โรคประหลาดเลือดไหลท่วมตัว
โรคประหลาดเลือดไหลท่วมตัว
ข่าวเล็กๆ บางข่าว พออ่านข่าวดูก็น่าตกใจมาก เพราะเกี่ยวกับโรคแปลกประหลาดที่ผมไม่เคยได้ยินไม่เคยได้รู้มาก่อนนับตั้งแต่เกิด และที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นก็คือ เกิดขึ้นกับเด็กเล็กคนหนึ่ง ซึ่งอายุเรียนระดับชั้นประถมเท่านั้น แน่นอนว่าชีวิตของเธอยังจะต้องก้าวเดินไปข้างหน้าอีกยาวไกล ทำให้ผมรู้สึกเห็นใจเธออย่างมากว่า เธอจะปล่อยวางกับอาการของโรคนี้ได้ระดับไหน
ข่าวนี้ เป็นข่าวเล็กๆครับ ลงในข่าวภูมิภาค ของหนังสือพิมพ์ คมชัดลึก เชิญเปิดอ่านข่าวที่นี่ ทีวีก็ไม่มีการเสนอข่าว เพื่อนๆมีใครเคยอ่านข่าวนี้บ้างหรือยัง?
เด็กหญิงวัย 11 ขวบ ลูกสาวผู้กำกับฯเมืองเลย ป่วยเป็นโรคประหลาด เลือดไหลท่วมตัวทุกช่องทวาร จนตาบอดและสลบ ทุกช่วงวันโกน วันพระ พ่อต้องวิ่งรอกแบกลูกส่งโรงพยาบาล แต่แพทย์ยังไม่สามารถวินิจฉัยโรคได้ หลังจากที่ตระเวนตามโรงพยาบาลมา กว่าปี หมอชี้ เป็นโรคประหลาดที่ทั่วโลก มีเพียง 6 ราย พ่อท้อหมดทางรักษา อาจพึ่งแพทย์แผนจีน ที่ติดต่อจะขอช่วยรักษา
อาการโรคประหลาด ที่เด็กหญิง อายุ 11 ปี ซึ่งเลือดไหลออกทุกช่องทวาร ที่แพทย์ยังไม่สามารถวินิจได้รายนี้ ได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.อ.จีรัฐติกุล อรุณจันทร์ภักดี ผกก.สภ.หนองหิน อ.หนองหิน จ.เลย ว่า บุตรสาวของตนคือ ด.ญ.มันธนัน อรุณจันทร์ภักดี อายุ 11 ปี ปัจจุบันเรียนอยู่ที่ โรงเรียนอนุบาลสกลนคร ชั้น ป.4 แต่ต้องหยุดเรียน เพื่อรักษาตัว ตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม 2550 เป็นต้นมา
ด.ญ.มันธนัน หรือ น้องแตม มีอาการเลือดออกทางจมูก ในช่วงแรกก็เข้าใจว่าเป็นอาการเลือดกำเดาไหล แต่เมื่อเฝ้าดูอาการก็พบว่า เลือดที่ไหลออกทางจมูกจะมากผิดปกติ และนำส่งโรงพยาบาล แต่ก็ไม่ดีขึ้น ต่อมาก็เกิดอาการเลือดไหลไม่เฉพาะทางจมูกเท่านั้น พอเลือดออกทางจมูก เด็กจะมีอาการตาบอด มองอะไรไม่เห็น และสลบ และพบว่ามีเลือดไหลออกทางตา ทางปาก และช่องทวารทุกที่ ยกเว้นทางหู และนำส่งโรงพยาบาลของรัฐหลายรอบ แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น และแพทย์ก็ยังไม่สามารถวินิจฉัยสาเหตุของอาการป่วยได้
