BlogGang.com : : กิมจิกะหวานเย็น : ~~~ เค้กส้มในตำนานนนน กะ ซอสน้ำส้มสด ~~~

~~~ เค้กส้มในตำนานนนน กะ ซอสน้ำส้มสด ~~~

ไหว้ตรุษจีนผ่านไป.. อะ ส้ม ตรึม ทำไรดี ช่วงนี้ ก้นครัวฮิตเค้กส้ม เราก้อ..เอามั่งอ่ะดิ

สูตรเค้กส้มในตำนาน เหมือนกันกะคนอื่นๆ อิอิ
แม่สลิ่มค่ะ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=monnira&month=11-2006&date=06&group=60&blog=1

ส่วนผสม
1. แป้งเค้ก 100 กรัม
2. ผงฟู 3/4 ช้อนชา
3. น้ำตาลทราย 120 กรัม
4. เกลือ 1/2 ช้อนชา
5. น้ำ 40 กรัม
6. นมข้นจืด 30 กรัม
7. ไข่ไก่ 3 ฟอง
8. เนยเค็ม 70 กรัม
9. สารเสริม SP 10 กรัม
10. กลิ่นส้ม 1 ช้อนชา
11. สีส้ม 2 หยด

เราดัดแปลงสูตรนิดหน่อยนะคะ ใช้น้ำส้มคั้นสดแทนน้ำเปล่าอ่ะ มีเกล็ดส้มด้วย ชอบๆ แล้วลดน้ำตาลเหลือ 100 กรัมแทน

วิธีทำ
1. ร่อนแป้งกับผงฟู พักไว้
2. วอร์มเตา เราต้องการอุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียสค่ะ
3. ตัดกระดาษไขรองก้นพิมพ์เค้ก เราใช้พิมพ์เหลี่ยม 2 อันค่ะ ทานง่ายดี ไม่ต้องทาไขมันใด ๆ ทั้งสิ้น
4. ใช้เครื่องตีไข่กับหัวตีรูปตะกร้อ ใส่น้ำตาลทราย เกลือ ไข่ไก่ และน้ำลงไป และเอา SP ปาดที่หัวตะกร้อ ตีให้น้ำตาลละลาย

5. ใส่แป้งลงไป ตีด้วยความเร็วต่ำ 1 นาที ใช้พายยางช่วยให้เข้ากันได้ค่ะ
6. ปาดอ่าง เปลี่ยนเป็นตีด้วยความเร็วปานกลาง 5 นาที เพื่อให้ส่วนผสมขึ้นฟู และข้นเหนียว
7. ปาดอ่าง ตีด้วยความเร็วต่ำ 1 นาที แล้วใส่นมข้นจืดที่มีสีและกลิ่นใส่ไว้แล้ว ตามด้วยเนยสดละลาย
8. ปาดอ่างเบา ๆ อีกครั้ง และตีด้วยความเร็วต่ำจนเนื้อเค้กเนียน ไม่มีฟองอากาศ นำส่วนผสมออกมาเทใส่พิมพ์

9. เคาะก้นพิมพ์เบา ๆ เพื่อไล่ฟองอากาศครั้งสุดท้าย แล้วเอาใส่เตาเลยค่ะ อบด้วยไฟล่างอย่างเดียว อุณหภูมิ 180 องศา ใช้เวลาอบ 25-30 นาที แต่่.. หนู OTTO ที่บ้าน ไม่มีไฟล่างอ่ะ เลยใช้ บน-ล่างแทน

10. สังเกตว่าหน้าเค้กจะนูนขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป 20-25 นาที ไม่ต้องตกใจค่ะ 5 นาทีสุดท้ายของการอบให้เปลี่ยนไฟในการอบเป็นไฟบนอย่างเดียว แล้วลดอุณหภูมิของเตาให้เหลือ 150 องศา หน้าเค้กจะเริ่มยุบลง
11. เมื่อครบกำหนดเวลาแล้ว นำออกจากเตาทันที กระแทกพิมพ์ 1 ครั้งบนโต๊ะ เพื่อให้โครงสร้างเค้กอยู่ตัว แล้ววางไว้บนตะแกรงให้เย็นสนิท

12. เมื่อเค้กเย็นสนิทแล้ว ใช้มีดปลายแหลมแซะข้างขอบพิมพ์ คว่ำเนื้อเค้กลงบนตะแกรง ดึงกระดาษออกจากก้นเค้ก
13. ใช้ตะแกรงอีกอันวางทับบนเนื้อเค้ก เพื่อพลิกหน้าเค้กขึ้นมาค่ะ คราวนี้ก็แต่งหน้าด้วยแยมส้มสำเร็จรูป ไม่ก้อ ทำซอสส้มราดเลยค่ะ

---------------------------------------------------------------------------------

ซอสน้ำส้มสด
จริงๆตามสูตรในตำนานใช้ซันควิส แต่.. เราไม่มี หันไปหันมามีส้มไหว้เยอะ ก้อ..เอามาใช้ซะ

