มือใหม่ขายประกัน
มือใหม่ขายประกัน
ผมเอง แม้จะซื้อประกันชีวิตไปแล้ว 2-3 แห่ง แต่ก็ไม่ค่อยจะรู้เรื่องประกันชีวิตนักหรอก ใครมาคุยด้วยทีไร ก็ไม่ค่อยจะสนใจฟัง ยิ่งถ้าหากใครเข้ามาบอกว่า ขอคำปรึกษาหน่อย...
โน่น!!! ผมจะโบ้ยไปที่คนอื่น ...คนขายประกัน ไง
เหมือนกับความรู้เรื่องหุ้นเลย ทั้งรู้น้อย ทั้งไม่สนใจ(ทั้งๆที่มีหุ้นกะเขาอยู่นิดนึง แต่ไม่ค่อยได้สนใจ)
และผมก็จะโบ้ยไป ....โน่นอยากรู้เรื่องหุ้น ไปคุยกะห้องสินธรโน่น!!!!
บล็อกวันนี้ ก็ไม่ได้เขียนขึ้นมา จากคำว่า รู้ลึก แต่เขียนขึ้นมา ในแง่ของการเสนอข่าว
# 13 ตัวแทนขายประกัน มือใหม่
นำมาจาก เว๊ปน.ส.พ.สยามธุรกิจ วันที่ 15 สิงหาคม 2550
สมรภูมิธุรกิจประกันชีวิตของครึ่งปีหลัง กำลังทวีความเข้มข้น โดยเฉพาะการสร้างกองทัพตัวแทนขายหน้าใหม่ ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งๆที่มีช่องทางขายใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมากมายก็ตาม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าช่องทางขายโดยตัวแทน ยังเป็นช่องทางขายที่ได้เงินเป็นกอบเป็นกำ สร้างเม็ดเงินจำนวนมากให้กับธุรกิจประกันชีวิต
เห็นได้ชัด จากปริมาณผู้เข้าสอบตัวแทนประกันชีวิต ที่เพิ่มจำนวนยอดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในช่วง 7 เดือนแรกของปี (ม.ค.-ก.ค.2550) ธุรกิจประกันชีวิต มีตัวแทนใหม่เข้าระบบไปแล้ว 44,679 คน เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งมีตัวแทนเข้าระบบ 33,746 คน แปลว่าเพิ่มขึ้นถึง 32% ทีเดียว
และในความทันต่อเหตุการณ์ แผนงานในช่วงครึ่งปีหลังของแต่ละบริษัท โดยเฉพาะบริษัทในระดับท็อปเทนของตลาด ล้วนแต่หันเป้าหมายด้านการสร้างตัวแทนใหม่อย่างชัดเจนและคึกคักทั้งนั้น
เริ่มจากบริษัทประกันชีวิตอันดับห้าของตลาด เจ้าของโฆษณาชุดแมวอ้วน-หมาอ้วน อย่าง เมืองไทยประกันชีวิต ที่ยึดกลยุทธ์ ช่องทางจำหน่ายหลากหลาย (Multi Distribution Channel) แต่ก็ยังทุ่มโฆษณา รีครูตตัวแทนใหม่อย่างหนัก จนสามารถสร้างสถิติใหม่ มีผู้คนแห่โทรศัพท์เข้ามาสมัครเป็นตัวแทนใหม่ ผ่าน Call Center ไม่ต่ำกว่า 300 สายต่อวัน โดยนายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด เปิดเผยกับ สยามธุรกิจ ว่า
ต้องยอมรับว่าการออกโฆษณา รีครูตตัวแทนใหม่ ได้ผลมาก ทำให้มีจำนวนตัวแทนใหม่ของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และยังเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสร้างผลงานเพิ่มมากขึ้นด้วย โดยสามารถสร้างผลงานเพิ่มขึ้นถึง 25% ทีเดียว ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถสร้างตัวแทนใหม่ได้ครบตามเป้าหมาย คือ จำนวน 3,000 คน รวมกับที่มีอยู่เดิม จะทำให้ครบ 15,000 คนในสิ้นปีนี้
ด้วยการเปิดแนวรบของเมืองไทยประกันชีวิต กลายเป็นชนวนที่ทำให้บริษัทประกันชีวิตรายอื่นๆ ต้องหันมาทุ่มน้ำหนัก ในเรื่อง การรีครูตตัวแทนใหม่ อย่างเป็นรูปธรรม
