|
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
27 เมษายน 2553 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ทำไมปรับพฤติกรรมหมาไม่สำเร็จสักที อยากรู้ไหมว่าทำไมถึงทำไม่สำเร็จ ทำไม่ถึงยังไม่เป็นจ่าฝูงเสียที?
สุนัขที่มีพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ ส่วนใหญ่เกิดมาจากผู้เลี้ยง ไม่ได้เกิดจากตัวสุนัข แต่คนส่วนใหญ่มักโทษสุนัขว่า สุนัขตัวนี้ไม่รักดี นิสัยไม่ดี นิสัยผิดไปจากสายพันธุ์ แต่ลืมย้อนกลับมองดูตัวเองว่า ตัวเองเลี้ยงหมาอย่างไร หมาถึงนิสัยไม่ดี ไม่น่ารัก
บางคนบอกว่า เลี้ยงน้องหมามาทั้งชีวิต เลี้ยงน้องหมาหลายรุ่น หลายตัว นิสัยดีหมด แต่ทำไมตัวนี้ถึงนิสัยไม่ดี น้องหมาไม่รักดี กลายเป็นโทษนอ้งหมาไป น้องหมาผิด คนไม่ผิด แต่จริงๆแล้ว ลืมมองย้อนกลับไปว่า สุนัขที่ผ่านๆมาในอดีต อาจเป็นสุนัขที่มีพื้นฐานนิสัยดีอยู่แล้ว แม้เจ้าของไม่ทำอะไร เขาก็มีนิสัยดีเป็นทุนเดิม เพราะเขาไม่ได้มีภาวะการวางอำนาจเหนือ เกิดมาเพื่อเป็นผู้ตามเท่านั้น เลยทำให้เจ้าของไม่ได้ทดลองฝีมือจริงๆเสียที แต่พอมาเจอตัวที่เป็นจ่าฝูงตัวจริง วางอำนาจเหนือของจริง คราวนี้เสียหลัก ทำอะไรไม่ถูก เกิดมาไม่เคยเจอ วิธีที่ใช้กับน้องหมาตัวอื่นๆได้ผล แต่ใช้กับตัวนี้ไม่ได้ผล เลยเซ็ง เมื่อหาทางออกไม่ได้ ก็ต้องหาผู้รับผิด (ส่วนน้อยที่จะโทษตัวเอง) เมื่อหาคนโทษไม่ได้ ก็ต้องโทษน้องหมา ซึ่งแน่นอนน้องหมาผิด น้องหมาไม่รักดี
-----------------------------------------
สุนัขเหมือนกระจกส่องตัวผู้เลี้ยง ผู้เลี้ยงมีภาวะอารมณ์แบบไหน น้องหมาก็จะมีภาวะอารมณ์แบบนั้นสะท้อนออกมาผ่านการกระทำของเขา ณ ขณะนั้น
"........ดูนางให้ดูแม่..................ดูหมาให้ดูนาย.........."
