* * * * กิจกรรมยามว่างของเด็กรุ่นใหม่ * * * *









กิจกรรมยามว่างของเด็กรุ่นใหม่








































บล็อกวันนี้ จัดทำเนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ ปีนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ 8 มกราคม 2554

วันเด็กแห่งชาติ จะตรงกับวันเสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราคม ของทุกปี














































































ท่ามกลางกระแส ความทันสมัยของเทคโนโลยีและการสื่อสาร เด็กรุ่นใหม่แทบทุกคนจะเล่นอินเตอร์เน็ต และจะมีโทรศัพท์มือถือ

กิจกรรมยามว่างจากการเรียน ส่วนใหญ่เด็กรุ่นใหม่จะชอบอยู่หน้าคอมพ์
เล่นเน็ต เล่นเกมส์ เล่นทวิตเตอร์ เล่นเฟซบุ๊ค รวมทั้งพูดคุยหรือแชตกับเพื่อนๆผ่านโทรศัพท์มือถือ
กิจกรรมเหล่านี้ มีบ่อยครั้งที่รุกล้ำเข้าไปทับเวลาของการเดินทาง การรับประทานอาหาร และการนอนด้วย ..อุ อุ ห้ามยากมาก

แต่ก็มีเด็กรุ่นใหม่บางคนมีกิจกรรมยามว่างแปลกกว่าเด็กอื่น เป็นกิจกรรมที่ไม่ใช้เทคโนโลยีและการสื่อสาร
แต่เขาก็มีกลุ่มเพื่อนที่สนใจกิจกรรมอย่างเดียวกันกับเขา


เช่น เล่นสเกตบอร์ด (Skateboarding), ขี่จักรยานบีเอ็มเอ็กซ์, เล่นยิงปืน BB Gun (Airsoft Gun), เล่นตุ๊กตาบลายธ์,

เต้น B-boy, เล่นรูบิค (Rubik's Cube), เล่นควงปากกา (Pen Spinning), เล่นเรียงแก้วพลาสติก (sport stacking), และ เล่นการโยนวัตถุ (Juggling), เป็นต้น



บล็อกวันนี้ขอเชิญชม กิจกรรมยามว่างของเด็กไทยรุ่นใหม่ คลิปข้างล่างเป็นคลิปที่เล่นโดยผู้เล่นระดับมือโปรของโลก
เพื่อเป็นการยืนยันว่าเด็กไทยเราก็มีกิจกรรมแบบเดียวกันกับเด็กเก่งทั่วโลก ไม่ได้ตกกระแสความทันสมัย












#1 เต้น B-boy CICO


ความยาว 1.55 นาที












รูบิค เป็นกิจกรรมที่ต้องใช้สมองคิดและมือบิดลูกพลาสติกรูปทรงลูกบาศก์ที่มีชิ้นย่อย 26 ชิ้น

ให้ส่วนที่มองเห็นได้ของแต่ละด้านมีสีเดียวกัน ลูกบาศก์มี 6 ด้านก็จะมีสีปรากฏ 6 สี





#2.. Australian Nationals 2010


ความยาว 1.39 นาที













สำหรับเพื่อนๆที่ชอบอ่าน
บทความข้างล่างนี้ จขบ.นำมาจาก ‘Metro Life’ ใน ‘ผู้จัดการออนไลน์’ แม้จะเป็นของเดือนตุลาคม ปี 2008 แต่จขบ.คิดว่ายังไม่ล้าสมัยที่จะอ่าน


‘’รูบิค” เกมของคนมือไว ใจเร็ว หาอะไรเล่นฆ่าเวลา!


เช้าวันทำงานที่น่าเบื่อ ระหว่างที่รถไฟฟ้าใต้ดินกำลังจะแล่นไปจอดสถานีต่อไป ‘เมโทรไลฟ์’ เหลียวไปเห็นนักเรียนชายคนหนึ่งยืนชิดมุมประตูรถไฟฟ้า สวมแว่นสายตา ไหล่ซ้ายสะพายเป้ใบไม่ใหญ่นัก ก้มหน้าก้มตาบิดของเล่นรูปสี่เหลี่ยมที่มีสีคละกันจนยากจะจัดเรียงได้ใหม่ ที่เรียกว่า รูบิค อย่างรวดเร็ว มือและนิ้วเขาทำงานไวเป็นระวิง คงจะเร่งแก้เกมให้ทันก่อนถึงสถานีถัดไปหรือไม่ก็ทำให้เสร็จก่อนถึงโรงเรียน เสียงบิดไปบิดมากับความแน่วแน่ในการเล่นเรียกความสนใจคนร่วมขบวนไว้ไม่น้อย


กำลังมองอยู่เพลินๆ “สถานีต่อไปสุขุมวิท Next Station...” เสียงพนักงานในระบบอัตโนมัติแทรกขึ้นและเบนความสนใจผู้ร่วมขบวนไปได้ชั่วขณะ เมื่อหันกลับไปมองน้องมือบิดอีกครั้ง กลับกลายเป็นภาพเขายืนนิ่งๆ กำรูบิคที่เรียงสีเรียบร้อยไว้ในมือ เขาแก้เกมสำเร็จแล้ว อะไรจะเร็วปานนั้น!


