Group Blog All Blog
|
บินไปเที่ยว เกาะเชจู อีกครั้ง แบบเซอร์ๆ ขออัพบล็อคย้อนหลังนิดนึงคะ หลังจาก เพิ่งฟิ้นคืนชีพได้ไม่นาน สัญญากับตัวเองไว้แล้วจะไม่ปล่อยให้จิตวิญญาณล่องลอย เพราะอะไรก็ตามที่เข้ามาในชีวิตอีก (ยังกะจะทำได้55) เมื่อเดือน มกราคม ที่ผ่านมา วันที่ 13-14 สองวันหนึ่งคืน แป้งกับแฟนและเพื่อนอีกสองคน (พี่จงงู และ พี่ชองมี 종우오빠&정미언니) ได้บินไปเที่ยว เกาะเชจูกันคะ โดยที่อีแฟนแป้งมันบอกว่า ไปครั้งนี้ ถือซะว่าเราไป ดินเนอร์ ชิลๆ เพราะไปค้างแค่คืนเดียว ไปกินอาหารอร่อยๆ ขับรถเล่น พูดคุย คลายเครียดตามประสา หนุ่มๆสาวๆ 4 คน (อืมม...มั่นใจเหลือกันนี่วัยทำงานกันหมดแล้วเหอะ) ไปก้ไป แหม๋จะทำอะไรได้ละคะ ก็เล่นจองตั๋วเสร็จเรียบร้อยแล้วค่อยมาบอกแป้งอะนี่ ก็ต้องไปดิ ชิส์!! เช้าวันที่ 13 เครื่องออก 7 โมงครึ่ง เราก็ไปถึงสนามบินแบบงงๆ ที่สำคัญรู้สึกตัวเองไม่พร้อม แต่ก็รู้สึกดีขึ้น เมื่อเห็นเพื่อนสองคน หัวยุ่งๆแม้แต่ผมมันยังไม่หวีกันเลยมั่ง55 เออ ชิลๆกันดี เราจะทำตัวให้ยุ่งยากทำไมละเนอะ ก็เลยชิลๆ
ใช้เวลาอยู่บนเครื่องบิน ชั่วโมงนึง พอใกล้จะถึง จะเห็นภูเขาที่สูงที่สุดของเกาหลีคะ คือ ฮันลาซัน แป้งถ่ายรูปจากหน้าต่างมาคะ เพราะเป็นฤดูหนาว จะเห็นยอดเขามีหิมะปกคลุมอยู่ ขาวๆ (เห็นมะ) พอถึงเกาะเชจูปุ๊บ จะมีรถมารับที่สนามบินคะ เป็นรถบัสจากบริษัทที่เราจองรถ สำหรับเช่าไว้ขับบนเกาะ สะดวกดีเนอะ
ได้รถแล้วไปไหนก่อนดี มองหน้ากันทำจาปริบๆ แล้วก็พูดแทบจะพร้อมกัน ปะ กินข้าววว 5555 เรื่องกินนี่เรื่องใหญ่คะ มาก็มาเพื่อกินอาหารที่เกาะนี้เป็นส่วนใหญ่อยู่ละ 55
มาร้าน ชื่อดัง (พี่ๆเค้าบอกมา) ถ้าอยากกินปลา คัลชี ละก็ เชจูตัวใหญ่มากและอร่อย เมนูอาหารเช้าๆ ไปกินหมูที่เค้าร่ำลือก็ยังไงๆอยู่เนอะ
จากที่เห็นในรุป ขนาดสำหรับ 4 คน หม้อจริงใหญ่กว่าในรูปเยอะคะ เซทนี้ประมาณ 9 หมื่น หาร 4 ก็ถือว่าราคาพอรับได้ 55 รสชาติอร่อยคะ แต่ไม่รู้จิ ยังแอบรู้สึกว่า อาหารไม่เยอะเท่าที่ควร 55
กินอาหารเสร็จ ก็ขับรถชมวิว พูดคุยโน้นนี่นั้น กันไป โดยที่แฟนแป้งเป็นคนขับรถ ไม่รีบร้อนว่าจะแวะตรงไหน ทำอะไรก่อน จริงๆตอนนี้ ถ้าไม่ติดว่าอิ่มมากคงจะรู้สึกผ่อนคลายสุดๆ แต่เพราะอิ่มแล้วต้องมานั่งแหงะ อยู่ในรถ มันเลยอึดอัดสุดๆ แต่แป้งไม่ได้พูดอะไร เพราะไม่ทันจะพูดอะไร พี่จงงู อยู่ๆ ก็ตะโกนบอกแฟนแป้งว่า ให้จอดรถ แล้ววิ่งลงรถไป เอ่อ อ้วกก 55 เพราะอาหารไม่ย่อยหรือคงย่อยไม่ทัน เลยต้องแวะซูเปอร์ข้างทาง หาโคล่า ไซดา มากินด่วนนน หลังจากนั้น ก็ชมวิว ตามข้างทาง คะ เป็นทางที่คุ้นเคยพอดี เพราะแป้งเคยมาแล้วกับแฟน แต่วิวเปลี่ยนเล็กน้อยคะ เพราะเคยมาตอนฤดูร้อน แต่รอบนี้ มาตรง ฤดูหนาว ที่เกาะนี้มาเที่ยวได้ทุกฤดูคะ เค้าว่า สวยทุกฤดู แต่ละฤดูก็จะมีอะไรพิเศษๆ ให้เที่ยวต่างกันไป
