มีเรื่องที่สระว่ายน้ำ
มีเรื่องที่สระว่ายน้ำ
เรื่องบางเรื่องผมไม่อยากจะจำ ไม่อยากแม้แต่จะคิด แต่ก็ไม่อาจจะสลัดออกไปจากสมองได้ง่ายๆ ....ทั้งๆที่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นนานมาแล้ว
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 4 ปีก่อน นานพอที่จะลืมจนเลือนลางเหมือนเรื่องอื่นๆ ...แต่ผมก็ยังจำได้
วันนั้นเป็นวันอาทิตย์ ผมไปว่ายน้ำตอนบ่ายสามโมงครึ่ง ปกติผมมักจะไปราวสี่โมงเย็นมากกว่า
ไปถึงสระ ตอนบ่ายสามโมงครึ่ง แดดยังจ้าอยู่เลย แสงสะท้อนของดวงอาทิตย์ผ่านระลอกคลื่นในสระ ระยับระยิบเข้าตา รังสีร้อนแบบนี้ มักจะทำให้ผิวเกรียมแดดได้ง่าย ฉะนั้นบ่ายที่ร้อนอย่างนี้ จึงไม่ค่อยจะมีใครว่ายน้ำ
ตอนนั้นร่มเงาที่ทอดลงมาจากตึกใกล้ๆ ลามมาถึงลู่ว่ายที่ 2 ....ปกติ ลู่ว่ายประจำของผม มักจะเป็นลู่ว่ายที่ 3 มาทีไร ก็ลงที่ลู่ 3 ...แต่ผมก็เล็งแต่ไกลแล้วว่า วันนี้คงจะว่ายที่ลู่ 2 ดีกว่า เพื่อจะหลบแดดสักหน่อย ..คนหล่อๆก็ต้องดูแลรักษาผิวพรรณ เป็นธรรมดา หุ หุ หุ
พอจะหย่อนตัวลงในสระ ในลู่ว่ายที่ 2 ผมก็พบว่า มีคนยืนอยู่ในน้ำตรงแท่นกระโดดลู่ว่ายที่ 2 อยู่ก่อนแล้ว ....เป็นคนที่ผมเคยเห็น ว่ามักจะว่ายอยู่ แถวลู่ว่ายที่ 7 ทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ตอนแดดร้อนๆ ....ผมไม่เคยเห็นเขามาว่ายตอนเย็น หรือมาว่ายในตอนกลางคืน ...เดาเอาว่าเขาคงจะชอบว่ายกลางแดด พอดีก็ไม่เคยถามเขา เพราะไม่ค่อยสนิทและไม่ค่อยได้เจอเขาบ่อยนัก
เท่าที่เคยเห็น เขาจะเป็นคนแบบไม่ค่อยจะมีเพื่อน เจอทีไร ก็จะเห็นเขามาคนเดียว จะว่ายคนเดียว เขาจะชอบแยกไปว่ายห่างผู้อื่น จะไม่ยอมคุยกับใคร ..และแม้กระทั่ง ขณะยืนรอเข้าห้องอาบน้ำจืด ซึ่งมีคนอื่นยืนรออยู่ด้วย เขาก็จะยืนก้มหน้า ไม่ค่อยยอมคุยกับใคร หรือยิ้มให้ใคร
เขาคนนี้ จะชอบกระโดดพุ่งตัวลงน้ำจากแท่นกระโดด ทุกครั้งที่จะลงสระ กระโดดทีก็น้ำกระจายครั้งใหญ่ที ได้ยินเสียงน้ำแตกกระจายไปทั่วทั้งสระ เพราะเขาชอบจะเอาหน้าอกและท้องลงกระแทกน้ำ อย่างไม่กลัวเจ็บ ...