ยิ่งเข้าไปทำความรู้จัก ก็ยิ่งทึ่ง ต้า-กิติกร ตั้งสุจริตธรรม กำลังเรียนอยู่ชั้น ม. 5 โรงเรียนหอวัง เล่นรูบิคเป็นงานอดิเรกมาได้ 2 ปี เขาบอกว่าเห็นเพื่อนในห้องเล่น ก็เลยเล่นบ้าง ตอนแรกก็เล่นแบบไม่จริงจัง แต่ได้เล่นแล้วติด ยิ่งฝึกคิด ฝึกบิด ยิ่งสนุก จะเดินทางไปเรียน ไปกินข้าว ไปเที่ยว หรือพักสมองที่ไหน เขาก็มักจะคว้ารูบิคขึ้นมาเล่นเสมอ


พูดไปแล้วจะหาว่าคุย แต่อาการติดรูบิคของ ต้า ทำให้เขาเริ่มเข้าแข่งขันประชันความไว จนได้รับรางวัลชนะเลิศจากการแข่งขันรูบิค 5 ใน 6 ครั้ง ซึ่งการแข่งขันครั้งที่ทำให้เขามีชื่อเสียงมากที่สุดคือ NSM Rubik's Cube Speed Contest 2008 จัดขึ้นโดย องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเมื่อต้นปี 2551 การแข่งขันแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ ประถมศึกษา มัธยมศึกษา และประชาชนทั่วไป ซึ่ง ต้า ได้สมัครเข้าแข่งขันในระดับมัธยมศึกษา และได้เป็นแชมป์ที่ทำเวลาได้น้อยที่สุดคือ 12.43 วินาที


ต้า พูดถึงสูตรตายตัวของรูบิคแบบ 3x3x3 ซึ่งมีอยู่ 119 วิธี เขาจำได้ทั้งหมด วิธีแก้เกมต่างๆ นั้น ต้า ศึกษาจากคนอื่นบ้าง ประยุกต์เองบ้าง หลังจากเล่นครบปีจึงเกิด ชมรมรูบิคไทย ต้า ก็ไม่ลังเลที่จะเข้าร่วม เขาทั้งเล่นทั้งแข่งจนทำลายสถิติตัวเองเรื่อยมา


สถิติที่ดีที่สุดในการแก้รูบิคขนาด 3x3x3 อย่างไม่เป็นทางการของ ต้า คือ 9.49 วินาที เขากำลังพยายามทำสถิติให้ดีขึ้นไปเทียบเท่าแชมป์โลกคนล่าสุดคือ 7.08 วินาที ซึ่งเป็นสถิติอย่างไม่เป็นทางการเช่นกัน จากสถิติดังกล่าว ต้า จึงเป็นเด็กอัจฉริยะเรื่องรูบิคที่เจ๋งที่สุดของไทยในขณะนี้


“รูบิคทำให้ ต้า ได้ฝึกจินตนาการไปในตัว เพราะต้องคิดอยู่เสมอว่าระหว่างที่บิดรูบิคด้านหนึ่ง จะต้องนึกภาพอีก 3 ด้านไปด้วยว่าเป็นยังไง เรียงสีแบบไหน บิดไปแล้วส่งผลให้เล่นได้ช้าหรือเร็วกว่าเดิม การเล่นรูบิคจึงต้องคิดด้วยสมอง ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว มือและนิ้วต้องแก้เกมได้ไวเท่าความคิด”


ต้า ให้ความสำคัญต่อเรื่องเรียนเป็นอันดับ1 รูบิคเป็นอันดับ 2 เขาจะทุ่มเวลาให้รูบิค 3-4 ชั่วโมงทุกวัน ด้วยนิสัยชอบคิดชอบลอง ทำให้ ต้า เล่นรูบิคได้ทุกแบบ และไม่ว่ารูบิคจะถูกออกแบบมาให้เล่นยากแค่ไหน เขามั่นใจว่าต้องแก้เกมได้ และถ้าหมดช่วงฮิต ต้า ก็ยืนยันว่าจะเล่นต่อไป เพราะเป็นความสามารถพิเศษที่เขาภูมิใจ


เมื่อถามว่าเล่นเพราะอยากเอาชนะหรือเปล่า ต้า ตอบว่า “ไม่เกี่ยวหรอกครับ มันขึ้นอยู่กับบุคคลมากกว่า ถ้าเขามีนิสัยชอบเอาชนะ จะเล่นอะไรจะทำอะไร ก็ชอบเอาชนะไปหมด สำหรับต้า ต้ามองว่าการเล่นรูบิคมันสนุก เล่นเพื่อหาเพื่อนได้ และการได้รางวัลชนะเลิศเป็นผลพลอยได้”


ต้า ตอบขณะที่สายตายังจดจ้องอยู่ที่รูบิค และบิดไปบิดมาอย่างรวดเร็วจนคนนั่งข้างๆ ยังดูไม่ทัน


ต้า มีรูบิคมากกว่า 10 ชิ้น เขาสั่งซื้อผ่านเว็บต่างประเทศบ้าง ไปซื้อที่ร้านของ พี่กันย์ ในห้างฟอร์จูนบ้าง ทั้งซื้อทั้งเล่นติดรูบิคขนาดนี้ จึงตั้งชมรมรูบิคขึ้นในโรงเรียนหอวัง และตอนนี้มีสมาชิกมากกว่า 30 คนแล้ว


“จะเล่นรูบิคได้ต้องมีใจรักก่อน” ต้า บอกว่าถ้าคนไหนลองเล่นแล้วไม่ชอบ เขาก็จะไม่แนะนำให้เล่น เพราะคนที่ไม่ชอบแล้วต้องเล่น พยายามแค่ไหนก็จะทำได้ไม่ดี ไม่มีความสุข ..แต่ถ้าคนที่ชอบรูบิค ลองเล่นแล้วแก้ปัญหาไม่ได้ก็เลยท้อ ต้า ก็จะบอกเขาเพียงคำเดียวว่า “ต้องฝึก” เพราะเขายึดคำนี้และทำได้ดีมาตลอด ซึ่งต้องอาศัยความชอบ ความอดทน ประกอบกับความตั้งใจจริงอย่างสูง และอีกไม่นานก็จะเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันรูบิคที่ฮ่องกง เพื่อชิงแชมป์รูบิคในระดับเอเชีย!


