Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
23 พฤศจิกายน 2550
 
All Blogs
 
การดูแลรักษาโรคไต ด้วย โยคะ

โรคไตเป็นโรคที่ไม่มีใครอยากเป็น เพราะค่ารักษาแพงมาก เพราะไม่ใช่รักษากันเพียงครั้งเดียว หากอาการรุนแรงถึงขั้นต้องฟอกไต ก็ต้องเตรียมใจทั้งคนที่ดูแล และ คนไข้ ที่ต้องทรมารจากการเจ็บป่วย ค่าใช้จ่าย ก็ไม่ใช่น้อย หากโชคดี มีคนบริจาคไต และไตสามารถทำงานร่วมกับร่างกายเราได้ ก็โชคดี หากไม่ได้ ก็ต้อง ดูแลกันต่อไป ตัวอย่างที่เห็นใกล้ตัวมีคุณแม่ของเพื่อน เป็นคนแข็งแรง อายุ ประมาณ 65 ปี หลังจากพบว่าป่วยเป็นโรคไต ร่างกายก็อ่อนแอลงทันที โรคแทรกซ้อนอื่นๆประดังกันเข้ามาเป็นระยะ ร่างกายจากที่เคยอ้วนท้วม ดูสดใส ก็เปลี่ยนเป็นซูบผอมลงอย่างเห็นได้ชัด ผอมเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก ไม่สามารถเดินเหินเองได้ และต้องไปฟอกไตทุกสัปดาห์ ลูกๆก็ต้องผลัดกันพาแม่ไปโรงพยาบาล ล้างไตครั้งนึงไม่ต่ำกว่า 3,000 บาท คุณแม่ท่านทรมานมาก ในที่สุดท่านก็เสียชีวิตลงหลังจากป่วยเป็นโรคไตอยู่ 2 ปี เมื่อเห็นแล้ว ก็อยากให้คนที่กำลังป่วยหรือ หากมีแววว่าอาจจะป่วยได้มีโอกาสดูแลรักษาตัว นอกจากต้องพึ่งทางการแพทย์แผนสมัยใหม่แล้ว จะได้ใช้โยคะมาช่วยในการบำบัดอีกด้วยค่ะ

อาสนะโยคะเพื่อช่วยกระตุ้นให้ไตทำงานดีขึ้น
ท่าอาสนะข้างล่างนี้นอกจากจะช่วยกระตุ้นไต ยังช่วยในเรื่องของคนที่มีปัญหาปัสสาวะกระปิดกระปอย, คนที่กลั้นปัสสาวะไม่อยู่, คนที่มีปัญหาประจำเดือนมาไม่ปกติ, และคนที่เป็นโรค ED

อรรถมัสเยนทรา


ปัจจิโมตาสนะ

<

พัทถะโกนาสนะ
<

พักศพ


ท่าอาสนะเหล่านี้ให้ทำสลับไปมา แต่ละท่าค้างท่าให้นาน 2-3 นาทีต่ออาสนะ
นอกจากนี้ยังสามารถใช้การเล่นปราณควบคู่กับการเล่นอาสนะ โดยเฉพาะการเล่น ท่าพัทธะโกนาสนะ พร้อมกับปราณ เป็นปราณที่กระตุ้นการทำงานของช่องท้อง (สำหรับคนที่สนใจของปราณอาจจะต้องเขียนมาคุยกันอีกทีค่ะ)

หน้าที่ของไต
ไตมีหน้าที่หลัก 3 ประการ คือ
1. ขับถ่ายของเสียอันเกิดจากการเผาผลาญอาหารประเภทโปรตีน (มีมากในเนื้อสัตว์ และอาหารจำพวกถั่ว) ซึ่งของเสียประเภทนี้ ได้แก่ ยูเรีย ครีเอตินีน กรดยูริค และสารประกอบไนโตรเจนอื่น ๆ
2. ควบคุมปริมาณน้ำ และเกลือแร่ น้ำและแร่ส่วนที่เกินควรจำเป็นจะถูกขับออกมาทางปัสสาวะ เกลือแร่ดังกล่าว เช่น โซเดียม โปตัสเซียม แคลเซียมฟอสฟอรัส เป็นต้น
3. ผลิตและควบคุมการทำงานของฮอร์โมน เช่น ฮอร์โมนที่ควบคุมปริมาณของแคลเซียม ฮอร์โมนที่กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดง

อาการของโรคไต
เหนื่อยเหนื่อยง่าย หน้ามืด เป็นลมบ่อย ๆ, อ่อนเพลีย,ปวดเมื่อยหลัง, ผิวมีสีเหลืองซีด, การมีก้อนบริเวณไต หรือบริเวณบั้นเอวทั้ง 2 ข้าง, การปวดหลัง ในกรณีที่เป็นกรวยไตอักเสบ จะมีอาการไข้หนาวสั่น และปวดหลังบริเวณไตคือบริเวณสันหลังใต้ซี่โครงซีกสุดท้าย, การปวดท้องอย่างรุนแรง ร่วมกับการมีปัสสาวะเป็นเลือด ปัสสาวะขุ่น หรือมีกรวดทราย แสดงว่าเป็นนิ่วในไต และทางเดินปัสสาวะ

