ฮ่องกง-มาเก๊า ตอนที่2

ฮ่องกง-มาเก๊าวันที่ 4 วันที่ 4 วันนี้ตั้งใจจะเก็บตกฝั่งเกาะฮ่องกง ดังนั้นจึงมาดูวิวตรงถนนดาราอีกครั้งหนึ่งพร้อมกับฝนปรอยๆอีกเช่นเคย แล้วก็เดินลัดเลาะไปขึ้นเรือข้ามฟากไปย่าน Wan chai แล้วเดินมาดูอาคารแสดงสินค้าที่มองเห็นได้จากฝั่งเกาลูน พอมาเจอของจริงแล้วพบว่าใหญ่มากๆ ลัดเลาะเดินเล่นไปเรื่อยๆเจอรถรางต้องลองขึ้นเพื่อสัมผัสบรรยากาศเสียหน่อย นั่งไปเรื่อยๆก็ไปเจอย่านห้างหรูคือ Time square เลยเดินดูนิดหน่อยเดินได้ไม่นานรู้สึกคันๆ เพราะแพ้ของแพง อิอิ เลยเดินกลับมาขึ้นรถรางเพื่อมาเดินชมตึกสวยๆสูงๆอย่าง แบ็งออฟไชน่า ลิโป้ และอีกมากมาย นั่งรถรางและเดินหาทางเลื่อนที่ยาวที่สุดในโลกอยู่นาน แต่ดันจากร้าน H M ของสวีเดนเสียก่อนจึงได้ช็อปปิ้งอีกตามเคย แล้วก็ตามไอ้บันไดเลื่อนและทางเลื่อนขึ้นไปหลายชั้นมากๆ ไกลมากๆจึงได้กลับมา ย่านแถวนั้นนอกจากเป็นย่านตึกที่อาศัยแล้วยังมีแหล่งร้านอาหาร ผับ บาร์ต่างๆมากมาย เดินกลับลงมาปวดฉี่มากมาย แต่หาที่เข้าไม่ได้จึงเดินเข้าไปห้างหรูแห่งหนึ่งจึงได้ปลดปล่อย เมื่อมีแรงก็นั่งรถไปยังย่านสแตนลีย์ที่เป็นหลังเกาะฮ่องกง ก็ได้เห็นบรรยากาศอีกแบบที่ดูสบายๆมีชายหาดสวยงาม คอนโดที่มีวิวสวยๆของทะเล คงต้องรวยมากๆถึงจะมีเงินซื้อคอนโดแถวนี้ได้ ไปเดินเล่นย่านนั้นอยู่หน่อยหนึ่ง ก็นั่งกลับช่วงนี้อากาศดีฝนไม่ตก พอนั่งรถกลับมาย่านวันไชก็มาเดินหาของกินเพราะหิวมากเจอร้านข้าวมันไก่ชื่อว่า คนไทยข้าวมันไก่ เลยแวะอุดหนุนหน่อยหนึ่ง ก็อร่อยดีเจ้าของร้านก็พูดเพราะด้วย เมื่ออิ่มแล้วก็เดินลัดเลาะไปลงเรือท่าวันไช เพื่อข้ามไปยังฝั่งเกาลูนมาถึงก็นั่งแหมะอยู่ริมทะเล ชมวิวตามเคยบรรยากาศดีมาก แดดเริ่มออก แต่เป็นแดดตอนเย็นเลยไม่ร้อนเลย มานั่งตั้งแต่ 5 โมงเย็นนั่งเรื่อยๆจนสองทุ่มจึงได้ดูซิมโฟนีออฟไลท์ ที่เป็นการแสดงแสงสีของ หมู่ตึกต่างๆอย่างสัมพันธ์กันกับเสียงเพลงที่เปิดทางฝั่งเกาลูนได้อย่างน่าทึ่งมาก เมื่อการแสดงจบก็กลับไปพักผ่อนสำหรับคืนสุดท้ายของฮ่องกง ฮ่องกง-มาเก๊าวันที่ 5 วันที่ 5 วันนี้เป็นวันสุดท้ายของฮ่องกงและต้องรีบตื่นแต่เช้าเพื่อไปมาเก๊า สิ่งที่กลัวมากที่สุดคือพายุเข้าและทำให้ไม่สามารถ นั่งเรือข้ามฟากไปมาเก๊าได้ เพราะเรืออาจจะหยุดเดิน รวมทั้งเครื่องบินอาจจะยกเลิกเที่ยวบินก็ได้ ดังนั้นก็ได้แต่ภาวนาว่าขออย่าให้มีพายุเข้ามาในวันนี้เลย ราวๆหกโมงครึ่งก็ออกจากที่พัก นั่งรถไฟใต้ดินแล้ว ตรงดิ่งไปยังท่าเรือเพื่อให้ได้รอบแต่เช้าๆ ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่นักก็ซื้อตั๋วและทำพิธีตรวจคนออกนอกเมืองเรียบร้อยแล้วก็ไปนั่งรอเรือออก ช่วงที่จะผ่านตม.