สร้างบ้านพักคนชรา
สร้างบ้านพักคนชรา
มรว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารกทม. เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2552 ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบในหลักการ โครงการสร้างบ้านผู้สูงอายุของ กทม. ตามที่สำนักพัฒนาสังคมและสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว ของ กทม. นำเสนอมาเพื่อเป็นบ้านพักหลังใหม่รองรับผู้สูงอายุในเขตพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร ที่ประสบปัญหาด้านขาดที่พักอาศัยให้กับผู้สูงอายุ และสถานที่ใหม่นี้จะได้เป็นศูนย์กลางรวบรวมข้อมูลและเผยแพร่ข้อมูลด้านสวัสดิการแก่ผู้สูงอายุอีกด้วย
ปัจจุบัน กทม. มีบ้านพักให้กับผู้สูงอายุอยู่เพียงแห่งเดียวเท่านั้น คือที่ บ้านบางแค 2 ซึ่งรับเฉพาะเพศหญิง จำนวนเพียง 150 คนเท่านั้นด้วย ทำให้ประสบปัญหาอย่างมากเรื่องไม่มีบ้านพักเพียงพอต่อการรองรับผู้สูงอายุทั้งชายและหญิงที่นับวันจะขาดผู้ดูแลมากขึ้น
โครงการดังกล่าว วางแผนว่า จะก่อสร้างที่ ตำบลท่าตลาด อ.สามพราน จ.นครปฐม บริเวณริมแม่น้ำนครชัยศรี ซึ่งเป็นที่ดินที่อยู่ในการครอบครองของ กทม. มีจำนวนประมาณ 50 ไร่ โดยกทม.จะนำที่ดินมาใช้ในโครงการนี้ เพียง 34 ไร่ ใช้งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งการก่อสร้างในระยะแรก จะสามารถรองรับผู้สูงอายุได้ประมาณ 1,000 คน แบ่งเป็นเพศชาย 500 คน และเพศหญิง 500 คน
รูปแบบบ้านพัก จะมีลักษณะคล้ายกับบ้านพักตากอากาศมากกว่าบ้านพักผู้สูงอายุ เพื่อทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่ที่บ้านตัวเอง ..สำหรับการก่อสร้าง เนื่องจากเป็นโครงการที่ดำเนินการนอกเขตพื้นที่กทม. จึงต้องมีการขอความเห็นชอบจากสภา กทม. และหารือขออนุญาตก่อสร้างโครงการกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐมเสียก่อน จึงจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ ซึ่งจะใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 2 ปี หลังจากที่ได้จัดสรรงบประมาณ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2555
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯกทม. เปิดเผยว่า เดิมทีงบประมาณในการก่อสร้าง กทม.จะนำมาจากการออกสลากและการออกพันธบัตร แต่เนื่องจากการออกสลากและพันธบัตร ยังอยู่ในช่วงการเริ่มดำเนินการ ซึ่งอาจจะล่าช้าและงบประมาณอาจจะได้น้อย ..กทม. จึงได้เสนอขอ งบอุดหนุน ที่รัฐบาลจะกู้เพิ่มเติมมาใช้ในโครงการนี้ ซึ่งหากรัฐบาลอนุมัติ ก็จะไม่ต้องนำเรื่องผ่านการเห็นชอบเพื่อขออนุมัติงบจาก สภา กทม. แต่หากงบอุดหนุนจากรัฐบาลไม่เพียงพอ ก็จะเสนอสภา กทม.เพื่อของบประมาณ ของปี 2553 มาใช้ในการก่อสร้างแทน
ขอเพิ่มอีกข่าว...
สินค้าจีนเกือบครึ่งยังไม่มีความปลอดภัย
จากการสุ่มสำรวจสินค้า 202 รายการ โดยทางการจีน ในระหว่างเดือนเมษายนถึงมิถุนายน ปีนี้ ในมณฑลกวางตุ้ง พบว่ามีสินค้าร้อยละ 48 ที่วางขายอยู่ทางใต้ของจีนที่มีเขตติดต่อกับเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ที่มีความปลอดภัย โดยสินค้าที่สำรวจมีตั้งแต่ กระดาษชำระ ไปจนถึงเครื่องดื่ม และของใช้ส่วนตัวสตรี
และสินค้าอีกประมาณ ร้อยละ 52 อยู่ในเกณฑ์น้อยกว่ามาตรฐานความปลอดภัยของทางการจีน ซึ่งมีโอกาสเกิดอันตรายสูงต่อสุขภาพของผู้ใช้ โดยเฉพาะเครื่องดื่มพบว่า มีถึง 2 ใน 3 ที่มีความสะอาดต่ำกว่าระดับมาตรฐาน
อย่างไรก็ตาม ทางการของมณฑลกวางตุ้ง ตัดสินใจที่จะไม่ประกาศรายชื่อสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานเหล่านี้ เพราะเห็นว่ายังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม ทำให้ประชาชนทั่วไปเกิดความไม่พอใจ เพราะกังวลว่าสินค้าที่ตนใช้อยู่ จะรวมอยู่ในกลุ่มสินค้าที่ไม่มีความปลอดภัย
ปัจจุบัน ความกังวลเรื่องความปลอดภัยต่อสินค้าของจีนของผู้ซื้อใช้ มีมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ การปนเปื้อนผลิตภัณฑ์นมผงเมื่อปี 2551 ซึ่งครั้งนั้นทำให้เด็กเล็กเสียชีวิตไปอย่างน้อย 6 คน และเกือบ 300,000 คน ล้มป่วยเข้าโรงพยาบาล
yyswim
yyswim@hotmail.com
Create Date : 12 กรกฎาคม 2552 |
Last Update : 12 กรกฎาคม 2552 2:39:19 น. |
|
13 comments
|
Counter : 1515 Pageviews. |
|
|
|