เรื่องหน้าแตก




เรื่องหน้าแตก






พวกHome VDOนี่ หากเราดูเรื่องหน้าแตกของคนอื่น เรามักจะหัวเราะขำขัน แต่ถ้าHome VDO เรื่องนั้น เป็นเรื่องของตัวเราเองหรือเป็นเรื่องของคนที่เรารัก ตอนนั้นเราจะรู้สึกอับอาย และมักจะรู้สึกสงสารเห็นใจคนที่เรารัก ดีไม่ดีเราอาจจะโกรธคนที่กำลังหัวเราะขำขันเราตอนนั้นก็ได้


แต่เมื่อเหตุการณ์เหล่านั้นผ่านพ้นไปนาน เมื่อความบาดเจ็บและความอับอายหายไป ถึงตอนนี้เรื่องนั้นๆก็มักจะกลายเป็นเรื่องขำขัน เล่าสู่กันฟังได้




ต่อจากนี้เป็นการรวบรวมเรื่องหน้าแตกจากที่ต่างๆ ซึ่งเขียนขึ้นหรือบอกขึ้นโดยเจ้าตัวเขาเอง




1. คนหน้าแตก

สมัยเด็กผมมักจะโดนเพื่อนๆหลอกเป็นประจำ มีอยู่วันหนึ่งครูบอกจะจัดงานเลี้ยงให้พวกเรา....เจ้าเพื่อนๆตัวดีก็รีบโทร.บอกผมเลยว่า แต่งตัวไปบ้านครูยังไงก็ได้ เอาเลย ผมก็...โก้ไปเลย อิ อิปรากฏว่า วันนั้นเพื่อนๆทุกคนมันแต่งชุดนักเรียนกันหมด หน้าแตกเพล้งเลย…..


2. เด็กบ้านนอก

เคยหน้าแตกหลายครั้งง่ะ เอาครั้งหนึ่งอ่ะที่อายมากๆ ตอนนั้นมา กทม. ใหม่ๆ ก้อแบบว่าขึ้นรถเมล์ไม่ค่อยเก่งง่ะ ว่าขึ้นฝั่งไหนอะไรงี้ อ่ะ ตอนนั้นจำได้ว่าไปรอขึ้นรถที่ สี่แยกบางนา สายไรว๊าาา ถ้าจำไม่ผิดอ่ะ สาย 38 ก้อ พอเจอรถ ช่ายม๊ะ ก้อกระโดดขึ้นปั๊บ ตอนนั้นรถมันติดอยู่ง่ะ คนในรถ มันก็มองๆ กระเป๋ามันก้อมองๆ แต่ไม่เดินมาเก็บตังง่ะ เราก็ งง อ่ะ ว่าทำไม ที่ไหนได้ง่ะ พอรถแล่นต่อไปอีกไม่กี่เมตร มันก้อบอกว่า สุดสายละครับ เหอๆ อายเค้าอิ๊บอ๋าย คนมองทั้งรถ มียิ้มๆ แบบ เยาะเย้ยด้วย ฮือๆ ๆ ๆ ๆ………


3. Boontha

เรื่องของเรื่องมีว่า ผมไม่เคยเข้ากรุงเทพตั้งแต่เกิดก็ว่าได้ครับ และแล้วก็ได้มีโอกาสได้เข้ามาครับ มาหางานทำช่วงปิดเทอมครับ แต่บังเอิญหางานทำไม่ได้ครับ เพราะอายุยังไม่ถึง 18 ครับ จำเป็นต้องกลับบ้านครับ พอดีวันนั้นปวดฉี่มากครับเห็นห้องน้ำก็วิ่งเลยครับ พอจ่ายตังค์แล้วผมก็เดินเข้าไปอย่างมั่นใจ พอเข้าไปแล้วผมก็นึกแปลกใจว่า ทำไมห้องน้ำที่นี่แปลกจังไม่มีที่ยืนฉี่เลย มีแต่แบบไว้อึทั้งนั้น ผมก็เดินดูรอบๆ ไม่มีที่ยืนสำหรับผู้ชายฉี่เลย


ผมก็เอ๊ะในใจ อย่าบอกนะว่าเป็นห้องน้ำหญิง ด้วยความที่ผมก็ปวดฉี่อย่างแรง ผมก็กะว่าจะเข้าห้องน้ำนี้ ผมก็กำลังจะผลักประตูแค่นั้นละคับ ก็มีผู้หญิงเปิดประตู เธอตกใจมาก ผมก็ไม่แพ้เธอเลยครับ เธอร้องเสียงดังสนั่นทั่วทั้งห้องน้ำเลยครับ ผมทั้งตกใจและอายมาก ก็รีบวิ่งออกมาทันทีครับ วิ่งอย่างไม่ทันมองข้างหน้าครับ ดังบึ้มเลยครับ ผมชนกับผู้หญิงอีกคน รู้มั๊ยครับว่าอะไรเกิดขึ้นครับ เยี่ยวแตกเลยครับ ไม่ใช่ใครเลยครับ ผมเองครับ คนมองดูกันใหญ่เลยครับ อายมาก อยากเอาหน้าไถดินไปเลย คิดเรื่องนี้ทีไร อายตัวเองทุกทีครับ…….


4. หมูน้อยสอยดาว

ก้อแบบว่าตอนนั้นเพิ่งจะมากรุงเทพอ่ะนะ เพราะเป็นเด็กต่างจังหวัด พอดีนัดเพื่อนไว้ที่อนุสาวรีย์ชัย ตอนนั้นไม่รู้ว่าขึ้นรถเมล์สาย97มาลง แล้วก้อถึง ทีนี้หลังจากลงรถเมล์แล้วก็ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง เกาหัวแกรกๆคิดในใจ เอ อนุสาวรีย์ชัย มันตรงไหนหว่า ก้อพอดีเห็นพี่คนหนึ่งแกยืนอยู่ เลยถามซะ พี่ครับอนุสาวรีย์ชัยไปทางไหนครับ พี่แกหันมามองหน้า แล้วก้อ อมยิ้ม ไม่ตอบด้วยนะ เอานิ้วชี้ไปขวามือเรา เราหันไปดู อื้อหือ ตระหง่านเลยวุ้ย พี่แกเหมือนรู้จังหวะ นั่นไงครับน้อง อนุสาวรีย์ชัย จะไหว้มั้ยน้อง เหอๆ ตอนนั้นอายโคตรๆ เอาแต่เดินก้มหน้า ก้อเลยเปงงี้อ่ะ……..


5. sudruk

เรื่องน่าแตกสุดๆเลย นั่งซ้อนมอเตอร์ไซด์ครับ นึกสภาพนะครับ ใส่กางเกงนั่งคร่อมมอเตอร์ไซด์นี่แหละ แล้วไอ้มอเตอร์ไซด์เนี่ย ก็เตี้ยซะด้วย แล้วติดไฟแดง พอเห็นว่าติดไฟแดง เราก็เลยลุกขึ้น เรายืนคร่อมมอเตอร์ไซด์ แบบว่ากะจะควักดูเหรียญในกระเป๋าไง จะให้ค่ารถ


ไฟเขียวคร้าบ รถมอเตอร์ไซด์ไปแล้ว รถข้างๆ ก็ไปกันหมด แต่เรายังคงยืนอ้าขา ท่าคร่อมรถมอเตอร์ไซด์ ตรงกลางไฟแดงอยู่อย่างนั้น อายมากๆ แต่นึกภาพทีไร ขำมากๆ……


6. sudruk

เรื่องมอเตอร์ไซค์อีกแล้วครับท่าน แต่นี่เป็นเรื่องของแม่เราเอง เรื่องน่ารักดี วันนั้นแม่เราใส่ชุดหมี (น่ารักเชียว) แล้วก็ถือกระเป๋าเจมส์บอนด์ครับ นั่งซ้อนมอเตอร์ไซด์ใส่หมวกกันน็อค ไปรับบิล ก็ตกลงราคาไว้ ไป 40 ขอกลับด้วยเลยก็ 60 บาท พอไปถึงปรากฏว่าที่ร้านปิด ก็เลยไม่ได้ทำธุระ ก็เลยกลับเลย


พอนั่งรถกลับมาถึงที่ ก็ควักตังค์ให้ 60 บาท แล้วก็เดินออกไปเลย คนขับมอเตอร์ไซด์ก็ร้องเรียกแม่เราเสียงหลง คุณ คุณ แม่เราก็โมโหอ่ะดิ ก็ตกลงแล้วไงว่า 60 บาท ไปแล้วก็กลับเลยไม่ได้ให้รอนานซะหน่อย


ป่าวค้าบ ไม่ใช่เรื่องเงินค้าบ แต่จะเอาหมวกกันน็อคคืน ที่แม่เราใส่อยู่นั่นแหละ ลองนึกภาพไง แม่เราตัวอ้วนๆ ใส่ชุดหมี ถือกระเป๋าเจมส์บอนด์ (เท่ห์โคตร) พร้อมใส่หมวกกันน็อคเดินออกมาอย่างมั่นใจ แม่เรากลับถึงบ้านตอนตี 2 กว่าๆ ปลุกเราขึ้นมาเล่าให้ฟัง ขำกันใหญ่ นอนไม่หลับเลย เป็นไง แม่เราน่ารักมั๊ย


7. นางฟ้ามาเรีย

เรื่องมีอยู่ว่า ตอนวันรับน้องที่ผ่านมา เราทำหน้าที่เช็คชื่อ โดยเราเป็นรุ่นพี่ จะต้องเช็คชื่อรุ่นน้อง กลุ่มเรารุ่นน้องทุกคนจะใส่เสื้อสีฟ้า และเจ้ากรรมก็มีชายคนหนึ่งใส่เสื้อสีฟ้ามายืนอยู่ เราก็นึกว่ารุ่นน้องของเรา เราเลยจับแต่งหน้า ทาแป้ง มัดผม ซะน่าเกลียดเลย และเราก็บอกให้ไปรวมกลุ่มกัน จากนั้นเราก็ทำการเช็คชื่อ แต่ว่าชายคนนั้นก็ยังนั่งอยู่ที่เดิม พอเช็คจนครบคนสุดท้ายตามรายชื่อ ไม่มีชื่อเขาอยู่ในนั้น เอาล่ะซิ ทำไม?? เราเลยเดินไปถาม จนได้ความว่า ...ผมมาส่งน้องครับ....นี่แหละหน้าแตกสุดๆของที่สุดๆ…….


8. Freshy

เรื่องมีอยู่ว่า หลังจากเลิกทำกิจกรรมที่มหา'ลัย คือเป็น Freshy ก็ยังไม่ค่อยรู้อะไรเท่าไหร่ พอดีเพื่อนเพิ่งไปเอามอเตอร์ไซด์มาเป็นวันแรก ก็เลยขอติดรถไปด้วย ลงหน้ามหา'ลัย ซ้อน 3 เลย เราก็ขี่รถกันไปธรรมดา ข้างหน้าก็มีมอไซด์อยู่คันหนึ่งซ้อน 3 เหมือนกัน แถมไม่ใส่หมวกกันน็อกด้วย


สักพักมอเตอร์ไซด์คันนั้นก็หยุด แล้วอีกคนก็ลงเดิน เราก็เริ่มสงสัย เอ๊ ทำไมเค้าต้องลงเดิน เหลือบไปทางขวาเห็นเหมือนตำรวจ เราก็เลยลงรถ เลียนแบบคันข้างหน้า แล้วให้เพื่อนอีกสองคนขับเลยไปก่อน เดี๋ยวพอพ้นตำรวจไปหน่อยจะได้ขึ้นไปต่อ


แต่พอเดินเข้าไปใกล้ๆตำรวจ ตำรวจ! ก็พูดขึ้นว่า "จะลงทำไมล่ะหนู ลุงไม่ว่าอะไรหรอก ลุงมีหน้าที่แค่ตรวจสติ๊กเกอร์เข้าออก มหา'ลัย" …โห ไอ้เราก็นึกว่าเป็นตำรวจ อุตส่าห์ตกใจ.......




9. แมวเหมียว

คือไม่ได้นอนมาทั้งคืน ตอนเช้าไปเรียนที่รามฯ นั่งหลับในห้องเรียนค่ะ (นั่งหลับจริงๆ ไม่ใช่แค่นั่งสัปหงกนะ) เหมือนวิญญาณหลุดออกไปจากร่างไปแล้วประมาณนั้น รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา ไม่มีใครอยู่ในห้องเรียนเลยอ่ะ เค้าเลิกเรียนกลับกันไปหมดแล้ว ลองนึกดูซิคะว่า คนที่เค้าเห็นเรานั่งหลับแบบนั้นน่ะ เค้าจะหัวเราะเราขนาดไหน นึกขึ้นมาทีไร อายตัวเองจริงๆ……





10. อายมาก

หน้าแตกสุดๆ ของหน้าแตกเลย....คือทุกวันเราต้องนั่งรถเมล์ไปเรียน แต่พอดีเมื่อคืนนั้นเรานอนดึก พอขึ้นรถเมล์เราก็หลับไปตลอด พอตื่นอีกที เราเห็นคนอื่นแตกตื่นกันใหญ่ กระเป๋าเข้ามาถามเราว่าเป็นอะไรมากหรือเปล่า เราก็งง คนข้างๆมุงกันใหญ่เลย คือไม่ใช่อะไรหรอกรถเมล์โดนชนท้าย แล้วเราก็นั่งอยู่แถวหลัง แล้วเราก็หลับสนิทจนคนอื่นเค้าเข้าใจว่าเราไปกระแทกอะไรสลบ


ความจริงอายมากๆ ไม่กล้าบอกคนอื่นว่าเราหลับ แล้วเราก็รีบลงเลย ไม่กล้าสู้หน้ากระเป๋ารถเมล์…..


11. กุญแจห้อง

แบบว่าที่หน้าแตกแบบสุดๆ แล้วจำฝังใจเลย คือ แวะไปหาเพื่อนที่รามฯ ก็ไปค้างอยู่กับเพื่อนตั้งหลายวัน พอดีวันนั้นลงไปทำธุระข้างล่าง แล้วเอากุญแจห้องลงไปด้วย คราวนี้ตอนขึ้นมา ก็ไขกุญแจห้อง ก็ไขอยู่ตั้งนาน มันก็ไม่ยอมออกสักที เราก็เริ่มโมโห คราวนี้ก็เคาะห้องเรียกเพื่อนเลย ก็ยังไม่ยอมมาเปิดอีก ก็ไขกุญแจใหม่อีกที ก็ไขอยู่ตั้งนาน ปรากฏว่าอยู่ดีๆ ประตูห้องก็เปิดออก ปรากฏว่าไม่ใช่ห้องเพื่อนเรา ห้องใครก็ไม่รู้อยู่คนละชั้น แบบเขาก็มองหน้าแบบงงๆ เราก็อายมาก รู้ว่าเคาะห้องผิดด้วย รีบวิ่งลงไปห้องเพื่อนเลย เพื่อนรู้เพื่อนมันยังมาหัวเราะเยาะเราอีกแน่ะ…..




