบบ่าเซ็นสุเคะแล้วกล่าวว่า “นายท่านน่ะ อยากให้เจ้าอยู่ใกล้ๆข้า”

ที่ห้องครัว บุเฮ แวะมาหา โอะคุนิ นางอวยพรให้เขาได้รับชัยชนะกลับมา...
“โอะคุนิ...เมื่อข้ากลับมา...แต่งงานกันเถอะ” / “ค่ะ” โอะคุนิตอบรับทั้งน้ำตา บุเฮเดินเข้ามากอดนาง...

ด้านคัมเบ ก็ร่ำลาเทะรุและลูกน้อย...
“หลับสบายเลยนะ...วันวุ่นวายเช่นนี้ ก็ยังหลับได้ง่ายๆ...เกิดมาพร้อมกับความกล้าจริงๆนะ”
“เด็กคนนี้เพิ่งคลอด ได้แค่ 6เดือนเท่านั้น...เพื่อลูกชายของเรา ได้โปรดปลอดภัยกลับมานะคะ”
“ข้าจะกลับมาแน่นอน...ข้าสัญญาไว้แล้วว่าจะปกป้อง ฮิเมะจิ”

ณ ที่ตั้งค่ายเจ้าเมืองโกะฉะคุ
“คัมเบ เป็นไงบ้าง?” / “ข้าศึกอยู่ที่ โคะมะรุยะมะ ครับ”
“คราวนี้ อะคะมะทสึ จบสิ้นแน่ๆ...ใช่ไหมคัมเบ?...เจ้าจะเป็นทัพหน้านะ...รุ่งสางก็เข้าตีได้เลย”
“ทหารของข้าอยู่ที่แนวหน้าแล้วครับ” คัมเบตอบเจ้าเมือง
“ดี...ไปขยี้มันเลย” / “ครับ” เหล่าแม่ทัพขานรับ

ที่ตั้งค่ายของคัมเบ คัมเบประชุมเหล่าแม่ทัพของคุโระดะ...
“ทัพใหญ่จากโกะฉะคุ ก็มาหนุนด้วย แบบนี้สบายมาก...ข้าจะนำหน้าไปก่อน” เสียงของโทะโมจิ อาคนเล็กคัมเบกล่าวขึ้น / “ครับ” คัมเบรับทราบ
“ท่านอาคนรอง (ชื่อคิวมุ) พากลุ่มข้ามแม่น้ำอ้อมไปด้านหลังค่าย อะคะมะทสึ”
“ข้าจะพาทหารขึ้นไปบนเนิน เพื่อดึงความสนใจไว้” คิวมุตอบ
...ระหว่างนั้น ก็มีเสียงดังขึ้น...”รายงานนนนน!”....”อะคะมะทสึ ลอบโจมตีครับ!”...เข้าโอบล้อมพวกเรา เข้ามาเรื่อยๆแล้วครับ!”

“เกิดอะไรขึ้น?” เจ้าเมืองซึ่งอยู่ในที่ตั้งถามด้วยเสียงอันดัง นายทหารคนหนึ่งตรงเข้ารายงาน“นายท่านครับ อะคะมะสึ เข้าปิดล้อมพวกเราครับ!...ที่นี่อันตรายมาก หนีก่อนเถอะครับ” / “เข้าใจล่ะ”
“อารักขานายท่าน!” / “อย่าแตกตื่น ใจเย็นๆ” พ่อตาคัมเบ พยายามปลอบขวัญทุกคน