โดยเฉพาะ เบอร์หนึ่งในตลาดอย่าง เอไอเอ หรือ อเมริกัน อินเตอร์แนชชั่นแนล แอสชัวรันส์ ที่มีจำนวนกองทัพตัวแทนอยู่มากที่สุดในตลาด คือ 75,000 คน
ซึ่ง เอ ไอ เอ เริ่มเปิดศึกตั้งแต่ขึ้นศักราชใหม่ เมื่อปลายเดือนธ.ค.ที่แล้วไปแล้ว ด้วยโฆษณาชุด คนแปลกหน้า เพื่อโปรโมท ความเป็นมืออาชีพของตัวแทนเอไอเอ ที่ใช้วิธีตรวจสุขภาพการเงิน (Financial Health Check) เป็นจุดขายกับลูกค้า และได้ผลดีทั้งยอดขาย และการรีครูตตัวแทนหน้าใหม่
โดยในช่วงครึ่งปีแรก มีตัวแทนใหม่เข้ามาร่วมงานกับบริษัทเฉลี่ยเดือนละ 2,500 คน และบางเดือนก็สูงถึง 3,000 คน ทำให้ต้องมีการปรับเป้าหมายการเพิ่มจำนวนตัวแทนใหม่ จากเดิมที่กำหนดไว้ 29,000 คน ในปีนี้ก็จะเพิ่มขึ้น เป็น 35,000 คน
ด้วยเหตุนี้ เอไอเอ จึงหันมาตอกย้ำในเรื่องของการ รีครูตตัวแทนใหม่โดยตรง โดยมีเป้าหมายตัวแทนใหม่ 35,000 คนเป็นเดิมพัน ด้วยการออกสื่อโฆษณากลางแจ้งบนขบวนรถไฟฟ้าบีทีเอส ไปจนถึง กรอบเล็กๆ อย่างห้องลองเสื้อในห้างสรรพสินค้า ไม่นับรวมถึงสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ
นายโทมัส ไวท์ รองประธานบริหารระดับสูงและผู้จัดการทั่วไป เอไอเอ ให้เหตุผลของยุทธการรีครูตตัวแทนใหม่ ในครั้งนี้ว่า เป็นเพราะ 90% ของเบี้ยใหม่ หรือเบี้ยปีแรก จะมาจากช่องทางตัวแทน และประมาณ 20% ของเบี้ยใหม่ดังกล่าว ก็จะมาจากตัวแทนใหม่ ดังนั้นจึงนำจุดเด่นของอาชีพตัวแทนประกันชีวิต ทั้งในด้านของรายได้ และการเป็นเจ้านายของตนเอง มานำเสนอเพื่อรับสมัครตัวแทนใหม่ เน้นกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ หรือกลุ่มคนที่ต้องการมีรายได้พิเศษในเขตกรุงเทพฯ ที่มีอายุ 25-45 ปี
ขณะที่อันดับสองในตลาด อย่าง ไทยประกันชีวิต ปีนี้กำหนดให้เป็น ปีแห่งการสร้างคน โดยมีเป้าหมายสร้างหน่วยใหม่ หรือตัวแทนใหม่ที่มีใบอนุญาต และสามารถทำผลงานได้ตามกำหนด จำนวน 16,000 คน
แต่ดูเหมือนว่า ในช่วงครึ่งปีแรกจะยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายนัก โดยนายอังกูร ศรีกัลยาณบุตร ผู้จัดการฝ่าย สายงานสื่อสารการตลาด บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด เปิดเผยกับ สยามธุรกิจว่า
เป้าหมาย 16,000 คน ค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ที่สามารถสร้างได้ 10,000 คน โดยช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา สามารถสร้างหน่วยใหม่ ได้ประมาณเกือบ 5,000 คน ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ดังนั้นในช่วงครึ่งปีหลัง จึงได้มีการปรับกลยุทธ์ รีครูตตัวแทนใหม่ แบ่งเป็น 3 โครงการหลัก คือ 1. โครงการ วันสดใสกับไทยประกันชีวิต สำหรับการรีครูตตัวแทนใหม่ในต่างจังหวัด ด้วยคอนเซปต์ ส่งความสุขทั่วไทย
.. 2. โครงการหน่วยใหม่ลุ้นล้าน สำหรับหน่วยใหม่ที่ผลิตเบี้ยปีแรก ทุกๆ 10,000 บาท จะได้รับสิทธิลุ้นรางวัลทองคำหนัก 65 บาท และ 3. โครงการ Amazing Thai life สำหรับการรีครูตตัวแทนใหม่ ในเขตกรุงเทพฯ เน้นการขายอาชีพโดยตรง เพื่อช่วยเสริมให้เป็นไปตามเป้าหมายยิ่งขึ้น