12. vunsen

ถ้าให้พูดถึงเรื่องหน้าแตกหรอคะ..ก็มีอยู่เรื่องหนึ่งนะ คือวันนั้นในคาบเรียนวิชาอังกฤษ อาจารย์เค้ายังไม่มา เราก็เลยไปเข้าห้องน้ำก่อน พอเสร็จเรียบร้อย ก็เดินกลับมาที่ห้องเรียน แล้วพอเข้าห้องเรียนไป อาจารย์ก็มาถึงห้องแล้ว ก็ต้องบอกทำความเคารพใช่มะ [พอดีว่าเป็นหัวหน้าห้อง]


ด้วยความเคยชิน "Stand Up Please!!!!!!!!!!" แล้วก็ลุกขึ้นกำลังจะ "Good morning" แต่ที่ไหนได้ ทั้งห้องกลับมีเรายืนขึ้นคนเดียว เพื่อนที่นั่งข้างๆกระซิบบอกว่า "เฮ้ย ๆ รองหัวหน้ามันบอกไปแล้ว" เท่านั้นแหละ เพื่อนๆในห้องขำกันใหญ่เลยอ่ะ…..


13. คุณหนู

ที่คิดว่าหน้าแตกสุดเลย ประมาณว่าไปซื้อผ้าอนามัย เพราะเป็นประจำเดือนครั้งแรกในชีวิต ทีนี้ผ้าอนามัยที่ใส่อยู่เกิดหลุดออกมา ตอนเดินอยู่ในโรงเรียนพอดี สงสัยจะใส่ไม่แน่น ตอนนั้นหน้าชาหูอื้อไปหมด แต่ก็เดินต่อไปอ่ะ เชิดซะอย่าง……


14. น้องเดียว

เคยครั้งหนึ่งที่คิดว่าอายมากๆ ตอนนั้นหลังเลิกเรียน แล้วเราถือของพะรุงพะรังมากกกกก กำลังจะกลับบ้าน ระหว่างที่กำลังเดินไปป้ายรถเมล์ ก็เห็นรถเมล์คันที่เราจะขึ้น มันแซงเราไปที่ป้ายแล้ว (มาชั่วโมงละคัน) ก็เลยรีบวิ่ง แล้วสะดุดถุงใส่ของหกล้มตรงป้ายรถเมล์น่ะแหล่ะ คนมองกันใหญ่เลยย ฮือ ฮือ อายมาก……


15. น้องหญิง

เคยทักคนผิดอ่ะ แบบว่า มีคนนั่งอยู่ที่โต๊ะเรียนซึ่งอยู่นอกห้องเรียน แล้วโต๊ะที่คนนั้นนั่งเป็นโต๊ะของห้องเรา เราก็นึกว่าเพื่อนเรานั่ง ซึ่งคนที่นั่งนี้เขาเอาหนังสือปิดหน้าอ่ะ เราก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ตอนนั้นเราคิดว่าเป็นเพื่อนเรา เราก็รีบเดินไปเลย เข้าไปเป่าหูคนที่นั่งอ่ะ เป่าเสร็จคนที่นั่งเขาก็ตื่นขึ้น ทีนี้เอาหนังสือออก หน้าแตกเลยอ่ะ ใครก็ไม่รู้จัก เป็นเด็กห้องอื่นที่มานั่งห้องเรา อายมากก……


มีอีก อันนี้ก็บ่อย เวลาซื้อของจะชอบ ใจลอย ซื้อไอติม 20 บาท เราก็รู้นะว่า 20 อ่ะ เราก็ให้เขาไป 20 พอดี แต่เรานี่ซิ ให้แล้วยังยืนรอตังค์ทอนอีก คนขายบอกว่า 20 บาทพอดี เราก็สะดุ้งเลยเหมือนคนตื่นเลยอ่ะ เรารีบบอกเขาว่า โทษทีลืมไป แล้วก็รีบเดินหนีเลย……


มีอีกครั้ง คราวนี้ไปกับพี่ชายกับน้องชาย โดนแม่ใช้ให้ไปซื้อกระทะที่ตลาด เราก็ไปกัน พอซื้อเสร็จก็กลับ ระหว่างที่กลับไม่รู้ว่าเราถือกระทะยังไง อยู่ๆ กระทะก็ลงไปกกองอยู่กับพื้น แล้วคิดดูอ่ะว่า กระทะที่เพิ่งซื้อมาใหม่ๆ เวลามันร่วงลงพื้น มันจะดังสักขนาดไหน พวกแม่ค้าตกใจกันใหญ่ บางคนอุทานออกมาเลย อ่ะ เราก็รีบเก็บขึ้นมาแล้วรีบเดินแล้วก้อวิ่ง ตอนนั้นอ่ะพี่+น้อง เดินไปไหนกันหมดแล้วไม่รู้ หนีไปเลย ปล่อยให้เราหน้าแตกอยู่คนเดียว ฮือ ฮือ…..


16. เด็กหน้าใส

เมื่อตอนม.1 อ่ะ วันแรกวันปฐมนิเทศน์เราตังค์หาย อาจารย์บอกว่าใครตังค์หาย มารับได้ที่อาจารย์ อาจารย์เค้ายืนอยู่บนเวทีในห้องประชุม มีนักเรียนก็ไม่ค่อยเยอะอ่ะน่ะ 500 กว่าๆเอง อาจารย์ก็หยอกเราว่า ในหลวงในตังค์เธอ ใส่แว่นหรือป่าว แต่เราดันได้ยินว่า เธอใส่แว่นหรือป่าว เราก็เลยตอบว่า ป่าว เค้าหัวเราะกันทั้งห้องประชุม อายมากกก…….


17. ไก่น้อยผู้น่าฉงฉาน

ตอน ม.ต้น ครูถามว่า สมุไท คืออะไร ใครตอบได้ ตอนนั้นกำลังอยู่ในวัยคะนอง อยากโชว์มั้ง เห็นคนตอบไม่ได้ ก็เลยตอบอย่างฉะฉานว่า "ขิง ข่า ตะใคร้ ค่ะ”


ก็นึกว่าอาจารย์ถามว่า สมุนไพร คืออะไร แล้วทุกคนในห้องก็โห่ หน้าแตกเลยเรา…….


18. นามข้าว่าแสวงพ่าย

เรื่องก็มีอยู่ว่า เราไปเที่ยวกับแฟนที่ซีคอน แล้วเราไปเข้าห้องน้ำ ส่วนแฟนเราก็รออยู่แถวๆนั้นแหละ สงสัยเราคงจะเข้านาน อ่ะ พอเราเดินออกมา ก็เห็นเขาเดินนำหน้าเราไป เราก็เดินตามเขาซิ เขาผมยาวสลวยนิ พอเดินไปได้ซักพัก ชักเริ่มเอะใจ ทำไมเขาเดินไม่รอเรา คงจะโกรธเรา เราก็เลยเดินไปจี้เอวเขา แล้วถามเขาว่างอนเหรอ? ส่วนเขาน่ะสะดุ้ง แล้วหันมา อ้าวนี่ไม่ใช่แฟนตรูนี่หว่า ส่วนเขาก็มองเราใหญ่เลยนะ คงคิดว่าไอ้เนี่ย ใครวะ เราก็ขอโทษเป็นการใหญ่เลย สรุปก็เลยต้องเดินกลับมาที่เดิม ก็เจอแฟนเราทำหน้าโกรธที่ยืนรอนาน……





19. teay235

เคยเหมือนกัน แบบว่า วันนั้นไปเดินเที่ยวห้างกับแฟน แล้วเกิดปวดฉี่ ก็เลยบอกแฟนว่าจะไปเข้าห้องน้ำ พอเดินไปถึงหน้าห้องน้ำก็เห็นป้ายเป็นรูปผู้หญิงติดอยู่ ก็คิดว่าเป็นห้องน้ำผู้หญิง (แต่จริงๆแล้วมันมีลูกศรชี้ให้ไปอีกทาง) สรุปว่าก็เดินเข้าห้องน้ำผู้ชายโดยไม่รู้ตัว


ระหว่างที่เข้าห้องน้ำอยู่นั้น มีคนที่เข้าอยู่ก่อนแล้วผายลมเสียงดังมาก เราก็หัวเราะอยู่คนเดียว แล้วก็แปลกใจว่าทำไมคนนั้นถึงกล้าผายลมเสียงดังอย่างนี้ พอฉี่เสร็จก็เดินออกมาจากห้องน้ำ กะจะมาเล่าให้แฟนฟัง ก็เห็นพนักงานห้างมองเรา แล้วก็อมยิ้มกันใหญ่ เราก็แปลกใจว่ามองเราทำไม เอ หรือว่า เราลืมรูดซิป ก้มลงมองซิปตัวเอง ก็เปล่านี่หว่า ก็เดินไปหาแฟน ปรากฏว่าแฟนก็ถามเราว่า ไปเข้าห้องน้ำผู้ชายทำไม .แป่ว หลังจากนั้นก็ไม่กล้าไปเดินห้างนั้นอีกนานเลย นี่แหละที่คิดว่าหน้าแตกสุดๆ…….



20. lover z

ก็เรากะแฟนก็แกล้งกันไปแกล้งกันมาบนสถานี BTS สยาม แฟนเราก็แกล้งยกเท้าจะเตะเราอ่ะ แล้วปรากฏว่ารองเท้าดันหลุด ลอยไปตกข้างๆผู้ชาย(ค่อนข้างมีอายุ)คนหนึ่ง แบบว่าผู้ชายคนนั้นทำหน้าแบบว่าตกใจ เหมือนถูกคนจะมาทำร้ายอ่ะ แฟนเราก็ไปเก็บรองเท้าแบบอายๆ ส่วนเราก็หนีไปยืนตรงอื่นอ่ะ แบบว่าไม่รู้จักกัน……


21. Sovan

คือผมไม่เคยขึ้นรถไฟลอยฟ้ามาก่อน พอซื้อตั๋วได้ตอนขึ้นก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่!!! ตอนลงสิ ผมรูดบัตรเครื่องเท่าไหร่ ก็ไม่ปล่อยผมไปซะที รูดตั้งหลายครั้ง คิดว่าบัตรเสีย คนต่อหลังก็เยอะ สักครู่ลุงคนอยู่หลังเห็นก็พูดขึ้นมาว่า "ใส่ผิดด้านแล้ว" เพล้ง!!! คนได้ยินเยอะด้วยสิ ต่อจากนั้น เผ่นสิอยู่ให้อายรึ!!!


22. เราเอง

เรื่องนี้เกิดขึ้นบนรถไฟฟ้า บีทีเอส ขึ้นที่สถานีอ่อนนุช และจะไปลงที่สถานีสยาม ไปกับพี่สาว 1 คน วันนั้นคนเยอะมากๆและเป็นวันหยุด ขณะรถไฟฟ้ากำลังแล่นอยู่ เรากับพี่สาวเรา ยืนคุยกันตรงประตู คุยไปมือก็ชี้ให้ดูนั่นดูนี่ สุดท้ายนิ้วเราก็ไปจิ้มโดนปุ่มที่เรียกพนักงาน ซึ่งพนักงานก็พูดออกมาทางลำโพงว่า "มีอะไรให้ผมช่วยครับ" ถาม 2 - 3 ครั้ง ทุกคนก็มองมาที่เราคนเดียวเลย เรานี่อายมากเพราะบนรถไฟฟ้าตอนนั้นเงียบมาก พอถึงสถานีสยาม เรากับพี่สาวเรา รีบเดินหนีออกมาให้เร็วที่สุดที่จะเร็วได้……..


23. kikkog

ลงรถเมล์ดิ คนแยะเบียดเสียดกันเป็นปลากระป๋องเลย ก็น้องนักศึกษาขาวหมวยน่ารัก เธอเดินเบียดลงก่อนน่ะ แต่ด้วยความเร็วที่ผิดพลาด ขณะลงบันไดรถเมล์ ช่วงเข่าของเรางอพอดีใช่มะ น้องแกก็โค้งๆ ก้นก้าวลง จังหวะนั้นน่ะ เข่าของเรากะก้นของน้องชนกันพอดี น้องแกพุ่งพรวดลงจากรถในทันทีเลย แฮ่ะๆ ไม่รู้ว่าหน้าแดงเพราะอายหรือเพราะโกรธ เราก็ขอโทษและช่วยปัดฝุ่นให้ น้องแกไม่พูดสักคำ ง่า ง่า……..


24. hyper angle

ของเราก็มี วันนั้นจำได้เลย ขึ้นรถเมล์สาย 92 (สายมรณะหรือเปล่า? เด็กรามน่าจะรู้ดี) พอขึ้นไป รถก็เก่า ขับๆไปก็มีเสียง แครก..แครกตลอด ที่นี้ พอประมาณไปถึงหน้าราม รถก็เบรกกะทันหัน ไอ้เราก็ถลาไปข้างหน้าเต็มที่ แต่แบบว่าจับที่ตรงพนักพิงที่มีเหล็ก.ได้.อ่ะนะ.. แต่แล้วมันก็เหยียบคันเร่งเลย ไอ้เรามันก็ตัวเล็ก เลยหงายหลังไปพร้อมกับที่จับน่ะแหละ ที่จับมันหลุดออกมาติดคามือเลย. ตอนนั้นน่ะอาย..สุดดด เลย..อึ๋ยยย……


25. Pim

วันนั้นขึ้นรถเมล์ ได้นั่งด้วย (เย้! เพราะปกติ ไม่เคยได้นั่งซะที) นั่งแบบที่นั่งเดี่ยว ข้างหน้าๆหน่อย(รถยูโร) ซักพักมียายแก่ขึ้นมากำลังมองหาที่นั่ง ไอ้เราไม่เห็นมีใครลุก เราก็เลยลุกให้ยายนั่งแทน ยืนซักพัก หันไปมองด้านหลัง อ้าว ยืนอยู่คนเดียว ที่นั่งหลังว่างเต็มเลย อายคนมาก


26. โต้ง

เมื่อเช้านี้เองครับวันนี้เลย ผมขึ้นรถเมล์ยูโร ไปทำงานครับ ขึ้นมาก็ประมาณว่าที่นั่งเต็มหมด ก็เหลือที่ยืนว่าง ผมก็เดินไปยืนประมาณตรงกลางๆรถกับน้องผู้หญิงคนหนึ่งที่ขึ้นป้ายเดียวกัน ที่ยืนก็ไม่มีคนอื่น มีผมกับน้องผู้หญิงคนนั้น นอกนั้นเขานั่งหมด


พอดีผมไปยืนอยู่ตรงช่องแอร์..คงนึกออกนะครับ คือช่องแอร์มันอยู่ข้างๆ แล้วลมแอร์เป่ามาแรงและมันตรงหน้าผม ผมก็เลยยื่นเอามือไปหมุนช่องแอร์ไปทางอื่น..เท่านั้นล่ะครับ เหมือนฟ้าแกล้งชัดๆ...ทั้งฝาครอบและตัวกลมๆข้างใน หลุดตกกระเด็นไปอยู่ข้างหน้าน้องคนนั้น


สายตาทุกสายตาประสานมาที่ตัวผมคนเดียวครับ ทั้งคันอมยิ้มกันจัง..(วันนี้วันเกิดผมด้วย ดีจังทำให้คนอมยิ้ม ในใจคิดอย่างนี้ครับ)...แต่อีกใจหนึ่งโคตะระ อายเลย...สุดๆเลย แตกจริงๆๆๆๆๆๆ....



