อยากบอกอย่างแรกว่า
พรุ่งนี้ ซึ่งเป็นวันที่ 1 มีนาคม 2553 จะเป็นวันที่ผมเขียนบล็อกครบ 5 ปี
เพราะเริ่มเขียนบล็อกเรื่องแรก เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2548
ที่จำวันที่ วันนี้ได้ไม่ยาก เพราะเป็นวันเกิดของน้องสาว คนถัดจากตัวผมพอดี
รวมจำนวนช่วงเวลาที่ร่าเริงอยู่ในบล็อก เขียนบล็อกไป 598 เรื่อง
คิดเหมาๆ ละกัน ประมาณปีละ 120 เรื่อง
ปีหนึ่งมี 12 เดือน ใช่ไหม?
ช่วยคำนวณให้ที เดือนหนึ่ง ผมเขียนไปกี่เรื่อง?
งั้น ก็เฉลี่ย 3 วันเขียนหนึ่งเรื่อง ...30 วัน ก็เขียนไปประมาณ 10 เรื่อง
อ้อ....แต่ปีล่าสุด ที่เพิ่งจะครบปีที่ 5 ผมเขียนไป 124 เรื่อง
คือ เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2552 ผมเขียนบล็อกเรื่องที่ 474 สังสรรค์ชาวบล็อก
พอถึงวันนี้ วันมาฆบูชา 28 กุมภาพันธ์ 2553 ผมเขียนบล็อกเรื่องที่ 598 ทำบล็อกครบ5ปี
ก็เกินจำนวน 120 เรื่อง ไปแค่นิดเดียว
เท่าที่สังเกต เพื่อนๆบล็อก รุ่นสมเด็จวัดระฆัง ที่เขียนบล็อกมาพร้อมๆกัน
ตอนนี้ก็หายหน้าหายตาออกไปจากบล็อกหลายคนแล้ว
แต่สำหรับผม คงจะยังไม่ออกไปจากบล็อกเร็วนัก ยังรู้สึกสนุกอยู่
คิดเสมอว่าหากอ่านเจออะไรดีๆ ก็อยากจะให้ผู้อื่นได้อ่านด้วย
เพราะมีอยู่บ่อยๆ ที่ผมก๊อปข่าว ก๊อปบทความของผู้อื่นมาลงไว้ในบล็อก
แต่ก็ทำลิ๊งก์เอาไว้ว่านำมาจากที่ไหน
เพราะคนที่เขียนเอาไว้ เขาเขียนเอาไว้ดี น่าอ่าน ข้อมูลแน่น
ผมก็เลยรับอาสาช่วยนำมาเผยแพร่เพื่อจะได้เป็นข้อมูลหรือความรู้แก่เพื่อนๆชาวบล็อก
หัวใจของ อยากบอกอย่างแรก คือ
บล็อกทุกเรื่องที่ทำขึ้น ผมจะตั้งใจทำ ทำอย่างสุดกำลัง
หลายท่านจะทราบดีว่า บล็อก yyswim จะค่อนข้างยาว
แต่ก็จะพยายามทำให้ซอฟท์ลง ด้วยการใช้ตัวอักษรใหญ่ เว้นช่องไฟเยอะๆ
ใส่รูปภาพสวยๆ และใส่คลิปวีดิโอลงไปด้วย
บล็อกยาวๆ ใครเขาจะอ่าน เขาก็เข้ามาแค่อยากจะทักทาย แล้วก็รีบออกไป
ออกไปทักทาย บล็อกของคนอื่นอีกตั้งหลายสิบบล็อก
ประโยคนี้ ผมจะได้ยิน และจะได้อ่านอยู่บ่อยๆ
แต่โดยนิสัย ผมจะไม่ใช่คนที่ทำอะไรแบบสุกเอาเผากิน
จะทำอะไร จะต้องทำจริง ทำอย่างทุ่มเท
ข้าวปลาไม่กิน ไม่เป็นไร ดึกแล้วยังไม่ได้นอน ไม่เป็นไร
เพราะสิ่งที่กำลังทำอยู่ เป็นความสุขของผมด้วย
และอีกอย่าง.. ชีวิตนี้ไม่มีอะไรแน่นอน วันนี้อยู่ พรุ่งนี้ป่วย
วันนี้ได้ออกกำลังกาย แต่พรุ่งนี้อาจถูกรถชน
หากช่วงที่ยังแข็งแรง มีอะไรที่ควรจะบันทึกฝากไว้กับโลกใบนี้ได้
ผมก็จะตั้งใจทำ เพราะหากมีอันเป็นอะไรไป
บล็อกของผม ก็คงจะมีสาระให้คนได้เข้ามาอ่าน อีกนับร้อยปี!!!