“รูบิค” (Rubik) หรือลูกบาศก์ เกมที่ผู้เล่นต้องขบคิดและบิด..บิด..บิด ให้ทุกสีกลับไปอยู่ในหน้าเดียวกันให้เร็วที่สุด โดยขนาดที่คนส่วนใหญ่เล่นกัน คือ 3x3x3 หรือรูบิคที่มี 6 ด้าน และวางลูกบาศก์เรียงกันในแนวตั้ง แนวนอน ด้านละ 3 ชิ้น บางคนเสียเวลาเป็นวัน แต่บางคนแก้เกมได้ในเวลาไม่กี่วินาที แม้จะมีรูปแบบการจัดเรียงเป็นจำนวนมากถึง 43,252,003,274,489,856,000 หรือ 43 ล้าน ล้าน ล้านรูปแบบ แต่ทุกรูปแบบสามารถแก้ได้ ภายในการบิด 29 ครั้ง หรือน้อยกว่า!


คุณกันย์ ศิริมาตย์ เจ้าของร้านรูบิคที่ผู้เล่นรู้จักดี เขาเล่นรูบิคมาตั้งแต่อยู่ ป.5 และหวังจะให้คนไทยได้แชมป์รูบิคโลก จึงสนับสนุน คุณชัชวาลย์ จารุวัฒนกุล ผู้ก่อตั้ง //www.thailandcube.com หรือชุมชนของคนรักรูบิคแห่งประเทศไทย ด้วยการดูแลเว็บและสอนวิธีเล่นผ่านคลิปต่างๆ นอกจากนี้ยังเปิดร้าน 109 computer ที่ ศูนย์การค้าฟอร์จูน ทาวน์ ขายรูบิคราคา 100 - 1,900 บาท คุณกันย์ เล่าว่าสั่งซื้อรูบิคมาจากต่างประเทศทุกชิ้น เพราะสินค้ามีคุณภาพ และมีคนมาซื้อทุกวัน ชิ้นที่ขายดีที่สุดคือ 3x3x3 บางทีก็เอามาให้ช่วยดู ช่วยซ่อม ก็ทำให้ฟรีบ้าง เพราะมีความสุขกับเรื่องนี้และยินดีให้ความช่วยเหลือ









#3.. PEN SPINNING World Cup 2010


ความยาว 4.21 นาที












สำหรับเพื่อนๆที่ชอบอ่าน....บทความข้างล่างนี้ จขบ.นำมาจาก ‘Metro Life’ ใน ‘ผู้จัดการออนไลน์’ เป็นของเดือนตุลาคม ปี 2008


‘ควงปากกา’ งานอดิเรกเด็กหลังห้องเรียนสู่เวทีระดับประเทศ


ถ้าเป็นคุณ คุณจะทำลายความง่วงเหงาหาวนอน หิว เซ็ง เบื่อ อย่างไร?


เด็กน้อยวัย 10 ขวบ คนหนึ่งอ้าปากหาว แล้วเริ่มหยิบปากกามาปั่นไป ปั่นมา เขาเริ่มบิดหมุนมันไปตามนิ้ว เร็วขึ้น และเร็วขึ้น และ...มันก็ตกแกร๊กลงบนพื้นห้อง แต่เมื่อไหร่ที่ปากกาตกบนพื้น เขาก็จะหยิบขึ้นมาและควงมันต่อไป อีกครั้งและอีกครั้ง อย่างไม่มีวันเบื่อ จนเมื่อเขาเก่งขั้นเซียน จากนั้นแทนที่จะหลับ เพื่อนข้างๆ กลับดูเพลินซะนี่!!!


ชีวิตวัยเรียนผ่านไปอย่างคึกคักทุกวัน และเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาเริ่มมีอาการ “เบื่อเรียน” ที่อาจารย์หลายคนต่างไม่พึงปรารถนา สิ่งเดียวที่เด็กคนนี้ทำคือ ควงปากกา


และอีกกว่า 10 ปีผ่านไป เด็กคนนั้นกลายเป็นผู้ชายทีชื่อ “เจ – ฉัตรชัย ทรงนภาวุฒิกุล” ประธานชมรมควงปากกาแห่งประเทศไทย และเป็นเว็บมาสเตอร์ของ //www.thaispinner.com แทบไม่น่าเชื่อว่ากิจกรรมยามว่างแก้เซ็งของเด็กหลังห้องเรียน จะพัฒนามาเป็นชมรมควงปากกาหนึ่งเดียวในประเทศไทย ที่ได้รับความนิยมสูงจนถึงขนาดมีการจัดการแข่งขันระดับประเทศ มีชุมชนออนไลน์เป็นของตัวเอง และไม่หยุดยั้งเมื่อประเทศเกาหลีส่งเทียบเชิญท้าเซียนควงปากกาไปประลองกันอีกด้วย


“ท่านั้นเรียก Thumb Around ครับ” เจ หมายถึงท่าทางการควงปากการอบนิ้วโป้ง ซึ่งเป็นท่าแรกที่ทำได้และเล่นมาตลอด 10 ปี โดยยังไม่เจอท่าแปลกใหม่อื่นๆ จนวันหนึ่งเพื่อนร่วมคณะ นำคลิปวิดีโอควงปากกาขั้นเทพจากประเทศเกาหลีมาให้ดู ถึงรู้ว่า นั่นเป็นแค่ท่าเบสิกเท่านั้น ความจริงมีท่ามากมายซึ่งวิจิตรพิสดารกว่านั้น ซึ่งเขาเสียดายเหลือแสนที่ไม่ได้เรียนท่าใหม่ๆ ตั้งแต่เด็ก พูดถึงตอนนี้ เขาก็แบมือออกและควงปากกาบนหลังมืออย่างน่าทึ่ง “...ท่านี้เรียกว่า Shadow ครับ” เจ บอกกับ ‘เมโทรไลฟ์’


