Ninja!
Group Blog
 
 
สิงหาคม 2549
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
17 สิงหาคม 2549
 
All Blogs
 
เป็นเช่นนั้นเอง/100 ปีพุทธทาส

ท่านพุทธทาสบอกว่า หัวใจพระพุทธศาสนาคำที่สั้นที่สุด เหมือนกับพระองค์เล็กๆ ที่แขวนไว้ที่คอ คำนั้นก็คือคำว่า “ตถาตา” แปลเป็นภาษาไทยว่า “เป็นเช่นนั้นเอง” ถ้าทุกคนแขวน “เช่นนั้นเอง” ไว้ที่คอ ก็เหมือนกับว่าได้แขวนพระเครื่องอันศักดิ์สิท ธิ์ยิ่งกว่าชนิดไหนหมด คุ้มครองป้องกันได้หมด และทำให้ก้าวหน้าสูงยิ่งๆขึ้นไป

“เป็นเช่นนั้นเอง” พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ด้วย “พระไตรลักษณ์” คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา สังขารทั้งหลายเป็นอนิจจังไม่เที่ยง มีเกิดก็มีดับ สังขารทั้งปวงเป็นทุกข์ มีการเสื่อมสลายไปเรื่อยๆ เพราะทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ ไม่ยึดติดดีที่สุด

ท่านพุทธทาส จึงสอนว่า

“ถ้าพอว่า “เป็นเช่นนั้นเอง” ได้ ก็ไม่ต้องมีเรื่องรักเรื่องชัง มันจึงเฉยได้ จึงปกติได้ จึงไม่มีความทุกข์

ถ้าเป็นเช่นนั้นเองแล้ว มันก็ไม่มีอะไรที่จะต้องไปรักไปหลง ไม่มีอะไรที่จะต้องไปเกลียด จนฆ่าตัวตาย ไม่หึงไม่หวง ไม่มีอะไรทุกอย่างทุกประการ เพราะว่ามันเห็นความเป็นเช่นนั้นเอง

ขาดทุนมันก็เป็นเช่นนั้นเอง กำไรมันก็เป็นเช่นนั้นเอง เขาจึงไม่มีจิตใจที่ขึ้น ลง ฟู แฟบ ไปตามนั้น มันก็ปกติ มันก็สบาย...

จึงขอให้ทุกคนสนใจในสิ่งที่เรียกว่าเช่นนั้นเอง ซึ่งเป็นหัวใจพระพุทธศาสนา อะไรเกิดขึ้น ก็ต้องมีความรู้สึกทันควันว่า มันเป็นเช่นนั้นเอง

ถ้าได้เห็นเวทนาว่า มันอย่างนี้เองตามกฎปฏิจจสมุปบาทแล้ว มันก็ไม่มีกำลังอะไร ไม่มีความหมายอะไร ไม่มีฤทธิ์เดชอะไรที่จะทำให้เราเป็นทุกข์หรือเป็นสุข

เรื่องได้ยศหรือเสื่อมยศก็เหมือนกันอีก ถ้าเช่นนั้นเองเข้ามาแล้ว ไม่มีเรื่องได้ยศหรือเสื่อมยศ มันเป็นเรื่องหลอกๆเหมือนกันแหละ เป็นเพียงความรู้สึกเท่านั้น ได้รับการสรรเสริญก็บ้าไปอย่าง ได้รับนินทาก็บ้าไปอย่าง

ฉะนั้น ถ้าใครเช่นนั้นเองไม่ได้ก็คือคนโง่ อะไรเกิดขึ้นมันเช่นนั้นเองไม่ได้ มันก็คือคนโง่ มันต้องยินดียินร้ายตลอดเวลา แล้วแจกไปตามเรื่อง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ

มันเป็นเพียงความรู้สึกเท่านั้น เอาว่าสุขว่าทุกข์ออกไปทิ้งหมด ก็เหลือแต่ความรู้สึกเท่านั้นที่เกิดขึ้นตามกฎแห่งปัจจัย คือกฎแห่งความเป็นเช่นนั้นเอง คืออิทัปปัจจยตา

เพราะฉะนั้น อะไรเกิดขึ้น สวยหรือไม่สวย น่ารักหรือไม่น่ารัก น่ายินดีหรือไม่น่ายินดี มันก็เป็นสิ่งที่มีเหตุปัจจัยอย่างนั้นแล้วจึงเกิดขึ้น แล้วก็เป็นเช่นนั้นเอง อย่าไปเที่ยวโง่หลงรักที่มันหลอกให้รัก เอาไปโกรธไปเกลียดที่มันหลอกให้โกรธเกลียด

นี่คือหัวใจพระพุทธศาสนา ทำให้ไม่ยึดมั่นอะไร โดยความเป็นตัวตน หรือความเป็นของตน ถ้ามีความรู้เช่นนั้นเองอยู่แล้ว จิตจะว่าง คือ จิตจะไม่ไปจับฉวยเอาอะไรเป็นของตัวตน เป็นของตน”






Create Date : 17 สิงหาคม 2549
Last Update : 27 กันยายน 2549 4:30:17 น. 0 comments
Counter : 1219 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

MaThilDra
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add MaThilDra's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.