ส่วนอันดับสาม ในตลาด อย่าง ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต ในช่วงครึ่งปีหลัง ก็เผยแผนรีครูตตัวแทนใหม่ ออกมาอย่างชัดเจนเหมือนบริษัทอื่น โดยได้รับการอัดฉีดเม็ดเงินสนับสนุนเพิ่ม จากบริษัทแม่นิวยอร์คไลฟ์ ในการจัดแคมเปญ Recruiting Bonus คือการมอบโบนัสพิเศษแก่ ผู้บริหารหน่วยเพิ่มอีก 15% ของเบี้ยปีแรกที่ตัวแทนใหม่ทำได้ โดยตัวแทนใหม่จะต้องมีอัตราการทำงานสม่ำเสมอ (Active Agent) และนำส่งผลงานไม่น้อยกว่า 1 ราย ต่อเดือน ในอัตราเบี้ยประกันขั้นต่ำ 15,000 บาทต่อราย เพื่อกระตุ้นการสรรหาตัวแทนใหม่ในช่วงก.ค.-ธ.ค.2550 ให้บรรลุเป้าหมายตัวแทนใหม่ 2,000 คน ในปีนี้ให้ได้
ด้าน อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี.ประกันชีวิต ที่ถูกเบียดไปอยู่ที่อันดับสี่ของตลาด หลังจากที่ได้แม่ทัพคนใหม่ ก็เริ่มเปิดแผน รีครูตตัวแทนใหม่อย่างเต็มที่ โดยนายสรรค์ชัย ลาภสัมปันน์ชัย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายตัวแทน เอเอซีพี วางเป้าหมายการทำงานในช่วงที่เหลือของปีว่า จะรีครูตตัวแทนใหม่ เพิ่มขึ้นอีก 10,000 คน รวมกับตัวแทนเดิมที่มีประมาณ 10,000 คน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตัวแทนครบ 20,000 คนในสิ้นปีนี้
ทั้งนี้จะใช้แผน การขอความร่วมมือจากฝ่ายขาย ขอให้แต่ละคนรีครูตตัวแทนใหม่เพิ่ม คนละ 1 คน ซึ่งหากทั้ง 10,000 คน สามารถรีครูตตัวแทนใหม่เข้ามาได้ครบทุกคน ก็จะได้จำนวนตัวแทนทั้งหมดครบตามเป้าหมาย
ทั้งหมดนี้ แค่ตัวอย่างเท่านั้น ยังมีบริษัทประกันชีวิตรายอื่นๆ ที่เตรียมจะรีครูตตัวแทนใหม่อย่างหนัก เช่น บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต , บริษัท ไอเอ็นจีประกันชีวิต เป็นต้น
ดังนั้น เป็นที่น่าเชื่อว่า ตลาดประกันชีวิตของครึ่งปีหลัง จึงไม่ใช่แค่เกมการแข่งขันการกอบโกยเบี้ยประกันเท่านั้น แต่ยังเป็นถึงเกมการแข่งขันแย่งชิงกำลังคนอีกแนวรบหนึ่งด้วย.
# 14 สมาคมประกันชีวิต เปิดสอบตัวแทนผ่านคอมพ์ฯ
นำมาจาก เว๊ปน.ส.พ.สยามธุรกิจ วันที่ 15 ส.ค. 2550
นางบุษรา อึ๊งภากรณ์ ผู้อำนวยการสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้สมาคมประกันชีวิตไทย มีความพร้อมที่จะจัดสอบด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ในส่วนภูมิภาคแล้ว เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับตัวแทนประกันชีวิตที่ไม่ต้องเสียเวลา และประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางเข้ามาสอบในกรุงเทพฯ ซึ่งในครั้งแรกนี้ จะจัดสอบตัวแทนประกันชีวิตด้วยระบบคอมพิวเตอร์ใน 3 จังหวัดก่อน คือ จ.เชียงใหม่ จ.ขอนแก่น และ จ.สุราษฎร์ธานี
โดยจะเริ่มเปิดรับสมัครในวันที่ 29 - 31 สิงหาคม 2550 และทำการสอบในวันที่ 9 กันยายน 2550 ....และหลังจากนั้น จะดำเนินการสอบในอีก 4 จังหวัด คือ จ.พิษณุโลก จ.นครราชสีมา จ.สงขลา และ จ.ชลบุรี เพื่อให้ครบ 7 จังหวัดตามแผนงานของสมาคม ภายในวันที่ 14 ตุลาคม 2550