ก็ไม่รู้ทำไมถึงไม่มีใครเริ่มซะที แต่เขาเล่าว่า ไม่มีเว็บควงปากกาสักเว็บเดียวที่เป็นภาษาไทย ดังนั้นเลยต้องอาศัยการเรียนรู้จากคลิปวิดีโอภาษาเกาหลีและอังกฤษล้วนๆ จนกระทั่งคิดว่าคนสนใจมากขึ้น เจ จึงตัดสินใจทำเว็บภาษาไทยของตัวเอง ต่อมาจึงได้ออกรายการโทรทัศน์เมืองไทยมากมาย รวมทั้งถ่ายทำออก TVB ฮ่องกง


“รู้สึกว่าการควงปากกา มาบูมเอาสุดๆ ก็เป็นตอนที่ได้รับความสนใจจากสื่อนี่แหละครับ เพราะทำเอาเซิร์ฟเวอร์ล่ม เดือดร้อนถึงขั้นต้องเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์ใหม่กันเลยทีเดียว” เขาเสริม


และถ้าใครจะควงปากกาให้มันสุดๆ เคล็ดลับอยู่ที่ต้องมีการ Mod Pen หรือ Modify Pen คือ ปรับแต่งให้เหมาะที่จะเล่นควงนั่นเอง ปากกาที่สามารถนำมา โมดิฟาย เช่น Pentel , Uniball , Pilot , Zebra , MonAmi และ Dong-A เป็นต้น


“แนะนำเลยว่า คนที่คิดจะควงปากกานั้น ควรใช้ Mod Pen เท่านั้น เพราะทำให้ควงง่ายและควงสนุกกว่ามากๆ และสามารถเรียนรู้ Tricks ต่างๆ ได้รวดเร็วกว่าปากกาธรรมดา โดยลักษณะของปากกาที่เหมาะสมสำหรับการเล่น Pen Spinning ก็คือ มีความยาวพอประมาณ แนะนำที่ 18 - 20 เซนติเมตร แล้วน้ำหนักของปากกาต้องได้สมดุลด้วย เช็กจากการเอานิ้วรองใต้ปากกาบริเวณกลางแท่งของปากกาแล้ว ปากกาไม่เอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง ก็ถือว่าใช้ได้ครับ สุดท้ายอาจมีการติดตั้ง Grip บริเวณปลายปากกาเพื่อเพิ่มน้ำหนักของปากกาให้ควงปากกาได้ถนัดมือ”


“ถ้าควงเป็นแล้ว ให้ควงทั้งวันก็ไม่ตกครับ อีกอย่างคงอยู่ที่ความเท่มั้ง (หัวเราะ) ความทึ่งของคนรอบข้าง มันรู้สึกดีที่คนรอบข้างตื่นเต้นกับความสามารถของเรา ซึ่งจริงๆ แล้วก็เหมือนมันเป็นทักษะที่เราหัดเพิ่มขึ้นอย่างหนึ่ง แล้วมันก็ฝึกสมาธิและความอดทนด้วย”


สำหรับวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ.2551 จะมีการแข่งขันควงปากกาชิงแชมป์ประเทศไทยรอบชิงชนะเลิศ เพื่อเลือกเฟ้นตัวแทนจากประเทศไทยไปแข่งกับแชมป์ของเกาหลี ในงาน PenDolSa Winter Battle 2008 ในวันที่ 6 ธันวาคม 2551 ณ ประเทศเกาหลี


เมื่อพูดถึงเกณฑ์การตัดสิน กรรมการเจ ชี้แจงว่าไม่มีอะไรมากมาย แค่ควงลื่นๆ ต่อเนื่อง ไม่สะดุด กระตุกไปมา หรือแอบหยุดเพื่อต่อท่า ต่อมาก็คือ ท่าทางความยากง่าย และสุดท้ายจินตนาการความคิดสร้างสรรค์ ที่บรรเจิดในการคิดท่าใหม่เป็นของตัวเอง แต่เนื่องจากเป็นครั้งแรกก็ไม่อยากจะกะเกณฑ์เรื่องท่าควงมากนัก เพราะถือว่าการควงปากกายังใหม่อยู่สำหรับการจัดการประลอง เดี๋ยวจะเครียดกันไปหมด เขาฝากบอกว่า อยากให้ดูสนุกๆ มากกว่า


ถ้าสังคมเปิดใจกว้าง ก็ไม่มีอะไรในโลกที่เป็นเรื่องไร้สาระ !! “ลองคิดดูเล่นๆ สมมติอย่างคนแต่งคอสเพลย์บางคน อาจจะมองการควงปากกาว่าไร้สาระ หรือคนที่ควงปากกาบางคน อาจจะมองว่าคนแต่งคอสเพลย์ไร้สาระก็ได้ มันขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน เชื่อว่าถ้าเราแบ่งเวลาให้ถูก เราจะได้ประโยชน์จากมันมากกว่า เพราะการควงปากกาช่วยฝึกสมาธิ ความพยายาม และความอดทน ขนาดเราอยู่ที่บ้านก็เล่นได้ ไม่ต้องไปมั่วสุมนอกบ้านด้วย การควงปากกาไม่ต้องการความคิด มันเป็นความเคยชิน ถ้าควงเป็นแล้วให้หยุดก็หยุดไม่ได้ ต้องให้โลกนี้ไม่มีปากกาซะก่อนนั่นแหละ คุณถึงจะเลิกควงมัน”