ถ้าเราเป็นคนไม่เชื่อมั่นในตัวเอง น้องหมาก็จะขี้กลัว ขี้ระแวง กลัวๆกล้าๆ
ถ้าคนอารมณ์ขึ้นๆลงๆ น้องหมาก็ลักปิดลักเปิด เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย
คนตื่นเต้นใจร้อน น้องหมาก็ตื่นเต้น ใจร้อน
คนอ้วน น้องหมาอ้วน เพราะชวนกันกิน ชวนกันนอนอุดอู้ ไม่ออกำลังกาย
คนก้าวร้าว น้องหมาก้าวร้าว และขี้หงุดหงิด ขัดใจไม่ได้
เราเป็นคนไม่ชอบอยู่ในกฎระเบียบ น้องหมาก็ไร้กฎระเบียบเช่นกัน
เราเป็นคนไม่สม่ำเสมอ ยอมแพ้ง่าย ใจไม่สู้ น้องหมาก็จะมีนิสัยลักปิดลักเปิด นิสัยไม่คงที่ ดื้อบ้างบางเวลา เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย
เมื่อไหร่น้องหมาคุมไม่อยู่ ดื้อ เราต้องย้อนมองดูตัวเองว่า ณ เวลานั้นๆเรามีภาวะอารมณ์อย่างไร ภายนอกคุณอาจดูสุขุม แต่ในใจคุณไม่นิ่ง น้องหมาก็ไม่นิ่งเช่นกัน คุณอาจหลอกคนอื่นได้ หลอกตัวเองได้ แต่หลอกน้องหมาไม่ได้ น้องหมาคือเครื่องจับเท็จสี่ขา ที่ไม่มีอุปกรณ์ใดๆในโลกจะทดแทนเสมอเหมือน น้องหมาเขารู้ว่าแก่นแท้ของคุณเป็นอย่างไร คุณปิดน้องหมาไม่ได้
ถ้าเราอยากให้สุนัขเปลี่ยนพฤติกรรมที่เราไม่พึงประสงค์ เราต้องเปลี่ยนตัวเราก่อน ถ้าเรายังไม่เปลี่ยนความคิด หรือ วิธีการปฎิบัติต่อน้องหมา น้องหมาก็ไม่เปลี่ยน เมื่อไหร่เราเปลี่ยนปุ๊ป น้องหมาจะเปลี่ยนทันที
เมื่อไหร่ที่เรารับมือหมาไม่ไหว หมาดื้อ น้องหมากัดตอบ หมาตาแข็งใส่ น้องหมาไม่เคารพ น้องหมาเห่าเถียง น้องหมาตื่นเต้น น้องหมากลัว น้องหมาก้าวร้าว เมื่อนั้นเราต้องกลับมาดูตัวเองทันที ว่าภาวะอารมณ์เราตอนนั้นเป็นอย่างไร อารมณ์อะไรก็ตามแต่ที่นอกเหนือจากอารมณ์สงบ นิ่ง สุขุม มั่นคง จริงจัง อารมณ์อื่นๆถือว่าไม่ใช่ภาวะอารมณ์ของจ่าฝูง เมื่อไม่ใช่จ่าฝูง หมาก็ไม่เคารพ ไม่เชื่อฟัง เมื่อนั้นเขาก็เห่าเถียง กัดตอบ
ถ้าคุณแก้ปัญหาสุนัขได้ไม่สำเร็จ ทำไมอีกคนทำได้ เราทำไม่ได้ เราต้องย้อนกลับพิจารณาภาวะอารมณ์พื้นฐานของเราด้วยว่า เรานิ่งหรือยัง เรามีความโมโหเวลาปรับพฤติกรรมหรือเปล่า เรากลัวหรือเปล่า เรายอมแพ้ เราเสียใจ เราถอดใจหรือเปล่า หรือ เราเตือนทันทุกครั้งไหม เราสม่ำเสมอในการเตือนไหม ทำถูกหรือยัง และ ทุกคนในบ้านร่วมด้วยช่วยกันหรือเปล่า ถ้าเราเืตือนแต่อีกคนคอยแย้ง เราห้ามแต่อีกคนไม่ห้าม น้องหมาก็ไม่หายเช่นกัน