ฉะนั้น เมื่อเขากลับมาจากไปปัสสาวะทุกครั้ง ก็จะได้ยินและได้เห็นน้ำแตกกระจายครั้งใหญ่ทุกครั้ง
ส่วนใหญ่คนที่เห็นภาพและเสียง ต่างหันมาสบตากัน แล้วขบขันกันทุกคน เฮอะ เฮอะ เฮอะ
..เจอซาดิสต์ตัวจริง
เขาคนนี้ ผมคิดว่าอายุประมาณ 40 กว่าๆ สูงราว 160 เซนฯกว่าๆ หุ่นท้วม มีไขมัน ผิวแห้งคล้ำ เส้นผมก็แห้งเป็นสีน้ำตาล การแต่งตัวเท่าที่มองเห็นในบางวัน จะสวมเสื้อยืดสีคล้ำ กางเกงวอร์มสีดำหลวมๆ สวมรองเท้าผ้าใบเก่าๆ ...ดูภาพรวมแล้ว คล้ายกับเป็นคนต่างจังหวัด ไม่สนใจการแต่งตัว ...และอาจจะเรียนไม่สูงนัก
ตอนผมจะหย่อนตัวลงในสระ ที่ลู่ว่ายที่ 2 เขาก็ตกใจเล็กน้อยพอๆกับผม เพราะต่างคนไม่คิดว่าจะเจอใคร แบบไม่ได้ตั้งตัว .....ผมยิ้มให้เขาตอนที่สติกลับคืนมา เขาก็สบตาผม แล้วพยักหน้าตอบ ผมเลี่ยงไปหย่อนตัวลงน้ำ ที่ลู่ว่ายที่ 3 แทน ก็เป็นลู่ว่ายที่ผมคุ้นเคยมาว่ายทุกวัน อุอุอุ แต่วันนี้ แดดมันยังร้อน
นาทีนั้น ตรงหน้า ทุกลู่ไม่มีใครว่ายน้ำเลย บนอัฒจันทร์ มีคนนั่งคุยกันอยู่ราว 3 คน ผู้ควบคุมสระก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน นาทีนั้น ขณะที่ผมกำลังสวมแว่นตากันน้ำ จะเริ่มต้นว่าย จึงมีเพียงชายคนที่ผมพูดถึง มองดูผมอยู่ใกล้ๆ และเงียบ ไม่พูดอะไรเลย
ผมเริ่มออกว่าย ว่ายช้าๆตามจังหวะที่เคยว่าย ...จะว่าไป ผมไม่ใช่คนว่ายน้ำเก่ง เพราะจริงๆแล้วผมอยากเรียกตัวเองว่า ผมเป็นนักแบดมากกว่า เนื่องจากเพราะเคยบ้าตีแบด
ผมเคยเข้าแข่งแบด แต่ที่ห่างจากสนามแบดไป เพราะใช้ไหล่ จนไหล่เขาขอร้องให้หยุดพัก จึงแขวนแร๊กแก๊ต มาอยู่ในสระแทน ก็เลยเกิด Why You Swim (yyswim) ขึ้นมาเป็นตัวเป็นตน
เพื่อนมหาวิทยาลัย นักว่ายน้ำตัวจริง เขาก็แปลกใจว่า ผมเปลี่ยนใจ ได้ไง ตอนที่เรียนซึ่งเรียนอยู่คนละคณะกัน แต่อยู่ซีมะโด่งด้วยกัน เขาเคยชวนผมไปสระ ผมไม่ไป ผมชวนเขาไปคอร์ต เขาก็ไม่เคยไป ...มาถึงตอนนี้ ผมชวนเขาไปสระ เขาหัวเราะแล้วบอกว่า มรึงเปลี่ยนใจ กรูก็เลยเปลี่ยนใจมั่ง แน่ะ มันชวนผมไป
