* * * * ไม่มีเงิน และไม่มีมือถือ * * * * บล็อกที่ 786
* ไม่มีเงิน และไม่มีมือถือ *
2
3
4
5
6
7
8
ขอ เอ่ย ถึง กรุงเทพ สักหน่อยหนึ่งก่อนครับ
กรุงเทพมหานคร มาจากชื่อเต็มว่า ....กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ มหินทรายุธยา มหาดิลกภพ นพรัตนราชธานีบูรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน อมรพิมานอวตารสถิต สักกะทัตติยวิษณุกรรมประสิทธิ์
ซึ่งแปลว่า.. พระนครอันกว้างใหญ่ ดุจเทพนคร เป็นที่สถิตของพระแก้วมรกต เป็นมหานครที่ไม่มีใครรบชนะได้ มีความงามอันมั่นคง และเจริญยิ่ง เป็นเมืองหลวงที่บริบูรณ์ด้วยแก้วเก้าประการ น่ารื่นรมย์ยิ่ง มีพระราชนิเวศใหญ่โตมากมาย เป็นวิมานเทพที่ประทับของพระราชาผู้อวตารลงมา ซึ่งท้าวสักกเทวราชพระราชทานให้ พระวิษณุกรรมลงมาเนรมิตไว้
9
10
11
12
13
14
15
16
17
กรุงเทพมหานคร (Bangkok) เป็นเมืองหลวงของไทย เป็นศูนย์กลางของการปกครอง การศึกษา การคมนาคมขนส่ง การเงินการธนาคาร การพาณิชย์ และการสื่อสาร เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศ (ปี พ.ศ.2553 มีประชากร 10,326,093 คน)
ยกตัวอย่างเช่น กรุงเทพมหานคร เป็นที่ตั้งของทำเนียบรัฐบาล กระทรวงต่างๆ สภาผู้แทนราษฎร และศาลยุติธรรม กรุงเทพมหานคร มีสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ ประมาณ 30 แห่ง มีสถาบันการศึกษาของเอกชน ประมาณ 20 แห่ง กรุงเทพมหานครเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ ทั้งทางบก เรือ อากาศ กรุงเทพมหานคร มีธนาคารรัฐ ธนาคารเอกชนไทย และสาขาต่างชาติ ประมาณ 20 แห่ง
กรุงเทพมหานคร มีตึกสูงเกิน 30 ชั้นมากมาย โดยตึกที่สูงที่สุด คือ ตึกใบหยก 2 (สูงเป็นอันดับที่ 44 ของโลก) กรุงเทพมหานคร มีโรงแรมระดับ 5 ดาว มากกว่า 20 แห่ง มีศูนย์ค้าหุ้น ศูนย์อัญมณี ศูนย์บังเทิงเริงรมย์ ศูนย์ออกกำลังกาย มีแหล่งช้อปปิ้งต่างๆ เช่น สยามสแควร์, สยามพารากอน, เซ็นทรัลเวิลด์, มาบุญครอง, ศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้, ตลาดนัดจตุจักร, ยูเนี่ยนมอล, ประตูน้ำ, เยาวราช, สุขุมวิท, พระรามสาม, และกรุงเทพมหานคร ยังมี พระราชวัง พิพิธภัณฑ์ ท้องฟ้าจำลอง สวนพักผ่อนหย่อนใจ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากกรุงเทพมหานคร เป็นศูนย์กลางของหลายๆอย่าง ประชากรก็มีมากมายนับสิบล้านคน รวมทั้งผังเมืองกรุงเทพที่วางไว้เดิมก็วางไว้ไม่ดี มีการถมคูคลองระบายน้ำมาขยายเป็นถนน มีการต่อเติมอาคารต่างๆอย่างผิดกฎหมาย มีการติดตั้งป้ายโฆษณาต่างๆที่ไร้ระเบียบ รวมทั้งกรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ต่ำ สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 1 เมตรเศษ
ปัญหาของกรุงเทพมหานคร จึงมีทั้งการจราจรที่ติดขัด ฝุ่นในอากาศมาก เสียงดังเกินค่ามาตรฐานในบางพื้นที่ น้ำท่วมเมื่อฝนตกหนัก ขยะล้นถังหากเก็บไม่ทัน ปัญหาด้านหญิงบริการ ปัญหาด้านถูกขโมยทรัพย์สิน ปัญหาด้านถูกโกงราคาสินค้า เป็นต้น ซึ่งปัญหาเหล่านี้เมื่อรวมๆกัน ก็เลยทำให้คนกรุงเทพรีบเร่ง ไม่ค่อยยิ้มแย้ม ไม่ค่อยเอื้อเฟื้อ ต่างคนต่างอยู่ ไม่สนใจผู้อื่น หากใครจะเดินเข้ามาขอให้ช่วยเหลือ ก็มักจะถือว่า ไม่ใช่เรื่องสำคัญ หรือบางครั้งก็จะไม่ใส่ใจ ..หากเปรียบเทียบน้ำใจของคนกรุงเทพกับคนต่างจังหวัดจะแตกต่างกัน
18
19
20
21
22
23
24
25
บล็อกวันนี้ จขบ.ขอนำเรื่อง แนวน้ำใจ มาอัพบล็อก เนื่องในโอกาสวันเข้าพรรษา วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8
โดยขอนำ หลักสูตร "ลองใช้ชีวิตในเมืองใหญ่โดยไม่มีเงิน และไม่มีมือถือ" จขบ. นำมาจากคอลัมน์ เล็กไปใหญ่
จากหนังสือ สานพลัง โดย นายแพทย์ ชาตรี เจริญศิริ สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ มาช่วยเผยแพร่
............................................................................................