#4.. 2010 World Sport Stacking Championships


ความยาว 4.42 นาที








#5.. How to Speed Stack : Animation


ความยาว 0.56 นาที








Steven Purugganan เจ้าของ World Record โลก 3 ปีต่อเนื่อง







สำหรับเพื่อนๆที่ชอบอ่าน....บทความข้างล่างนี้ จขบ.นำมาจาก ‘Metro Life’ ใน ‘ผู้จัดการออนไลน์’ เป็นของเดือนตุลาคม ปี 2008


‘Speed Stacking’ แข่งเรียงแก้วเร็ว กีฬาความไวใกล้แสง


กีฬา Speed Stacking หรือ การแข่งเรียงแก้วเร็ว เรียงเป็นรูป 3 เหลี่ยมทรงสูงกลับไปมาด้วยความเร็ว ถือได้ Cool, Hot ขนาดที่ว่า วันนี้บ้านเรา มีสมาคมกีฬาสแต็คแห่งประเทศไทยเกิดขึ้นแล้ว โดยมีสมาคมกีฬาสแต็คโลก หรือ WSSA (World Sport Stacking Association) เป็นผู้ดูแล


ทนงศักดิ์ ประดิษฐ์ นายกสมาคมกีฬาสแต็คแห่งประเทศไทย อธิบายความ Hot ของกีฬาประเภทนี้ว่า การแข่งขัน Sport Stacking เกิดที่ประเทศอเมริกาตั้งแต่ปี ค.ศ.1980 ปัจจุบันกำลังแพร่หลายในหลายประเทศ และยังได้รับการบรรจุให้เป็น Physical Education Program วิชาพลศึกษาของหลักสูตรการเรียนในห้องเรียนของหลายประเทศด้วย


สำหรับวิธีการแข่งขัน Sport Stacking นั้น นายกสมาคมฯ อธิบายว่า มีทั้งหมด 3 รูปแบบได้แก่ การแข่งแบบ 3-3-3, 3-6-3 และแบบ Cycle “วิธีการเล่นก็ง่ายๆ แต่ต้องใช้ความเร็ว และการฝึกฝนเท่านั้น ซึ่งหากเป็นการแข่งขันแบบ 3-3-3 คือ เราจะใช้แก้วทั้งหมด 9 ใบ วางต่อกันเป็นรูป 3 เหลี่ยมทรงสูง หลังจากนั้นก็ใช้ความเร็ว ให้แก้วทั้งหมดมารวบกันให้เร็วที่สุด ส่วนการเรียงแก้วแบบ 3-6-3 จะเป็นการเรียงซ้อนแบบ 3 ใบ 6 ใบ และ 3 ใบ คือจะเป็นการเล่นแบบเรียงซ้อนขึ้นซ้อนลง แข่งว่าใครเร็วกว่ากัน”


การแข่งขันจะมีทั้งประเภทเดี่ยว ซึ่งกรรมการจะดูว่าใครทำเวลาเร็วตามแต่ละประเภทการแข่งขัน (3-3-3, 3-6-3) และดูว่าใครมีข้อผิดพลาดน้อยกว่า และประเภททีม คือจะให้ผู้เล่น เล่นแบบ 3-3-3 เล่น 3-6-3 ต่อกัน เล่นกันเป็นทีม 2-3 คน ถ้าแข่งแบบทีมจะดูจากการทำฟาวล์ คือกรรมการจะตัดพอยต์จากการเล่นผิดเป็นหลัก เพื่อลบคะแนนออกไป


สำหรับอุปกรณ์ของ Sport Stacking ประกอบด้วย แก้วทั้งหมด 12 ใบ (แก้วที่ทำขึ้นมาพิเศษ), “Stack Mat” หรือแผ่นใช้รองแก้ว และ Timer หรือตัวนาฬิกาจับเวลาระบบสัมผัส ซึ่งมันจะอยู่คู่กับตัว Stack Mat อุปกรณ์เซตนี้จะมีไว้สำหรับผู้เล่นที่เน้นการฝึกฝนทำเวลาด้วยตัวเอง แต่หากเป็นการแข่งขันระดับทัวร์นาเมนต์ ทนงศักดิ์ บอกว่า จะใช้เป็น Display Timer ที่ตัวใหญ่ๆได้มาตรฐาน แก้วพลาสติกต้องผลิตจากพลาสติกชนิดพิเศษ มีการเจาะรู คือมันจะเป็นมาตรฐานที่กำหนดไว้เหมือนกันทั่วโลก


ประโยชน์ของกีฬาประเภทนี้ จากผลการวิจัยของฝรั่งระบุว่า การเล่น Sport Stacking ในแง่ Physical จะช่วยพัฒนาร่างกาย 2 ซีกพร้อมกับสมองทั้ง 2 ด้านไปด้วยกัน จะใช้การประสานงานกันระหว่างประสาทสัมผัสตากับมือ อีกทั้งการเล่นกีฬาชนิดนี้จะต้องใช้มือซ้ายและมือขวาสลับกัน เพราะถ้าเล่นโดยใช้มือแค่ข้างเดียวจะทำให้เล่นได้ช้า


ปัจจุบัน Steven Purugganan เป็นเจ้าของ World Record โลก 3 ปีต่อเนื่อง คือปี 2008, 2009, 2010 โดย Steven ทำลายสถิติการเล่นทั้ง 3 ประเภท













#6 Juggling in Kiel 2010


ความยาว 9.29 นาที













#7 How to Juggle Three Balls


ความยาว 2.03 นาที












บล็อกวันนี้ ยาว นะครับ ใครพอมีเวลา อ่านบทความบ้าง? อิ อิ ไม่เป็นไรหรอกครับ เพราะเราไม่ใช่ เด็กแล้ว


ขอขอบคุณครับที่มาเยี่ยม



yyswim


yyswim@hotmail.com





 

Create Date : 08 มกราคม 2554
14 comments
Last Update : 8 มกราคม 2554 1:23:47 น.
Counter : 5397 Pageviews.

