พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต






ว่ากันว่าในวงการคนข่าว มี คุณปลื้ม-ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล นับเป็นเทรนด์ใหม่ของคนข่าว ส่วนในวงการธรรมะก็ไม่น้อยหน้า เพราะมีพระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต เป็น เทรนด์ใหม่ของวงการธรรมะที่ไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน ...พระมหาสมปอง เป็นพระนักบรรยายธรรมะที่ปัจจุบัน เป็นที่ชื่นชอบและรู้จักกันดีทั่วฟ้าเมืองไทย โดยเฉพาะเด็กวัยรุ่น ที่ตื่นตัวอยากจะฟังธรรมะจากท่านมหาสมปองกันอย่างเนืองแน่น











ท่านจะใช้เพาเวอร์พ้อยท์ ซึ่งจะมีสื่อหลากหลายอยู่ในนั้น ทั้งคลิปวีดิโอ รูปภาพ มิวสิควีดิโอ เพลง โฆษณาทีวี ละครทีวี ซีรีย์หนังเกาหลี ข่าวบันเทิงและข่าวอาชญากรรมจากหน้าหนังสือพิมพ์ ขำขันมุกของหม่ำ-เท่ง-โหน่ง แซวถึงโครงการ AF 3 ตลอดจนสำนวนวาจาแบบที่วัยรุ่นเขาใช้พูดกัน มาประกอบในการบรรยายธรรมะแทบทุกครั้ง



การค้นหาข้อมูลของพระมหาสมปอง ท่านจะมีทีมพระช่วยกันทำงาน ตั้งแต่การสืบค้นข้อมูลในเว็บไซต์ การฟังข่าว และแม้กระทั่งบัตรเติมเงินที่จะมีรายชื่อเพลงที่กำลังได้รับความนิยม ก็นำข้อมูลมาใช้ได้ “ ก็รู้แต่ชื่อเพลง แต่เนื้อร้องจริงๆ เป็นอย่างไรเราไม่รู้หรอก” ท่านมหาสมปองบอกเบื้องหลังความสำเร็จ







“ อาตมาจะใช้วิธีแซวตัวอาตมาเองด้วย ถ้าไปแซวคนอื่นเดี๋ยวเขาจะโกรธเอา อย่างถามเขาว่า พระกิน เรียกอะไร คนก็จะตอบว่าฉัน พระนอนเรียกอะไร คนก็จะตอบว่าจำวัด แล้วพระอาบน้ำล่ะเรียกอะไร แล้วเราก็ชิงตอบก่อนว่า ‘เรียกคนมาดู’ คนเขาก็ขำกัน”



“ แล้วไม่ใช่จะพูดให้เขาฟังอย่างเดียว แต่จะต้องให้ผู้ฟังมีส่วนร่วมด้วย แรกๆเราจะต้องใช้ความสนุกในการเปิดใจเขาก่อน แล้วจะค่อยๆแทรกสาระลงไป ดึงเขาเข้าสู่ความสงบ อาตมาจะต้องจบด้วยน้ำตาทุกครั้ง คือต้องให้เขารู้สึกซาบซึ้งจนร้องไห้ออกมา”



ธรรมะแบบ “ธรรมะ เดลิเวอรี่” ของพระมหาสมปอง ตาลปุตโต หัวหน้าค่ายพุทธธรรมนำชีวิต วัดสร้อยทอง เป็นวิธีเผยแพร่ธรรมะในรูปแบบใหม่ โดยธรรมะไม่จำเป็นต้องอยู่ที่วัดเสมอไป ธรรมะไปได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นตามโรงเรียน หน่วยราชการ กรมกองทหาร เรือนจำ องค์กร ห้างร้าน บริษัทต่างๆ ถ้าที่นั่นต้องการธรรมะ







ลองดูผลงานที่ผ่านมาของพระมหาสมปอง เถอะ ....อ่านแล้วแทบจะไม่น่าเชื่อว่า ท่านทำได้



ผลงานผ่านสื่อโทรทัศน์ เป็นพระวิทยากร ในรายการ


- รายการ “สยามทูเดย์” ทุกวันอังคาร ช่อง 5 เวลา 18.30 น.


- รายการ “อินเทรนด์ อินธรรม” ช่อง เอชพลัสแชนแนล


- รายการ “เจาะใจ” ช่อง 5


- รายการ “วีไอพี” โมเดิร์น 9 ทีวี


- รายการ “ตีสิบ” ช่อง 3


- รายการ “คืนนี้กับสายสวรรค์” ช่อง TITV


- รายการ “ราตรีสโมสร” ช่อง 3


- รายการ “ร้านชำยามเช้า” ช่อง TITV


- รายการ “คน คม คิด” โมเดิร์น 9 ทีวี


- รายการ “วันวานยังหวานอยู่” ช่อง 7


- รายการ “ 3 หนุ่ม 3 มุม วาไรตี้” โมเดิร์น 9 ทีวี


- รายการ “โซนนิ่ง” ช่อง TITV


- รายการ “ช่อง 5 หน้าหนึ่ง” ช่อง 5


- รายการ “หมายเหตุประเทศไทย” ช่อง 11


- รายการ “ยูไลฟ์ (U-Life)” ทรูวิชชั่น 7


- รายการ “มันแปลกดีนะ” โมเดิร์น 9 ทีวี


- รายการ “ตามหาแก่นธรรม” ช่อง ASTV



ทุกวันนี้ท่านมีรายการธรรมะ ออนทีวี ชื่อ "ธรรมะ เดลิเวอรี่" ออกอากาศทุกวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 12.30-13.30 น. ทาง ททบ.5 โดยมี อ.จตุพล ชมพูนิช เป็นพิธีกร ...เป็นผลงานสร้างสรรค์ของ บริษัท ทีวี จีเอ็มเอ็ม จำกัด ในเครือแกรมมี่ นับเป็นอีกรายการหนึ่ง ที่มีคุณพ่อคุณแม่และลูกๆวัยรุ่น ร่วมกันชมอย่างสนุกสนานด้วยกันในบ้าน












ประสบการณ์การบรรยาย


- วิทยากรบรรยายข้าราชบริพาร ในสมเด็จพระบรมโอสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และ พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ในสมเด็จพระบรมโอสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร


- วิทยากรบรรยายข้าราชบริพาร ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี


- วิทยากรบรรยาย สำนักงานเขตบางซื่อ, เขตยานนาวา, เขตราษฏร์บูรณะฯ


- วิทยากรบรรยาย รพ.เซนต์หลุยส์, รพ.กลาง, รพ.วิภาราม, รพ.อ.แม่สาย จ.เชียงราย ฯลฯ


- วิทยากรบรรยาย ธนาคารแห่งประเทศไทย, ธ.ออมสิน, ธ.กสิกรไทย, ธนาคาร H.S.B.C,


- วิทยากรบรรยาย เรือนจำกลางกรุงเทพมหานคร


- วิทยากรบรรยาย การทางพิเศษแห่งประเทศไทย


- วิทยากรบรรยาย จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย, ม.ธรรมศาสตร์, มหาวิทยาลัยกรุงเทพ, ม.บูรพา, ม. ศรีปทุม, ม.หอการค้าไทย, ม.เกริก, ม.หัวเฉียวฯ, ม.เซนต์จอร์น, ม.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย, วิทยาลัยราชพฤกษ์, วิทยาลัยพณิชยการเชตุพน, โรงเรียนสัตยาไส จ.ลพบุรี, ร.ร.บดินทรเดชา, ร.ร.สยามบริหารธุรกิจ, ร.ร.พณิชยการสุโขทัย, ฯลฯ


- วิทยากรบรรยาย บริษัท AIS, ไทยประกันชีวิต, เวลลอย, ทรู คอร์ปอเรชั่น, ซี. พี., สยามคูโบต้า, การบินไทย , บ.อีซี่บาย, ฯลฯ


- วิทยากรบรรยายพิเศษ โรงแรมโอเรียนเต็ล, รร.เดอะ ทวิน ทาวเวอร์, รร.โนโวเทล, รร.เรดิสัน, รร.โซฟิเทลเซ็นทรัลพลาซ่า , รร.ตะวันนา, รร.ลายทอง จ.อุบลราชธานี ฯลฯ








หัวข้อธรรมะที่บรรยาย


สภาพปัญหาสังคม (รักในวัยเรียน ยาเสพติด โรคเอดส์ หนีเรียน ติดเกมส์ ฯลฯ)


ทักษะชีวิต ( ความสุขในชีวิต ความเข้าใจชีวิต เกิดมาทำไม จะอยู่ไปเพื่ออะไร พัฒนาชีวิตด้วยธรรมะฯลฯ)


หัวใจบริการ ( หัวใจบริการ ทำงานอย่างมีความสุข ฯลฯ)


ในหลวงของปวงประชา ( เศรษฐกิจพอเพียงเลี้ยงชีพด้วยธรรม, ความซื่อสัตย์ต่อการทำงาน ฯลฯ)


พระคุณพ่อ ( รักแท้ดูแลไม่ได้, ความกตัญญูต่อบิดา, รักพ่อ เข้าใจพ่อ ปรนนิบัติพ่ออย่างไร ฯลฯ)


พระคุณแม่ ( รักแท้ดูแลไม่ได้, ความกตัญญูต่อแม่, รักแม่ ปฏิบัติกับแม่อย่างไร ฯลฯ)


รับน้องอย่างไรให้มีความสุข (เปิดเทอม รับน้องอย่างไรไม่ให้เป็นข่าว, เข้าใจกันสถาบันเดียวกันฯลฯ)


รักชาติ (กิจกรรมปลูกฝั่งความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ฯลฯ)


เปิดใจใส่ธรรม ( ฟังธรรมะแบบง่ายๆ, พลิกมุมคิด ชีวิตก็เปลี่ยน ฯลฯ)









ประสบการณ์การทำงาน


- หัวหน้าค่ายพุทธธรรมนำชีวิต “วัดสร้อยทอง”


- อนุกรรมการ ขจัดสื่อร้ายขยายสื่อดี กระทรวงพัฒนาสังคมฯ


- ที่ปรึกษาคณะกรรมการป้องกันและบริหารจัดการด้านเอดส์


- ที่ปรึกษาชมรม ทูบี นัมเบอร์ วัน (บริษัทเวลลอย)








ผลงานผ่านสื่อสิ่งพิมพ์


คอลัมน์ “วัยรุ่นวัยธรรมะ” คมชัดลึด ซิตี้ไลฟ์ (City Life)


คอลัมน์ “ธรรมะพระอร่อย” หนังสือพิมพ์สยามรัฐ


คอลัมน์ “คุยกันวันเสาร์” หนังสือพิมพ์คมชัดลึก


นิตยสาร “Positioning (50 ผู้ทรงอิทธิพล แห่งปี 2550)” ฯลฯ




ผลงานนิพนธ์ หนังสือ ธรรมะดิลิเวอรี่ อยู่ในสังกัดสำนักพิมพ์ Busy Day มี 5 เล่ม สำหรับเจาะกลุ่มเป้าหมาย 5 กลุ่ม ได้แก่ วัยรุ่น หนุ่มสาว วัยทำงาน ครอบครัว และผู้สูงอายุ ราคาเล่มละ 150 บาท



หนังสือ “ธรรมะเดลิเวอรี่ ชุดที่ 1” เรื่อง วัยรุ่น


หนังสือ “ธรรมะเดลิเวอรี่ ชุดที่ 2” เรื่อง คู่รัก


หนังสือ “ธรรมะเดลิเวอรี่ ชุดที่ 3” เรื่อง วัยทำงาน


หนังสือ “ธรรมะเดลิเวอรี่ ชุดที่ 4” เรื่อง ครอบครัว


หนังสือ “ธรรมะเดลิเวอรี่ ชุดที่ 5” เรื่อง วัยเกษียณ





ผมขอตัดตอนตัวอย่าง ธรรมะสนุกๆใน หนังสือ “ธรรมะเดลิเวอรี่ ชุดที่ 1” เรื่อง วัยรุ่น มานำเสนอ เนื่องในวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา










ความดีเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายๆ ไม่ใช่เรื่องเหลือบ่ากว่าแรง อาตมาจึงมักถามย้ำอยู่เสมอว่า ความดีกับความชั่วอันไหนทำง่ายกว่ากัน ไหนลองกราบอาตมาซิ...ก็กราบได้ นี่คือความดี



ไหนลองตบอาตมาซิ...(โอ้โห บางคนถึงกับวางหนังสือ แล้วเงื้อมือกันเลยทีเดียว) ...ทำไม่ได้หรอก เราจะตบใครอย่างไม่มีเหตุผล โดยไม่กลัวเขาเอาคืนไม่ได้หรอก ฉะนั้นความชั่วจึงทำยากกว่าเห็นๆ



อย่ากลัวที่จะทำความดี วัยรุ่นสมัยนี้แปลก กลัวที่จะทำความดี อายที่จะทำความดี แต่ช่างกล้าที่จะทำตัวไม่ดี ..เห็นยายแก่เดินขึ้นมาบนรถเมล์ ไม่กล้าลุกให้นั่ง เพราะอายเขา เลยแกล้งหลับซะเฉยเลย ....อายที่จะไหว้พ่อแม่ที่หน้าโรงเรียน เพราะกลัวเพื่อนหาว่าเป็นลูกแหง่ ...อายที่จะรักนวลสงวนตัว เพราะกลัวคนอื่นจะหาว่าเป็นพวกโง่เง่าไม่ประสาโลก



วัยรุ่นที่พยายามทำความดี จึงเป็นเหมือนพวกขโมยของในตู้กับข้าว พอแม่จับได้ ก็สะดุ้งโหยงขนหัวตั้ง ขว้างน่องไก่ที่อยู่คาปากทิ้งออกนอกหน้าต่าง.....ทำลายหลักฐาน



การทำความดี อย่าลักขโมยทำ อย่าแอบทำ ทำได้เต็มที่ ทำได้เต็มกำลัง ไม่ต้องกลัวใครจะมาค่อนแคะ เพราะผลดีนั้นย่อมเกิดกับเรา ...พวกที่ไม่ทำสิ จึงจะถูกเรียกว่าพวกไม่ประสาโลก ไม่รู้ว่าการทำดี มีความสุขแค่ไหน ไม่รู้ว่าการทำดี ทำให้ตัวเองเจริญอย่างไร



เราจึงต้องช่วยแนะแนวทางให้เขาหันมาทำดี อย่างที่เรากำลังทำ โดยไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ หรือไม่ต้องอายเมื่อใครจับได้ เราจะอายทำไม ถ้าจะกวาดห้องเรียนให้สะอาด เพราะผลของมันไม่ใช่เพียงแค่เราจะได้นั่งเรียนในห้องสะอาดๆ เพื่อนๆก็จะได้ผลของมันด้วย จะอายทำไม ถ้าจะต้องกินข้างแกงถูกๆ แล้วเพื่อนล้อว่าจน เพื่อที่จะประหยัดเงินไว้ซื้อของสักชิ้น ด้วยเงินของตัวเอง มันน่าภูมิใจและมีค่ากว่าของเงินพ่อแม่ตั้งเยอะ

















การเรียนแบบทางสายกลางเป็นอย่างไร


การเรียนแบบทางสายกลางคือ การเรียนและเล่นที่มีการแบ่งเวลาอย่างเป็นระบบ ไม่เรียนมากไปจนเครียดหัวบาน ไม่เล่นมากไปจนระรื่นหัวลีบ แต่ให้รู้จักว่า เวลาเรียนก็ตั้งใจเรียนอย่างเต็มที่ เวลาเล่นก็เล่นอย่างเต็มที่เช่นกัน



“ถ้าเรียนแล้วเครียดจะเรียนทำไมล่ะหลวงพี่ หนักสมอง”


ธรรมะเดลิเวอรี่สอนว่า บางครั้งต้องหนัก ต้องเหนื่อย เราก็ต้องยอม เพราะผู้ที่ประสบความสำเร็จมากมาย ท่านมีความเครียด มีความจริงจัง จึงประสบความสำเร็จ ความสนุกเป็นเหมือนขนมหวาน เป็นเหมือนยาบำรุงกำลังให้หัวใจเบิกบาน แต่การจริงจังเคร่งเครียดเปรียบเหมือนยาโด๊ป เพิ่มกำลังให้เดินหน้าไปสู่ความสำเร็จ เหมือนบอระเพ็ดขมปี๋ แต่แก้เจ็บคอได้ชะงักนัก



อาตมาเชื่อว่าไม่มีใครบนโลกนี้ ที่เล่นสนุกทั้งชีวิตแล้วจะประสบความสำเร็จได้โดยปราศจากความเครียด




ฉะนั้นเหนื่อยเถอะ เครียดเถอะ...เพราะนั่นจะทำให้เราประสบความสำเร็จ และมักมีคำถามเกิดขึ้นว่า “ เครียดแล้วจะมีความสุขตอนไหน ” คำตอบคือ เราสุขสนุกตอนเรียน ตอนทำกิจกรรม ตอนได้ใช้เวลาว่าง ตอนนั้นเต็มที่กับสิ่งบันเทิงเริงใจได้อย่างบ้าคลั่ง แต่พอถึงเวลาต้องจริงจัง ก็ต้องทำให้ได้เหมือนกดรีโมทเปลี่ยนช่องความคิดของตัวเอง จากเด็กซนแก่นเซี้ยวให้เป็นหนอนหนังสือได้ภายในพริบตา



พอพูดจริงจังขึงขังหน่อย ตาปรือกันเลย...อ้าว ตื่น ๆ คุณโยม


















อาตมาตอบคุณโยมที่มาเปรยเรื่องการแข่งขันข้างต้นให้ฟังว่า การแข่งขันของเด็กจะดีได้ ก็ต่อเมื่อเป็นการแข่งขันเพื่อยกระดับความสามารถและทักษะต่างๆ ให้ดีขึ้นเรื่อยๆ



และที่สำคัญ เมื่อดีขึ้นแล้ว ต้องไม่ดูถูกผู้อื่น การแข่งขันที่แท้จริงไม่ได้วัดกันด้วย ถ้วยรางวัลที่เอาไปตั้งให้ฝุ่นเกาะเล่นที่บ้าน หรือวัดด้วยคะแนนโหวตจากทางบ้านที่ส่งเข้ามาทาง SMS



แต่วัดกันที่ใครสามารถคิดสิ่งดีๆ หรือสร้างสรรค์สิ่งใหม่ได้ดีกว่ากัน แล้วเอาสิ่งนั้นมาสู้กัน



คุณธรรมสำคัญของผู้ชนะที่แท้จริงคือ การไม่ดูถูกคนอื่น ไม่ยกตนข่มท่าน ...แต่ทั้งชีวิตจริงหรือในละครก็พอจะเห็นว่า ผู้ชนะมักเย้ยหยัน ดูถูกผู้แพ้เสมอ และโดยมากคนพวกนี้มักจะต้องเป็นตัวโกงที่ชิงนางเองไป (ทุกที) แล้วซัดพระเอกสลบเหมือดตกเขาไป ....สุดท้ายแล้ว...ด้วยแรงฮึดของพระเอกที่หมั่นฝึกฝนวิทยายุทธ์จนบรรลุ จึงกลับมาทวงความยุติธรรมคืนได้สำเร็จ...ว่าไปโน่น



ในวัยรุ่นวัยเรียนที่เลือดกำลังร้อน คงเลี่ยงที่จะห้ามใจไม่ให้แสดงความสะใจออกมาได้ยาก แต่ลองมองในมุมกลับกันว่า หากวันหนึ่งเราเองเป็นฝ่ายที่ต้องโดนกระบี่ปราบมารจ้วงให้แดดิ้น แล้วยังถูกนำไปประจานทั่วทั้งยุทธภพ อับอายไหมล่ะ...



ฉะนั้นจอมยุทธที่แท้จริง จะต้องมีคุณธรรมที่จะไม่ซ้ำเติมผู้ที่ด้อยกว่าหรือผู้พลาดพลั้ง แต่จะต้องทำตัวให้เป็นแบบอย่าง และเป็นแรงผลักดันให้คนเหล่านั้น มีแรงฮึดที่จะพัฒนาความสามารถของตัวเอง ...เพื่อที่จะกลับมาประลองกันอีกครั้ง...ใจเขาใจเรานะคุณโยม















ถ้าใครที่ได้ไปดูหนังเรื่อง Final Score คงเห็นแล้วว่า “เป็นวัยรุ่นไม่ง่ายอย่างที่คิด” อาตมาก็ว่าจริงนะคุณโยม ยิ่งมาเป็นวัยรุ่นในสมัยนี้แล้วยิ่งยากแบบทวีคูณ ลำพังจะเรียนให้สอบผ่านแต่ละวิชาแข่งกับเพื่อนในห้องก็หัวบานแล้ว นี่ยังต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยแข่งกับคนทั่วประเทศอีก คราวนี้ไม่ใช่แค่ขนหัวหรอกที่บาน...มันบานทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดเท้า



ทุกคนต่างก็มีความฝัน ความคาดหวัง ที่จะเข้าคณะในฝัน มหาวิทยาลัยในอุดมคติด้วยกันทั้งนั้น แต่มันก็แสนจะยากเพราะ “คะแนน” มันค้ำคออยู่จนเมื่อยไปหมด พ่อแม่ก็ต้องมานั่งเครียดตามไปด้วยว่า ไอ้ลูกชายมันจะทำได้ไหม ต้องได้คะแนนเท่าไหร่ ต้องเลือกคณะอย่างไร ถึงจะปั้นลูกให้เป็น “ดาว” ได้



ธรรมะเดลิเวอรี่ มักพูดเสมอว่า ชีวิตเราต้องมีเป้าหมาย เป้าหมายคือความสนุก สนุกที่ได้เรียนรู้ สนุกที่ได้หาวิธีให้ได้มันมา สนุกที่ได้แข่งขันกับคนอื่นและกับตัวเอง



ฉะนั้นจะแปลกอะไร ถ้าฝันอยากเป็นหมอรักษาสิว หรือฝันอยากเป็นนักประมงเพาะพันธุ์ปลาไม่มีก้าง ถ้าเราจริงจังที่จะสู้เพื่อให้ได้ฝันนั้นมา...สู้เพื่อแม่ไปเลยคุณโยม



อาตมาไม่เคยสอบแอดมิชชั่นเหมือนวัยเรียนทั่วไปนะ ทั้งที่ใจจริงแล้วอยากเรียนคณะนิเทศฯ



“ที่เทศน์อยู่ทุกวันนี้ยังไม่พอหรอกเหรอหลวงพี่ ยังคิดอยากจะเรียนนิเทศฯ ไปทำไมอีก ไม่เข้าใจ”



คนละเทศน์กันนะคุณโยม อาตมาอยากเรียนคณะนิเทศศาสตร์ อยากเป็นพิธีกรเสียบไมค์ (ลอย) ไฟส่องหน้า อยากเป็นนักพูด แต่ก็มาประเมินตัวเองแล้วว่า ภาษาอังกฤษง่อยมาก คงไม่รอดแน่ เลยหันไปเรียนปรัชญา (โห...ฉีกแนวน่าดู) แต่กลายเป็นว่า วิชาปรัชญามีภาษาสวยๆ คำพูดดีๆ ที่เราสามารถนำมาใช้ในการพูดได้มาก ทุกวันนี้อาตมาก็ได้เป็น (พระ)นักพูดสมใจนึก โดยไม่ได้เรียนคณะที่สอนให้เป็นนักพูดบันเทิงโดยตรง