- น้ำส้มคั้น 300 มล. เราใช้ 3 ลูกบิ๊กๆเลยนะ
- น้ำมะนาว 1 ลูก อันนี้ใส่ไม่ใส่ก้อได้ แต่..ชอบเปรี๊ยวๆอ่ะ เลยใส่ซะ.. แบบส้มมันหวานเกิ๊น ส้มบ้านใครเปรี๊ยวก้อ ไม่ต้องใส่นะจ๊ะ
- น้ำตาล 75 - 100 กรัม แปรผันตามความหวานของส้ม และ..หัวใจคนทำ อิอิ ชอบหวานก้อใส่เพิ่มโลด
- แป้งข้าวโพด 25 กรัม
- สีส้มจิ๊ดนึง แล้วแต่ชอบจ๊ะ เราไม่ได้ใส่เนยนะ เพราะลองชิมดูแล้ว ชอบแบบไม่ใส่มากกว่า

วิธีทำ
1.คั้นส้ม กะ มะนาว ที่เห็นมุมล่างขวานั่น มะนาวที่บ้านจ้าาา ใหญ่ดีป่ะ

2.เอาน้ำส้ม+น้ำตาล+แป้งข้าวโพด ใส่หม้อ เปิดไฟอ่อน กวนเรื่อยๆ ห้ามหยุด จนซอสใสและข้น

3.หันเค้ก แล้ว ราดเล้ย เราทำ 2 ชั้นพอ เค้กใช้ได้นะเนี่ย ชมเองซะงั้น อิอิ

----------------------------------------------------------------------------------

น่ากิน มั้ง.. หม่ำโลดดดดดด

ป๊า กะ ม้า กะ น้อง บอกอร่อย เย้..เย้

Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2553

Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2553 21:52:15 น.

3 comments

Counter : 1014 Pageviews.

ทักทายยามค่ำคืนจ้า^^

โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว

วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:22:36:22 น.

สวัสดีค่ะ เข้ามาเยี่ยมชมบล๊อก แล้วก็ขออนุญาตประชาสัมพันธ์ทุนด้วยค่ะ

ทุนเรียนฟรี 1 ปี พร้อมที่พักระหว่างเรียน IELTS-EFL / PreMaster @Cambridge, UK รวม 30 ทุน

ถ้าผู้ได้ทุนเป็นนักเรียน โรงเรียนจะได้รับเงินบริจาค จากวิทยาลัย 10000 บาท ต่อนักเรียน 1 คนด้วยค่ะ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Mrs Rachinya Wilson,
International Director & Scholarship Coordinator
Cambridge Seminars Tutorial College
143-147 Newmarket Roead,
Cambridge, CB5 8HA
UK

Tel 00 44 1223 313 464
00 44 1223 300 123
00 44 7940 589 077

E mail camsem@hotmail.co.uk
rachinya@camsem.co.uk
rachinya.wilson@cambridgesemainars.co.uk

Websites: //www.cambridgeSTcollege.com
//www.camsem.co.uk
//www.cambridgeseminars.co.uk

หรือ ติดตามเอกสารประชาสัมพันธ์ทุนนี้ได้ที่สถานศึกษา หน่วยงานราชการทุกแห่งที่สังกัด กรมสามัญการศึกษา สำนักงานการศึกษาเอกชน กรมอาชีวศึกษา สกอ และ กพ

หรือ ติดตามได้ในบล๊อกนะคะ

กรุณาช่วยบอกต่อทุกคนที่รู้จักเพื่อเป็นวิทยาทานด้วยนะคะ

ขอบคุณค่ะ

ปล น่ากินจังค่ะ เคยเห็นแต่แบบเป็นพิมพ์กลม แบบนี้น่าจะตัดทานได้ง่ายกว่านะคะ

โดย: mookyja

วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:23:31:22 น.

น่าทานเชียวค่ะ

หาเวลาลองอยู่เหมือนกัน

โดย: vekalover

วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:18:15:03 น.