 

น่าเล่น และมีความรู้ทุกกิจกรรมที่นำเสนอมาเลยนะค่า

สุขสันต์วันเด็กค่า

 

โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา 8 มกราคม 2554 2:11:11 น.  

 

แวะมาสวัสดียามเช้าครับพี่

รูปเด็กหนุ่มภาพแรก ๆด้านบนคือพี่สินสมัยหนุ่ม ๆ ช่ายไหมครับ (แกล้งถามซะงั้น)

ลูกชายผมตอนนี้ก็ชอบเล่นกีฬาเพิ่มขึ้น ก่อนหน้านี้ชอบที่จะอยู่หน้าคอมพ์

เด็ก ๆ จะมีความไฝ่ฝัน ดังนั้นผู้ปกครองต้องสนับสนุนและพูดคุยให้กำลังใจ

เจ้าลูกชายแข่งกีฬาแพ้ ผมก็ต้องปลอบใจและให้กำลังใจ เพื่อให้เขาเข้าใจ รู้แพ้รู้ชนะ กีฬาวัดที่การฝีกฝน

ตอนนี้ลูกก็เลยเริ่มเล่นฟุตบอลมากขึ้นครับ โดยผมก็เล่นด้วย และสนุบสนุนด้วยการซื้อชุดสวย ๆให้ ถูกใจเขาแหละ

 

โดย: tiensongsang 8 มกราคม 2554 6:11:26 น.  

 



เด็กหญิงดีดี เมาเร่อ
มาขอพร+ขอของขวัญวันเด็กจากพี่สินค่ะ อิอิ
บทความวันนี้ไม่ได้อ่าน คลิปก็ไ่ม่ได้ดูค่ะ
วันนี้งานมากมายมหาศาล
ช่วงเช้าอยู่ในบล็อกได้แค่ 20 นาที
ช่วงบ่ายอาจหาเวลามาอัพบล็อกต่อสักนิด
ไม่งั้นเดี๋ยวน้องแกวเดินทางไม่จบ

วันหน้าค่อยแวะมาใหม่ ..
จดไว้แล้วว่าอยากอ่านอะไรในบล็อกนี้

ภาพยนตร์จากภาพที่พี่สินนำที่รักของน้องดีดีมาลง
พี่สินได้ดูไหมคะ ..
อยากทราบความเห็นของพี่สินว่าคิดยังไงกับเรื่องนี้
สำหรับดี. .. มันสุดยอดในแง่ของการนำเสนอมาก
มีการสอนที่ถูกซ่อนเอาไว้งามๆสำหรับเด็กรุ่นใหม่
เช่น ..
คุณหลงรักผู้ชายคนนึง สิ่งที่คุณควรจะทำคืออะไร
คุณรู้ว่า .. ถ้าจะให้ผู้ชายหันมามอง
คุณต้องมีจุดเด่น แล้วคุณจะเด่นในแง่ไหน
นางเอกของเรื่องเลือกวิธี ทำตัวใ้ห้สวยขึ้น
ขอเด่นในเรื่องกิจกรรม และที่สำคัญคือเรียนให้เก่ง
เป็นมุมมองชีวิตในแง่ +
เพราะถึงที่สุด ..
สิ่งที่ทำก็เพื่อความก้าวหน้าในชีวิตของตัวเองทั้งนั้น
หรืออย่างในกรณีพระเอก ที่มีปมด้อยในชีวิต
เพราะพ่อแพ้เรื่องของกีฬา จนถูกตราหน้าว่าเป็นคนขี้แพ้
แต่เขาก็พยายามเพื่อความฝันของตัวเอง





แหะ แหะ
ถามพี่สินว่าดูแล้วยัง แต่เล่าซะยาว
แบบว่าชอบมาริโอ้ นี่นา
แอบยืมนามสกุลมาให้ปลื้มหัวใจนิดนึงก็ยังดี
วันเด็ก .. ไม่ได้เป็นเด็กแล้ว
ขอหลงรักเด็กนิดนึงนะคะ
พี่สินยกให้เด็กหญิงดีดีสักวันนะคะ




 

โดย: d__d (มัชชาร ) 8 มกราคม 2554 7:31:02 น.  

 

คุณเค็ง

ผมไปฟังเพลงเพราะ เรื่อง ‘Winter Love Song’ มาแล้ว
หนังเรื่องนี้ ผมยังไม่ได้ดูครับ
สวัสดีวันเด็กแห่งชาติ ครับ


คุณเทียน...

เรื่องหวัด ขอให้คุณเทียนหายไวๆ
นอนมากขึ้นหน่อย ทานผลไม้ทานส้ม ดื่มน้ำอุ่นหรือระดับอุณหภูมิห้อง
ห้ามน้ำแข็งและเครื่องดื่มเย็น จะหายได้ไว โดยแทบจะไม่ต้องกินยา

ออกเหงื่อได้ทุกวัน เป็นเรื่องดีต่อตนเอง
ทำยังไงก็ได้ให้เหงื่อออก
คนมีเหงื่อ เป็นคนมีเสน่ห์ ไม่ใช่เป็นคนสกปรกเลย
นักฟุตบอลพรีเมียร์ลีก มีเหงื่อออกทุกวัน

