มากกว่าสังฆทาน





มากกว่าสังฆทาน




สังฆทาน


สังฆทานเป็นการถวายอาหาร สิ่งของ หรือ ปัจจัยแก่พระสงฆ์โดยไม่เฉพาะเจาะจงรูปใดรูปหนึ่ง

เมื่อพระสงฆ์ได้รับสังฆทานแล้ว จะนำไปรวมเป็นของกลาง เว้นเสียแต่เจ้าภาพจะเจาะจงถวายแก่พระสงฆ์รูปใดรูปหนึ่ง


หากต้องการจะถวายของเฉพาะเจาะจงแก่พระสงฆ์รูปใดรูปหนึ่ง จะเรียกว่าปาฎิปุคคลิกทาน โดยเวลากล่าวคำถวายสังฆทานให้เปลี่ยนคำว่า
“ภิกขุสังฆสสะ” ซึ่งหมายถึงพระสงฆ์ เป็น “อัยยสสะ”
ซึ่งหมายถึงพระสงฆ์รูปนั้น



สมัยก่อนการถวายสังฆทาน จะเน้นที่การถวายอาหารแก่พระสงฆ์ โดยจะเย็บด้วยใบตองขนาดใหญ่ ชั้นล่างเป็นข้าว ชั้นบนเป็นกับข้าวและของหวาน วางปิดด้านบนด้วยดอกไม้ และธูป เทียน


สมัยนี้อาจจะถวายสังฆทานด้วยถัง ถ้วยชาม กล่อง หรือ ปิ่นโต


ของจำเป็นที่ใช้ถวายพระ

เรียกว่า ทานวัตถุ มี 10 ชนิด ได้แก่


1. ข้าวสาร อาหารแห้ง กับข้าว ของหวาน ผลไม้ ภาชนะสำหรับบริโภคและสิ่งของที่ใช้ทำอาหาร

2. น้ำดื่ม และ ภาชนะที่ใส่น้ำ

3. ผ้าไตรจีวร ผ้าอาบน้ำ ผ้าเช็ดตัว ผ้าห่ม สิ่งของที่ใช้เก็บหรือทำความสะอาดเสื้อผ้า

4. ยานพาหนะ และอุปกรณ์ที่ใช้ระหว่างเดินทาง

5. ดอกไม้ มาลัย แจกัน

6. ของหอม คือ ธูป เทียน กำยาน น้ำอบ

7. เครื่องลูบไล้ที่ไม่ใช่เครื่องสำอาง เช่น สบู่ แป้ง ยาสีฟัน

8. เครื่องนอน

9. ที่พัก และ ยา

10. เครื่องให้แสงสว่าง




คำถวายสังฆทาน (เพื่อตนเอง)

อิมานิ มะยัง ภันเต ภัตตานิ สะปะริวารานิ ภิกขุสังฆัสสะ โอโณชะยามะ สาธุ โน ภันเต ภิกขุสังโฆ อิมานิ ภัตตานิ สะปะริวารานิ ปะฏิคคัณหาตุ อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ ฯ


คำแปล

ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอน้อมถวายภัตตาหาร พร้อมกับของบริวารเหล่านี้ แก่พระภิกษุสงฆ์ ขอพระภิกษุสงฆ์ จงรับภัตตาหาร พร้อมกับของบริวารเหล่านี้ของข้าพเจ้าทั้งหลาย เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข แก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย ตลอดกาล นานเทอญ ฯ


คำถวายสังฆทาน (เพื่ออุทิศให้ผู้ตาย)

อิมานิ มะยัง ภันเต มะตะกะภัตตานิ สะปะริวารานิ ภิกขุสังฆัสสะ โอโณชะยามะ สาธุ โน ภันเต ภิกขุสังโฆ อิมานิ มะตะกะภัตตานิ สะปะริวารานิ ปะฏิคคันหาตุ อัมหากัญเจวะมาตาปิตุอาทีนัญจะ ญาตะกานัง กาละกะตานัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ ฯ


