* * * * ข้อคิดธรรมะ * * * * บล็อกที่ 890
ข้อคิดธรรมะ
บล็อกวันนี้ จัดทำขึ้นเนื่องในโอกาส วันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 - วันวิสาขบูชา ตรงกับวันจันทร์ที่ 4 มิถุนายน 2555 ซึ่งที่ประชุมใหญ่สมัชชาสหประชาชาติ ยกย่องให้เป็น "วันสำคัญสากลนานาชาติ (International Day)" และจะเป็นวันหยุดราชการในหลายประเทศ .. รวมทั้งในปีนี้ เป็นพุทธชยันตี 2600 ปี แห่งการตรัสรู้ หรือปีแห่งการเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 2600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ในวันวิสาขบูชา พ.ศ. 2555 ด้วย
02
03
04
05
06
07
08
09
10
‘โลกไม่ตามใจเรา’
เขียนโดย ดังตฤณ จากหนังสือ คิดจากความว่าง 3
โลกไม่ตามใจเรา
เมื่อเราพอใจความเย็น แต่โลกพอใจคายความผ่าวร้อน
ทางเดียวคือทำใจยอมรับ และเตรียมกายสู้ไอร้อน
โลกไม่ตามใจเรา
เมื่อเราพอใจความอบอุ่น แต่โลกพอใจกระจายความเหน็บหนาว
ทางเดียวคือทำใจยอมรับ และเตรียมกายสู้ไอเย็น
โลกไม่ตามใจเรา
เมื่ออยากเห็นดอกไม้บาน แต่ยังไม่ถึงเวลาบานของดอกไม้
สิ่งที่ทำได้คือรอคอย
โลกไม่ตามใจเรา
แม้ไม่อยากเห็นใบไม้ร่วง แต่ถ้าถึงเวลาร่วงหล่นของใบไม้
สิ่งที่ทำได้คือมองดู
โลกไม่ตามใจเรา
แม้เราอยากเห็นแต่คนดี ทว่าโลกมีแต่คนเลวให้ดู
เราก็ต้องดู และรู้ว่าเราเป็นหนึ่งในนั้นไหม
โลกไม่ตามใจเรา
แม้เราอยากพบแต่คนมีเหตุผล ทว่าโลกมีแต่คนเอาใจตนเป็นใหญ่
เราก็ต้องทน และไม่หลงเอาแต่ใจตนตามเขา
โลกไม่ตามใจเรา
เราก็ไม่จำเป็นต้องตามใจโลก ถ้าโลกร้ายเกินกว่าจะเอาตาม ก็ต้องถามหาสิ่งที่ดีขึ้น
และถ้าอยากเห็นโลกดีขึ้น ต้องไม่ใช่ด้วยการเฝ้าเรียกร้อง
แต่ต้องด้วยการลงมือทำเอง ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของโลก
โลกไม่ตามใจเรา
ถึงแม้อยากมีคนรัก แต่โลกไม่เคยพาคนรักมาให้พบ
ก็ต้องคบกับเงาตัวเอง บรรเลงเพลงแห่งความเงียบต่อไป โดยไม่จำเป็นต้องเหงา
โลกไม่ตามใจเรา
แม้เมื่อพบคนรักแล้ว แต่โลกพอใจให้แคล้วคลาด
อย่างเราจะทำอะไรได้ ก็ต้องเลือกระหว่างวางเฉย กับลงนอนดิ้นทุรนปางตาย
โลกไม่ตามใจเรา
แม้เมื่อได้อยู่กับคนรักแล้ว แต่โลกพอใจให้พรากจาก
เตรียมวันตายเอาไว้ไม่บอกกล่าว แล้วเราจะไปฟ้องศาลไหน เพื่อให้ทำโทษมัจจุราชได้
โลกไม่ตามใจเรา
แม้โลกให้ชีวิตมา ก็ไม่ได้หมายความว่าชีวิตเป็นของเรา
ไม่มีชีวิตใดเป็นอมตะ ไม่มีทางทำให้ชีวิตใดค้ำฟ้า
ทุกนาทีแห่งการมีชีวิต คือการเขยิบใกล้ความไร้ชีวิตเข้าไปทุกที
โลกไม่ตามใจเรา
ถ้าโลกกำหนดให้การตายดับ มิใช่เหมือนการดับเปลวเทียน
แต่เป็นการต่อเทียนเล่มใหม่ จะมีใครขัดขืน
โลกไม่ตามใจเรา แต่โลกก็ไม่ไร้เหตุผล
ถ้าเราเข้าใจเหตุผล ก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้เข้าใจโลก
เมื่อใดเข้าใจโลก เราจะเลิกอยากให้โลกตามใจเรา.