สนามกอล์ฟ
เมื่อผมว่ายไปจนสุดขอบสระ ก็ครบ 50 เมตร ว่ายกลับมาสุดขอบสระ ก็อีก 50 เมตร อย่างนี้ผมนับว่า 1 รอบ เมื่อว่ายไปอีก และว่ายกลับมาอีก ก็อีก 1 รอบ รวมเป็น 2 รอบ ผมก็ว่ายแบบนี้ไปเรื่อยๆ
ตอนผม เริ่มออกว่ายรอบที่ 4 เขาคนที่อยู่ ลู่ว่ายที่ 2 เขาก็เริ่มออกว่ายบ้าง
ผมยังว่ายไปเรื่อยๆ ไม่ได้รีบร้อน คิดว่าดี ซะอีก มีเพื่อนว่ายอยู่ในสระด้วยคน จะได้ไม่เหงา การว่ายก็เลยตีคู่กันไป เขาคงอยากจะว่ายแซงผม ตอนจะครบรอบว่ายที่ 4 เพราะเห็นเขาว่ายเร่งเข้าสระ เพื่อให้ล้ำหน้าผม แต่พอผมกลับตัว และว่ายไปอีกนิด ก็ทันเขาอีก ก็เลยว่ายคู่กันต่อไปตามเดิม
เขาพยายามเร่งว่ายมาก เพื่อให้ล้ำหน้าผม ตอนจะครบ 550 เมตร แต่พอผมกลับตัวแล้วว่ายต่ออีกนิด ก็ทันเขาอีก ผมว่ายครบรอบว่ายที่ 6 พร้อมกับเขา พอผมกลับตัว เสียงฝั่งเขาก็เงียบไป สงสัยจะเหนื่อย เลยหยุดว่าย ผมเลยว่ายตามจังหวะปกติของผม รอบที่ 7 8 9 คนเดียว
เมื่อผมเริ่มออกว่าย รอบที่ 10 เขาคนนั้นก็เริ่มออกว่ายตามผมแบบติดๆ ใหม่อีกครั้ง ...เขาพยายามจะแซงผมตอน 1,050 เมตร แต่แซงไม่ได้ เขาก็เลยพยายามจะว่ายให้ตีคู่ทันผม
ตอนผมว่ายครบรอบที่ 11 ผมว่ายนำเขาอยู่สัก 2 เมตร
ตอนนี้ ผมเริ่มออกว่ายรอบที่ 12 แล้ว แต่เสียงว่ายตามผมมาเบาลง เขาคงจะเหนื่อย แดดร้อนด้วย เขาคงจะว่ายห่างจากผม
จริงด้วย เพราะหลังจากผมกลับตัวที่ 1,250 เมตร และว่ายไปได้สัก 10 เมตร ผมก็มองเห็นเขาว่ายสวนมา
ผมยังคงว่ายต่อไป ตอนว่ายกลับมาใหม่ที่ 1,350 เมตร ก็เห็นเขายืนพักเหนื่อยที่ขอบสระ และตอนผมว่ายกลับมาใหม่อีก ที่ 1,450 เมตร เขาก็รีบถีบตัวออกไปจากขอบสระก่อนผม และว่ายนำผมไปก่อน และพยายามจะโหมว่ายเร่งอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ผมว่ายทันเขา
ตอนนั้นผมเห็นว่าจะครบ 1,500 เมตรแล้ว และร้อนด้วย จึงคิดจะปิดการว่ายที่ 1,500 เมตร แล้วขึ้นไปหลบแดดข้างบน จะดีกว่า จึงเร่งว่ายหน่อย