การผิดปกติของการถ่ายปัสสาวะ เช่นการถ่ายปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะแสบ ปัสสาวะราด เบ่งปัสสาวะ และท่อทางเดินปัสสาวะปัสสาวะกระปิดกระปอย, ปัสสาวะเป็นเลือด ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นโรคไต แต่ก็อาจจะไม่ใช่ก็ได้ โดยจะปัสสาวะเป็นเลือด อาจเป็นเลือดสด ๆ เลือดเป็นลิ่ม ๆ

อาการบวม โดยเฉพาะการบวมที่บริเวณหนังตาในตอนเช้า หรือหน้าบวม ซึ่งถ้าเป็นมากจะมีอาการบวมทั่วตัว

ความดันโลหิตสูง เนื่องจากไตสร้างสารควบคุมความดันโลหิต ประกอบกับไต มีหน้าที่รักษาสมดุลของน้ำและเกลือแร่ในร่างกาย เพราะฉะนั้นความดันโลหิต สูงอาจเป็นจากโรคไตโดยตรง หรือในระยะไตวายมาก ๆ ความดันโลหิตก็จะสูง ได้

อย่างไรก็ตามควรต้องไปพบแพทย์ ตรวจร่างกาย และตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น ตรวจปัสสาวะ ตรวจเลือด เอ็กซ์เรย์ จึงจะพอบอกได้แน่นอนขึ้นว่าเป็นโรคไตหรือไม่


วีธีดูแลตนเอง- ดื่มน้ำให้พอ
- กินอาหารโปรตีนต่ำ หรืออาหารโปรตีนต่ำมากร่วมกับกรดอะมิโนจำเป็น โดยกินอาหารที่มีโปรตีนคุณภาพสูง ซึ่งหมายถึงโปรตีนที่ได้จากเนื้อสัตว์ทุกชนิดจำนวน 0.6 กรัม ของโปรตีน / น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม / วัน
- กินอาหารที่มีโคเลสเตอรอลต่ำ โดยผู้ป่วยที่เป็นโรคไตวายเรื้อรังควรควบคุมปริมาณโคเลสเตอรอลในอาหารแต่ละวันไม่ให้เกิน 300 มิลลิกรัม / วัน ด้วยการจำกัดอาหารที่มีโคเลสเตอรอลมาก เช่น ไข่แดง เครื่องในสัตว์ทุกชนิด และนม เป็นต้น
- ผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังที่ไม่มีอาการบวม สามารถทานเกลือในปริมาณไม่มากนัก แต่ไม่ควรกินเกลือเพื่อการปรุงรสเพิ่ม ผู้ป่วยที่มีอาการบวมร่วมด้วย ควรจำกัดปริมาณเกลือที่กินต่อวันให้น้อยกว่า 3 กรัมของน้ำหนักเกลือแกง (เกลือโซเดียมคลอไรด์) ต่อวัน ซึ่งทำได้โดยกินอาหารที่มีรสชาติจืด หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสเค็ม เช่น เนื้อเค็ม ปลาแห้ง กุ้งแห้ง รวมถึงหมูแฮม หมูเบคอน ไส้กรอก ปลาริวกิว หมูสวรรค์ หมูหยอง หมูแผ่น ปลาส้ม ปลาเจ่า เต้าเจี้ยว งดอาหารบรรจุกระป๋อง เช่น ปลากระป๋อง เนื้อกระป๋อง
- อย่ากลั้นปัสสาวะ เพราะอาจจะทำให้เกิดความดันในกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งเป็นสาเหตุของการติดเชื้อ
- ทานผลไม้ที่มีน้ำมากๆ หลีกเลี่ยงผลไม้แห้งเพราะ ผลไม้กลุ่มนี้จะดูดซึมน้ำออกจากร่างกายเพื่อร่างกายสามารถย่อยได้ หากจะทานผลไม้แห้งควรจะดื่มน้ำตามให้มากๆ
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อไต เช่น เส้นใยบัวนำมาต้มและดื่มทุกวันจะช่วยบำรุงไตและหัวใจ
- ควรเน้นการออกกำลังกายที่ช่วยกระตุ้นระบบการย่อยอาหาร(ระบบโซลาเพลกซัส) เพื่อช่วยในการบริหารไต และเวลาที่ออกกำลังกายไม่ควรดื่มน้ำระหว่างที่ออกกำลังกาย เพราะจะทำให้ไตทำงานหนักขึ้น ควรจะให้ร่างกายขับเหงื่อออกมาให้มากที่สุด ก่อน หลังจากนั้นถึงจะดื่มน้ำหลังการออกกำลังกายได้
- หากระดับน้ำตาลสูงขึ้นให้รีบลด เพราะนั่นหมายถึงไตขาดเลือดเนื่องจากเกิดการอุดตัน






Create Date : 23 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 14 มกราคม 2551 8:52:37 น. 4 comments
Counter : 1728 Pageviews.