โฟกัส อีกคน พ่อของเขาเป็นสถาปนิก แม่ทำงานทรู
แม่ของเขาคือ ลูกสาวของเจ๊
โฟกัสคนนี้ ชอบเล่นเกมส์ อ่านนิยายแต่เรื่องเกมส์
พ่อของเขาจะแบ่งคอมพ์ให้เล่น คนละเครื่องกับพี่สาวของเขา
แต่แม่ของเขาจะควบคุมเวลาให้เล่นคอมส์ต่อวัน
ถึงเวลาจะต้องเลิกเล่น เข้านอน แต่เขามักจะต่อรองกับแม่

โฟกัส ไม่ค่อยออกกำลังกายเหมือนกัน
ผมชวนไปว่ายน้ำ ก็จะสั่นหัว
แต่เขาเป็นคนประหยัด จะมีเงินเหลือกลับบ้านทุกวัน นำเข้าที่เก็บของเขา
ทีนี้ความที่เขาประหยัด บางครั้งตอนกลับจากโรงเรียน
(ขาไป พ่อเขาจะไปส่ง) พอรอรถเมล์นานๆ เขาก็ตัดสินใจเดินกลับ
ก็ประหยัดเงินค่ารถเมล์และเหงื่อออกจนชุ่มเสื้อ
เป็นการออกกำลังกายของโฟกัสเขาละ


น้องดี...

'สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก' ดูเพียงรอบเดียว
แบบเดียวกันกับ 'กวน มึน โฮ'
ก็ชอบนะครับ
ผมยังไปชวนเพื่อนที่เขาไม่ค่อยดูหนัง ให้มาดู
ทุกคนก็บอกว่า ดี ชอบ เหมือนกัน
เนื้อเรื่องมีทางเป็นไปได้ ไม่ Drama เกิน
หากมีแผ่นเมื่อไหร่ ก็จะเปิดดูซ้ำได้ครับน้องดี

บล็อกนี้เคยนำคลิป 'สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก' มาลงครั้งหนึ่งแล้ว
ขอลงอีกครั้ง






 

โดย: yyswim 8 มกราคม 2554 12:53:24 น.  

 

สิ่งที่ "เด็ก" บ้านป้าแอ๊ดผ่านมาแล้ว

คนโต
1. เล่นกีตาร์ จนหักคามือ
2. เล่นสเก็ต ทั้งล้อเลื่อนและสเก็ตน้ำแข็ง
3. เป็นหัวหน้าเชียร์รีดเดอร์สมัยมัธยม
4. ไว้ผมยาวประบ่า
5. เจาะหู 5 รู
6. อารมณ์ครีเอทบรรเจิด

คนเล็ก
1. เล่นรูบิคเก่งมาก
2. เล่นหมากรุกชนะจนได้เป็นแชมป์ของกีฬาสาธิตฯ
3. เล่นเกมส์ เก่งที่สุด ตั้งแต่อยู่ชั้นประถมจนถึงปัจจุบัน แม่ยังสู้ไม่ได้เลย ต้องให้ลูกสอน
(อ้าว.. แสดงว่าแม่ก็เล่นอยู่นิ หุ หุ)
4. เรียนเก่งมาก โดยเฉพาะ ฟิสิกส์และเคมี
5. เชื่อมั่นในตัวเองมากที่สุด

สิ่งที่ผ่านมาทั้งหมดนี้ มีทั้งดีและไม่ดี
มีทั้งที่สอนและไม่สอน
ลูกบอกว่า " ลูกเก่งเองเนอะแม่ " ฟังเขาซิ




ซึ่งตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างในวัยเด็กของลูกๆ ก็ผ่านพ้นไปแล้ว
เก็บไว้เพียงอดีตอันน่าชื่นชมเท่านั้นเองค่ะ

เสียดาย...ที่คุณสินไม่มี "เด็ก " เป็นของตัวเองไว้ชื่นชมบ้าง

 

โดย: addsiripun 8 มกราคม 2554 15:55:35 น.  

 

เห็นเด็กในบล็อกนี้แล้ว


เกิดอาการ "รักเด็ก" ขึ้นมาทันทีค่ะ



^^

 

โดย: โสดในซอย 8 มกราคม 2554 16:56:27 น.  

 

อ่านแล้วหัวเราเลยค่ะ
นึกถึงคำที่ตัวเอง ว่าเด็กนักเรียนเลยอ่ะ
จริงๆ สิ่งพวกนี้ ถ้าเล่นฆ่าเวลา
หรือ เล่นในเวลาอันเหมาะสมนี่ หนูโอนะคะ
แต่เด็กบางส่วน ก็มีพวกอังกระแส
เชื่อมั้ยคะ หนูเกลียดกิจกรรมเหล่านี้มาหมดแล้ว
เพราะ นักเรียนเอามาเล่นในห้องเรียน
มีครั้งนึง ที่หนูจำได้ไม่ลืมเลย 555
เด็กในห้องคนนึง เอารูบิคขึ้นมาเล่นขณะที่หนูสอน
ตอนฟังครูคนอื่นบ่นเนี่ย หนูก็ไม่เท่าไรหรอก
แต่มาเจอกับตัวนี่ น๊อตเกือบหลุด
เค้าตั้งหน้าตั้งตา บิดมากมาย บิดกันให้เห็น
ชนิดที่เรียกว่า ท้าทายสายตา
หนูก็เลยเรียกเค้าเพื่อจะริบ
เค้าตอบหนูว่า "ครูไม่ทราบเหรอคะ ว่ารูบิค ช่วยพัฒนาสมาธิและจินตนาการ"
หนูบอกเค้าว่า การริบรูบิค ก็จะช่วยพัฒนาเธอได้มาก เพราะเป็นการสอนเธอให้รู้จัก กาลเทศะ รู้เรื่องความเหมาะสม ในการทำกิจกรรมต่างๆ รู้จักมารยาทการฟัง
เพราะถ้าปล่อยให้เธอเล่นต่อไป คงทำให้เธอ ไม่รู้จักคำว่า เวลาอันควร เพราะฉะนั้น ครูอยากให้เธฮ พัฒนาทั้ง สมาธิ จิตนาการ และกาลเทศะ เอามาให้ครูก่อน ตอนพักค่อยมาเอาคืนไป

 

โดย: Artagold 8 มกราคม 2554 20:37:39 น.  

