Group Blog
 
<<
เมษายน 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
14 เมษายน 2551
 
All Blogs
 
ปางอุ๋ง แม่ฮ่องสอน

ปีใหม่ปีนี้ขึ้นเหนือกันอีกรอบ ...คราวนี้เราจะไปเ้น้นกันที่ปางอุ๋ง กะแม่ฮ่องสอน แต่มาแวะปายกับเชียงใหม่เล็กน้อยนะ

25-26 ธันวาคม 50

ทริปนี้ออกจากรุงเทพมา 7 คน แต่ว่าเดี๋ยวคนที่ 8 จะตามมาเจอที่สนามบินเชียงใหม่ ...พี่คนขับรถซิ่งจัด เลยมาถึงเชียงใหม่ตั้งแต่เช้าาา ก็เลยให้พี่เค้าไปแถวๆถนนนิมมานเหมินทร์จอดรถพักก่อน แล้วที่เหลือก็ตามอัธยาศัย

ส่วนนึงก็นอนรอบนรถ
ส่วนนึงไปนั่งร้าน CD (รอร้านเค้าเปิดตอนเกือบๆ 10 โมง)
ส่วนเรากะแมกซ์พอดีเห็นป้่ายมีนิทรรศการภาพถ่ายของพระเทพฯ ก็เลยเดินไปดูซะหน่อย

ไปถึงตัวงาน คนน้อยมากๆเลย (เพิ่งเปิดด้วย)

อาคารด้านหน้า แสดงภาพถ่ายของพระเทพฯ แล้วก็มี VDO ที่พระเทพไปบรรยายแต่ละรูปให้ฟังในงานอะไรซักอย่าง ..พระเทพฯบรรยายได้ตลกมาก ยืนฟังซะเพลิน พอดูจบก็ไล่ดูรูปแต่ละรูป ..คำบรรยายใต้ภาพก็น่ารัก ดูไปอดอมยิ้มไปไม่ได้

เดินเข้ามาอีกหน่อยเป็นนิทรรศการภาพวาด (เหมือนจะของ ปตท.) มีภาพเจ๋งๆหลายภาพเลย (แต่เราดูศิลปะไม่เป็นนะ ที่ว่าสวย คือที่เรารู้สึุกว่าสวยเท่านั้นอ่ะ)


ภาพซ้ายเป็นรูปที่มีคนถ่ายพระเทพฯ (แต่จริงๆในงานเป็นภาพที่พระเทพฯถ่ายนะ)
ภาพขวาคือตัวอย่างภาพวาดที่เราว่าสวยดี

พอได้เวลา เราก็มุ่งหน้าไปสนามบินเชียงใหม่ รับท๊อปมา แล้วก็มุ่งหน้าสู่ปางอุ๋งเลย ...ก่อนออกก็แวะกินข้าวซอยแม่ลำดวนก่อน ร้านนี้อยู่ริมถนนใหญ่ที่มุ่งหน้าจากเชียงใหม่ไปปายเลย (อันนี้เป็นคนละร้านกับที่ไปกินปีที่แล้ว เค้าบอกว่าร้านเดียวกัน แต่เราว่าร้านปีที่แล้วอร่อยกว่าแฮะ)

นั่งรถซัก 4-6 ชม. ได้ (หลับตลอด) กว่าจะถึงปางอุ๋งก็มืดแล้วววว
เรามาพักกันที่ บ้านลุงปาละ .... พอเข้าไปในเขตปางอุ๋งแล้วบ้านพักแกจะอยู่ที่แรกเลย (คนเค้าเรียกที่นี่ว่าบ้านกาแฟ) ... คนเยอะพอสมควร เลยรีบสั่งข้าวไว้ก่อนแล้วค่อยไปเก็บของ

ห้องนอนเราที่เค้าเรียกว่าห้องไร่ชา เพราะเป็นห้องริมสุดติดกับไร่ชา นอนรวมกันได้ 8 คนสบายๆ คืนนี้เหนื่อย รีบนอน พรุ่งนี้เช้าจะได้่รีบตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน (นัดกันว่าจะตื่นตี 5 ครึ่ง แล้วดินไปดูสบายๆๆ)