พอผมเร่งว่าย เขาก็เร่งสปีดการว่ายยิ่งขึ้นอีก น้ำในสระแตกกระจายทีเดียว ขนาดอยู่ในสระ ผมยังรู้ อย่างนี้คนบนอัฒจรรย์ ก็ต้องเห็นแน่ แต่อาจคิดว่า ผมกับเขาว่ายด้วยกัน เป็นเพื่อนกัน ก็เป็นได้
เขากับผม แตะขอบสระพร้อมกัน ...จะต่างกันก็ตรงที่ ผมใช้แขนพยุงตัวขึ้นจากสระทันทีที่มือผมแตะขอบสระ แต่เขารีบถีบตัวออกจากขอบสระทันที เพื่อไม่ให้เสียเวลาในการว่ายรอบต่อไป
ตอนนั้น ผมคิดในภายหลังว่า เขาอาจจะยังไม่รู้ว่า ผมหยุดว่ายแล้ว ก็ได้
พอขึ้นจากสระ ผมก็รีบเข้าที่ร่ม รีบไปปัสสาวะก่อนทันที ไม่คิดอะไรมาก ไม่ได้คิดถึงเขาคนเมื่อตะกี้ด้วย ตอนนั้นไม่มีใครอยู่ในห้องน้ำ รอบข้างจึงเงียบมาก พอปัสสาวะเสร็จ ก็ตรงไปที่ห้องอาบน้ำจืด เพื่อหวังจะล้างคลอรีนออกจากตัว
ระหว่างที่เปิดน้ำล้างตัวอยู่ หูก็ได้ยินเสียงตะโกน เสียงวิ่ง เสียงอึกทึกอยู่ที่ข้างนอก
เสียงอะไร!!! ฟังไม่รู้เรื่องเลย ช่างมันเหอะ ผมคิด คงไม่เกี่ยวอะไรกับตัวผมหรอก ผมคิดเช่นนั้น
อาบน้ำเสร็จ ผมก็เดินไปที่ล๊อคเกอร์ ไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาเช็ดตัว เช็ดตัวแห้งแล้ว จึงเดินออกมาที่สระเพื่อจะหาที่นั่ง นั่งพัก
พอเดินออกมา เห็นภาพตรงหน้า สุดขอบสระด้านโน้น ผมก็ตกใจ
เพราะเป็นภาพ ผู้ควบคุมสระสองคน กำลังช่วยกันผายปอดชายคนนั้นอยู่ หันมองไปอีกด้านหนึ่ง ผู้ควบคุมสระอีกคนหนึ่ง กำลังพูดโทรศัพท์เสียงดัง เพื่อขอความช่วยเหลือจาก199 ...คนบนอัฒจรรย์ ตอนนี้ ก็ไม่ได้นั่งอยู่ที่เดิมแล้ว แต่เดินไปยืนมุงดูอยู่ใกล้ๆกับที่มีการผายปอด
สักประเดี๋ยวผู้ควบคุมสระ ก็มาถามผมว่า รู้จักกับชายคนนี้ ดีมั้ย? รู้จักบ้านเขามั้ย?
ผมบอกว่า ไม่รู้ ไม่ทราบชื่อเขาด้วย
ผู้ควบคุมสระถามผมว่า เมื่อกี้เห็นเขามีอาการยังไง?
ผมก็บอกว่า ไม่รู้สิ เขาไม่ได้พูด แต่ว่าเขาว่ายตามผมตลอด
ผู้ควบคุมสระถามผมว่า กี่รอบ?
