* * * * ใช้ Facebook ควรระวัง * * * * บล็อกที่ 961
ใช้ Facebook ควรระวัง
นำมาให้อ่านจาก blogspot เรื่อง 10 ข้อควรระวังในการใช้ Social Network Services เช่น Facebook Twitter ให้มั่นใจและปลอดภัย
ของ น.พ.ศักดา อาจองค์ วัลลิภากร อาจารย์ภาควิชาเวชศาสตร์ฉุกเฉิน คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เขียนเมื่อวันอังคารที่ 7 ธ.ค. 2553
ขอขอบคุณคุณหมอศักดา อาจองค์ วัลลิภากร ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย
สื่อ Social Network เราควรใช้กันอย่างไร ถึงจะปลอดภัย .. ยกตัวอย่างเช่น เพื่อนบ้านท่านหนึ่งในช่วงวันหยุดหลายวันจะเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัด จึงได้โพสต์บอกเพื่อนๆ ที่สนิทในวงสนทนาออนไลน์ แถมช่วงที่ไปเที่ยวก็ยังโพสต์รูปมาโชว์ให้เพื่อนๆ ในกลุ่มให้เห็นเป็นที่อิจฉากันอีก ผลปรากฏว่าหลังกลับจากพักผ่อนครั้งนี้ บ้านถูกงัด ยกเค้าซะเรียบวุธ เพราะไปโพสต์บอกโจรที่จ้องจะเข้างัดบ้าน ให้เข้ามาได้ถูกช่วงเวลานั่นเอง
วันนี้ จะขอพูดถึง 10 ข้อควรระมัดระวังในการใช้สื่อ Social Network เช่น facebook, twitter เป็นต้น
1. ถ้ารักจะใช้ Social Network ก็ไม่ควรระบุข้อมูลส่วนตัวมากเกินไป เช่น ว/ด/ป สถานที่เกิด
ข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญเหล่านี้ เป็นช่องทางหนึ่งในการระบุตัวตนที่สำคัญ บางคนอาจจะลงเพื่อให้เพื่อนๆ รู้วันเกิดของตน และรู้สึกดีใจที่เพื่อนๆ มาอวยพรวันเกิด แต่ตรงนี้ควรพึงระวัง เวลาเขา verify หรือตรวจสอบตัวตนของเจ้าของบัตรเครดิต เวลาขอวงเงินเพิ่ม ขออนุมัติในการทำสิทธิต่างๆ ด้านธุรกรรมบัตรเครดิต จะได้ยินเจ้าหน้าที่ถามกันบ่อยๆ คือ ชื่อ นามสกุล วัน เดือน ปี เกิด เปิดบัญชีธนาคารกับธนาคารหรือไม่ ลองคิดดูสิครับ หากมีคนเก็บบัตรเราไปแล้วสวมสิทธ์ เพราะการเซ็นชื่ออย่างที่เราทราบกันสามารถปลอมแปลงกันได้ แถมยังไม่ค่อยมีใคร่ใส่ใจเวลาเราเซ็นชื่อกันเท่าไร ก็ลองคิดภาพต่อสิครับ .. มีรายงานจากสถาบัน Carnegie Mellon ให้ข้อคิดว่า หากเราเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ ก็เท่ากับเราเปิดประตูการเข้าถึงธุรกรรมด้านการเงินไปค่อนตัวแล้ว
อีกเรื่องที่สำคัญคือหากเราอายุยังน้อย เมื่อเราระบุ วันเดือน ปี เกิด ก็จะสามารถถูกล่อลวงได้ง่าย และเป็นจุดสนใจให้มิจฉาชีพสนใจได้
2. วางแผนจะเดินทางไปท่องเที่ยวที่ไหน อย่าง ไร เมื่อไร ไม่จำเป็นจะต้องแจ้งบอกเอาไว้ในหน้า Wall หรือ New Feed