คำแปล

ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอน้อมถวายภัตตาหาร เพื่อผู้ล่วงลับไปแล้วพร้อมกับของบริวารเหล่านี้ แก่พระภิกษุสงฆ์ ขอพระภิกษุสงฆ์ จงรับภัตตาหารเพื่อผู้ล่วงลับไปแล้ว พร้อมกับของบริวารเหล่านี้ แก่พระภิกษุสงฆ์ มีมารดาบิดา เป็นต้น ตลอดกาลนานเทอญ ฯ





ให้ทาน



ให้ทานแปลตรงๆ ก็คือ การให้การให้ …เพราะทานแปลว่าการให้


ในทางพุทธศาสนา ทาน คือ


1. การให้โดยไม่หวังเอาคืน ให้ด้วยความจริงใจ ให้แล้วให้เลย


2. ”คนควรจะให้ สิ่งของที่ควรให้” ทเทยฺย ปุริโส ทานํ

การให้ของของตนที่สมควรให้แก่บุคคล มีตั้งแต่ อาหาร เสื้อผ้า ทรัพย์สิน รอยยิ้ม ความรัก การอบรมเลี้ยงดู การศึกษา ความช่วยเหลือ ข้อมูล ความคิดเห็น กำลังใจ และเวลา ….และให้อย่างพอเหมาะพอดี


3. การให้แก่คนที่ควรจะให้

เมื่อให้แล้ว คนๆนั้นไม่ควรจะแว้งกัดภายหลัง แต่ถ้าบังเอิญไม่รู้มาก่อนและได้ให้ไปแล้ว ต่อมาคนนั้นอกตัญญู เราก็เลิกให้เสีย ไม่ต้องไปใจเจ็บใจแค้นต่อเขา คนใดที่ควรจะให้เราจึงจะสมควรให้


4. การให้ที่สำคัญ มีสามอย่าง คือ

การให้ทรัพย์สิ่งของ การให้อภัย และ การให้ธรรมะ ซึ่งเป็นการให้ความรู้ความเข้าใจในหลักความเป็นจริงของชีวิต ที่พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญว่า เป็นการให้อันสูงสุด

อันเปรียบเสมือน การสอนให้คนตกปลามากกว่าการให้ปลา


5. การให้ มีคำพระท่านว่า “ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก คนหมู่มากย่อมคบเขา”
ททํ ปิโย โหติ ภชนฺติ นํ พหู

“การให้เป็นยารัก ตระหนี่นักเป็นยาชัง”

“ความรักมาเพราะน้ำใจมี ความรักหนีเพราะน้ำใจหมด ความรักหดเพราะน้ำใจแห้ง”

น้ำใจในที่นี้ หมายถึงความโอบอ้อมอารี ….”เมื่อความรักเกิดขึ้น ความสามัคคีก็จะตามมา”

อย่างคำที่ว่า “ความรักมีความสามัคคีมา ความรักโรยราเพราะไม่มาของความสามัคคี”


ดินทุกก้อนเป็นแผ่นดิน ก็เพราะมีน้ำเป็นเครื่องประสานไว้ หากไม่มีน้ำคอยช่วยประสานไว้ ดินก็จะกลายเป็นขี้ฝุ่นอย่างไม่ต้องสงสัย

คนเราเกิดมาจึงควรจะมีความรักความสามัคคี ซึ่งรากเหง้าพื้นฐาน ก็มาจากการให้ หรือทานนั่นเอง


6. การให้ อาจแบ่งได้อีกแบบ เป็นการให้ 3 ประเภท

• การให้เพื่อบูชาคุณ เป็นความกตัญญูรู้บุญคุณต่อ พ่อแม่ ครูอาจารย์ ผู้มีบุญคุณต่อตนเอง

• การให้เพื่อยึดเหนี่ยวจิตใจผู้อื่น เป็นการให้เพื่อมิตรภาพยึดเหนี่ยวน้ำใจเพื่อนบ้านหรือคนรู้จัก เป็นมิตรดีกว่าเป็นศัตรูกัน คนฉลาดจะไม่โกรธกับใคร