เวลาน้องหมาดื้อ ไม่ใช่ปัญหาที่ตัวน้องหมา เป็นปัญหาที่ตัวเรา เราคุมเขาไม่ได้ ถ้าเรายังไม่เปลี่ยนภาวะอารมณ์และจิตใจตัวเอง เมืิ่อเรายังเปลี่ยนไม่ได้ แล้วน้องหมาจะเปลี่ยนเหรอ
คนเรามักกลัวน้องหมา เพราะกลัวถูกกัด รู้ไหม สิ่งที่ทำให้น้องหมากัด ไม่ใช่อยู่ที่ตัวน้องหมา อยู่ที่ตัวเรานั้นเอง เราทำให้ตัวเราเองถูกกัด เรากลัว ภาวะอารมณ์กลัว คือภาวะอารมณ์ของเหยื่อ เหมือนน้องหมาเห็นเหยื่อที่อ่อนแอ ขี้กลัว ไม่มั่นใจ น้องหมาก็ต้องเข้าสู่โหมดล่าเหยื่อทันที แถมเราเข้าไปแบบไม่ถูกจังหวะอีก ก็ทำให้ถูกสุนัขกัดได้เพราะเรากลายเป็นเหยื่อเสียเอง เมื่อนั้นอย่ากลัวหมา เข้าให้ถูกจังหวะ รู้ว่าตอนไหนควรเ้ข้าไม่เข้า ถ้าเราอยู่ในภาวะอารมณ์ที่ถูกที่ควร น้องหมาจะไม่กัด
ความกลัว ความโมโหก้าวร้าว เป็นปัจจัยต้นๆที่ทำให้คนถูกสุนัขกัด
ความกลัว ทำให้เราอ่่อนแอ เป็นภาวะอารมณ์ของเหยื่อ ความอ่อนแอรวมถึง ความอาย รู้สึกผิด โศกเศร้าเสียใจ ความกังวล ความตื่นเต้น ความไม่มั่นใจ กล้าๆกลัวๆ นั้นทำให้เราอ่อนแอ เราจะตกเป็นเหยื่อ น้องหมาเป็นผู้ล่าโดยสัญชาตญาณ ผู้ล่าก็มักจะล่าผู้อ่อนแอกว่า เมื่อนั้นเราถึงถูกกัด
ความโมโห ซึ่งรวมถึงความก้าวร้าว ความแค้น หงุดหงิด (ซึ่งถือว่าเป็นภาวะอารมณ์ที่อ่อนแอ เนื่องจากเราจะขาดสติเมื่อเลือดเข้าตา ) และ ยังเป็นสิ่งที่เรากำลังท้าทายน้องหมาว่า เราต้องการสู้กับเขา เมื่อเราส่งข้อความไปว่าเราจะสู้ (สู้แบบจิตใจอ่อนแอ) เขาก็จะสู้กลับ เมื่อนั้นเราก็จะถูกกัดโดยไม่รู้ตัว
ภาวะอารมณ์ที่ไม่ถูกกัดก็คือ อารมณ์เฉยๆ กลางๆ อยู่กับปัจจุบัน ไม่กังวลกับอนาคตที่ยังไม่เกิด ไม่ติดภาพเลวร้ายเก่าๆ จริงจัง แน่วแน่กับสิ่งที่เราต้องการ สงบ นั้นคืออารมณ์ของจ่าฝูง และ น้องหมาจะเคารพ เขาก็จะไม่กัด เพราะเราไม่ใช่เหยื่อ และ เราก็ไม่ได้ท้าทายเพื่อจะต่อสู้กับเขา
เวลาจะปรับพฤติกรรมสุนัขหรือเวลาเราเลี้ยงสุนัข เราต้องสร้างภาพในหัวมีแต่สิ่งดีๆ เช่น น้องหมานิสัยดี น้องหมาเรียบร้อย น้องหมาไม่กัด น้องหมานั่งนิ่งๆ น้องหมาไม่เห่า เมื่อมีภาพดีๆในหัวแล้ว จิตใจเราก็จะดีตาม ไม่เกร็ง ไม่ประหม่า ไม่กลัว และมันจะออกมาผ่านท่าทางของเรา ท่าทางเราก็จะสงบ ไม่ลุกลี้ลุกลน ไม่ยึกๆยัก เมื่อเราสงบทั้งกายและใจ น้องหมาก็จะสงบ น้องหมาก็จะดีตาม
