มื้อนี้ต้องรีบทำเวลา เพราะสายแล้ว กินเสร็จก็มุ่งหน้าไปที่ท่าเรือควนตุ้งกูขึ้นเรือหางยางมุ่งหน้าไปเกาะมุกทันที (ลืมบอกไปว่าเปลี่ยนเสื้อพร้อมลงทะเลกันมาตั้งแต่บนรถไฟ เพราะไม่อยากเสียเวลากิน) พี่โหน่งพาไปเอาข้าวกล่องกันก่อน แล้วจะได้ไปดำน้ำยาวเลย ...จะไปเที่ยวที่ไหนมั่งก็ค่อยๆเล่าไปละกันเนอะ ...

เอ้า....มาสูดอากาศทะเลกันก่อน~~~~

นั่งเรือหางยาวแบบนี้จากฝั่งมาเลย

ขนมเปียะซอย 9 อร่อยมาก!!
(นี่แกยังจะให้กินอีกหรอ ????)

โอ๊ะ... นานๆคุณแฟนจะเท่ห์ซะที (มั๊ย???)
(แว่นกันแดด กะย้อนแสงช่วยได้...555)

เราโชคดีที่ไปกันวันธรรมดา เลยมีแค่กลุ่มเรา (ที่โวยวาย) กับฝรั่งคู่นึง (เงียบๆ) เข้าไปในถ้ำ พี่โหน่ง(ไกด์)บอกว่า ช่วงนี้เป็นช่วงน้ำ 4 ค่ำ คือขึ้นเร็ว ลงเร็ว ตอนนี้น้ำขึ้นเต็มที่ ประกายมรกตก็เลยสะท้อนน้ำเต็มที่เหมือนกัน สวยมากๆ

วิธีเข้าไปนี่คือพี่โหน่งเป็นหัวแถว แล้วเราก็เกาะชูชีพของคนข้างหน้า ช่วยกันตีขาเพื่อให้มีแรงว่ายเข้าไปได้ (แต่แรงลาก 80% คาดว่ามาจากพี่โหน่ง ..อิอิ) ... ไปถึงแล้วพวกเราก็ลั้นลาถ่ายรูป กระโดดกันอย่างหนำใจ พอพี่โหน่งหายเหนื่อยจากการลากพวกเราเข้าไปแล้ว ก็ถึงเวลาเหนื่อยกับการลากเราออกมา ..เหอๆๆ

หลังจากนั้นก็ไปดำน้ำอีกหลายจุด ... พิมพ์เอาไว้ตอนอยู่ที่เกาะ ขอเอามาแปะนิดนึุง~~~

ที่แรกที่ไปคือจุดดำน้ำของเกาะมุก High light ที่นี่คือกัลปังหา 7 สี (ไม่ได้นับมา ไม่รู้ถึงมั๊ย แต่ว่าเยอะเอาการเหมือนกัน) ตรงนี้เราจะว่ายเลียบโค้งของเกาะ ...ตอนแรกจะว่ายตามน้ำ พอพ้นหัวโค้งมาจะว่ายทวนน้ำ พี่โหน่งรู้ทันเลยบอกเลยว่าใครไม่ไหวก็เกาะพี่ได้ (พี่เค้าจะเอาชูชีพเปล่าๆให้พวกเราเกาะ แล้วก็ว่ายนำไปเรื่อยๆ - เจ๊อูกหล่าร้านี่ไม่ขอลองว่ายด้วยตัวเอง พอลงน้ำปุ๊บ ก็ว่ายไปเกาะชูชีพพี่โหน่งทันที)

ที่นี่เราได้เจอปลาปักเป้าด้วย ...ตื่นเต้นไม่เคยเจอ ปะการังอื่นๆไม่เยอะมาก แต่ก็เห็นกัลปังหาสีสดๆประปราย (แอบชอบสีเหลือง...สดมากกกกก) ตอนที่ว่ายตามน้ำนี่ยังชิวๆว่ายได้ไม่มีปัญหา แต่พอเจอหัวโค้งเท่านั้นแหละ ชักเหนื่อย ตอนแรกว่ายตามพี่โหน่งติดๆ แต่พอพ้นหัวโค้งเท่านั้นแหละ เงยหน้ามากี่ครั้งๆก็ทิ้งระยะห่างขึ้นๆๆ จนพี่กัปตันเรือที่ลงมาด้วยโยนเชือกมาให้เส้นนึงเกาะ แล้วพี่เค้าก็ลากไปปล่อยตรงกอกัลปังหาแทน (ทำซ่าส์จะว่ายเองให้ได้ สุดท้ายก็ไม่เจียมสังขารตามเคย เหอๆๆ)