หัวใจของเรื่องแรกที่อยากจะบอก จากคนที่ทำบล็อกมานาน คือ
ขอเสนอให้มีการเขียนบล็อกโดยอย่าหวังแต่ อยากจะระบายอารมณ์ลงในบล็อก
เช่น อย่าเขียนทำนอง เมื่อเช้าโกรธกับแฟน วันนี้ไปโรงเรียนสายอีกแล้ว
เย็นนี้จะเอาหมาไปฉีดยา วันนี้กินข้าวกะเพราหมูสับ
อยากจะเสนอให้เขียนบล็อก ในแนวสาระกันบ้าง
อ่านเจออะไรที่น่าสนใจ ควรจะนำมาแบ่งปันให้เพื่อนๆในบล็อกทราบ
หนังสือที่อ่านแล้วที่รู้สึกว่าดี ลองบอกสิ่งที่ดีๆในหนังสือนั้นให้เพื่อนๆทราบ
เคยเจอประสบการณ์ร้านไหน โรงแรมไหนอย่างไร ก็ช่วยกันบอกกัน
เพราะบล็อกจะมีสาระควรค่าที่จะมีผู้เข้ามาอ่านบ่อยๆนับร้อยปี
และบล็อกจะสามารถบอกตัวตนของเจ้าของบล็อก ว่า เป็นคนที่มีคุณค่า
อยากบอกอย่างที่สองว่า
ขอขอบคุณครับที่ท่านเข้ามาอ่าน และบางท่านช่วยมอบคอมเมนต์ให้ด้วย
จากสถิติ ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2553 มีจำนวนผู้มาเยี่ยมชม 770,000 คน
มีจำนวนผู้เปิดหน้าบล็อก 1,146,800 ครั้ง
สำหรับจำนวนผู้มาเยี่ยมชมในบางช่วงเวลามีจำนวน 6 คนบ้าง, 9 คนบ้าง, 17 คนบ้าง
โอ ไม่น้อยทีเดียว ทำให้รู้สึกทั้งประหลาดใจ และดีใจ
อันที่จริง ผมไม่ใช่คนที่จะออกไปทักทายเพื่อนๆบล็อก แบบ เซย์ ไฮ แล้ววิ่งกลับบ้าน
โดยหวังว่าสักประเดี๋ยว เพื่อนๆจะกลับเข้ามาเยี่ยมบล็อกผม เพื่อเป็นสถิติจำนวนผู้มาเยี่ยมชม
เปล่าเลยนะครับ
เวลาที่ผมมีอยู่ในแต่ละวัน ผมมักจะนั่งค้นโน่น ค้นนี่ มากกว่า
อ่านหลากหลายมาก จะอ่านไปได้หลายๆเรื่อง
คลิปวีดิโอ ผมก็ชอบดูหลากหลาย และพออยู่ว่างๆก็จะนั่งค้นหารูปสวยๆเก็บเอาไว้
ผมเคยบอก ผมเคยเปรยในบล็อกไว้เหมือนกันว่า
ขออภัยนะครับ จะไม่ค่อยว่างไปเยี่ยมเพื่อนๆ
แล้วก็ไม่ได้ไปเยี่ยมจริงๆ ...ประเภทไปส่งเพื่อนเข้านอน
ประเภทนำรูปและข้อความไปฝากไว้ทุกบล็อก
อูว์ ผมไม่ใช่คนโรแมนติกขนาดนั้น
ในความคิดของผม
ที่มีผู้มาเยี่ยมชมบล็อกของผม จำนวนมากพอสมควร
น่าจะมาจาก การตั้งชื่อเรื่องบล็อก แบบไม่หวือหวานัก
ผมจะตั้งชื่อเรื่องบล็อก โดยเลือกใช้คำกลางๆง่ายๆ ที่มีผู้ชอบใช้ ในการสืบค้นในกูเกิ้ล
ผมจะไม่ตั้งชื่อเรื่องบล็อก แบบชื่อเรื่องนวนิยาย
สมมติกันนะ ว่าจะเขียนบล็อกเรื่องเกี่ยวกับ รุ้งกินน้ำ
ผมจะไม่ตั้งชื่อเรื่องบล็อกว่า รุ้งที่รัก เพราะผู้สืบค้นมักจะไม่ค้นกูเกิ้ลด้วยคำว่า รุ้งที่รัก
แต่โดยทั่วไป มักจะสืบค้นด้วยคำว่า รุ้งกินน้ำ
แต่หากคำใดที่มีการสืบค้นในกูเกิ้ลกันมาก ก็อาจจะนำคำนั้นมาต่อสร้อยคำอีกหน่อย ...