“ไม่ได้หรอกค่ะหลวงพี่ขา หนูอยากเรียนคณะนี้ อยากเรียนมหาวิทยาลัยนี้ ถ้าไม่ได้หนูอายเพื่อนแย่เลย” แล้วเจ้าเพื่อนที่หนูอายเนี่ย มันเป็นคนส่งเสียหนูหรือเปล่า มันมีส่วนได้ส่วนเสียกับอนาคตหนูด้วยไหม



“ไม่ได้หรอกหลวงพี่ ผมอยากเป็นดารา จะให้ผมไปเรียนวิทยาศาสตร์ได้ยังไงกัน มันไม่แนว” แล้วไอ้คณะมายาศาสตร์ มันมีไหมละคุณโยม



มีนักเขียนท่านหนึ่งกล่าวไว้อย่างน่างงว่า “ภูเขามีหลายลูก” ....อะไร ภูเขาหลายลูก คืออะไร...พูดอะไรเนี่ย อธิบายให้ไวเลย หลวงพี่ ไม่ทันใจวัยรุ่นเลย



นั่นหมายความว่า เราจะมามัวปีนเขาอยู่ลูกเดียวทำไม ในเมื่อเขาลูกนี้ปีนยากจะตาย ต้นไม้ก็รก หินก็คม ปีนแล้วก็ตกแล้วตกอีก จนเข่าถลอก ทำไมเราไม่ไปปีนเขาลูกอื่น เขาที่มีต้นไม้หรอมแหรม หินไม่คม มีที่ให้เหยียบให้จับ ปีนขึ้นไปง่ายๆ ทำไมไม่ไปปีน



ก็เหมือนกันว่า ไม่ได้มีมหาวิทยาลัยดีๆ แค่ที่เดียว ไม่ได้มีคณะดีๆ แค่คณะเดียว แต่มีให้เลือกถมเถไป ....ดูอย่างดาราสมัยนี้ ซิ บางคนจบวิศวะ บางคนจบนิติศาสตร์ แต่กลับมาเดินหน้าแฉล้มอยู่ในทีวี ซะอย่างนั้น ฉะนั้นสถาบันหรือคณะ มันไม่ใช่สิ่งที่จะการันตีได้ว่า เมื่อเราจบแล้วจะไปเป็นอย่างที่เราฝันไว้ได้หรือไม่ได้ ...มันอยู่ที่ความตั้งใจและความพยายามของเราเป็นสำคัญ



การเรียนไม่จำเป็นต้องขึ้นอยู่กับความชอบเพียงอย่างเดียว แต่ต้องอาศัยที่ความเหมาะสมเข้าไปด้วย นั่นคือเราต้องรู้จักประเมินความสามารถของตัวเองเสมอ ว่าความสามารถของเราอยู่ในแนวทางไหน ความรู้ทุกความรู้เป็นประโยชน์ด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเรียนที่ไหน คณะอะไร อาตมาอยากเห็นวัยรุ่น มีรอยยิ้มกับการเรียน มีเสียงหัวเราะกับการหาความรู้ และมีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองเลือกที่จะทำ















“แต่หนูไม่อยากเรียน อย่างที่พ่อแม่อยากให้เรียน หนูจะทำอย่างไรดีคะ”



เด็กหลายคนกำลังประสบปัญหานี้ โดยเฉพาะช่วงรอยต่อระหว่างมัธยมเพื่อเข้าสู่ระดับมหาวิทยาลัย ในทางพระพุทธศาสนามองว่า ลูกที่เหนือกว่าบุพการี ลูกที่ดีกว่าบุพการี ลูกที่ทำให้พ่อแม่มีความสุข “เป็นอภิชาตบุตร” แม้สิ่งที่ทำ จะไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองรัก แต่เมื่อเป็นความสุขของพ่อแม่ก็สามารถทำได้



แล้วถ้าไม่อยากเป็นอภิชาตบุตรล่ะ จะทำอย่างไร...?



เด็กสมัยนี้คงเถียงสุดใจขาดดิ้น ไม่ยอมเรียนตามที่พ่อแม่ต้องการหรอก...เพราะ “มาร์กเป็นตัวของตัวเอง” แต่จะทำอย่างไรให้ท่านเข้าใจ และยอมรับในความต้องการของเราดีล่ะ



อาตมาขอนำธรรมะที่เรียกว่า “อิทธิบาท 4” มาเป็นอุปกรณ์ติดต่อสื่อสารระหว่างตัวเรากับพ่อแม่ ในโลกที่การสื่อสารไร้พรมแดนเช่นนี้ หรือจะเรียกว่าเป็นลูกอ้อนก็ไม่ผิดนัก



ยกตัวอย่างว่า “ พ่อคะ หนูอยากเรียนศิลปะ ค่ะ”



ฉันทะ คือความรักในสิ่งที่กำลังทำ สิ่งที่เรียนรู้ “ หนูรักศิลปะค่ะพ่อ หนูชอบศิลปะ (หนูมีความรู้สึกว่า หนูเข้าถึงมันได้ เหมือนมันเป็นจิตวิญญาณของหนู)”



วิริยะ คือความขยันหมั่นเพียร “ ถ้าหนูได้เรียนศิลปะที่หนูรัก หนูจะต้องขยันแน่นอนค่ะ หนูจะตั้งใจเรียน (หนูจะไม่ย่อท้อเด็ดขาด ถึงครูจะบอกว่า หนูวาดรูปไก่เหมือนแมวก็เถอะ)”



จิตตะ คือความใส่ใจ “ เวลาเรียนหนูจะใส่ใจกับการเรียนมากเลยค่ะ เพราะหนูได้เรียนสิ่งที่หนูชอบ (หนูจะไม่แอบหลับ หนูจะไม่โดดเรียนเหมือนที่หนูทำเมื่อวาน)”



วิมังสา คือการทบทวนพิจารณา “ หนูจะหมั่นทบทวนสิ่งที่หนูเรียน ฝึกฝีมือ (กับฝาบ้านเรา) ค้นคว้าเพิ่มเติม แล้วจะทำให้หนูเรียนได้ดียิ่งขึ้น แน่นอนค่ะ”



เจอไม้นี้เข้าไป พ่อแม่ถึงกับอึ้ง...ไม่อยากจะเชื่อเลยเนอะพ่อ ว่าลูกเราจะธรรมะธรรมโม...
















อาตมาขออัญเชิญพระราชดำรัสของในหลวง ใจความว่า “ อย่าภูมิใจกับความสำเร็จมากนัก เพราะในโลกนี้มีคนประสบความสำเร็จมากมาย”



นั่นหมายความว่า ถึงเราจะประสบความสำเร็จมากมาย ก็อย่าหลงระเริงให้มาก อย่าอวดเก่ง แล้วให้มองในทางตรงข้ามว่า บนโลกนี้ก็มีคนมากมายที่ล้มเหลว ฉะนั้นก็อย่าจมอยู่กับความล้มเหลวนั้น จนลุกไม่ขึ้น



ดูอย่าง โทมัส แอลวา เอดิสัน ผู้ประดิษฐ์หลอดไฟ เขาล้มเหลวตั้งกี่ร้อยกี่พันครั้งกว่าจะได้หลอดไฟ เอดิสันกลับไม่มองว่า นั่นคือความล้มเหลว แต่มองว่าต้องทำพลาดเป็นร้อยเป็นพันครั้งแบบนี้ สิ ถึงจะได้หลอดไฟ ทำครั้งเดียวแล้วประสบความสำเร็จ มันไม่ใช่หลอดไฟหรอก เราก็อดคิดไม่ได้ว่า ทำไม เอดิสันหน้าด้านจัง ล้มเหลวก็ไม่ยอมรับ



อย่าไปว่าเขา คุณโยม ปล่อยเขาตายตาหลับไปเหมือนเดิม ล่ะดีแล้ว เพราะที่เขาบอกเราคือ วิธีสอนให้เราลุกขึ้นจากความล้มเหลว สอนให้สู้อย่างเต็มกำลัง ถ้า เอดิสัน ท้อเลิกประดิษฐ์หลอดไฟซะ ตั้งแต่ทำพลาดครั้งที่ 95 หรือครั้งที่ 9,999 ป่านนี้คุณโยมบางคน ยังต้องนั่งถอนขนคิ้วด้วยแสงไฟจากเทียนไขอยู่เลย หรืออาจจะต้องนั่งอ่านหนังสือใต้แสงไฟจากตะเกียงน้ำมันก๊าดอยู่แน่ๆ



ไหนใครเคยติดเอฟบ้าง ยกมือดูหน้าหน่อยซิ ..ไหนใครเคยได้เกรดศูนย์บ้าง ยกมือให้ชื่นใจหน่อยซิ ไม่ต้องอายหรอกคุณโยม ถ้าเราจะล้มเสียบ้าง จะสอบตกเสียบ้าง แต่คุณโยมควรจะอาย ถ้าไม่ยอมลุกขึ้นสู้ต่อ ควรจะอายถ้าคิดจะฆ่าตัวตาย เพราะติดเอฟแค่วิชาเดียว















ธรรมะเดลิเวอรี่มองว่า การศึกษาเป็นคุณธรรมอย่างหนึ่งที่ทุกคนควรมี โดยเฉพาะวัยรุ่นวัยเรียน ซึ่งมีหน้าที่สำคัญคือ การหาความรู้ใส่ตัว ใครที่สามารถสะสมความรู้ไว้ได้มาก และนำมาใช้ได้มาก พอๆ กับที่สะสมไว้ ถึงจะเจ๋งจริง



ไม่ว่าจะเรียนคณิตคิดเร็ว เรียนทำขนม เรียนซ่อมพัดลม หรือเรียนเย็บกระทงใบตอง ตราบใดที่นำความประเทืองปัญญามาให้ ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย



การเรียนพิเศษ ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ไม่ใช่ความฟุ่มเฟือย ถ้าเราไม่คิดว่า “ แม่ ถ้าไม่ให้หนูไปเรียนพิเศษ หนูจะเอาสำลีอุดจมูกฆ่าตัวตาย” ...หรือ “ พ่อเอาบ้านไปจำนองธนาคารไว้สิ ผมจะได้มีเงินไปเรียนกวดวิชา ไม่งั้นผมจะไม่เท่าเพื่อน”



ตราบใดที่ยังมีกำลังทรัพย์ไม่ลำบาก มีพื้นที่ในสมองให้เพิ่มรอยหยักลงไปได้ ก็เรียนไปเถอะ เพราะความรู้ คือสมบัติล้ำค่าที่จะติดตัวเราไปจนตาย



“โอ้ย หลวงพี่ อย่าว่าแต่เรียนพิเศษเลย แค่หนังสือที่โรงเรียนมีให้อ่าน ก็จะอ่านไม่ไหวอยู่แล้ว ใครจะมีกะจิตกะใจไปเรียนเพิ่มอีก”



อาตมา ขอยกตัวอย่างจากตัวเอง โรงเรียนบ้านมอตาเจ๊กที่อาตมาเรียน ไกลจากตัวจังหวัดมาก เรียกได้ว่าเป็นบ้านนอกของบ้านนอกอีกที่หนึ่ง หนังสือเรียนเรามีจำกัด เรียนวนไปวนมา ทำแบบฝึกหัดซ้ำไปซ้ำมาจนชำนาญ ไม่มีเรียนเสริมเรียนนอกเวลาที่ไหนเลย จน ป.4 เด็กชายสมปอง (คนเดิม) ได้รับคัดเลือกให้ไปแข่งขันคณิตศาสตร์ในระดับจังหวัด คู่แข่งจากโรงเรียนอื่นมาจากโรงเรียนดังๆ ทั้งนั้นเลย เราเด็กน้อยตัวเล็กๆ ก็ค่อนข้างหวั่นเกรง (นึกภาพตามนะคุณโยมว่า เด็กชายสมปองตัวเล็กๆ ยืนทำตาบ้องแบ๊ว) แต่การแข่งขันครั้งนั้น เราก็สามารถชนะได้ที่หนึ่ง มีชัยเหนือโรงเรียนประจำจังหวัดเลยทีเดียว...




