มีนา...อย่าซื้อเลย อย่าซื้อ
29 มีนาคม
ไปงานสัปดาห์หนังสือมาแล้ว =o=
หลักฐานความไม่รู้จักบริหารเงิน วันแรก
T_______________T
27 มีนาคม
งานสัปดาห์หนังสือฯ คราวนี้ จังหวะไม่ดีเลย
นอกจากติดงานจี้มาเสร็จวันที่ 27 พอดี แม่ยังอยากให้ไปช่วยตจว. สรุปคือถ้าจะว่างจริงๆ ก็ต้องต้นเมษา ซึ่งเริ่มงานไปหลายวันแล้ว ไม่อยากไปเพราะของดีหายเกลี้ยงแล้ว
อีกอย่าง ช่วงนี้ใช้เงินเยอะมาก มากกว่าที่ทุกทีบ่นๆ ว่าทรัพย์จางเสียอีก สาเหตุหลักคือ... จขบ. เริ่มสนใจแฟชั่นค่ะ
ทุกที เสื้ออะไรก็ได้กับยีนส์ก็โอเคละ เดี๋ยวนี้ เริ่มสนว่ากางเกงสามส่วนรัดขาให้ดูเพรียวก็น่าหามาไว้นะ เริ่มสนว่ากางเกงขายาวทรงสวย ๆ น่าจะมีหลายสีไว้แมทช์กับเสื้อนะ เสื้อยืดลายวัยรุ่นน่ารักก็เริ่มดูดีน่าใส่ยังไงไม่รู้ (วัยกลับล่ะสิแก)
สมัยก่อน เดินผ่านร้านเครื่องประดับไปแบบไม่ลังเล เดี๋ยวนี้ ชักอยากได้สร้อยเก๋ๆ หลายแบบไว้ใส่กับเสื้อยืด กำลังหาสร้อยลูกปัดหรือเม็ดสีสวยๆ ไว้ใส่กับเสื้อสไตล์ผู้ใหญ่ด้วย จี้ เข็มกลัด สร้อยโน่นนี่ก็เริ่มอยู่ในโฟกัส กำลังศึกษาอยู่
ที่แย่ไปกว่านั้น คืองานหมั้นกับงานแต่งเพื่อน
อย่างที่บอกว่าจขบ. ไม่เคยสนแฟชั่น เลยไม่เคยซื้อกระโปรงชุด วัยก็มากเกินกว่าจะมีงานแต่งให้ไปร่วมแล้ว (เพื่อนขายไม่ออกเกือบยกแก๊งค์ ...คิดดูละกัน 555) งานญาติหรือคนรู้จักเนี่ย..เลี่ยงตลอดเพราะขี้เกียจหาชุด
แต่งานเพื่อนคนนี้ ต้องไป ตอนแรก งานหมั้นฤกษ์ตีห้า เพื่อนบอกว่าแต่งง่ายๆ ลำลองก็พอ เขาอยากให้งานเขาดูอบอุ่นกันเอง จขบ. เลยลงทุนซื้อเสื้อมียี่ห้อในห้างที่เอามาเซลส์ สวยลำลองตรงตามคอนเซปท์เพื่อน (แต่ราคาแพงร่วมพันเชียว) ปรากฎว่าพอไปคุยกับเพื่อนคนอื่น เพื่อนบอกว่า "มันก็พูดงี้ทุกที พอวันจริง คนอื่นแต่งสวยๆ ทั้งนั้นเลย" ... เอิ่ม เริ่มลังเล เสื้อที่ซื้อมันดูจืดมาก ที่ซื้อเพราะงานปักเรียบร้อยน่ารัก แต่ถ้าดูเด่นไหม..ไม่นะ ดังนั้น เลยต้องเพลย์เซฟด้วยการไปซื้อเสื้ออีกตัวที่แฟชั่นกว่า ใส่แล้วสะดุดตากว่ามาอีกตัว แล้วก็เลยต้องหากางเกง รองเท้าและอื่นๆ มาแมทช์ใหม่หมด
ที่คิดหนักกว่าคือชุดงานแต่ง ตอนแรกสุด เพื่อนบอกแต่งกลางวัน จขบ. แอบยิ้ม กลางวัน = ชุดดูดีที่เอามาใส่วันปกติได้ สบายเราสิ แล้วตอนหลัง เพื่อนโดนญาติผู้ใหญ่กดดัน กลายเป็นงานกลางคืน จขบ. แอบมาเก๊กซิม ตูต้องไปทำผมแต่งหน้า หาชุดราตรี ... ช่วงที่มีงานหนังสือ ยากจนสุดๆ พอดีเลยเนี่ยนะ? กรี๊ดดดดด