27. โจโคล

มีวันหนึ่งผมเจ็บตามากๆ คันจนตาแดง เลยขับรถไปหาหมอ "เอ่อ... ตรวจดวงตาให้หน่อยครับ" หมอทำหน้า-งง-สักครู่แล้วบอกกึ่งๆยิ้ม "ขอโทษค่ะ เอ่อ ที่นี่...คลินิครักษาฟันค่ะ" คนไข้คนอื่นๆขำกันตรึม โค-ต-ร อายเลย……


อีกเรื่องหนึ่ง ตอนประมาณใกล้ทุ่ม ผมชักหิวข้าว เลยขับรถไปหาอะไรกิน ขับไปสักพักก็เจอร้านหนึ่ง เป็นร้านอาหารตามสั่ง ผมก็รีบเข้าไปนั่งโต๊ะทันที คนเนี้ยเกือบเต็มร้าน สงสัยท่าจะอร่อยร้านนี้ พอเค้ามาถามว่า จะสั่งอะไร


"ข้าวผัดกระเพราเครื่องในไก่+ไข่ดาวนะ" ผมตอบดังฉะฉาน..ลูกค้าก็มองมากันทั้งร้าน เด็กเสิร์ฟทำหน้างง แล้วชี้ไปที่ป้ายข้างบน ...."อาหารเจ" …..ไอ๋หยา…….


28. tasan

วันนั้นไปร้านซึทาย่ากับเพื่อน กำลังยืนเลือกหนังจะเอากลับไปดูกันที่บ้าน เพื่อนผมเนี่ยมันค่อนข้างจะดูหนังมาแล้วหลายเรื่อง เข้าทางเลย ผมก็เลยให้มันแนะนำหนัง เจอเรื่องนั้นเรื่องนี้ก็เลยถามว่าดีมั้ย เป็นยังไง ที่สุดมันก็ถามผมว่า อยากดูหนังแบบไหน ผมก็เลยบอกมันไป


แล้วผมก็ไปเจออีกเรื่องหนึ่งน่าสนใจมาก "เฮ้ยเรื่องนี้หนุกป่าว มันป่าวว๊ะ นางเอกสวยมั้ย (หนังแนวแอคชั่นนะครับ)" ผมถามแล้วก็ยื่นไปให้มันดู มันก็เงียบๆ ผมก็เลยไปหยิบมาอีกเรื่อง ก็ถามมันอีก ยืนคุยกะมันตั้งนาน ซักพักก็มีเสียงดังขึ้น "พี่เอาเรื่องนี้ไปดูดิ" ผมก็มองหน้ามัน (อ้าวเฮ้ย แล้วผมคุยกะใครตั้งนาน วะเนี่ย) อายมากครับ เพราะผมคุยกับเค้าประมาณ 5 นาทีได้ เค้าก็ดีนะ ไม่เดินหนี ก็อยู่ข้างๆกันแบบนั้นอะ ไม่ยอมไปไหนด้วย พอดีไอ้เพื่อนผมน่ะ มันเดินไปเลือกซีดีให้ เฮ่อ.........


29. บารอส

นึกออกละ แตกสุดๆ ที่เซเว่นคับ แฟนผมเค้าเข้าไปซื้อของในเซเว่น แล้วให้ผมรอที่ข้างนอก เห็นเข้าไปนานเลยก็เข้าไปมั่งสิครับ ผมก็เดินดูของในร้าน ช่วงหันหลังให้กัน ผมก็คุยไปเรื่อยๆ คุยไปคุยมา เอ...ไม่ตอบซักที เลยหันหน้าไปพูด (เค้ายังหันหลังอยู่) พอเค้าหันมา...เท่านั้นแหละ หน้างี้ ชา....อึ้ง.... ผิดคนนะสิครับ แล้วชายิ่งกว่านั้นอีก ด้านนอก (เป็นกระจกใส) แฟนมองหน้าผมอยู่ พอออกมานอกร้าน แฟนเค้าถามคุยกับใครเหรอ ตอนนั้นอายมากกกกก เฮ่อ จำไว้เลย อย่าหันหลังคุยกัน ม่ายง้านหน้าจะแตกหมอไม่รับเย็บ…….





30. ivory

ตอนนั้นเพื่อนพี่ชายเรามาบ้าน พอดีเพื่อนของเราก็มาด้วย แล้วเราก็แอบชอบเพื่อนพี่คนนี้อยู่แล้ว บังเอิญเพื่อนพี่เค้าถามชื่อ เราก็เลยรีบบอก แต่รู้ไหมว่าเพื่อนพี่เค้าพูดว่าอะไร เพื่อนพี่เค้าพูดว่า "พี่ไม่ได้ถามชื่อน้อง พี่ถามเพื่อนน้องต่างหาก" เราก็เลยทั้งหน้าแตก แล้วก้อ อกหัก……


31. เข็ดหลาบไปเลย

ตอนอยู่ม.3 แอบชอบหญิงคนหนึ่ง อยู่ ม.1 ตอนเช้าเข้าแถวหน้าเสาธงเคารพธงชาติ มันอยู่ไกลกัน ประมาณว่าน้องเค้าจะอยู่แถวหน้า เราก็อยู่ข้างๆ.. คือมันจะมีน้อง ม.2 กั้นกลางอยู่ คงนึกภาพออกนะครับ ก็จะแอบดูน้องและส่งยิ้มให้เขา ประจำครับ


เขาก็รู้และก็ตอบรับเรานะครับ วันนั้นคึกอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้ พอเคารพธงชาติเสร็จ เราก็ส่งยิ้มเหมือนเคยครับ คืองานประจำวัน...แต่คราวนี้ส่งยิ้มแบบพิเศษ เดินขึ้นห้องเรียนไปด้วย...ยิ้มส่งไปด้วยครับ แบบเดินไม่มองข้างหน้านะครับ เดินไปไม่ถึง 10 เมตรดี TOOM!!!!!


ชนเสาธงลูกเสือเต็มๆครับ แรงก็แรง ล้มทั้งยืนเลย เพื่อนๆที่เดินมาด้วยไม่รู้มันหายไปไหนหมด ทั้งเจ็บทั้งอายบอกไม่ถูก ไม่ว่าจะเป็น ม.1 2 3 4 5 6 หัวเราะกันก๊ากๆๆๆๆทั้งวันเลย ลุกขึ้นมาได้ จับหน้าผากตัวเองทั้งวัน หลังจากนั้นก็ไม่เคยเจอหน้าน้องคนนั้นอีกเลย ก็อายนี่....


32. แพรว

มีอยู่วันหนึ่ง ไปกินข้าวกับเพื่อน ก็กำลังกินอยู่แล้วเพิ่งนึกออกว่าเพื่อนอีกคนฝากให้มาซื้อข้าวด้วย ก็เลยถามเพื่อนที่มาด้วยกันว่า เพื่อนอีกคนชอบกินอะไร อ้อ.....ข้าวขาหมูนั่นเอง เลยเดินตรงไปที่ร้านข้าวขาหมูสั่งใส่กล่อง หันหลังกลับมาเท่านั้นล่ะ อายมาก....ก็ผู้ชายที่เราแอบชอบอ่ะ นั่งอยู่หน้าร้านข้าวขาหมู แล้วเขาต้องคิดว่าเราสั่งใส่กล่องไปเบิ้ล 2 ที่หอ แน่นอนเลย แถมยังเป็นข้าวขาหมูอีก โห ไม่กินอีกแล้วข้าวขาหมู…….


33. ดาวปลอมมา

นานแล้วอ่ะ เพื่อนสนิทของเราเขาปิ๊งหนุ่มคนหนึ่งมากกกก ให้เราช่วยไปขอเบอร์ให้หน่อย เราก็โอเค พอไปขอเขา เขาก็ไม่ให้ ยังไงๆก็ไม่ให้ เราถามว่าทำไม เขาบอกว่า เขาไม่รู้จักหน้าตาคนขอ เขาไม่แน่ใจ กลัวคนขอจะน่าเกลียด เรางงมาก เพื่อนเราสวยจะตาย ทำยั่งกะว่านายน่ะหล่อปานวิลลี่(ไม่ใช่สเป๊กเราๆเลยพูดได้) เราเลยเดินออกมาเลย เล่นตัว เกลียดมาก รู้สึกว่าเสียฟอร์มและหน้าแตกสุดๆเลย…….


34. สาบสูญ

มีอยู่วันหนึ่ง ผมไปกับแฟนแถวคลองสาน ต้องข้ามเรือไปอีกฝากหนึ่ง พอดีเรือกำลังจะออกแล้ว แฟนผมก็บอกว่าเร็วๆ แล้วเธอก็กระโดดขึ้นเรือไปเลย ผมก็งงงงว่า อ้าวไปแล้วเหรอ ก็เลยกระโดดตามขึ้นเรือบ้าง โอย ผมกระโดดไปเหยียบบนพื้นที่เปียกพอดี แล้วลื่นอ่ะครับ หลังกระแทกพื้น เห็นดาวเลยครับ คนแถวนั้นอมยิ้มกันใหญ่ ผมก็ลุกขึ้นมาทำท่าเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แถมยังยักคิ้วให้ แต่จริงๆแล้วมันทั้งเจ็บทั้งอายมากๆเลยครับ……


อีกครั้งครับ คราวนี้ไปที่ห้างCentral ชิดลม ไปกับแฟนอีก จะกดลิฟท์ขึ้นไปข้างบน คนยืนอยู่กันเต็มเลยในลิฟท์อ่ะ แต่ก็พอที่จะให้เรา 2 คนที่ผอมๆ เข้าไปได้ แฟนผมเขาเข้าไปก่อน แล้วผมก็ก้าวเบียดเข้าไป จากนั้นลิฟท์มันบอกว่ามันกำลังจะปิด มันบอกมาเป็นอังกฤษ ผมก็งงงง ก็เลยรีบเด้งตัวออกมา เพราะคิดว่ามันเตือนว่าคนเกิน คนในลิฟท์ขำกันใหญ่เลยครับ แล้วลิฟท์ก็เลื่อนขึ้นไป อ้าว แล้วผมก็ต้องรอขึ้นลิฟท์ตัวใหม่


35. หนูยุ้ย

วันนั้นเป็นวันพระ เราไปทำบุญแล้วก็ไปนั่งตรงแถวหน้า ฟังพระเทศน์ไปจนจบ เราก็สังเกตว่าหลวงพี่ (แควนเราเองแหละ) ทำเป็นก้มหน้าก้มตาเทศน์ (คงเคร่งเนาะ) แต่ก็ดี เราก็ไม่คิดอะไร แต่ตอนกลับบ้านเราแวะกินก๋วยเตี๋ยวกับเพื่อน เพื่อนเกิดอาการตาโต "ไอ้ยุ้ย แกไม่ได้รูดซิปกางเกงว่ะ …โอ้ย ! อายมากกกก” สงสัยแล้วว่า คนมองมาทำไม แหมใส่เอวลอย แล้วกางเกงยีนส์พอง ๆ ด้วย อายยยยยยยยยยยยยยยย แล้วก้อ สึกออกมา ก้อเลิกกันเลย…แง แง


ก้อ จู๋จี๋ (จับมือถือแขนกันเฉยๆ) กับแฟนอยู่ เราอาย เราเลยพูดว่า "อย่าซิ ป้อม" เพล้ง ! แฟนเราชื่อต้อย (ป้อมน่ะ แฟนคนที่บวช) ยังไงเหรอ ก้อเลิกกันอีกนะซิ..ซวยยยย






36. ปู่

เรื่องมีอยู่ว่า ไปเดินเล่นแฟชั่นไอซ์แลนด์มา แล้วตอนจะกลับบ้าน ไปที่จอดรถหารถไม่เจอครับ ผมงี้หน้าซีดเข่าอ่อนกับเพื่อนอีกหนึ่งคนครับ เลยไปแจ้ง รปภ เรื่องยิ่งบานปลายเข้าไปใหญ่ครับ เพราะ รปภ มากันเยอะมาก และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาด้วย ทำให้เรื่องยิ่งยุ่งมากขึ้น


ผมบอกเล่าลักษณะรถและทะเบียนรถให้เจ้าหน้าที่ทราบ สักพักเดียว รปภ คนที่ผมบอกคนแรกก็วิ่งเข้ามาหน้าตาตื่น แล้วบอกกับผมว่า รถคุณน่ะจอดอยู่อีกฝั่งหนึ่งไม่ใช่เหรอ มันยังอยู่นี่นา (คือว่าจะมีที่จอดรถอยู่2 ฝั่งครับคือด้านพระอาทิตย์ กับพระจันทร์อะไรประมาณนี้ครับ) ผมยิ้มแหยๆ พร้อมกับขอบคุณและขอโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ รปภ ด้วย เหตุการณ์ครั้งนั้นผมขับรถออกจากที่นั่นโดยไว ตอนขับออกมามองหน้าเพื่อน แล้วก็หัวเราะกัน นี่แหละครับเรื่องผม อยากจะเตือนนะครับว่า ทำอะไรดูให้ดีก่อนครับ


37. จุ๊บแจง

ก้อตอนนั้นไปเดินซื้อของที่เปิดท้าย เราก็แวะไปดูที่คาดผม ก็ลองใส่ส่องกระจก ดูความงามตัวเองไปมา ก็มีคนมาสะกิดเราแล้วยื่นตังค์ให้เรา คิดว่าเราเป็นคนขาย ตอนนั้นแบบเอ๋อเลย ไอ้คนนั้นมันก็ยังจะยัดตังค์ใส่มือเรา คะยั้นคะยอจะจ่ายตังค์ให้ได้ เราแบบพูดไม่ออกเลยง่ะ…...


อีกเรื่องเป็นของพี่ พี่ชื่อเดือน พี่เดือนก็ไปซื้อลูกชิ้น ตามรถเข็นน่ะ (นึกออกไหมคะ.. ) คนขายยื่นลูกชิ้นให้ตักน้ำจิ้มเอง พอตักราดเสร็จ พี่แกก็เดินถือฝาหม้อน้ำจิ้มติดไปด้วย คนขายตะโกนตามลั่นตลาดเลย…….