“ทัพใหญ่ถอยกลับไปแล้ว?!” คัมเบได้รับรายงานอีกครั้ง
“ครับ กลับไปทั้งหมดเลย ทั้งๆที่ยังไม่ได้สู้”
“อะไรนะ?!” เสียงโทะโมจิดังขึ้น ทหารยังคงรายงานต่อ...
“ไม่เหลือเลยครับ เหลือแค่พวกเราครับ”
“ทิ้งพวกเราไว้งั้นรึ!” คิวมุของขึ้นบ้าง
“เจ้าพวกบ้า โกะฉะคุ ไม่เคยพึ่งอะไรได้เลย!” โทะโมจิเหลืออดมากๆ
“คัมเบ เราก็ควรถอยไปตั้งหลักที่ ฮิเมะจินะ?” คิวมุกล่าวกับคัมเบ
“ไม่ได้ครับ ถ้าเราถอยจากตรงนี้...ข้าศึกจะสามารถตั้งทัพบุกพวกเราได้ง่าย!...เพื่อปกป้อง ฮิเมะจิ เราต้องตั้งหลักสู้ที่นี่ครับ” แล้วคัมเบก็ออกคำสั่งทันที...
“ทุกคนฟังให้ดี!...เราต้องปกป้อง ฮิเมะจิ!...จงอย่าปล่อยให้ อะคะมะทสึ ผ่านไปได้!...เข้าใจนะ?” / “ครับ” ทุกคนช่วยกันปลุกเร้าขวัญและกำลังใจ...

วันแรกของสงคราม คัมเบได้สูญเสียโทะโมจิ และโคเฮ...โมะโทะทะคะ พ่อของคัมเบได้ยกทัพมาเสริมในคืนนั้น ที่ปราสาทฮิเมจิ ทหารได้รายงานสถานการณ์ให้เทะรุทราบ พี่เลี้ยงของเทะรุเสนอให้นางกลับบ้านเพราะสถานการณ์ไม่ปลอดภัย แต่เทะรุเข้าใจบทบาทหน้าที่ในฐานะภรรยาของผู้นำตระกูล นางตัดสินใจตั้งรับในปราสาทและอนุญาตให้ชาวนาที่หลบภัยสงครามเข้ามาพักในเขตปราสาทได้

ผลการทำสงครามต่อเนื่อง สร้างความเสียหายให้แก่ทัพของคัมเบ ทหารที่มีน้อยกว่าข้าศึกทั้งบาดเจ็บและอ่อนล้า รวมทั้งบุเฮ ก็ได้รับบาดเจ็บค่อนข้างหนัก

ณ ที่ตั้งค่ายของคัมเบ...
“เราเสียคนไปเท่าไหร่น่ะ?...เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเสียไปกี่คนแล้ว!...คัมเบ ดูแล้วเรากลับไปต้านที่ปราสาทดีกว่านะ” คิวมุกล่าวขึ้น
“ไม่ครับ...ถ้าศึกยืดเยื้อเราจะต้องพ่ายแน่ๆ...เราต้องบุกตอนนี้ครับ” คัมเบกล่าวขึ้น เมื่อพูดจบก็ก้าวออกจากที่นั่ง
“บุกงั้นหรือ? เจ้าบ้าไปแล้วรึ คัมเบ?” คิวมุตามคัมเบไป ในขณะที่โมะโทะทะคะ มองดูสองคนโต้ตอบกัน
“ตอนนี้ ทหารทั้งล้าทั้งบาดเจ็บ” คิวมุพูดไม่ทันจบ คัมเบก็สวนขึ้นทันที “ข้าศึกก็เช่นกัน!...คงกำลังพักผ่อน สบายในคืนนี้” / “แต่ว่า...!”
“คิวมุ!” โมะโทะทะคะแทรกขึ้นบ้าง คัมเบใส่ต่อ “ตอนนี้ข้าศึกกำลังประมาท...ถ้าเราบุกพวกเขาจะไม่ทันตั้งตัวครับ...ข้าจะเป็นทัพหน้าเองครับ” ว่าแล้วก็หันมาทางโมะโทะทะคะ “ท่านพ่อ!...ฝากด้วยครับ” / “ออกไป...แล้วสู้ให้เต็มที่” เมื่อท่านพ่อสนับสนุน คัมเบก็หายห่วงในแนวหลัง