ทุกครั้งที่ก้าวออกจากบ้านเพื่อออกไปเรียนกวดวิชา ธรรมะเดลิเวอรี่ อยากให้วัยรุ่นระลึกอยู่เสมอว่า เราได้นำความไว้วางใจ ความห่วงใย ความรักของพ่อแม่ติดตัวออกไปด้วย ฉะนั้นหากคิดที่จะเดินเลี้ยวซ้ายไปเที่ยวห้าง แทนที่เลี้ยวขวาไปเรียนพิเศษ ก็จงรู้ไว้ว่า กำลังทำลายความเชื่อใจของพ่อแม่ที่มีอยู่ในตัวเรา



หากพลาดพลั้งไปสู่ทางที่ไม่ดี เสียสติ เสียตัว เสียใจ คนที่เสียใจมากกว่าคงไม่มีใคร นอกจากพ่อแม่ที่ขายนาส่งเราเรียนนี่แหละ











อาตมาเคยเขียนจดหมายหาสาวต่างโรงเรียนด้วยนะคุณโยม



ตอนนั้นเรียนประถม ครูให้เขียนจดหมายหาเพื่อนต่างโรงเรียนที่มีเลขที่ตรงกันกับเรา งานนี้ก็เลยได้โอกาส



ก็แนะนำตัวประมาณว่า “ สวัสดีครับคุณเลขที่ 12 ผมชื่อสมปอง นครไธสง ครับ...” เป็นเรื่องเป็นราวสนุกสนานเลย ตอนนั้นยังไม่รู้เลยว่า คนที่เราเขียนหาเป็นผู้หญิง พอได้รู้ก็ตื่นเต้น ยิ่งมาเจอตัวจริงในงานกีฬาโรงเรียน ก็ยิ่งตื่นเต้นเพราะเขาสวยนี่ แต่เราไม่ได้คิดกับเขาในเชิงชู้สาว รู้สึกปลื้มใจมากกว่าที่ได้เจอ ได้มีเพื่อนใหม่



ปลื้มขนาดไปนั่งเชียร์ ทีมวอลเลย์บอลของโรงเรียนเขา ทั้งที่กำลังแข่งขันอยู่กับโรงเรียนตัวเองแท้ๆ ออกหน้าออกตามาก จนเพื่อนโรงเรียนเราหันมามองค้อน นี่เอ็งอยู่โรงเรียนไหนแน่เนี่ย....กลับโรงเรียนเอ็งตาย...



ทุกวันนี้เวลาที่คิดเรื่องนี้ขึ้นมา อาตมาก็ยังรู้สึกดีไม่เปลี่ยน...ปลื้มไม่ยอมเปลี่ยนแปลง




อาตมาเชื่อว่าความรักเป็นสิ่งสวยงาม เป็นสิ่งดี แต่ควรจะมีให้ถูกที่ ถูกเวลา ความรักที่ดีจะช่วยให้เรามีกำลังใจ มีพลังที่จะคิดและทำสิ่งดีๆ ต่อไป แต่เมื่อความรักทำให้เราทุกข์ กลายเป็นสิ่งไม่ดี ก็จะยิ่งเป็นแรงให้เราคิดและทำในสิ่งไม่ดีไปด้วยเช่นกัน



ฉะนั้นความรักที่แท้จริง ควรเริ่มจากตัวเองก่อน เริ่มที่จิตใจเราเป็นสำคัญ รักในหน้าที่ของตนเอง คือรักในการเรียน รักครอบครัวคือรักพ่อแม่ รักในวัยของตนเองคือรักที่จะใช้ชีวิตในวัยรุ่นได้อย่างถูกต้อง มีสติ มีศีลธรรม และรักตัวเอง



ดูอย่างอาตมาเป็นตัวอย่างสิ “ รักไม่ยุ่ง มุ่งแต่เทศน์” ทุกวันนี้อาตมาเลยมีธรรมะ ไว้นอนอยู่ข้างๆ ทุกคืน



ถึงจะจับต้องไม่ได้ แต่ที่แน่ๆ ธรรมะไม่เคยทำให้อาตมาต้องเสียน้ำตาเลยนะ คุณโยม...












สมัยนี้เขามีศัพท์ใหม่ในหมู่วัยรุ่นว่า “ ล่าแต้ม” ...ล่าแต้มเป็นยังไง ใช่ซื้อของที่เซเว่นครบ 30 บาทแล้วได้แสตมป์หนึ่งดวงหรือเปล่า หรือว่าตัดผมครบ 10 ครั้งแล้วได้แถมอบไอน้ำฟรีหนึ่งครั้ง



ไม่ใช่หรอกคุณโยม ล่าแต้ม ในที่นี้ หมายถึง



“เฮ้ย เดือนที่แล้วนายได้มากี่คน (วะ) เราได้มาเกือบ 20 คน”



“โห นายนี่ แน่จริงๆ เราได้ไม่กี่คนเอง เดี๋ยวดูเหอะจะแก้มือให้มากกว่านายเลย คอยดู” ....มันแน่จริงๆ นะคุณโยม



อาตมามีเพื่อนเป็นโยมผู้ชายคนหนึ่ง เขาเป็นคนหน้าตาดีมาก (แต่น้อยกว่าอาตมาหน่อย) ขาว สูง ฉลาด เป็นหนุ่มในฝันของสาวๆ เลยล่ะ แล้วหนังหน้าอย่างเพื่อนอาตมาคนนี้ ก็สามารถหลอกผู้หญิงให้รัก หลอกผู้หญิงให้มานอนด้วย แล้วเปิดก้นหนีตอนเช้าก็ยังได้



แต่เขาบอกอาตมาว่า เขาไม่ทำและไม่คิดจะทำด้วย เขาไม่ทำร้ายผู้หญิงทั้งจิตใจและร่างกาย เขาไม่เคยหักอกใคร...แหม ไอ้นี่มันเท่ เว้ย ผู้ชายต้องเป็นแบบนี้ ต้องไม่ทำให้ผู้หญิงเสียใจ ต้องไม่ทำให้ผู้หญิงเสื่อมเสีย แต่ยอมที่จะเสียใจซะเอง



ธรรมะเดลิเวอรี่ มักเตือนเสมอว่า ผู้ชายที่ทำร้ายผู้หญิงทั้งร่างกายหรือจิตใจ มันไม่ใช่เพียงแค่ผู้หญิงที่จะเสียใจ แต่พ่อแม่เขา ญาติพี่น้องเขาก็เสียใจ ฉะนั้นแล้ว เราจะทำเช่นนั้น ทำไม



ลองคิดในมุมกลับกันว่า ถ้าผู้หญิงคนนั้นเป็นพี่สาวเราล่ะ เป็นน้องสาวเราที่โดนคนอื่นทำร้าย เราจะรู้สึกเช่นไร เราอาจจะโกรธแค้นถึงขนาดสะพายปืนอาร์ก้า ไปยิ่งถล่มบ้านไอ้ผู้ชายใจทรามนั่นตายคาเตียง ซะให้รู้แล้วรู้รอด



ไม่ใช่แค่วัยรุ่นชายที่ “ล่าแต้ม” กันสนุกสนาน แม้แต่วัยรุ่นสาวก็ยังนิยมไม่น้อยไปกว่ากัน



อาตมาได้ดูรายการ “หลุมดำ” ในตอนเกี่ยวกับสาววัยรุ่นที่ออกล่าแต้มจากผู้ชายในยามวิกาล... โอ้โห!!! แพร่หลายยิ่งกว่าเทปผีซีดีเถื่อนอีกคุณโยม



และแทบไม่น่าเชื่อว่า เหตุผลของการทำเช่นนี้ก็แค่ “ แก้แค้นผู้ชาย” ....“ ไม่มีอะไรทำ”.... “ ชอบ”.....เหตุผลเหลือรับประทาน



“ แล้วจะให้พวกผม ทำยังไงล่ะหลวงพี่ เพื่อนทำกัน ผมไม่ทำ มันก็หาว่าผมไก่อ่อน หาว่าผมเชย ”



“ เพื่อนเขามาชวนหนูไปลองค่ะ หลวงพี่ หนูก็ว่ามันไม่เสียหายอะไรนะ ของที่ใช้มันก็ของของหนู ”



ธรรมะเดลิเวอรี่ ขอแนะนำบรรดานักสะสมแต้มบนเตียงทั้งหลาย ให้หันมาสะสมแต้มความดีกัน มาสะสมความถูกต้องกัน แล้วมาแข่งกันดูซิว่าใครทำความดีได้มากกว่ากัน ...




วันนี้ช่วยคนแก่ข้ามถนน รับไปหนึ่งแต้ม ....วันนี้ปีนต้นไม้ไปช่วยลูกแมวลงมาจากต้นไม้ รับไปอีกหนึ่งแต้ม ....วันนี้สวดมนต์ก่อนนอนรับไปอีกหนึ่งแต้ม



น่าสะสมมากกว่ากันตั้งเยอะนะ คุณโยม น่าภูมิใจและน่าเอามาอวดอ้างได้ มากกว่าการที่จะป่าวประกาศว่า ...คืนนี้ไปนอนกับใครมา คืนนั้นไปนอนกับใครมา แล้วเดือนนี้ได้มาทั้งหมดกี่คน



ลองเปลี่ยนมาเป็นคุยกันว่า ...เดือนนี้ได้แต้มทำความดีมากี่แต้ม ....ช่วยเหลือคนอื่นมากี่คน ...ทำตัวให้มีค่ามาแล้วกี่วัน



“นี่ตัวเอง วันนี้เค้าลุกให้เด็กอนุบาลนั่งบนรถสองแถวด้วยล่ะ”



“เหรอๆๆ สู้ของเค้าไม่ได้ วันนี้เค้าทำข้าวกล่องให้พ่อกับแม่เอาไปกินที่ทำงานด้วย”



เห็นไหมคุณโยม น่ารักจะตายไป ....ปล่อยมันไป ใครจะไปแข่งกันเสียสาว แข่งขันคร่าพรหมจรรย์ หรือแข่งกันติดโรคท้อง ทำแท้ง ก็ปล่อยให้เขาทำไป ....เรามาสร้างค่านิยมให้การสะสมความดีให้เกิดขึ้นในสังคมวัยรุ่นกันดีกว่า แล้วเราจะรู้ว่า แท้จริงแล้ว “ เป็นวัยรุ่น (ที่ดี) ง่ายกว่าที่คิด”
















เพื่อนที่ดี ต้องสด กรอบ มีคุณค่าทางอาหาร...เหมือนแตงกวาเลยไหมคุณโยม ...นี่ถ้าได้น้ำพริกสักถ้วย ข้าวสวยร้อนๆ สักจานนะ... เปรม งานนี้เปรม



ส่วนเพื่อนไม่ดี ก็เหี่ยวๆ เน่าๆ ใครจะไปกินลง เททิ้งขยะไป ยังไม่รู้เลยว่า จะมีหนูตัวไหนตาบอดมาแทะกินให้ท้องเสียหรือเปล่า



“เพื่อน” หรือ “มิตร” มีสองประเภท คือมิตรแท้ และมิตรเทียม ....คิดดูเอาเถอะ ขนาดเพื่อนยังมีการทำปลอมทำเลียนแบบกันได้เลย นับประสาอะไรกับพวกเทปผีซีดีเถื่อน...