• การให้เพื่อเห็นแก่มนุษยธรรม เป็นการช่วยเหลือคนจน คนพิการ คนเจ็บป่วย คนชรา ด้วยว่าเป็นเพื่อนมนุษย์ร่วมโลก




ทาน หรือการให้ ควรตระหนักไว้เสมอว่า

“ผู้ให้ของชอบใจ ย่อมจะได้ของชอบใจ

ผู้ให้ของเป็นเลิศ ย่อมจะได้ของเป็นเลิศ

ผู้ให้ของดี ย่อมจะได้ของดี

ผู้ให้ของที่ประเสริฐ ย่อมจะถึงฐานะอันประเสริฐ”





โปรยทาน



การโปรยทาน กระทำในสองกรณี กรณีแรกในงานบวช กรณีที่สองในงานอุทิศส่วนกุศลแทนผู้ตายและให้ทานแก่ผู้ยากไร้


1. ประเพณีการบวช


ผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ พ่อแม่จะมีความเชื่อว่า ถ้ามีลูกชายขอให้ได้บวชเรียน เพื่อศึกษาพระธรรมวินัย และจะได้อานิสงส์เกาะชายผ้าเหลืองลูกขึ้นสวรรค์


การบวชจะกระทำได้ เมื่อชายมีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ พ่อแม่จะพาไปฝากวัดที่จะอุปสมบทกับ พระอุปัชฌาย์หรือเจ้าอาวาส เพื่อขอฉายาในเพศบรรพชิต และให้อยู่วัดตั้งแต่ 7-15 วัน หรือ 1 เดือน เพื่อการท่องขานนาค และให้เรียนรู้ขนบธรรมเนียมประเพณีของพระสงฆ์


ครั้นถึงวันอุปสมบท ก็จะนำนาคไปโกนผมที่วัด โดยมีพ่อแม่เป็นบุคคลแรกที่เริ่มต้นตัดผม แต่งตัวนาค รับศีล และนำนาคมาทำขวัญนาค หรืออาจให้พระเทศนาสอนนาคเพื่อให้ระลึก ถึงพระคุณของบิดามารดาที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กจนโต และมีการเวียนเทียนโดยการตั้งบายศรีสู่ขวัญ


หลังจากนั้นนำนาคไปบวชที่อุโบสถ ทำทักษิณาวรรต รอบเสมาอุโบสถ 3 รอบ วันทาเสมาหน้าอุโบสถ แล้วจึง โปรยทาน






แล้วญาติพี่น้องจะอุ้มนาคข้ามธรณีประตูอุโบสถ บางคนจับชายเสื้อนาค เชื่อว่าจะได้อานิสงส์แห่งผลบุญในครั้งนี้

ในโบสถ์ พระอุปัชฌาย์ พระคู่สวด และพระอันดับ จะทำพิธีการบวชให้นาคเป็นพระสงฆ์ แล้วจะทำพิธีฉลองพระบวชใหม่ในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น หรือในตอนเพลวันเดียวกัน




2. การโปรยทาน เป็นการหว่านเงินแก่ผู้อยู่ในบริเวณนั้น ใครก็ได้

เพื่ออุทิศส่วนกุศลแทนผู้ตาย คล้ายกับเป็นการอุทิศทรัพย์สมบัติทั้งหลายที่ผู้ตายมี ให้แก่ผู้ที่อยู่เบื้องหลัง เป็นปริศนาธรรม ทำนองตายแล้วก็เอาอะไรไปไม่ได้


เงินโปรยทานนี้ ชาวบ้านนิยมจะเก็บไว้เป็นขวัญถุง





ทิ้งกระจาด



ปฐมพิธีทิ้งกระจาด ในพระพุทธศาสนานิกายมหายาน เชื่อกันว่า


สมัยองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จประทับอยู่ ณ นิโครธาราม เมืองกบิลพัสด์ พร้อมด้วยพระภิกษุเฝ้าสดับพระธรรมเทศนา ในเวลานั้นพระอานนท์เถรเจ้าไปนั่งสมาธิอยู่ในที่สงัดตามลำพัง