คัมเบพยายามรวบรวมคนที่ยังสู้ได้ ออกศึกครั้งสุดท้าย บุเฮก็ไม่วายขอตามไปด้วย
“นายท่านครับ! พาข้าไปด้วยเถอะครับ!...ข้าจะล้างแค้นให้ท่านพ่อ!”
“คนเจ็บห้ามออกไป!” / “ก่อนที่พ่อข้าจะตาย สั่งให้ข้าอารักขานายท่าน...ข้าต้องไปกับท่านครับ!” ตาจ้องตา บุเฮไม่รอให้คัมเบอนุญาต “เซ็นสุเคะ ไปกัน!” คัมเบพูดอะไรไม่ออก จึงสั่งคนอื่น “ฟังนะ ให้คนที่ไหวเท่านั้นที่ไป!...ตามข้ามา!”

ฝ่ายอะคะมะทสึ กำลังระเริงกับความได้เปรียบ...
“คัมเบน่ะ ตอนนี้คงกำลังหลบสั่นอยู่ในปราสาท” เจ้าเมืองอะคะมะทสึกล่าวขึ้น
“พอเรายึดฮิเมะจิได้แล้ว โกะฉะคุก็แค่เรื่องง่ายๆครับ” อิชิคะวะ กล่าวเสริม(ตานี่เคยอยู่ฝ่ายโกะฉะคุมาก่อน เคยพยายามหาเรื่องโมะโทะทะคะ แต่คัมเบจับพิรุธได้ ตอนนั้นคัมเบอายุ 15ปี พอใส่ร้ายไม่สำเร็จ จึงเปลี่ยนฝั่งมาอยู่ทางนี้แทน)
“ฮิเมะจิน่ะ เจ้าเอาไปเลยนะ!” เจ้าเมืองบอกอิชิคะวะ / “ขอบพระคุณมากครับ” ทันใดนั้น ทหารนายหนึ่งวิ่งมารายงาน “นายท่าน! คุโระดะ ยกทัพบุกเราครับ!”
“ว่าไงนะ? เป็นไปไม่ได้!” อิชิคะวะ ลุกขึ้นกล่าวด้วยอาการเข็มขัดสั้น

“บุกเข้าไปตัดหัวอะคะมะทสึ! อย่าให้หนีไปได้” คัมเบควบม้าตะบึงเข้าสู่ทัพข้าศึก พร้อมสั่งด้วยเสียงอันเฉียบขาด
“อย่าปล่อยโอกาสนี้ไป! บุกเข้าไปหา อะคะมะทสึ!” บุเฮปลุกขวัญทหารไล่หลังคัมเบ

ในระหว่างนั้น คัมเบที่กำลังสู้บนหลังม้า ถูกซัดตกลงพื้นดิน หมดสติไปแว้บหนึ่ง พอลุกขึ้น ทหารฝ่ายตรงข้ามกำลังเงื้อดาบหมายจะฟัน แต่ทว่ามีเสียงหนึ่งดังขึ้น...
“หยุด!...ถอยไป!...” / “อิชิคะวะ!” / “คัมเบ! ตาย!”...อิชิคะวะง้างหอกมาแต่ไกล คัมเบยังผงะอยู่ บุเฮมาจากไหนไม่รู้ แต่จังหวะเป๊ะ พุ่งจากด้านข้าง เข้ามารับคมหอกพอดี
“บุเฮ-สะมะ!” เสียงเซ็นสุเคะไล่หลังมา บุเฮใช้เฮือกสุดท้ายจัดการทหารที่เข้ามาใกล้อีกสองคน ก่อนล้มลง...แต่ยังไม่ตาย...