 

ขอโทษทีค่ะพี่
พิมพ์ซะยืดยาว แถมยังไม่ทันได้ตรวจทาน
มือพลาดไปกดโดนปุ่มส่งซะงั้น

หนูเชื่อนะคะ กิจกรรมแต่ละกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาเด็ก
กันแตกต่างไปในแต่ละด้าน
แต่เราก็คงต้อง สอนเค้า ให้ถูกต้องเหมาะสม
เด็กๆ ยังต้องเรียนรู้อะไรกันอีกเยอะเลย

ที่สำคัญ คงต้องสอนให้เค้ารู้จักค้นหาตัวเองให้เจอ
ว่าชอบ และถนัดด้านไหน
อุ้ย บ่นเรื่องเด็กนี่ ยาวแน่ๆเลยค่ะ

นอกเรื่องนอกราวบ้าง ก็ขออภัยนะคะ
อ้อ หนูอ่านจนจบ ทุกบทความเลยค่ะ
เอาไว้ ตอบเด็กๆ ว่าชั้นรู้หมดแหละยะ
กิจกรรมที่พวกเธอทำกันเนี่ย
555
ประโยคเดิม ไม่เปลี่ยนแปลงที่มาแล้วต้องพิมพ์
บล็อกพี่สิน นำสมัย ทันเหตุการณ์จริงๆ
ตอนนี้อาจต้องเพิ่ม เหมาะกับทุกรุ่น ทุกวัย 555

 

โดย: Artagold 8 มกราคม 2554 20:45:14 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับพี่สิน

ผมซื้อแก้วมาลองให้หมิงหมิงเรียง
ปรากฏว่าเจ้าตัวเรียงๆๆๆ
แล้วก็พังอย่างเดียวเลยครับ 555









 

โดย: กะว่าก๋า 9 มกราคม 2554 5:38:08 น.  

 

ทักทายสวัสดีกับคุณสิน ยามเช้าๆ ของวันอาทิตย์ครับ
สงสัยจะเป็น B-Boy ที่ไม่เคยได้ไปสัมผัส ลองเล่นกันเลย
ส่วนเจ้ารูบิค ก็เล่นแบบจบได้ แต่ใช้เวลานานแสนนาน
ส่วนอื่นๆ ก็พอได้ลองเล่นกันแบบพอเล่นเป็นครับ

 

โดย: ถปรร 9 มกราคม 2554 6:35:55 น.  

 




ขอบคุณ คุณสิน มากเลยนะคะ
ที่ไปอวยพรวันเกิดให้มินอ่ะค่ะ
เช่นกันค่ะ ขอให้คุณสินมีแต่ความสุขมาก ๆ
ตลอดไป นะคะ

 

โดย: มินทิวา 9 มกราคม 2554 11:09:55 น.  

 

ขอบคุณที่แวะไปฟังเพลงนะค่า ลองหาเรื่องนี้มาดูนะค่า

สงสัยคุณ จขบ. ชอบมาริโอ แน่เลยอ่ะ

รักษาสุขภาพนะค่า

 

โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา 9 มกราคม 2554 12:04:05 น.  

 


สวัสดีค่ะคุณพี่สิน..

แชมป์รูบิคปีที่แล้วเป็นของเด็กเซนต์ดอมิวนิกค่ะ

เด็กไทยเก่งๆกันหลายคนนะค่ะ

เมื่อวานเป็นวันเด็ก..ได้ไปทำบุญด้วยค่ะ

ได้ไปไหว้พระและเอาของไปแจกเด็กๆค่ะ..

คุณพี่สินพาเด็กๆไปเที่ยวที่ไหนค่ะ

ไม่มีเด็ก ก็พาตัวเองไปเที่ยวได้ อย่างอ้อมแอ้มไง!



 

โดย: คนผ่านทางมาเจอ 9 มกราคม 2554 15:27:40 น.  

 

ความสามารถเด็กไทยไม่แพ้ต่างชาติในโลกนี้เลย
อย่างวงโยธวาทิตนี่เคยดูในทีวี ชอบมากเลยค่ะ เก่งมากๆ

ขอบคุณสำหรับลูกยอนะคะพี่สิน
เป็นกระเป๋าที่ถักง่ายมากค่ะ แต่ใช้เวลาหน่อยเท่านั้นค่ะ

 

โดย: ซองขาวเบอร์ 9 9 มกราคม 2554 19:31:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


yyswim
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]





บล็อกสรรสาระนี้ จขบ.ไม่ได้เขียน-ไม่ได้ถ่ายภาพ-ไม่ได้อัพโหลดคลิปเอง หากแต่ทำหน้าที่เป็นบรรณาธิการบล็อก เสาะหาเรื่องดีๆ รูปสวยๆ คลิปแปลกๆ มาไว้ในบล็อก


ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยม ขอเชิญชมหรืออ่านตามสบาย ไม่ต้องคอมเมนต์ก็ได้ จขบ.ชอบการเข้ามาเยี่ยม แบบกันเอง ง่ายๆ สบายๆ




เริ่มเขียนBlog เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2548


เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ.2550 เวลา 23.30 น.


เริ่มนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชม




Latest Blogs

New Comments
Group Blog
 
<<
มกราคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
8 มกราคม 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add yyswim's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.