38. 55555

มีอยู่วันหนึ่ง ไปหาแฟนที่คอร์ทแบดมินตัน พอออกมาจากโรงยิม จู่ๆฝนก้อตกลงมาใหญ่เลย ก็เลยต้องรีบวิ่งหลบฝนกลับเข้าไปในโรงยิมอีกอ่ะ แล้วเราก็ดั๊นซุ่มซ่าม วิ่งไม่คิดชีวิตไปก่อน วิ่งนำหน้าแฟนไป ปรากฏว่าล้มสิคะ ล้มลงเต็มๆสวยงามมาก แฟนวิ่งตามหลังมา หัวเราะใหญ่เลย มาช่วยฉุดลุกขึ้น แล้วก็หัวเราะไม่ยอมหยุด เราน่ะอายมากๆ เหลียวซ้ายแลขวา ว่ามีใครเห็นอีกรึป่าว? ปรากฏว่ามีคนยืนอยู่ก่อนอีกคน กำลังเอามืออุดปากไว้หัวเราะใหญ่เลย..เราก็รีบลากแฟนออกไปจากโรงยิมเลย ช่างมัน ฝนน่ะ เปียกก็ช่าง แต่ไม่ยอมยืนอยู่ต่อแล้วง่ะ……


39. ohmyo

ตอนสมัยเด็กๆ ไปเดินห้างกะพ่อเเม่ แล้วเดินไป จับมือคนอื่น อ่ะ นึกว่าเเม่เรา แล้วชอบทักคนผิด สะดุดกะได โดนหมาไล่ แมงสาบไต่ตัว


40. เดลปิเอโร่

เป็นประสบการณ์เกี่ยวกับเพื่อนผมเอง แต่ว่าผมอยู่ในเหตุการณ์ด้วย..!!!! มันเกิดขึ้นตอนที่พวกผมไปเข้าค่ายจริยธรรมที่พุทธมณฑล ผมเข้าค่ายเป็นเวลา 3 วัน 2 คืน เรื่องเกิดขึ้นในตอนเที่ยงของวันที่ 2 กลุ่มผมเนี้ยเป็นพวกที่ชอบเล่นกีฬา "ฟุตบอล"


วันนั้นพวกผมก้อเดินไปเจอลูกบอลพลาสติกเก่าๆลูกหนึ่ง พวกผมก้อนึกสนุก ผมถามเพื่อน " เฮ้ยพวกมรึงเล่นบอลกันป่าววะ " เพื่อนๆมันตอบว่า “เออ ดีเหมือนกัน” พวกผมก้อแบ่งข้างเตะกันอย่างสนุกสนาน เตะกันได้ซักพักนึ่ง เตะๆอยู่ ผมก้อล้มตัวยิง จังหวะที่ผมล้มตัวนั้น "จ้าก......ขี้หมา" แต่ผมไม่ได้ล้มไปทับมันนะ.....อิอิ แค่เห็นกองอยู่ใกล้ๆตัวผมมาก


หลังจากที่ผมลุกขึ้นมา ผมตะโกนบอกเพื่อนๆว่า "เฮ้ยพวกมรึงเล่นกัน ระวังขี้หมานาโว๊ย" พวกเพื่อนผมมันเล่นบอลกันอย่างเมามัน ไม่มีใครจะสนใจกับคำเตือนของผม


แล้วนี่แหละ คือต้นตอของเรื่อง เพื่อนผมมันชื่อ "หนุ่ม" ไอ้เพื่อนคนนี้มันเล่นบอลเล่นแบบมันส์ ไม่ลืมหูลืมตา เล่นแบบใครอย่าขวาง ข้าจะยิง แล้วมันเตะๆอยู่ มันดันถอดรองเท้าอีก ผมก็ตะโกนบอกมันว่า "เฮ้ยหนุ่มระวังขี้" ผมบอกมันเป็นสิบๆรอบมันไม่ฟัง ซ้ำยังเตะเท้าเปล่าต่อไปอย่างเมามัน จนไอ้หนุ่มมันวิ่งตรงไปยังกองขึ้หมาโดยที่มันไม่ได้รู้ถึงอันตรายที่มันจะได้รับ ผมตะโกนบอกมันรอบสุดท้ายพอดี "ไอ้หนุ่มระวังขี้"


นั่นแหละคับ มันหันมาแต่ตีนมันเหยียบไปเต็มๆ แถมมันถอดรองเท้าอีก โอ้โห ขึ้มันปลิ้นตามง่ามนิ้วเท้ามันเลยครับบ หลังจากที่มันเหยียบ มันหันมามองพวกผม พวกผมนิ่งเงียบกันหมด จนผมตะโกนว่า "เฮ้ยไอ้หนุ่มเหยียบขี้" เท่านั้นแหละครับวงแตกครับ จากที่เคยแบ่งข้างกันเล่น วิ่งกันวงแตกหมด ไอ้หนุ่มมันสะบัดขี้ที่เท้ามันกระเด็น พวกผมยิ่งหลบหนีมันอย่างสุดชีวิต จนมันไปล้างเท้า พวกผมตอนนั้นหัวเราะกันจนปวดท้อง ผมบอกเพื่อนๆว่า สมกรูเตือนแล้วมันไม่ฟัง เพื่อนๆยิ่งฮากันเข้าไป ผมยังอดขำไม่ได้ปวดท้องไปหมด จนมันมา พวกผมเลยไปนั่งรวมตัวกันที่กลางลานที่เข้าประชุม


มีคนอยู่ในลานนั้นประมาณร้อยกว่าๆได้ พอไอ้หนุ่มมันเดินมา พวกผมนัดกันตะโกนบอกว่า "หาอะไรนะ ไอ้หนุ่มเหยียบขี้" แล้วมันเสียงดังจนทำให้ร้อยกว่าคน หันมาดูกลุ่มพวกผมว่าตะโกนอะไรกัน กลุ่มผมยังย้ำต่อเพื่อให้คนได้ยินกันทั่ว โดยใช้ข้อความเดิม "หาอะไรนะ ไอ้หนุ่มเหยียบขี้" แล้วเพื่อนๆทั้งกลุ่มยังชี้ไปที่ไอ้หนุ่มเพื่อนผมอีก ว่า มันนี่แหละชื่อหนุ่ม


วันนั้นกินข้าวกันไม่ลงเลย ปวดท้องกันไปหมด หัวเราะมากไปหน่อย น้ำตาไหลด้วย มันอายมากจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนแล้ว ไอ้หนุ่มเพื่อนผม...อิอิ พวกผมจึงตั้งฉายาให้ มันว่า "หนุ่ม C4" (C4 ในที่นี้คือระเบิดครับ)………









โดย yyswim



Create Date : 25 กรกฎาคม 2549
Last Update : 25 กรกฎาคม 2549 16:35:26 น. 59 comments
Counter : 1504 Pageviews.

 



ดาราดังเมื่อหลายปีก่อน



หลายคนใน Bloggang เป็นคนรุ่นใหม่ รุ่นเล่นเกมออนไลน์ ถ่ายวีดิโอจากมือถือ หรือรุ่นAcademy Fantasia ถ้าพูดนักร้องก็เป็นยุค ไมค์ กอล์ฟ หรือไม่ก็ พี่บีม


หลายคนอาจจะยังไม่รู้จัก ดาราบางคนที่จะเขียนถึง เป็นดาราดังเมื่อหลายปีก่อน เมื่อหลายปีก่อนเขาและเธอเหล่านี้เป็นดาราดังมากทีเดียว หากไม่เชื่อก็ลองถามพี่ๆ หรือลองถามคุณอาคุณน้าดูก็ได้ แต่เพราะความสามารถของเขาและเธอ ที่บางคนยังมีผลงานอย่างต่อเนื่อง หลายคนจึงยังมีชื่อเสียงติดลมบน ที่เจิดจรัสทอแสงจนเป็นที่รู้จักเรื่อยมาจนถึงคนรุ่นปัจจุบันด้วย


น่ายกย่อง น่ายกย่องมาก

เรื่องความสามารถของเขาและเธอ …เพราะเขาและเธอดังมากเมื่อหลายปีก่อน ความสามารถในการแสดงและการขับร้องของเขาและเธอ จึงอยู่ในอันดับต้นๆของประเทศ ผมขอยืนยันครับ


อย่างไรก็ดี เขาและเธอเหล่านี้ก็เป็นบุคคลธรรมดา ที่บางครั้งก็เคยมีเรื่องหน้าแตกเล็กๆน้อยๆมาบ้าง วันนี้มารู้จักเขาและเธอในเรื่องเล็กๆน้อยๆเหล่านั้นกัน เอามั๊ย…..



41. เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์



ตอนถ่ายละครเรื่องคู่กรรม พี่จะต้องมีบทพูดเป็นภาษาญี่ปุ่นด้วย ทางทีมงานก็จะมีวีดิโอภาษาญี่ปุ่นมาให้พี่ฝึก และก็มีคนญี่ปุ่นคนเป็นๆจริงๆ 2 คน มาคอยควบคุมอีกที ช่วงที่เริ่มถ่ายทำใหม่ๆ พี่ก็มีปัญหาพอสมควรเกี่ยวกับภาษาญี่ปุ่น


มีอยู่วันหนึ่งพี่มีคิวถ่าย และก็มีชาวบ้านแถบนั้นมาดูกันเยอะพอสมควร พอเริ่มถ่ายปุ๊บพี่ก็เริ่มพูดภาษาญี่ปุ่น แต่ความที่ไม่คล่อง พี่ก็เลยพูดเหมือนกับบทสวดมนตร์ คือมันต่อเนื่องพูดยาวโทนเสียงเดียวกัน คนญี่ปุ่นที่มาควบคุมเค้าก็หัวเราะกันใหญ่ ทีมงานและชาวบ้านแถวนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง หัวเราะขึ้นพร้อมๆกันเหมือนกับว่านัดมายังงั้นแหละ….



42. ตู่ นันทิดา แก้วบัวสาย



มีครั้งหนึ่ง พี่ต้องทำหน้าที่เป็นคนบอกเนื้อเพลงให้ท่านรองนายกท่านหนึ่ง ชื่อเพลง “Because of You” ก็มีสุภาพสตรีท่านหนึ่งจากข้างล่างส่งโน้ตบันทึกเขียนด้วยลายมือตัวเองส่งขึ้นมาให้ ดนตรีก็ขึ้นอินโทร ทันที พี่ก็รีบกระซิบบอกเนื้อเพลงข้างหลังท่านตามบันทึกนั้น แต่ก็รู้สึกนะว่าเนื้อเพลงมันขาดๆเกินๆไม่ลงกับดนตรี คนข้างล่างก็เริ่มขำท่านเล็กๆแล้ว แต่ท่านก็พยายามจะร้องให้ลงตัวกับโน้ตดนตรีให้ได้


ร้องไปสักสองสามท่อน ตู่ก็รู้แล้วว่า เขาส่งเนื้อเพลงมาให้ ผิดเพลง เพราะเพลงที่ส่งมาให้เป็นเพลง “Autumn Leave” ต่างหาก ก็เลยกระซิบบอกท่าน ท่านก็หัวเราะก๊ากหน้าแดงเลย ท่านขอโทษผู้ฟังแล้วท่านก็เปลี่ยนร้องเพลงใหม่


ตู่ว่า ท่านคงไม่ได้โกรธตู่มากหรอก แต่ท่านอาจจะขำว่า เป็นถึงนักร้องอาชีพ จะขอพึ่งพาหน่อยก็ไม่ได้ ตู่น่ะอายมากๆ….



43. อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง



เมื่อตอนที่เล่นละครเวที กับพี่เอก ธเนศ วรากุลนุเคราะห์ พอฉากหนึ่งจบ กำลังเปลี่ยนฉากใหม่ก็จะรีบเข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่เพราะเสื้อผ้าของนักแสดงวางกองรวมกันและต้องรีบสวมให้ทันเวลา พอฉากใหม่เปิดออก และตอนนั้นยืนอยู่กลางเวทีกับพี่เอกแล้ว ก็รู้เลยว่า หยิบกางเกงสลับกับของพี่เอกออกมา มองหน้าพี่เอกต่างคนต่างก็เข้าใจแต่ก็ขำไม่ออก เพราะกำลังแสดงอยู่หน้าเวที…..



44. แดง ธัญญา วชิรบรรจง



ตอนที่พี่เพิ่งเข้าสู่วงการใหม่ๆ ตอนนั้นยังเป็นนางแบบมากกว่าเป็นนักแสดง มีอยู่วันหนึ่งพี่ไปดูหนังที่โรงหนังเอเธนส์ พอหนังเลิก พี่ก็ยังเดินเล่นดูเสื้อผ้าที่เขาโชว์อยู่หน้าร้าน มีอยู่ชุดหนึ่งสวยมาก แบบแปลกตาก็อยากจะซื้อ จึงตัดสินเดินเข้าไปข้างใน แล้วก็ดังโป๊กที่หน้าผากพี่ เพราะพี่เดินชนประตูกระจกของร้านเขา อายมากๆๆๆ พี่กลับบ้านเลย ไม่ซื้อแล้วชุดนั้น…..



45. แหม่ม จินตหรา สุขพัฒน์



พี่เกียรติ พี่เขาเป็นผู้จัดการ สันติสุข (พรหมศิริ) เขาโทร.มาฝากข้อความไว้ที่บ้าน ตอนนั้นแหม่มไปเชียงใหม่ เขาสั่งไว้ว่าให้แหม่มไปงานซับน้ำตาชาวใต้ ที่ช่อง 9 ตอนสามทุ่ม พอแหม่มกลับจากเชียงใหม่ถึงบ้าน ก็รีบโทร. ไปถามพี่เขาว่า จะให้ไปช่วยอะไรในงานที่ช่อง 9 พี่เขาบอกว่า ให้ไปช่วยรับโทรศัพท์ แล้วพี่เขาบอกต่ออีกว่า พอไปถึงงานก็ให้ไปพบกับคุณอารีย์ นักดนตรี แหม่มก็บอกว่า แหม่มไม่ร้องเพลงนะ ทำไมให้ไปพบนักดนตรีล่ะ


แหม่มเพิ่งมารู้ทีหลังว่า พี่อารีย์ เค้านามสกุล “นักดนตรี” อุ๊ยตายหน้าแตก เพราะความที่ไม่รู้จักพี่เขามาก่อน….



46. หนุ่ม สันติสุข พรหมศิริ



ตอนหนุ่มเริ่มเล่นหนัง “คำมั่นสัญญา” เรื่องแรก ตอนนั้นแหม่มเค้าใครๆก็รู้จักแล้ว พอไปโชว์ตัวที่ไหนๆ ใครๆก็กรี๊ดต้อนรับแหม่ม แต่กับหนุ่ม ไม่มีเสียงกรี๊ดเลย อายมาก หรืออย่างตอนจะแสดงหนัง “คนทรงเจ้า” ผู้กำกับก็นำไปที่บ้านคนทรงเจ้า ไปดูว่าท่าทางของคนทรงเจ้าจริงๆเป็นยังไง ตอนจะกลับคนทรงเจ้าเขาก็ทักว่า หน้าตาแบบนี้น่าจะไปเล่นหนังนะ คือเขาก็ยังไม่รู้จักเลยว่าหนุ่มเป็นใคร อายเค้ามั๊ยล่ะ……



47. ชรัส เฟื่องอารมณ์



มีอยู่ครั้งหนึ่งพี่ไปเดินเล่นที่ห้าง ตอนนั้นเพลงของพี่ก็ติดลมไปแล้ว มีคนทักทายพี่เยอะ มองพี่ก็เยอะ มีมองทั้งหญิงทั้งชาย ทั้งเด็กวัยรุ่น ก็เขินๆเหมือนกัน


มีสาวๆกลุ่มหนึ่งเขาซุบซิบกันแปลกๆ พี่ก็เลยรู้สึกว่าผิดปกติ เลยลองลูบผมลูบหน้าดู ว่ามีอะไรติดอยู่มั่งรึเปล่า ก้มมองเสื้อ ก้มมองรองเท้า แล้วลองสัมผัสที่ซิปดู อ้าว ตายจริง พี่ลืมรูดซิปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย….