แต่ถ้าเราสร้างภาพในหัวว่า น้องหมาต้องดุแน่เลย น้องหมาต้องกัดแน่ๆ น้องหมาของเราต้องพุ่งใส่น้องหมาตัวที่เดินผ่านมาอย่างแน่นอน หรือ คิดแต่เรื่องเลวร้ายที่เราได้เจอเมื่ออดีต และคิดคาดหวังในอนาคตว่า เรื่องร้ายๆก็จะเกิดขึ้นอีกในไม่ช้า เมื่อเราคิดแต่เรื่องแย่ๆในหัว ใจเราก็จะแย่ไปตัว เราก็จะกลัว ไม่กล้า เกร็งๆ ทำอะไรก็ไม่มั่นใจ มันจะออกมาทางร่างกายการกระทำด้วย เมื่อกายและใจพร้อมที่จะเป็นเหยื่อที่อ่อนแอ น้องหมาซึ่งเป็นผู้ล่า ก็จะทำตามสัญชาตญาณของตน ก็คือ กัดเหยื่อ หรือถ้าเราสร้างภาพว่าน้องหมาของเราต้องดุ เขาก็จะดุตามที่เราคิด ถ้าสร้างภาพว่าน้องหมาต้องก้าวร้าวใส่หมาตัวอื่นแน่ๆ น้องหมาก็จะก้าวร้าวใส่หมาตัวอื่นจริงๆ ตามที่เราคิด
เวลาสุนัขมีพฤติกรรมไม่ดี ต้องโทษที่ตัวเอง โทษที่ผู้เลี้ยง ห้ามโทษน้องหมา
เป็นจ่่าูฝูงที่สุขุมมั่นคง ต้องเป็นทั้งกายและใจ บางคนเข้าใจผิด คิดว่าแค่เก็กหน้านิ่ง ทำหน้าบึ้ง ทำท่าขึงขังจริงจัง เสียงดังกังวาล ทำท่าทางให้ดูน่าเคารพ เพราะคิดว่า ท่าทางแบบนี้่ดูสุขุม จริงจัง ดูเป็นจ่าฝูง แต่จริงๆแล้ว ในใจมีแต่ความหวาดกลัว แทบจะพลิกแผ่นดินหนีหมา ไม่มั่นใจ ลังเล อาย เมื่อกายและใจไม่ไปในทางเดียวกันแล้ว น้องหมาเขาฉลาดนะคะ คุณอาจหลอกคนได้ แต่หลอกหมาไม่ได้ น้องหมาก็คือ เครื่องจับเท็จสี่ขา ที่เขารู้ว่าเบื้องลึกแก่นแท้ของคุณเป็นอย่างไร ถ้าไม่แน่จริง ไม่นิ่งจริง น้องหมาก็ไม่เคารพ ไม่เห็นคุณเป็นจ่าฝูงอยู่ดี
การตักเตือนสุนัข ไม่ว่าจะเป็นการฉก การกดคอ การดุด้วยเสียง การกระตุกสายจูง แม้วิธี จังหวะ ท่าทางคุณจะดีแค่ไหน แม่นแค่ไหน แต่ภาวะอารมณ์คุณไม่นิ่งจริง น้องหมาก็ไม่หาย
ถ้าใจคุณนิ่งจริง เป็นจ่าฝูงจริงทั้งกายและใจ แค่เรามองน้องหมา น้องหมาก็นิ่งแล้ว แทบไม่ต้องเดินไปฉก หรือ สัมผัสหมาเลย น้องหมาเขารับรู้ได้ทันที หลอกหมาไม่ได้
------------------------
บางท่านอาจมีคำถามว่า ทำไมคนสมัยก่อนถึงเลี้ยงน้องหมาได้ไม่มีปัญหาพฤติกรรม น้องหมาทำตัวดี ไม่ก้าวร้าว แถมทำงาน เฝ้าบ้านได้ด้วย กินอยู่ก็ไม่ดีเหมือนปัจจุบัน ปล่อยเดินไปมาอิสระ นอนกลางดินกินกลางทราย ก็ยังนิสัยดีอยู่ ไม่เหมือนน้องหมาปัจจุบัน ดูแลปูเสื่ออย่างดี แต่ทำไมถึงนิสัยเสียได้?