##################################

วันที่ 2 : 27 ธันวาคม 2550

"เฮ้ย ....หกโมงครึ่งแล้วว่ะ ข้างนอกสว่างแล้่วว"
นั่นเป็นเสียงแรกที่ได้ยิน...แป่วววว จะมาดูพระอาทิตย์ขึ้นอ่าา
แต่ว่าไม่เป็นไร แดดยังไม่ส่อง พอไหวน่าา
ว่าแล้วก็รีบล้างหน้า บ้่วนปาก แล้วก็ออกไป เผื่อว่าจะดูพระอาทิตย์ขึ้นทัน

เดินไปเรื่อยๆถึงบริเวณทะเลสาปก็เห็นคนถ่ายรูปกัน แต่ว่ามันหมอกๆอ่ะ ถ่ายไม่เป็น ไม่รู็้ต้องถ่ายยังไงถึงสวย ก็ยืนเอ๋อๆเซ่อๆกันอยู่ซักพัก แล้วก็เห็นคนเดินเลียบทะเลสาปไปเรื่อยๆ เราก้เลยเดินๆตามเค้าไป

ปล. มาคราวนี้โง่อีกอย่าง คือเอาเสื้อหนาวมาตัวเดียว แถามเป็นแบบถักๆ ที่กันหนาวไม่ได้มาก เลยต้องขอยืมเสื้อหนาวท้อปมาใส่ทุกเช้าเลย (^^')


บริเวณริมทะเลสาป (ขอเรียกว่าโซนหน้าละกันนะ เพราะเดินมาเจอที่นี่ก่อน)
ขวาบนเป็นรูป "รวมไทยเกสท์เฮาส์" ที่เป็นบ้านพักริมทะเลสาปเลย

พอเดินไปซักพัก มาเจอริมทะเลสาปโซนหลังก็ถึงบางอ้อ ...ที่นี่นี่เองที่เค้ามาถ้่ายรูปกันสวยๆ ..ตอนเรามาถึงแดดกำลังสวยเลย ก็เลยถ้่ายกันซะยกใหญ่ (เห็นบางคนแต่งหน้าแต่งตัวมาอย่างสวย ไอ้เราเพิ่งลุกมาจากที่นอน)


แสงแดดยามเช้าที่ริมทะเลสาปโซนหลัง

พอถ่ายรูปจนสาแก่ใจ ก็กลับไปกินข้าวแล้วก็ล้่างหน้าล้างตา ...มองไปเห็นพี่เค้าตำๆอะไรอยู่ซศักอย่าง เลยเดินไปถาม ได้ความว่ากำลังตำกาแฟ แล้วเค้าก้เลยเล่าให้ฟังว่าพอเก็บเม็ดกาแฟสดมา ต้องมาตำๆๆให้มันแตก แล้วเอาไปตากให้มันแห้ง เสร็จแล้วค่อยเอาไปคั่ว ถึงจะมากินได้ (โอววว ขั้นตอนมันเป็นอย่างนี้นี่เอง)


คุณท้อปไปขอลองตำกาแฟ
เม็ดแดงๆนั่นคือกาแฟสด ด้านล่างคือที่กำลังตาก
รูปล่างสุดเป็นบรรยากาศที่พักจ้าา


คุยไปคุยมาเค้าก็พาเดินชมสวน แล้วชี้ไปที่ผักต้นนึงบอกว่าเอามาจิ้มน้ำพริกอร่อย เอามาผัดก็ใช้ได้ ...ต่อมตะกละทำงานทันที ...สวนไปในบัดดลว่า "หนูอยากลองกินค่ะพี่" ...พี่ใจดีก็เลยบอกว่า "งี้เย็นนี้ผัดให้กิน" ..เหอๆๆๆ (แต่ว่าจำชื่อผักไม่ได้แฮะ...ทำไมเป็นอย่างนี้ล่ะตรู)