48. อ้อม สุนิสา สุขบุญสังข์



มีช่วงหนึ่ง หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งลงข่าวว่าอ้อมไม่สบาย ซึ่งที่จริงก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่นิดหน่อยเอง ทีนี้พอไปเดินสยาม ก็มีคนคอยห่วงใย คอยเข้ามาถามว่า “หายแล้วเหรอ” “ทำไมไม่นอนพัก” เมื่อมีคนทักบ่อยๆ อ้อมก็เริ่มไม่สนุกแล้ว เพราะต้องคอยยิ้ม ต้องคอยตอบตลอดเวลาว่าไม่ได้เป็นอะไร


เดินไปอีกพัก ก็ได้ยินเสียงคนเรียกอีกแล้ว อ้อมก็เลยหันไปยิ้มให้ แล้วก็บอกเลยว่า “อ้อมสบายดีค่ะ ขอบคุณค่ะ” ผู้หญิงคนนั้นเค้าก็ยืนงง มองหน้าอ้อมแล้วก็ถามว่า “อะไรหนู ป้าแค่จะถามว่ากี่โมงแล้ว” โอ้โฮ แตกสนิทเลย……



49. เปิ้ล หัทยา วงศ์กระจ่าง



มีครั้งหนี่งเปิ้ลกำลังรีบเปลี่ยนแผ่น แต่ลืมปรับสปีด แล้วก็รีบไปเข้าห้องน้ำ กลับมาก็มีคนโทร.เข้ามาถามหลายคนว่า ทำไมเมื่อกี้เปิดเพลงเร็วดีจัง แล้วอีกหนหนึ่งกำลังจัดรายการอยู่ แต่ตอนที่จะนั่งลงบนเก้าอี้ ตอนนั้นเก้าอี้มันเลื่อนไป แต่ตัวเองนั่งไม่ระวังตัว เก้าอี้ก็เลยเอียงคว่ำเสียงดังทีเดียว แฟนเพลงก็โทร.เข้ามาอีก ถามว่าตะกี้เสียงอะไรดัง สงสัยเสียงเก้าอี้ล้มมันคงจะออกอากาศไปด้วยล่ะ…..



50. แซม ยุรนันท์ ภมรมนตรี



ผมไปซื้อของแถวสีลม พอซื้อเสร็จก็กลับมาที่รถ พอรถเคลื่อนออกไป จึงนึกได้ว่าลืมของไว้ที่ในร้าน จึงบอกให้คนรถขับกลับไปที่ร้านใหม่ พอลงจากรถก็บอกคนขับรถว่า ให้ขับไปวนรถอีกรอบหนึ่งแล้วกลับมาใหม่ จะได้ไม่ต้องจอดไกลและขึ้นรถที่หน้าร้านเลย


เข้าไปหยิบของในร้านเสร็จ กลับออกมา ก็มีรถจอดรออยู่แล้ว ก็เลยเปิดประตูหลังขึ้นนั่ง อ้าว ไม่ใช่คนขับรถนี่ อ้อ รถมันคนละคัน แต่รถยี่ห้อเดียวกัน สีเดียวกันเลย นั่นซิถึงว่า ทำไมถึงกลับรถมาได้ไวนัก…….


51. เอ็ม สุรศักดิ์ วงษ์ไทย



เมื่อวันไปงานเปิดตัวบริษัท เวิร์คพอยส์ กว่าเอ็มจะไปถึงงาน ก็ไปสายกว่าคนอื่น เห็นแขกเค้าเต็มไปหมดแล้ว ด้วยความหิวก็เลยเดินตรงไปที่โต๊ะอาหารก่อนเลย กะว่าเดี๋ยวค่อยเข้าไปสมทบข้างใน ระหว่างหยิบโน่นหยิบนี่กินไปเรื่อยๆ ก็มีเพื่อนดารามาตบบ่าว่า จะรีบไปถึงไหน งานยังไม่เปิดเลย ยังไม่มีใครเขากินกันเลย……



52. บดินทร์ ดุ๊ก

จำได้แม่นเลยวันนั้น วันเปิดกล้องหนังเรื่อง “ไม่รักได้ไง” เป็นฉากที่ ดุ๊ก ต้องขี่มอเตอร์ไซค์และต้องเลี้ยวโค้ง ผู้กำกับเค้าก็ถามว่า “ไหวมั๊ย” ดุ๊กก็บอกว่า “สบายเลย” ที่จริงแล้ว ดุ๊ก ขี่ไม่ค่อยเป็นหรอก แต่วันนั้นเป็นวันเปิดกล้อง มีผู้ใหญ่แล้วก็สื่อมวลชนมากันเยอะมาก ก็ต้องรักษาฟอร์มว่าไหว พอผู้กำกับสั่งแอ๊คชั่น ผมก็บิดมอเตอร์ไซค์มาที่โค้ง แต่ความที่ไม่ค่อยคล่องกับเบรกแล้วก็มีการตีโค้ง รถก็เลยบังคับไม่อยู่ แหกโค้งไปชนฟุตบาท กลิ้งเลย ไม่วายเสียฟอร์มจนได้…..



53. บิลลี่ โอแกน



ผมไปเดินเที่ยวที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง วัยรุ่นกลุ่มหนึ่งก็เข้ามาทักว่า “ทำไมพี่ถึงชื่อบดินทร์ ดุ๊ก” “นอกจากละคร “ตำรับรัก” แล้วพี่ยังมีละครอะไรอีก” ผมก็ไม่รู้จะตอบเขายังไง


เอ….ผมว่าหน้าผมไม่เหมือน ดุ๊ก สักหน่อย รึว่า ชื่อมันไม่ค่อยแบบไทยๆเหมือนกัน……



54. แอน สิเรียม



ตอนนั้นแอนถูกเชิญไปร้องเพลงที่ “ธนบุรีคาเฟ่” แอนไม่ได้ใส่ชุดนักร้องไปหรอก ใส่กางเกงยีนส์ธรรมดาไป เพราะรู้ตัวว่าไม่ใช่นักร้อง แอนก็เตรียมเพลงไปร้อง 3 เพลง จำได้ว่าเพลงหนึ่งเป็นเพลง “น้องเป็นสาวขอนแก่น” แต่อีก 2 เพลงจำไม่ได้แล้ว แอนร้องไม่ค่อยเป็นหรอก เสียงก็ไม่เพราะ วันนั้นรู้สึกจะร้องผิดคีย์ตลอดด้วย ผลคือไม่มีใครมาคล้องพวงมาลัยให้เลยสักพวงเดียว พวงที่เขาติดเงินไว้น่ะ อายมาก นักร้องคนอื่นเขาได้มาลัยกันคนละเป็นพันเป็นหมื่น…..


55. โด่ง อรรถชัย อนันตเมฆ

มีอยู่วันหนึ่งผมไปเดินแบบที่พัทยา รู้สึกจะเป็น “พัทยาพาเลเดี้ยม” แคทวอล์คเขาจัดไว้สั้นกว่าปกติทั่วไป ทีนี้พอจะเดินแบบเขาก็ปิดไฟเกือบมืด ผมก็ถามผู้กำกับเวทีว่าจะเดินได้เหรอมันมืดมาก ผู้กำกับเวทีบอกว่าเดี๋ยวจะฉายไฟให้ ไม่ต้องกลัว ผมเป็นคนเดินคนแรก พอเดินออกไป สปอร์ตไลท์ก็ส่องมาเข้าตาเลย จ้ามาก ทำให้ผมมองแคทวอล์คไม่เห็น ก็เลยใช้วิธีกะก้าวเอา เพราะเคยเดินประมาณ 8 – 9 ก้าวก็จะพอดี ทีนี้พอเดินไปก้าวที่ 7 เท่านั้นแหละ พ้นขอบเวที ร่วงลงข้างล่างไปเลย คนดูหัวเราะกันใหญ่……



56. เบ็คกี้ ริสา หงส์หิรัญ

ตอนนั้นไปเดินแบบที่โรงแรม สยามอินเตอร์คอนฯ คนดูก็มากันมาก แล้วเขาก็เปิดดรายไอส์ ซะเป็นหมอกขาวหนา เบ็คกี้ก็เดินระวังตัวแล้วแต่ว่าพื้นมันลื่น พอถีงจุดหมุนตัว จะไม่หมุนก็ไม่ได้ พอหมุนเท่านั้นแหละ ลื่นเลย บางคนก็ตกใจ บางคนก็หัวเราะ แต่เบ็คกี้รู้สึกอายมาก……



57. เจค ศตวรรษ ดุลยวิจิตร

ผมไปเดินแฟชั่นของ โดมอนแมน ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เขากำหนดโปรแกรมการเดินโดยมีคิวว่าตรงไหนเดินอย่างไร ตรงไหนจะยื่นดอกไม้ให้ผู้ชม พอเดินจริงๆ พอผมยื่นดอกไม้ตรงจุดกำหนดให้กับผู้หญิงคนหนึ่งที่บังเอิญยืนอยู่ตรงนั้น เธอก็ไม่ยอมยื่นมือมารับ พอผมยื่นให้เธอหลายหนเข้า เธอคงจะรำคาญและอายที่คนหัวเราะเธอกันใหญ่ เธอก็เลยรับไว้แล้วทิ้งไว้ตรงนั้นเลย ผมน่ะยิ่งอายกว่าเธออีก…….



58. กี้ อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง



ตอนที่เทปผมเพิ่งจะออกใหม่ๆ ตอนนั้นคนยังไม่รู้จักผม ยังไม่ค่อยคุ้นเสียงผม ทางเดลินิวส์มีนัดสัมภาษณ์ผมที่สำนักพิมพ์ ผมก็ไป ทีนี้รถผมเสีย ผมก็ต้องไปกับแท็กซี่ ระหว่างที่นั่งอยู่ในรถเค้าก็เปิดวิทยุฟังเพลงรายการหนึ่ง พอดีทางรายการกำลังเปิดเพลง “ไม่เจียม” ของผม ผมก็เลยถามเค้าว่า “เพลงนี้เป็นไงบ้าง” เค้าก็ตอบว่า “ใครวะ เสียงห่วยชิบเป๋ง” ผมก็เลยต้องนั่งยิ้มๆไม่กล้าให้เขารู้จัก…..



59. สามารถ พยัคฆ์อรุณ



ตอนที่ยังเป็นนักมวย และเพิ่งเข้ากรุงเทพใหม่ๆ ตอนนั้นยังไม่ค่อยมีเพื่อน มีอยู่คืนหนึ่งต้องเฝ้าห้องอยู่คนเดียวอยู่บนชั้น 4 คิดว่าตอนนั้นทั้งชั้นคงจะมีผมอยู่คนเดียว เพราะห้องอื่นปิดห้องกันหมด


ก็ได้ยินเหมือนกับเสียงคนเคาะอะไรสักอย่าง ออกมาเปิดหน้าห้องก็ไม่มีใคร ก็ปิดประตูกลับเข้าไปในห้อง สักพักหูก็ได้ยินอีก ออกมาเปิดดูหน้าห้องก็ไม่มีใครอีก ตอนนี้ผมก็ชักกลัวผี แต่อีกใจ รึว่ามีคนมาแกล้งเรา กลับเข้าไปในห้องคราวนี้ก็ตั้งใจฟัง พอได้ยินเสียง ไม่รีรอแล้ว รีบเปิดประตูไปดูหน้าห้องทันที เอ๊ะ ไม่มีใครอีก


ชัดเลย ชัวร์เลย ผีซิครับ ผมรีบลงมายืนรอนั่งรอเพื่อนๆอยู่ข้างล่างเลย ถึงเป็นนักมวยก็ไม่อยู่คนเดียวหรอก….


60. กวาง กมลชนก เขมะโยธิน

ตอนนั้นกวางถ่ายละคร “คู่กรรม” อยู่กับพี่เบิร์ด นะค่ะ ต้องเล่นเป็น อังศุมาลิน เป็นชาวสวน พอเริ่มถ่ายพี่เบิร์ดเขาก็บอก “เอ๊ะ กลิ่นอะไร เหมือนๆขี้หมา” กวางก็บอก “อืมม จริงด้วยแหละ” สูดไปสูดมาพี่เบิร์ดเขาก็บอกว่า “มาจากกวางนี่แหละ” เออ จริงด้วยแหละ เท้ากวางไปเหยียบขี้หมาที่ไหนก็ไม่รู้ กวางไม่รู้ตัวเลย อายมาก….



61. โจ จิรายุส วรรธนสิน



ผมมีเสื้อยืดแขนยาวสีขาวของ เซนต์ไมเคิล อยู่ตัวหนึ่ง เสื้อมันดี ผ้าดี สวย ตะเข็บก็บาง วันหนึ่งเอามาใส่ ก็ลองใส่กลับข้างเอาตะเข็บออกข้างนอก ดูกระจกแล้วมันก็สวยดี แต่คนอื่นเขาดูตลก เจอไอ้จอห์นกับไอ้ก้องก็ทักว่า เสื้อกลับ ผมกลบเกลื่อนไปว่า ไม่หรอก รุ่นนี้เขาตั้งใจ เสร็จแล้วก็ต้องแอบเข้าไปเปลี่ยนในห้อน้ำ ใส่ให้ถูกข้าง จะทำเก๋ก็ไม่ได้ คนมันหัวเราะ…….


62. จอห์น รัตนเวโรจน์

ตอนออกรายการช่วยชาวใต้ของช่อง 9 อสมท พวกเราเล่นเพลง “ทิ้งมาได้เลย” เพลงมัน พวกผมเต้นกันมันมาก จนเวทีสั่น พอสั่นมากเข้า คีย์บอร์ดก็สั่นจนตกจากเวทีเลย เวทีเขาทำไว้มันไม่แข็งแรงน่ะ ก็หน้าแตกกลางอากาศเพราะกำลังออกอากาศอยู่ด้วย…..



