....Long Gavity Hill...... Long Gavity Hill หรือ ฉางโซ่วซัน ในภาษาจีนกลาง คือหุบเขาอายุยืนที่มีชื่อเสียงตามตำนานที่เล่าขานกัน หุบเขาแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เขตตำบลซันไห่กวน เมืองฉินฮวงเต่าในมลฑลเหอเป่ย ห่างจากกรุงปักกิ่งไปราวสี่ร้อยกิโลเมตรใช้เวลาเดินทางราวสี่ชั่วโมง เป็นหุบเขาหินที่สวยงามและมีข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจยิ่ง ตำนานที่เกี่ยวข้องกับหุบเขาอายุยืนแห่งนี้มีอยู่ว่า ในสมัยปกครองของจักรพรรดิ์จิ๋นซีฮ่องเต้ จิ๋นซีฮ่องเต้ต้องการที่จะขยายอาณาจักรของพระองค์ ให้ใหญ่โตกว้างใหญ่ไพศาลเป็นหนึ่งในภูมิภาคแถบนี้ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลายาวนานมากในการเข้าทำสงครามยึดครอง บรรดาแคว้นและประเทศเล็กๆต่างรายรอบประเทศของพระองค์ จิ๋นซีฮ่องเต้คำนวนดูเวลาที่ต้องใช้แล้วจึงออกพระราชโองการ ให้บรรดาหมอหลวงเข้าเฝ้า และทรงมีรับสั่งให้บรรดาหมอหลวงทั้งหลาย กลับไปคิดค้นยา ซึ่งยานี้มีผลในการยืดอายุคนให้ยาวนานออกไป คือเป็นยาวิเศษที่กินแล้วคงความเป็นหนุ่มเป็นสาวอยู่นาน ไม่แก่ตาย เป็นยาอายุวัฒนะ นั่นเอง บรรดาเหล่าหมอหลวงต่างรู้ดีว่า ไม่มียาขนานใดในโลกนี้ ที่เมื่อกินแล้วจะไม่ตาย แต่ก็ไม่กล้าขัดพระราชโองการของจินซีฮ่องเต้ จึงวางกลอุบายหลอกจิ๋นซีฮ่องเต้ว่า สามารถปรุงยานี้ได้ แต่ตัวยาหายากเหล่านี้อยู่ที่หุบเขาแห่งนึงห่างไกลออกไปมาก เป็นหุบเขาใกล้ทะเล ออกไปทางทิศตะวันออกที่จิ๋นซีเคยเสด็จมา เพื่อทำการขอพรจากเทพเจ้ามังกรเทพแห่งท้องทะเลเมื่อหลายปีก่อน ในคราวนั้นที่เสด็จมาขอพรจากเทพเจ้ามังกรก็เพื่อขอบรรเทาทุกข์ จากภัยพิบัติทางธรรมชาติที่มักเกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมเมือง ก่อให้เกิดความเสียหายมากมายมหาศาล การเสด็จมาขอพรคราวนั้นประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี ปีต่อๆมาบ้านเมืองสงบไร้ซึ่งภัยน้ำท่วม เป็นผลให้ทรงพอพระทัยยิ่งนัก จิ๋นซีฮ่องเต้ทรงเชื่อและอนุญาตให้เหล่าหมอหลวงเดินทางมาหาตัวยา ที่หุบเขาแห่งนี้ เวลาผ่านไปหลายปี จิ๋นซีฮ่องเต้ทรงตรัสถามถึง บรรดาหมอหลวงจึงเพ็ดทูลว่า ตัวยาสมุนไพรวิเศษหาเจอแล้ว และหมอหลวงก็วางแผนหนีให้พ้นจากจิ๋นซีฮ่องเต้อีกครั้ง โดยกล่าวบอกไปว่า ต้องออกทะเลไปยังเกาะแห่งหนึ่ง เพื่อทำการบวงสรวงเทพเจ้ามังกร ณ เกาะแห่งนั้น โดยต้องทำการบวงสรวงด้วยหนุ่มสาวบริสุทธิ์จำนวนพันคู่ จิ๋นซ๊ฮ่องเต้ก็ทรงหลงเชื่อบรรดาหมอหลวง และทรงรับสั่งให้ต่อเรือใหญ่และจัดหนุ่มสาวพันคู่เป็นของบวงสรวง หมอหลวงจัดทัพเรือแบ่งออกเป็นสองขบวนเพื่อทำการหนี ระหว่างที่ออกเรือหนี ขบวนเรือทั้งสองก็เจอกับพายุ ทำให้ทั้งสองขบวนเรือแตกแยกกันไปคนละทาง ขบวนเรือที่บรรทุกตัวยาและโสมชั้นดีถูกพายุพัดไปยัง ผืนแผ่นดินใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งในปัจจุบันคือประเทศเกาหลี เรืออีกขบวนหนึ่งที่มีหมอหลวงและหนุ่มสาวถูกพัดพาไปยังหมู่เกาะแห่งหนึ่ง ซึ่งในปัจจุบันคือประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง ซึ่งผู้คนที่ไปกะขบวนเรือเหล่านั้นก็ถือได้ว่า เป็นบรรพบุรุษของชาวเกาหลีและญี่ปุ่นนั่นเอง จากตำนานดังกล่าว หุบเขาแห่งนี้จึงได้ชื่อว่า หุบเขาอายุยืน ที่หุบเขาแห่งนี้มีชื่อเสียงมายาวนานราวสองพันปี จนกระทั่งบรรดาฮ่องเต้จักรพรรดิ์ของจีนราชวงศ์ต่างๆ นิยมที่จะทรงรับสั่งให้จิตรกรจีนมาแกะสลักตัวอักษร คำว่า โซว่ ที่แปลว่าอายุยืน โดยแกะแบบจากลายพระหัตถ์ มาแกะสลักไว้บนก้อนหิน และหน้าผา ของหุบเขาแห่งนี้ จนในปัจจุบันมีตัวอักษรคำว่า โซว่ ในแบบต่างๆมากมายหลายร้อยแบบ ที่หุบเขาแห่งนี้ตามภูมิศาสตร์เดิมเคยเป็นทะเลมาก่อน จึงมีลักษณะวิวทิวทัศน์และก้อนหินรูปร่างงดงามแปลกตา กล่าวกันว่าถ้าใครได้มาสัมผัสตัวอักษร โซว่ ที่หุบเขาแห่งนี้ ก็จะมีผลดลบันดาลให้ผู้นั้น มีสุขภาพแข็งแรงอายุยืนยาวนานครับ ในหุบเขาจะมีพรรณไม้แปลกตาอยู่มากมาย และมีลำธารเล็กๆคดเคี้ยวลัดเลาะไปตามซอกเขาดูสวยงาม น้ำในลำธารและแอ่งน้ำเล็กๆก็ใสราวกับกระจก มีฝูงปลาซิวปลาสร้อยตัวเล็กๆว่ายไปมาอยู่มากมาย เวลาเดินชมหุบเขาแห่งนี้ก็กลัวซะเหลือเกินว่า ก้อนหินขนาดมหึมาที่อยู่บนเนินผาตามหุบเขา จะร่วงหล่นลงมาทับตี๋น้อยซี้แหงแบนแต๊ดแต๋อยู่ตรงนั้น ตี๋น้อยก็เลยลองส่งลูกลิง สมุนสองคนที่ไปด้วย ให้ลองปีนขึ้นไปขย่มก้อนหินบนเนินหน้าผาดู อยากรู้ว่ามันวางอยู่แบบนั้นนี่ แข็งแรงมั่นคงขนาดไหน ลูกลิงทั้งสองหอบแหกๆลงมารายงานตี๋น้อยว่า แข็งแรงมั่นคงดีครับ กระโดดขย่มไปมาอยู่นานหินก็ไม่กระดิก ฮิๆๆ จุดเด่นของหุบเขาอายุยืนแห่งนี้อีกอย่างหนึ่งก็คือ บนเนินผาเล็กๆมีการแกะสลักหินเป็นรูปหมอยาจีนที่มีชื่อเสียง ซึ่ีงในอดีตหมอเหล่านี้บางท่านก็เคยเดินทางมาหายา