หน้่าตาผักที่ว่าเป็นแบบนี้

เช้านี้เราวางโปรแกรมไว้ว่าชิลๆที่ปางอุ๋ง ...คุณท้อปผู้รักการเดินป่าเป็นชีวิตจิตใจก็เลยไปถามๆคนแถวนั้นว่า ถ้าเดินขึ้นเขาไปแล้วฝั่งตรงข้ามเป็นอะไร ...เค้าบอกว่าเป็นชายแดนติดกะพม่า หรือไงเนี่ย ..ถ้าขึ้นไปแล้วสามารถมองเห็นฝั่งตรงข้ามได้ ... เท่านั้นแหละ เปลี่ยนโปรแกรมจากชิลๆ ไปเดินป่าทันที (Y_Y)

พี่เค้าก็นัดแนะเรียบร้อยว่าไปเตรียมตัวก่อน เดี๋ยวอีก 10 นาทีมาเจอกันตรงนี้ (เค้าจะไปหาคนนำทางมาให้) อ้อ .. ลืมบอกว่าไปครานี้ไม่เสียค่าใช้่จ่าย แล้วแต่เราจะให้เค้า แต่พี่คนที่เราคุยด้วยบอกว่าอย่าให้เค้าเยอะ เพราะไม่อยากให้เค้าทำกันเป็นธุรกิจ ...

พอได้เวลาเราก็มาตามที่นัดไว้ แต่ไม่เจอใคร พอดีมีพี่คนนึงเดินมา เราเลยถามว่าจะหาคนนำทางที่ไหน ..เค้าบอกเค้านำได้ ว่าแล้วก็เดินเข้าไปหยิบมีดพร้ามาเหน็บเอว แล้วก็ออกเดินทาง (แอบหวั่นๆนะเนี่ยยย)

เดินกันไปอยู่ชาติกว่า (ระหว่างทางไม่มีคนคุยกัน เพราะเหนีื่อย) พี่เค้าก็มาหยุดตรงทางราบบนเขา แล้วก็บอกว่าถึงแล้ว ..เดินต่อไปอีกก็ไม่มีไรแล้ว ....มองไปรอบๆ มีแต่ต้นไม้ ฝั่งพม่าอยู่ไหนฟระ ?? หาไม่เจอ แต่พี่เค้าบอกว่าเดินทางนี้ต่อไปก้ไม่เจอ เราก็เลยหยวนๆๆ ..กลับก็ด้ายย


ซ้ายบนคือจุดหมายปลายทางการเดินป่าของเรา
ซ่ายล่างคือดอกนางพญาเสือโคร่ง
ด้านขวา คือตอนลงมาจากเขาแล้วววว

ตอนกลับไปที่ย้านพักเจอพี่ที่บอกว่าเดินไปดูชายแดนได้ ..เค้าบอกว่าคนที่นำทางเราไปไม่ค่อยรู้ทาง เสียดายคลาดกับคนที่เค้าหาไว้ให้ ไม่งั้นมันเห็นชายแดนได้จริงๆ (ก็เสียดายอ่ะ แต่ให้หนูขึ้นไปอีกก็...ขอคิดดูก่อนนะคะ)

ระหว่างทางกลับ เดินดูวิวทะเลสาปตอนกลางวันก็สวยดีนะ

พักกันให้หายเหนื่อยพักนึง แล้วก้ไปบ้านรวมไทย กินอาหารจีนยูนาน

เค้าเอาชามาให้ชิม อร่อย~~~~~ แถมถูกกว่าเมืองจีนอีก ก็เลยซื้อกลับบ้านมาคนละถุงสองถุง
อีกอย่าง ชุดน้ำชาที่นี่ถูกมากอ่ะ เราซื้อมาชุดนึง 150 บาทเอง ประกอบด้วย.....
กาน้ำ 2 อัน (มีฝา 1 ไม่มีฝา 1)
ที่กรอง 1 อัน (เคยถามราคาที่เซ็นทรัล อันละ 150 โชคดีจริงๆที่ไม่ซื้อ)
ถ้วยชาธรรมดา 2 ถ้วย
ถ้วยชาสูง 2 ถ้วย (อันนี้ไม่รู้เอาไปทำไร)


อาหารจีนยูนาน และอุปกรณ์กินชา

กินเสร็จแล้วก็ไปเที่ยวที่โครงการอะไรซักที่ (จำไม่ได้จริงๆ แบบว่าอ่านป้ายไปตามทาง) ที่นั่นมีเลี้ยงแกะ แล้วก็มีพวกอนุบาลสัตว์ป่า


ถ่ายรูปกะแกะน้อย (แกะนี่มันกินตลอดเวลาจริงๆนะ หรือเราไปตอนเวลาอาหารมันไม่รู้สิ)

โปรแกรมสุดท้ายของวันนี้แล้วววว .... ไปกันที่น้ำตกผาเสื่อ

ตรงนี้ไม่มีอะรไมาก เดินไปให้อาหารปลาอย่างเดียว (ปลาตัวโตทีเดียว)

เสร็จแล้วก็กลับที่พัก ไปนั่งชิลๆกันริมทะเลสาปแปปนึงแล้วก็กลับบ้าน กินข้าว นอน (พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าให้ได้)


น้ำตกผาเสื่อ

เอ้า...โดด ริมทะเลสาปปางอุ๋ง


ขากลับเจอเด็กๆ เลยบอกให้พาไปหาลุงปาละหน่อย ....เด็กวิ่งมาเป็นพรวน น่ารักมาก

คืนนี้ได้กินผักที่ขอพี่เค้าไว้เมื่อเช้า ..อร่อยดี กรุบๆกรอบๆ ~~~

##################################

วันที่ 3 : 28 ธันวาคม 2550

วันนี้ตื่นเช้ากันอย่างพร้อมเพรียง แล้วก็ไปตั้งกล้องกันที่ริมทะเลสาปโซนหลังตั้งแต่มืดเลย


(ทำไมไม่ตั้งกล้องให้ถ่ายจุดเดียวกันฟระ ??)

ขอเก็บรูปหวานแหววเล็กน้อย (ทำไมโทรมอย่างนี้เนี่ย ตรู)


เสร็จแล้วก็นั่งเรือชมทะเลสาป

พอสมควรแก่เวลา ก็ออกเดินทางไปเที่ยวต่อ วันนี้เราจะอำลาลุงปาละ มุ่งหน้่าสู่แม่ฮ่องสอนกันแล้วนะ ... โปรแกรมวันนี้ไม่เยอะมาก เพราะเสียเวลาไปกับการเดินทางซะเยอะ

เริ่มกันที่วังปลา ... ปลาที่นี่เค้่าจะกินผลไม้ซะส่วนใหญ่ แล้วคนจะไม่จับปลาที่นี่กันเพราะเชื่อว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ด้านในจะมีถ้ำของเจ้าพ่อ ที่คอยดูแลรักษาปลาเหล่านี้อยู่ด้วย


วังปลา

เสร็จแล้วก็ไปต่อกันที่ภูโคลนอันเลื่องชื่อ มี package ให้เลือกมากมาย แถมมีน้ำแร่ให้่แช่อีก สบายจริงๆ


ฝั่งบนนี่พอกเฉพาะหน้า แล้วก็ไปนวดตัวต่อ
ฝั่งล่างนี่ขอพอก ขอขัดทั้งตัว เสร็จแล้วไปแช่น้ำแร่แบบไม่จำกัดเวลา
จำได้มะ ว่าใครเป็นใคร ??

ใช้เวลาไปกะที่ภูโคลนนานโข ...กว่าจะออกมาก็เย็นละ แล้วก็มุ่งหน้าเ้ข้าสู่แม่ฮ่องสอนเลย (โชคดีไม่ไกลมาก เลยใช้เวลาไม่นาน)

ก่อนเข้าที่พัก มาแวะเที่ยววัดจองคำ จองกลางกันก่อน (2 วัดนี้อยู่ติดกันใจกลางเมืองเลย หาไม่ยากๆๆ)