บันทึกภาพ วิว ที่มาครั้งก่อน ครั้งนี้มาเก็บความทรงจำเล็กๆคะ
หลังจากนั้น เราก็ไปจอง เรือ เตรียมลงเรือ ไปตกปลาแมคเคอรอล อยู่ๆ ก็นึกอยากตกปลากัน ทั้งๆที่ลมแรงๆอากาศหนาวๆนี่แหล่ะ โดยที่แพกเกจนี้ จะมีคนพาล่องเรือไปตกปลา ในเรือจะมี ผู้โดยสารแค่ 8 คนคะ พวกเรา 4 คน อีก 4คน เป็นคนอื่นๆที่ไม่รู้จัก แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาหรอก
สภาพเรือ เป็นแบบนี้คะ ถ่ายเรือข้างๆมาเพราะมันเหมือนกันคะ ฮ่าๆ ออกทะเลแล้ว ลม แรงน่าดู
ดูสภาพเอาเองแร้วกัน แป้งกับพี่ชองมี อีแฟนแป้งทำตัวเป็นสุภาพบุรุษโดยถอดเสื้อมาให้แป้งคะ เพราะแป้ง หนาวสั่นตั้งแต่ก้าวลงเรือ ฮี่ๆ เป็นครั้งแรกนะเนี่ย ออกทะเล ไม่ได้ทากันแดดทั้งหน้าทั้งตัว (ช่างมัน ดำไม่กลัว ขออุ่นพอ 555)
พี่จงงู กะ พี่ชองมี ยืนอยู่หัวเรือ รับลม แฟนแป้งไม่มีรูปอีกตามเคย ฮีเป็นตากล้อง ไม่ยอมถ่าย พอไปถึงกลางทะเล ตรงไหนสักที รู้แต่ว่าปลาเยอะมากคะ พอคุณลุงเค้าออกมาเอา ที่ตกปลากะเหยื่อ แล้วมาสอนวิธีตกปลาให้ พอ หย่อนเบ็ดลงปุ๊บ นับ 1 ถึง 5 ได้เลย ปลากินเบ็ดทันทีอะ โหย เร็วมาก ตกเอาตกเอา สนุกจนลืมหนาววว
หลังจากตกปลาได้(เยอะ)แล้ว แป้งก็กรี๊ดกร๊าด เดินไปดูชาวบ้าน แกมอวด ฉันตกได้เยอะนะ ขอบอก แป้งโชคดีตรงจุดของแป้ง ปลาเยอะกินเบ็ดเร็วคะ แป๊บเดียวปลาเต็มถึง
หลังจากที่ทุกคน ตกปลากันเสร็จแล้ววว คุณลุงก็จะเลือกๆปลาของแต่ละคนไปรวมๆกัน แล้ว ไปแล่ ออกมาให้ทานกันสดๆบนเรือ หาทานไม่ได้ที่ไหนนะคะ นอกจาก เชจู เพราะปลาแมคเคอรอลนี้ จับปุ๊บต้องอยากกินแบบปลาดิบ ต้องรีบกินตอนสดๆจริงๆ มันจะไม่มีกลิ่นและรสชาติ อร่อยมาก ปกติจะกินแต่ตอนที่มันสุกแล้ว นั่งจิ้มกันบนเรือ 8 คน ทานด้วยกันคะ หมดเกลี้ยงงง
กินเสร็จ เตรียมล่องเรือ เข้าฝั่ง กลับมาหนาวเหมือนเดิม ฮ่าๆๆ ขอนั่งหลบลมนิดนึง ^^ หลังจากนั้นก็ กลับสู่วงจร ขับรถเล่น ชมวิว และไป ที่พัก ซึ่งมีปัญหาเรื่องที่พักมากมาย เพราะ จองซ้อนกันกับคนอื่น คนรับจองผิด แล้วห้องก็เต็ม เลยต้องเปลี่ยนที่พักกัน เพื่อนสองคน ก็ชอบทะเลาะกัน เถียงกัน 55 เราเอง เข้าที่พัก นอน สองสาม ชม ตามแพลน แล้วโดนปลุก ไปอาบน้ำ แต่งตัว ออกไปทานข้าววว เมนู ที่ทุกคนรอคอย คือ หมูดำ (หมูป่ามั่ง) ขึ้นชื่อมากๆ เลย คนเกาหลี เรียก ฮึกแดวจี 흑돼지 ร้านนี้ ต้องจองล่วงหน้า ไม่งั้นมาถึง ต้องรอนานมากๆคะ ครั้งที่แล้วมา รอ 40 นาที ก่อนหน้ามารอบนี้ ร้านออกรายการทีวีแล้วด้วยอาจจะคนเยอะแต่ก่อนอีก
