---------------yas-----------------
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
17 พฤศจิกายน 2549
 
All Blogs
 
ป้องกันอย่างไร?? ไม่ให้ถูกครอบครองปรปักษ์


การครอบครองปรปักษ์ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดในวงกว้างอีกครั้ง เมื่อพระราชธรรมนิเทศ (พระพยอม กัลยาโน) เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ปมปัญหาความไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับการซื้อที่ดิน1 ไร่ เศษ มูลค่า 10 ล้านบาท บริเวณวัดว่า มีการออกเอกสารสิทธิทับซ้อนโดยมิชอบ ในขณะที่กรมที่ดินได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและสรุปว่า เป็นลักษณะการครอบครองปรปักษ์!!


ดังนั้น "ฐานเศรษฐกิจ"จึงได้หยิบยกกรณีที่ดินพระพยอมมาเป็นอุทาหรณ์ และทำอย่างไรจึงจะปกป้องไม่ให้ที่ดินของตนเองที่มีอยู่ตกไปอยู่ในมือของผู้อื่นได้ เพราะเรื่องการครอบครองปรปักษ์มีเกิดขึ้นในสังคมบ้านเราจำนวนมากแต่ไม่ค่อยมีใครหยิบยกขึ้นมาพูดมากนัก


คำว่า "ครอบครองปรปักษ์" คือการครอบครองทรัพย์ของผู้อื่นโดยสงบและเปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์(ป.พ.พ. มาตรา 1382 )คือถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลา10 ปีผู้ครอบครองนั้นย่อมได้กรรสิทธิ์ในทรัพย์นั้น อสังหาริมทรัพย์ที่จะนำมาจดทะเบียนประเภทนี้กับสำนักงานที่ดิน มิได้เฉพาะที่ดินที่มีโฉนดที่ดินเท่านั้น หากเป็นหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ,น.ส.3ก, น.ส.3ข)หากมีการแย่งการครอบครองเกิน1ปี


ขอยกตัวอย่างสัก 1-2 ราย เพื่อใช้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้นก็คือ คำพิพากษาฎีกาที่ 486/2542 พฤติการณ์ที่จำเลยเข้าไปล้อมรั้วลวดหนามในที่ดินพิพาท เพราะจำเลยซื้อที่ดินซึ่งอยู่ติดกัน และเป็นที่ดินแปลงใหญ่มาเพื่อขยายโรงงาน และที่ดินดังกล่าวมีบุคคลอื่นเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมอีก 12 คน จำเลยจึงฟ้องคดีเพื่อแบ่งกรรมสิทธิ์รวม ขณะที่จำเลยให้ลูกจ้างไปทำรั้วลวดหนามเพื่อแสดงอาณาเขตที่ดินก็ไม่ปรากฏว่า มีการรังวัดตรวจสอบแนวเขตที่ดินก่อนที่ดินพิพาทเป็นที่ดินว่างเปล่า มีหญ้ารกปกคลุมแนวรั้วไม่มีสิ่งปลูกสร้างใดๆ ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้เข้าครอบครองการทำประโยชน์อย่างจริงจัง แสดงให้เห็นเจตนาของจำเลยว่า ไม่ได้ครองครองด้วยเจตนาเป็นเจ้าของแม้จะทำรั้วรุกล้ำเข้าไปในที่ดินพิพาท ของโจทย์ติดต่อกันนานเกินกว่า 10 ปี ก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์


หรือ อีกกรณีคำพิพากษาฎีกาที่ 3843/2543 ที่ดินพิพาทเป็นสค1 นายป.เจ้าของที่ดินรายหนึ่งได้ขอออกโฉนดที่ดิน ส่งมอบให้นายค.บุตรของนายป. แต่ ย.ยังไม่ทราบ การดำเนินการออกโฉนด จึงนำสค.1 ไปขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ซ้ำซ้อนขึ้นอีก ผู้ร้องซื้อที่ดินพิพาทจาก ย. โดยทำเป็นหนังสือจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แล้วเข้าครอบครองที่ดินพิพาทตลอดมาโดยสงบและเปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของที่ดินติดต่อกันมาจาก ย. ผู้โอนเป็นเวลาเกินกว่า 10 ปี ผู้ร้องจึงได้กรรมสิทธิ์