2 วัดนี้เป็นวัดแบบของชาวไทยใหญ่ จะแปลกตากว่าวัดในกรุงเทพเล็กน้อย แต่โดยรวมก็ไม่ต่างกันมากหรอก ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ จะมีพวกรูปปั้นเกี่ยวกับพระพุทธเจ้า กับพระเวสสันดรพอสมควร (มีพิพิธภัณฑ์ย่อมๆที่รวมเครื่องใช้โบราณด้วย)



เสร็จแล้วก็เข้าที่พัก เก็บข้าวเก็บของก่อน แอบจำไม่ได้ (อีกแล้ว) ว่าชื่ออะไร ไม่แน่ใจว่าชื่อ อิงดอยรึเปล่า ...ที่พักนี้่อยู่ค่อนข่างไกลจากตัวเมืองพอสมควร (นั่งรถซักเกือบๆ 10 นาทีได้) นอนสบายใช้ได้ทีเดียว แต่ไม่รู้ทำไมคืนที่เรานอนหมาหอนกันทัี้งคืน กระหน่ำมากๆ จนแอบผวาเป็นระยะๆ (เจ้าของก็บอกว่าปกติไม่เป็นนะ เพิ่งเป็นเมื่อคืนเนี่ยแหละ)


เย็นนี้ไม่กินในร้าน แต่มานั่งกินกันริมหนองจองคำแทน
รอบๆมีขายอาหารเต็มไปหมด ซื้อมากินไม่หวัดไม่ไหว

กินเสร็จก็ไป Shopping ที่ถนนคนเดิน (แถบนั้นเหมือนกัน) แล้วก็ไปซื้อโคมมาปล่อยกัน

##################################

วันที่ 4 : 29 ธันวาคม 2550

เช้้านี้เริ่มกันที่ พระธาตุดอยกองมู ความสำคัญของวัดนี้คือเป็นที่ประดิษฐานพระธาตุของพระโมคคัลลานะเถระ ที่มีคนไปอัญเชิญมาจากพม่า ตอนเราไปนี้หมอกจัดมาก สวยไปอีกแบบ

แถวๆลานจอดรถมีร้่านกาแฟเล็กๆชื่อ Before Sunset ก่อนตะวันลับเหลี่ยมภูผา บรรยากาศดี๊ ดี เหมาะแก่การนั่งจิบกาแฟยามเช้า

แต่ไม่รู้ทำไมพอหนุ่มๆนั่งแล้วเกิดอาการแต๋วแตกได้ขนาดนี้ ...เหอๆๆๆ (น่ากัวมากกก)


พระธาตุดอยกองมู กับหนุ่มๆที่ร้านกาแฟ

หมดโปรแกรมเช้าแล้วก็ไปอบน้ำอาบท่า มุ่งหน้าเข้าปายกันเลย

ไปแวะกินข้างเที่ยงที่ปายก่อน เสร็จแล้วก็ไปที่พัก ...ปีที่แล้วเรามานอนในตัวเมืองแล้ว ปรนี้จอออกมานอนนอกเมืองกันมั่ง พอดีได้จตังหวะพี่สาวท้อปเพิ่งเปิดรีสอร์ทใหม่ที่ปาย เลยขอไปใช้บริการซะหน่อยยย

ปีที่แล้วร้านกาแฟชื่อดังของปา่ยคือ All about coffee แต่ปีนี้มีคู่แข่งมาขอเบียดหน่อย ..ร้านใหม่นี่ชื่อว่า Coffee in love... จะบอกว่ามาแข่งกับ All about coffee ก็ใ่ช่ที่ เพราะที่ตั้งห่างกันเหลือเกินนน ร้านนี้จะอยู่นอกเมืองออกมาหน่อย บรรยากาศเป็นวิวเขา น่านั่งทีเดียว (แต่เสียตรงคนเยอะเี่นี่ยแหละ ทำให้ไม่สงบเท่าที่ควร)