เมนูนี้ มาสองคน สั่งไม่ได้นะคะ เพราะคงทานไม่หมดแน่ๆ เป็นเมนูสำหรับ 4 คน ขึ้นไปคะ ถึงจะสั่งได้ คราวที่แล้ว มากะแฟนสองคน เลยไม่ได้กินงะ มาคราวนี้ 4 คน แน่นอน ไม่พลาด อิอิ
หลังทานเสร็จ ก็ขับรถเล่น หาร้านกาแฟ ร้านเบียร์ ขับวนไปวนมา สรุป ซื้อเครื่องดื่ม ขนม กลับไปกินกันที่ห้องพัก แป่ววววว เรื่องของเรื่องกลัว เมาขับรถกันไม่ได้นั่นแหล่ะ เลยไปเมากันที่ห้องดีกว่า แต่สรุปแล้วก็ไม่ดื่มอะไรกันเยอะคะ แค่นิดๆหน่อย แล้ว ง่วงกันมาก เลยเข้านอนกัน อัพแต่รูปของกิน อัพรูปวิวบ้างดีกว่า
ชอบมากเลย เวลาขับรอบๆเกาะ แล้วเจอ พวกนกเยอะๆ จอดรถยืนดู เพราะความสงสัย ว่าทำไมมันอยู่ตรงนี้เยอะ อะไรงี้ สักพัก จะได้คำตอบ นกมากินปลาคะ เห็นมันบินๆลงผิวน้ำปุ๊บนะ เห็นคาบปลา เราก็ตื่นเต้นไปด้วย ฮ่าๆ เรียกแฟนก่าพี่ๆดู ดูเพลินเลยคะ มีนกบางตัวได้ปลาตัวเบอเร้อ แล้วตัวอื่นมีบินมาแย่งตัว เป็นภาพธรรมชาติที่ดูแล้ว เพลินคะ สนุกดี
ช่วงนี้หลายคนตื่นแต่เช้าไปปีนเขากันคะ แต่พวกเรา 4 คน บอกเอาไว้คราวหน้า เพราะเหนื่อยเกินกว่า จะฝ่าความหนาว ขึ้นไปชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นบนยอดเขา แต่ก็แอบเสียดายเล็กๆนะคะ เห็นเค้าว่าสวยมากๆ แต่ถึงงั้นก็ตื่นแต่ 8โมง เช้า เพื่อ ออกมาเที่ยวต่อคะ อาหารเช้า ไปทานที่ร้านๆนึง ที่คราวที่แล้วมาทานแล้วติดใจ (อีกละ) (ใครลองทาน) ติดใจทุกคนแหล่ะคะ เมนูนี้ เรียกว่า 회국수 (ฮเวคุกซู) ร้านนี้อร่อยที่สุดที่เคยทานมา รับรองรับรอง
전복죽 (จอบ บก จุก) ข้าวต้มจอนบก อร่อยมาก(ไม่มีของไม่อร่อยคะ 55) แต่อร่อยจริงๆ คอนเฟิร์ม
หอยนี้มีชื่อว่า ( 소라 )โซละ ตอนแรกแป้งจำชื่อหอยไม่ได้ พอถามแฟน แฟนบอกว่า โซละอาโออิ 소라아오이 ?!!? ตอนแรกแป้งก็งงๆคะ ทำไมชื่อหอยคุ้นๆ อ่อ ที่ไหนได้ นางเอกเอวีญี่ปุ่นนี่เอง กวนประสาท จริงๆ
ตัวโตมากๆคะ แถมยังสดด้วย
หลังจากนั้นก็ไปเที่ยวว โดยขับรถชมวิวไปเรื่อยๆ โดยเรามีจุดหมายคือ เราจะไปดูโชวหมู (อันโด่งดัง) หลายคนที่อยู่เกาหลีคงเคยดูจากที่รายการทีวีแน่ๆคะ
ที่นี่ จะมีสวนส้มคะ ให้เราไปเด็ดจากต้น และมีถุงเล็กๆให้เราเก็บส้มด้วยคะ ถุงเล็กๆจริงๆ เล็กมากๆ เอาส้มใส่ได้ไม่เกิน 4 ลูก