เช่น วาเลนไทน์ปี2553 วิธีเล่นรูบิคให้ชนะ คิดสร้างสรรค์เพื่อสังคม
เคาท์ดาวน์ที่เซี่ยงไฮ้ ถังขยะในห้องพักโรงแรม
คำเหล่านี้ หากเสิร์ชจากกูเกิ้ลเมื่อใด ก็จะมาที่บล็อกของผมเมื่อนั้น
อย่างที่บอกเอาไว้ข้างบนว่า ผมจะตั้งใจทำบล็อกแบบใส่ข้อมูลที่คิดว่า แปลกและน่าสนใจ
โดยจะเขียนบล็อกอย่างละเอียด และยาว
ด้วยเหตุนี้กระมัง พอมีคนเข้ามาเยี่ยมที่บล็อก ตามคำเสิร์ชจากกูเกิ้ลโดยบังเอิญ
ผมคิดว่าหลายคนอาจจะชอบ แล้วก็เลยคลิกอ่านบล็อกเรื่องอื่นอีกด้วย
เพราะมีจำนวนผู้เปิดหน้าบล็อกมากกว่า 1 ล้าน 1 แสนครั้ง แต่มีจำนวนผู้มาเยี่ยมชม 7 แสนคนเศษ
หัวใจของ เรื่องที่สองที่อยากจะบอก คือ
เพื่อนๆอาจจะไม่ต้องวิ่งไป เซย์ ไฮ ตามบล็อกต่างๆ แล้ววิ่งหนีกลับหรอกครับ
ลองตั้งชื่อเรื่องบล็อก ให้เสิร์ชเจอในกูเกิ้ลง่ายๆ และเขียนบล็อกด้วยเรื่องที่น่าสนใจ
หากยังเขียนไม่ได้ ก็อาจจะนำข่าวที่น่าสนใจ ลักษณะแปลกๆ
หรือบทความที่ผู้อื่นเขียนความคิด ไว้เฉียบแหลม อ่านเข้าใจง่าย
นำมาช่วยกันเผยแพร่ก็ได้ แต่ควรจะทำลิ๊งก์ว่า ต้นฉบับอยู่ที่ไหน
บล็อกของเพื่อนๆ ก็จะมีผู้เดินเข้ามาอ่านแบบเต็มใจ แถมอาจจะอ่านเรื่องอื่นๆ ต่ออีกด้วย
อยากบอกอย่างที่สามว่า
หากสนใจบล็อกกลุ่มเรื่องใดเป็นพิเศษ ก็อาจจะทำบล็อกกลุ่มเรื่องนั้นๆเยอะหน่อย
แล้วคลิกที่กลุ่มเรื่องที่ตนเองเขียน ก็จะปรากฏเรื่องบล็อกในกลุ่มเรื่องนั้น
ที่เขียนโดยผู้ที่สนใจกลุ่มเรื่องเดียวกัน เช่น
สนใจกลุ่มเรื่อง สัตว์เลี้ยง : สุนัข ก็เข้าไปที่ กลุ่มเรื่อง สัตว์เลี้ยง : สุนัข
สนใจกลุ่มเรื่อง การตกแต่งบ้าน ก็เข้าไปที่ กลุ่มเรื่อง การตกแต่งบ้าน
หรือ สนใจกลุ่มเรื่อง ข้อคิด ธรรมะ ก็เข้าไปที่ กลุ่มเรื่อง ข้อคิด ธรรมะ
แบบนี้แหละ จะได้อ่านเรื่องบล็อกที่ตนเองชอบและสนใจ
และจะมีผู้ที่สนใจกลุ่มเรื่องเดียวกันกับตน เข้ามาอ่านบล็อกของตนด้วย
ผลัดกันเยี่ยมบล็อกไปมา ๆ ในเรื่องที่ตนเองสนใจ
แบบนี้จะเต็มใจไปเยี่ยม และสุขใจที่คนที่สนใจเรื่องเดียวกันเข้ามาเยี่ยม