ระหว่างเดินชมร้าน ก็หันไปเห็นบ้านสีเหลืองน่าร๊ากกอยู่ใกล้ๆ ..อดนึกไม่ได้ว่าบ่านใครหนอ น่ารักจริง ...กำลังยืนชื่นชมอยู่ ก็มีเด็กผู้ชายคนนึง อายุไม่น่าเกิน 10 ขวบเดินมาบอกว่า
"พี่อยากดูบ้านหรอ เข้าไปดูข้างในได้นะ"
ไอ้เราก็เกรงใจ แต่ก้อยากดู น้องมันคงรู้ทันเลยชวนอีกรอบ "เข้ามาเหอะ ไม่เป็นไรหรอก"

พอเหยียบเข้าไปบ้านก้เห็นคุณป้า คุณน้า่นั่งอยู่เต็ม ยิ่งหวั่นไปกันใหญ่ แต่คุณน้องชายพาเดินฉับๆๆ เปปิดห้องนั้นห้องนี้ให้ดู ..แล้วน้าคนนึงก็หันมาบอกว่า ไม่เป็นไรค่ะ เชิญตามสบาย เราก็เลยเดินตามน้องชายคนนั้นไปเรื่อยๆ แล้วคุณน้องก็บรรยายไม่หยุุด (ซักพักก้พอเดาได้ว่าบ้านนี้เป็นเจ้าของ Coffee in love นั่นเอง)

"นี้ห้องนอนผมกับพี่สาว"
"พี่ขึ้นมาชั้นสองมั๊ย"
"นี่ห้องนอนแขก"
พอได้ยินคำนั้นเลยแอบแซว "มีห้องนอนแขกด้วย งี้พี่ขอมาพักที่นี่ได้ป่ะ"
"พี่ไปนอนที่ปายวิมานก็ได้" (คาดว่าเจ้าของเดียวกัน >>> ขอย้ำว่าเดาล้วนๆๆ)

เป็นงานมากเลยน้อง ..แบบว่าอนาคตสืบทอดกิจการได้สบายๆๆๆ




ร้าน Coffee in love ,บ้านน้อยน่านัก และบรรยากาศรอบๆ

ที่พักคืนนี้ของเราชื่อ Tokimore (โต-กิ-โม-เร แปลว่าดอนนกแก้ว) เค้ายังจัดเต๊นท์ให้ไม่เรียบร้อย เลยนั่งเล่นข้างนอกไปก่อน คืนนี้เค้ามี BBQ ให้กินด้วย ...พอกินเสร็จเราก้ขอเข้าไปแวะเวียนเมืองปายให้ห่ายคิดถึงซะหน่อย

แต่ว่า...มาคราวนี้ผิดหวังพอสมควร ...บรรยากาศเมืองปายเปลี่ยนไปแล้ว (Y_Y) ปีที่แล้วมาที่นี่ยังมีความเป็นเมืองเงียบๆมากกว่านี้เยอะ ถึงคนจะเยอะ แต่ก็ยังใีบรรยากาศเก่าๆอยู่ ...ตอนนี้ทำไมมันแสงสีขนาดนี้ล่ะเนี่ย ???

แต่จะว่าไปคนมาเที่ยวก็เปลี่ยนไปด้วย ....ปีก่อนเคยมาคุยกับคนขายของเค้าก็บอกว่ามันเปลี่ยน เมื่อก่อนจริงๆที่ฝรั่งชอบมาเพราะมันสงบ แล้วเค้าก็จะเที่ยวแบบเงียบๆกัน แต่พอคนไทยเริ่มมา ความจอแจเริ่มเยอะขึ้น ...ปีนี้เยอะขึ้นมากเลยอ่ะ ...ความสงบหายไปหมดแล้ววว เสียดายจัง


ปาย 2551

คืนนี้กลับไปนอนที่เต๊นท์ ...ที่นี่เค้าเอาฟูกมาปูให้ในเต๊นท์ นอนสบายมากกกก ถึงมากที่สุด เที่ยวรอบนี้มาที่นี่นอนสบายสุดแล้วอ่ะ แถมตอนกลางคืนอากาศหนาว ซุกผ้าห่มหนาๆของที่นี่แล้วได้ใจมาก (ฟูกหนา ผ้าห่มหนา ไม่รู้สึกเลยว่านอนเต๊นท์) ...เสียอย่างเดียวคือ พออากาสหนาวแล้วมันปวดฉี่บ่อย เลยต้องลุกไปเป็นระยะๆเนี่ยแหละ