 


แวะมาทักทายบ่ายๆวันเสาร์
อากาศเย็น รักษาสุขภาพนะคะ


โดย: แอน (a_mulika ) วันที่: 1 ธันวาคม 2550 เวลา:13:54:10 น.  

 


จ๊ะเอ๋ หวัดดีจ้า...แวะมาทักอีกแล้ว...แต่คราวนี้แวะมาบอกเล่าเก้าสิบบางเรื่องด้วยคะ
ก็บังเอิญได้แวะไปเยี่ยม blog ของ คุณครูปอ สาวสดใส ผู้อุทิศตัวและใจ ให้กับเด็กๆๆ วัดพระบาทน้ำพุ
ได้อ่านเรื่องราวต่างๆแล้ว ที่คุณครูเขียนแล้ว ชอบมากเลย ไม่รู้ว่า เคยไปอ่านกันหรือยัง
เลยเอามาฝาก หากสนใจ เข้าไปอ่านนะคะ
คลิกที่นี่

และหากสนใจมีจิตศรัทธาจะบริจาคเงินสิ่งของหรือแรงกาย ก็เชิญติดต่อที่ที่อยู่ เบอร์โทร
ที่คุณปอ แจ้งไว้บนหัว blog ได้เลยนะ

ไปทำงานต่อหละจ้า..


โดย: a_mulika วันที่: 13 ธันวาคม 2550 เวลา:16:45:26 น.  

 

แวะมาทักทาย ยามเย็น ของหน้าหนาว ที่แสนอบอ้าวจ้า


ถ้ายังไม่ได้ไปเลือกตั้งล่วงหน้ามาแล้ว และอยู่ในประเทศ


อย่าลืมไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งพรุ่งนี้นะคะ





โดย: a_mulika วันที่: 22 ธันวาคม 2550 เวลา:17:40:51 น.  

 



ของฝากจาก เขาค้อ คะ...
แล้วแวะไปนั่งดูพระอาทิตย์ตกยามเย็นที่เขาค้อ
คลิกที่นี่ นะคะ


โดย: a_mulika วันที่: 13 มกราคม 2551 เวลา:15:49:10 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สายฝนตก
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




เป็นคน active มากทำงานทางด้านการเงิน กับสถาบันการเงินของต่างประเทศ มาเป็นเวลา 10 ปี และชอบเล่นกีฬากลางแจ้งมาตลอด จนทำให้เกิดอาการบาดเจ็บที่หลังเรื้อรังมาหลายปี จนทำให้ ต้องกลับมาดูแลตัวเอง ด้วยการฝึกโยคะ โยคะ ที่ฝึกเน้นการหายใจ (ปราณายามะ)ควบคู่ไปกับ อาสนะ ทำให้รู้ว่าถูกกับจริต ตนเอง

โยคะนอกจากจะช่วยปัญหาหลัง ทำให้ไม่ต้องไปโรงพยาบาลทุกปี แล้ว ยังพบว่า สุขภาพในด้านอื่น ดีขึ้น ที่สำคํญ ผลต่อจิตใจ ทำให้พัฒนาทางสมาธิ และจิตใจได้ดีขึ้น

ปัจจุบันเป็นครูสอนโยคะสอนแนวหฐราชาโยคะ สายวรรณปรัก (สายนักบวช) เน้นการสอนการหายใจที่ถูกต้อง แต่อยากมีโอกาสได้แบ่งปันประสบการ์ณและความรู้ที่มีประโยชน์ต่อคนอื่นค่ะ

ต้องกราบขอบพระคุณครูและอาจารย์ ทุกๆท่านที่ได้อบรมวิชาต่างๆ
อาจาร์ยสี สัตยานันทมุนี สิริมหาราชา อติเทวะ นาคเมธากุรที่ได้ถ่ายทอดวิชาความรู้โยคะ ปัจจุบันอาจาร์ยยังถ่ายทอดความรู้ให้อยู่ค่ะ

มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับ เด็กเยอะเลยค่ะ จะพยายาม post ขึ้น ช่วงนี้สอนโยคะ สติ และ สมาธิให้กับเด็ก ช่วงอายุตั้งแต่ 4 ขวบ - 10 ขวบค่ะ

จำนวนผู้ชมออนไลน์ :
จำนวนผู้ชมวันนี้ :
ส่งจดหมายมาคุยกันค่ะ

ถ้าใครสนใจนะค่ะ ช่วงนี้สอน โยคะเพื่อคนท้อง เป็นวิทยาทานค่ะ ส่วนโยคะพื้นฐาน จะเรียนตั้งแต่การหายใจเบื้องต้น จากนั้นเรียนปราณ และ อาสนะ เรียนแบบต่อเนื่อง เพื่อให้เข้าใจประโยชน์ของแต่ละท่า เรียน 10 ครั้ง

Friends' blogs
[Add สายฝนตก's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.