จนในเดือนธันวาคม 2550 ได้นำตัวไปรักษาที่ รพ.ศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งแพทย์ก็รักษาอย่างเต็มที่ มีการตรวจเกล็ดเลือด ตรวจชีพจร และเอ๊กซเรย์เอ็มอาร์ไอทั้งตัว อย่างละเอียด ก็พบว่าทุกอย่างเป็นปกติ และนอนรักษาตัวที่ โรงพยาบาล 7 วัน เมื่ออาการเริ่มดีขึ้น ก็ออกจากโรงพยาบาล แต่แพทย์ที่ช่วยรักษาหลายคน ก็ลงความเห็นว่า เรื่องร่างกายที่ตรวจก็ปกติ จนเกิดความสงสัย จึงให้จิตแพทย์มาสัมภาษณ์พ่อว่า เด็กอยู่ในภาวะกดดัน หรือเครียดหรือไม่ ซึ่งเด็กก็ร่าเริง ไม่เครียด ไม่มีอะไรที่กดดัน จนสุดท้ายก็ยังไม่สามารถวินิจฉัยหาสาเหตุของอาการป่วยได้ และแพทย์ก็ได้เข้าอินเตอร์เน็ตตรวจสอบ ก็พบว่าลักษณะอาการป่วยของน้องแตม ในทั่วโลก มีเพียง 6 รายเท่านั้น
พ.ต.อ.จีรัฐติกุล กล่าวว่า หลังจากออกจากโรงพยาบาลศรีนครินทร์ ต่อมาไม่นานอาการของลูกก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมอีก โดยอาการจะกำเริบ สัปดาห์ละครั้ง ในช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. ซึ่งเด็กจะรู้ตัว
"เขาจะเข้ามากอดเรา แล้วบอกว่า พ่อ หนูปวดหัว และตาก็มองไม่เห็น หลังจากนั้นเขาก็สลบในอ้อมกอดเรา แล้วเลือดก็จะไหลออกทุกช่อง ผมก็นำส่งโรงพยาบาล บางทีพยาบาลที่เห็นเราอุ้มลูกเข้าโรงพยาบาล ก็หัวเราะเราว่า เราตระหนกไปเอง เพราะเมื่อตรวจร่างกายเด็ก ก็ไม่พบความผิดปกติอะไร และช่วงไหนที่อาการกำเริบ ซึ่งเลือดจะไหล และตาจะบอดประมาณ 1 คืน ตื่นเช้าเมื่อฟื้น อาการจะเหมือนกับคนเป็นอัมพาต เดินไม่ได้ ต้องช่วยนวดตัวให้สักพัก ก็จะเป็นปกติ"
ซึ่งหลังจากที่ต้องพาลูกเข้า-ออกโรงพยาบาลมาตลอด และตัวเองทำงานที่ สภ.หนองหิน จ.เลย แต่ลูกอยู่ที่ ตัวเมืองสกลนคร ซึ่งเสาร์-อาทิตย์ ต้องกลับไปหาลูกตลอด และเมื่อป่วยบ่อยก็ทำให้เสียการเรียน ซึ่งปกติ น้องแตม จะเป็นเด็กเรียนดี และตลอดทั้งวัน เด็กจะมีอาการปวดหัวตลอด และบางวันก็มีอาการเลือดกำเดาไหลที่โรงเรียน ทำให้เป็นภาระกับครู ทำให้พ่อต้องขอหยุดการเรียนของ น้องแตมไว้ในชั้นป.4 แล้วนำตัวไปอยู่ด้วยที่ อ.วังหิน จ.เลย ที่ตัวเองทำงานอยู่ เพื่อที่จะได้มีเวลาดูแลเต็มที่ ขณะที่ ลูกสาวคนโต ที่ปัจจุบันเรียนอยู่ ชั้น ม.2 ก็ให้เข้าเรียนที่ โรงเรียนประจำ ที่ จ.อุดรธานี ส่วนลูกชายคนเล็ก อายุ 7 ขวบ ให้พักอยู่กับญาติ และเรียนอยู่ชั้น ป.2 ที่ จ.สกลนคร
พ.ต.อ.จีรัฐติกุล เล่าว่า หลังจากที่นำลูกไปอยู่ด้วย ที่ จ.เลย อาการก็ไม่ดีขึ้น ทั้งวันเด็กก็ยังมีอาการปวดหัว และสังเกตพบว่า อาการเลือดไหล ตาบอด และสลบ จะเกิดขึ้นในช่วงวันโกน และวันพระ จนมีผู้แนะนำว่า ลองให้ลูกเข้าวัด อาจจะดีขึ้น ก็นำลูกไปอยู่ใน วัดภูคำ จ.เลย ซึ่งเมื่ออยู่ในวัด เด็กก็มีอาการสดชื่น อาการปวดหัวก็ทุเลา อาการป่วยก็ไม่กำเริบบ่อย อยู่สักระยะหนึ่งก็พากลับมาที่ สกลนคร เพื่อกลับมาเรียนซ้ำชั้น ป.4 แต่ไปโรงเรียนแทบนับวันได้ วันไหนถ้าเรียนครบเวลา ถือว่าผิดปกติมาก และอาการช่วงนี้ ป่วยเริ่มถี่ขึ้น ซึ่งตนก็ได้แจ้งผู้บังคับบัญชาไว้แล้วว่า จะขอย้ายมาที่ จ.สกลนคร เพื่อที่จะได้มีเวลาดูแลลูก