ในยามดึกสงัดพระอานนท์ได้ทัศนาเห็นอสุรกายตนหนึ่ง มีรูปร่างซูบผอมเหี่ยวแห้ง มีเพลิงพลุ่งออกมาจากปาก ลำคอเท่ารูเข็ม ผมบนศีรษะรุงรัง มีเขี้ยวงอกออกจากปาก น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก

อสุรกายตนนั้นมายืนประนมมือบอกพระอานนท์ว่า

"อีก 3 ราตรี พระอานนท์จะมรณภาพ และต้องมาอยู่ในหมู่อสุรกาย"


เมื่อพระอานนท์ได้ฟังดังนั้น ก็มีความหวาดกลัวต่อมรณภัย จึงถามอสุรกายว่าจะต้องทำประการใด จึงพ้นจากภัยได้

อสุรกายตอบว่า

"ถ้าพระคุณเจ้าต้องการพ้นจากทุกข์ในหมู่อสุรกาย ก็ให้กระทำ พุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา และบริจาคทานให้แก่ผู้ยากไร้ที่อดอยาก และแผ่ส่วนบุญส่วนกุศล ให้แก่อสุรกายและเปรตทั้งหลาย ท่านก็จักมีอายุยืนยาว ส่วนอสุรกายและเปรตก็จักได้พึ่งผลบุญกุศลให้ อาจพ้นจากองทุกข์ถึงสุคติได้โดยพลัน"


พระอานนท์ได้นำความเข้ากราบทูลสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ตามคำที่อสุรกายกล่าวนั้น และ ขอให้พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงช่วย


พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ตรัสกับพระอานนท์ว่า

"ดูกร อานนท์เจ้า เธออย่าได้มีความหวาดกลัวไปเลยเราจะชี้ทางให้ เมื่อบริจาคทานให้กับหมู่อสุรกายและเปรตกับพวกบุคคลยากจนแล้ว ก็จักพ้นจากภัยที่กล่าวนั้นได้ แต่การบริจาคทานให้ทั่วถึงอสุรกายและเปรตทั้งหลายนั้นยากมาก เพราะอสุรกายและเปรตได้สร้างอกุศลกรรมไว้มาก จึงไม่สามารถที่จะบริโภคได้ จำเป็นต้องตั้งพิธีชุมนุมพระอริยะเจ้าทั้งหลาย ให้มาเจริญพระคาถา ด้วยอำนาจพระคาถานี้ จะทำให้ทั่วถึงหมู่อสุรกายและเปรตทั้งหลายได้


อานนท์เธอพึงรู้เถิดว่า อสุรกายที่มาบอกกับเธอนั้น หาใช่อื่นไกลไม่ คือ พระมหาโพธิสัตว์กวนอิม นั่นเอง ซึ่งเธอปรารถนาที่จะโปรดทั้งมนุษย์และอบายสัตว์ทั่วไป ด้วยอำนาจพรหมวิหาร คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ทั้งสี่ประการนี้ให้สมบูรณ์ เธอจึงได้ "นิรมิต" เป็นอสุรกาย ที่มีรูปร่างน่าเกลียดน่ากลัว ให้ปรากฏมาบอกกับอานนท์เพื่อจะได้เป็นต้นเหตุแห่งการบริจาคทาน"


เพราะเหตุนี้ การบริจาคทานทิ้งกระจาดทุกครั้ง จึงต้องตั้งรูป พระมหาโพธิสัตว์กวนอิม ซึ่งเป็นรูป "เนรมิต" ที่มีลักษณะ น่าเกลียดน่ากลัวยืนอยู่ ณ สถานที่บูชา