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
ภรรยา 4 คน
ข้อมูลจาก Fwd Mail
ชายคนหนึ่ง มีภรรยา 4 คน
ภรรยาคนที่ 1 เขารักที่สุด ไปไหนมาไหนด้วยกัน ตามใจตลอดเวลา อยากได้อะไร เขาหาให้ทุกอย่าง
ภรรยาคนที่ 2 เขารักมาก ทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อภรรยาคนนี้ และจะไปหาภรรยาคนนี้บ่อยๆ
ภรรยาคนที่ 3 เขารักรองลงมา ดูแลเอาใจใส่พอสมควร แวะไปหาบ้างเป็นครั้งเป็นคราว
ภรรยาคนที่ 4 เขาไม่เคยสนใจ ไม่เคยดูแลเอาใจใส่ ไม่เคยไปหา ไม่เคยคิดถึงเลยด้วยซ้ำ
ต่อมาชายคนนี้ ไปกระทำความผิดร้ายแรง จนถูกจับต้องโทษประหารชีวิต ก่อนที่เขาจะถูกประหารชีวิตเขาขอร้องผู้คุมว่าขอกลับบ้านเพื่อไปร่ำลาภรรยาสุดที่รัก ผู้คุมเห็นใจจึงอนุญาต
เมื่อกลับถึงบ้าน เขารีบตรงไปหาภรรยาคนที่ 1 เล่าเหตุการณ์ต่าง ๆ ให้ภรรยาฟัง และถามภรรยาคน ที่ 1 ว่า "ถ้าเขาต้องตายไป ภรรยาคนที่ 1 จะทำอย่างไร?"
ภรรยาคนที่ 1 ตอบด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “ถ้าเธอตาย เราก็จบกัน”
คำตอบที่ได้รับ เหมือนสายฟ้าที่ผ่าเปรี้ยงลงมาที่เขาอย่างจัง !! เขารู้สึกเจ็บปวดและเสียใจเป็นอย่างมาก นึกเสียดายว่าเขาไม่ควรจะทุ่มเทให้กับภรรยาคนนี้อย่างมากและตลอดเวลาเลย
จากนั้นเขาก็ไปหาภรรยาคนที่ 2 ด้วยอาการเศร้าโศก เล่าเรื่องราวให้ภรรยาคนที่ 2 ฟังและถามภรรยาคนที่ 2 ว่า "ถ้าเขาต้องตายไป ภรรยาคนที่ 2 จะทำอย่างไร?"
ภรรยาคนที่ 2 ตอบอย่างหน้าตาเฉยว่า "ถ้าเธอตาย ฉันจะมีใหม่"
เหมือนสายฟ้าผ่าลงมาซ้ำอีกครั้ง เขารู้สึกเสียใจอย่างมาก และนึกเสียดายว่าเวลาที่ผ่านมาเขาไม่ควรทุ่มเทให้กับภรรยาคนนี้เช่นเดียวกัน
เขาเดินคอตกไปหาภรรยาคนที่ 3 เล่าเรื่องราวให้ภรรยาฟัง และถามภรรยาคนที่ 3 ว่า "ถ้าเขาต้องตายไป ภรรยาคนที่ 3 จะทำอย่างไร?"
ภรรยาคนที่ 3 ตอบว่า "ถ้าเธอตายไป ฉันจะไปส่ง"
คำตอบนี้ ทำให้เขาใจชื้นขึ้นมาเล็กน้อย อย่างน้อยก็ยังมีภรรยาคนนี้ที่คิดดีกับเขา
ก่อนจะกลับไปรับโทษเขานึกขึ้นได้ว่า เขายังมีภรรยาอีกคนหนึ่งซึ่งเขาไม่เคยไปหาเลย จึงไปหาภรรยาคนที่ 4 และถามว่า "ถ้าเขาต้องตายไป ภรรยาคนที่ 4 จะทำอย่างไร?"