ที่บริเวณหุบเขาอายุยืนแห่งนี้แล้วเหมือนกัน หมอเหล่านี้มีชื่อเสียงจนได้รับขนานนามว่า หมอเทวดา บางท่านมีความสามารถทางด้านการใช้ยาสมุนไพรจีน เขียนตำรายาอันทรงคุณค่าทิ้งไว้ให้ชาวจีนได้ใช้สอยกัน บางท่านก็เก่งเรื่องการผ่าตัดและการฝังเข็ม เป็นต้น ย้อนกันมาดูสาเหตุที่บรรดาหมอหลวงเลือกหุบเขาแห่งนี้ ในการหลบหนี มีเหตุผลที่ดีหลายข้อเลยครับ อันแรกหุบเขาแห่งนี้อยู่ห่างจากเมืองหลวงที่จิ๋นซีฮ่องเต้ประทับอยู่ ห่างออกมาราวสองพันกิโลเมตรเห็นจะได้คงเดินทางกันนานหลายวัน อันที่สองอยู่ใกล้ทะเล หนีต่อไปที่อื่นโดยทางเรือสะดวกมากๆ อันที่สามมีพื้นที่ที่ยากแก่การโจมตีโดยทหาร เนื่องจากเป็นหลืบเป็นซอกเขาที่มีภูเขาสามลูกมาบรรจบกัน แนวกำแพงเมืองจีนที่หุบเขาแห่งนี้มีชื่อว่า ซานเต้ากวน หรือด่านกำแพงสามสาย ซึ่งถือได้ว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ และมีความแข็งแกร่ง ข้าศึกยากที่จีจะโจมตี ฝ่าด่านเข้ามาได้ หุบเขาอายุยืนแห่งนี้มีจุดที่น่าสนใจอีกหลายจุด ไว้คราวหน้าตี๋น้อยจะนำภาพและข้อมูลมาอัพเดทเพิ่มเติม เรื่องเล่าและตำนานเกี่ยวกับหุบเขาแห่งนี้ คงทำให้เพื่อนๆนึกถึงหนังจีนอยู่สองเรื่องน๊ะครับ เรื่องแรกที่เพิ่งผ่านไปไม่นานนี้ก็หนังของพ่อเฉินหลง เรื่อง The Myth ไงครับ ที่มีการรบราฆ่าฟันกันในการส่งมอบยาวิเศษ อีกเรื่องนึงก็หนังที่ผู้กำกับจางอี้โหมวกำกับและแสดงเอง เรื่องนั้นมีก่งลี่เป็นนางเอกไงครับ คงพอจำกันได้น๊ะครับ ที่พระเอกถูกโบกปูนกลายเป็นตุ๊กตาทหารเฝ้าสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ ค่าบัตรเข้าชมหุบเขาอายุยืนแห่งนี้ ราคา 20 หยวน หรือราว 100 บาทครับ ใช้เวลาเที่ยวชมประมาณครึ่งวัน ก็น่าจะพอเพียง แต่หากต้องการปีนเทือกเขาคงต้องใช้เวลาหนึ่งวันเต็ม และภายในหุบเขาก็มีเคเบิ้ลคาร์เชื่อมต่อ ไปยังสถานที่ท่องเที่ยวอีกสองแห่งครับ คือที่ทะเลสาบและที่กำแพงเมืองจีนบนยอดเขาครับ ไว้โอกาสหน้าตี๋น้อยจะพาไปเยี่ยมชมกันน๊ะครับ บล็อกนี้มีความยาวพอสมควร หากโหลดนานมากก็ขออภัยด้วย ลากันเท่านี้ก่อนน๊ะครับ ปล จับลูกลิง นายแบบที่ไปด้วย มาหัดไหว้แบบไทยๆ แล้วเก็บภาพสวยๆนายแบบพอดูได้กะแอ่งน้ำใสมาปิดท้ายบล็อกครับ ขอบคุณครับ

Create Date : 26 ตุลาคม 2548
Last Update : 3 ธันวาคม 2548 13:55:34 น.		84 comments
Counter : 2163 Pageviews.
Share Tweet