ที่มีเครื่องสักการะของเซ่นไหว้ ข้าวสาร อาหาร เครื่องอุปโภค และบริโภค ที่จะทำการแจกทาน




พิธีทิ้งกระจาด


ตามพระสูตรพุทธศาสนามหายาน มีว่าช่วงระหว่างเดือนเจ็ด หรือ เทศกาลวันสารทเดือนเจ็ด ทางจันทรคติ มีกำหนดระยะเวลา 1 เดือน ประตูเมืองนรกจะเปิดกว้าง ให้เหล่าวิญญาณที่ถูกคุมขังอยู่ในเมืองนรก ที่ไร้อิสรภาพไม่สามารถไปไหนได้และต้องอดอยากหิวโหย จะได้รับการนิรโทษกรรมชั่วคราว ให้ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันออกไปเยี่ยมเยียนบุตรหลาน ญาติมิตร วิญญาณเหล่านั้นต่างเฝ้ารอคอยและมีความยินดีปรีดากันทั่วหน้า


เมื่อถึงเทศกาลวันสารทเดือนเจ็ด ชาวบ้านทุกครัวเรือนจึงต่างพากันทำบุญทำทาน มีการจัดเตรียมดอกไม้ ผลไม้ อาหาร เงินทอง เสื้อผ้าของใช้ มาเซ่นไหว้ ส่วนตามวัดจีนและศาลเจ้าต่างๆ จะจัดให้มีพิธี "ซิโกว" หรือที่เรียกว่า"พิธีทิ้งกระจาด" เพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศล ให้แก่ดวงวิญญาณของบรรพชนผู้ล่วงลับไปแล้ว หมู่เปรต อสุรกายและวิญญาณที่ไร้ญาติขาดมิตร ซึ่งล่องลอยอยู่ในที่ต่างๆ ให้ได้พบพระรัตนตรัยและหลุดพ้นจากกองทุกข์ไปสู่สุคติภพ เป็นการแสดงซึ่งความกตัญญูกตเวที อันเป็นพิธีกรรมหนึ่งที่สำคัญในพุทธศาสนา





ตัวอย่างการทิ้งกระจาด


มูลนิธิสว่างคุณธรรมจังหวัดชัยภูมิ จัดงานทิ้งกระจาด โปรยทาน เอื้ออาทรเครื่องยังชีพแก่ผู้ยากไร้ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับญาติที่ล่วงลับไปแล้ว ตามความเชื่อของคนไทยเชื้อสายจีน ที่ยึดถือสืบทอดมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ


การแจกทานมหากุศลทิ้งกระจาดในปีนี้ นายจักรินทร์ วงศ์เบญจรัตน์ ประธานมูลนิธิสว่างคุณธรรมจังหวัดชัยภูมิ ได้เชิญนายธวัช สุวุฒิกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เป็นประธานในพิธี อัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง เป็นต้นว่าเจ้าพ่อพญาแล และศาลเจ้าในที่ต่างๆ มาประทับ จากนั้นได้ ร่วมกันแจกจ่าย สิ่งของแก่ผู้ยากไร้ ซึ่งเดินทางมาจากหมู่บ้านต่างๆ กว่า 2 หมื่นคน


โดยปีนี้ ทางมูลนิธิฯ ได้จัดหาข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำปลา และอื่นๆ บรรจุใส่ถุงจำนวนกว่า 2 หมื่นชุด รวมค่าใช้จ่ายไม่น้อยกว่า 2 ล้านบาท


งานประเพณีทิ้งกระจาด เป็นประเพณีอันดีงามของคนไทยเชื้อสายจีน ที่ร่วมกันจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับญาติที่ล่วงลับไปแล้ว และวิญญาณไร้ญาติ เสริมส่งวิญญาณทั้งหลายสู่สุคติ เพื่อความเป็นสิริมงคลของตนเองและครอบครัว




โดย yyswim



Create Date : 25 พฤศจิกายน 2548
Last Update : 25 พฤศจิกายน 2548 16:28:09 น. 23 comments
Counter : 2174 Pageviews.