เมื่อไรก็ตามที่จะเดินทาง ไม่ควรจะเสนอข้อมูลล่วงหน้าไว้ให้ผู้ที่ไม่หวังดีกับเราได้รับทราบ และวางแผนมาทำร้ายต่อบุคคลหรือทรัพย์สินของเรา เช่น ไม่ควรแจ้งว่า วันนี้ไม่อยู่ ลาหยุดไปพักผ่อนกับครอบครัวในวันสบายๆ กลับ 14 ธค. .. เท่านี้ก็รู้แล้วว่าเจ้าของไม่อยู่บ้าน ซึ่งบางครั้งก็ยังมีถ่ายรูปในบ้าน สิ่งของต่างๆ ในบ้านเอาไว้ด้วย ก็เป็นที่ดึงดูดความสนใจให้มิจฉาชีพคอยติดตามพฤติกรรมของเราได้
3. ที่อยู่บ้าน ที่อยู่ที่ทำงาน ไม่ควรนำมาแสดงไว้
ตรงไปตรงมาเลยครับ ถ้าคุณน้อยหน่า หน้าหว๊าน หวาน โพสต์ว่า “อาทิตย์นี้ ไปลั้นลาที่สมุย มาเลย ฟ้าสวย น้ำใส” หากผมเป็นโจรก็จะรู้เลยว่าคุณน้อยหน่าหน้า หว๊าน หวาน ไม่อยู่บ้านราวหนึ่งสัปดาห์ แถมยังระบุที่อยู่พร้อมแผนที่ถนนและซอยไว้ให้อีก คิดดูซิครับว่า อะไรจะเกิดขึ้นตามมา ดังนั้นไม่ควรที่จะระบุที่อยู่โดยละเอียดไว้ในสื่อประเภทนี้ .. ซื้อบ้าน ซื้อคอนโด ด้วยความดีใจรีบถ่ายภาพพื้นที่ภายในบ้านมาให้เพื่อนๆ ดู .. โปรดระวังว่า อาจจะนำไปสู่ความสนใจตาลุกของมิจฉาชีพและช่องทางการเข้าสู่ภายในบ้านโดยไม่รู้ตัว
4. ความเสี่ยงด้านพฤติกรรมทางสังคม
ความเสี่ยงทางด้านพฤติกรรมทางสังคม บางครั้งมีผลกระทบต่อลูกหลาน หรือเพื่อนๆ เช่น การลงข้อความบอกถึงรสนิยมความชอบ ยี่ห้อเหล้า เบียร์ บุหรี่ เด็กๆ หรือเพื่อนๆ ที่เข้ามาอ่าน ก็จะเห็นดีเห็นงาม อยากจะทดลองเสพย์บ้าง อีกอย่างซึ่งมีตัวอย่างในต่างประเทศ คือเมื่อเราโพสต์ในเรื่องความเสี่ยงด้านพฤติกรรม บริษัทประกันสุขภาพที่เราส่งเบี้ยประกันอยู่ จะขยันเข้ามาเก็บความเสี่ยงด้านพฤติกรรมที่ส่งผลต่อโรคต่างๆ ที่ผู้เอาประกันทำไว้ ทำให้ไม่สามารถเคลมประกันที่ตนเองส่งไว้ เพราะตนเองได้สร้างหลักฐานและเปิดเผยต่อสาธารณะโดยไม่รู้ตัว
5. อย่าลืมว่าเมื่อเราสร้างบัญชีผู้ใช้ เท่ากับว่าเราให้ Password Clues ไปโดยไม่รู้ตัว
ทุกครั้งที่เราสร้างบัญชีขึ้นบนสังคมออนไลน์ พาสเวิร์ดที่เราตั้งมักจะเป็นตัวคาดเดารหัสความปลอดภัยในธุรกรรมอื่นๆ ที่ซับซ้อนกว่าโดยไม่ยากนัก ดังนั้นควรรู้จักเลือกและใช้อย่างมีวิจารณญาณ
6. ที่จอดรถหรือกิจกรรมต่างๆ ที่ทำเป็นประจำ ไม่ควรจะนำมาเผยแพร่
ถ้าเราจะลดข้อมูลที่สื่อออกไปลงบ้าง ชีวิตของเราจะปลอดภัยมากขึ้น ทุกอย่างที่เราโพสต์เท่ากับเราบอกนิสัยของเราเข้าไปในสื่อเหล่านั้น ผู้ติดตามสามารถเฝ้าดูกิจกรรมของเรา หากจะโจรกรรมรถ หรือของมีค่า จะรู้ได้จากการที่เราระบุตำแหน่งที่อยู่ประจำ บางครั้งการปิดตัวเองในบางเรื่อง จะสร้างความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยมากขึ้น .. Charles Pavelites, ผู้ชำนาญการพิเศษของหน่วยงาน ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์จากอาชญากรรมทางอินเตอร์เนต ได้ยกตัวอย่างว่า มีเด็กคนหนึ่งมักจะบอกเพื่อนๆ ว่า "แม่กำลังจะกลับบ้านแล้ว เดี๋ยวฉันจะต้องไปล้างจาน" มักจะบอกทุกๆ วัน ในเวลาเดิมเสมอ มันเป็นการบอกเวลาที่ชัดเจนมากเกี่ยวกับการเดินทางไปกลับของผุ้ปกครอง