ชื่อหลักสูตร ลองใช้ชีวิตในเมืองใหญ่โดยไม่มีเงิน และไม่มีมือถือ ระยะเวลา 8 ชั่วโมง ระหว่าง 09.00 17.00 น. ในวันเสาร์ต้นเดือน
ผู้เข้าร่วม ประกอบด้วยคนทำงานออฟฟิศ หรือมนุษย์เงินเดือนจำนวน 20 คน
เงื่อนไข ให้ทุกคน งดอาหารเช้า แล้วมาพบกันที่หน้าห้างใหญ่ ย่านสยามสแควร์ เวลา 09.00 น.
เงินทอง บัตรเอทีเอ็ม มือถือ ที่พกพามา ให้ฝากไว้ที่อาจารย์ ตอนเย็นจะคืนให้
แล้วทุกคนต้องหาวิธี ไปถึง จุดนัดพบ ที่หน้าห้างใหญ่ตรงแยกลาดพร้าว ภายในเวลา 17.00 น."
ทุกคนปฏิบัติการด้วยท้องที่หิว ต่างนำตัวเองไปสู่ จุดนัดหมาย ด้วยประสบการณ์เฉพาะตนที่ยากจะลืมเลือน
แดง เล่าว่า เธอพยายามรวบรวมความกล้า ไปขอเงินค่ารถเมล์ แต่ใจไม่กล้าพอ เพราะรูปร่างหน้าตาแบบเธอนี่ ใครเขาจะเชื่อว่า ไม่มีเงินเลยสักบาท ... แต่ด้วยความมุ่งมั่น เธอจึงเดินจากสยามไปถึงแยกลาดพร้าวโดยไม่มีอาหารและน้ำ ตกถึงท้อง เธอสรุปวีรกรรมของเธอว่า เป็นเรื่อง ศักดิ์ศรี ล้วนๆ .. เพื่อนๆ จึงแถมให้ว่า ไม่ฉลาด เพราะไม่รู้จักขึ้นรถเมล์ฟรีสำหรับประชาชน
ต้อย แก้โจทก์แรก ทำอย่างไรจึงจะหายหิว ต้อย เล็งแม่ค้าหมูปิ้ง ที่ท่าทางมีเมตตา ต้อย เริ่มบรรยายว่า เธอไม่ได้กินข้าวเช้า กำลังจะเป็นลมแล้ว แม่ค้าสงสารยื่นหมูปิ้งให้สองไม้ แถมข้าวเหนียวอีกห่อ ณ นาทีนั้น ต้อย สัญญากับตัวเองว่า ทันทีที่ภารกิจเสร็จ ได้กระเป๋าสตางค์ของเธอคืน เธอจะมาเหมาหมูปิ้งหมดเลย .. แต่พอถึงตอนเดินไปขอใช้โทรศัพท์มือถือ จากผู้ที่เดินผ่านไปมา สายตาที่มอง ต้อย หัวจรดเท้า หรือท่าทีธุระไม่ใช่ของคนเหล่านี้ ต้อย สรุปว่า น้ำใจแห้งแล้งกว่าแม่ค้าหมูปิ้งยิ่งนัก
ต้อย บากหน้าขอยืมมือถือกว่าสิบราย แต่สุดท้ายมีหญิงวัยกลางคน ให้เธอยืมมือถือมาโทร. ได้สำเร็จ... ต้อย สัญญากับตัวเองเป็นคำรบสองว่า ต่อจากนี้ไป ใครมาขอยืมใช้โทรศัพท์มือถือ เธอจะเต็มใจให้ใช้ โดยไม่เกี่ยงงอนใดๆ เลย ..นี่คือคำสัญญาจาก ต้อย
26
27
28
29
30
31
32
33