จุดต่อมา เราก็จะไปกันที่เกาะเชือก ...เมื่อ 16 ปีก่อนเราเคยมาเที่ยว (อ๊ากกกกกก ทำไมนานอย่างนี้ฟระ) ตอนนั้นยังมีปะการังอ่อนเยอะ สีสวยมาก สาวใสวัยทีน(ในตอนนั้น)ประทับใจสุดๆ ... แต่เมื่อไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ที่นี่เกิดปรากฏการณ์น้ำแดง คือแพลงตอนเป็นพิษ ทำให้ปะการังอ่อนตายไปหมด ตอนนี้เลยไม่เหลือวิวอย่างนั้นแล้ว น่าเสียดายมากๆ (อันนี้รู้เพราะไกดืเล่านะ ไม่ได้ติดตามข่าวเองแต่อย่างใด)

แต่เอาจริงๆตอนนี้ก็ไม่เลวนะ มันมีปะการังเกิดใหม่พอสมควร ส่วนใหญ่เป็นปะการังเขากวางหลายๆแบบ ปลาเยอะมาก ตอนคนกระโดลงไปนี่คิดว่ามันคิดว่ากินได้เลยมารุมตอดกันยกใหญ่ ไม่กลัวคนอย่างแรง ดำคราวนี้เจอปลาสิงโตแบบจะๆลอยอยู่ในน้ำ กะลูกกุ้งมังกร (อันนี้น้องผู้ช่วยไกด์ดำลงไปหยิบขึ้นมาให้ดูเลย ...เหอๆๆๆ) แปลกใหม่ดี ไม่เคยเห็น

Dive สุดท้ายของวันนี้ คือที่เกาะม้า ... ที่มีจะมีโขดหินอยู่อันนึง ตรงกลางโหว่ ให้เราว่ายน้ำลอดไปได้ พี่ไกด์บอกว่า ถ้าเจอจังหวะดีๆ ก็จะเจอฝูงปลาอยู่บริเวณนี้เยอะ เป็น Hi light ของที่นี่ทีเดียว

งดนี้ไม่เจอฝูงปลา แต่เจอฝูงแมงกระพรุน !!!! โอ้แม่เจ้า ฟังไม่ผิดหรอก นับเป็นเหตุการณ์ระทึกใช้ได้ ว่ายหนีกันแทบไม่ทัน เหอๆๆๆ

ตอนดำน้ำอยู่ .. ก็มีเห็นอะไรวุ้นๆใสๆสีขาวๆลอยผ่านอ่ะนะ (ใสมากๆๆ ต้องสังเกตดีๆอย่างแรง) ซักพักแมกซ์ก็กระตุกขา บอกว่าลูกแมงกระพรุนโดนขา ไม่เจ็บหรอ ก็เจ็บอ่ะนะ แต่ว่านึกว่าแตนทะเล เลยไม่ได้อะไรมาก

ทันใดนั้นเอง ก็ได้ยินเสียงเจ๊อูกรี๊ดขึ้นมา บอกว่าแมงกระพรุนตัวใหญ่มาก สีแดงด้วย ลอยอยู่ตรงนั้น (ชี้ไปไกลนิดนึง) พี่โหน่งเลยบอกว่าให้รีบว่ายออกมาห่างๆ แต่ก็ยังดำน้ำอยู่ ...เราก็ถอยออกมา ว่ายตามเจ๊อูไปห่างๆ (เจ๊อูเกาะพี่โหน่งไปตลอด) อีกแค่พักเดียว พี่โหน่งก็ลากเจ๊อูกลับมา บอกว่าแมงกระพรุนฝูงเบ้อเร่อ ขึ้นเรือด่วน

เจ๊อู กะหล่าร้าขึ้นไปสองคนแรก ได้ยินพี่โหน่งบอกว่า เอาน้ำล้างออกเยอะๆๆ ไอ้ 2 คนนั้นก็แทบจะเอาน้ำกินมาอาบ พอหายตกใจเจ๊อูก็เลยมาเล่าให้ฟังว่าตอนนั้นว่ายๆอยู่มันก็เห็นก้อนใสๆลอยอยู่รอบตัว หล่าร้าโดนแมงกระพรุนมาจุ๊บปากด้วย ขึ้นมากลายเป็นแองโจลิน่า โจลี่ในบัดดล เหอๆๆ

คำเตือน : ถ้าโดนพิษของลูกแมงกระพรุนตัวไม่ใหญ่มาก ขึ้นให้เอาน้ำสะอาดล้างไปเยอะๆเลย แปปเดียวเดี๋ยวก็ยุบจ้า