เศร้าใจวัยรุ่นสมัยนี้ มีค่านิยมในการบูชาคนแปลกๆ เพื่อนที่ชวนเรียน ชวนไปทำบุญ เรามองว่าเป็นพวกเชย ทำตัวไม่โดดเด่นไม่น่าสนใจ แต่กลับไปบูชาบรรดาเพื่อนที่โดดเรียน เพื่อนสูบบุหรี่ เพื่อนเที่ยวกลางคืน ...ยกย่องคนประเภทนี้ ให้กลายเป็นฮีโร่ประจำใจ น่าเลียนแบบ เรียกคนพวกนี้ว่า มิตรแท้ ทั้งที่เขากำลังจะพาเราไปตีกับคนอื่น พาเราไปเสพยาจนหมดอนาคต...นี่คือมารชัดๆ



อาตมามีเรื่องเพื่อนมาเล่าให้ฟัง



ตอนเด็กๆ ไปเข้าค่ายกีฬากันที่โรงเรียน ตอนนอนเราก็นอนรวมกันกับเพื่อนๆ แต่เจ้าไชโย เพื่อนซี้ มันช่างคุยเหลือเกิน เราก็รำคาญมัน ขี้เกียจคุย เลยแกล้งหลับไม่ขยับตัว สักพักมันเริ่มเห็นผิดปกติ มาเรียก มาเขย่าตัว



“ เฮ้ย ไอ้ปองเป็นไรวะ ตื่นสิ เฮ้ย เป็นไรวะ” เสียงเจ้าไชโยเริ่มสั่นๆ เราก็ไม่ตอบ คราวนี้มันไปเรียกเพื่อน เรียกรุ่นพี่มาช่วยปลุก มากันหมดเลย ซวยแล้วเรา ถ้าลุกขึ้นมาตอนนี้ โดนรุ่นพี่กระทืบแน่ หาว่าเราไปหลอกเขา เลยต้องแกล้งนิ่งต่อไป เหมือนหลับลึกมาก



เท่านั้นยังไม่พอ ไชโย มันยังคิดว่าเรื่องไม่ใหญ่พอ มันวิ่งไปตามครูมาอีก ครูก็ว่าเราจะเป็นไหลตายหรือเปล่า ....ช่วงนั้นโรคนี้กำลังฮิตเลย



เราเห็นทีจะนิ่งไม่ไหวแล้ว เดี๋ยวเรื่องถึงแม่ แล้วจะยุ่ง กลัวโดนหามไปวัดแบบไม่รู้ตัวด้วยน่ะสิ เลยค่อยๆ ลืมตา ทำเสียงอ้อแอ้เหมือนเพิ่งตื่น...เฮ้ย มันยังไม่ตาย ทุกๆ คนก็โล่งใจกันไป ส่วนไชโย นะเหรอ มันนั่งร้องไห้เป็นบ้าเป็นบอ อยู่มุมห้องโน่น ร้องตั้งแต่วิ่งไปตามรุ่นพี่มาดูเราแล้ว ยิ่งพอครูทักว่า เราอาจจะตาย มันยิ่งฟูมฟายน้ำลายฟูมปาก...ดู๊ ดูมันทำ











เว๊บไซด์ของเรา ได้มีโอกาสตอบปัญหาและให้คำปรึกษาอีกแล้วคุณโยม



ดีใจจังเลยที่มีวัยรุ่นเข้ามาขอคำปรึกษา เพราะไม่ค่อยมีใครอยากคุยกับพระเท่าไหร่หรอก...เอ๊ะหรือว่าเด็กคนนี้ จะไม่รู้ว่าอาตมาเป็นพระ เลยหลวมตัวมาถาม... ไม่นะ ไม่จริง



หนึ่งในคำถามนั้น เป็นของเด็กหญิงคนหนึ่งที่เขียนข้อความไว้อย่างน่าคิดและน่าชื่นชม



“ หนูชอบดาราเกาหลีคนหนึ่งค่ะ ชอบมาก เลยเก็บเงินค่าขนมที่เหลือมาซื้อรูป ซื้อของ ที่เกี่ยวกับเขา เก็บสะสมไว้ หนูรู้มาว่าเขาเป็นคนดีมากเลยค่ะ หนูเลยอยากเป็นเหมือนเขา หนูทำแบบนี้ ผิดหรือเปล่าคะที่คลั่งดารา ”



อาตมามีโอกาสได้ตอบกระทู้นี้ด้วยตัวเอง จึงแนะไปว่า ไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด หากเราชื่นชอบใครสักคน อาจจะเพราะความสวยความหล่อ อาจจะเพราะความสามารถ หรืออาจจะเพราะความดีของเขา ชอบไปเถิด คลั่งไคล้ไปเถิด เป็นไปในทางที่ถูกที่ควร ก็ใช่ว่าเราจะแอบหนีแม่ขึ้นเครื่องบินไปเกาหลี แล้วยืนเฝ้าอยู่หน้าบ้านเขาเสียเมื่อไหร่



แต่ก็มีการคลั่งไคล้ที่นำไปสู่ทางเสื่อม ทางไม่ดีเช่นกัน



อย่างดาราบางคนนุ่งสั้นนุ่งเว้า วัยรุ่นวัยสาวก็เห็นสวยเห็นงาม เลยทำตาม แต่กลับเป็นการแต่งตัวล่อเสือล่อตะเข้ ให้ออกมาคาบเราลงไปกินในน้ำซะเอง



บางคนเลียนแบบดารา เรื่องการมีแฟน เห็นดาราเปลี่ยนแฟนบ่อยจนเป็นเรื่องธรรมดาเหมือนเปลี่ยนถุงเท้า ก็ทำตาม ด้วยการคบคนนั้นที คนนี้ที ไม่ชอบใจก็เปลี่ยนคู่ กลายเป็นเด็กใจแตก เกิดปัญหาติดโรค ตั้งท้อง และทำแท้ง




อาตมาชื่นชมเด็กหญิงที่เข้ามาถามคำถามนี้กับอาตมา ...ชื่นชมที่มีความคิด คิดที่จะเลียนแบบสิ่งดีๆ คิดที่จะชอบและคลั่งไคล้อย่างถูกทาง แม้แต่จะซื้อของที่เกี่ยวกับดาราที่ตัวเองชอบ ยังเก็บเงินซื้อเองเลย แบบนี้จึงเรียกว่าคลั่งไคล้ได้ อย่างไม่บ้าคลั่ง



เช่นเดียวกับวัยรุ่นทุกคนที่ตอนนี้แต่ละคน คงกำลังหาและกำลังมีต้นแบบของตัวเองอยู่ ..ธรรมะเดลิเวอรี่มั่นใจว่า วัยรุ่นสมัยนี้ฉลาด และมีสติที่จะพิจารณาได้ว่า อะไรควรอะไรไม่ควร และสามารถประพฤติตัวเลียนแบบสิ่งดีๆ จากผู้อื่นได้ไม่ยาก



หากใครจะให้อาตมาเป็นพ่อแบบในการทำความดี ก็ไม่ขัดศรัทธานะคุณโยม แค่ทำความดี มีศีลธรรมก็พอแล้ว ไม่ต้องออกมาลาบวชเหมือนอาตมากันหมดก็ได้ ......เจริญพร











ประวัติพระมหาสมปอง


ชื่อ พระมหาสมปอง ฉายา ตาลปุตฺโต นามสกุลเดิม นครไธสง


วันเดือนปีเกิด 3 พ.ย. 2521 อายุ 29 ปี บวชมาแล้ว 16 ปี


ภูมิลำเนา จ.ชัยภูมิ


ที่อยู่ปัจจุบัน วัดสร้อยทอง (พระอารามหลวง) เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ


การศึกษา เปรียญธรรม 7 ประโยค


ปริญญาตรี พุทธศาสตร์บัณฑิต (พธ.บ.) เอกปรัชญา (เกียรตินิยมอันดับ 1) มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.)


ปริญญาโท สังคมสงเคราะห์ศาสตร์มหาบัณฑิต (สส.ม.) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์


ได้รับโล่รางวัล “คนดีศรีแผ่นดิน” ประจำปี 2550









ติดต่อพระมหาสมปอง .... สนง.เลขานุการ ธรรมะเดลิเวอรี่ 1319 วัดสร้อยทอง ถนนประชาราษฎร์ สาย1 แขวง-เขตบางซื่อ กรุงเทพ 10800 โทร. 085 805 4638, 086 535 3721, 086 321 2999, 086 633 9373, 084 419 0021, 084 657 2027 โทรสาร 0 2848 3980 กด 9 E-Mail: pongpong_99@hotmail.com








โดย yyswim




Create Date : 27 กรกฎาคม 2550
Last Update : 28 กรกฎาคม 2550 1:05:14 น. 59 comments
Counter : 10232 Pageviews.

 




ดี.อ่านฉบับย่อมาจากบล็อกคุณอุ้ม
ของคุณสินฉบับยาว
เดี๋ยวค่อยๆอ่านค่ะ
คืนนี้คงนอนไม่หลับอีกนานล่ะ
เพราะนอนไปครึ่งวันแล้ว

ดี.ส่งคุณสินเข้านอนก่อนค่ะ
ฝันดีนะคะคืนนี้

(จากนั้นจะอ่านอย่างเงียบๆประสาดีดีล่ะน๊า)





โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 27 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:06:03 น.  

 
ไปอ่านที่บล้อกพี่อุ้มมาแล้วจ้า
แต่ว่าเปิ้นชอบจริงๆนะ ชอบดูและชอบอ่านหนังสือของท่าน
อ่านแล้วไม่ซีเรียสด้วย แถมได้รับความรู้ด้วยนา

ขอบคุณที่นำมาฝากกันจ้า


โดย: fonrin วันที่: 27 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:26:59 น.  

 
นึกว่าจะได้เข้ามาฟังธรรม จากท่านมหาสมปองเป็นคนแรกซะอีก โดนคุณดีแทรกหน้าไปได้ไงกันเนียะ

Kookkom เคยชมรายการที่ท่านได้รับเชิญมาแสดงธรรมะ สอนนักศึกษา และทำให้เกิดความสะเทือนใจมาก ๆ ถ้าจำไม่ผิดเป็นเรื่องเกี่ยวกับพระคุณแม่คะ

ท่านมีสื่อต่าง ๆ รวมทั้ง update ข้อมูลเพื่อนำไปใช้งานตลอดเวลา ซึ่งทำให้ทันยุค ทันสมัยอย่างมากคะ

เข้านอนอย่าลืมสวดมนต์นะคะ


โดย: the kookkom วันที่: 27 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:30:48 น.  

 
ชอบฟังท่านมหาสมปองเหมือนกันค่ะ ได้ธรรมะ และ สนุกไม่น่าเบื่อ อนุโมทนา ค่ะ


โดย: kai (aitai ) วันที่: 27 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:55:34 น.  

 
เคยดูท่าน ทาง TV หลายครั้ง...
ทำให้ธรรมมะ ไม่น่าเบื่อ เหมาะกัยวัยรุ่นจริงๆ
ยังจำมุข ที่ มีคนเรียกพระ น่ารักๆว่า "คิกขุสังโฆ" ได้เลยครับ


โดย: แร้ไฟ วันที่: 28 กรกฎาคม 2550 เวลา:2:40:11 น.  

 
เข้ามาเพราะคิดว่าพี่ต้องเขียนเกี่ยวกับพุทธศาสนาแน่ๆ
จริงๆ ด้วยสิ อิอิ
ยังไม่เคยฟังท่านเทศน์เลย เพราะผมไม่ค่อยติดต่อกับสื่ออิเลกทรอนิกส์เท่าไหร่ตอนนี้ ออกอาการเบื่อโลกเล็กน้อยน่ะครับ
พรุ่งนี้เป็นวันอาสาฬหบูชา พี่มีแผนจะทำอะไรรึเปล่าครับ
ส่วนผมคงทำตัวดีๆ อยู่กับบ้าน ไปไหนเดินทางปลอดภัยนะครับ


โดย: Mint@da{-"-} วันที่: 28 กรกฎาคม 2550 เวลา:18:34:04 น.  