 
เมื่อวานตอนเย็นหลังเลิกงาน
ก็เพิ่งไปซื้อของกับเพื่อนคนนึง
เพื่อเตรียมไปทำสังฆทานครับ..
ฟงัมันบ่นเรื่องงานกับสถานการณ์ที่ทำงานให้ฟังแล้วก็..ได้ข้อสรุปว่า

เมริงไปทำสังฆทาน..สะเดาะห์เคราะห์บ้างก็ดีนะ..


โดย: กุมภีน วันที่: 25 พฤศจิกายน 2548 เวลา:16:37:37 น.  

 
ข้อมมูลการทำบุญพร้อมทุกสิ่ง
ดีจังเลยค่ะ

ป้าแจ๋วแวะมาเยี่ยมนะคะ สบายดีป่าว?


โดย: ป้าแจ๋วแหวว วันที่: 25 พฤศจิกายน 2548 เวลา:16:54:37 น.  

 


โดย: ครีเอทีฟ หัวเห็ด วันที่: 25 พฤศจิกายน 2548 เวลา:17:12:05 น.  

 


โดย: อินทรีทองคำ วันที่: 25 พฤศจิกายน 2548 เวลา:17:31:32 น.  

 
คงมะได้ทำสังฆทานแล้วอ่ะน้องสิน ไม่รู้สึกศรัทธาอ่ะจ๊ะ แย่จังเนอะ เน้นทำทาน หรือให้สิ่งของกับคนขาดแคนแทน พรุ่งนี้ก็จะไปทำทานกับเด็กเอดส์และ รู้สึกสบายใจดีจัง


โดย: ladybear (ladybear ) วันที่: 25 พฤศจิกายน 2548 เวลา:22:33:10 น.  

 
แวะมาอ่านข้อมูลดีดีค่ะ

สุขสันต์วันหยุดนะคะ


โดย: Batgirl 2001 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2548 เวลา:22:46:48 น.  

 
ผมว่าสังฆทานน่าจะซื้อของที่วัดนั้น ๆ ขาดจะดีกว่าซื้อสำเร็จรูปนะครับ

เพราะว่าบางทีของที่มีในสำเร็จรูปนั้นวัดก็อาจจะไม่ได้ขาดแคลนก็ได้น่ะครับ


โดย: <Strawberry Milk Shake> วันที่: 27 พฤศจิกายน 2548 เวลา:1:30:37 น.  

 
ข้อมูลเยอะจังเลยค่ะ

แต่ออมอ่านแล้วไม่ค่อยรู้เรื่องง่ะ

เอ๊ะ...นี่เราเป็นคนพุทธเปล่าเนี่ย


โดย: NIS IP: 58.10.186.254 วันที่: 27 พฤศจิกายน 2548 เวลา:9:36:02 น.  

 
กุมภีณ……ช่วงนี้โชคไม่ค่อยดีหรือคับ เรื่องงาน เรื่องเงิน เรื่องรัก เรื่องสุขภาพ หรือเรื่องอายุครบเบญจเพส ล่ะ?

ทาน …การให้ เป็นเรื่องที่ดีคับ ขอให้ให้คนที่เหมาะสม ให้อย่างจริงใจไม่ได้ถูกบังคับ ให้ตามกำลังที่มี และให้แล้วให้เลยอย่าหวังได้อะไรกลับคืน(ไม่ต้องอธิษฐานขออะไรขณะถวายสังฆทาน) ก้อแล้วกัน…ใจนายจะได้ มีสุข และสบายใจที่แท้จริง



โดย: yyswim วันที่: 27 พฤศจิกายน 2548 เวลา:10:21:00 น.  

 
ป้าแจ๋วแหวว……ผมสบายดีค้าบ ป้า ผมเองก้อไม่ได้ไปเยี่ยมป้าเลยค้าบ เด๋ว ไปหาเลยคับ ขอบคุณที่ชมข้อมูล

ครีเอทีฟหัวเห็ด และ คุณอินทรีทองคำ……ขอบคุณคับที่เข้ามาเยี่ยม



โดย: yyswim วันที่: 27 พฤศจิกายน 2548 เวลา:10:22:30 น.  