ผมบอกว่า คง 7 มั้ง!!! แต่เขาไม่ได้ว่ายต่อเนื่อง เขาว่ายสัก 300 แล้วก็หยุด แล้วเขาก็ว่ายอีก 300 แล้วก็หยุด แต่เขาสปีดหนัก คงจะเหนื่อย และวันนี้ร้อน
คนที่อยู่บนอัฒจรรย์ 3 คน เขาก็บอกสิ่งที่เขาเห็น คล้ายๆกับที่ผมบอก คือไม่มีใครรู้จักชายคนนี้ และชายคนนี้ว่ายหลายรอบ และพยายามรีบว่าย
ผู้ควบคุมสระถามหมายเลขล๊อคเกอร์ของผม แล้วเขาก็ใช้คีมงัดกุญแจ อีกล๊อคเกอร์ที่เหลือ เพื่อจะหาเบอร์โทร.ติดต่อบ้านของชายผู้นี้
สักครู่เดียว ทั่วทั้งสระก็ได้ยินเสียงหวอ ชุดช่วยเหลือทั้งของเอกชน และของตำรวจก็มาถึง มากันหลายคันรถทีเดียว จอดรถหน้าสระเต็มไปหมด เขาใช้เตียงหาม ยกชายผู้นี้ไปโรงพยาบาลโดยด่วน มีผู้ควบคุมสระตามไปเป็นญาติชั่วคราว
ผู้ควบคุมสระบอกผมในวันต่อมาว่า ตกลงชายผู้นี้เสียชีวิต และเสียชีวิตไม่ใช่เพราะการจมน้ำ แต่เสียชีวิตเพราะโรคหัวใจ เป็นเพราะเหนื่อยมากเกินไป จนหัวใจช๊อค ทางโรงพยาบาลชันสูตรศพแล้ว ทางโรงพยาบาลพบว่า ในปอดไม่มีน้ำอยู่เลย แสดงว่าเขาเสียชีวิตขณะว่ายน้ำแล้ว จึงจมน้ำอีกที
ผู้ควบคุมสระอีกคน บอกผมในภายหลังเช่นกันว่า ในวันนั้น เห็นชายผู้นี้ เขามาตั้งแต่บ่ายโมง เขาเห็นชายผู้นี้วิ่งผ่านหน้าสระว่ายน้ำ ตอนบ่ายโมงหลายรอบ แล้วก็มีคนอื่นเห็นชายผู้นี้อีกว่าเข้าไปยกเวตอยู่คนเดียว อีกหนึ่งชั่วโมง(ข่าวเรื่องนี้ กระจายรู้กันทั่วสนามกีฬาครับ)
แล้วชายผู้นี้ก็ไปกินข้าว ไม่รู้ว่ากินข้าวเที่ยงหรือเปล่า ไปตอนบ่ายสาม เสร็จแล้วชายผู้นี้ ก็มาออกกำลังกายต่อ ที่สระว่ายน้ำอีก
ผู้ควบคุมสระคนแรก บอกผมเพิ่มเติมว่า ภรรยาของชายผู้นี้เขาไม่ติดใจเอาความ เพราะเขาทราบว่าแฟนของเขา เป็นโรคหัวใจ ขนาดที่เคยนำส่งโรงพยาบาลกระทันหัน ก็เคยทำมาแล้ว และชายคนนี้ เขาก็รู้ปัญหาของตัวดีว่าเป็นโรคหัวใจ เขาก็เลยพยายามจะออกกำลังกายบ่อยๆเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงยิ่งขึ้น
ผมเขียนบล๊อกเรื่องนี้ขึ้น เพื่ออยากจะยืนยันกับคนที่ออกกำลังกาย ไม่ว่าจะออกกำลังกายประเภทใด ขอให้ออกกำลังกายหนัก ถี่ และเร็ว เท่าที่ตนจะทำได้ เท่านั้น ....เพียงพอแล้ว ไม่ควรทำเกิน
อย่าฝืนทำต่อไป ให้เท่ากับหรือมากกว่าผู้อื่น หรือทัดเทียมเท่ากับมืออาชีพ โดยไม่มีโค๊ชอยู่ด้วย เพราะอาจจะเกิดอุบัติเหตุรุนแรงตามมา
อุบัติเหตุ คือ เหตุที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว แถมอะไหล่ร่างกายมนุษย์ก็หาที่เหมาะสมกับตัวเรา
..หาได้ยาก
ยิ่งหากอุบัติเหตุรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต ถึงจะมีอะไหล่ร่างกายมนุษย์ที่เหมาะสม แต่มันก็
ใช้ไม่ได้แล่ววววววว
yyswim
Create Date : 22 พฤษภาคม 2548 |
|
18 comments |
Last Update : 13 มิถุนายน 2551 0:27:17 น. |
Counter : 3412 Pageviews. |
|
|
|
|
อ่านแล้วนึกไม่ถึงนะคะ
ยังเห็นกันอยู่แท้ๆ
เค้ามีโรคประจำตัว น่าเป็นห่วงนะคะ
มาคนเดียวด้วย