เนื่องจากคนสมัยก่อน หรือ ชาวบ้านที่เลี้ยงน้องหมาจรข้างถนน(ในปัจจุบัน) ส่วนใหญ่น้องหมาพวกนี้ไม่มีปัญหาพฤติกรรม ก็เพราะน้องหมาพวกนี้เขาสมดุล เขาอิสระ ไม่ได้อยู่หลังกำแพงเหมือนกับสุนัขเลี้ยงในปัจจุบัน
นกต้องบิน ปลาต้องว่ายน้ำ หมาก็ต้องเดิน เดินไปทั่ว เดินหาอาหาร น้องหมาจร น้องหมาสมัยก่อน ไม่ต้องถูกกักขัง ไม่อยู่่หลัีงกำแพง เดินไปไหนต่อไหนได้อิสระ เขาได้ระบายพลังงานไปโดยธรรมชาติ และ ส่วนใหญ่จะอยู่กันเป็นฝูง ไม่มีคนมายุ่งวุ่นวายสักเท่าไหร่ ก็เลยไม่มีปัจจัยอื่นมาทำให้ฝูงเสียสมดุล
และ สุนัขสมัยก่อนทำงานให้คน เมื่อน้องหมาทำงานเสร็จ คนถึงให้เศษอาหารกิน นั้นถือเป็นการเติมเต็มสุนัขให้สมดุล ก็คือ work for food น้องหมาทำงานเพื่อแลกอาหาร ได้เดินไปทั่ว ได้ทำงาน ตกดึกเหนื่อยก็หลับพักผ่อน ชีวิตมีเท่านี้ และคนสมัยนั้นก็ไม่ได้ไปสนิทชิดเชื้อกับน้องหมาเท่าไหร่ ไม่อุ้มน้องหมา ไม่หอมน้องหมา ไม่เล่นกับน้องหมา ไม่จัดงานวันเกิดให้น้องหมา จะมีสัมพันธ์กับน้องหมาก็ต่อเมื่อ คนมาสั่งให้น้องหมาทำงาน และ เอาอาหารให้กิน เมื่อเจอน้องหมาน้อย และไม่เปิดโอกาสให้น้องหมามาข่ม น้องหมาก็เลยไม่ได้ข่ม เพราะมัวแต่ทำงานให้คน และ ทำงานเสร็จก็ได้ของกิน น้องหมาก็เลยนิสัยดี ไม่ค่อยหือกับคนสักเท่าไหร่ และ คนสมัยนั้นก็ไม่มัวมาคิดเอาใจน้องหมา พยายามทำให้น้องหมาประทับใจ หรือ มาคำนึงว่าน้องหมาจะคิดอะไร น้องหมาน้อยใจไหม น้องหมาอิจฉากันหรือไม่ น้องหมากำลังประชดหรือเปล่า เพราะคนสมัยนั้นมองหมาเป็นหมา ไม่ได้มองหมาเป็นคนหรือเป็นลูกเหมือนในปัจจุบัน หมาเลยไม่เสียหมา เหมือนในสมัยนี้
------------
กิจกรรมหลักที่น้องหมาต้องทำก็คือ ได้เดินนอกบ้านทุกวัน ทุกเช้า (อาจเพิ่มช่วงเย็นด้วย) อาหารและความรักไม่ใช่สิ่งที่ได้มาฟรีๆ น้องหมาต้องทำงานแรก นี่คือการเติมเต็มสุนัข
แต่คนในปัจจุบัน ลืมจุดสำคัญนี้ไป พาเดินนอกบ้านก็ไม่พาเดิน (ข้ออ้างที่ใช้จนเคยชินคือ ไม่มีเวลา) เพราะคิดว่าแค่มีเนื้อที่(ในรั้วบ้าน)ให้วิ่งก็เพียงพอแล้วสำหรับสุนัข แต่จริงๆแล้วไม่พอ แม้คุณจะมีพื้นที่บ้านเป็นไร่ สำหรับสุนัขแล้ว มันก็คือคอกที่ีใหญ่นั้นเอง เพราะยังไงเขาก็ถูกขังอยู่หลังกำแพงอยู่ดี ไม่ต่างอะไรกับการถูกขังกรงตลอด 24 ชั่วโมง บางคนคิดว่า ตัวเองไม่เคยขังสุนัขเลย สุนัขไม่เครียด เพราะไม่ถูกขัง แต่จริงๆแล้ว การที่ไม่พาเขาไปเดินนอกบ้าน ก็เหมือนการขังเขาโดยคุณไม่รู้ตัว และ น้องหมาก็เครียดด้วย แถมอาหารและความรักก็ได้ทันที น้องหมาไม่ต้องทำอะไรให้เหนื่อย
ถ้าเลี้ยงหมาแบบหมาเป็นคนหรือเป็นลูก เสียหมาทุกตัว
..... โปรดรักสุนัขแบบที่สุนัขเป็น
.............. โปรดอย่าให้รักบังตา
............. จนมองเห็นเป็นเด็กที่ใส่ชุดสุนัข Yoja&Jiji&Yuji
อ่านบทความเพิ่มเติม
Dog Behavior; พฤติกรรม จ่าฝูง-ลูกฝูง ของสุนัขตามธรรมชาติ
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=yojajiji&month=06-01-2010&group=7&gblog=19
Create Date : 27 เมษายน 2553 |
|
53 comments |
Last Update : 7 กันยายน 2553 11:38:37 น. |
Counter : 27241 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: กวาง IP: 58.8.52.178 4 ธันวาคม 2553 23:26:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: ฟ่าง IP: 182.53.134.115 28 กุมภาพันธ์ 2554 20:24:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: ท็อป IP: 223.205.239.96 9 มีนาคม 2554 21:29:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: ท็อป IP: 223.204.10.245 10 มีนาคม 2554 18:25:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: เค IP: 61.90.92.77 25 เมษายน 2554 13:26:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: เค IP: 61.90.92.77 25 เมษายน 2554 14:31:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: นู๋หน่อย IP: 58.11.63.245 23 กรกฎาคม 2554 10:59:41 น. |