 


คุณดีครับ…..ฉบับย่อ อ่านสบายกว่า ผมเข้าไปอ่านมาแล้ว

ใจตรงกันเลยครับ พอผมโพสต์ คุณดีเข้ามาเมนต์ฉับพลัน

เออ แต่จริงๆน่ะผมแพ้ เพราะผมเข้ามาแก้ไขบางอย่างในบล๊อกของตัวเองอีกรอบ


คุณเปิ้ล.....ผมคงอยู่แถวโรงพยาบาลครับ สบายดีนะครับไม่มีอะไร แค่ไปเยี่ยมหลานที่ลืมตาดูโลก ..ขอขอบคุณคุณเปิ้ลที่เข้ามาช่วยแจ้งว่าคุณอุ้มสีอัพบล๊อกดีๆ


น้องกุ๊กก๋อม......เพลงของมาราย แครี่ ที่บล๊อกของน้องกุ๊กก๋อม เพราะมากๆ

ขอบคุณที่จะเข้ามาช่วยเมนต์ให้ได้ลำดับต้นๆ ขอบคุณครับ


คุณไก่.....ขอบคุณครับที่แวะมาเยี่ยม มูลี่ มู่หลาน เป็นไงบ้าง


แร้......อุอุ “คิกขุสังโฆ” เพิ่งจะได้ยินฉายาของพระคุณเจ้า ฟังแล้วดูดีนะ...


มิ้นท์......โป๊ะเช๊ะ เฉพาะวันพระใหญ่งวดนี้นา มิ้นท์

ปกติพี่ จะไม่ค่อยอัพบล๊อกเรื่องธรรมะบ่อยนักหรอก เพราะบุคลิกนิสัย ยังห่างไกลผ้าเหลือง โข





โดย: yyswim วันที่: 28 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:08:53 น.  

 
วันหลังก็อย่าลืมเอาภาพหลานน่ารักๆมาฝากกันมั่งนะจ๊ะ

ยินดีด้วยจ้า แล้วเป็นคุณลุง คุณน้า คุณอา หรือคุณตาจ๊ะ อิอิemo


โดย: เปิ้น ฝนริน ไม่ได้ล้อกอินนะจ๊ะคุณสิน... IP: 61.19.65.98 วันที่: 28 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:28:24 น.  

 



แอบยิ้มเลยดี.
กำลังนึกว่าเดี๋ยวจะเข้าบล็อกคุณสิน
คุณสินก็แว๊บบบบมาที่บล็อกดี.
กำลังอัพบล็อกอยู่ค่ะ
อีกเดี๋ยวคงได้ดู
บล็อกนี้ดี.ขอเชิญน๊า
รีบอัพ เพราะต้องทำภาระกิจรับใช้ตัวเอง
เดี๋ยวจะไม่มีเวลาอีกหลายวันค่ะ





โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 28 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:52:12 น.  

 
ท่านเป็นพระดีที่น่าศรัทธามากครับ
ผมเคยฟังท่านอบรม หัวเราะตั้งแต่ต้นจนจบ

หยุดหลายวัน พี่สินไม่ไปไหนหรือครับ


โดย: basbas วันที่: 29 กรกฎาคม 2550 เวลา:1:01:59 น.  

 
สมัยผมก็ต้องพระพยอม เคยมาเทศน์ที่โรงเรียนก็ได้รับความนิยม เพราะเทศน์ทันสมัย สนุก ฟังเพลินแล้วยังได้ข้อคิด ดีใจที่สมัยนี้ก็มีพระรุ่นใหม่ที่คิดดี ทำดีอย่างนี้
พี่สินครับ อาจารย์บอกว่าจะไปจิ่วจ้ายโกวกันประมาณช่วง17-31ต.ค. (7วัน) ให้พวกเรามาเลือกวันกันที่สะดวก ตอนนี้เพื่อนๆพยายามเคลียร์เวรกัน ไว้ได้กำหนดวันแน่ๆแล้วจะบอกพี่สินอีกทีนะครับ


โดย: coming soon (The Yearling ) วันที่: 29 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:25:08 น.  

 
วันนี้มานั่งอ่านาจนจบเลยค่ะคุณสิน
ไว้จะไปหาหนังสือมาอ่านอีก ชอบจังเลยค่ะ
อ่านแล้วรู้สึกดีจริงๆ

มีความสุขในวันหยุดวันที่สองนะคะ


โดย: fonrin วันที่: 29 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:00:34 น.  

 
วันนี้ได้ไปทำบุณรึป่าวคะ เราก็พึ่งกลับจากวัดค่ะ ไม่ไปไกลแถวๆบ้านนี่แหละ พรุ่งนี้ก็จะไปอยุธยาไหว้พระค่ะ


โดย: kai (aitai ) วันที่: 29 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:50:38 น.  

 
มาชวนไปดู ภาพรวมนกเหยี่ยว แต่ไม่ใช่ฝีมือของแห้ว นะคะ


โดย: นกแห้ว วันที่: 29 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:27:16 น.  

 
เคยฟังท่านเหมือนกัน
เทศน์สนุก น่าฟัง แทรกสาระ
เหมือนกินยาเคลือบชอคโกแลต
อร่อยแบบได้ประโยชน์

ขอบคุณข้อมูลดีๆที่ จขบ. ค้นคว้ามาแบ่งปัน


โดย: JD IP: 125.24.68.184 วันที่: 29 กรกฎาคม 2550 เวลา:13:45:27 น.  

 

ห่างหายไปหลายวันใช่หัวใจนั้นไร้ห่วง
ยังคิดและคนึงเฝ้าระลึกถึงเสมอ
ว่าวันนี้เป็นวันดีที่มีจันทร์ส่องสว่าง
ว่าวันนี้เป็นวันดีที่มีธรรมนำทางสุข

ในวันเพ็ญ (ขึ้น ๑๕ ค่ำ) เดือน ๘ ดวงจันทร์ เสวยอาสาฬหฤกษ์
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อนพุทธศักราช ๔๕ ปี
ตรงวันอาสาฬหบูชา เป็นวันที่สมเด็จพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าได้แสดง พระปฐมเทศนา หรือการแสดง พระธรรมครั้งแรก พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์

ได้ทรงแสดงแก่ปัญจวัคคีย์ ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน แขวงเมืองพาราณสี ปัจจุบันคือสารนาถ เมืองพาราณสี พระธรรมที่แสดงคือ ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร เมื่อเทศนาจบ พระโกณฑัญญะ หนึ่งในปัญจวัคคีย์ ผู้ประกอบด้วย พระโกณฑัญญะ พระวัปปะ พระภัททิยะ พระมหานาม และพระอัสสชิ ก็ได้ดวงตาเห็นธรรม มีความเห็นแจ้งชัดว่า

ยํ กิญฺจิ สมุทยธมฺมํ สพฺพนฺตํ นิโรธธมฺมนฺติ
สิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งใดสิ่งนั้นย่อมดับไปเป็นธรรมดา

พรรษานี้ด้วยดวงจิตดังใจคิด..ที่กระทำ
ได้นำเทียนแสงสว่างมุ่งสู่ทางแห่งแสงธรรม
มิลืมเลือนแผ่บุญสู่กัลยาณมิตรที่ระลึกถึงเสมอ
อนุโมทนาบุญ..เช่นเคย..ที่มิเคยลืมค่ะ




วันนี้มีใจระลึกถึงมิตรแสนดี
ในวันบุญในวันหยุดที่มีสุขอยากมอบให้
ขอให้มีความสุขมากๆๆนะค่ะ



โดย: catt.&.cattleya (catt.&.cattleya.. ) วันที่: 29 กรกฎาคม 2550 เวลา:21:24:35 น.  

 
เอียสิน

พระมหาสมปองท่านเก่งมาก ที่ทำให้ธรรมมะน่าสนใจกับทุกวัยได้

ความรู้ท่านมากและมีความสามารถในการเทศน์แนวใหม่ดีค่ะ

ได้เปรียญเจ็ดก็เก่งมากแล้วค่ะ พร้อมปริญญาโทอีกด้วย

แต่ที่สำคัญคือทำให้คนสนใจศาสนาและทำดีเพิ่มขึ้น


โดย: law of nature วันที่: 29 กรกฎาคม 2550 เวลา:22:04:22 น.  

 
หวัดดีคับ
เพิ่งจะเข้ามาอ่าน blog นี้เป็นครั้งแรก หลงเข้ามาโดยบังเอิญคับ หุหุ
เรื่องราวหลายๆเรื่องน่าสนใจดีคับ แต่แต่ละเรื่องยาวมากมาย ยิ่งผมเป็นประเภทอ่านอะไรยาวๆไม่ค่อยได้ซะด้วย กลับนั่งอ่านได้เรื่อยๆแฮะ แปลกดีเหมือนกัน

ขอนุญาตมาอ่านเรื่องอื่นๆใหม่ในวันต่อๆไปด้วยนะครับ วันนี้รู้สึกเศร้าๆ เซ็งๆ ขอตัวไปนอนให้หายเศร้า หายเซ็ง ก่อนดีกว่าคับ


โดย: HappyTime IP: 124.121.25.144 วันที่: 29 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:15:50 น.  

 
ชื่นชมท่านเหมือนกันคับผม


โดย: Kurt Narris วันที่: 29 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:38:19 น.  

 
ผมมาอ่านเรื่องของท่านต่อครับ
สนุกและน่าติดตามตลอด

พี่สินไปเวียนเทียนไหมครับ
ผมเวียนที่บ้าน หุ หุ


โดย: basbas วันที่: 30 กรกฎาคม 2550 เวลา:1:25:12 น.  

 
เคยฟังท่านตามสื่อบ้างเหมือนกันค่ะ
แต่คุณจขบ .รวบรวมผลงานท่านอย่างละเอียดขนาดนี้
เยี่ยมเลยค่ะemo


โดย: mrs.postman วันที่: 30 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:49:08 น.  

 
ชื่นชม และชื่นชอบครับ อยากให้มีอย่างนี้เยอะๆ


โดย: Pichsud วันที่: 30 กรกฎาคม 2550 เวลา:15:01:12 น.  

 



มีหลานชายครับ เพิ่งคลอดเมื่อ 26 กรกฎาคม 2550

ชื่อที่เรียกกันเล่นๆ คือ Kevin ชื่อจริงๆคุณแม่เขาตั้งชื่อว่า ..... "พริษฐ์"

เห็นคุณเปิ้ล กระซิบมาว่า..ขอดูรูปหน่อย









โดย: yyswim วันที่: 30 กรกฎาคม 2550 เวลา:18:50:28 น.  

 



หลานคุณสินหน้าเหมือนน้องดี.ตอนเด็กเลยค่ะ
ใส่หมวก ห่อผ้า เหมือนกันเลย
ดี.ว่าดี.ตอนเด็กก็คงเหมือนอย่างนี้เนอะ
เด็กเหมือนกันหมดเลย

ชอบชื่อจังค่ะ"พริษฐ์"

น้องดี. ชื่อ "ภาพงาม" กับ "ภาพพิมพ์"
เวลาใครถามชื่อน้อง
พวกดี.จะชอบตอบ
เพราะชื่อไม่ซ้ำใคร
ชื่อหลานคุณสิน ทั้งอ่าน ทั้งเขียนดูเท่
ดี.เดาว่าคุณสินก็คงอยากตอบเวลาถูกถามว่าหลานชื่ออะไร

.............................


เรื่อง 2 เรื่องที่ดี.เขียนไว้ในบล็อก
ดี.ว่าคุณสินยังไม่ได้อ่าน
เป็นเรื่องธรรมดาๆค่ะ
แต่อยากเล่าตอนต่อ

ดี.ชอบเขียนอะไรตามอารมณ์ ณ ขณะนั้น
เลยไม่ค่อยปะติดปะต่อ

สงสัยว่าอีกนานกว่าคุณสินจะได้อ่าน
222 comment ไม่ง่ายน๊า
ถ้าคุณสินไม่ไปเป็นหน้าม้าให้น่ะ อิอิ


(ล้อเล่นค่ะ...เดี๋ยวสอบเสร็จก่อนจะอัพบล็อกล่ะน๊า)





โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 30 กรกฎาคม 2550 เวลา:21:11:40 น.  