63. หนุ่มเสก เสกสรร ชัยเจริญ



ปกติหนุ่มจะชอบเย้าแหย่ผู้หญิงคนหนึ่ง ตอนเดินเข้าบริษัท คีตา เพราะผมของเธอจะยาวสวยและนิ่มมาก หนุ่มจะชอบจับผมเธอดึงทุกครั้ง


เช้าวันหนึ่งหนุ่มเดินเข้าบริษัท เห็นเธอจากข้างหลัง ก็เข้าไปดึงผมของเธออีก พอเธอหันมาเท่านั้นแหละ ตกใจมาก เธอเป็นอีกคน ไม่ใช่ผู้หญิงคนเดิมที่รู้จัก คนในบริษัทเขาก็เฮลั่น หนุ่มก็ได้แต่รีบขอโทษเขาแล้ว ก็รีบขึ้นบันไดไปเลย เขินมากกก……


64. น้อง พรสุดา ต่ายเนาว์คง

วันนั้น น้องไปถ่ายรายการ “ท้าพิสูจน์” เพื่อนน้องซึ่งเป็นพิธีกรรายการ “ชีวิตพิสดาร” ก็ติดรถไปด้วยกัน ระหว่างนั่งไปในรถ เพื่อนน้องถามน้องว่า “น้องสังกัดกันตนาหรือเปล่า” น้องก็ตอบว่า ”เปล่า น้องไฟแนนซ์”


เพื่อนน้องเขาก็ทำหน้างง ถามน้องว่า “มันเป็นยังไง” น้องก็บอกว่า “อ้าว ก็แบบอิสระ รับจ๊อบอิสระไง แหมแค่นี้ ก็ไม่รู้”


เพื่อนของน้องก็สวนกลับมาทันทีว่า “ฟรีแลนซ์จ๊ะ อิสระ ไม่ใช่ไฟแนนซ์” เท่านั้นแหละฮากันทั้งรถตู้เลย…..


65. โอ วรุฒ วรธรรม



เพื่อนโอเค้าแต่งงาน เค้าเลยชวนโอไปในงานแต่งด้วย พอถึงช่วงเวลาอวยพรคู่บ่าวสาวบนเวที โอก็แปลกใจว่าทำไมเขาต้องเชิญโอ ให้ขึ้นไปอวยพรคู่บ่าวสาวด้วย


โอขึ้นไปยืน ตอนนั้นงงไม่รู้จะพูดอะไร พิธีกรเขาก็บอกว่า “ขอโทษครับ ไม่ใช่คุณโอวรุฒครับ เป็นคุณโอ……น่ะครับ”

โอ๊ย คุณเอ้ยยย แทบจะมุดดินเลย……



66. บิณฑ์ บันลือฤทธิ์



วันหนึ่งผมนั่งเครื่องบินไปลงหาดใหญ่ พอลงจากเครื่อง มองออกไปด้านคนมารับ เผื่อจะเจอคนรู้จักบ้าง เพราะจะต้องเข้าไปในตัวเมืองหาดใหญ่ ก็เผอิญเจอผู้หญิงคนหนึ่งโบกไม้โบกมือเป็นการใหญ่ ผมก็ว่าผมไม่รู้จักเค้าหรอก แต่เมื่อมองรอบๆตัวก็ไม่มีใครมองไปที่เค้า ผมก็เดาไปว่าอาจจะเป็นแฟนหนังของผมก็ได้ ผมก็เลยยิ้มให้และโบกมือบ้าง แล้วก็เดินเข้าไปหาเค้า แต่เค้าไม่มองจ้องหน้าผมเลย เขามองไปแต่ข้างหลังผม ผมก็รีบลดมือลงอย่างเก้อๆ แล้วรีบเดินออกจากสนามบินไปหารถข้างนอก ให้เร็วที่สุด…….



67. วิลลี่ แมคอินทอช



ตอนที่ถ่ายหนังเรื่อง “ธันยาแม่มดยอดยุ่ง” เรื่องนี้เล่นคู่กะหมิว ผู้กำกับ คือ คุณอาพรพจน์ ก็ให้บทผมมาก่อน แต่ก็อธิบายในบทที่ให้มาว่า ตอนไหนจะเป็นยังไง พอดีผมไม่ได้อ่านบทตลอด เพราะรู้ดีว่าเข้าใจเนื้อเรื่องแล้ว


พอถึงวันถ่ายจริง ผู้กำกับบอกว่า “ให้เชยคาง” ผมก็เชยคางของผม ในกองถ่ายเขาหัวเราะกันใหญ่เลย เพราะตามบทผมจะต้องเชยคางให้หมิว…..





……ขำกันบ้างมั๊ยเนี่ย…….

ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน




โดย: yyswim วันที่: 25 กรกฎาคม 2549 เวลา:16:37:13 น.  

 
เข้ามาเยียม blog ค่ะ (หลังจากห่างหายไปนาน)
ข้อมูลยังแน่นเหมือนเดิมและยิ่งพัฒนามากกว่าเดิมด้วยค่ะ
ดีใจจังดีมีแหล่งข้อมูลดีๆอ่าน

** ป.ล. มี blog มาแนะนำค่ะพอดีเพื่อนกำลังหัดเขียน
ว่างๆแวะไปเยี่ยมได้นะคะที่ king yan ค่ะ


โดย: rd_lam IP: 203.150.14.161 วันที่: 25 กรกฎาคม 2549 เวลา:18:32:57 น.  

 
เป็นบล๊อกที่ยาวมากๆ

แต่ละรูปขำๆดี


โดย: รักดี วันที่: 25 กรกฎาคม 2549 เวลา:19:18:53 น.  

 
คุณสินคะ
ตอนอ่าน กำลังทานข้าวเย็นอยู่
ลืมตัว ขำออกมา
พ่นข้าวออกมาหมดปากเลย
เอิ๊ก...เอิ๊ก...

เรื่องสนุกทุกเรื่อง
ช่างเก็บ ช่างจำดีจังเลยค่ะ


โดย: ซออู้ วันที่: 25 กรกฎาคม 2549 เวลา:19:23:39 น.  

 
ตลกดีครับ
...
เล่าบ้าง
ผมกับเพื่อนเพื่อนและครอบครัวไปเที่ยวปักกิ่งกัน
เดินเป็นกลุ่มใหญ่ไปเที่ยวในตลาดเช้า คนเยอะ จอแจ

สักพักมีเด็กสาวคนหนึ่งเดินเข้ามา แล้วมาคุยด้วย ผมยิ้มยิ้มเพราะฟังไม่รู้เรื่อง
แต่ยังเดินตามมาอีก (ผมเดาว่าน่าจะเป็นขอทานมั้ง)

ต่อมามีอาหมวยสาวชาวจีนมาอีก คราวนี้พาแม่มาด้วยมั้ง
เอาสิครับ เข้ามาทึ้งผมใหญ่สามสี่คน โล้งเล้ง โล้งเล้ง
อย่างกับปลาหมึก
เจ้าพวกเพื่อนเพื่อนตัวดี ไปยืนหัวเราะคนละมุม
ไม่ยอมช่วยกันเลย
คนทั้งตลาดหันมามองกันใหญ่
ยื้อดึงทั้งมือ ทั้งขา คนละข้างสองข้าง ไปคนละทิศทาง
(สงสัยคิดว่าผมเป็นญาติที่พลัดพรากกันไปสมัยอาก๋ง โล้สำเภามาหรือปล่าวหว่า)

ผมส่งภาษาอังกฤษ และพยายามสลัดมือ สลัดเท้าออก ไปคิดว่าคงไม่เข้าใจ
ไอ้เพื่อน เพื่อน แ-่งนั่งลงหัวเราะกันท้องแข็งแล้ว
แต่โชคดี

ได้คุณป้าผมมาช่วย ป้าหมู บู๊มากครับ
เหอ เหอ ด่าพร้อมกระโดดถีบครับ
กระโดดถีบอาหมวยพวกนั้นไปคนละทาง สองทาง ด่าเป็นภาษาไทยกำชับด้วยเหอ เหอ
ช่วยผมรอดชีวิตได้
อายมากครับ
...
สุดท้าย ป้ายังมาด่าผมอีก
มาอยู่ใกล้ป้า
เดินดีดีอย่าทำหล่อไปยิ้มหว่านเสน่ห์ คราวหลังไม่ช่วยแล้ว
...
เรื่องนี้พอกลับมาโรงแรม โดนเผาเละเป็นโจ๊กเลย
ผมไปไล่เตะพวกเพื่อนเพื่อนตัวดี ที่ไม่ยอมช่วยกัน
แค้นครับ
อายด้วย


โดย: เ ม ฆ ค รึ่ ง ฟ้ า วันที่: 25 กรกฎาคม 2549 เวลา:19:31:48 น.  

 
คิดไปคิดมา ทำเรื่องหน้าแตกนี่หลายเรื่อง เหมือนกัน
วันหลังไปเล่าที่ห้องผมบ้างดีกว่า
คริ คริ


โดย: เ ม ฆ ค รึ่ ง ฟ้ า วันที่: 25 กรกฎาคม 2549 เวลา:19:34:41 น.  

 
ฮา อ่านเพลิน ขำเกือบทุกตอนครับ


โดย: T_Ang วันที่: 25 กรกฎาคม 2549 เวลา:20:10:39 น.  

 
สวัสดีค่ะ .... เข้ามาอ่านเรื่องขำ ขำ ค่ะ อ่านไปยิ้มไปคลายเครียดดีจังค่ะ


โดย: Petit Patty วันที่: 25 กรกฎาคม 2549 เวลา:20:50:16 น.  

 
ขนาดยังอ่านไม่จบ ก็ยังอมยิ้มไปหลายฉาก
ดอดลงมาเขียนคอมเมนต์แทนที่คั่นหนังสือชั่วคราว
แล้วค่อยมาอ่านเรื่องหน้าแตกต่ออีกรอบหนึ่ง

ยาวดีแท้ครับ ถ้าแบ่งเป็นภาคได้ จะเวิร์คมากครับ


โดย: ดำรงเฮฮา วันที่: 25 กรกฎาคม 2549 เวลา:23:52:54 น.  

 
สวัสดีค่ะ นั่งอ่านไปขำไป อาจจะด้วยเพราะว่าไม่ได้เจอเองมั้งค่ะเนี่ยเลยขำไปแบบเว่อร์ๆ เลย แต่ถ้าหากว่าต้องเจอเองสงสัยขำไม่ออกแหงๆ เลยค่ะ

ขอบคุณสำหรับคำอวยพรแล้วก็กำลังใจนะค่ะ


โดย: JewNid วันที่: 26 กรกฎาคม 2549 เวลา:0:10:43 น.  

 

คุณ lam…..อูว์ เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยม คุณ lam มาเยี่ยมเป็นคนแรก ขอบคุณจ้า

เด๋วจะไปเยี่ยม Blog คุณสา ทันทีเลย ขอบคุณที่แนะนำ


คุณรักดี…..ชอบรูปปลากรอบเหรอคร้าบบบ



โดย: yyswim วันที่: 26 กรกฎาคม 2549 เวลา:0:25:28 น.  

 

คุณซออู้……ถ้าชอบ ถ้าสนุก

ผมขอขอบคุณนะครับ


เมฆ……ตกลง น้องสาวชาวจีน เขาชอบเมฆเพราะยิ้มให้ หรือเพราะเขาอยากจะขอเงินครับ

ยังไงยังไง เสน่ห์หนุ่มไทยนี่ แรงเนาะ ทั้งสาว ทั้งไม่สาว
โฮะโฮะ น่าจะมีภาพประทับใจนั้น โชว์

ถ้ามีเรื่องแนวนี้ จะไปรออ่านเลย สะกิดหน่อยนะ นายน่ะเขียนเก่ง



โดย: yyswim วันที่: 26 กรกฎาคม 2549 เวลา:0:30:10 น.  

 

ต๋อง…เหงาอะไรล่ะน้อง แต่เพราะดี

ฟังเพลงที่Blog ต๋อง ตั้งสามสี่รอบน่ะ


คุณPetit Petty……ขอบคุณครับที่บอกว่าอ่านไปยิ้มไป



โดย: yyswim วันที่: 26 กรกฎาคม 2549 เวลา:0:33:19 น.  

 

ดำฮา……อ่านไม่จบเหรอ มาอ่านอีกเมื่อไหร่กะด้าย

อยากจะให้แบ่งกี่ภาคล่ะ กลาง เหนือ อีสาน ใต้ พอไหม?



คุณนิด…..ผมก็คิดแบบเดียวกะคุณ ถ้าเจอกับตัวเองคงจะแทบมุดดิน โฮะโฮะ

แต่อ่านเรื่องของคนอื่น หนุกดี



โดย: yyswim วันที่: 26 กรกฎาคม 2549 เวลา:0:35:34 น.  

 
เขียนถึง 99 เรื่องแล้วเรอะ อู้ฮู ได้หนังสือแจกงานที่วัด เต็มเล่มแล้วซิเนาะ อิอิ โดย yyswim

ทราบได้อย่างไรครับเนี่ย แม่นเหมือนมีญาณวิเศษ
ผมกะเต็มที่เลยนะเนี่ย เผาผีเมื่อไร ออกหนังสือแจกฟรีเมื่อนั้น ให้คนมาขำในวันเผา ใครเศร้าไล่ออกจากงานทันที งานศพข้า ขอรับแต่คนฮาเท่านั้น แป่วววว.......



โดย: ดำรงเฮฮา วันที่: 26 กรกฎาคม 2549 เวลา:1:31:41 น.  

 
ต่ออีกนิด ลืมไป

คุณ yyswim เขียนเรื่องคุกอีกสักครั้งได้ไหมครับ
เอาเป็นชีวิตของ กกต. ในคุก น่าสน น่าสน

อย่างว่าหล่ะ กรรมไม่เลือกปฏิบัติ
จะแก่จะหนุ่ม คุกก็คือคุก

สงสารท่านอยู่เหมือนกัน
แต่นึกถึงตอนที่ท่านทำตัวหนา ๆ แล้ว ฮึ

ทำไมพวกท่านตอนทำไม่คิดกันเนอะ
สงสัย คงคิดไม่ถึงว่าจะมีวันนี้กระมัง


โดย: ดำรงเฮฮา วันที่: 26 กรกฎาคม 2549 เวลา:2:07:39 น.  

 
แวะมาอ่านครับ


โดย: Bluejade วันที่: 26 กรกฎาคม 2549 เวลา:5:50:05 น.  

 
อ่านไปอมยิ้มไป หายง่วงเลยคร้าบ ชอบ ๆ ๆ


โดย: 90210 วันที่: 26 กรกฎาคม 2549 เวลา:6:10:36 น.  

 
แหม ! โก๊ะเหมือนกันน่ะค่ะ มิ้วก็แอบยกมือด้วยนึงคน เรื่องโก๊ะ เป็นสาวซุ่ม (ซ่าม) นี่เป็นประจำ จนติดนิสัยเลยอ่ะค่ะ 5555 แต่ของคุณyyswim นี่เยอะเชียวน่ะค่ะ อิอิ

ปอลอ. มิ้วก็ไม่ได้ขับรถไปงานสนามเองอ่ะค่ะ เจ้านายขับส่วนมิ้วเป็นคนบอกชิดใน ชิดในหน่อยเพ้ แล้วเก็บตังค์อ่ะค่ะ อิอิ

ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมบล็อคน่ะค่ะ


โดย: ZaxZoPhone. วันที่: 26 กรกฎาคม 2549 เวลา:8:58:59 น.  

 
จุไม่ค่อยหน้าแตกนะ แต่เรื่องฮาๆ กับตัวเองมีเยอะ ไม่ถือว่าเป็นเรื่องหน้าแตก


ใช้เวลาอ่านยาวนานมาก บางเรื่องฮา บางเรื่องไม่ฮา ต่อมขำจุไม่เหมือนชาวบ้านค่ะ

ขอบคุณที่นำมาให้อ่านค่ะ


โดย: กระจ้อน วันที่: 26 กรกฎาคม 2549 เวลา:10:31:47 น.  