“บุเฮ...บุเฮ!” คัมเบได้สติ พุ่งมาหาบุเฮ “บุเฮ!”
อิชิคะวะยืนรออยู่ คัมเบเงยหน้าขึ้นมา พร้อมสู้แล้ว “อิชิคะวะ!” / “เข้ามาเลย คัมเบ”

เอาจริงๆ คัมเบสู้ อิชิคะวะไม่ได้ แต่ใช้ไหวพริบ จนสามารถฆ่าอิชิคะวะสำเร็จ เมื่อสังหารแม่ทัพศัตรูได้ ทหารก็แตกกระเจิง เจ้าเมืองอะคะมะทสึก็ทิ้งค่ายหนีไป ก่อนที่คัมเบจะไล่ตามไป หันมาหาบุเฮ
“แค่นี้ข้าไม่ตายหรอก!” แล้วบุเฮก็ตะโกนคล้ายจะแสดงให้คัมเบเห็นว่ายังไหว สองคนโต้ตอบกันทางสายตา น้ำตาคลอ “เร็วเข้า...ตามไปเถอะครับ” คัมเบพยักหน้ารับ หันหลังให้บุเฮ แต่เดินหน้าในสนามรบต่อ “อิชิคะวะตายแล้ว! เราจะไล่ตาม อะคะมะทสึไป!...ทุกคนรวมตัว!” / “ตามมาเร็ว คัมเบ!” คิวมุควบม้านำไปก่อน คัมเบเห็นดังนั้นก็สั่งให้ทหารนำม้าของตนมา ทั้งหมดยังอยู่ในสายตาของบุเฮ... “นายท่าน! ได้โปรด...ปกป้องฮิเมะจิ ด้วยครับ...เซ็นสุเคะ” / “ครับ” / “ฝากด้วยนะ ช่วยปกป้องนายท่าน...แทนข้าด้วยนะ” แล้วบุเฮก็ล้มลง จากไป...

คัมเบสามารถปราบอะคะมะทสึได้สำเร็จ กลับมาถึงปราสาท มีเทะรุรอต้อนรับ คัมเบมองไปยังคนที่บาดเจ็บ...ด้านโอะคุนิ เดินไปหาเซ็นสุเคะ เพื่อถามหาบุเฮ เซ็นสุเคะได้แต่หลบสายตา ไร้คำตอบ นางมองไปรอบๆ สุดท้าย ประสานกับสายตาของคัมเบ ตอนนี้เทะรุจึงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น โอะคุนิก็เช่นกัน นางทรุดตัวร่ำไห้ เทะรุคุกเข่าประคองนางไว้ แล้วกล่าวว่า...
“โอะคุนิ บุเฮน่ะ...โมริ บุเฮน่ะ...สละชีวิตของเขา...เพื่อปกป้อง ฮิเมะจิ...กับเจ้านะ”
คัมเบได้ยินดังนั้น จึงกล่าวขึ้นบ้าง
“ทุกคน...ชัยชนะของพวกเรา!” แล้วคัมเบก็ชักดาบออกมา ท่านพ่อก็เช่นกัน “ชัยชนะของพวกเรา!” ทุกคนตะโกนย้ำราวกับจะเปลี่ยนความคับแค้นในใจ ให้กลายเป็นความฮึกเหิม เปลี่ยนความเศร้าโศก เป็นความเข้มแข็ง...

หลังจากนั้นไม่นาน คัมเบได้คัดเลือกผู้ติดตามใหม่ นอกจากคุริยะมะ เซ็นสุเคะแล้ว ก็มี อิโนะอุเอะ คุโรเอม่อน ซึ่งพ่อของคัมเบแนะนำมา กับ โมริ ทะเฮ(ญาติในตระกูล ของบุเฮ) ทั้งสามกลายเป็นบริวารที่รับใช้คัมเบอย่างจงรักภักดีเป็นที่สุด ดุจสมบัติล้ำค่าของตระกูลคุโรดะไปอีกหลายสิบปีทีเดียว...


โดย: Ruchy วันที่: 18 พฤษภาคม 2560 เวลา:15:07:19 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Ruchy
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




แม่ลูกหนึ่ง ที่ยังไม่รู้ว่าชีวิตจะไปทางไหน ขอบคุณในมิตรภาพที่มอบให้กันนะคะ
Friends' blogs
[Add Ruchy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.