 
ใช่ค่ะ อาจารย์ เชื่อว่า "แค่พลิกความคิด ชีวิตก็เปลี่ยน"

แล้ว ธรรมะ ก็คือ ธรรมชาติ ขอให้แค่เราอยู่กับมัน เราก็มีความสุข


โดย: พีช IP: 58.8.166.30 วันที่: 31 กรกฎาคม 2550 เวลา:15:00:39 น.  

 
พระท่านนี้ แรกเริ่มเดิมที่ไม่รู้จักเลยครับ
ผมพึ่งมารู้จักเมื่อ 2-3 เดือนก่อนหน้านี้เอง
คงจะเป็นเพราะผมไม่ค่อยชอบดู TV ด้วย
จนเมื่อ 2-3 เดือนก่อน ผมได้ซื้อวิทยุแบบตั้ง
ปิด-เปิด เวลามาเพื่อปลุกตอนเช้า
พอถึงเวลา วิทยุมันก็เปิดโดยอัตโนมัติ
บังเอิญว่าวันนั้นไปตั้งเอาคลื่นวิทยุชุมชนที่พัทยาคลื่นหนึ่ง
ทุกตีห้า เค้าจะเอาเทปของพระรูปนี้แหละมาเปิดออกอากาศ
ผมก็เลยได้ฟังทุกเช้า ตีห้าฟังพระเทศน์
พอตีห้าครึ่งก็ฟังเสียงไอ้นุ้ยเห่าเรียก

ตอนนั้น เท่าที่ฟังดูแล้ว ผมยังงงอยู่เลยว่า พระท่านนี้รอบรู้ในเรื่องทางโลก(ของวัยรุ่น)มาก
ไม่งั้นคงไม่สะกดเหล่าวัยรุ่นให้มาสนใจที่ท่านเทศน์ไม่ได้มากขนาดนี้
สำหรับผมแล้วผมถือว่าเป็นเรื่องดี ที่ท่านสามารถจับเอาสิ่งต่างๆในยุคนี้มาดัดแปลงเข้ากับคำสอน

แบบนี้ซิที่เค้าชอบพูดกันว่า มีกึ๋น!
ดีกว่าพระที่จะมาเข้าคิวประท้วง...


โดย: merf1970 วันที่: 31 กรกฎาคม 2550 เวลา:16:08:44 น.  

 
ชอบฟังธรรมะของท่านมากค่ะ กำลังหาซื้อแผ่นอยู่ค่ะ

เจนนี่แวะมาทักทายค่ะ ขอบคุณมากน่ะคะ ที่แวะไปเที่ยวกับเจนนี่ ไว้โอกาสหน้าจะพาเที่ยวอีกน่ะคะ แล้วจะแวะมาส่งข่าวจ้า วันนี้แค่แวะมาเยี่ยม เพราะความคิดถึงจ้า ฮิฮิ คิดถึงเจนนี่ก็แวะมาทักทายกันได้ที่ครอบครัวหมีแพนด้าของพวกเราได้ตลอดเวลาน่ะคะ ที่ห้องแชทค่ะ //www.pandagroup.pantown.com



โดย: สาวอิตาลี วันที่: 31 กรกฎาคม 2550 เวลา:17:48:02 น.  

 
อ่านมาเรื่อยๆ แม้กระทั่งคอมเม้นท์

แหม เจ้าหนู Kevin มีแววหล่อตั้งแต่ยังเล็กๆเลยนะคะ

..

ไม่ทราบว่าตัวเองไปอยู่ไหน รู้สึกว่าจะไม่เคยดูหรือฟังพระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต เทศน์ที่ไหนเลยค่ะ


โดย: random-4 วันที่: 1 สิงหาคม 2550 เวลา:11:05:55 น.  

 
ชอบฟังพระสมปองเหมือนกันครับ สนุกดี นึกถึงพระพยอมเมื่อสักสิบกว่ายี่สิบปีที่แล้วเลย

หวังว่าท่านจะรักษาความสม่ำเสมอในการเอาธรรมะแทรกซึมเข้าไปในสังคมอย่างนี้ได้ตลอดไปนะครับ ที่ผมกลัวก็คือ พอกระแสท่านมาแรงแบบนี้ เกิดท่านรับงานเกินตัว (ด้วยความหวังดีที่อยากจะเผยแผ่ศาสนาให้ได้มากๆ) เดี่ยวคุณภาพงานมันจะตกเอา

(คล้ายๆ กระแสคุณปลื้มที่มาแรงเหลือเกิน ถ้าไม่ระวังก็จะเจ็บตัวเอาได้ง่ายๆ )

ผมชื่นชมที่พระสมปองนำเอารายได้ไปให้ที่วัดพระบาทน้ำพุด้วย งบของทางการไปไม่ถึงก็อย่างนี้แหละครับ พระก็เลยต้องช่วยเหลือพระด้วยกันเอง ไม่งั้นโครงการดีๆ ของวัดพระบาทน้ำพุก็อาจจะต้องหายไป


โดย: คนทับแก้ว วันที่: 1 สิงหาคม 2550 เวลา:13:31:14 น.  

 
ก่อนอื่นต้องขอบคุณ คุณดี. นะคะที่ไปเป็นพลายกระซิบบอกว่าคุณสินเอารูปหลานมาโชว์แล้วอิอิ
รีบตามคุณดีมาทันใดเลยจ้าคุณสิน

น้องเควิน น่าชังมากๆเลยค่ะ แต่ว่าเปิ้นชอบชื่อจริงจังเลย
"พริษฐ์" ชื่อเพราะดีจัง แล้วแปลว่าอะไรคะคุณสิน....


โดย: fonrin วันที่: 1 สิงหาคม 2550 เวลา:17:38:25 น.  

 

คุณเปิ้น.....ผมนำภาพของเด็กชายเควิ่นมาฝาก เดี๋ยวจะไปกระซิบบอกเควินนะครับว่า ...พี่เปิ้นอยากเห็น


คุณดี.....ช่วงวันหยุด 4 วัน ผมไม่ว่างไปเยี่ยมใครครับ เข้าบล๊อกตัวเองได้ก็แค่แว๊บๆ แล้วก็ออกไปอีกครับ ผมขออภัยด้วย

ชื่อชั้นของคุณดีสักอย่าง สอบอะไร ก็ได้ท๊อปครับ เขียนอะไรก็ดีซะหมดครับ เดี๋ยวตามไปอ่านน๊ะ


น้องบาส.....หยุด4วัน พี่อยู่กะหลานที่เพิ่งคลอดครับ ก็รับคุณแม่และพี่สาวไปเยี่ยมหลานตลอดเลย ไม่ได้ไปวัดทำบุญที่ไหนหรอก แต่ก็ทำดีและจิตใจผ่องใสเหมือนไปทำบุญ ทั้ง4วัน




โดย: yyswim วันที่: 1 สิงหาคม 2550 เวลา:19:08:27 น.  

 

สุ่น.....ขอบคุณที่ช่วยส่งข่าวเรื่องจิ่วจ้ายโกว ช่วงนั้น ผมยังไม่ได้รับงานบรรยาย ก็ถือว่าช่วงนั้น ยังว่างอยู่ครับ (หมายเหตุ แล้วผมจะจับคู่พักกะใครล่ะ สุ่น)


คุณKai ….ผมขอร่วมอนุโมทนาบุญด้วยครับ ผมไม่ได้ไปวัดที่ไหนหรอกครับ อยู่กับคุณแม่และพี่สาวตลอด


คุณแห้ว.....ภาพนกเหยี่ยวเหรอ ของเมืองไทยหรือเมืองนอก เดี๋ยวพอเสร็จตอบคอมเมนต์ แล้วจะไปเยี่ยมครับ




โดย: yyswim วันที่: 1 สิงหาคม 2550 เวลา:19:11:50 น.  

 


ขอบคุณ เจ๊......ที่กรุณามาเยี่ยม เรื่องนี้ยาวเหมือนกับเรื่องที่แล้วๆอีกแล้วครับ


คุณแคท......ขอบคุณครับที่เข้ามาเผื่อแผ่บุญเสมอๆ


คุณเน.....อยู่ถึงเมืองไกล ทราบทุกเรื่องจากเมืองไทยเลย ...น่ายกย่องครับคุณเน


HappyTime……ขอบคุณครับ ที่แวะเข้ามาเยี่ยมและบอกว่าจะอ่านเรื่องอื่นๆด้วย

หากจะมีอะไรแนะนำ ก็เชิญนะครับ





โดย: yyswim วันที่: 1 สิงหาคม 2550 เวลา:19:19:22 น.  

 


คุณเกิด.....ผมก็ชื่นชมท่าน ขอบคุณนะครับที่เข้ามาอ่าน


น้องบาส.....ขอบคุณนะที่เข้ามาอีกรอบ


คุณ mrs.postman.......ขอบคุณครับที่กรุณาให้กำลังใจ


Pichsud.....นกแห้ว เธอมาชวนให้ไปดูนกเหยี่ยว …Pichsud นายไปดูมาหรือยัง?




โดย: yyswim วันที่: 1 สิงหาคม 2550 เวลา:19:31:31 น.  

 


คุณดี......ขยันนะครับ อัพบล๊อกบ่อยๆ แสดงว่ามีฝีมือสูง…เดี๋ยวจะรีบเหาะไปเยี่ยมครับ

หลายชายเควิ่น มีอาการตัวเหลืองครับ ตอนนี้ก็เลยนำส่ง BNH แถวสาธรครับ หมอดูอาการอย่างใกล้ชิดอยู่ อาจจะเป็นด้วยสาเหตุ ไม่ขับถ่ายก็ได้ครับ


น้องพีช......ขอบคุณครับที่เข้ามาเยี่ยม

ธรรมะเป็นเรื่องของธรรมชาติ ช่ายเลย ....ธรรมะบอกว่า ทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลง อย่ายึดมั่นถือมั่น


นิ๊ง…..ท่านเป็นพระดี น่ายกย่องครับ ผมเองได้ร่วมซื้อทั้งวีซีดี และหนังสือของท่าน และท่านยังเต็มใจเขียนลายมือของท่านมาให้ทุกชิ้นเลยครับ




โดย: yyswim วันที่: 1 สิงหาคม 2550 เวลา:19:35:14 น.  

 


คุณเจนนี่......ขอบคุณคุณเจนนี่ที่เข้ามาเยี่ยมครับ


คุณสุ่ม......พระมหาสมปอง คงยังไม่เคยไปแม่สอด มั๊ง อิอิ

ผมว่าท่านออกทีวีบ่อยนะ ที่กระทรวงผม ท่านมาแสดงธรรมะ คนฟังล้นหลามครับคุณสุ่ม


คนทับแก้ว......เมื่อวันก่อน ผมกับพี่สาวก็ไปที่สวนลุมไนท์บาร์ซ่า ไปเพื่อทำบุญซื้อระฆังถวายวัดพระบาทน้ำพุ ของพระอลงกต ครับ

พระอลงกต เป็นพระที่น่าชมเชยยกย่องเช่นเดียวกับพระพยอมและพระอีกหลายรูป

เสียดายที่พระบางรูป ทำแต่ปลุกเหรียญจตุคาม


คุณเปิ้น......ขอขอบคุณคุณเปิ้น และชิ่งไปขอบคุณคุณดี

หลานเควิ่น ที่ชื่อ พริษฐ์ แปลว่า ประเสริฐสุด

ชื่อนี้ คุณยาย เป็นคนตั้งให้ครับ ที่จริงคุณยายตั้งไว้หลายสิบชื่อครับ ผมเองก็ช่วยตั้งให้ 4 ชื่อ แล้วคุณแม่ของหลานเควิ่น ก็ชอบชื่อ พริษฐ์ ที่สุด

ส่วนชื่อ เควิ่น นั้นคุณแม่ตั้งเอง ตั้งร่วมกะคุณพ่อ





โดย: yyswim วันที่: 1 สิงหาคม 2550 เวลา:20:04:14 น.  