อาจจะลำบากใจอยู่บ้าง สำหรับผู้ที่สนใจเรื่องทั่วๆไป ไม่เฉพาะเจาะจงเรื่องใดเรื่องเดียว
ก็แบบที่ผมกำลังเป็นอยู่ เพราะผมก็สนใจเรื่องทั่วๆไป ไม่ถนัดเรื่องใดเรื่องเดียว
การจะเลือกไปเยี่ยมบล็อกผู้อื่น จึงค่อนข้างจะกว้าง ไปได้ทุกกลุ่ม
และผู้ที่จะกลับมาเยี่ยมบล็อกแห่งนี้ ก็จะมีผู้ที่เขียนบล็อกหลากหลายกลุ่มเรื่องด้วย
หัวใจของ เรื่องที่สามที่อยากจะบอก คือ
ควรเลือกทำบล็อกเรื่องที่แปลกน่าสนใจ ให้ผู้ที่เข้ามาอ่านได้ประโยชน์จากการอ่าน
เพื่อจะได้เป็นเจ้าของบล็อกที่มีคุณค่าน่านับถือ
เขียนไม่เก่งไม่เป็นไร หาเรื่องเก่งมาลงในบล็อก ก็ได้
ก็คล้ายกับ หาคำสอนธรรมะดีๆของเกจิอาจารย์
หาเพลงไพเราะของนักร้องเก่งๆ หาเกมส์สนุกๆ
มาให้ผู้อื่น อ่าน ฟัง หรือ เล่น นั่นเอง
อยากบอกอย่างที่สี่ว่า
คนในบล็อกแก๊งค์ ที่ผมเคยไปพบสังสรรค์ ไปเที่ยวด้วยกัน ไปรับประทานอาหารด้วยกัน
ไปทำบุญด้วยกัน ไปช่วยเหลือเด็กด้วยกัน ไปดูหนังด้วยกัน
ผมยังไม่เคยเจอคนไม่ดี ผมยังไม่เคยเจอคนเหยียดหยามรังเกียจ
จะมีบ้าง ที่บางคนพูดไม่เก่ง จะมีบ้าง ที่บางคนไม่ได้มีรูปร่างหน้าตาอย่างที่ตัวเราคิดตั้งแต่แรก
หัวใจของ เรื่องที่สี่ที่อยากจะบอก คือ
อย่าหวาดกลัวคนในบล็อกจนเกินไป ไม่ต้องอับอายรูปร่าง หน้าตา ทรงผม บุคลิก สำเนียง
ไม่ต้องอับอายที่การศึกษา ฐานะ ตำแหน่ง หรือแม้แต่รสนิยมทางเพศ
การคุยกัน การคบกัน ไม่ได้หวังจะจีบกันเป็นแฟนสักหน่อย หากแต่หวังจะเป็นเพื่อนกัน
จะอ้วน จะดำ จะทำสวน จะขายแผงลอย จะเรียนจบอะไร ไม่เป็นไรหรอกครับ
ประสบการณ์ในบล็อกมานานที่ผมได้ออกไปพบปะสังสรรค์ หรือพูดโทรศัพท์กับชาวบล็อก
ทุกคนล้วนมีน้ำใจ มอบความช่วยเหลือเมื่อมีการสอบถามเกี่ยวกับการเขียนบล็อก
ผมเอง ก็ยังเคยอีเมล์ไปถามเพื่อนบล็อกเรื่องโค๊ตที่ใช้ หรือเรื่องเพลง
ผมก็ได้รับคำตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว
รู้สึกอบอุ่นใจ รู้สึกประทับใจในมิตรภาพของชาวบล็อกมากๆ