ตอนแรกดูไว้สองชุด 900 บาท กับ 2100 บาท สวยพอถูไถ (ให้รู้ว่าเราอุตส่าห์แต่งองค์ทรงเครื่องมานะ) กับสวยพริ้งดูมีตระกูล (แบบที่อาจโอเว่อร์ไปเลยถ้าเกิดคนอื่นไม่แต่งราตรีเต็มยศกัน) ... แต่วันนี้ไปเดินเล่น แล้วเบลอ เข้าไปดูชุดราตรีร้านนึงแล้วโดนคนขายคุยไปคุยมา สั่งตัดเฉยเลย!!! อ๊ากกกก ผ้าสีโทนไหน เนื้อยังไงก็ไม่เห็น ไปเชื่อคนขายได้ไงฟะ? ดีไซน์ที่เราพูดไปพูดมามันจะออกมาสวยรึเปล่าก็ไม่รู้ ปกติต้องลองใส่แล้วแก้ถึงเวิร์คนะ นี่เล่นเริ่มจากศูนย์เลยอ่า ตายแน่ตู แถมราคาก็...เฮือก
ดังนั้น ถ้างานสัปดาห์คราวนี้ไม่ซื้อหนังสือ ไม่มาเปิดบล็อกลั๊ลลา ก็แสดงว่าจขบ. เริ่มรู้จักประหยัด ใช้เงินแบบบริหารการเงินเป็นแล้วนะคะ
ชั้นจะไม่เป็นยัยรีเบคก้า ชั้นจะไม่เป็นยัยรีเบคก้า ... ต้องท่องไว้
10 มีนาคม
ใครรู้เรื่องประกันชีวิต รบกวนถามหน่อยค่ะ //www.pantip.com/cafe/social/topic/U7613396/U7613396.html
เพิ่งเคยโดนปฏิเสธการซื้อประกันครั้งแรกนะเนี่ย แสดงว่าเราแก่แล้ว บริษัทไม่ค่อยอยากลงทุนด้วย เอิ้กส์ๆ
ป.ล. ตั้งถูกห้องเปล่าก็ไม่รู้ เวลาอยากตั้งกระทู้ถามโน่นถามนี่ มักนึกไม่ออกแฮะว่าควรไปห้องไหน
8 มีนาคม - Message for myself and Y lovers
Well, after New York New York, this is one of few stories that are Oh-so-freaking-good. Even better than that famous Noh novel, I think. (That one's a bit too scandal.) And darker, in an impressive way, than Unsuitable Lover. Therefore, I'll just jot it down online in case I forget where to find it. mangafoxSakuragari.
3 มีนาคม - กองดอง vs งานหนังสือ
ระยะหลัง จขบ. เริ่มรู้สึกว่าไม่น่าไปซื้อหนังสือออกใหม่ในงานหนังสือเลย เพราะลดแค่ 15-20% ซื้อทีเป็นสิบยี่สิบเล่ม..แล้วก็อ่านไม่ทันหรือไม่มีอารมณ์อ่าน ผ่านไปสักเดือนสองเดือน อาจเจอบางเล่มในร้าน 50% ช้ำใจยิ่งนัก
หนังสือลดราคาก็ไม่น่าซื้อเช่นกัน ตอนซื้ออาจรู้สึกว่าเนื้อหาน่าสนใจและถู๊กถูก แต่พอเอามารวมกับกองดองที่บ้าน มันจะโดนหนังสือใหม่ข่มจนหายไปจากความทรงจำเราเลย
แบบนี้ค่อย ๆ อ่านกองดอง แล้วสอย 50% แบบตอดเล็กตอดน้อยตลอดทั้งปีดีกว่า เล่มไหนอยากได้จริงๆ ค่อยไปซื้อเวลาดับเบิ้ลเอลดราคา หรือซื้อในร้านแถวบ้านก็ยังได้ ^ ^ นี่คือที่คิดไว้ตอนต้นเดือน