สำหรับข้อแนะนำ ไม่ให้ที่ดินถูกแย่งไปหรือมีปัญหา อันดับแรก มีที่ดินต้องหมั่นไปดูแลไม่ว่าจะอยู่แห่งหนใดในประเทศ ไม่ว่าจะมีโฉนด น.ส.3 หรือหนังสือแสดงสิทธิ์ครอบครองต่างๆ ขั้นต่ำสุดคือไปปีละหน แต่ก็น้อยไปควรจะไปปีละ 3 ครั้ง หน้าร้อน หน้าฝน หน้าหนาว ทั้งนี้เพราะที่ดินในต่างจังหวัดมีการใช้ประโยชน์ในแต่ละฤดูแตกต่างกัน


อันดับที่สอง : สร้างเครือข่ายตัวแทนดูแลที่ดิน หากเป็นการซื้อที่ดินจากญาติมิตรต่างจังหวัดก็จะง่ายขึ้น เพราะสามารถเจรจาแลกประโยชน์ให้ญาติช่วยดูแลโดยอาจจะเป็นการจ้าง หรือให้ญาติช่วยดูแลด้วยการให้เช่าในราคาย่อมเยา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของที่ดิน และคุณลักษณะของพื้นดิน ถ้าไม่ใช่ซื้อจากเครือญาติหรือไม่มีญาติมิตรในท้องถิ่นนั้น ก็ต้องอาศัยกลไกการปกครองส่วนท้องถิ่น อาทิ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. ช่วยดูแลในลักษณะที่คล้ายกับการตกลงกับเครือญาติ


อันดับที่สาม : หากพบเห็นมีผู้บุกรุก ต้องแสดงเจตนารมณ์ให้ออกจากที่ดินทันที วิธีการมีหลากหลาย อาทิ เจรจาโดยตรง เจรจาผ่านผู้ใหญ่บ้าน กำนัน หรือบุคคลที่ชาวบ้านศรัทธา ในขณะเดียวกันก็หาทางประนีประนอมและป้องกันกรรมสิทธิ์และสิทธิครอบครองของเราไปในตัว หากผู้บุกรุกได้ทำประโยชน์บนที่ดิน เช่น ปลูกต้นไม้ หรือใช้เป็นลานตากธัญพืช วิธีการหนึ่งก็คือ อาจจะทำเป็นสัญญาเช่าปีต่อปี ที่สำคัญถ้าเห็นท่าไม่ดี ควรระบุวันเวลาที่หมดสัญญาให้เร็วที่สุดหรือตามความเหมาะสม เรื่องเช่นนี้ต้องทำอย่างบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่น ไม่เป็นอุปสรรคในการเข้าไปอยู่อาศัยของเจ้าของที่ดินตัวจริง


อันดับที่สี่ : ประกาศแผนการใช้ประโยชน์ที่ดินให้ชุมชนรู้ เช่น จะปลูกมะขามหวาน มะม่วง กล้วย และลงมือทำ เพื่อแสดงให้เห็นว่า เจ้าของเอาใจใส่ดูแล และสร้างเงื่อนไขให้เดินทางไปดูแล อีกทั้งยังจะได้ความสัมพันธ์กับคนในท้องถิ่นเรื่องการจ้างแรงงาน ช่วยให้คนท้องถิ่นมีรายได้เพิ่ม


เอาเป็นว่ามีที่ดินที่ไหนก็แล้วแต่ ต้องหมั่นดูแล ตามหลักข้างต้นจะช่วยลดปัญหาการครอบครองปรปักษ์ ได้ไม่ว่าจะเป็นการล้อมรั้ว การปลูกไม้เป็นแนวเขต ควรเริ่มเสียบัดนี้ ก่อนจะเกิดความเสียหายเกินกว่าที่คาดไว้!!!


จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2164 09 พ.ย. - 11 พ.ย. 2549
//www.thannews.th.com/detialNews.php?id=R4521641&issue=2164



Create Date : 17 พฤศจิกายน 2549
Last Update : 17 พฤศจิกายน 2549 7:19:35 น. 0 comments
Counter : 3135 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

RAKANG
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




We're just two lost souls
Swimming in a fish bowl,
Year after year.
Friends' blogs
[Add RAKANG's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.