"ไปส่งที่โรงเรียนไม่ถึงเที่ยง ก็โทรหาพ่อ ให้ไปรับเพราะเลือดไหล ครูก็บอกว่าให้ไปรักษาให้หาย แล้วค่อยกลับมาเรียน ผมก็ยังคิดไม่ออกว่า จะทำอย่างไร ผมเคยตัดสินใจว่าจะหาวัดที่มีแม่ชี แล้วให้ลูกอยู่ที่วัด ถ้าอยู่วัดแล้วอาการดีขึ้น เพราะไม่รู้จะทำอย่างไร เราก็คิดแค่ให้ ลูกไม่ทรมาน สงสารเขา "
พ.ต.อ.จีรัฐติกุล กล่าวว่า ล่าสุดได้รับการติดต่อจากแพทย์แผนจีน โทรศัพท์มาถามถึงอาการของน้องแตม ซึ่งแพทย์จีนก็อธิบายว่า โรคลักษณะนี้ส่วนใหญ่แพทย์ทั่วไปจะไม่พบอาการ เพราะเป็นภาวะการอุดตันของเส้นเลือดในสมอง เมื่อเส้นเลือดอุดตันการไหลเวียนไม่สะดวก ก็จะต้องหาทางออก จนต้องออกตามช่องต่างๆ และมีอาการสลบ ซึ่งจากการสังเกตบางครั้งก็พบว่า แม้กระทั่งปลายเล็บของน้องแตม ก็ยังมีเลือดไหลออกมา ซึ่งตนก็เชื่อในหลักการนี้ และแพทย์จีนจะส่งยามาให้ แต่มีข้อแม้ว่า น้องแตมจะต้องกิน เฉพาะปลาที่ต้ม กับนึ่งเท่านั้น
ขณะที่ ด.ญ.มันธนัน หรือน้องแตม ที่พักอาศัยอยู่กับญาติ ที่สกลนคร โดยมีญาติที่เป็นเด็กรุ่นเดียวกัน หยอกล้อกันเล่นเหมือนเช่นเด็กๆทั่วไป เล่าถึงอาการว่า ปกติก็ปวดหัวทั้งวัน เหมือนกับเอาเข็มหลายๆเล่มมาทิ่มที่หัวจนชา ก่อนเลือดจะไหลจะปวดหัวหนัก หลังจากนั้นตาก็เริ่มมองไม่เห็น ที่พอมองเห็นจะเป็นขาว-ดำ หลังจากนั้นก็ไม่เห็นอะไรเลย มันเหมือนกับมีหมาดำตัวใหญ่ๆ วิ่งเข้ามาหาเรา แล้วก็ทับเราไว้ แล้วก็สลบ
"มันปวดตลอด จนชินแล้ว อยากจะหาย อยากจะไปโรงเรียน สงสารพ่อ ที่ต้องคอยดูแล" น้องแตมกล่าวกับนักข่าว
ข่าวของ น้องแตม นี้ จะคล้ายกับข่าวจาก น.ส.พ. ข่าวสด เมื่อปี 2551 เป็นข่าวโรคประหลาด เลือดออกท่วมตัว เกิดขึ้นกับเด็กหญิงชาวอินเดีย อายุ 13 ปี (เธอเริ่มมีอาการนี้ ตั้งแต่ อายุ 12 ปี) เชิญเปิดอ่านข่าวที่นี่ ลักษณะของอาการ น่าจะเรียกว่าใกล้เคียงกัน และยังหาทางออกไม่ได้ เช่นเดียวกัน
ผมนำข่าวนี้มาบอกกล่าว เพราะเห็นเป็นข่าวเล็กๆ แต่แปลกและน่าเห็นใจครับ
yyswim
yyswim@hotmail.com
Create Date : 01 กรกฎาคม 2552 |
|
35 comments |
Last Update : 1 กรกฎาคม 2552 0:01:40 น. |
Counter : 1102 Pageviews. |
|
|
|