อนึ่ง ในเดือนกรกฎาคม 2550 ที่ผ่านมา มีผู้สมัครและเข้าทำการสอบเป็นตัวแทนประกันชีวิตทั้งสิ้น 13,243 คน โดยแยกเป็นการสอบด้วยระบบกระดาษ จำนวน 9,295 คน หรือคิดเป็น 70.19%
.และการสอบด้วยระบบคอมพิวเตอร์จำนวน 3,948 คน หรือ 29.81%
ทั้งนี้จังหวัดที่มียอดผู้เข้าสอบมากที่สุด คือ กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีจำนวน 2,339 คน อันดับที่ 2 คือ ขอนแก่น 1,202 คน อันดับที่ 3 คือ เชียงใหม่ 674 คน อันดับที่ 4 อุบลราชธานี 665 คน และอันดับที่ 5 นครราชสีมา 553 คน
นางบุษรา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับยอดรวมของผู้เข้าสอบ ตั้งแต่ 1 มกราคมถึง 31 กรกฎาคม 2550 มีจำนวนทั้งสิ้น 81,290 คน สอบได้ 54.96% และสอบตก 45.04% แยกเป็น สอบด้วยระบบกระดาษ 58,328 คน และสอบด้วยระบบคอมพิวเตอร์ 22,962 คน ซึ่งคาดว่าในอนาคตเมื่อมีการขยายการจัดสอบด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ไปสู่ภูมิภาคในหลายจังหวัดแล้ว สัดส่วนการสอบด้วยระบบคอมพิวเตอร์จะสูงขึ้น เพราะมีความรวดเร็วกว่าการสอบด้วยระบบกระดาษ และผู้สอบสามารถรู้ผลการสอบได้ทันทีที่ทำการสอบเสร็จ.
# 15 เงินก้อนสุดท้ายเพื่อลูก
นำมาจาก คอลัมน์ จดหมายถึงบ.ก. เว๊บ น.ส.พ.คมชัดลึก วันที่ 15 สิงหาคม 2550
ถาม : เมื่อประมาณปี 2540 เศรษฐกิจตกต่ำ บริษัทเก่าที่ผมทำงานอยู่ ได้ขายกิจการและเลิกจ้างพนักงานโดยจ่ายเงินค่าชดเชยให้ตามความเหมาะสม ผมได้เงินมาก้อนหนึ่งมากพอสมควร
จึงได้จัดสรรแบ่งชำระหนี้ส่วนตัวบ้าง ฝากธนาคารไว้ให้ลูกบ้าง แต่ดอกเบี้ยเงินฝาก ถูกมาก ผมจึงมีความคิดที่จะถอนเงินจากธนาคารที่ฝากอยู่ ไปฝากยังอีกธนาคารหนึ่งสาขาใกล้บ้าน เป็นธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเคหะบางพลี เป็นเงินก้อนประมาณ 2 หมื่นบาท
ผมแจ้งความประสงค์กับเจ้าหน้าที่ว่า ต้องการเปิดบัญชีเพื่อการศึกษาของลูก แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ได้ยกเลิกบัญชีเงินฝากของผมแล้ว และได้พยายามพูดจาหว่านล้อม ให้ผมฝากเงินเป็นอีกประเภทหนึ่ง ซึ่งผมเองก็ยังไม่มีความรู้เรื่องประกันชีวิตอะไรเลย
แต่ฟังๆ ดูแล้วก็เห็นว่า น่าจะดี แต่ลืมถามเรื่องกฎเกณฑ์รายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับการฝากเงิน โดยเหมาคิดเอาว่า คงเป็นการฝากเงินออม เช่นเดียวกับการเปิดบัญชีทั่วไป
แต่มาทราบภายหลังว่า เป็นการยัดเยียดให้ผมทำประกันชีวิตกับไทยนิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต โดยมีระยะเวลาในการเอาประกัน ตามเงื่อนไขกฎเกณฑ์ต่างๆ และต้องชำระเบี้ยประกันเป็นรายปี ปีละประมาณกว่า 1.9 หมื่นบาท ฟังดูแล้วเป็นการชำระเบี้ยประกันที่สูงมาก สำหรับผู้มีรายได้น้อยอย่างผม