มีเรื่องให้อารมณ์เสียจนได้เพราะโดนคนจีนแซงคิว ตอนแรกก็ระงับอารมณ์อยู่หรอก แต่จะมีรอบที่สองนี่สิ เลยปรอทแตกจนได้ ยายแก่นี้เลยซวยไปก็แล้วกัน เรือใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงตามปกติก็มาถึงฝั่งมาเก๊า มาถึงก็มารอรถเมล์สาย AP1 ไปสนามบินเพื่อฝากกระเป๋าก่อนมาท่องเมืองมาเก๊า เมื่อฝากกระเป๋าเรียบร้อยแล้วก็รอรถสาย 26 เพื่อเข้าไปในเมือง เผอิญเจอกลุ่มคนไทยรุ่นลุงป้าที่มาเที่ยวกับทัวร์แล้ว มีช่วงที่ต้องลุยเองเลยไปด้วยกันที่สำคัญหลงด้วยกัน เหอะๆๆ สุดท้ายก็ขอแยกตัวไปยัง จตุรัสเซนาโด้กับโปสถ์เซ็นปอล อันลือชื่อที่เหลือเพียงแค่ด้านหน้า ซึ่งใครๆก็รู้จักดี บริเวณนี้ดูตกแต่งอย่างดีสไตล์โปรตุเกส และเลยออกมาแค่นิดเดียวก็เป็นแบบจีน บ้านเรือนทั่วๆไปก็คล้ายตึกใน กทม.ที่ดูโทรมๆอยู่กันอย่างแออัด ต่างกับบริเวณที่เป็นบ่อนคาสิโนและสิ่งก่อสร้างใหม่ๆที่ดูเป็นระเบียบ สะอาดสวยงาม เดินออกจากบริเวณนั้นแล้วก็ ตั้งใจจะไปยังรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม แต่เดินไปยังคาสิโนลิสบัวก่อน ซึ่งตกแต่งสวยงามอลังการงานสร้างมากๆ ยิ่งถ้าเป็นตอนกลางคืนจะยิ่งเห็นความสวยงามของแสงไฟ ตามแยกต่างๆมักจะมีการตกแต่งอย่างสวยงาม และจากหน้าคาสิโนก็ได้ขึ้นรถเมล์สายอะไรซักอย่างจำไม่ได้ ซึ่งสามารถไปยังท่าเรือได้ แต่ได้ลงเสียก่อนเพื่อเดินต่อไปยังรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม เพราะมองจากถนนเห็นอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่ แต่เดินเข้าจริงๆน่ะไกลมากๆ และย่านนี้ก็เป็นตึกคล้ายๆอาคารสำนักงานสมัยใหม่เป็นระเบียบสวยงาม เดินไปถ่ายรูปกับเจ้าแม่กวนอิมอย่างโดดเดี่ยวเนื่องจากฝนตกปรอยๆทำให้ไม่มีใครอยากหยุดลงรถมาเที่ยว โดยเฉพาะกรุ๊ปทัวร์ต่างๆ อยู่ตรงจุดนี้ได้ไม่นาน อยากต่อไปยังดูชมวิว แต่ไม่รู้สายรถเมล์ทิ่วิ่งผ่าน เนื่องจากรอนานมากไม่มีรถเมล์ผ่านมาเลย ดังนั้นจึงตัดสินใจเดินกลับไป ป้ายรถเมล์ตอนที่ลงมา เมื่อกลับมาถึงป้ายเดิมก็ได้นั่งรถเมล์สาย 23 เพื่อไปลงยังท่าเรือ ระหว่างทางก็ชมวิวสิ่งก่อสร้างที่สวยงามที่สร้างขึ้นมาใหม่ของบ่อนคาสิโนต่าง เพื่อดึงดูดใจนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยวยังมาเก๊า เมื่อได้มาถึงท่าเรือแล้วก็ ลงรถเมล์แล้วไปขึ้นรถรับส่งฟรีของคาสิโนเวเนเชี่ยนอันหรูหรา ต่อแถวยาวมาก ได้รับสิทธิพิเศษให้ไปขึ้นก่อน เนื่องจากแถวที่ต่อยาวๆเป็นกรุ๊ปทัวร์ที่ไม่ยอมแยกกัน ดังนั้นคนหลังจึงได้เลื่อนให้เดินทางได้เร็วขึ้น รถวิ่งได้ไม่นานนักก็มาถึงเดอะ เวเนเชี่ยน อันใหญ่โต หรูหราลงจากรถแล้วเดินผ่านเข้ามาใน คาสิโนซึ่งใหญ่โตมากๆ ผู้คนนับพันๆเข้ามาเล่นคาสิโนอย่างสนุกสนาน แต่ไม่รู้ว่าหลังจากเล่นแล้วจะสนุกเหมือนตอนมาหรือเปล่า เผอิญไม่เล่นการพนันเลยไม่ได้สนใจคาสิโนจึงได้เดินขึ้นไปชั้นบนเพื่อไปชมเมืองเวนิสที่จำลองมาอยู่ด้านในของคาสิโน ไม่น่าเชื่อว่าจะทำได้สวยมากๆ เป็นคลองและบรรยากาศของตึกรามบ้านช่องที่จำลองมาอยู่ในร่ม สวยงามกว่าของจริงที่เวนิสเสียอีก แหะๆ หลังจากเดินชมจนเบื่อแล้วกลับลงมาด้านล่างขึ้นรถบัสฟรีไปลงท่าเรือโคไต แล้วก็ขึ้นรถเมล์ต่อมายังสนามบินแล้วก็เดินทางกลับถึงเมืองไทยโดยสวัสดิภาพ   Create Date : 20 พฤศจิกายน 2554 1 comments Last Update : 20 พฤศจิกายน 2554 23:14:14 น. Counter : 2264 Pageviews. Share Tweet