เอก พยายามทดสอบน้ำใจผู้คน แต่ไม่มีใครเชื่อว่า ชายครบสามสิบสอง ไม่พิกลพิการ จะมีหน้ามาแบมือขอเงิน เอก ต้องทนหิวถึงบ่ายแก่ๆ ไปขอเงินจากนักศึกษาสาวที่มอง เอก อย่างพินิจพิเคราะห์อยู่ครู่หนึ่งแล้วเดินจากไป ราวสิบนาทีต่อมา เธอยื่นถุงจากร้านสะดวกซื้อให้ เอก ..โดยไม่พูดสักคำ เอก รับมาเปิดดู มีเครื่องดื่มเย็นๆ สองขวด แซนวิช และธนบัตรหนึ่งร้อยบาทในถุงนั้น
เอก เล่าว่า อยากจะวิ่งไปขอบคุณนักศึกษาสาวผู้นั้น แต่เธอเดินลับหายไปในฝูงชน บุญคุณครั้งนี้ เอก จะไม่ลืม เงินร้อยบาทที่ได้มา เป็นเงินที่มีค่ามากกว่าเงินเดือนหลายหมื่น ที่ฝ่ายการเงินโอนเข้าบัญชีของ เอก ทุกเดือนซะอีก .. เอก กำลังคิดว่า ตนจะตอบแทนสังคมที่มีผู้มีน้ำใจได้อย่างไร
วิทยา เป็นวิทยากรในกระบวนการหลักสูตรนี้ แต่ต้องใช้ชีวิตโดยไม่มีเงินและมือถือเช่นเดียวกัน วิทยา ปล่อยวางและเล่นเกมนี้อย่างไม่กดดันตัวเอง แต่พยายามเข้าใจปฏิกิริยาของคนที่เขาไปขอเงิน และพยายามเชื่อมโยงเหตุผลที่ทำให้บางคน มีน้ำใจ กว่าคนอื่น
วิทยา ได้รับความช่วยเหลือจากคนที่ใส่ใจรับฟังหรือจ้องมองดวงตาของ วิทยา .. แต่ผู้คนที่เร่งรีบ ไม่มีเวลาแม้แต่จะหยุดฟัง มักเชิดหน้าผ่านไป พร้อมส่งสัญญาณอำมหิต แปลความได้ว่า...ชีวิตใคร ชีวิตมัน อย่ามายุ่งกับ ข้า!!
ผู้เข้าร่วมทั้ง 20 คน มาถึงจุดนัดหมายด้วย ตัวช่วย แตกต่างกัน แต่ทุกคนสรุปตรงกันว่า
ต่อไปนี้ ตนจะทำหน้าที่เป็น ผู้ให้ อย่างเต็มใจ เมื่อมีผู้ร้องขอ
เพราะถ้าเรา ไม่ให้ ไม่ช่วย คนในสังคมแล้ว สังคมที่เราอยู่ร่วมกันนี้ ก็คงไม่มีการให้ มีแต่ความเป็นตัวใครตัวมัน
หลักสูตรนี้ ได้ชี้ทางว่า .. เราควรใช้ ชีวิตที่เหลือต่อไป อย่างไร?
34
35
36
37
38
39
40
ข้อคิดส่งท้าย จาก จขบ.
ทุกนาที มีค่ากว่าที่คิด
ทุกชีวิต มีค่ากว่าที่เห็น
ทุกๆบาท มีค่ากว่าที่เป็น
ไม่ลำเค็ญไม่เห็นค่า ราคาจริง
ขอขอบคุณที่ติดตาม
ขอขอบคุณมากๆ นะครับ ที่มีผู้กรุณาโหวตให้ ในสาขา Topical Blog
จาก สิน yyswim
Create Date : 16 กรกฎาคม 2554 |
|
20 comments |
Last Update : 16 กรกฎาคม 2554 3:14:25 น. |
Counter : 3106 Pageviews. |
|
|
|
สวัสดีจ้า เข้ามาเยี่มชม มาทักทายกัน