 

ดำฮา…..”หนังสือแจกงานที่วัด”….. ผมทราบได้ยังไง

ก้อ ตัวเอง ก็เขียนสำรองเอาไว้มั่งเหมือนกัน
แต่ยังเขียนมะค่อยเก่ง กลัวว่าพิมพ์แล้ว แขกจะเอาไว้เป็นเชื้อเพลิง แทนดอกไม้จันทน์น่ะ โฮะโฮะ

เรื่องคุก ก้อว่าจะลงเรื่อง “คู่มือติดคุก” แทน
แต่เด๋วจะไปทำ link ไว้ให้ที่ Blog “เรื่องคุก” นะครับ

ที่แนะนำให้เขียนเรื่อง กกต. มะกล้าเขียน โบราณท่านว่า “ไม้ล้มข้ามได้ แต่คนล้ม….” อุอุ ต่อคำเอาเอง


Bluejade…….ขอบคุณครับที่เข้ามาเยี่ยม

เรื่อง Oxford ของคุณ จะมีเขียนต่ออีกมั๊ย? จะรอตามอ่าน




โดย: yyswim วันที่: 26 กรกฎาคม 2549 เวลา:12:24:12 น.  

 

90210……อ่านไปอมยิ้มไป

มีอมยิ้มด้วยเหรอ รสอะไรอ่ะ


คุณมิ้ว…….ขอบคุณครับที่มาเยี่ยม หน้าแตกของผมก็มีบ้าง แต่ไม่มากอย่างที่เขียนไว้

อันนี้ ผมรวบรวมมาจากคนอื่น ที่เขายินดีโพสต์ไว้ครับ

หนังสือเรื่อง “หน้าแตก” เขาก็มีขายนะครับคลิกได้เลยที่นี่แต่ผมยังไม่ได้ซื้อ ถ้าใครชอบอ่าน ก้อลองหาซื้ออ่านได้


คุณจุ……เล่าเรื่องฮา บ่อยๆซิครับ
ผมจะติดตามอ่าน จะรีบเข้ามาอันดับต้นๆเลยยย

Blog ของนายหนหวยเป็น Blog ขวัญใจของผม Blogหนึ่งทีเดียวครับ
คุณจุเคยเข้าไปอ่านบ้างหรือเปล่า



โดย: yyswim วันที่: 26 กรกฎาคม 2549 เวลา:12:26:03 น.  

 
เรื่องหน้าแตกเหรอคะ มีเยอะค่ะ แต่ไม่ค่อยอาย
ทำหน้าเฉยๆ เวลาหน้าแตกค่ะ
แค่นี้ก็ไม่อายแล้ว อิอิ


โดย: mda IP: 203.159.0.10 วันที่: 26 กรกฎาคม 2549 เวลา:14:24:34 น.  

 
ลุงกล้วยก็มีนะครับ ประเภทบ้านนอกเข้ากรุง โอกาสหน้าขอเอามาร่วมแจมด้วยนะครับ


โดย: ลุงกล้วย วันที่: 26 กรกฎาคม 2549 เวลา:15:40:56 น.  

 
นึกว่ามีแต่เราที่ทำห้าแต้มหกแต้มอยู่บ่อย ๆ ดีใจวันนี้มีเพื่อนแล้วล่ะ

มีเหมือนกันนะคะเรื่องหน้าแตกเนี่ย จำได้ดีเลยแม้ว่ามันหลายปีมาแล้วนะ คราวนั้นเราไปคัดตัวโควต้าชมรมดนตรี ของมหาลัย ตำแหน่งร้องนำ มันเป็นวันเสาร์แต่เราอยากให้มันดูเรียบร้อย เลยแต่งชุดนัดศึกษาไปคนเดียวเลย คนอื่นๆเขาใส่กางเกงยีนกันทั้งนั้น

สัมภาษณ์เสร็จ ร้องจนเสร็จ กลับถึงหอพักถึงได้รู้ว่ากระโปรงมันซิปแตก ดีหน่อยที่เสื้อนักศึกษาที่ใส่วันนั้นมันยาว เพราะถ้าเป็นเสื้อนักศึกษาที่เขาใส่กันสมัยนี้ ประเภทคับๆสั้นๆล่ะก็ วันนั้นมีหวังโชว์สีชั้นในแหงๆ

แต่ถึงอย่างนั้นก็อายซะจนแทบไม่อยากไปฟังประกาศผลการคัดตัวเลยแหละ อายรุ่นพี่อายอาจารย์ที่เขาสัมภาษณ์อ่ะค่ะ แต่มานึกทีหลังก็ขอบคุณเขานะที่ไม่บอก เพราะถ้าบอกเราคงสูญเสียความมั่นใจ จนร้องเพลงไม่ออกแน่ๆเลย

ผลก็คือเราได้เป็นนักร้องชมรมดนตรีสมใจค่ะ


โดย: บรรณภรณ์ วันที่: 26 กรกฎาคม 2549 เวลา:16:39:37 น.  

 
แอบมาอ่านหลายเรื่องแล้ว
วันนี้ขอเม้นด้วย
สุดยอดครับ บรรยายได้เห็นภาพดีครับ
อดนึกถึงตัวเองไม่ได้ แล้วก็นึกขำตัวเองเหมือนกัน


โดย: man@ (manatto ) วันที่: 26 กรกฎาคม 2549 เวลา:17:03:22 น.  

 
เอิ๊กๆ พี่สิน เพิ่งอ่านได้ 15 ตอน มาคอมเม้นต์ก่อนเดี๋ยวลืมคอมเม้นต์ครับ ฮาพี่ ฮา ขอกลับขึ้นไปอ่านใหม่ก่อนครับ เอิ๊กๆ


โดย: bite25 วันที่: 26 กรกฎาคม 2549 เวลา:17:58:30 น.  

 
ขำดีครับ

พี่สินขยันดี อุตส่าห์รวบรวมมาให้อ่าน


โดย: คนทับแก้ว วันที่: 26 กรกฎาคม 2549 เวลา:19:00:59 น.  

 
. . ชอบตอนที่เล่าเรื่องหน้าแตกของตัวเอง . . มันขำดี บางเรื่องเคยเกิดกับผมด้วยแหละ ว่าง ๆ อย่าลืมเข้าไปอ่านนะครับ

ขอแอดไว้ใน friend's link นะคับ


โดย: WaN-r-Tit IP: 210.4.144.67 วันที่: 26 กรกฎาคม 2549 เวลา:19:32:05 น.  

 
เข้ามาอ่านอีกวันหนึ่งค่ะคุณสิน
ทั้งขำ ทั้งสนุก อ่านแล้วอ่านอีก ชอบใจจริง ๆ
ขอบคุณคุณสินค่ะ ที่ทำให้วันนี้อมยิ้มไม่หยุดเลย


โดย: ซออู้ วันที่: 26 กรกฎาคม 2549 เวลา:22:20:02 น.  

 
ผมว่างสอบ 4 วันค้าบ...พี่สิน
เรื่องชวนขำทุกเรื่อง
พี่สินเขียนดีจริงเลย ชอบครับ...ชอบอ่าน.....
แต่ยาวมาก ผมอ่านตั้งนานกว่าจะจบ


โดย: basbas วันที่: 26 กรกฎาคม 2549 เวลา:22:37:21 น.  

 
เป็นการรวมเรื่องหน้าแตกดาราไว้มากเลยนะเนี่ย


โดย: ดนย์ วันที่: 26 กรกฎาคม 2549 เวลา:23:22:32 น.  

 

MDA……โอ๊ะ สุภาพสตรีเรียบร้อยก็มีเรื่องหน้าแตกเหรอ

แล้วเรื่องใดเหอ ลองเล่าซิ สัญญาว่าจะไม่อำ เพราะผมไม่ใช่หน้าหล่อแบบศรราม


ลุงกล้วย เข้ามา…..เชิญนั่ง เชิญนั่ง รับกาแฟรึรับอะไรดี นมเปรี้ยวมั๊ย พวกยาคู้ลน่ะ

อูว์ มีเรื่องขำๆดีๆด้วยเหอ ….พลี่ดดดดสสส




โดย: yyswim วันที่: 27 กรกฎาคม 2549 เวลา:0:59:41 น.  

 

น้องไบ๊ท์……555555 ชอบอ่านเรื่องแนวนี้กว่า “เรื่องคุก” เหอน้อง

ขอบคุณที่มอบกำลังใจให้พี่สิน


คนทับแก้ว…..อุ๊บ เข้ามาเยี่ยมได้ไง นึกว่ากำลังถือศีลอ่านหนังสือและเรียนหนัก

ขอบคุณที่บอกว่า ขำดี



โดย: yyswim วันที่: 27 กรกฎาคม 2549 เวลา:1:05:16 น.  

 

WaN-r-Tit…..ผมขอนุยาด แอดบล็อกของคุณไว้บ้างนะครับ และจะเข้าไปเยี่ยมคุณบ่อยๆด้วย

มีเรื่องขำๆมั่งเหรอครับ


คุณซออู้…..ขอบคุณหลายๆครั้งเลย ที่มอบกำลังใจมาอ่านจนจบ และอ่านบ่อยๆ



โดย: yyswim วันที่: 27 กรกฎาคม 2549 เวลา:1:09:56 น.  

 

น้องbas…..ข้อสอบ หมูใช่มะ น้องbas ซะอย่าง

พัก 4 วัน อ่านแล้วติวกับเพื่อนเป็นดีที่สุด พอเข้าใจแล้ว จะไม่ต้องท่องจำ ทำข้อสอบแบบเขียนและคิด ลื่น เชียวละ

ผลสอบที่ดี เกิดกับผู้ที่เข้าใจวิชาเรียนเท่านั้นนะครับ


ดนย์…..ผมมีความสามารถยังไม่ถึงเกณฑ์ครับ

ไม่มี ของเคน ของแอนทองประสม ของทาทา ของไมค์ กอล์ฟ หรือของอั้นพัชราภา โฮะโฮะ




โดย: yyswim วันที่: 27 กรกฎาคม 2549 เวลา:1:10:53 น.  

 
ขำก๊ากเลยเรื่องหลับบนรถเมล์จนรถโดนชนแล้วยังหลับไม่รู้เรื่องอะครับ 555+

วันหลังบอกคนอื่นมั่งดีกว่าว่าผมทำไฟแนนซ์


โดย: พลทหารไรอัน วันที่: 27 กรกฎาคม 2549 เวลา:8:07:46 น.  

 
โหยยยยย เรื่องหน้าแตกเยอะจัง ..5555
.
.
ผมก็เคยนะ คือผมไปพัทยา
แล้วไปเล่นสไลด์เดอร์อ่ะ
แบบว่าเล่นดีๆ ไม่เคยทำกะเขาหรอก อิอิ
เขาห้ามเอาหัวทิ่มลง ผมก็ทำ
แล้วไอ้กุงเกงที่ใส่เล่น มันเป็นกุงเกงบ๊อกเซอร์
พอไถลลงมา.....ขอบกุงแกงมันก็รูดขึ้น
55555 นึกภาพออกยังคับ ว่ากุงเกงผม
มันก็หลุดอ่ะดิ ....อิอิอิ
โคตรอายเรยยยยย แถมเอาไอ้นั่นถูลงมา
อีก ฮี่ ๆๆๆ ร้อนเป็นบ้า ดีนะที่ผมมีฉนวนกันความร้อนดี อิอิ

ปล. เมนต์แบบทาลึ่งได้ป่าวอ่ะคับ
เมนตืไปแล้ว คงไม่เป็นไรนะ ฮี่ ๆๆ


โดย: little-joe วันที่: 27 กรกฎาคม 2549 เวลา:9:01:20 น.  

 
ผมเป็นคนซุ่มซ่าม เด๋อด๋า ทำเรื่องหน้าแตกมาเยอะ จนหน้าหนาไปเรียบร้อยแล้วครับ


โดย: zmen วันที่: 27 กรกฎาคม 2549 เวลา:10:13:51 น.  

 
MDA ไม่ใช่คนเรียบร้อยสักหน่อย
เรื่องต่างๆ ที่เป็นอุบัติเหตุ ไม่ค่อยจะคิดว่าเป็นเรื่องหน้าแตกหรอกค่ะ ก็แค่อุบัติเหตุ เกิดขึ้นได้ทุกเวลา
อิอิ


โดย: MDA วันที่: 27 กรกฎาคม 2549 เวลา:11:02:14 น.  

 
ไม่มีเป็นไรค่ะ ... เดี๋ยวนี้การแพทย์ไทยทันสมัยมาก ๆ

หมอศัลยกรรมเก่ง ๆ ก้อแยะ ... ฝีมือดี เย็บแผล (หน้าแตก) ได้เนียนเชียว ^^


โดย: bird-narak วันที่: 27 กรกฎาคม 2549 เวลา:12:30:21 น.  

 
พี่สินครับ พวกผมห้าคนรอที่ร้าน เราจะเลี้ยงไก่พี่สินครับ


โดย: basbas วันที่: 27 กรกฎาคม 2549 เวลา:15:15:21 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคำอวยพรนะครับพี่สิน

เรื่องหน้าแตกเนี่ย ... มีเยอะมากครับ เคยไปเที่ยวกับเพื่อนแล้วด้วยความที่ชอบเดินหลังสุด + คนเยอะมากๆ ผมก็เดินๆ ไปด้วยความคิดว่าเพื่อนมันอยู่ข้างหน้า สักแป๊บนึง หันไปเห็นเสื้อสวย เลยแวะมาดู ตานั้นก็มองที่เสื้อด้วยความชื่นชอบสุดขีด มือก็ไปคว้าไหล่เพื่อนแล้วถามมันว่า "~เฮ้ย เสื้อตัวนี้สวยไหมวะ (ประมาณว่าขอความเห็นประกอบการตัดสินใจ แฮะๆ)" สัก 2-3 วินาที มันผิดสังเกตมากคือ เพื่อนไม่ตอบ เลยหันไปมอง ปรากฏว่าไปคว้าไหล่ใครก็ไม่รู้ 555 ตานี้...ผมก็ทำหน้าขอโทษแล้วรีบจ้ำอ้าวไปเลย เพื่อนเพิ่นไว้หาเอาดาบหน้า 555 ขอหนีความอายไปก่อนนนน


โดย: Due_n วันที่: 27 กรกฎาคม 2549 เวลา:17:13:04 น.  

 
-ขอบคุณครับพี่สิน ที่ชม
วันหลังจะเขียนให้อ่าน
เอาแนวไหนดีหว่า

(แนว อีโรติค ดีมั้ย)


โดย: เ ม ฆ ค รึ่ ง ฟ้ า วันที่: 27 กรกฎาคม 2549 เวลา:22:29:14 น.  

 
ขอบคุณคุณสินที่บอกเรื่องน้องดิว
แล้วถือโอกาสอ่านเรื่องหน้าแตกของใครต่อใครหลายคน โดยเฉพาะของเพื่อนที่มา comment
สนุกหลายต่อค่ะ

เอิ๊ก...เอิ๊ก...


