ขอเวลานอก...
พักยกซักตอนฉันแค่อยากบันทึกความรู้สึกหลังจากที่เขียนเรื่องราวตัวเองบนโลกออนไลน์มาซักพักฉันได้เรียนรู้ตัวเองจากการเขียนครั้งนี้ หลายวันก่อนที่ฉันปล่อยเรื่องราวออกไปในใจของฉันมันบอกฉันว่า ดีแล้วที่ปล่อยออกไปนะ มัวแต่เก็บมันไว้ทำไมอยู่ตั้งนาน งานเขียนนี้มันกำลังชำระล้างจิตใจฉันทุกตอนที่ฉันเขียน ฉันจะอ่านทบทวนซ้ำทุกครั้ง เพราะฉันหยุดขีดเขียนมานาน ถามว่ามีความกังวลใจมั้ยก็มีนะ หลายเรื่องด้วย แต่ฉันจะปล่อยให้สิ่งนี้หยุดฉันไม่ได้แล้วล่ะ หากตัดอัตตาหรือ ตัวตนของฉัน ทิ้งไป แล้วมองเรื่องราวทุกอย่างนี้ให้เป็นแค่เรื่องของใครซักคนฉันเริ่มเข้าใจอะไรบางอย่าง ประโยคที่ว่า คนเรานั้นมีด้านดีและเลวไม่มีใครสมบูรณ์แบบ มันก็เหมือนกับเรื่องราวพวกนั้นแหละ หากเรื่องราวของฉันเป็นผลงานที่จักรวาลสร้างสรรค์แล้วทำไมฉันจะต้องเก็บมันไว้คนเดียว ฉันนี่ช่างโง่และงี่เง่าจริงที่อมตุ่ยไว้ซะนานพอมันเป็นเรื่องของฉันนี่มันเรื่องใหญ่ว่ะ แต่พอมองเป็นเรื่องคนอื่นฉันอาจจะคิดว่า เฮ้ย เรื่องแค่นี้เอง คิดมากไปได้ อะไรทำนองนี้ ฉันเพียงปล่อยให้สิ่งเหล่านั้นกลายเป็นจิ๊กซอว์เล็กๆของจักรวาลบ้าง หากเราได้อ่านเรื่องคนที่ประสบความสำเร็จจากงานที่เขาทำทำไมเราจึงไม่อ่านเรื่องอื่นๆบ้างล่ะ เพื่อเปิดมุมมอง ขยายความรักความเมตตาออกไป ฉันคิดว่าจักรวาลนี้เรียกร้องให้เรามีความรักมากกว่าความสำเร็จนะขอโทษทีฉันอ้างถึงจักรวาลบ่อย เพราะลึกๆแล้ว ในใจฉันมีความเชื่อว่าจักรวาลยังเมตตาฉันอยู่บ้าง พอๆกับที่ฉันต้องสัมผัสพลังคอสมิคของแม่นั่นแหละ ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าตัวตนของฉันมันหดหายไปเยอะ ที่ตัดสินใจปล่อยเรื่องราวให้มีใครรับรู้ ฉันสบายใจขึ้นนะ แทนที่จะบันทึกไว้อ่านคนเดียว เพราะฉันยังมองในแง่ดีว่าเรื่องราวนี้พอจะมีความน่าสนใจอยู่บ้างในแง่ของบทเรียนและความผิดพลาดที่คนๆนึงทำติดต่อกันมาเรื่อยๆมันเป็นปัญหาระดับมนุษยชาตินะนั่น เพียงแค่ชีวิตขาดความรักความเอาใจใส่ที่ควรจะเป็น มองไปรอบตัวสิเราน่าจะเห็นปัญหาครอบครัวจากทุกบ้านนั่นแหละ บางทีถ้าฉันคิดจะอ่านคนเดียวฉันอาจจะเขียนไม่สำเร็จนะ เพราะฉันมักเป็นแบบนี้ประจำ
ที่สำคัญคือ ณ ปัจจุบัน ฉันมีลูกหนึ่งคนฉันจึงจำเป็นต้องชำระสะสางปมในใจทั้งหลาย เพื่อเติบโตอย่างแท้จริงและก้าวต่อไปก่อนที่ฉันจะกระทำสิ่งที่ผิดพลาดกับลูก สร้างบาดแผลในใจลูกโดยไม่ตั้งใจ มันจึงไม่สำคัญสำหรับใครเลยว่าฉันเป็นใครจริงไหม ฉันอาจวาดภาพแม่ให้ดูโหดร้ายเกินจริงไปก็ได้ ฉันแค่พยายามเล่าเรื่องของตัวเองเท่านั้น แต่มันย่อมกระทบบุคคลที่สองหรือสามอย่างเลี่ยงไม่ได้ อย่างที่เคยบอกอะไรมันคงจะต่างไปถ้าฉันเกิดเป็นผู้ชาย ทุกครั้งที่ฉันได้รับความรู้สึกไม่ดีฉันจึงสร้างเกราะป้องกันตัวเอง ฉันมีตัวตนที่แข็งกร้าวมากขึ้น ก็เท่านั้น สิ่งที่ฉันเป็นคือแรงสะท้อนจากผลที่ได้รับจากแม่ฉันคิดว่าฉันต้องเขียนเรื่องแม่ฉันด้วย เขียนจากสิ่งที่ฉันเห็นและจากมุมมองฉันโดยปราศจากอคติใดๆ แต่เอาทีละเรื่องละคนก่อนละกัน
สั้นๆกับแม่ ชีวิตในวัยนี้คือเรียน กับช่วยงานแม่บ้าง ฉันยังมีเวลามากมายที่จะเล่นสนุกสนานอีกเยอะเลย
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านหากท่านใดจะมีคำแนะนำแลกเปลี่ยนความเห็นกันบ้าง ฉันยินดีน้อมรับด้วยความเต็มใจ เพราะชีวิตฉันยังมีเรื่องต้องเรียนรู้อีกมากจนกว่าจะหมดลมหายใจ
Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2560 |
|
0 comments |
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2560 9:52:14 น. |
Counter : 514 Pageviews. |
|
|
|