|
|
|
| |
โดย: talay ning IP: 125.24.230.6 6 ธันวาคม 2554 18:17:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: โฮ่ง IP: 202.183.133.100 15 กุมภาพันธ์ 2555 13:28:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: Yoja&Jiji 15 กุมภาพันธ์ 2555 16:02:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: หมวย IP: 101.108.13.79 8 มีนาคม 2555 11:16:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: หมวย IP: 101.108.17.37 9 มีนาคม 2555 16:45:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: พี่เหมียว ฟรีดอมบุ๊ค IP: 223.206.2.32 27 มีนาคม 2555 9:39:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: เน้ท IP: 113.53.187.1 1 เมษายน 2555 11:03:05 น. |
|
|
|
| |
โดย: Togg IP: 124.122.200.11 6 พฤษภาคม 2555 18:51:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: Togg IP: 61.90.164.27 8 พฤษภาคม 2555 19:04:23 น. |
|
|
|
| |
โดย: Togg IP: 124.121.59.196 18 พฤษภาคม 2555 19:50:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: Juno IP: 58.64.73.32 12 พฤศจิกายน 2555 14:27:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: บอส IP: 113.53.52.244 29 มกราคม 2556 20:39:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: หญิง IP: 27.55.237.178 24 มกราคม 2557 22:42:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: มีมี่ IP: 223.207.45.75 6 เมษายน 2557 11:19:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: เมเปิ้ล IP: 171.97.25.236 13 พฤษภาคม 2557 20:45:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: kimsmallfish IP: 122.154.124.2 8 กุมภาพันธ์ 2558 22:14:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: kimsmallfish IP: 122.154.124.2 9 กุมภาพันธ์ 2558 19:13:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: polar IP: 171.96.146.194 13 กุมภาพันธ์ 2558 13:35:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: Yoja&Jiji 13 กุมภาพันธ์ 2558 16:01:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: โชค IP: 171.6.245.238 18 กุมภาพันธ์ 2558 12:27:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: Yoja&Jiji 18 กุมภาพันธ์ 2558 14:24:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: โชค IP: 171.6.245.89 20 กุมภาพันธ์ 2558 17:28:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: Yoja&Jiji 21 กุมภาพันธ์ 2558 19:42:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: โชค IP: 171.6.244.120 22 กุมภาพันธ์ 2558 14:06:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: Yoja&Jiji 22 กุมภาพันธ์ 2558 20:37:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: โชค IP: 171.6.244.153 23 กุมภาพันธ์ 2558 8:57:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: Yoja&Jiji 23 กุมภาพันธ์ 2558 13:42:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: พัฒนพงศ์ IP: 171.4.241.35 22 สิงหาคม 2558 22:33:23 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณบี IP: 157.7.52.183 21 พฤศจิกายน 2560 8:05:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: W4ter IP: 101.109.52.137 15 มกราคม 2563 22:59:53 น. |
|
|
|
| |
|
|
|
|
|
|
|
|