7. ไม่นำเรื่องของหัวหน้า เพื่อนๆ ในบริษัท ไปโพสต์ในสังคมออนไลน์
หากมีการโพสต์ บ่น เกี่ยวกับการทำงานหรือที่ทำงานโดยไม่จำเป็น ต้องระวังนะครับ เพราะหัวหน้างาน และเพื่อนร่วมงานสามารถเข้าถึงข้อมูลของเราได้ จากการที่เราเพิ่มเพื่อนโดยไม่ระมัดระวัง ควรโพสต์เท่าที่จำเป็นจะปลอดภัยกว่า
8. ไม่ระบุชื่อบุตรหลาน หรือติด tag ในรูปภาพมากเกินไป
เพราะจะทำให้ผู้ไม่หวังดีรู้ลึกถึงญาติสนิทส่วนตัวได้โดยง่าย จะสร้างความไม่ปลอดภัยในครอบครัวขึ้นโดยไม่ตั้งใจ ควรลด tag บอกชื่อบุตรหลานลงบ้างจะปลอดภัยกว่า
9. ควรตั้งค่าความเป็นส่วนตัว ปล่อยให้ Facebook ค้นหาพบคุณได้จำกัดลงบ้าง
เพื่อป้องกันคนแปลกหน้าเข้าถึงหน้าข้อมูลของคุณ ให้ไปที่การค้นหาของ Facebook ให้เข้าไปตั้งที่ข้อมูลส่วนตัวและเลือกเฉพาะเพื่อนเท่านั้น ดังนั้นเพื่อนเท่านั้นที่จะค้นพบข้อมูลดังกล่าว และให้มั่นใจว่ากล่องข้อมูลสาธารณะไม่ได้ระบุให้เข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้
10. ไม่ควรให้เด็กใช้ Facebook โดยไม่ตรวจสอบควบคุม
แม้ว่า Facebook จะไม่อนุญาตให้เด็กอายุต่ำกว่าสิบสามขวบใช้งาน แต่หลายครั้งเด็กๆ ก็ทำการปลอมอายุเข้าไปใช้งานได้ ถ้าคุณมีเด็กในความปกครอง หากควบคุมไม่ได้ วิธีการที่ดีคือคุณเข้าร่วมเป็นสมาชิกในกลุ่มเพี่อนของเด็ก หรือให้เด็กใช้ email ของคุณแทน เพื่อที่คุณจะได้รับข้อความหรือตรวจสอบการใช้งานของบุตรหลานได้อย่างต่อเนื่อง
10 ข้อเหล่านี้มักเป็นปัญหาที่พบบ่อยๆ จึงขอนำมาเตือนชุมชนสังคมออนไลน์ .. ข้อสำคัญหากเราจะรับเพื่อนเพิ่มเติม ขอให้เช็คเสียก่อนว่าเป็นกลุ่มของเราหรือไม่ ไม่ใช่เพียงแค่หน้าตาดี หรือเพราะความเกรงใจ ก็รับเพิ่มเข้ามา
ต้องไม่ลืมว่า 1. ทุกครั้งที่เราโพสต์ข้อความอะไรลงไปใน Facebook จะมีผู้รู้เห็นตลอดเวลา 2. ความลับใกล้จะไม่มีในโลก ก็เพราะสังคมออนไลน์ และ 3. ความเป็นส่วนตัวของเรากำลังจะหมดลงทุกที ก็เพราะสังคมออนไลน์.
ขอขอบคุณที่ติดตาม
จาก สิน yyswim 
ต้องการกดโหวตให้ สาขา Best Topical Blog .. จขบ. ขอขอบคุณครับ
| Create Date : 21 พฤศจิกายน 2555 |
| Last Update : 21 พฤศจิกายน 2555 21:04:03 น. |
|
12 comments
|
| Counter : 4586 Pageviews. |
 |
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [
ขอบคุณ คุณสินค่ะ มีหลายข้อที่ทำอยู่แล้ว (พึงระวังประมาณนึงค่ะ...)