ระทึกกับแมงกระพรุนเสร็จก็กลับที่พัก ... อาหารเย็นอร่อยมากกกกกกตามฟอร์ม (ถ้าเทียบกับเกาะหมาก เกาะนางยวนที่เคยไปมานะ ..เทียบไม่ติดอย่างแรง อาหารที่นี่เยอะมาก รสจัดมาก ขนาดว่าเรากินกันเก่งๆแล้วนะ ยังกินกันไม่หมดเลยอ่ะ ใครอยากมาแบบกินดีอยู่ดี recommend เลย)
เช้าวันที 3 : วันนี้ไปเกาะรอกที่เีดียวเลย

ระหว่างรอพี่โหน่งเอาเรือมารับ ก็ไปซื้อขนมปังมาให้อาหารปลาหน่อย ..เยอะมาก
ดำน้ำวันนี้ไม่มีรูป ... เทียบๆแล้วเหมือนจะชอบเมื่อวานมากกว่า (แต่เนื่องจากดอง trip ไว้นานจัดเลยจำไม่ได้จริงๆว่าวันนี้มันมีจุดเด่นยังไง 555)

ตอนเที่ยงมาแวะกินข้าวที่เกาะรอก ...หาดทรายสวยมากถึงมากที่สุด แบบว่าทรายขาว ละเอียด แดดแรงกำลังดี ทรายสะท้อนแสงระยิบๆเลย สวยมากๆๆๆๆๆ

ดำน้ำกันจนบ่ายแก่ๆ ก้ได้เวลากลับที่พัก ... เดินเล่นรอบๆดูก่อน ...กะว่าจะไปดูหินเจ้าแม่กวนอิมซะหน่อย
เช้าวันรุ่งขึ้น... ต้องอำลาเกาะไปซะแล้ว ~~~~

กว่าจะนั่งเรือมาถึงฝั่ง แดดก็เผาจนผิวไหม้ Y_Y ถึงฝั่งแล้่วก็ไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำกันก่อน
เสร็จจากข้าวเที่ยง ก็มาถึง Hi-light วันนี้ อุอุอุ ... ถ้ำเลเขากอบ (เล มาจากคำว่าทะเล กอบมาจากกอบโกย.. ประมาณโกยดินโกยหินขึ้นมาเป็นเขา)

ที่นี่น่าเที่ยวมาก ... เวลาเที่ยวเราจะแบ่งนั่งเรือเข้าไปลำละ 4 คน .. ต้องให้นอนในเรือได้ เพราะจะมีอยู่ช่วงนึงที่เราต้องนอนราบไปกับเรือ แล้วลอดถ้ำเข้าไป เหอๆๆๆ

ตรงจุดที่ต้องนอนนี่คือนอนราบไปเลย เค้าให้ปิดกล้องเพราะว่าถ่ายไม่ได้อยู่ดี ... ใครที่หน้าอกตู้มนี่แอบต้องระวัง เพราะว่ามีโอกาสโดนหินบาดได้ มันใกล้ขนาดที่ว่าแลบลิ้่นออกไปนี่เลียหินได้เลยอ่ะ ...amazing มาก

พี่เค้าบอกว่า เหมือนเราเข้าทางหางมังกร แล้วลอดท้องไปตามแนวกระดุกสันหลังของมังกรแล้วไปออกไปทางปาก ใครมาลอดแล้วจะโชคดี (^^) อันนี้ก็แล้วแต่ความเชื่อเนาะ

ตอนซักบ่าย 3-4 โมงก็เข้าที่พัก (ซะที) ...เหนื่อยมาก
เสร็จแล้วแหม่มกับตุ๊จะไปอนามัยที่เคยทำงาน ...พวกเราก็ติดตามไปด้วย ถือว่าเดินเล่นในเมืองตรังไปเรื่อยๆ
พอไปอนามัยเสร็จไม่ทันไร ...ก็ได้ไปกินข้าวเย็น (ยังไม่ทันหายอิ่มเลย )
เรื่องของเรื่องคือแหม่มกับตุ๊จะเอารูปแต่งงานมาให้ที่นี่ เลยตระเวนไปแทบจะทุกร้านที่รู้จัก ...ที่มันรู้จักได้นี่ก้เพราะไปอร่อยเลยไปกินบ่อย ... เพื่อนๆเลยต้องลองชิมไปซะหมด..ดูซิว่าอร่อยจริงเปล่า...อิอิ
จบแล้ว.... ดองนานไปหน่อย ..จำอะไรแทยจะไม่ได้เลย...ขอโต๊ดดดด วันหลังจะรีบอัพ