 
คุณพี่lady bear….. เรื่องทาน เป็นเรื่องของความเหมาะสมและความสบายใจคับ หากฝืนใจ อย่าทำนะคับ ทำไปแล้วจะทุกข์ หรือหากเราเองมีกำลังไม่พร้อม มีทรัพย์สินและเวลาไม่พร้อม ก้อ อย่าทำนะคับ เด๋ว เราเองจะแย่และอันตราย Blogเรื่องห้ามคนบริจาคโลหิต
จะบอกเรื่องนี้คับ



โดย: yyswim วันที่: 27 พฤศจิกายน 2548 เวลา:10:25:24 น.  

 
ให้ของ และเลี้ยงอาหาร แก่เด็กเอดส์แล้ว ถ้ามีโอกาส ช่วยนำมาเขียนลงในBlogซิคับ อาจจะมีเพื่อนๆหลายคนอยากจะรู้ว่าทำกันที่ไหน? บรรยากาศเป็นอย่างไร? ไม่ต้องมีภาพก็ได้ ถ้าเห็นว่าไม่เหมาะสม ผมเองอยากอ่านคนแรก ขอขอบคุณล่วงหน้าไว้ด้วยเลยคับ


โดย: yyswim วันที่: 27 พฤศจิกายน 2548 เวลา:10:26:29 น.  

 
Batgirl….. สวัสดีวันหยุดของผม อิ อิ อิ แต่งานของแม่นางค้างคาวอาจจะไม่มีวันหยุด ขอให้แม่นางทำงานอย่างมีความสุข และมีเงินเข้าเยอะๆนะคับ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านข้อมูลใน Blog


โดย: yyswim วันที่: 27 พฤศจิกายน 2548 เวลา:10:27:32 น.  

 
มิว……เห็นด้วยคับ เรื่องความสะดวกและเป็นของที่ตรงกับที่ทางวัดต้องการ

แต่เท่าที่สังเกต หลายวัดจะนำถังสังฆทานย้อนกลับมาขาย เพราะพระคุณเจ้าอาจมีถังสังฆทานเพียงพอแล้ว พระคุณเจ้าจึงอาจจะต้องการ จตุปัจจัยในรูปเงิน ก็เป็นได้ (ไม่ได้ขัดแย้งนะ)



โดย: yyswim วันที่: 27 พฤศจิกายน 2548 เวลา:10:30:39 น.  

 
ผมทำทานกับทางวัดไม่มากนัก …ผมชอบจะทำทานกับเมด(คนทำความสะอาด) รปภ. หรือคนเก็บขยะ ที่ดูท่าทางยากจนมากกว่า และส่วนใหญ่ผมมักจะให้เป็นพวกของกินอร่อยๆหรือของใช้ แทนเงิน (เพราะกลัวว่าบางคนจะนำไปเล่นหวยหรือนำไปสูบบุหรี่หมด) ดูหน้าตาตอนที่เขารับของกินและของใช้ เขารู้สึกสุขใจ ผมก็ปลื้มคับ


โดย: yyswim วันที่: 27 พฤศจิกายน 2548 เวลา:10:31:38 น.  

 
คุณออม….. ขอโทษ ที่เขียนยาวเขียนยาก และไม่สนุก Blogเรื่องหน้า จะเขียนสั้นคับ


โดย: yyswim วันที่: 27 พฤศจิกายน 2548 เวลา:10:40:40 น.  

 
ขอบคุณข้อมูลดีดีค่ะ...

มีโอกาสมักจะถวายสังฆทานค่ะ...


โดย: mda IP: 203.159.36.10 วันที่: 27 พฤศจิกายน 2548 เวลา:22:43:04 น.  