 
ชอบพระมหาสมปองมากค่ะ ตอนแรกที่มาบรรยายที่มหาวิทยาลัย เห็นหน้าก็แบบเซ็งเลยเบื่อที่ต้องมานั่งฟังธรรมมะ แต่พอนั่งฟังไดแป๊บเดียวแหละ ไม่อยากออกจากห้องประชุมเลย จากธรรมมะนึกว่ามาคาเฟ่ แต่เป็นคาเฟ่ที่มีแต่สาระนะคะ อยากบอกว่าพระสมปองทำให้ธรรมมะเข้าใกล้ได้ง่ายขึ้น ขอบคุณค่ะ


โดย: เม IP: 210.246.178.51 วันที่: 9 สิงหาคม 2550 เวลา:11:16:46 น.  

 
ค่อย โล่งอกหน่อย ที่มี พระที่ดี เหลืออยู่ในไทย










































โดย: ลิงลพบุรี IP: 61.7.160.91 วันที่: 20 สิงหาคม 2550 เวลา:17:53:26 น.  

 
หนูอยากได้ cd ธรรมะเดลิเวอรี่ แต่ทาง บ้าน ของหนู ไม่ มี เงินที่จะ ชื่อ คะ หนู เลย อยยากให้ น่า จะ มี การแก บาง จัง เลยคะ หนูและ ทางบ้าน อยาก ได้มากเลยคะ หนุจะ รอ คำ ตอบคะsrc=https://www.bloggang.com/emo/emo17.gif>


โดย: สุดารัตน์ IP: 61.7.179.133 วันที่: 9 ตุลาคม 2550 เวลา:13:15:13 น.  

 
ตัวอาตมาต้องจำวัด บางคนบอกว่าอาตมาบวชมาหลายปีเเล้วยังจำวัดไม่ได้อีก


โดย: พระมหาสมปอง ตาลปุโต IP: 222.123.145.71 วันที่: 5 มกราคม 2551 เวลา:18:37:58 น.  

 
มีบางความคิดเห็นที่แอบอ้าง...อย่าลงชื่อโดยพระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต เพราะแค่ชื่อก็พิมพ์ไม่ถูกน่ะความเห็นที่ 40


โดย: แฟนคลับธรรมะเดลิเวอรี่ IP: 124.121.3.107 วันที่: 18 มกราคม 2551 เวลา:10:45:17 น.  

 


บอกกับตัวเอง จะไม่ร้องไห้
บอกกับหัวใจ ว่าเธอไปดี
เพื่อชีวิตของเธอ ที่ดีกว่าวันนี้
อย่างน้อยก็ควรยินดี ใช่ไหม

* ไม่เห็นจะมีอะไรต้องกังวล
ไม่เห็นจะมีเหตุผลต้องเสียใจ
แต่พอเธอเดินเข้ามา
วางมือบนบ่า น้ำตาก็ไหล
มันเหงาเสียจนหัวใจสะท้าน

** ต่อจากนี้จะไม่เจอกันแล้ว
ไม่มีแล้ววันที่ดีอย่างเมื่อวาน
ไม่มีมือคู่นี้ที่เคยกุมมือกัน
ไม่มีวันที่เรานั้นจะเหมือนเดิม

บอกกับตัวเอง ว่าเราฝันไป
บอกกับหัวใจ เขาไม่ใช่ของเรา
แค่หลับฝันชั่วคืน พอตื่นก็คืนเขา
ก็รู้ก็พอเข้าใจใช่ไหม

( * / ** )

( ** )

ไม่มีวันที่ชีวิตฉัน...จะเหมือนเดิม


วันนี้หนูเข้ามาหาข้อมูลพระนักพูด

ท่านพูดได้เก่งมากๆเลยค่ะ


โดย: nook_1322@sanook.com IP: 61.7.190.166 วันที่: 22 มกราคม 2551 เวลา:13:38:35 น.  

 
ชอบฟังพระอาจารย์มากกว่าฟังนักร้องเกาหลีอีก เป็นครั้งแรกที่เข้ามาเว็บธรรมอย่างนี้


โดย: ปิ่น IP: 125.27.182.144 วันที่: 23 มกราคม 2551 เวลา:9:41:04 น.  

 
หนังสือของท่านคิดว่าเป็นธรรมะที่แปลงใหม่มากคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบบ


โดย: มหาเฮง IP: 117.47.14.132 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:08:48 น.  

 
ท่านเป็นพระที่ดีดีใจมากที่ประเทศไทยมีพระดีขนาดนี้


โดย: ซาหริ่ม IP: 118.173.250.181 วันที่: 3 มีนาคม 2551 เวลา:16:25:05 น.  

 
ชอบรายการธรรมะเดลิเวอร์ลี่โดยพระมหาสมปองมาก
และภูมิใจสุดซึ้งที่พระอาจารย์เป็นคนภาคอีสาน


โดย: DJ อานนท์ อานันต์ อุดรธานี IP: 125.26.166.191 วันที่: 8 พฤษภาคม 2551 เวลา:13:28:22 น.  

 


โดย: ปูน IP: 124.121.224.36 วันที่: 27 พฤษภาคม 2551 เวลา:18:21:00 น.  

 
สวัสดีค่ะนี้คือการพบกันครั้งแรกของเราไม่มีคฎพูดมากแค่อยากจะบอกว่าเมื่อวานวันพระค่ะ


โดย: หนิง เชียงราย IP: 124.157.236.75 วันที่: 19 มิถุนายน 2551 เวลา:15:03:58 น.  

 
ชอบธรรมะเดลิเวอร์ลี่ทั้งสนุกและมีข้อคิดต่าง ๆ


โดย: จอย IP: 117.47.236.120 วันที่: 23 กันยายน 2551 เวลา:10:51:32 น.  

 
ถ้าอยากจะนิมนพระมหาสมปองมาบรรยายค่าใช่จ่ายเท่าไรค่ะ


โดย: น้องพลอย IP: 203.151.46.130 วันที่: 1 ธันวาคม 2551 เวลา:13:38:44 น.  

 
แล้วปีหน้าคิวว่างไหมค่ะ


โดย: น้องพลอย IP: 203.151.46.130 วันที่: 1 ธันวาคม 2551 เวลา:13:40:48 น.  

 
ก็งั้นๆ ฟังแล้วสนุก น้ำแยอะหาสระไม่ค่อยมี เอาสนุกอย่างเดียว เล่นซะมากกว่า เนิ้อหาสระน้อยไป มุขก้อเอาของคนอื่นมาใช้ บทบรรยายก็เอาของคนอื่นมาก สาธุ...


โดย: นโม IP: 119.31.31.229 วันที่: 14 กรกฎาคม 2552 เวลา:20:05:19 น.  

 
หนูอยากทราบความหมาย"ไตรลักษณ์"ในแนวคิดของพระอาจารย์ค่ะหนูจะรอคำตอบค่ะ


โดย: สุพรรณี IP: 58.9.184.177 วันที่: 30 พฤศจิกายน 2552 เวลา:13:25:03 น.  

 
ขอให้พระอาจารย์มีกำลังกายและกำลังใจในการแสดงธรรม ที่แสนสุขให้คนไทยได้สนุกต่อไปเรื่อยๆนะคะถ้าจำไม่ผิดเคยมีโอกาสได้ฟังพระอาจารย์ มหาสมปองเทศน์ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎนครปฐมวัยปัจฉิมนิเทศ ยังจำได้ค่ะเพราะเป็นธรรมมะที่ไม่ง่างแต่สนุก จำขึ้นใจเลยค่ะ


โดย: นู๋ปาล์มมี่ IP: 192.168.10.40, 119.42.102.139 วันที่: 5 มกราคม 2553 เวลา:22:59:42 น.  

 
นมัสการพระมหาสมปอง
ดิฉัน มีความประสงค์จะขอเรียนปรึกษาท่านพระอาจารย์ ดิฉันปฎิบัติงานในหน่วยงานมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น และมีนโยบายจะจัดสัมมนาในหัวข้อเกี่ยวกับบุคลากรในหน่วยงานในมีการพัฒนางานในหน้าที่โดยให้มีความพร้อมทั้งความคิดสติปัญญาและสอดแทรกธรรมะด้วย เพราะว่าในหน่วยงานมีจำนวนบุคลากรที่หลากหลาย ท้งเด็กรุ่นใหม่ที่บางครั้งก็ไม่มีความเคารพยำเกรงผู้อาวุโสกว่า จึงอยากจะจัดสัมมนาในหัวข้อ การปฎิบัติอย่างไรให้มีความสุขหรือหัวข้อที่ท่านคิดว่าน่าจะพัฒนาให้เด็กรุ่นใหม่ ดิฉันฝาก E-mail ไว้ด้วยค่ะ Theesarin@hotmail.com ขอนมันสการมาด้วยความเคารพ


โดย: อุบล ท้าวสูงเนิน IP: 192.168.18.159, 203.158.197.10 วันที่: 12 มีนาคม 2553 เวลา:10:34:42 น.  

 
อยากให้เจ้าของความคิดที่ 52 มองโลกด้านบวกให้เป็น แล้วท่านจะมีความสุขความเจริญ นะจ๊ะ


โดย: ชาวพุทธ IP: 172.16.0.186, 122.154.129.229 วันที่: 4 พฤษภาคม 2553 เวลา:10:46:18 น.  

 
นมัสการพระคุณเจ้า ผมเป็นครูโรงเรียนสวรรค์อนันต์วิทยา มีความประสงค์ที่จะนิมนต์ท่านบรรยายธรรมให้ครูและนักเรียนฟัง ต้องการติดต่อท่านจะทำอย่างไร ขอนมัสการ
master_sawananan@hotmail.com
0864402801 หรือ 0818865302


โดย: สำราญ สีแก้ว IP: 118.172.217.195 วันที่: 12 พฤษภาคม 2553 เวลา:15:33:31 น.  

 
ชอบธรรมะของท่านมากค่าฟังแล้วมีความสุข0ไม่เครียดและนำปัยชั้ยดั้ยจริงค่ะ


โดย: ยุ้ย IP: 61.7.231.126 วันที่: 29 มิถุนายน 2553 เวลา:15:16:51 น.  

 
อยากถามท่านมหาสมปองว่า ถ้าเราเอาธูป ปักหน้าพระพุทธแล้วไม่จุดเวลาไหว้พระ เพราะหนูอยู่ห้องพัก ไม่สามารถจุดธูปได้ เปงไรมั้ยค่ะ


โดย: โบว์ IP: 115.87.119.242 วันที่: 6 มกราคม 2554 เวลา:0:19:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

yyswim
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]





บล็อกสรรสาระนี้ จขบ.ไม่ได้เขียน-ไม่ได้ถ่ายภาพ-ไม่ได้อัพโหลดคลิปเอง หากแต่ทำหน้าที่เป็นบรรณาธิการบล็อก เสาะหาเรื่องดีๆ รูปสวยๆ คลิปแปลกๆ มาไว้ในบล็อก


ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยม ขอเชิญชมหรืออ่านตามสบาย ไม่ต้องคอมเมนต์ก็ได้ จขบ.ชอบการเข้ามาเยี่ยม แบบกันเอง ง่ายๆ สบายๆ




เริ่มเขียนBlog เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2548


เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ.2550 เวลา 23.30 น.


เริ่มนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชม




Latest Blogs

New Comments
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
27 กรกฏาคม 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add yyswim's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.