โดย: ซออู้ วันที่: 27 กรกฎาคม 2549 เวลา:23:57:25 น.  

 
ขำค่ะพี่สิน

แต่อ่านไม่จบน้า

ดึกแล้ว ปวดตา แหะๆ

ยาวมากเลย วันหลังกลับมาอ่านใหม่ดีกว่า

ปล. อยู่บ้านได้ซักแป๊บแล้วค่ะ แต่อีกซักแป๊บก็ต้องกลับแล้วล่ะ
แง...ไม่อยากกลับเลย


โดย: PADAPA--DOO วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:1:39:03 น.  

 
มาขำๆ อ่านได้ถึงเรื่อง 26 ละครับ แต่ไม่ไหวละ ง่วงบวกขำพรุ่งนี้มาอ่านใหม่นะค้าบบบ


โดย: นายเจย์ IP: 58.9.38.88 วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:2:57:07 น.  

 
หวัดดีวันสุขค้าบบบบบบบบบบบบบ
.
.
.
ปล. วันนี้ผมอารมณ์ดีค้าบบบ


โดย: little-joe วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:9:04:05 น.  

 
บล็อกนี้ข้อมูลเพียบ และขอขอบคุณสำหรับข้อมูลของกรมการปกครองด้วยนะครับ เยี่ยมจริงๆ







โดย: สตล. ศ.ป้ามด (สเตอร์ลิงค์ ) วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:9:11:14 น.  

 

พลอั้น……ขำก๊าก เหมือนกัน เมื่อฟังดาราเขาพูดคำว่า ไฟแนนซ์

อ้อ มีอีกคำ คนอื่นข้างบ้านเขาพูดว่า ไปมอ มา
ไปที่ไหนนะ
ไปมอ มา
ที่ไหนค้าบ มอ ไหน (ตอนนั้นผมคิดว่าเขาไปมหาลัย)
ก้อ ไป มอ บางกะปิ มา
(อิอิ เดอะมอลล์ บางกาปิ๊)



โดย: yyswim วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:10:39:38 น.  

 

โจเล็ก…..เล่าได้ภาพรส มะช่ายอรรถรส เลยยย เหอเหอ

ของผม เป็นอีกแบบ นะก๊ะ

คือ วันหนึ่งไปว่ายที่สระ เป็นช่วงปิดเทอม เด็กมันจะเยอะ และผู้ปกครองของลูกชายตัวกาเปี๊ยกๆทั้งหลาย ก็จะเข้ามาช่วยลูก เตือนลูก เร่งลูก ดุลูก ในห้องอาบน้ำชายซะด้วย

ผู้ปกครองก็แบบว่า เป็นแม่ เป็นน้า เป็นป้าน่ะ มะค่อยมีแบบว่าเป็นพ่อ เรื่องแบบนี้ถือว่าเกิดขึ้น”เป็นปาจำ“ ที่สระ (ผมเขียนเล่าเรื่องนี้แบบละเอียเแล้วละครับ แต่มะค่อยกล้า ให้ใครอ่าน มันเก็บไว้อยู่ในห้องผู้จัดการสระ staff only)

แปลกเนาะ เด็กผู้ชายตัวแค่กาเปี๊ยกแค่นี้ จะเอาไปอาบที่ห้องน้ำของผู้หญิงมั่งกะด้าย แต่ไม่มีใครยอมทำ

ทีนี้ผมก็รู้แล้วละว่า สักกาเด๋วเฮอะ รอบนี้ เด๋วก็จะมีเด็กๆ ขึ้นไปแย่ง ไปเย้ว ที่ก๊อกฝักบัวในห้องน้ำชายอีก ผมก็ถือโอกาสรีบขึ้นไปอาบน้ำจืดตัดหน้าซะก่อน เหอะเหอะทำด้วยความเจ้าเล่ห์นิดๆ พออาบเสร็จขณะกำลังเช็ดตัวอยู่ ก็ถอดกางเกงว่ายน้ำ ก็อยู่ในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าน่ะพะเจ้าข้า เป็นห้องแบบว่ามีแค่ม่านพลาสติก รูดปิด อ่ายผมก็เอาแค่กางเกงขาสั้นตัวเดียว พาดไว้บนราวพลาสติก เพราะคิดว่าขึ้นมาอาบน้ำจืดอยู่คนเดียว คงไม่เป็นไร เช็ดไปเช็ดมา มันก็เริ่มจะกรึ่มๆล่ะซิ เริ่มจะได้ที่

ทันใดนั้น เสียงเฮเจี๊ยวจ๊าวขนานใหญ่ ก้อพรั่งพรูกันเข้ามาในห้องอาบน้ำจืด อ้าวเวนล่ะซิ ครูสอนรีบปล่อยเด็กขึ้นมาก่อนเวลา ยังกะซึนามิ ไม่ถึงนาทีเด็กๆๆๆๆๆๆๆก็มาทะลักเจี๊ยวจ้าวเต็มไปหมดในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ก็หน้าห้องที่มีผ้าพลาสติกปิดกั้น น่านแหละ ทำไงดีวะกรู ก็มันแก้อยู่เนี่ย

แล้วหัวใจก็หายวาบ ใจตกไปที่ตาตุ่มเลยยย เด็กคนหนึ่งฟาดท่อนแขนเปิดผ้าพลาสติกดัง ว๊าบบบ เด็กตะลึง ผมก็ตะลึง ต่างคนต่างก็ตกใจ แล้วมันก้อร้องลั่น “แม๊ …มีคน!!!!”

ผมรีบรูดม่านพลาสติกปิดทันที รีบหยิบขาสั้นที่วางอยู่บนราวแต่ตอนนี้ตกบนพื้น รีบเอามานุ่ง ตอนนั้นตัวยังไม่แห้งเลย ช่างมันวะ กะว่าจะรีบๆให้มันเสร็จๆอจะได้รีบออกไป แต่ขณะนั้นก็ได้ยินเสียงเด็กมันบอกแม่มันว่า “คนนั้นใหญ่จังแม่!!!!” “อะไรนะ?” “คนที่อยู่ในห้อง เขากะลังแก้ผ้า แม่!!”

ซวยละซิ เด็กมันพูด เพราะเด็กมันไม่รู้ ถึงมันรู้เด็กมันก็คงจะไม่อาย แต่ผมอายนะ… เสียงเด็กบอกแม่ของมันก็เบาซะเมื่อไหร่ เสียงดังออกยังงี้ สาวๆแก่ๆเขาก็รู้ของๆผมหมดแล้วซิ…..

เล่าแค่นี้นะ เล่าแค่นี้ก้อติดเรท…แล้ววว

อูว์ว์ โจเล็ก คนอารมณ์ดีมาเยี่ยมอีกรอบ ขอโทษทีเพิ่งจะตอบเมนต์ของนาย



โดย: yyswim วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:10:40:20 น.  

 

Zmen……ก็น่าจะ ครือๆกานค้าบ

วันหนึ่ง ก้อไม่นานนี่แหละ ผมไปจ๊อกกิ้งที่ศูนย์กีฬา วิ่งจนเหงื่อชุ่ม ช่วงที่ยืนพักเหนื่อย ตอนนั้นหันหน้าเข้าพุ่มไม้ หันหลังให้ถนนที่คนกำลังวิ่งอยู่ ก็มีผู้หญิงเข้าถามผมว่า

“น้องๆ สระว่ายน้ำอยู่ทางไหน?”

เธอถามน่ะ ถามถูกคนแล้ว แต่เธอคงยังเป็นนักศึกษา แล้วพ้มล่ะ …โฮะโฮะ

ต่างคนก็เลยต่างอายๆ ที่จริงผมก็ตอบเธอ ชี้ทางให้เธอ แล้วเธอก้อรีบเดิน รีบเดิน ใช่เลยยย

อีกวันไปกะเพื่อน ไปกินข้าวเย็นที่ร้านแห่งหนึ่ง นัดกะเพื่อนอีกคนไว้แล้วด้วย กะว่าจะไปเลี้ยงข้าวเพื่อน พอขับเข้าไป เด็กรับรถก็เข้ามานำทางรถหาที่จอดให้ เวน!!! นำทางไปพร้อมกับเป่านกหวีดไป “ป๋าคร้าบ ทางนี้คร้าบ ป๋าคร้าบ เชิญทางนี้คร้าบ” อยากจะโขกหน้าอก อ่ายเวนเด็กรับรถนัก เอาสักอึ๊ก หยาม หยามชีวิตผม

อ่ายเพื่อนมันก้อขำก๊าก ทั้งตบมือ ทั้งกระทืบเท้า สะใจ
ไม่พอ มันยังแถมมาโพนทะนาเรื่องนี้ให้เพื่อนอีกคนฟัง ซะอีก เวนจริงๆ ไม่ไปอีกแล้วร้านนั้น



โดย: yyswim วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:10:41:29 น.  

 

MDA…..ดีนะครับ ไม่คิดเรื่องเล็กๆ ชีวิตจะเป็นปกติสุขดี
ขอบคุณนะครับที่มาเยี่ยมเยือนกันบ่อยๆ


คุณbird-narak……หมอศัลย ดีๆที่ไหนช่วยเย็บหน้าให้ผมที
หน้าผมแตก ลายงาแล้ว



โดย: yyswim วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:10:42:41 น.  

 

น้องbas…….ไก่KFC พี่ก็กินนะ แม้จะไม่บ่อยเพราะค่อนข้างจะกลัวเรื่องอ้วน ถ้ากินทีใดจะสั่งแต่ส่วนหน้าอก เนื้อส่วนอื่นจะไม่สั่ง ถ้าไม่มี ก็ยังไม่กินในวันนั้นครับ

ไก่KFC ทางCPจะเลี้ยงแถวมีนบุรีหรือไม่ก็ที่ลาดกระบัง(อันนี้พี่ลืมข้อมูล) ไก่ไม่เห็นเดือนเห็นตะวันหรอกครับ เกิดมาก็เห็นแต่กรงเลี้ยง แสงไฟ อาหาร แล้วก็น้ำ จะเจอคนบ้างแต่น้อยมาก เกิดมาก็ยืนกิน กะนั่งหลับ ครบ 28 วันก็ส่งเข้าโรงชำแหละ เป็นไก่เนื้อ(ไม่ใช่ไก่ไข่)ที่ยังรุ่นเอ๊าะๆขณะถูกเชือดครับ


ดิว…..อ่านเรื่องหน้าแตกของดิวแล้ว ตอนนั้นถ้าเป็นพี่ก็คงจะ …ทั้งอายทั้งเขิน อูยยย ขอรีบจ้ำอ้าวด้วยอีกคน

วันเกิดของดิว พี่จดไว้ พี่ไปเมนต์ไว้ทั้งสองBlog ทั้งBlogก่อนหน้าและกับBlogนี้
ดิวคงจะเห็นแล้ว



โดย: yyswim วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:10:43:57 น.  

 

เมฆ……ขอสนับสนุนแนวอีโรติกคร้าบ

ช่วยสะกิดหน่อยดิ หากเขียนเรื่อง เพราะไปเมนต์ทีไร มักจะไม่ค่อยได้อันดับต้นๆ

สำหรับผม หากเพื่อนคนไหนอยากจะให้ผมไปสะกิด ช่วยบอกไว้ได้เลย ผมจะจดไว้ แล้วจะรีบไปบอกทุกครั้งที่ผม Up Blog


คุณซออู้…..ที่ตอบเมนต์ข้างบน ผมเล่าเรื่องหน้าแตกของผมไว้บ้างแล้วครับ



โดย: yyswim วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:10:45:15 น.  

 

น้องPADAPA—DOO…..กลับมาเชียงใหม่ช่วงฝนชุ่มพอดี ดีแล้วครับหลบพายุและน้ำท่วมทางโน้น

แล้วน้องได้ชมการถ่ายทอดเหตุการณ์ ครบรอบครองราชย์ 60 ปีด้วย ใช่ไหมคร้าบ?


นายเจย์…..โอว์ นิสัยคงจะคล้ายๆกันครับ เรื่องนอนดึก ผมก็นอนดึกทุกคืน

ตอนดึกๆ ผมจะเห็นพลอั้น ออนเอ็มบ่อยๆ รู้จักพลทหาร ใช่มะ
ถ้าคุณเจย์ ออนเอ็ม รับรองว่าได้เจอกับพลอั้น ได้เป็นเพื่อนยามดึกกันแน่



โดย: yyswim วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:10:47:03 น.  

 

สตล. ศ.ป้ามด…..สองคนสังสรรค์อะไรกันเหอ

ผมก็ไม่ค่อยได้ไปBlogของสตล. เท่าไหร่ ขอโทษที พอดีว่าไม่ค่อยจะรู้เรื่องเพลง เพลงทางMV หรือทางวิทยุ ผมก็ไม่ค่อยจะฟังกะเขา อย่างพี่เจี๊ยว อย่างป้าโบว์(ขอโทษ เรียกตามม๋าเอ๋อมัน) ผมก็ไปเยี่ยมน้อย เพราะสาเหตุเดียวกัน กลัวคนที่เขามาเยี่ยมและจขบ.เขาจะรำคาญ เพราะผมเมนต์อะไรไม่ได้

อีกนิด Blogของป้ามด ผมก็ไปเซย์ฮัลโหลน้อย ผมขอโทษ เพราะผมเป็นคนห่างพระ ไปวัดก็ไปเพราะไปงานศพเท่านั้นม้าง ไม่ค่อยจะได้ไปเวียนเทียน ไปทำสังฆทาน

แม่ผมน่ะจะตีผมตาย(แฮ่ะแฮ่ะ พูดเล่น) คือผมไม่ค่อยชอบไป วันรับ-วันส่งตายายที่วัดสระเกศเลย พูดตรงๆ คือไปแล้ว ฟังพระสวด ไม่รู้เรื่อง น่าจะสวดแบบรู้เรื่องมั่ง



โดย: yyswim วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:10:48:22 น.  

 


โดย: เเนคั IP: 61.7.156.250 วันที่: 30 กรกฎาคม 2549 เวลา:13:10:08 น.  

 


โดย: นิรนาม IP: 61.7.179.35 วันที่: 5 เมษายน 2551 เวลา:20:28:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

yyswim
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]





บล็อกสรรสาระนี้ จขบ.ไม่ได้เขียน-ไม่ได้ถ่ายภาพ-ไม่ได้อัพโหลดคลิปเอง หากแต่ทำหน้าที่เป็นบรรณาธิการบล็อก เสาะหาเรื่องดีๆ รูปสวยๆ คลิปแปลกๆ มาไว้ในบล็อก


ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยม ขอเชิญชมหรืออ่านตามสบาย ไม่ต้องคอมเมนต์ก็ได้ จขบ.ชอบการเข้ามาเยี่ยม แบบกันเอง ง่ายๆ สบายๆ




เริ่มเขียนBlog เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2548


เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ.2550 เวลา 23.30 น.


เริ่มนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชม




Latest Blogs

New Comments
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2549
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
25 กรกฏาคม 2549
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add yyswim's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.