วันนี้เดินผ่านชั้นล่างในห้างเซ็นทรัล เจอบูธหนังสือ 50% กับ "เล่มละ 20" เรียงติดกันเป็นแนว มีทั้งนิยายเก่าหน่อยแต่อ่านได้ เช่น คุณนายสามสลึง (วราภา), บ้านแตกกับสายโลหิต (เพิร์ล เอส บั๊ก), รอยแค้นดินแดนรัก, นางทาส และนิยายพิมพ์คำช่วงปีสองปีก่อน, ชู้รักเลดี้แชตเตอร์เลย์, เต็ลมา, ชุดครอบครัวมอฟแฟตส์ ฯลฯ หนังสือสาระ เช่น รวมภาพเนชั่นแนลจีโอกราฟฟิก, พระแสงศัตราวุธคู่เมืองเล่มที่เคยเห็นในบูธกรมศิลป์, หนังสือแนวบ้านและสวน, หนังสือธรรมะหลากหลายประเภท
สุดท้ายก็พ่ายใจตัวเอง ไปรื้อได้หนังสือ "ตุลาวรรณกรรม" มา 7 เล่ม 140 บาท ดังนี้: - คนกับควาย โดย สมคิด สิงสง/สุรชัย จันทิมาธร - อาทิตย์ ถึง จันทร์ โดย เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ - ขุนทอง เจ้าจะกลับเมื่อฟ้าสาง โดย อัศศิริ ธรรมโชติ - คนบนต้นไม้ โดย นิคม รายยวา - ตำบลช่อมะกอก โดย วัฒน์ วรรลยางกูล - ละคอนโรงเก่า โดย นัน บางนรา - โลกของหนูแหวน โดย ศราวก
(อยากต่อราคาบางเล่มเหลือ 10 บาทจัง แต่ตอนจ่าย คนเฝ้าไม่อยู่)
โน้ต: ถ้าว่าง จะไปรื้อเล่มของพนม นันทพฤกษ์ที่สภาพดี ๆ ให้เจอ
เหตุการณ์วันนี้ทำให้รู้ตัวมากขึ้นว่าคงรอดจากงานหนังสือได้ยาก ขนาดตรงนี้แค่แถวสั้นๆ แถวเดียว ยังรื้ออย่างเมามันส์ ถ้าเป็นงานหนังสือที่มีเป็นร้อยๆ แถว จะเหลือเรอะ เฮ้อ ... สงสัยคงต้องหนีไปเที่ยวอย่างที่คุณหมูย้อมสีว่าไว้ในบล็อกคุณจินตานุภาพซะละมั้ง
2 มีนาคม
เพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยโทรมาบอกว่าจะแต่งงาน
เพื่อนคนนี้คบกับแฟนมานานมากแล้ว จนจขบ. (ซึ่งรู้อะไรๆ เบื้องหลังเยอะกว่าคนอื่น) รู้สึกว่าถึงเขาไม่แต่งกัน เราก็เฉยๆ นะ เพราะเข้าใจทั้งฝ่ายชายว่าทำไมอยากแต่ง และทำไมฝ่ายหญิงลังเลรีรออยู่
โอเค ในเมื่อเพื่อนตัดสินใจแล้ว ก็ยินดีด้วย ถ้าเลือกทางนี้ก็ขอให้ลุยโลดไปข้างหน้า อย่ามาพะวักพะวนอะไรอีกละกัน
... อย่างไรก็ตาม เริ่มรู้สึกแอบเหงาเล็กน้อย ปกติก็ไม่ค่อยมีเพื่อนอยู่แล้ว เพื่อนสนิทที่บ้านใกล้กันมีนับนิ้วได้ เพื่อนคนนี้มีนิสัยชอบเจ๊าะแจ๊ะยามว่าง แล้วก็ว่างไม่เป็นเวลาเหมือนกัน เลยสนิทกว่าอีกคนที่เป็นเวิร์คกิ้งวูเม่น เพื่อนอีกคนก็เป็นสาวคนละสไตล์--นานๆ คุยกันทีก็พอ อีกคนเป็นสาวคนละโลกเลยก็ว่าได้
ใจหายและดีใจปนๆ กันแฮะ
1 มีนาคม - ความคับแค้นของสาวไม่ค่อยวาย
ใครอ่านไม่รู้เรื่อง ก็จงไม่รู้ต่อไป และอย่าถาม เพราะเขาห้ามตอบ 555
วันนี้ไปร้านม.ด. เพื่อซื้อนิยายใต้ดิน หลังจากไม่ได้ซื้อมานานมากร่วมสองสามเดือนได้ เพราะมักจะได้เข้าเมืองโดยไม่ได้วางแผน เลยไม่มีลิสต์รายชื่อติดตัวไปด้วย ไอ้จะไปถามว่าเรื่องใหม่หลังเรื่อง xxyy มีอะไรบ้าง เขาก็ไม่ยอมบอกเสียด้วย