โดยที่ผมเองก็ไม่มีความรู้เกี่ยวกับประกันเท่าไร เพราะไม่เคยสนใจมาก่อน เมื่อครบกำหนดเวลา 1 ปี มีจดหมายแจ้งให้ผมไปชำระเบี้ยประกัน ตามจำนวนดังกล่าว แต่ผมไม่มีเงิน เลยไม่ได้ชำระ จนกระทั่งเวลาผ่านเลยมา 2-3 ปีแล้ว ผมเคยปรึกษาเพื่อนๆ และได้โทรสอบถามทางบริษัทไทยนิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต แล้ว ทราบว่าผมไม่สามารถขอรับเงินคืนได้ เพราะผมไม่ได้ชำระเบี้ยประกันต่อ เงินจำนวนนั้นถือว่าสูญไปเลย
ผมรู้สึกเสียดายมาก เพราะอุตส่าห์เก็บเอาไว้ให้ลูกเรียนหนังสือ เงินจำนวนนี้ผมทำงานกี่ปี ก็ไม่สามารถจะเก็บออมได้ แต่มาใจอ่อนและเสียรู้ เพราะเจ้าหน้าที่ของธนาคารพูดหว่านล้อมต่างๆ นานา ให้หลงกล
ทุกครั้งเวลาที่เงินหมด ไม่มีเงินติดตัว ผมจะเจ็บใจตัวเองมาก และไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร เงินของตัวเองแท้ๆ แต่เอาไปฝากให้คนอื่น และก็ไม่สามารถเอาคืนอะไรได้ คุณลุงแจ่มพอจะมีหนทางออกให้ผมบ้างไหมครับ บางทีผมคงจะตาสว่างได้
จาก นิวัติ
ตอบ : ธนาคารไทยพาณิชย์ ขอชี้แจงว่า ปัจจุบันธนาคารมีบริการครบวงจรให้กับลูกค้า ซึ่งประกันชีวิตเป็นอีกบริการหนึ่งที่ลูกค้าให้ความสนใจ
สำหรับนโยบายในการเสนอผลิตภัณฑ์ใดๆ ให้กับลูกค้านั้น พนักงานจะต้องชี้แจงรายละเอียดให้ลูกค้าได้รับทราบและเข้าใจข้อมูลอย่างถ่องแท้
สำหรับบริการประกันชีวิต เป็นบริการที่ลูกค้าจะต้องอยู่ในระยะเวลาครบสัญญา จึงจะได้รับสิทธิประโยชน์ครบถ้วน ซึ่งเป็นเงื่อนไขตามปกติของการประกันชีวิต
ภายหลังจากที่ลูกค้าได้สมัครใช้บริการประกันชีวิตแล้ว ทางธนาคารจะจัดส่งกรมธรรม์ไปให้ลูกค้า ซึ่งลูกค้าสามารถขอยกเลิกได้ ภายในระยะเวลา 15 วัน หลังจากที่ได้รับกรมธรรม์
ในกรณีของการชำระค่าเบี้ยประกันนั้น บมจ.ไทยพาณิชย์ นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต จะมีหนังสือแจ้งเตือนลูกค้าก่อนล่วงหน้า ประมาณ 1 เดือน หากลูกค้าไม่สามารถชำระได้ตามกำหนด บริษัทจะผ่อนผันให้ 30 วัน โดยไม่มีดอกเบี้ย ทั้งนี้หากลูกค้าต้องการคืนเงิน ก็จะต้องปฏิบัติตามสัญญาในกรมธรรม์ ตามที่บริษัทได้ขออนุมัติจากกรมการประกันภัยไว้แล้ว
ขอเรียนว่า ธนาคารมีนโยบายในการให้บริการที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม และมีเป้าหมายที่ความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าอยู่เสมอ ทั้งนี้หากลูกค้าต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการหรือผลิตภัณฑ์ของธนาคาร สามารถสอบถามได้ที่ศูนย์บริการลูกค้า ธนาคารไทยพาณิชย์ โทรศัพท์ 0-2777-7777
จาก ลุงแจ่ม.
Create Date : 15 สิงหาคม 2550 |
|
67 comments |
Last Update : 13 มีนาคม 2551 23:50:32 น. |
Counter : 7335 Pageviews. |
|
|
|
|
แต่ละปี มีคนสูญเงินไปเพราะการทำประกันนี่เยอะมากๆ
ความไม่รู้เป็นสิ่งสำคัญนะคะ
ขนาดคุณสินยังต้องโบ้ย
แล้วคนอื่นๆล่ะ
ยกตัวอย่าง อย่างดี.
เหอ เหอ เหอ
ไม่มีความรู้เรื่องแบบนี้เลย
ใครมาชวนก็จะเริ่มเครียดดดดด
แบบว่าไม่อยากบอกว่านู๋โง่....จะมายุ่งกับนู๋มัยเนี่ย