ภรรยาคนที่ 4 ตอบว่า "ถ้าเธอตายไป ฉันจะตามเธอไปด้วย"
ได้ยินคำตอบดังนี้แทนที่เขาจะดีใจ เขากลับรู้สึกเสียใจอย่างมากเพราะมันสายเกินไปแล้ว ช่วงที่เขามีชีวิตอยู่ เขาไม่เห็นคุณค่าของภรรยาคนนี้เลย แต่ภรรยาคนนี้กลับไม่คิดที่จะทิ้งเขา จะอยู่กับเขา จะติดตามเขาไปอยู่ด้วย แล้วชายคนนี้ก็กลับไปรับโทษประหาร และเมื่อเขาตาย ภรรยาคนที่ 4 ก็ตายตามเขาไปจริง ๆ
เราทุกคน มีภรรยาทั้ง 4 คน นี้
ภรรยาคน ที่ 1 คือ ร่างกายของเราเอง
เพราะเวลาเรามีชีวิตอยู่ เราจะบำรุงบำเรอด้วยสิ่งของดี ๆ อยากได้อะไร ก็จะหาให้ แต่เมื่อเราตาย ร่างกายจะไม่ไปไหนกับเรา ร่างกายจะมีค่าเท่ากับท่อนไม้ท่อนหนึ่งเท่านั้น
ภรรยาคน ที่ 2 คือ ทรัพย์สมบัติ
เพราะเวลาเรามีชีวิตอยู่ เราจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มา แต่เมื่อเราตาย ทรัพย์สมบัติก็จะไม่ไปกับเรา แต่จะไปเป็นของคนอื่น
ภรรยาคนที่ 3 คือ พ่อแม่ ลูกเมีย ญาติพี่น้อง
พอเราตาย พ่อแม่ ลูกเมีย ญาติพี่น้อง จะทำศพให้เรา จะทำบุญให้เรา แปลว่าเขาแค่ไปส่งเราเท่านั้น
ส่วนภรรยาคนที่ 4 คือ บุญและบาป
เพราะเมื่อเราตาย เราไม่สามารถเอาอะไรไปได้ มีก็แต่บุญและบาปเท่านั้นที่จะติดตามเราไปด้วย
เห็นไหมว่า ร่างกาย ทรัพย์สมบัติ ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเรา แต่เดี๋ยวก่อนอย่าเพิ่งคิดว่าเงินไม่สำคัญ .. มันสำคัญ แต่ ไม่สำคัญที่สุดเท่านั้นเอง
อย่าลืมว่า เรายังมีเรื่องอื่นที่สำคัญกว่าเงินอีกตั้งเยอะ.
ขอเชิญอ่าน บล็อกวันมาฆบูชา – ‘ธรรมะสั้น ๆ’
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
จาก สิน yyswim
ต้องการกดโหวตให้ สาขา Best Topical Blog .. จขบ. ขอขอบคุณครับ
Create Date : 01 มิถุนายน 2555 |
Last Update : 1 มิถุนายน 2555 9:55:12 น. |
|
9 comments
|
Counter : 3526 Pageviews. |
|
|
|
การได้สิ่งอะไรตามใจเสมออาจทำให้คนเราไม่เห็นคุณค่า
เวลาที่ไม่ได้ นี่แหละคือสิ่งที่ทำให้เห็นว่าคนคนนั้นจะมีการตอบสนองอย่างไร หรือเห็นธาตุแท้ของตัวเราได้ง่ายที่สุด
สัจจธรรมที่พระพุทธเจ้าว่าไว้คืออนิจจัง ทุกขัง อนัตตา นั้นเที่ยงแท้ที่สุด
ขอบคุณบล็อกของพี่สินนะครับ ที่ทำให้ผมได้เข้ามาชมภาพสวยๆ และพยายามปล่อยวาง
พี่สินสบายดีนะครับ (สงสัยจะเป็นสโลแกนประจำตัวที่ไอ้น้องชายต้องปิดด้วยประโยคนี้)