วันนี้ จขบ. เดินตรงไปพูดชื่อหนังสือที่อยากได้จนจำชื่อแม่นสองสามเรื่อง คนขายบอกให้ทวนเพราะฟังไม่ถนัด เราก็ทวน จากนั้น เขาก็ถามว่า "ไปเอาชื่อมาจากไหน? ไม่ได้เข้าบอร์ดหรือ?" (อะไรประมาณนี้) เราก็..เอ หรือจะถามเช็ค? ก็ตอบไปว่าได้จากบอร์ดเมืองมรกต เราไม่ค่อยตามข่าวหรอก ปกติเข้าไปเล่นเกมส์อย่างเดียว
คนขายก็บอกว่า "เข้าไปอ่านบอร์ดนะ ประกาศมาเป็นเดือนแล้ว" เราก็..เอ๊ะ ชักจะยังไง? มีอะไร(อีก)ฟะ? (ประมาณเดือนสองเดือนก่อน จำได้ว่ามีทะเลาะอะไรกันไม่รู้ ได้อ่านอยู่นิดนึง ขี้เกียจตามต่อ) สุดท้ายเลยถามซ้ำ "งั้นสรุปวันนี้คือซื้อไม่ได้ใช่ไหมคะ?" คนขายตอบ "ใช่"
เดินจากมาด้วยอารมณ์เซ็งมาก ค่อนข้างฉุนด้วย เพราะวันนี้สะดวกซื้อสะดวกขนที่สุดในรอบหลายเดือน โอกาสแบบนี้ไม่รู้จะมีมาอีกไหม (จขบ. เข้าเมืองหลังไปรับงานกับแวะตระเวณร้าน 50% ดังนั้น จะแบกอะไรเยอะมากเวลาเข้าเมืองที) นิยายเล่มนึงไม่ใช่ถูกๆ ไปซื้อนะโว้ย ไม่ได้ขอ คนซื้อกับคนอ่านเป็นคนเดียวกัน บอกชื่อหนังสือถูก อยากถามข้อมูลเช็คอะไรก็ถามได้ จะเอาอะไรอีก
คนขายไม่ได้กระโชกโฮกฮากใส่เรานะ มารยาทดี พูดถนอมเสียงผิดวิสัยด้วยซ้ำ แต่เราก็แอบคิดไม่ได้ว่าทำไมไม่บอกมาเลยว่าตูทำผิดกฎอะไรตรงไหน ทำไมต้อง "ไปอ่านบอร์ดนะ" (คนซื้อยืนหัวโด่อยู่ข้างหน้า บอกเลยไม่ได้เหรอ) อีกอย่าง ช่วยดูหน้าคนซื้อหน่อย..คือ แก่แล้วน่ะ วันๆ ทำงานงกๆ ไม่มีเวลาวิ่งตามข่าวทุกอย่างในเน็ตแบบเด็กๆ หรอกนะ แค่นาน ๆ เปิดหาว่ามีอะไรออกใหม่บ้างก็งงจะแย่แล้ว แง่งงง เดี๋ยวเลิกอ่านซะหรอก
เดินต่อมาอีกร้านที่อยู่ชั้นสอง เพิ่งนึกได้ว่าลืมเอาบัตรสมาชิกไป ตอนนั้นทุ่มสิบห้าแล้ว ชะโงกหน้าไปถามว่า "ไม่เอาบัตรมาซื้อได้ไหมคะ?" น้องตอบว่า "ปิดแล้วค่ะ" เดินจากมาด้วยความเซ็งอีกรอบ ... ไม่โมโหเท่าร้านแรก แต่ก็เซ็งขนาดไม่เซ้าซี้ขอซื้อละกัน หันกลับทันทีเลย วันนี้มันวันบัดซบอะไรฟะเนี่ย
เมื่อไหร่เมืองไทยจะเปิดเสรี จัดเรทอะไรให้มันเป็นเรื่องเป็นราวฟะ? ไอ้หนังสือพวกนี้มันเป็นอะไรที่คนวัยฉันอ่านได้นะ ทำไมต้องงุบงิบซื้องุบงิบขายอย่างกับซื้อยาบ้าด้วย? ทำให้มีกฎบ้าบอคอแตกอะไรออกมา มากเรื่องมากความแท้ๆ
Create Date : 02 มีนาคม 2552 |
|
37 comments |
Last Update : 30 มีนาคม 2552 3:17:05 น. |
Counter : 1223 Pageviews. |
|
|
|
ไม่ให้ถามก็ไม่เป็นไรครับ ไม่รู้ต่อไปก็ได้ แต่เล่าได้สนุกดีนะ เข้าใจอารมณ์เซ็งเลย