ส้มเยอะคะ เด็ดสนุกมากๆ ลุงประจำสวนบอกว่า อยากกินเท่าไหร่ก็กินได้ เราก็กินไปเด็ดไป มุดหน้ามุดหลังอยู่ในสวน ส้มหวานอร่อย แอบเอาใส่กระเป๋ากันด้วย(ห้ามคุณลุงเห็นนะ) แฟนแป้งใส่เสื้อมีฮู้ด ก็เอาส้มใส่ลงตรงหมวกบ้าง แอบเอาใส่เสื้อโค้ดจนตุง ตุงมากก็ไม่ได้ เดี๋ยวเค้ารู้ 555 แล้วก็ออกมาจากสวน สรุป 4 คนเรา ได้ส้มมาเยอะมากเหมือนกัน ค่าบัตรแพงคะ ขอหน่อยเหอะ แหะๆ
พอออกจากสวนส้ม ก็ตรงไป พิพิธภัณ เทดดี้แบร์คะ ไปดูน้องหมี ก็เดินเล่นถ่ายรูป เพลินดีคะ
น้องหมี หลุยวิกตอง มีป้ายราคาด้วยนะคะ แต่แป้งแอบคิดว่า ราคาตั้งมั่วๆเวอร์ๆ เอาฮารึปล่าวคิดเป็นเงินไทยก็หลายล้านบาทเลยอะ
ด้านล่าง มีเทดดี้ ขายคะ แป้งไม่ได้ซื้อ แฟนก็ไม่ซื้อให้ แงแง เค้าบอกว่าโตแล้วอดเลย เศร้าา หลังจากนั้น ตั้งใจว่าจะไปทานอาหารมื้อค่ำ เป็นพวกเมนู ทะเลๆหน่อย แต่อีพี่ จงงู มันบอกว่า อยากกันหมูย่าง 5 ชั้น เนื้อหนาๆ โน้น นี่ นั้น ก็เลยต้องหาร้านและพาไปกิน เราไม่อยากกิน เลยกินไปนิดเดียว (ไม่ค่อยอยากกิน)
แอบอารมณ์ไม่ดีด้วย จะกินอะไรหนักหนา หมูเนี่ย ก็เข้าใจว่ามานี่ต้องกินหมูป่า แต่เมื่อวานก็กินไปแล้ว ชิส์
ตบท้ายด้วย บะหมี่เย็น รสชาติอร่อยดี
หลังจากทานมื้อนี้เสร็จแล้วเราก็ยังคงขับรถเล่น แวะช้อปปิ้ง โน้น นี่ นั้น ซื้อของฝาก เป็นพวก ช็อคโกแลตรสส้ม รสฮาลาบง ซื้อส้มและซื้อฮาลาบงด้วยอย่างละ ลัง มีบริการส่งไปรษณีไปที่บ้านให้ด้วย เสียค่าส่งประมาณ 5000 วอน ก็ไม่แพง ดีกว่าเราต้องหอบหิ้วขึ้นเครื่องบิน ลำบากน่าดูเป็นอย่างนั้นคงไม่ซื้อแน่ๆ ซื้อของถ่ายรูป จนมืดค่ำ ถึงเวลากลับ และสุดท้ายเราก็เอารถไปคืน โดยที่บริษัทก็มีรสมาส่งให้ถึงสนามบินอีกตามเคย ก่อนขึ้นเครื่องก็แวะซื้อของที่ดิวตรี้ฟรี เอ่อ ตอนแรกว่าจะไม่ซื้ออะไร สุดท้ายอดใจไม่ไหว โดนกิเลศคลอมงับ ฮ่าๆๆ ทริปนี้เป็นทริปที่เรื่อยๆ เฉื่อยๆ แต่ก็ได้กินอาหารอร่อยที่อยากกิน ถึงแม้ว่าจะไม่ครบก็เหอะนะ ได้ผ่อนคลายจากกิจกรรมที่เลือกกับเพื่อนๆและแฟน เพราะเจอเรื่องเครียดๆจากงานมาเยอะ ก็ถือว่าคุ้มค่าอยู่เหมือนกัน ^^ กลับถึงโซลปลอดภัย กลับมาหนาวสั่นที่โซลเหมือนเดิม ลืมบอกไป ว่าฤดูหนาวที่เชจู มันจะออกแนว ฤดูใบไม้ร่วงที่กำลังเข้าสู่ฤดูหนาว ไม่หนาวมาก (ยกเว้นลงเรือออกทะเล) ++++++++++++
|
Clannad
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]
Friends Blog Link |
||||||||||||||||