##################################

วันที่ 4 : 29 ธันวาคม 2550

วันนี้ไม่มีโปรแกรมละ ชิลๆที่ที่พัก แล้วรอไปกินข้าวเที่ยงในตัวเมือง เสร็จแล้วไปแวะให้คนขับพักที่เชียงใหม่แปปนึง แล้วกลับกรุงเทพเลย

ก่อนออกจากที่พัก ขอไปแช่น้ำแร่ซะหน่อย (ที่นี่มีนำ้แร่ไว้บริการ 4 บ่อย่อมๆ) สบายมากกกกก
พี่ทีน่า (เจ้าของ) บอกว่าน้ำแร่ที่นี่พอแช่แล้วขึ้นมาจะรู็้สึกอุ่นอยู่ ไม่หนาว ถึงไปอาบน้ำเย็นก็จะไม่หนาว...จริงๆด้วยอ่ะ เห็นหมอกขึ้นอย่างนี้นะ พอไปอาบน้ำออกมาแล้วยังอุ่นๆอยู่เลย แอบติดใจนะเนี่ย มีโอกาสกลับไปอีกจะขอไปแช่อีกซักหลายๆรอบ


ปิดท้ายด้วยบรรยากาศของง Tokimore และบ่อน้ำแร่จ้าา


เช้าวันที่ 30 ธันวาคม เวลา 6.30 โดยประมาณ ก็กลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ~~~~
นอนพักแวบนึงแล้วแอบไปดูหนังต่อ ...เหอ ๆๆๆๆ



Create Date : 14 เมษายน 2551
Last Update : 23 เมษายน 2551 14:23:16 น. 7 comments
Counter : 1219 Pageviews.

 



สุขสันต์วันครอบครัว ค่ะ




โดย: โสดในซอย วันที่: 14 เมษายน 2551 เวลา:14:47:03 น.  

 
มาเร็วมากเลยค่ะ เพิ่งเอาขึ้นแปปเดียวเอง

สุขสันต์วันครอบครัวเช่นกันค่าาา

มีความสุขมากๆนะคะ


โดย: เด็กข้างหน้าต่าง วันที่: 14 เมษายน 2551 เวลา:14:57:15 น.  

 
เอาภพยามหน้าหนาว

พอคลายร้อนได้บ้างครับยามดู

พอกโคลนจนดูไม่ออกเลยนะครับว่าใครเป็นใคร


โดย: กระต่ายไม่ขูดมะพร้าว วันที่: 14 เมษายน 2551 เวลา:15:23:48 น.  

 
สนุกจัง ได้บรรยากาศมาก เหมือนมาเที่ยวด้วยตัวเอง


โดย: dolores วันที่: 14 เมษายน 2551 เวลา:18:20:28 น.  

 
ขอบคุณฒากค่าา ที่มาเยียม Blog

มีคนมาอ่านแล้วค่อยมีกำลังใจเขียนต่อหน่อย ~~~


โดย: เด็กข้างหน้าต่าง วันที่: 14 เมษายน 2551 เวลา:19:11:03 น.  

 
ตามไปเที่ยวค่ะ ปางอุ๋ง ปาย แม่ฮ่องสอนนี่ดูยังไงก็ไม่เบื่อน่ะค่ะ ชอบปางอุ๋งมาก ยังไม่มีโอกาสไปเลย


โดย: มาเรีย ณ ไกลบ้าน วันที่: 20 เมษายน 2551 เวลา:13:27:04 น.  

 
ท่าทางสนุกนะ


โดย: โกร IP: 58.10.140.237 วันที่: 28 กันยายน 2552 เวลา:13:32:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เด็กข้างหน้าต่าง
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ขอสงวนสิทธิ์ภาพถ่ายทุกภาพใน blog นะคะ

Friends' blogs
[Add เด็กข้างหน้าต่าง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.