 

MDA……ขอบคุณที่อ่าน ….Blogเรื่องหน้า เรื่องพระคุณเจ้าอีกแร่ะ แล้วจึงเข้าสู่เดือนของในหลวง ..จะมีเรื่องของในหลวง 2 เรื่อง


โดย: yyswim วันที่: 28 พฤศจิกายน 2548 เวลา:8:47:11 น.  

 
โอ้แม้ว่าหน้าหนาวจะผ่านไปแล้ว บรรยากาศใน bloug มันช่าง สงบ ร่มรื่น เยือกเย็น ผมเริ่มเห็นดวงตาธรรมแล้ว สาธุ ๆ


โดย: btea วันที่: 28 พฤศจิกายน 2548 เวลา:12:53:34 น.  

 
เชื่อว่าคุณเป็นคนใจบุญคนหนึ่ง จึงสามารถบอกเล่าเรื่องสังฆทานได้อย่างชัดเจน ว่าง ๆ ลองไปปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวัน สิงห์บุรีดูซิคะ ดีมากเลยค่ะ


โดย: ซออู้ วันที่: 28 พฤศจิกายน 2548 เวลา:21:47:35 น.  

 
BTA……นานๆทีนะคับที่Blogนี้ จะเขียนเรื่องพระเรื่องเจ้า
เจ้าของBlogยังคึกคับ ยังมีกิเลสเย๊อะ อยู่คับ

รับรองว่าอีกไม่นาน เรื่องเฮฮาหน้าแดง ประสาคนทาลึ่ง จะกลับมา

คุณซออู้คับ….. พี่สาวผม เขาชวนผมทุกครั้งที่พี่สาวไปปฏิบัติธรรม …คำตอบคือ ผมไม่ไปคับ ผมดื้อมากคับ แต่ผมยังเป็นคนดี พอจะคบได้ อยู่คับ

พี่สาวผม เขาให้ผมช่วยอะไร ที่จะนำไปปฏิบัติธรรม ผมช่วยหมด แต่ผมไม่ไปหรอก หุ หุ หุ บอกแล้วว่าดื้อ



โดย: yyswim วันที่: 30 พฤศจิกายน 2548 เวลา:0:39:38 น.  

 
ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

ได้ความรู้ครบด้านการทำบุญ
อาศัยว่าอยู่ใกล้วัดจึงมีโอกาสเข้าวัดทำบุญและเป็นวัดปฎิบัติด้วยจึงศรัทธามากเป็นพิเศษ

ปกติทำบุญกับคนมากกว่าถวายสังฆทานเช่นกันค่ะ

และการทำบุญด้วยการปฎิบัติจะได้บุญมากกว่าการทำด้วยสิ่งของค่ะ

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆค่ะ


โดย: law of nature IP: 81.106.200.74 วันที่: 29 มกราคม 2550 เวลา:18:31:28 น.  

 
แวะมาต่อจากเจ๊เนเจอร์

เขาเรียกดวงสมพงษ์

สงสัยเจ๊เนเจอร์จะได้กับเฮียสินก็งานนี้ล่ะ 555


โดย: ดำรงเฮฮา วันที่: 29 มกราคม 2550 เวลา:23:30:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

yyswim
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]





บล็อกสรรสาระนี้ จขบ.ไม่ได้เขียน-ไม่ได้ถ่ายภาพ-ไม่ได้อัพโหลดคลิปเอง หากแต่ทำหน้าที่เป็นบรรณาธิการบล็อก เสาะหาเรื่องดีๆ รูปสวยๆ คลิปแปลกๆ มาไว้ในบล็อก


ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยม ขอเชิญชมหรืออ่านตามสบาย ไม่ต้องคอมเมนต์ก็ได้ จขบ.ชอบการเข้ามาเยี่ยม แบบกันเอง ง่ายๆ สบายๆ




เริ่มเขียนBlog เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2548


เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ.2550 เวลา 23.30 น.


เริ่มนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชม




Latest Blogs

New Comments
Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2548
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
25 พฤศจิกายน 2548
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add yyswim's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.