ไม่ใช้บ้าง
ก็ได้
ในยุคของไอที เทคโนโลยีมีใช้มากขึ้น บางครั้งเราไม่จำเป็นต้องใช้ แต่ก็ยังใช้
อาจจะเป็นเพราะว่า ตอนแรกเราใช้เพื่อความรวดเร็ว ความสะดวกสบาย แต่ต่อๆมาเราใช้เพราะ ความเคยชิน และใช้เพราะ การรักษาหน้าเอาไว้ กลัวไปว่า หากไม่ใช้ คนอื่นเขาจะดูแคลน หรือกลัวว่าตนเองจะตกยุคตกสมัย
ตัวอย่าง เช่น เคยชินที่ต้องใช้รถ เดี๋ยวนี้แค่ไปปากซอย หรือไปวิ่งออกกำลังกายที่สนามใกล้ๆ ไม่ใช้รถตัวเอง ก็ไม่ได้แล้ว
เคยชินกับการเปิดแอร์ เดี๋ยวนี้แค่เดินเข้ามาในห้องเพื่อพูดโทรศัพท์ อย่างเดียว แล้วเดี๋ยวก็จะเดินออกจากห้องไป ไม่เปิดแอร์ ก็ไม่ได้แล้ว
หรือเคยชินกับการรูดบัตร เดี๋ยวนี้แค่ซื้อของ 100 กว่าบาท ไม่รูดบัตร ก็ไม่ได้แล้ว
หลานสาวคนหนึ่ง ไปบ้านคุณยายตอนสงกรานต์พร้อมคุณแม่คุณพ่อของเธอ พอไปถึงหลานสาวก็คะยั้นคะยอคุณพ่อ ขอให้รีบๆหน่อย อยากกลับบ้าน คุณพ่อก็กระซิบบอกลูกว่า ต้องรอดำหัวคุณตาคุณยายให้เสร็จก่อน จึงจะกลับได้
ผมถามทางคุณพ่อว่า ลูกติดเกมส์เหรอ? คุณพ่อเขาบอกว่า เปล่า
ลูกติดแอร์
คุณพ่อเขาบอกว่า เลี้ยงลูกมาผิด ให้นอนแอร์มาตลอด ไม่เคยให้ลูกนอน กะพัดลม เลย
ตอนลูกเข้าค่ายพักแรมของโรงแรมเมื่อเดือนก่อน ก็มีปัญหาไปทีหนึ่งแล้ว ครูเขานึกว่าลูกเราเข้ากับเพื่อนในกลุ่มไม่ได้ จนต้องขอตัวกลับบ้านก่อน ต้องอธิบายอยู่นาน ครูจึงเข้าใจ แต่ครูเขาก็เตือนให้เด็กปรับเปลี่ยนนิสัย
มิฉะนั้นเมื่อไปอยู่ในที่ที่เขาไม่มีแอร์ จะปรับตัวไม่ได้!!!!!!
ช่ายยย ปรับเปลี่ยนนิสัย
อย่างเครื่องคำนวณเนี่ย บางครั้งถ้าไม่ได้ใช้เครื่องคำนวณบ้างเนี่ย จะได้ไหม? ก็แค่ทอนเงินจากแบ๊งค์ 500 เอง
อย่างเบอร์โทร.เนี่ย จะจดไว้ในสมุดบ้าง จะได้ไหม? ทำไมต้องเม็มไว้ตลอด สมุดก็มี ปากกาก็มี
การใช้เทคโน มองดูผิวเผินก็ดูเหมือนกับว่าเท่ แต่มองอีกแง่มุมหนึ่ง เดี๋ยวนี้เราใช้มือ ใช้สมอง คิด คำนวณ และจำน้อยลงทุกที ทุกอย่างเราได้ทำผ่านเทคโนโลยี เรากำลังตกเป็นทาสของเทคโนโลยี โดยไม่รู้ตัว
หากมือถือหาย อะไรจะเกิดขึ้น?
ก็ต้องเสียใจเป็นธรรมดา
..เป็นของแน่นอน เพราะจะต้องจ่ายเงินซื้อเครื่องใหม่ ซึ่งจะมีออปชั่นใหม่ๆออกมาให้เลือกอีกเพียบ แต่เรื่องเงินน่ะเป็นเพียง ตัวปัญหาย่อย ตัวปัญหาใหญ่กว่า ก็คือ เบอร์โทร.ต่างๆนะซิ หายหมด
เมื่อใดก็ตาม ที่คนเราเม็มเบอร์โทร.ลงในเครื่อง เมื่อนั้นความจำเบอร์โทร.ของคนเราก็จะหายไป
คนรุ่นคุณพ่อคุณแม่ของเรา ทำไมเขาจำเบอร์โทร.ได้ คนละหลายๆเบอร์ ทำไมเขาคิดคำนวณราคาวัตถุดิบ ราคาสินค้า หรือคิดราคาเงินทอนได้ เร็วเท่าๆกะ ที่เราคิด
คำตอบ ก็คือ เพราะเขาไม่ได้ใช้เทคโนโลยี นั่นเอง
Create Date : 26 เมษายน 2548 |
|
5 comments |
Last Update : 26 เมษายน 2548 21:26:34 น. |
Counter : 2096 Pageviews. |
|
|
|
|
เคยชินกับการอยู่ห้องแอร์เหมือนกัน (เพราะต้องนั่งทำงานห้องแอร์) เดี๋ยวนี้เจอร้อนนิดร้อนหน่อยก็บ่น ทั้งๆที่เมื่อก่อนไม่มีปัญหา
ไม่เคยชินกับการรูดบัตร เพราะไม่มีบัตรให้รูด ชินกับการล้วงเหรียญกำมือนึงแทนแบงค์ยี่สิบใบนึงมากกว่า
ไม่ชินกับเครื่องคำนวณ เพราะจิ้มผิดทุกที
เมื่อก่อนชินกับการเมมเบอร์ไว้ในหัว แต่ตั้งแต่มีโทรศัพท์มือถือ ก็กลายเป้นโรคสมองเสื่อมทันที
ถ้ามือถือหายก็...ไม่เป็นไร
เพราะจดเบอร์ไว้ในสมุดแล้ว
น่าจะลองไม่ใช้มือถือดูซักวัน ว่าจะออกอาการแบบไหน
ถ้าดิ้นทุรนทุราย ก็แนะนำให้ไปถ้ำกระบอก
ไปอ้วกโทรศัพท์มือถือออกมา
คนรุ่นพ่อรุ่นแม่เรา สมองไม่ฝ่อเท่าเราจริงๆ
ป.ล. URL บนสุดน่ะ รูปไรเหรอ